หมอหญิงยอดมือสังหาร 960 การตายของมือยิงธนูอันดับหนึ่งของเป่ยหยวน (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 960 การตายของมือยิงธนูอันดับหนึ่งของเป่ยหยวน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 960 การตายของมือยิงธนูอันดับหนึ่งของเป่ยหยวน (1)

ชายชุดดำหลายคนมองสบตากัน พุ่งเข้าหาหนานกงมั่วโดยไม่เอ่ยวาจา เรื่องมาถึงตอนนี้…ความจริงพวกเขาก็ไม่มีสิ่งใดต้องเอ่ย เพียงแต่เป็นการต่อสู้ดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของหนานกงมั่วหายไป หาได้ยากที่ไม่ใช้กริชสั้นที่ชินมือ ทว่าหยิบแส้ที่เอวออกมาต่อสู้กับศัตรู เวลาว่างสองปีมานี้หนานกงมั่วได้ศึกษาอาวุธใหม่ๆ มาบ้าง อย่างไรนางเองก็ไม่ได้ทำอาชีพมือสังหารเท่าใดแล้ว การต่อสู้โดยใช้กริชสั้นในระยะประชิดตัวทำให้คุณชายเว่ยไม่พอใจนัก ท้ายที่สุดหนังจากได้ทดลองอย่างอื่นแล้ว อย่างไรนางก็ไม่อาจฝึกวรยุทธ์ให้ได้อย่างคุณชายเว่ย เช่นนั้นก็เลือกสิ่งที่ตนเองชอบเรียนให้สนุกไปพลางๆ

หนานกงมั่วสะบัดแส้ยาวไปมาราวกับงูเต้นระบำ ร่างสูงใหญ่จำนวนมากเพียงใดก็ไม่อาจเข้าใกล้ตัวนางได้แม้เพียงก้าวเดียว ทว่ากลับถูกแส้นางฟาดเข้าไม่เบา

“อู๋สยา ไม่ต้องเล่นแล้ว” ด้านหลัง มีเสียงคุณชายเว่ยส่งมา หนานกงมั่วเลิกคิ้ว เห็นเพียงคุณชายเว่ยยืนอยู่บนกำแพงเตี้ย โยนของในมือทิ้ง นั่นก็คือศีรษะของไห่รื่อกู่ ในเวลาเพียงชั่วครู่ไห่รื่อกู่ที่ถูกขนานนามว่าเป็นมือยิงธนูอันดับหนึ่งของเป่ยหยวนก็ไร้ซึ่งความสามารถในการต่อสู้เมื่ออยู่ต่อหน้าเว่ยจวินมั่ว แน่นอนในระยะใกล้การยิงธนูนั้นไม่อาจเอาชนะกระบี่ยาวได้ อีกทั้งกำลังของไห่รื่อกู่สำหรับเว่ยจวินมั่วแล้ว แม้แต่สิทธิ์ในการต่อสู้ดิ้นรนก็ไม่มี

คนของสำนักหอธาราสั่นสะท้านอยู่ในใจเมื่อมองเห็นศีรษะของไห่รื่อกู่ จากนั้นหันไปมองเว่ยจวินมั่วที่ยืนมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาเย็นชาอยู่บนกำแพงเตี้ย รวมไปถึงหนานกงมั่วที่เล่นแส้ยาวอยู่ในมือ อีกทั้งสายตามุ่งร้ายของกองทัพเฉินโจวที่ห้อมล้อม ไหนเลยจะมีใจคิดต่อสู้ขึ้นมาได้แม้สักครึ่งก็ไม่มี

แน่นอนว่าหนานกงมั่วเองก็มองเห็นความสลดใจและสิ้นหวังของพวกเขา เลิกคิ้วเก็บแส้เดินไปอีกฝั่ง นางไม่ชอบลงมือกับคนที่ไม่คิดจะสู้ คนพวกนี้แน่นอนว่าจะมีคนจัดการกับพวกเขาแน่นอน เงยหน้าขึ้นไปมองเว่ยจวินมั่วที่อยู่สูงกว่า หนานกงมั่วยิ้มหวาน เอ่ย “พวกเราไปกันเถิด”

คุณชายเว่ยพยักหน้า ลอยตัวลงมาอยู่ข้างกายหนานกงมั่ว “ไปกันเถิด”

ไม่มีใครสนใจศีรษะของไห่รื่อกู่ที่ตกอยู่บนพื้น ศีรษะเปื้อนฝุ่นยังคงมีแววตาตื่นตระหนกและหวาดผวาก่อนตาย เวลาไม่ถึงแม้เพียงหนึ่งเค่อ ศีรษะของมือยิงธนูอันดับหนึ่งที่ภาคภูมิใจในตนเองกลับแยกออกจากร่าง มองไม่เห็นเกียรติหรือชัยชนะของเขาแม้เพียงนิด สิ่งที่รอเขาอยู่มีเพียงความสูญเสียในพื้นที่ต้าเซี่ยที่อยู่นอกเป่ยหยวนหลายพันลี้ บางทีหากคุณชายเว่ยอารมณ์ดีอาจให้คนส่งศีรษะของเขากลับคืนไปยังเป่ยหยวนก็เป็นได้

นำศีรษะของไห่รื่อกู่กลับมาได้ คนที่เดิมทีแอบไม่พอใจเว่ยจวินมั่วพลันอ่อนลงไปมาก เพียงแต่สำหรับเรื่องนี้ไม่ว่าหนานกงมั่วหรือเว่ยจวินมั่วต่างก็ไม่ใส่ใจ และไม่มีใจคิดสนใจ เพราะในที่สุดเมืองเผิงก็เกิดการต่อสู้ขึ้นมาแล้ว

บางทีอาจเป็นเพราะกำลังของกองทัพราชสำนักเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความมั่นใจ หรือบางทีอาจเป็นเพราะเฉินอวี้ปิดล้อมนานจนเบื่อแล้ว เส้าจงและสือจิ้งเซียงที่เฝ้าเมืองเผิงคอยท้าทายเฉินอวี้ไม่หยุด แม้จะถูกปิดล้อมอยู่ในเมืองเผิงทว่าพวกเขากลับไม่ได้เสียกำลังทหารไปแม้เพียงนิด กลับกันกองทัพโยวโจวก่อนหน้านี้ปะทะกับซื่อหยางต้องสูญเสียไปไม่น้อย อีกทั้งการบาดเจ็บของเยี่ยนอ๋องยังมีผลต่อขวัญกำลังใจของทหารในกองทัพอยู่บ้าง

เว่ยจวินมั่วให้หนานกงมั่วและเซียวเชียนจย่งอยู่ดูแลเยี่ยนอ๋อง แม้แต่คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเซียวเชียนชื่อและเซียวเชียนเหว่ยต่างก็ไปช่วยเหลือที่เมืองเผิงกันหมด แม้ว่าหลายวันมานี้เซียวเชียนชื่อและเซียวเชียนเหว่ยจะสงบเสงี่ยม แต่ผู้ใดจะรู้ว่าหลังจากนี้พวกเขาจะทะเลาะกันอีกเมื่อใด หากเยี่ยนอ๋องต้องทรุดหนักเพราะโมโหขึ้นมา สังหารสองพี่น้องนี้ไปก็ไร้ประโยชน์

รอจนกระทั่งเว่ยจวินมั่วพาคนออกไปแล้ว ค่ายทหารพลันเงียบลง แต่ละวันของเซียวเชียนจย่งนอกจากมาถวายพระพรเสด็จพ่อแล้วก็ยืดคอรอรายงานผลการรบ หรือไม่ก็ฝึกวรยุทธ์ฆ่าเวลา ว่าง่ายกว่าเซียวเชียนเหว่ยและเซียวเชียนชื่อสองพี่น้องอยู่มาก

หนานกงมั่วนั้นนอกจากตรวจชีพจรของเยี่ยนอ๋องตามเวลา ก็คอยเฝ้าดูอาการบาดเจ็บของเยี่ยนอ๋อง เป็นเรื่องยากที่จะมีเวลาว่างหลังจากออกมาจากเฉินโจว เพียงแต่อาการบาดเจ็บของเยี่ยนอ๋องนั้นมีอาการขึ้นมาเป็นระลอก ทำให้เหล่าแพทย์ทหารตกใจจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด หนานกงมั่วก็ใช้กำลังไม่น้อยเพื่อช่วยเหลือให้กลับมาเป็นปกติ

ในกระโจมใหญ่ หนานกงมั่วเงยหน้าพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

หลิ่วหันที่ยืนอยู่ด้านข้างหยิบผ้าเดินเข้ามาช่วยซับเหงื่อที่ขมับให้นาง หมอหลายคนสติยังไม่มั่นคงดี เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “จวิ้นจู่…ท่านอ๋อง ไม่ ไม่เป็นไรแล้วใช่หรือไม่”

หนานกงมั่วยิ้ม หันไปมองเซียวเชียนเหว่ยที่ตกใจจนนิ่งค้าง เอ่ย “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกังวล”

ได้ยินเช่นนั้น เซียวเชียนจย่งจึงราวกับมีชีวิตกลับคืนมา “พี่สะใภ้ เสด็จพ่อ…เสด็จพ่อไยจึง…”

เช้าวันนี้ฟ้ายังไม่ทันสว่างแพทย์ทหารที่เฝ้าดูแลเสด็จพ่อกลับวิ่งมารายงานว่าพระองค์มีไข้ขึ้นสูง ไม่ได้สติ เซียวเชียนจย่งตกใจไม่น้อย

หนานกงมั่วยิ้มบาง “บาดแผลลูกธนูของเสด็จลุงไม่ใช่เล็กๆ จะมีไข้บ้างก็ยากจะเลี่ยงได้ ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไรแล้ว ข้าปรุงยาสำรองขึ้นมาใหม่ อย่างไรบาดแผลภายนอกก็เริ่มดีขึ้นแล้ว คงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต”

เซียวเชียนจย่งพ่นลมหายใจออกมา “หากเสด็จพ่อเป็นอันใดไป ข้าจะบอกกับเสด็จแม่อีกทั้งพี่ใหญ่พี่รองอย่างไร…” อย่ามองว่าเซียวเชียนจย่งนั้นดูไม่มีความกังวลต่อสิ่งใด ลูกพี่ลูกน้องชายที่พึ่งได้ที่สุดนั้นออกเดินทางไปแล้ว พี่ชายทั้งสองของตนเองก็ไม่อยู่ ต่อให้เขาหน้าหนาเพียงใดก็ไม่กล้าให้พี่สะใภ้ต้องมารับผิดชอบคนเดียว ดังนั้นสองวันมานี้เซียวเชียนจย่งจึงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

เยี่ยนอ๋องลืมตาขึ้นช้าๆ แม้เพิ่งผ่านช่วงเวลาอันตรายของชีวิตมาแต่ว่าเยี่ยนอ๋องยังดูมีชีวิตชีวามากกว่าสองวันก่อนอยู่มาก สองวันก่อนแม้จะฟื้นขึ้นมาแล้วทว่าเยี่ยนอ๋องก็ยังสะลึมสะลือ ยามนี้ดูดีขึ้นมามากแล้ว

เยี่ยนอ๋องขยับมุมปาก เหลือบมองเซียวเชียนจย่ง เอ่ย “เชียนจย่ง…ออกไปก่อน…”

เซียวเชียนจย่งเบิกตาโต “เสด็จพ่อ” เขาลำบากเฝ้ามาตั้งนาน ตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่ทำคือไล่เขาออกไป ไร้หัวใจเกินไปหรือไม่

เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้ว “หนวกหู”

คุณชายเซียวสามพละกำลังเต็มเปี่ยม เสียงดังโผงผาง เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดมาไม่รู้จักว่าวาจาเสียงเบาอ่อนโยนคืออันใด ปกติแล้วเยี่ยนอ๋องคงรู้สึกว่าบุตรชายคนเล็กของตนนั้นองอาจผึ่งผาย แต่ตอนนี้…ได้ยินเสียงของเซียวเชียนจย่ง เยี่ยนอ๋องพลันรู้สึกราวกับมีเสียงอันใดดังก้องอยู่ในหัว

เซียวเชียนจย่งกะพริบตาน้อยอกน้อยใจ ถอยไปอยู่มุมมุมหนึ่งแสดงท่าทางออกมาว่าจะไม่เอ่ยปากอีก

เยี่ยนอ๋องกระแอมไอ รู้สึกไม่สบายตัว เอ่ย “ประคองข้าลุกขึ้น น่าเบื่อเหลือเกิน” หนานกงมั่วยักไหล่ บ่งบอกว่าเยี่ยนอ๋องไม่ควรเคลื่อนไว เตียงในกองทัพนี้ก็ไม่อาจเคลื่อนไหวด้วยตนเองได้ เยี่ยนอ๋องขยับตัวจะทำให้บาดแผลฉีกขาด ดังนั้นเยี่ยนอ๋องคงต้องช่วยนอนต่อไปอีกสักสองวันเถิด

เยี่ยนอ๋องคร้านจะโต้เถียงกับนาง อย่างไรตอนนี้เขาก็เป็นฝ่ายอ่อนแอ ทั่วทั้งกระโจมใหญ่แห่งนี้ เหล่าแพทย์ทหารรวมทั้งเซียวเชียนจย่ง แน่นอนว่าคงฟังคำสั่งของหนานกงมั่วมากกว่าตนเองอย่างแน่นอน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *