หมอหญิงยอดมือสังหาร 451 ความสัมพันธ์อวี่เลี่ยง (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 451 ความสัมพันธ์อวี่เลี่ยง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 451 ความสัมพันธ์อวี่เลี่ยง (2)
หนานกงมั่วเลิกคิ้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง “มิกล้า ยามนี้เย่ว์จวิ้นอ๋องกำลังจะขึ้นครองบัลลังก์ ตระกูลจูกำลังจะเติบโต ซั่นจยาเซี่ยนจู่เกรงใจแล้ว” จูชูอวี้มองใบหน้างดงามบริสุทธิ์ของหนานกงมั่ว จากนั้นนึกถึงร่องรอยที่ไม่มีวันลบออกได้บนใบหน้าของตนเอง อดไม่ได้ยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมนั่น ไม่นานจึงวางมือลง เอ่ยถาม “จวิ้นจู่ไม่อยากรู้หรือ ไยชูอวี้จึงมาหา”

หนานกงมั่วเอ่ย “ในเมื่อเซี่ยนจู่มาแล้ว อย่างไรก็ต้องเอ่ยออกมาอยู่แล้วมิใช่หรือ”

จูชูอวี้เงียบ ถอนหายใจออกมาช้าๆ “ทุกครั้งที่เจอจวิ้นจู่ ข้ามักรู้สึกว่าในเมื่อสวรรค์ให้ข้ามาเกิดแล้ว ไยต้องส่งท่านมาด้วย”

หนานกงมั่วไม่แปลกใจ แม้นางจะรู้สึกว่าจูชูอวี้เก่งกาจและโดดเด่นกว่าสตรีทั่วไป แต่กลับไม่มีความสนใจต่อแผนการของนาง ยิ่งไม่มีความสัมพันธ์อวี่เลี่ยง[1] นับตั้งแต่ต้นจนจบสิ่งที่นางและจูชูอวี้เฝ้าไขว่คว้านั้นไม่เหมือนกัน

จูชูอวี้กลับตีความหมายของหนานกงมั่วผิด เอ่ย “จวิ้นจู่ดูถูกชูอวี้หรือ” แม้ว่าหนานกงมั่วดูเหมือนไม่ได้โจมตีนาง แต่จูชูอวี้ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่าหลายเรื่องนางวางแผนขึ้นมาเพียงเพราะต้องการโจมตีหนานกงมั่ว บางครั้งเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจกลายเป็นไม่อาจควบคุมได้ ส่วนตอนนี้ นางดูเหมือนถูกเอาเปรียบ อย่างไรเสียยามนี้เซียวเชียนเยี่ยขึ้นครองบัลลังก์ แต่ความเป็นจริงนางกลับถูกควบคุม ไหนเลยจะสู้ความอิสระของหนานกงมั่วได้

หนานกงมั่วย่นคิ้ว เอ่ยอย่างเบื่อหน่าย “เซี่ยนจู่มีเรื่องอันใดก็เอ่ยมาตามตรงเถิด”

จูชูอวี้ยิ้มบาง เอ่ย “ด้วยความฉลาดของจวิ้นจู่น่าจะพอเดาได้จึงจะถูก ยามนี้เย่ว์จวิ้นอ๋องกำลังจะขึ้นครองบัลลังก์ เป็นยามที่ต้องการคนมีความสามารถ”

จูชูอวี้ยังเอ่ยไม่ทันจบ มุมปากของหนานกงมั่วพลันยกยิ้มหยันขึ้นมา ทว่าสิ่งที่เอ่ยออกมายังคงราบเรียบ “เซี่ยนจู่คิดมากแล้ว แม้ว่าเย่ว์จวิ้นอ๋องจะขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ ฝ่าบาทเป็นเจ้านาย ข้าเป็นบ่าว แน่นอนว่าต้องเป็นกำลังแก่ราชสำนัก”

จูชูอวี้ยิ้ม เอ่ย “ไยจวิ้นจู่ต้องเป็นเช่นนี้ ด้วยความฉลาดของจวิ้นจู่มีหรือจะไม่เข้าใจความหมายของชูอวี้” หนานกงมั่วเลิกคิ้วพลางเอ่ย “ซั่นจยาเซี่ยนจู่มาเพราะผู้สำเร็จราชการแทนหรือมาเพราะเย่ว์จวิ้นอ๋อง” จูชูอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย มองไปยังหนานกงมั่ว เอ่ย “แตกต่างกันหรือ”

ในสายตาของประชาชนทั่วไปดูเหมือนจะไม่แตกต่าง ฮ่องเต้ยังไม่ทันได้ขึ้นครองราชย์ทว่ากลับแต่งตั้งเซียวฉุนขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทน การฝากฝังอำนาจจัดการทั้งหมด ความเชื่อใจ และยอมให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ เกรงว่าขุนนางทั่วทั้งอาณาจักรเซี่ยก็คงไม่เคยได้รับแม้เพียงนิด แต่ว่า หนานกงมั่วไม่ใช่ชาวบ้านที่ไม่รู้สิ่งใดเลยเหล่านั้น หากจูชูอวี้ต้องการมาล่อลวงนางนั้นคงมาหาผิดคนเสียแล้ว

“ฝ่าบาทยังไม่ทันขึ้นครองราชย์ก็แต่งตั้งผิงชวนจวิ้นอ๋องขึ้นเป็นผู้ว่าราชการแทน เพียงแต่…ฝ่าบาทเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่รู้ว่าผู้สำเร็จราชการแทนผู้นี้…จะสำเร็จราชการแทนนานเพียงใดหรือ” แม้แต่ฮ่องเต้องค์น้อยที่ถูกเลี้ยงดูเติบโตมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นแน่นอนว่าย่อมมีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกับผู้สำเร็จราชการแทน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเซียวเชียนเยี่ยที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว หนานกงมั่วไม่เชื่อว่าทั้งสองจะร่วมมือกันได้อย่างมั่นคง

สีหน้าของจูชูอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยเสียงเข้ม “จวิ้นจู่ระวังวาจาด้วยเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ย “เรื่องเช่นนี้ ซั่นจยาเซี่ยนจู่มาหาข้านั้นคงผิดคนแล้ว หนานกงมั่วเป็นเพียงสตรีธรรมดาทั่วไป ไหนเลยจะตัดสินใจได้ ต่อให้ซื่อจื่อไม่อยู่จินหลิง ซั่นจยาเซี่ยนจู่ไปหาองค์หญิงฉังผิงก็คงพึ่งได้กว่าข้า”

“จวิ้นจู่ล้อเล่นแล้ว” จูชูอวี้ลอบกัดฟันอยู่ในใจ หากไปหาองค์หญิงฉังผิงแล้วมีประโยชน์มากกว่า ไยนางจะไม่รู้ว่าองค์หญิงฉังผิงรับมือยากกว่าหนานกงมั่วมาก น่าเสียดายที่องค์หญิงฉังผิงมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าไม่สนใจเรื่องราวภายนอก อีกทั้งฐานะขององค์หญิงฉังผิงนั้นสูงส่ง หนานกงมั่วยังลอบวางกำลังการคุ้มกันเอาไว้แน่นหนา คิดอยากเจอองค์หญิงต่อให้เป็นนางที่เป็นเซี่ยนจู่ก็คงไม่ง่ายเพียงนั้น

หนานกงมั่วโบกมือแสดงออกว่าตนเองนั้นไม่ได้ล้อเล่น หันกลับมามองสำรวจจูชูอวี้เล็กน้อย เอ่ย “ในบรรดาสตรีที่ข้าเคยเจอ ฉลาดกว่าซั่นจยาเซี่ยนจู่คงมีไม่กี่คน แต่บอกตามตรง…ข้าดูไม่ออกเลย ว่าซั่นจยาเซี่ยนจู่คิดจะทำอันใดกันแน่ เพื่อตระกูลจูหรือ แต่ว่า…ตระกูลจูจะกลายเป็นของซั่นจยาเซี่ยนจู่หรือ” เห็นชัดว่าเป็นไปไม่ได้ ต่อให้จูชูอวี้ทำเพื่อตระกูลจูมากมายเพียงใด ไม่ว่าตอนนี้จูชูอวี้จะมีอำนาจในตระกูลจูมากเพียงใด อย่างไรนางก็ต้องออกเรือน สตรีเมื่อแต่งออกไปแล้วก็กลายเป็นคนนอก หรือต่อให้จูชูอวี้ไม่คิดออกเรือนไปชั่วชีวิต เกาอี้ปั๋วก็ไม่มีทางยอมให้สตรีรับตำแหน่งผู้นำตระกูลต่อเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นจูชูอวี้ไม่อาจรับตำแหน่งเกาอี้ปั๋วต่อได้

จูชูอวี้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “ข้าทำอันใด ตอนนี้บางทีจวิ้นจู่อาจไม่รู้ แต่ว่า…สักวันก็จะเข้าใจ”

หนานกงมั่วส่ายหน้าหัวเราะอยู่ในใจ เวลานั้นนางเข้าใจถึงสายตาของจูชูอวี้ ท่าทางเย่อหยิ่งจองหองนั่น ราวกับมั่นใจว่าสักวันจะอยู่เหนือกว่านางให้ได้ ไม่สิ จูชูอวี้ไม่ได้ต้องการอยู่สูงกว่านาง แต่นางเชื่อมั่นว่าสักวันนางจะต้องอยู่สูงกว่าทุกๆ คน สายตาแบบนั้นคล้ายกับหงส์ที่ถูกโยนลงไปอยู่ในฝูงเป็ด เชิดหน้าเอ่ยกับเป็ดทุกๆ ตัวว่า ข้าอยู่คนละชั้นกับพวกเจ้า เพียงแต่ตอนนี้พวกเจ้ามองไม่เห็นความงามของข้าก็เท่านั้น

เมื่อคิดดูแล้ว หนานกงมั่วอดไม่ได้หัวเราะออกมาเสียงเบา จูชูอวี้มองไปยังหนานกงมั่วที่จู่ๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างไม่พอใจ หนานกงมั่วโบกมือพลางขอโทษ “หากเซี่ยนจู่มาหาข้าเพราะเรื่องนี้ เช่นนั้นคงไม่ต้องแล้ว เรื่องพวกนี้ข้าตัดสินใจเองไม่ได้ รอซื่อจื่อกลับเมืองหลวงแล้วค่อยว่ากันเถิด ข้าคงต้องขอตัวลาแล้ว”

จูชูอวี้มองหนานกงมั่วที่หมุนตัวเดินออกไป เอ่ยเสียงเรียบ “ความสัมพันธ์ของเฉียวเฟยเยียนและผู้สำเร็จราชการไม่ธรรมดา ช่วงนี้จวิ้นจู่ก็ระวังตัวให้มาก”

“ขอบคุณ” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ทว่ารู้สึกขันอยู่ในใจ เฉียวเฟยเยียนและเซียวฉุนมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ หากเฉียวเฟยเยียนคิดเอาความสัมพันธ์นี้มาทำให้นางเดือดร้อน ทางที่ดียังต้องอธิษฐานขอให้ความสัมพันธ์ของตนกับเซียวฉุนง่ายธรรมดาสักหน่อย หากเฉียวเฟยเยียนกับเซียวฉุนมีอันใดที่ไม่ชัดเจนจริงๆ คงต้องตายอย่างน่าอนาจ หรือว่าเฉียวเฟยเยียนคิดว่าหนานกงไหวเป็นเสือกินพืชจริงๆ หรือ

กลับมาถึงจวนเยี่ยนอ๋อง องค์หญิงฉังผิงเพิ่งส่งคนจากวังหลวง มองเห็นหนานกงมั่วกลับมารีบยื่นมือไปเรียกนางมาอยู่ข้างกาย หนานกงมั่วนั่งลงด้านข้างองค์หญิงฉังผิง เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “เสด็จแม่ คนในวังมาคุยอันใดหรือเพคะ” องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจออกมา เอ่ย “ยามนี้หลายเรื่องเกิดขึ้นพร้อมกัน คนของวังหลวงเพียงต้องการให้ข้าและน้องเจ็ดเข้าวังไปช่วยจัดการ”

“เสด็จแม่ตอบกลับไปอย่างไรเพคะ”

องค์หญิงฉังผิงเอ่ย “แน่นอนว่าข้าปฏิเสธ แม้เสด็จแม่จะจากไปนานแล้ว แต่ในวังยังมีกุ้ยเฟย หวงเฟยอยู่ จวนองค์รัชทายาทเองก็มีพี่สะใภ้ จวนเย่ว์จวิ้นอ๋องก็มีพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋อง ข้ากับน้องเจ็ดแม้จะเป็นองค์หญิง อย่างไรก็เป็นเพียงองค์หญิงเท่านั้น ไหนเลยจะยื่นมือเข้าไปยุ่งได้”

หนานกงมั่วพยักหน้า “เสด็จแม่ปฏิเสธไปนั้นถูกแล้วเพคะ ช่วงนี้เกรงว่าในวังคงวุ่นวาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าเสด็จน้าหลิงอี๋ฝั่งนั้น…”

[1] ความสัมพันธ์อวี่เลี่ยง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างโจวอวี่และจูเก๋อเลี่ยงจากวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก ซึ่งเป็นคนที่ไม่ถูกกันและอิจฉากันอยู่บ่อยๆ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *