หมอหญิงยอดมือสังหาร 524 เนรคุณ สวมเขา (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 524 เนรคุณ สวมเขา (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 524 เนรคุณ สวมเขา (2)

หนานกงชวี่เองก็ไม่พอใจต่อเวลาและสถานที่ในวันนี้เท่าใดนัก ทว่าเขาไม่มีโอกาสที่ดีกว่านี้แล้ว ไม่ว่าวันนี้หนานกงไหวจะตายหรือชนะ หลักฐานที่อยู่ในมือเขานั้นจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ทั้งหมด มนุษย์ไม่อาจสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างได้ และหนานกงชวี่เองก็ไม่ใช่เทพนักคิดด้วยเช่นกัน

เซียวเชียนเยี่ยค่อยๆ ผ่อนคลายจากความตึงเครียดลง มองบรรดาเอ้อกั๋วกงที่ยืนถัดจากตนเอง จากนั้นหันไปมองหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วที่ยืนอยู่ตรงกลาง เซียวเชียนเยี่ยคิดว่าโอกาสชนะในคืนนี้ของเขาเพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มั่นใจว่าหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วไม่มีทางช่วยเซียวฉุนอย่างแน่นอน

องครักษ์ยกที่ประทับมาจากด้านในหนึ่งตัววางไว้ด้านหลังของเซียวเชียนเยี่ย เซียวเชียนเยี่ยนั่งลง เอ่ยเสียงเข้ม “หนานกงชวี่ เรื่องราวของตระกูลเมิ่งเจ้ารีบเอ่ยเล่าออกมา หากเป็นความจริง ข้าจะประกาศให้ใต้หล้าได้รับรู้ ชำระล้างมลทินให้ขาวสะอาดแก่ตระกูลเมิ่ง”

หนานกงชวี่หลุบตาลง เอ่ยอย่างนอบน้อม “ขอบพระทัยฝ่าบาท ประการแรกกระหม่อมร้องฉู่กั๋วกงหนานกงไหวพลาดท่าในสนามรบรักตัวกลัวตายยอมจำนนแก่เป่ยหยวน ถูกตระกูลเมิ่งจับได้จึงร่วมมือกับเป่ยหยวนสังหารคนปิดปากฆ่าล้างตระกูลเมิ่ง ประการที่สองร้องฉู่กั๋วกงและพระชายาในอดีตหวาหนิงจวิ้นอ๋องสมรู้ร่วมคิดและกลายเป็นชู้ ให้กำเนิดคู่แฝดชายหญิงเฉียวเชียนหนิงเฉียวเย่ว์อู่ แปดเปื้อนเชื้อพระวงศ์ สามร้องฉู่กั๋วกงสังหารชายาของตนปล่อยให้เฉียวซื่อทำร้ายบุตรีของตนเอง ขอฝ่าบาทให้ความเป็นธรรมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“คุณชายหนานกง ท่านคิดดีแล้วหรือไม่” แม้ว่าตอนนี้จะเป็นศัตรูกับหนานกงไหวแล้ว หยวนชุนก็ยังเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ นี่ไม่ใช่เพื่อหนานกงไหว แต่เพื่อหนานกงชวี่ บุตรชายร้องบิดา ต่อให้หนานกงไหวจะมีความผิดมากเพียงใดแต่สุดท้ายพวกโบราณคร่ำครึเหล่านั้นก็ไม่มีวันปล่อยหนานกงชวี่ไปแน่ กล่าวได้ว่าหลังจากเรื่องราวของหนานกงไหว อนาคตของหนานกงชวี่เองก็พังทลายลงไปด้วย

หนานกงชวี่เอ่ยเสียงหนักแน่น “กระหม่อมรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง และมีพยานบุคคล ขอฝ่าบาทให้ความเป็นธรรมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“โอ้ มีพยานด้วยอย่างนั้นหรือ” เซียวเชียนเยี่ยประหลาดใจขึ้นมา “พามาดูสิ” ขณะเดียวกันหนานกงชวี่เองก็คิดในมุมที่แตกต่างออกไป ยามนี้จินหลิงวุ่นวายมากเพียงใดเซียวเชียนเยี่ยพอจินตนาการได้ หนานกงชวี่อาศัยเพียงป้ายคำสั่งของหนานกงไหวเพียงป้ายเดียวสามารถควบคุมทหารทั้งห้าหน่วยทั่วทั้งจินหลิงเดินเข้ามาในวังหลวงด้วยท่าทางสงบ มีความสามารถมากจริงๆ ดูเหมือนว่าบุตรชายเชื้อสายหลักคนโตผู้นี้ที่ถูกหนานกงไหวคอยข่มเอาไว้จะไม่ได้เป็นดังที่คนอื่นๆ เห็น

ไม่นานคนก็ถูกพาตัวเข้ามา หนานกงมั่วไม่ได้แปลกใจนัก ก็คือเฉียวเฟยเยียนหนึ่งเดียวที่ยังอยู่ในจวนฉู่กั๋วกงนั่นเอง คืนนี้เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นหนานกงไหวหรือเซียวฉุนไม่มีผู้ใดคิดสนใจว่าสตรีเพียงคนเดียวนั้นจะเป็นเช่นไร แน่นอนจึงไม่มีใครรู้ว่าเฉียวเฟยเยียนตกมาอยู่ในมือของหนานกงชวี่ตั้งนานแล้ว อำนาจการควบคุมจวนฉู่กั๋วกงของหนานกงชวี่นั้นมีมากกว่าที่ใครๆ คิดเอาไว้

“ท่านพี่หนานกง…” มองเห็นหนานกงไหว เฉียวเฟยเยียนราวกับมองเห็นบุคคลสำคัญ น้ำตาหลั่งรินออกมาไม่หยุด ไม่ว่าเฉียวเฟยเยียนจะเป็นสตรีที่มีแผนการชั่วร้ายเพียงใด นางก็ยังเป็นสตรีที่แตกต่างไปจากหนานกงมั่วรวมถึงจูชูอวี้ หนานกงมั่วทำสิ่งใดไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ใด จูชูอวี้สามารถใช้ความฉลาดและแต้มต่อของตัวเองเพื่อให้คนอื่นยอมทำเพื่อนางได้ แต่พวกนางไม่ใช้ร่างกายของตนเพื่อมัดใจบุรุษ ยิ่งไม่ยอมพึ่งพาชายใด หนานกงมั่วไม่ใช่คนเช่นนั้นและไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น จูชูอวี้นั้นยกตนเองสูงส่ง ไม่คิดว่าชายที่ถูกตนเองใช้เป็นเบี้ยจะคู่ควรกับตน

ทว่าเฉียวเฟยเยียนเห็นได้ชัดว่าเป็นเช่นนั้นและเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะ นางรู้ถึงข้อดีของตนเอง ใบหน้าของนางนั้นงดงามกว่าสตรีมากมายบนโลกใบนี้ บุคลิกของนางนั้นดูน่าสงสารกว่าสตรีทั่วไป แต่นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วนางก็ไม่มีอันใดแล้ว ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงใช้ความงามของตนเองดึงความรักความเอ็นดูจากบุรุษ ทั้งกังวล ‘ความงามที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น’ ทั้งต้องเกาะติดบุรุษที่มีอำนาจ

เฉียวเฟยเยียนในตอนนี้นั้นดูจนตรอกถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่าหนานกงชวี่ไม่คิดเมตตาเลยสักนิด บนร่างของนางมีเพียงชุดบางๆ ไม่เหมาะจะสวมใส่ออกมาด้านนอก เห็นได้ชัดว่าถูกลากออกมาจากในห้อง

“เยียนเอ๋อร์” หนานกงไหวหัวใจกระตุก แม้ความรู้สึกที่มีต่อเฉียวเฟยเยียนจะไม่มากพอให้เขายอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง สตรีที่ผ่านไปกว่ายี่สิบปีทว่ายังไม่ปล่อยวาง ต่อให้มิใช่ความรักก็กลายเป็นตราตรึงไปเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหญิงผู้นี้ยังให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวให้เขาแล้ว อีกทั้งวันก่อนยังแท้งบุตรอีกด้วย

“พี่หนานกง…ฮือๆ ช่วยข้าด้วย…” เฉียวเฟยเยียนพยายามดิ้นรน

เซียวเชียนเยี่ยมองสำรวจเฉียวเฟยเยียนอย่างประหลาดใจ “หนานกงชวี่ สตรีนางนี้คือพยานของเจ้าหรือ” ชื่อเสียงของเฉียวเฟยเยียนแน่นอนว่าเขาเองก็เคยได้ยินมาก่อน สามารถทำให้คนอย่างหนานกงไหวเคลิบเคลิ้มหลงใหลได้เพียงนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นสตรีงดงามอ่อนหวานน่าสงสาร น่าเสียดาย…เขาไม่มีความสนใจต่อสตรีมีอายุ

หนานกงชวี่พยักหน้า มองเฉียวเฟยเยียนเอ่ยเสียงเรียบ “เฉียวฮูหยิน ขอท่านเล่าเรื่องทั้งหมดดังที่ท่านได้เล่าให้ข้าฟังก่อนหน้านี้ด้วยเถิด”

เฉียวเฟยเยียนหวาดกลัวมากนั่นไม่ผิด แต่ยังไม่ได้โง่ รีบส่ายศีรษะ มองหนานกงชวี่อย่างหวาดกลัว “ไม่ ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังเอ่ยสิ่งใดอยู่”

หนานกงชวี่ย่นคิ้วเบาๆ ราวกับไม่พอใจต่อการไม่ให้ความร่วมมือของเฉียวเฟยเยียนเป็นที่สุด ก้าวเดินเชื่องช้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวเฟยเยียนมองสำรวจนางด้วยสายตาเรียบนิ่ง เฉียวเฟยเยียนหดตัวก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้ว่าหนานกงชวี่ทำอันใดกับนาง เฉียวเฟยเยียนจึงได้หวาดกลัวต่อเด็กที่อายุน้อยกว่าตนเองเป็นสิบปีผู้นี้นัก สายตาขอความช่วยเหลือถูกส่งไปให้หนานกงไหวไม่หยุด

หนานกงไหวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ลูกชั่ว เจ้าคิดจะทำอันใด”

“กรี๊ด” หนานกงชวี่เพียงตวัดมือ เฉียวเฟยเยียนก็ส่งเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา ผู้คนรีบหันไปมอง พบว่ามือข้างหนึ่งของเฉียวเฟยเยียนกำลังปิดใบหน้าเอาไว้ เลือดสีสดไหลซึมออกมาจากง่ามนิ้วของนางไม่หยุด เห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอันใดขึ้น

น้ำเสียงเย็นเยียบของหนานกงชวี่ดังขึ้น “ข้าเคยบอกกับเจ้าแล้ว ข้าไม่มีความอดทนเท่าใดนัก”

หนานกงชวี่ยื่นมือออกมา กริชที่อยู่ในมือปรากฏออกมาให้เห็นทันใด

เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว ไม่เพียงเพราะหนานกงชวี่ทำร้ายคนต่อหน้าเขา ยังเป็นเพราะหนานกงชวี่กล้านำอาวุธติดตัวมาเข้าเฝ้าเขาด้วย เหลือบมองหนานกงมั่วที่ยังคงนิ่งสงบอยู่ด้านข้าง ที่แท้…คนตระกูลหนานกงล้วนแต่มีความกล้ายิ่งนัก

เฉียวเฟยเยียนเองก็ไม่คิดว่าหนานกงชวี่จะกล้าลงมือกับตนต่อหน้าผู้คนมากมายเพียงนี้ ความเจ็บปวดและเลือดสีสดที่หลั่งรินทำให้นางรู้ว่าใบหน้าของนางได้ถูกทำลายแล้ว

หยาดน้ำตาร่วงพรูลงมาจากดวงตาของเฉียวเฟยเยียน ดวงตาที่เคยมีความน่าสงสารยามนี้กลับเจ้าเล่ห์ขึ้นมา เฉียวเฟยเยียนจ้องหนานกงชวี่เขม็ง กัดฟันเอ่ย “ข้าไม่รู้ว่าท่านเอ่ยสิ่งใด คุณชายใหญ่ ท่านคิดจะให้ร้ายท่านพี่หนานกง ข้าไม่ช่วยเจ้า”

ใบหน้าของหนานกงชวี่เผยรอยยิ้มเย็นขึ้นมา “หากทนไม่ไหวก็อย่าได้แสร้งทำเป็นมีคุณธรรมเลย เจ้านึกว่า…ตอนนี้เจ้ากำลังถูกไต่สวนอย่างนั้นหรือ”

หนานกงชวี่ยกมือขึ้นมา กริชในมือพุ่งลงไปบนพื้นโดยไร้ซึ่งความลังลัง มือข้างหนึ่งของเฉียวเฟยเยียนที่เท้าอยู่บนพื้นถูกแทงทะลุยึดติดอยู่กับพื้น เกิดเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขึ้นมาทันใด

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *