หมอหญิงยอดมือสังหาร 835 เผาคนรวย (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 835 เผาคนรวย (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 835 เผาคนรวย (1)

ปี้เยียนป้องปากยิ้ม เอ่ยว่า “จวิ้นจู่เอ่ยได้ไม่เลว เรื่องเช่นนี้ยิ่งทำก็ยิ่งชำนาญ” นึกถึงเมื่อก่อนที่ตนเองคิดล่อลวงคุณชายเว่ย แม้นั่นจะเป็นความคิดของท่านอ๋องแต่ปี้เยียนยังรู้สึกสันหลังเย็นวูบขึ้นมา นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่รู้วิชาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่อยากล่วงเกินซิงเฉิงจวิ้นจู่ผู้นี้เลยสักนิด

สีหน้าของเว่ยหงเฟยพลันเปลี่ยน มือสังหารทั้งสองที่ได้รับชมสถานการณ์ทั้งหมดแล้วสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว มองเว่ยหงเฟยด้วยสายตาอ้อนวอน แน่นอนว่าเว่ยหงเฟยไม่มีทางยอมรับ หันหน้าหนีราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้น สีหน้าของมือสังหารยิ่งหดหู่ขึ้นมา แม้พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับร่างกายของสหาย แต่รู้ดีว่าไม่ต้องการให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นกับร่างกายของตนเองอีกครั้ง

เว่ยหงเฟยรีบลุกขึ้น ยกมือขึ้นประสาน เอ่ย “ท่านอ๋อง กระหม่อมนึกขึ้นมาได้ว่ามีธุระ คงต้องเสียมารยาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หนิงอ๋องไม่ได้ห้าม เพียงมองสำรวจเว่ยหงเฟยนิ่งพร้อมพยักหน้าเบาๆ

เว่ยหงเฟยรู้ว่าหนิงอ๋องเริ่มสงสัยตนแล้ว เห็นเขาเป็นเช่นนั้นจึงลอบถอนหายใจออกมา ส่งสายตาให้บุตรชายทั้งสองลุกขึ้นเดินออกไป

มองเว่ยหงเฟยเดินออกไป หนานกงมั่วจึงยิ้มตาหยี เอ่ย “เสด็จลุงหนิงอ๋อง สองคนนี้ ต้องไต่สวนต่อหรือไม่เพคะ”

“ไต่สวนอันใดเล่า” หนิงอ๋องเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก “เอาตัวไป สังหารเสีย” เขาไม่เชื่อใจเว่ยหงเฟยตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

หนานกงมั่วเองไม่ใส่ใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พระองค์ลองทาย เว่ยหงเฟยจะทำอย่างไรต่อไปเพคะ”

“ทำอันใดอย่างนั้นหรือ แน่นอนว่ารีบหนีเอาตัวรอดน่ะสิ” หนิงอ๋องเอ่ยอย่างไม่พอใจ เว่ยหงเฟยคงคิดว่าหลังจากที่ออกไปแล้วพวกตนจะไต่สวนมือสังหารสองคนที่เหลือต่อ ไม่ใช้โอกาสนี้หนีเอาชีวิตรอดแล้วจะอยู่เพื่ออันใดกัน เว่ยหงเฟยกลับไม่รู้ว่าหากหนิงอ๋องต้องการชีวิตของเขาล่ะก็ ต่อให้หาหลักฐานไม่ได้พวกเขาก็ไม่อาจหลุดรอดออกไปจากโยวโจวได้

หนานกงมั่วตบมือพลางยิ้ม เอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เสด็จลุงหนิงอ๋องขอร้องพวกเราก็ทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้ต้องมาคุยกันเรื่องค่าตอบแทนแล้วหรือไม่”

“ขอร้องอันใดกัน” หนิงอ๋องแสร้งโง่

หนานกงมั่วเอือมระอา “ท่านอ๋องทำเยี่ยงนี้ก็น่าเบื่อสิเพคะ พระองค์บอกให้ช่วยไล่เว่ยหงเฟยกลับไปโดยไม่เอาถึงชีวิตเขา ตอนนี้เว่ยหงเฟยก็หนีไปแล้ว ไม่นับว่าพวกเราทำภารกิจสำเร็จแล้วหรือเพคะ”

“นั่นเพราะเขารนหาที่ตายเอง เกี่ยวอันใดกับพวกเจ้า” หนิงอ๋องกลอกตาเอ่ยขึ้น

หนานกงมั่วเอ่ยด้วยเหตุผล “ไม่มีหม่อมฉัน พระองค์สามารถเปิดปากมือสังหารจนเว่ยหงเฟยตกใจรีบหนีไปได้หรือไม่เพคะ”

หนิงอ๋องโกรธทว่ายิ้มออกมา “ต่อให้เจ้าเอ่ยออกมาเป็นดอกไม้ได้ ข้าก็ไม่มีทางรับข้อเสนอของพวกเจ้า ข้าปล่อยเว่ยหงเฟยไปก็เพราะไม่อยากแตกหักกับเซียวเชียนเยี่ย หากตอบรับข้อเสนอของพี่สาม ข้าสังหารเว่ยหงเฟยเลยไม่ดีกว่าหรือ ไยต้องมาเสียเวลาเพียงนี้” หนิงอ๋องตั้งใจแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องการเข้าร่วมสงครามครั้งนี้

เว่ยจวินมั่วหลุบตาลง เอ่ยเสียงเรียบ “พระองค์ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับจวนเยี่ยนอ๋อง และไม่ต้องเลือกฝั่งในยามนี้”

หนิงอ๋องเลิกคิ้ว มองเว่ยจวินมั่วอย่างสนอกสนใจ “เช่นนั้นเจ้ามาสีโจวเพื่ออันใดกัน เกลี้ยกล่อมให้ข้าเป็นกลางหรือ เดิมทีข้าเองก็ไม่คิดสอดมือเข้าไปยุ่งอยู่แล้วนี่”

เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “กระหม่อมจะขอยืมกองกำลังไท่หนิงแห่งสีโจว”

“ให้เจ้ายืมกองกำลังไท่หนิงอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่ากองกำลังไท่หนิงของข้าเป็นผักที่จะยืมก็ยืมอย่างนั้นหรือ” หนิงอ๋องตกใจ กวาดตาขึ้นลงมองเว่ยจวินมั่วอยู่เนิ่นนาน ราวกับกำลังมองตัวประหลาด เนิ่นนานจึงเอ่ยปาก “ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ ให้เจ้ายืมทหารไปสู้กับราชสำนัก ต่างอันใดกับข้าไปสู้รบเอง ข้าจะได้อันใด”

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “ไม่ได้ใช้ชื่อของกองทัพไท่หนิง ให้กระหม่อมยืมทหารหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย นายทหารทั่วไปกระหม่อมจ่ายคนละสองตำลึงเงิน ผู้บังคับการกองร้อยคนละห้าตำลึง ผู้บังคับการกองพันห้ารสิบตำลึง ผู้บัญชาการห้าร้อยตำลึง เสบียงอาหารกระหม่อมจัดเตรียมเอง นายทหารบาดเจ็บล้มตายกระหม่อมชดใช้ มีเงินเหล่านี้แล้ว พระองค์สามารถขยายกำลังกองทัพของพระองค์และจัดแจงผู้ลี้ภัยได้ กระหม่อมจะช่วยพระองค์เปิดทางเสบียงจากทางใต้ อย่างน้อยพระองค์สามารถขยายกำลังรบไปอีกสามแสนนายได้”

“เจ้าหมายถึง” หนิงอ๋องลูบปลายคาง เห็นชัดว่ารู้สึกสนใจขึ้นมา

เว่ยจวินมั่วพยักหน้า “กระหม่อมจะจ่ายเงินสด นี่คือเงินหนึ่งล้านตำลึง หากพระองค์ตกลง ตอนนี้ก็เอาเงินไปได้เลย”

หนิงอ๋องใช้สายตาชิงชังคนรวยมองเว่ยจวินมั่วที่ใบหน้าเย็นชา แม้ว่าเขาจะเป็นจวิ้นอ๋องผู้สูงส่ง มีกองกำลังไท่หนิงแห่งสีโจวหลักแสนนาย แต่เอ่ยตามตรงหากตัดเงินในคลังของสีโจวออกไป อย่าว่าแต่หนึ่งล้านตำลึง เอาออกมากว่าแปดแสนก็นับว่าลำบาก ทำอันใดไม่ได้ เดิมทีสีโจวก็เป็นพื้นที่ห่างไกล สงครามแต่ละปีไม่ได้น้อยไปกว่าโยวโจวแม้เพียงนิด เบื้องหน้าเขาดูสุขสบายผ่อนคลาย แต่การเลี้ยงดูนายทหารหลายแสนก็มิใช่เรื่องง่าย การใช้เงินตนเองเสริมเข้าไปบ้างกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ในเรื่องนี้ คิดว่าเขากับพี่สามก็คงมีความคิดเช่นเดียวกัน แต่ว่า…

“หนึ่งล้านตำลึง พี่สามเชื่อในหลานเช่นเจ้าเพียงนี้เลยหรือ เพียงแต่ เพียงสามเดือนเจ้าจะตีที่ใดได้” ต่อให้ยืมก็ใช่ว่าเงินหนึ่งล้านตำลึงแล้วจะจบ หลังจากนี้ทหารเองก็ยังต้องมีค่าจ้างต่างๆ ระยะเวลาสามเดือนค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้น้อยกว่าหนึ่งล้านตำลึงเลย หรือว่าพี่สามมีเงินมากกว่าเขาอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ถูกหลัก

“เรื่องนี้พระองค์ไม่จำเป็นต้องมากังวลด้วย” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “พระองค์เพียงต้องเลือก ตกลงหรือไม่ตกลง”

หนิงอ๋องมองตั๋วเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นหันมามองหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วที่ใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง รู้สึกลำบากใจขึ้นมา กองกำลังไท่หนิงหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย นั่นคือทหารที่พรั่งพร้อมของเขาเลยนะ หากถูกเว่ยจวินมั่วทำลายเขาจะฆ่าเจ้าเด็กนี่ทิ้ง หนึ่งล้านเลยนะ มีเงินหนึ่งล้านตำลึงนี้แล้ว เขาสามารถขยายกำลังรบได้สองแสนนายทุกๆ ช่วงเวลา อีกทั้งสามเดือน หลังจากนี้สามเดือนหากเว่ยจวินมั่วยังต้องการใช้คนของเขา ก็ยังต้องให้เงินอีก ที่สำคัญก็คือสีโจวของเขาไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้เลยแม้เพียงนิด

เห็นเขาลังเลไม่มั่นใจ เว่ยจวินมั่วจึงเก็บตั๋วเงินคืน จูงมือหนานกงมั่วเดินออกไป “ไม่เป็นไร พระองค์ลองคิดดูให้ดี”

เห็นเขาเดินออกไปโดยไม่มีความลังเล หนิงอ๋องจึงกัดฟัน เรื่องเช่นนี้…ก็ต้องคิด ให้ ดี มิ ใช่ หรือ

คนที่ตกตะลึงกับข้อเสนอของเว่ยจวินมั่วไม่เพียงแค่หนิงอ๋อง หนานกงมั่วเองก็ตกใจด้วยเช่นกัน นางไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่เว่ยจวินมั่วเพิ่งนึกขึ้นมาได้ หรือว่าเขาคิดเช่นนี้มาตลอด แต่ความคิดเช่นนี้ยากจะเชื่อได้ว่าเป็นความคิดของคนที่มีนิสัยเย็นชาและใบหน้าเรียบนิ่งอย่างเว่ยจวินมั่ว แน่นอนว่ายกเว้นหนานกงมั่ว แน่นอนนางรู้ว่าแม้เขาจะดูเย็นชาทว่าไม่ใช่คนที่เย็นชาแล้วไม่สนใจสิ่งใด ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นี้ร้ายกาจเพียงใดดูจากการทำสงครามที่ผ่านมาก็รู้ได้ เพียงแต่ใบหน้าที่เย็นชาทำให้คนมักคิดว่าเขาเป็นคนไม่มีแผนการร้ายจะทำลายผู้ใดได้ และมีเพียงคนที่เคยเสียรู้ให้เขาจึงจะรู้สึกเสียใจต่อสายตาของตนเอง

“นี่เป็นความคิดของท่านหรือความคิดของเยี่ยนอ๋องหรือ” กลับมานั่งลงที่ห้องในโรงเตี๊ยม หนานกงมั่วจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้

“เป็นข้อคิดเห็นที่ข้าเสนอแก่เสด็จลุง” เว่ยจวินมั่วเอ่ย หนานกงมั่วครุ่นคิด เยี่ยนอ๋องคาดหวังให้เว่ยจวินมั่วนำทัพเอาชนะเพื่อสร้างความดีความชอบในสนามรบ แต่เว่ยจวินมั่วกลับอยากวิ่งหนีออกมาข้างนอก เมื่อคิดดูให้ดีพบว่าครั้งนี้เยี่ยนอ๋องปล่อยเว่ยจวินมั่วออกมาง่ายเกินไป เห็นชัดว่าเว่ยจวินมั่วได้หารือกับเยี่ยนอ๋องเป็นการส่วนตัวแล้ว หนานกงมั่วกลับไม่คิดโกรธที่เว่ยจวินมั่วปิดบังตนเองในเรื่องนี้ อย่างไรเริ่มแรกพวกเขาก็มีความคิดแข่งขันกันว่าผู้ใดจะเกลี้ยกล่อมหนิงอ๋องได้ก่อน บางทีอาจเป็นนางที่เบื่อและอยากแข่งกันกับเว่ยจวินมั่วเพียงฝ่ายเดียว หากเว่ยจวินมั่วบอกแผนการกับนาง นางก็อาจไม่พอใจ เพียงแต่ตอนนี้นางก็ไม่ได้ดีใจอันใดมากมายนัก แผนการนี้ของเว่ยจวินมั่ว…นางไม่เคยคาดคิดได้ หรือว่านางโง่กว่าเว่ยจวินมั่วจริงๆ หรือ เป็นไปไม่ได้ หรือว่าจะเป็นเหมือนที่คนอื่นเอ่ย… ตั้งครรภ์ครั้งเดียวโง่ไปสามปีหรือ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *