หมอหญิงยอดมือสังหาร 408 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 408 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 408 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (2)
การต่อสู้ของทั้งคู่นั้นทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจ นอกจากลิ่นฉังเฟิงที่มีวรยุทธ์สูงส่งแล้ว คนทั่วไปคงได้ยินเพียงเสียงแล้วเงาที่เคลื่อนไหวไปมา ลิ่นฉังเฟิงไม่กังวลกับเว่ยจวินมั่วนัก ดังนั้นจึงไม่ไปดูการต่อสู้ ทว่าก้มลงตรวจอาการของหนานกงมั่วแทน ต่อให้เว่ยจวินมั่วไม่อาจเอาชนะกงอวี้เฉินได้ร้อยส่วน แต่ไม่มีทางพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

“แม่นางมั่ว”

หนากนกงมั่วลืมตาขึ้น มองเห็นลิ่นฉังเฟิงที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ ตนก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เอ่ย “ฉังเฟิง ขอบใจเจ้าแล้ว” เดิมทีหนานกงมั่วเตรียมใจถูกกงอวี้เฉินพาตัวไปแล้ว ไม่คิดว่าลืมตาตื่นขึ้นมาจะเห็นลิ่นฉังเฟิง

ลิ่นฉังเฟิงยักไหล่ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้มิใช่ความดีความชอบของข้า โน่น เว่ยซื่อจื่อมาแล้ว”

หนานกงมั่วหันกลับไปมองทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอยู่ เอ่ยถามอย่างแปลกใจ “จวินมั่วมาได้เช่นไร”

ลิ่นฉังเฟิงยักไหล่ หนานกงมั่วยังไม่รู้แล้วเขาจะรู้ได้เยี่ยงไร

หนานกงมั่วลุกขึ้นมา กำลังจะเอ่ยสิ่งใดทว่าหันกลับไปมองด้านหลัง ห่างออกไปไม่ไกลเซียวเชียนเยี่ย จิ้นจั๋วกำลังพาคนวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อน เซียวเชียนเยี่ยมองเห็นหนานกงมั่ว “จวิ้นจู่ไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” ได้ยินว่ากงอวี้เฉินลักพาตัวหนานกงมั่ว เซียวเชียนเยี่ยพลันตกใจ อย่างไรกงอวี้เฉินก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนของเขา หากเขาเอาตัวหนานกงมั่วไป กลับไปคนที่ต้องเผชิญหน้ากับเว่ยจวินมั่วและองค์หญิงฉังผิงก็คือเขา ยามนี้เขาล่วงเกินคนในราชสำนักมามากพอแล้ว เซียวเชียนเยี่ยไม่อยากสร้างศัตรูให้ตัวเองอีกแล้ว ส่วนกงอวี้เฉิน เซียวเชียนเยี่ยทำได้เพียงกัดฟัน ช่วยสิ่งใดตนไม่ได้มากนักก็ช่างเถิด ยังมาสร้างเรื่องวุ่นวายเพียงนี้ คนในยุทธภพช่างพึ่งพาไม่ได้เสียจริง

หนานกงมั่วพยักหน้าเบาๆ เอ่ย “ทุกอย่างเรียบร้อยดีเพคะ ลำบากเย่ว์จวิ้นอ๋องเป็นห่วงแล้ว”

“นั่นคือ…จวินมั่วหรือ” เซียวเชียนเยี่ยมองไปยังทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้กัน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป รู้ว่าเว่ยจวินมั่ววรยุทธ์สูงส่งมาแต่ไหนแต่ไร ทว่าแม้แต่เซียวเชียนเยี่ยเองยังไม่คิดว่าวรยุทธ์ของเว่ยจวินมั่วจะสูงถึงเพียงนี้ อย่าว่าแต่ลงมือเลย คนทั่วไปแม้แต่จะมองกระบวนท่าของเขายังยาก เซียวเชียนเยี่ยเองมีวรยุทธ์ไม่ธรรมดา แต่เมื่อมองแล้วยังต้องรู้สึกมึนศีรษะตาลาย

ลิ่นฉังเฟิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ก็ใช่น่ะสิ หากไม่ใช่เพราะจวินมั่วรีบมา วันนี้คงได้เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“วรยุทธ์ของเว่ยซื่อจื่อนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ บนโลกใบนี้คนที่จะมีวรยุทธ์เทียบเท่ากับเจ้าสำนักหอธาราได้ แม้แต่ในยุทธภพเองก็มีไม่มาก”

ลิ่นฉังเฟิงหันกลับมา ยิ้มจนตาเป็นขีดมองไปยังจูชูอวี้ เอ่ย “ไม่คิดว่าซั่นจยาเซี่ยนจู่จะรู้จักเจ้าสำนักหอธาราด้วย ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์จะไม่ธรรมดา ทำให้คุณชายเช่นข้าต้องตกใจแล้ว”

ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ เซียนเชียวเยี่ยเองก็หันกลับมาหาลิ่นฉังเฟิง เอ่ย “ข้าได้ยินมาว่า…ในยุทธภพนั้นจวินมั่วยังมีอันใดนะ…มีนามว่าคุณชายจื่อเซียวอย่างนั้นหรือ บังเอิญแล้ว ได้ยินมาว่า สำนักมือสังหารที่ใหญ่ที่สุดในยุทธภพเองก็ชื่อวังจื่อเซียวด้วยอย่างนั้นหรือ” ดวงตาลิ่นฉังเฟิงกดเกร็ง ใบหน้ากลับยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เกรงว่าเย่ว์จวิ้นอ๋องคงเข้าใจผิดแล้ว จวินมั่วนั้นมีฉายาว่าคุณชายจื่อเซียวก็จริงอยู่ เพียงแต่นั่นมิใช่นามอันใด เป็นเพียงเพราะเพลงกระบี่ที่เว่ยจวินมั่วชอบใช้นั้นชื่อจื่อเซียวก็เท่านั้น ท่านอ๋องสืบเรื่องของเว่ยจวินมั่วละเอียดเพียงนี้ คงจะต้องรู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ กระบี่ของเว่ยจวินมั่วแม้จะมิได้มีชื่อเสียงอันใด แต่ก็ถูกตีขึ้นด้วยฝีมือช่างที่มีชื่อเสียงในรัชสมัยนี้”

“เอ่ยเช่นนี้ วังจื่อเซียวไม่เกี่ยวข้องกับเว่ยจวินมั่วอย่างนั้นหรือ” เซียวเชียนเยี่ยเลิกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของลิ่นฉังเฟิง เหตุผลแบบนี้เอามาหลอกเด็กยังพอใช้ได้ น่าเสียดายที่เย่ว์จวิ้นอ๋องนั้นไม่ใช่เด็กที่ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย

ลิ่นฉังเฟิงลูบจมูกเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้”

เซียวเชียนเยี่ยจ้องมองลิ่นฉังเฟิงนิ่ง เอ่ย “เช่นนั้นแล้วควรว่าอย่างไร”

ลิ่นฉังเฟิงเอ่ย “เย่ว์จวิ้นอ๋องสนใจวังจื่อเซียวเพียงนี้ ไม่เคยสืบหาแซ่ของเจ้าสำนักวังจื่อเซียวเลยหรือ”

จิ้นจั๋วที่มองทั้งสองคนที่กำลังปะทะคารมกันอยู่เอ่ยขึ้นทันใด “เรื่องนี้ข้ารู้ ได้ยินมาว่า เจ้าสำนักวังจื่อเซียวแซ่ลิ่นอย่างนั้นหรือ”

ลิ่นฉังเฟิงยิ้มตาหยีพยักหน้า เอ่ยตอบ “พี่จิ้น ขายหน้าต่อท่านแล้ว”

“มิกล้า” จิ้นจั๋วเอ่ย “วังจื่อเซียวโด่งดังไปทั่วยุทธภพ เจ้าภูเขาเล็กๆ เช่นข้าคงไม่อาจเทียบได้”

“พี่จิ้นชมเกินไปแล้ว” แม้วังจื่อเซียวและหอธาราจะมีอิทธิพลในยุทธภพ แต่จะบอกว่าโด่งดังไปทั่วยุทธภพคงกล่าวหนักเกินไป หอธารานั้นลึกลับไม่ต้องเอ่ยถึง วังจื่อเซียวเป็นสำนักมือสังหารที่มีป้ายราคาชัดเจน ลิ่นฉังเฟิงนับว่ายังมีหลักการอยู่บ้าง ดังนั้นแม้จะเป็นสำนักมือสังหารทว่าชื่อเสียงก็ไม่นับว่าเลวร้าย เช่นนี้จึงไม่มีความทะเยอทะยานที่จะยิ่งใหญ่ในยุทธภพ ในยุทธภพเองชื่อเสียงก็ไม่นับว่าสว่างไสวนัก ผู้ที่รู้จักล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีหน้ามีตามีอำนาจ จอมยุทธ์ทั่วไปในยุทธภพเกรงว่าแม้แต่ชื่อก็ยังไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ

เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว สีหน้าไม่น่ามอง เหลือบตามองทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอยู่ เอ่ย “คุณชายฉังเฟิงเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลลิ่น แต่กลับมาก่อตั้งสำนักมือสังหาร ไม่รู้ว่าคิดอยากทำการใด” ไม่ว่าเมื่อไร สำนักมือสังหารย่อมไม่เป็นที่รักของเบื้องบนอยู่แล้ว ใช่วาเซียวเชียนเยี่ยจะไม่รู้ว่าเว่ยจวินมั่วต่างหากที่เป็นเจ้านายที่แท้จริงของวังจื่อเซียว แต่เขาไม่มีหลักฐาน และเขาก็ไม่อยากฉีกหน้าเว่ยจวินมั่ว มีลิ่นฉังเฟิงคอยบังหน้าให้เว่ยจวินมั่ว ต่อให้เปิดเผยเรื่องนี้ก็ไม่อาจทำอันใดเว่ยจวินมั่วได้แม้แต่ปลายเส้นขน ยิ่งไปกว่านั้น หากเปิดเผยตัวตนลิ่นฉังเฟิงแล้ว ใครกล้ารับรองว่าเขาจะไม่ส่งมือสังหารของวังจื่อเซียวมาลอบสังหาร

ลิ่นฉังเฟิงเองก็ฉลาด เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “กระหม่อมไม่มีสิ่งใดต้องทำ จึงมาหาความสำราญในยุทธภพก็เท่านั้น เรื่องนี้ท่านอ๋องก็สนใจหรือ กระหม่อมรู้มาว่า หอธาราและวังจื่อเซียวเองก็ทำงานประเภทเดียวกันนี่นา” ท่านมีเจ้าสำนักหอธาราเป็นที่ปรึกษา ยังกล้ามายุ่งเรื่องที่ข้าเปิดสำนักมือสังหารอีกหรือ ยิ่งไปกว่านั้น วังจื่อเซียวเพียงสังหารคน หอธารากลับทำทุกอย่าง เซียวเชียนเยี่ยไม่เกี่ยวข้องด้วยก็แล้วไป ทว่าเมื่อเข้ายุ่งเกี่ยวกับกงอวี้เฉินแล้ว ใครก็มิได้สะอาดไปกว่าใครนักหรอก ดังนั้นลิ่นฉังเฟิงจึงไม่กลัวเลยสักนิดว่าเซียวเชียนเยี่ยจะเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผย อย่างมากเขาคุณชายฉังเฟิงก็กลายเป็นผู้ร้ายที่ทางการต้องการตัว แต่เซียวเชียนเยี่ยนั้นต้องเผชิญหน้ากับวังจื่อเซียว เว่ยจวินมั่ว รวมไปถึงการแก้แค้นเอาคืนจากตระกูลลิ่น หากเซียวเชียนเยี่ยคิดจะมายื่นข้อเสนอกับเขาหรือเว่ยจวินมั่วเพราะเรื่องนี้ล่ะก็ ยังห่างไกลอีกเยอะ

หนานกงมั่วหันกลับไปมองทั้งสอง เอ่ยถาม “เย่ว์จวิ้นอ๋องมีความสนใจต่อยุทธภพตั้งแต่เมื่อใดกัน”

เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม “มิใช่อันใดหรอก เพียงแต่เห็นเจ้าสำนักหอธาราประมือกับเว่ยจวินมั่ว นึกขึ้นมาได้เลยพูดคุยกับคุณชายฉังเฟิง แต่ข้าคาดไม่ถึง ว่าคุณชายฉังเฟิงจะมีสถานะเช่นนี้” ระหว่างที่เอ่ย เซียวเชียนเยี่ยพลันรู้สึกอิจฉาเว่ยจวินมั่วขึ้นมา ลิ่นฉังเฟิงเป็นคนของใครไม่ต้องบอกก็รู้ได้ คุณชายที่เตร็ดเตร่ไปทั่วจินหลิง แต่กลับเป็นเจ้าสำนักมือสังหารอันดับหนึ่งในยุทธภพ เช่นนั้นเว่ยจวินมั่วที่เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังนั้นต้องการสิ่งใดกันแน่

ลิ่นฉังเฟิงเลิกคิ้วไม่เอ่ยวาจา ความจริงเขาอยากจะบอกกับเซียวเชียนเยี่ย คิดมากเกินไปนั่นมิใช่สิ่งที่ดี เมื่อครั้งก่อตั้งวังจื่อเซียวกับเว่ยจวินมั่ว ไม่ได้มีแผนการใดเลยจริงๆ ผู้ที่เป็นคุณชายตระกูลขุนนางและเว่ยจวินมั่วผู้เป็นลูกรักขององค์หญิง ต่อให้มีแผนการร้ายจริงๆ ก็คงแสดงมันในราชสำนักมิใช่ในยุทธภพ เพียงแต่พวกเขาไม่มีความทะเยอทะยานใดๆ ในเมืองจินหลิง ดังนั้นจึงก่อตั้งสำนักเล่นๆ ในยุทธภพ แน่นอน…มือสังหารนั้นได้เงินรวดเร็ว…คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลหรือไม่ คุณชายฉังเฟิงลูบปลายคางครุ่นคิดอย่างไม่แน่ใจนัก

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *