หมอหญิงยอดมือสังหาร 896 จิตใจคน ความกลัดกลุ้มใจของเยี่ยนอ๋อง (2)
ตอนที่ 896 จิตใจคน ความกลัดกลุ้มใจของเยี่ยนอ๋อง (2)
ฉินจื่อซวี่พยักหน้า เอ่ย “จวิ้นจู่มีแผนอยู่ในใจก็ดีแล้ว มีฮูหยินน้อยหนานกงอยู่ คิดว่าแม่ทัพซังก็คงไม่คิดทำเรื่องไร้สติขึ้น”
หลังจากเว่ยจวินมั่วกลับมา หนานกงมั่วก็ผ่อนคลายลงไปมาก แม้ว่าทุกวันจะต้องจัดการเรื่องราวไม่น้อยแต่ส่วนใหญ่ก็ถูกเว่ยจวินมั่วรับไปจัดการต่อแล้ว บางอย่างไม่อาจตัดสินใจได้ก็สามารถหารือกับอีกคนได้ เพราะศึกสงครามทางเหนือ ราชสำนักจึงรวมกองกำลังทหารส่งไปทางเหนือทั้งหมด สงครามที่เอ้อโจวก็นับว่าราบรื่น หากไม่ใช่ว่าในมือของพวกเขาไม่มีทหารจริงๆ ล่ะก็ หนานกงมั่วคงอดไม่ได้ที่จะให้ความคิดเห็นเว่ยจวินมั่วถือโอกาสนี้ตีไปอีกสักกี่เมือง
ฝั่งหนานกงมั่วมีความสุขแล้ว ฝั่งโยวโจวเยี่ยนอ๋องกลับไม่อาจดีใจขึ้นมาได้
ในห้องหนังสือ เยี่ยนอ๋องจ้องเขม็งไปยังชายชุดดำที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า เอ่ยเสียงเข้ม “เอ่ยวาจาของเจ้าให้ข้าฟังอีกรอบ”
ชายชุดดำกลับไม่ได้หวาดกลัว เอ่ยอย่างนอบนน้อม “รายงานท่านอ๋อง คุณชายสั่งให้กระหม่อมมาคุ้มกันส่งองค์หญิงฉังผิงและเจ้านายน้อยทั้งสองไปรวมตัวกันที่เฉินโจวพ่ะย่ะค่ะ”
“เหลวไหล” เยี่ยนอ๋องโมโห ถ้วยชาในมือกระแทกลงกับพื้น “เขาเพิ่งไปถึงที่นั่นสักกี่วันกันถึงจะมารับฉังผิงและเด็กทั้งสองไป หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นจะทำเช่นไร มีความสามารถก็ให้เขามาบอกกับข้าเอง” ชายชุดดำจนปัญญาอยู่ในใจ คุณชายเขียนจดหมายมาบอกท่านอ๋องตั้งนานแล้วนี่นา ไยตอนนี้ท่านอ๋องต้องโกรธถึงเพียงนี้เขากลับไม่รู้ นับตั้งแต่ที่เยี่ยนอ๋องได้รับจดหมายฉบับนั้นอารมณ์เขาก็ถูกเก็บไว้มาโดยตลอด น่าเสียดายที่เว่ยจวินมั่วอยู่ไกลห่าง ต่อให้อยากระบายความโกรธก็หาคนไม่เจอ เวลานี้เขาเข้ามาด้วยตนเอง ไม่ซวยแล้วใครจะซวยเล่า
“คุณชายและจวิ้นจู่มีเรื่องมากมายต้องจัดการ ขอท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย เจ้านายน้อยทั้งสองยังอายุไม่ครบขวบปี คุณชายและจวิ้นจู่ห่างไปนานจึงคิดถึงเป็นที่สุด ถึงต้องมารับองค์หญิงและเจ้านายน้อยทั้งสองไปอยู่ด้วยกันพ่ะย่ะค่ะ” แม้เขาจะลอบบ่นอยู่ในใจ ทว่าใบหน้าของชายชุดดำยังคงอธิบายอย่างจริงจังด้วยท่าทางนอบน้อม
เยี่ยนอ๋องส่งเสียงหยัน ใบหน้ายังคงทะมึน
ชายชุดดำเห็นเยี่ยนอ๋องไม่ยอมเอ่ยปาก จึงถอนหายใจอยู่ในใจ เอ่ยสิ่งที่เว่ยจวินมั่วฝากฝังเอาไว้ออกมา “รายงานท่านอ๋อง คุณชายบอกว่า…เขารู้สึกว่าเมื่อเทียบกับเฉินโจว ความจริงโยวโจวนั้นไม่สงบยิ่งกว่า หากปล่อยให้องค์หญิงและเจ้านายน้อยทั้งสองอยู่ที่โยวโจว เกรงว่าจะทำให้ท่านอ๋องต้องลำบาก อีกทั้งทำให้คุณชายและจวิ้นจู่ไม่วางใจ”
เยี่ยนอ๋องขมวดคิ้ว “อ้อ เขาเอ่ยเยี่ยงนี้หรือ”
ชายชุดดำรีบพยักหน้าบ่งบอกว่าเขาเอ่ยความจริง ไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน
“คุณชายบอกว่า อีกไม่นานราชสำนักคงส่งทหารมาสบทบเพิ่มกับทางเหนือ หากไม่ทันระวัง…”
เยี่ยนอ๋องนิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา เว่ยจวินมั่วคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด ความจริงเขาได้รับข่าวมาแล้วว่าราชสำนักกำลังส่งกองกำลังสนับสนุนมุ่งหน้ามาทางเหนือ เดิมทีนี่ก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ความจริงเป็นเพราะมีเว่ยจวินมั่วนำกองกำลังไท่หนิงบุกโจวตีพื้นที่เฉินโจวเหล่านั้น ดังนั้นทหารของราชสำนักจึงมาช้ากว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้บ้าง
“เจ้าออกไปก่อนเถิด ให้ข้าได้ไตร่ตรองก่อนค่อยว่ากัน”
ชายชุดดำเองก็ไม่เกลี้ยกล่อมอีก คุณชายบอกว่าท่านอ๋องจะยินยอม เอ่อ…คงจะยอมกระมัง
ในเรือนพระชายาเยี่ยนอ๋อง พระชายาเยี่ยนอ๋องกำลังสนทนาอย่างสนุกสนานอยู่กับซุนเหยียนเอ๋อร์ ซุนเหยียนเอ๋อร์นั่งถัดลงมาจากพระชายาเยี่ยนอ๋องหน้าท้องกลมโตจนน่าตกใจ กำหนดคลอดใกล้เข้ามาแล้ว ทว่าครรภ์นี้ซุนเหยียนเอ๋อร์บำรุงเป็นอย่างดี ทุกวันยังคงมาถวายพระพรพระชายาเยี่ยนอ๋องและพูดคุยเป็นเพื่อนพระชายาเยี่ยนอ๋อง ยามนี้ในจวนคุณชายทั้งสามก็คงมีเพียงนางลูกสะใภ้เพียงคนเดียวที่อยู่ หลายวันมานี้ได้อยู่ด้วยกันกับพระชายาเยี่ยนอ๋องจึงเริ่มมีความสัมพันธ์แม่สามีลูกสะใภ้ขึ้นมาบ้าง
พระชายาเยี่ยนอ๋องมองท้องของซุนเหยียนเอ๋อร์ ก็อดไม่ได้นึกถึงเซียวเชียนชื่อและเซียวเชียนเหว่ยสองพี่น้อง เฉินซื่อถูกกักขังไว้นานแล้ว แต่อยากหาภรรยาสักคนให้เซียวเชียนชื่อยังต้องรอเวลาอีกสักระยะถึงจะได้ ส่วนเซียวเชียนเหว่ย…นึกถึงซั่นจยาจวิ้นจู่ที่ตนไม่ชอบ พระชายาเยี่ยนอ๋องก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ ไม่คิดว่าบุตรชายทั้งสาม คนที่ทำให้นางไม่ต้องคอยเป็นห่วงกลับเป็นบุตรชายคนเล็กที่ไม่รู้ความที่สุด
“เสด็จแม่เป็นอันใดหรือเพคะ” ซุนเหยียนเอ๋อร์มองพระชายาเยี่ยนอ๋อง เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม หลายวันมานี้ซุนเหยียนเอ๋อร์เริ่มทำตัวตามสบายเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าพระชายาเยี่ยนอ๋อง
พระชายาเยี่ยนอ๋องถอนหายใจ เอ่ย “ก็เพราะพี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าน่ะสิ”
ซุนเหยียนเอ๋อร์พยักหน้า ยิ้มบาง เอ่ยว่า “พี่ชายทั้งสองต่างฉลาดโดดเด่น เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นกังวลนะเพคะ”
“ฉลาดโดดเด่นหรือ” พระชายาเยี่ยนอ๋องยิ้มขมขื่นอย่างจนปัญญา เอ่ย “ชื่อเอ๋อร์ข้าหวังให้เขาฉลาดขึ้นบ้าง ส่วนเหว่ยเอ๋อร์ ข้ากลับหวังไม่ให้เขาฉลาดเพียงนั้น เขาต้องการนำทัพออกรบข้าก็ตามใจเขา แต่เจ้าว่า…เขาเอาภรรยาไปทำไมเล่า”
ซุนเหยียนเอ๋อร์ครุ่นคิด เอ่ย “พี่สะใภ้รองก็มีความสามารถ พี่รองเห็นพี่ชายและพี่สะใภ้มีความรักลึกซึ้งเกรงว่าคงอิจฉา น่าเสียดายที่หม่อมฉันโง่เขลายิ่งนัก ไม่มีความสามารถช่วยเหลือท่านพี่ได้”
พระชายาเยี่ยนอ๋องลูบหลังมือของนาง เอ่ย “แม่ว่าเจ้าดีที่สุดแล้ว พี่สะใภ้รองของเจ้า…หากนางมีความสามารถเหมือนอู๋สยา ข้าคงไม่เอ่ยอันใดแล้ว แต่ว่านางมีหรือ”
วาจานี้แน่นอนว่าซุนเหยียนเอ๋อร์ไม่อาจรับคำได้ พระชายาเยี่ยนอ๋องเองก็ไม่คิดให้ลูกสะใภ้เล็กของตนมาด่าสะใภ้รองไปกับนาง เพียงขมวดคิ้วเอ่ย “ภรรยาผู้นั้นของเจ้ารอง หากอยู่เรือนหลังหรือในวัง ข้าเองคงชื่นชมนางที่เป็นใหญ่ในหมู่สตรี แต่นางวิ่งแจ้นไปยังสนามรบเพื่อการใดกัน นางสามารถนำทัพต่อสู้หรือขึ้นม้าฆ่าศัตรูได้หรือไร”
ซุนเหยียนเอ๋อร์กำลังจะเอ่ยปลอบโยนพระชายาเยี่ยนอ๋องสักกี่ประโยค ทว่าเยี่ยนอ๋องพลันเดินเข้ามาใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ จึงรีบหุบปากกำลังจะลุกขึ้นถวายพระพร เยี่ยนอ๋องเห็นท้องของนาง จึงโบกมือเอ่ย “ไม่ต้องมากพิธี”
พระชายาเยี่ยนอ๋องลุกขึ้น เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องเป็นอันใดหรือเพคะ หรือว่าชื่อเอ๋อร์ทำให้พระองค์ต้องโกรธอีกแล้ว”
ความโกรธของเยี่ยนอ๋องลดลงบ้าง ส่งเสียงหึในลำคอไม่เอ่ยสิ่งใด ดวงตาของพระชายาเยี่ยนอ๋องกลอกไปมา ยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “จวินเอ๋อร์และอู๋สยาส่งจดหมายมาว่าเช่นไรหรือเพคะ” นางจำได้ว่าเมื่อครู่เยี่ยนอ๋องไปพบผู้นำส่งจดหมายจากเฉินโจวที่ห้องหนังสือ
เยี่ยนอ๋องกัดฟัน เอ่ย “เจ้าสองคนนั้นบอกว่าจะให้ฉังผิงกับเด็กทั้งสองไปเฉินโจว”
พระชายาเยี่ยนอ๋องตกใจ “ได้เยี่ยงไรกันเพคะ เฉินโจวฝั่งนั้นตอนนี้มิใช่…”
เยี่ยนอ๋องราวกับเจอคนรู้ใจ “ก็ใช่น่ะสิ เฉินโจวมีภัยพิบัติไม่ขาด เวลานี้จะรับพวกเขาไปทำไม หรือว่าอยู่โยวโจวแล้วข้าจะดูแลน้องสาวและเด็กทั้งสองไม่ดีอย่างนั้นหรือ” พระชายาเยี่ยนอ๋องยกมือขึ้นปิดริมฝีปากหัวเราะ เอ่ย “แน่นอนว่าไม่เพคะ ผู้ใดบ้างจะไม่รู้ว่าท่านอ๋องรักเด็กทั้งสองราวกับแก้วตาดวงใจ” นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก เยี่ยนอ๋องดีกับตุ๊กตาน้อยทั้งสองยิ่งกว่าบุตรชายและบุตรสาวของตนเองมาก เพียงมีเวลาว่างก็ตรงดิ่งไปยังเรือนองค์หญิงฉังผิงเพื่ออุ้มเด็กทั้งสอง น่าสงสารคุณชายใหญ่ตระกูลเซียวเมื่อใดที่เห็นบิดาของตนอุ้มเด็กทั้งสองด้วยใบหน้ารักและเอ็นดูก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าราวกับเห็นผี เขากล้าเอาศีรษะของตนเองรับรองว่าชาตินี้เสด็จพ่อไม่เคยใจดีกับใครอื่นมาก่อน
“เอ่ยเช่นนี้…ไม่ส่งไปหรือเพคะ” เยี่ยนอ๋องเอ่ยถามอย่างลังเล
พระชายาเยี่ยนอ๋องจนปัญญา “หากท่านอ๋องตั้งใจว่าจะไม่ส่ง ก็คงจะไม่โกรธเพียงนี้กระมังเพคะ” ก็คงไม่อยากส่งไป แต่จะไม่ส่งก็ไม่ได้ ร้อนอยู่ในใจถึงได้วิ่งมาระบายกับนางที่นี่
Comments