หมอหญิงยอดมือสังหาร 315 ความอบอุ่นที่อบอวล (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 315 ความอบอุ่นที่อบอวล (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 315 ความอบอุ่นที่อบอวล (2)
ราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาของหนานกงมั่ว จูชูอวี้หันกลับมาส่งรอยยิ้มบางๆ ให้กับนาง

หนานกงมั่วพยักหน้าตอบกลับเบาๆ แล้วหันกลับไปคุยกับเซี่ยเพ่ยหวน ไม่มองไปทางนั้นอีก

“เว่ยซื่อจื่อมาได้อย่างไร” เซี่ยเพ่ยหวนมองออกไปนอกศาลาริมน้ำ กระตุกแขนเสื้อหนานกงมั่วอย่างแปลกใจ หนานกงมั่วหันมองตามสายตาของนางไป มองเห็นเว่ยจวินมั่วที่อยู่ในอาภรณ์สีฟ้าด้านนอกศาลาริมน้ำ กำลังเดินตรงมาโดยมีพ่อบ้านจวนเกาอี้ปั๋วนำทางเข้ามา

“เขามาได้เยี่ยงไรกัน” หนานกงมั่วรู้สึกงงงวยเช่นกัน เว่ยจวินมั่วแตกต่างจากคุณชายว่างงานเหล่านั้น ยามนี้ถูกฮ่องเต้เรียกตัวไปดูแลในเขตวังหลวงและองครักษ์ประจำวังหลวง แม้ไม่ต้องออกนอกเมืองบ่อยทว่ากลับยุ่งกว่าเดิม แม้ว่าเมืองหลวงจะมีทหารหลายหน่วยคอยดูแลความปลอดภัยในเมืองหลวง งานทับซ้อนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเว่ยจวินมั่วจะขี้เกียจได้ เพราะหากเกิดเรื่องใดขึ้น ทุกคนจะซวยไปด้วยกันหมด

เอ่ยกระซิบบอกกับองค์หญิงหลิงอี๋แล้วหนานกงมั่วจึงลุกขึ้นเดินออกไปยังทิศทางที่เว่ยจวินมั่วกำลังเดินมาภายใต้สายตาของใครหลายคน มองเห็นหนานกงมั่วเดินออกมา เว่ยจวินมั่วจึงหยุดยืนไม่ก้าวต่อไปอีก

ด้านนอกศาลาริมน้ำ เห็นเพียงชายใบหน้าหล่อเหลาหาใดเปรียบได้ สตรีงดงามในอาภรณ์สีขาว เมื่อทั้งสองยืนอยู่เคียงข้างกัน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม ชายหนุ่มแม้ใบหน้าจะเรียบนิ่ง ทว่าสายตาที่มองมายังหญิงสาวกลับอบอุ่นและจับจ้องเพียงนาง ทำให้ผู้คนพบเห็นต้องอิจฉาอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้

องค์หญิงหลิงอี๋ยิ้ม เอ่ย “ช่างเป็นกิ่งทองใบหยก ทำให้ข้าอิจฉาเสียจริง”

บรรดาสตรีในห้องหอที่นั่งอยู่เองก็รู้สึกสับสนอยู่ในใจ ในใจของพวกนางเว่ยจวินมั่วนั้นไม่มีค่าพอ ไม่ใช่เพราะตัวเขา ทว่าเป็นเพราะชาติกำเนิดที่ไม่ชัดเจนของเขา แต่ความคิดในใจย่อมเป็นอีกเรื่อง ส่วนภาพคู่รักภายใต้แสงแดดสาดส่องตรงหน้านั้นก็ย่อมเป็นอีกเรื่อง เทียบกับเว่ยซื่อจื่อผู้หล่อเหลาและสง่างามแล้ว หันกลับไปมองบรรดาคุณชายเหล่านั้นอีกครั้งมักรู้สึกว่ายังขาดบางอย่างไป

ท่ามกลางกลุ่มคน สายตาของจูชูอวี้เองก็มีแววผิดหวัง แต่ไม่นานก็โยนทิ้งไปและเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมาอีกครั้ง บางทีนางอาจจะมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเว่ยจวินมั่ว เมื่อเทียบกับการหมกมุ่นอยู่กับเว่ยจวินมั่วแล้วต้องมีหนานกงมั่วเป็นศัตรู นางยอมถอยหนึ่งก้าวเสียจะดีกว่า เว่ยจวินมั่วผู้นี้ บนโลกใบนี้ใช่ว่าจะไม่มีใครแทนได้ ในเมืองจินหลิงแห่งนี้มีคนมากมายที่ทำให้นางบรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน

“ท่านมาได้เยี่ยงไร” ในสวนดอกไม้ เพราะทุกคนไปรวมตัวกันที่ศาลาริมน้ำ สวนดอกไม้จึงเงียบเชียบ หนานกงมั่วคล้องแขนเว่ยจวินมั่วและเดินเคียงคู่ไปกับเขา พร้อมเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เว่ยจวินมั่วก้มลงมามองนาง เอ่ยถามเสียงเรียบ “อู๋สยาเกลียดจูชูอวี้มิใช่หรือ ไยจึงมาเล่า”

หนานกงมั่วกะพริบตาปริบ หัวเราะเบาๆ “กลัวว่าข้าจะถูกรังแกหรือ น่าเสียดายท่านมาช้าไปแล้ว ข้าถูกคนรังแกแล้ว”

“ไม่ช้า” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “เบญจมาศงดงามไปทั่วฉังอาน ทั่วทั้งเมืองเหลืองทองอร่าม อู๋สยามีความสามารถ”

หนานกงมั่วหัวเราะแห้งๆ “ธรรมดา ท่านมาตั้งนานแล้วนี่นา ไยจึงไม่ออกมาเล่า”

เว่ยจวินมั่วส่ายศีรษะไม่เอ่ยสิ่งใด หนานกงมั่วก้มหน้าเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพลางเอ่ยถาม “ท่านทำอะไรเว่ยจวินเจ๋อ” เหมือนกับว่าเมื่อนางวาดเสร็จเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เจอเว่ยจวินเจ๋อแล้ว เดิมทีคิดว่าเขาไม่มีหน้าจะอยู่ต่อจึงหนีไป แต่เมื่อเว่ยจวินมั่วมาถึงก่อนแล้ว… หนานกงมั่วจึงคิดเรื่องสวัสดิภาพของเว่ยจวินเจ๋ออยู่เล็กน้อย

เว่ยจวินมั่วชะงัก เลิกคิ้วเอ่ย “อู๋สยาคิดว่าข้าจะทำอันใดกับเขา”

หนานกงมั่วส่ายหน้า เอ่ยอย่างมั่นคง “ไม่ ข้าไม่อยากรู้สักนิดว่าเขาเป็นอย่างไร” เว่ยจวินเจ๋อเป็นอย่างไรไม่เกี่ยวกับนาง เพียงนางรู้ว่าเขาไม่ได้มีความสุข แค่นั้นก็รู้สึกดีแล้ว

“จริงสิ” หนานกงมั่วนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมา เอ่ยถาม “เอ่อ…หร่วนอวี้จือผู้นั้น ท่านสนิทหรือไม่” ชายหนุ่มด้านข้างเย็นชาขึ้นมา เอ่ยถามเสียงเรียบ “หร่วนอวี้จือ บัณฑิตประจำสำนักศึกษาฮั่นหลิน ทำไมหรือ” หนานกงมั่วยิ้มจนตาหยี เอ่ย “บ้านของเขาอยู่ที่ใด แต่ละวันออกจากบ้านกี่โมงกลับบ้านกี่โมง อยู่ในจินหลิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนพวกนั้นหรือไม่ มีความแค้นใดกับคนพวกนั้นหรือไม่”

“อู๋สยาถามพวกนี้ไปทำไมกัน” เอ่ยถามละเอียดเพียงนี้ ไม่เหมือนสนใจ แต่กลับเหมือนมีความแค้น สายตาของเว่ยจวินมั่วจึงอ่อนลง เอ่ยถาม “เขาทำให้เจ้าไม่พอใจหรือ”

หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ย “เขาจะมีโอกาสทำให้ข้าไม่พอใจได้เยี่ยงไร”

เช่นนั้นแสดงว่าไม่พอใจแล้ว

“เพียงไม่ถูกชะตากับเขาก็เท่านั้น” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ ดอกไม้ที่เด็ดมาถูกขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี มือขาวสวยเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำสีแดงและกลิ่นหอมอ่อนๆ เว่ยจวินมั่วหยิบผ้าสีขาวออกมาช่วยนางเช็ดมือให้สะอาด พลางเอ่ย “เขาเป็นว่าที่บุตรเขยของตระกูลฉิน ขุนนางที่ฝ่าบาทให้ความสำคัญ”

“ให้ความสำคัญหรือ” ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้ ดูเหมือนจะมีความสามารถจริงๆ “ดูเหมือนว่าหร่วนอวี้จือผู้นี้คงไม่ธรรมดาแล้ว”

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “หากธรรมดาจะคว้าคุณหนูสี่ฉินมาได้เยี่ยงไร อู๋สยาไม่ต้องลงมือกับเขาหรอก”

“ท่านอยากช่วยข้าหรือ” หนานกงมั่วเลิกคิ้ว แน่นอนเข้าใจความหมายของเว่ยจวินมั่วว่าเขาไม่ได้คิดจะห้ามนางลงมือกับหร่วนอวี้จือ

คิ้วคมของเว่ยจวินมั่วขมวดมุ่น “ช่วยเจ้าหรือ อู๋สยาเป็นภรรยาของข้า เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า” ดังนั้นไม่มีปัญหาเรื่องการช่วยเหลือ เพียงแต่เขาลงมือจะเหมาะสมกว่าให้อู๋สยาลงมือ อย่างไรเสียเมืองจินหลิงแห่งนี้เขาก็คุ้นเคยมากกว่า

หนานกงมั่วครุ่นคิดอย่างจริงจัง เอ่ย “จินหลิงน่าเบื่อเกินไป ในเมื่อฝ่าบาทอยากเล่น พวกเราก็ปั่นให้น้ำมันขุ่นอีกสักนิดเถิด” ฮ่องเต้อยากลงมือกับตระกูลขุนนาง แต่ผู้ที่เป็นว่าที่บุตรเขยของตระกูลฉินตระกูลอันดับหนึ่งกลับเป็นคนโปรดของฝ่าบาท เรื่องนี้ช่าง…น่าสนใจ

“แล้วแต่เจ้า” เว่ยจวินมั่วเอ่ย ขณะที่กำลังเอ่ย สีหน้าของเว่ยจวินมั่วพลันเปลี่ยนแปลงไป หันไปมองหนานกงมั่ว หนานกงมั่วเข้าใจได้ในทันใด กลืนคำพูดลงไป หมุนตัวขยับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วกอดนางเอาไว้ เท้ากระโดดเบาๆ หายไปจากตำแหน่งเดิมอย่างไร้ร่องรอย

ช่องหน้าต่างหอเล็กๆ หนานกงมั่วยืนอยู่หลังหน้าต่างมองออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ด้านล่างบริเวณภูเขาและถ้ำจำลองห่างออกไป ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังโต้เถียงกันไปมาเสียงเบา หญิงสาวคนนั้นหันหลังให้หน้าต่างจึงมองเห็นเพียงชุดและแผ่นหลัง ส่วนชายหนุ่มนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นหร่วนอวี้จือที่พวกเขาเอ่ยถึงเมื่อสักครู่นั่นเอง

แม้จะอ่านริมฝีปากของหร่วนอวี้จือออก แต่กลับมองไม่เห็นสตรีผู้นั้น หนานกงมั่วใช้ความสามารถ ตั้งใจฟังบทสนทนาของทั้งคู่ อดไม่ได้เลิกคิ้วขึ้นมา

บริเวณปากถ้ำ หร่วนอวี้จือมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง จากนั้นจึงหันมากวาดตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างหงุดหงิด เอ่ย “เจ้าก็ไม่ดูว่าที่นี่เป็นที่ใด มาหาตอนนี้ทำไมกัน หากถูกคนเห็นเข้า ชื่อเสียงของเจ้าไม่ต้องการแล้วหรืออย่างไร”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *