หมอหญิงยอดมือสังหาร 859 ขอไปออกศึก (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 859 ขอไปออกศึก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 859 ขอไปออกศึก (2)

เซียวเชียนเหว่ยมาในทันที ตั้งแต่เริ่มสงครามไม่ว่าจะเป็นเซียวเชียนชื่อ เซียวเชียนเหว่ย หรือเซียวเชียนจย่ง พวกเขาทั้งสามต่างเติบโตขึ้นมาก เซียวเชียนจย่งออกไปรบอยู่ข้างนอก เซียวเชียนชื่อและเซียวเชียนเหว่ยอยู่ข้างกายเยี่ยนอ๋องคอยเรียนรู้งานต่างๆ ของโยวโจว เยี่ยนอ๋องเองก็เริ่มปล่อยให้พวกเขาจัดการบางอย่างเองตามลำพังบ้างแล้ว

เซียวเชียนเหว่ยเข้ามาถึงก็เห็นว่าจูชูอวี้กำลังนั่งอยู่ในมุมหนึ่งด้วยสีหน้าเย็นชา จึงเลิกคิ้วขึ้นพลางเอ่ยถาม “เป็นอันใดหรือ ท่านแม่ว่าอะไรเจ้าอีกหรือ”

จูชูอวี้หลุบตาลง เผยรอยยิ้มจางๆ “ทำให้ท่านพี่เป็นห่วงแล้ว ไม่มีอันใดหรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่ข้า…ไม่มีวี่แววเลย เสด็จแม่ก็เลยถามด้วยความร้อนใจนิดหน่อยเท่านั้น”

“ไม่ใช่เรื่องเสด็จแม่หรอกหรือ แล้วเจ้าเรียกข้ามาตอนนี้ด้วยเรื่องใดเล่า” เซียวเชียนเหว่ยเอ่ยถาม เดิมเขาเองก็ไม่ได้ชอบภรรยาจากสมรสพระราชทานของเซียวเชียนเยี่ยผู้นี้เท่าใดนักเหมือนเช่นคนอื่นๆ ในจวน ทว่าเมื่ออยู่ด้วยกันในช่วงหลายวันมานี้ความคิดของเขาก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป จูชูอวี้เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีความสามารถคนหนึ่งจริงๆ อาจจะเทียบกับพี่สะใภ้ไม่ได้ แต่ก็นับเป็นผู้หญิงฉลาดที่หาได้ยากนัก ยิ่งเทียบกับภรรยาของน้องสามที่ทำอันใดไม่เป็นเลยนอกจากดูแลชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ ภายในเรือนแล้ว เซียวเชียนเหว่ยก็ค่อนข้างพอใจในตัวจูชูอวี้ผู้นี้ แม้จะเอ่ยไม่ได้ว่าชอบมาก แต่เขาก็คิดว่านางไม่เลวแล้ว

จูชูอวี้ช้อนสายตาขึ้นมองเซียวเชียนเหว่ยพลางเอ่ย “เว่ย…พี่ชายพิชิตเย่ว์โจวและพื้นที่อื่นๆ ได้แล้ว ท่านพี่รู้เรื่องนี้หรือไม่”

เซียวเชียนเหว่ยพยักหน้า เขาย่อมรู้ข่าวนี้ก่อนจูชูอวี้สักพักอยู่แล้ว

“ถ้าเช่นนั้นท่านพี่รู้หรือไม่ว่าเสด็จพ่อคิดจะคัดเลือกคนจากที่ว่าการส่งไปช่วยพี่ชายและพี่สะใภ้ที่เย่ว์โจว”

เซียวเชียนเหว่ยขมวดคิ้ว “แล้วอย่างไรหรือ”

จูชูอวี้ถอนหายใจ “ท่านพี่ไม่รู้สึกอันใดเลยหรือเจ้าคะ”

เซียวเชียนเหว่ยเอ่ย “ยามนี้เย่ว์โจวและพื้นที่อื่นๆ กำลังประสบภัย พวกพี่ชายเพิ่งจะยึดพื้นที่เหล่านั้นได้ เป็นเรื่องปกติที่จะทำงานไม่ทัน พี่ชายและพี่สะใภ้จึงส่งจดหมายมาขอให้เสด็จพ่อส่งคนไปช่วย เสด็จพ่อไม่สามารถที่จะนิ่งดูดายพวกเขาโดยไม่สนใจได้อยู่แล้ว” จูชูอวี้ถอนหายใจเงียบๆ เอ่ย “ข้าเพียงเกรงว่า…เสด็จพ่อจะไม่สนใจพวกเขาเลยต่างหาก”

เซียวเชียนเหว่ยชะงักไปเล็กน้อย “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

จูชูอวี้เอ่ย “เสด็จพ่อคัดเลือกคนจากที่ว่าการแต่ละแห่งไป แต่กลับไม่ได้คัดเอาลูกน้องคนสนิทจากจวนเยี่ยนอ๋องไปเลย ท่านพี่ไม่รู้สึกเลยหรือว่าเรื่องนี้มีสิ่งใดแตกต่างออกไป ระหว่างคนจากที่ว่าการพวกนั้นกับคนของจวนเยี่ยนอ๋อง เทียบกันแล้วใครจะมีความจงรักภักดีกับจวนอ๋องมากกว่ากัน”

“เรื่องนั้น…”

จูชูอวี้ขมวดคิ้ว “ท่านพี่ไม่รู้สึกหรอกหรือว่า…เสด็จพ่อไว้วางใจคุณชายเว่ยมากไปสักหน่อย”

“พี่ชายมีความสามารถโดดเด่นเหนือคนอื่น เสด็จพ่อจึงมีความไว้วางใจในตัวเขามาก” แม้ว่าเขาจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าสีหน้าของเซียวเชียนเหว่ยก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยนี้ไม่อาจหลุดรอดสายตาของจูชูอวี้ไปได้ จูชูอวี้เอ่ย “ให้คุณชายเว่ยนำกองกำลังไท่หนิงโดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองกำลังโยวโจวเลย หลังจากพวกเขายึดเย่ว์โจวและที่อื่นๆ ได้แล้ว ดูจากคนที่เสด็จพ่อคัดเลือกไปเหล่านั้นก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเสด็จพ่อคิดจะยกพื้นที่เหล่านั้นให้พวกเขาดูแลโดยที่เสด็จพ่อและคนของจวนอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปแทรก ท่านพี่เคยคิดบ้างหรือไม่ว่าหากสิ่งต่างๆ เป็นเช่นนี้ ต่อให้เสด็จพ่อทำได้สำเร็จลุล่วง เสด็จพ่อยังจะยึดพื้นที่เหล่านั้นคืนกลับมาหรือไม่” เกรงว่าพอถึงเวลานั้นคนที่มีอำนาจทางการทหารสูงสุดคงจะต้องปกครองเมืองเป็นแน่แล้ว

เซียวเชียนเหว่ยยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น นิ่งคิดเนิ่นนานแล้วจึงเอ่ย “ข้าจะไปพูดเรื่องนี้กับเสด็จพ่อ”

จูชูอวี้รีบห้ามเขาทันที “ท่านพี่ ท่านคิดว่าเรื่องที่แม้แต่ผู้หญิงในห้องหออย่างข้าก็คิดได้ เสด็จพ่อจะคิดไม่ได้หรือ”

“เจ้าหมายความว่าอันใด” เซียวเชียนเหว่ยมองจูชูอวี้ด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย

จูชูอวี้พยักหน้าพลางถอนหายใจ “ข้ารู้สึกมาตลอดว่าเสด็จพ่อให้ความสำคัญและไว้วางใจคุณชายเว่ยมากเกินไป แต่กลับไม่นึกว่าความโปรดปรานที่เสด็จพ่อมีให้คุณชายเว่ยจะมากมายเพียงนี้”

เซียวเชียนเหว่ยนิ่งเงียบ เขาเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน หากเป็นอย่างที่จูชูอวี้เอ่ย ต่อให้เสด็จพ่อก่อกบฏสำเร็จ กระทั่งสามารถนั่งบัลลังก์มังกรได้แล้ว พี่ชายก็จะมีกำลังทหารสนับสนุนตนเองมากกว่าที่จวนเยี่ยนอ๋องและจวนหนิงอ๋องมีและกลายเป็นจูโหวได้เลย เสด็จพ่อไว้วางใจพี่ชายมากพอที่จะไม่คิดว่าเขาจะมีใจเป็นอื่นเลยหรือ มีใครในโลกนี้บ้างที่จะไม่หวั่นไหวไปกับอำนาจ อย่างน้อยเซียวเชียนเหว่ยในยามนี้ก็ไม่เชื่อ

เมื่อจูชูอวี้เห็นท่าทางนิ่งเงียบไปของเซียวเชียนเหว่ย รอยยิ้มลึกลับก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากนาง

“เจ้าคิดว่าควรทำเยี่ยงไร” เซียวเชียนเหว่ยเอ่ยถาม

จูชูอวี้ตอบ “ท่านพี่ ท่านไม่ควรอยู่ในเมืองโยวโจวแล้ว”

“ว่าอย่างไรนะ”

จูชูอวี้เอ่ย “บัดนี้เสด็จพ่อกำลังช่วงชิงอำนาจการปกครองใต้หล้า แม้ว่าจะมีน้องสามออกรบแทนอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม…น้องสามก็อายุยังน้อย ท่านพี่เองก็ควรจะช่วยแบ่งเบาจากเสด็จพ่อบ้างเจ้าค่ะ”

เซียวเชียนเหว่ยขมวดคิ้ว “แต่ว่าโยวโจว…”

จูชูอวี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่กังวลอันใดหรือ มีเสด็จพ่อดูแลอยู่ในจวนเยี่ยนอ๋องอยู่แล้วท่านจะต้องกังวลอันใด เรื่องที่สำคัญที่สุดยามนี้ก็คือผลงานทางการรบต่างหากเจ้าค่ะ”

ครั้งนี้เซียวเชียนเหว่ยนิ่งเงียบไปนานกว่าเดิมกระทั่งจูชูอวี้อดขมวดคิ้วไม่ได้ ก่อนที่เขาจะพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “เจ้าพูดถูก ข้าจะไปขอเสด็จพ่อนำทัพออกศึก”

จูชูอวี้เผยรอยยิ้มทันที “เช่นนั้นก็ดีเจ้าค่ะ ข้ายังมีอีกเรื่องที่อยากจะขอ หวังว่าท่านพี่จะรับปาก”

“เจ้าว่ามาเถิด” เซียวเชียนเหว่ยพยักหน้า

จูชูอวี้เอ่ย “ข้ายินดีจะติดตามท่านพี่ไปสนามรบด้วยเจ้าค่ะ”

“ไปสนามรบหรือ”

จูชูอวี้มองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน “ข้าอิจฉาพี่ชายและพี่สะใภ้ที่รักใคร่กันมาก แม้ว่าข้าจะเทียบกับพี่สะใภ้ไม่ได้ แต่ข้าก็ยินดีจะเคียงข้างท่าน หากข้าสามารถแบ่งเบาท่านได้ ข้าก็ยินดีแล้วเจ้าค่ะ” แววตาของเซียวเชียนเหว่ยสั่นไหวเล็กน้อย “ข้าจะไปคิดดู”

“ขอบคุณท่านพี่เจ้าค่ะ” จูชูอวี้เอ่ยตอบด้วยท่าทางยินดี

จูชูอวี้มองตามเซียวเชียนเหว่ยไป รอยยิ้มพึงพอใจพลันปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของนาง แม้ว่าเซียนเชียนเหว่ยจะยังไม่ได้รับปากนางในทันที ทว่านางรู้ว่าเขาเริ่มหวั่นไหวแล้ว เพียงแต่ต้องรอเวลา…และนางก็ยังมีเวลา

“คุณหนู ท่านอยากจะติดตามไปสนามรบจริงหรือเจ้าคะ” จู๋เอ๋อร์กังวลเล็กน้อย

จูชูอวี้ตอบเสียงเย็น “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ไปได้ ไยข้าจะไปไม่ได้”

“แต่ว่า เขาว่ากันว่า…วรยุทธ์ของซิงเฉิงจวิ้นจู่นั้นร้ายกาจมาก” จู๋เอ๋อร์เอ่ย แม้คุณหนูของนางจะฉลาดล้ำแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ ที่จริงแม้จู๋เอ๋อร์จะติดตามคุณหนูมานานเพียงนี้ แต่ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้วคุณหนูกำลังคิดจะทำอันใดกันแน่ หากยามนั้นคุณหนูชอบพอในตัวคุณชายเว่ยก็ยังพอจะเอ่ยได้ว่าเป็นเพราะรูปลักษณ์ที่งดงามของคุณชายเว่ย วรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และสถานะอันสูงส่ง ทว่าต่อมาก็กลับดึงดันจะแต่งงานเข้าจวนเยี่ยนอ๋อง ทั้งที่นายท่านและฮูหยินไม่เห็นด้วย หรืออย่างยามนี้ก็เกิดอยากจะไปสนามรบขึ้นมาเพื่ออันใด ต่อให้ตอนนี้คุณหนูไม่ทำอันใดเลยก็มีสถานะเป็นถึงจวิ้นจู่ที่ได้รับการแต่งตั้งและเป็นพระชายาจวิ้นอ๋องแล้วแท้ๆ

จูชูอวี้เอ่ยตอบเสียงเรียบ “มีวรยุทธ์แล้วอย่างไร บนโลกใบนี้…คนที่ไร้ซึ่งวรยุทธ์มีตั้งมากมาย ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดมากอีก”

จู๋เอ๋อร์ย่อมรู้ดีว่าตนไม่สามารถโน้มน้าวอันใดคุณหนูได้อยู่แล้ว จึงได้แต่เอ่ย “ท่านอ๋องอาจจะไม่รับปากง่ายๆ เพียงนั้นก็ได้นะเจ้าคะ”

จูชูอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยด้วยท่าทีนิ่งสงบ “เรื่องนั้นน่าจะเป็นปัญหาจริงๆ อีกเดี๋ยวให้เจ้าแอบส่งคนไปพบชายารองกง บอกนางว่า…ข้าขอติดค้างน้ำใจของนางครั้งหนึ่ง อยากจะให้นางช่วยเหลือ ต่อไปจะต้องชดใช้คืนให้เป็นแน่”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *