หมอหญิงยอดมือสังหาร 684 เบื้องหลังของราชโองการแต่งตั้ง(3)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 684 เบื้องหลังของราชโองการแต่งตั้ง(3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 684 เบื้องหลังของราชโองการแต่งตั้ง(3)

“ราบรื่นหรือไม่” หนานกงมั่วเอ่ยถาม หากคนเหล่านั้นเป็นสายสืบที่คนอื่นวางตัวเอาไว้ที่นี่ คงไม่ง่ายที่จะไล่พวกเขาออกไป ชวีเหลียนซิงยิ้มหวาน เอ่ย “มีคนโวยวายเจ้าค่ะ บ่าวสั่งให้คนพาตัวพวกเขาออกไปหมดแล้วเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วพยักหน้าพึงพอใจ ครึ่งปีมานี้ พัฒนาการของชวีเหลียนซิงทำให้รู้สึกพึงพอใจเป็นที่สุด

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “เอาตามนี้เถิด แยกย้ายกันไปพักผ่อน มีเรื่องอันใดพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

เห็นเขาไล่คนออกไป ทุกคนจึงลุกขึ้นกล่าวลาแล้วหมุนตัวออกไป

ห้องโถงใหญ่เหลือเพียงสองคน หนานกงมั่วมองเว่ยจวินมั่วยิ้มบางๆ เอ่ย “มีเรื่องอันใดอยากเอ่ยกับข้าอย่างนั้นหรือ”

เว่ยจวินมั่วยกมือขึ้นมา ปลายนิ้วสัมผัสเบาๆ บนแก้มสวยของนาง เอ่ยเสียงเบา “ต่อไปออกไปข้างนอกต้องพาคนไปด้วยมากสักหน่อย”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “ท่านคิดว่าเซี่ยลี่จะลงมือกับข้าอย่างนั้นหรือ”

เว่ยจวินมั่วส่ายศีรษะ เอ่ย “ไม่แน่ว่าจะเป็นเซี่ยลี่ ในกองทัพยังมีคนอื่นอีก”

“เซียวเชียนเยี่ย อีกทั้งกงอวี้เฉิน” หนานกงมั่วเข้าใจทันใด

เว่ยจวินมั่วพยักหน้า เอ่ย “เซี่ยลี่ไม่มีทางยอมให้เจ้ายื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องในกองทัพ เพียงแต่…หากว่างไม่มีอันใดทำก็กลับไปเยี่ยมเสด็จแม่ก็ได้” ที่นี่ห่างจากโยวโจวเพียงร้อยกว่าลี้ ด้วยความสามารถของหนานกงมั่วและม้าชั้นดี ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสองชั่วยามก็กลับไปถึง

หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ย “ได้ ท่านเองก็ต้องระวังตัวให้ดี”

เว่ยจวินมั่วจ้องมองนาง “ไม่ให้ไปเจอกับเสียนเกอ”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว คล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้มมองเขา คุณชายเว่ยหันหน้าหลบไปทางอื่น หนานกงมั่วหัวเราะออกมา ยกมือคล้องคอของเขาเอาไว้ เอ่ยถาม “ไยจึงไม่ให้เจอศิษย์พี่เล่า”

คุณชายเว่ยไม่ตอบ เพียงจ้องมองนางเงียบๆ หนานกงมั่วยกมือขึ้นบีบแก้มของเขา “ทำไมหรือ ไม่บอกข้าจะกลับพรุ่งนี้เลย พอดี…คิดถึงอาจารย์และอาจารย์อาขึ้นมาแล้ว”

เว่ยจวินมั่วยื่นมือไปดึงนางเข้ามากอด “ข้าเกลียดเขา”

“…ครั้งที่แล้วศิษย์พี่ถูกท่านโจมตีกว่าจะดีขึ้นได้ ท่านยังเกลียดเขาอยู่อีกหรือ” มิใช่ศิษย์พี่หรือที่ควรจะเกลียดเขา แน่นอนพวกท่านก็คงจะต่างฝ่ายต่างเกลียดกันใช่หรือไม่

“อู๋สยา…”

“มีข้อดีอันใด” หนานกงมั่วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มจนตาหยี

“ข้อดีหรือ” คุณชายเว่ยเลิกคิ้ว หนานกงมั่วเอ่ย “ต่อไปจะเชื่อฟังข้าหรือ”

“ไม่ใช่ฟังเจ้ามาตลอดหรอกหรือ” คุณชายเว่ยพยักหน้านิ่งๆ

“…” ไม่เคยรู้สึกเลย

ในจวนผู้บัญชาการอีกฝั่ง เซี่ยลี่คิ้วขมวดมุ่นมองไม่กี่คนที่ยืนอยู่กลางห้องโถง

“เจ้าบอกว่า…คุณชายเว่ยและซิงเฉิงจวิ้นจู่ไล่ทุกคนออกมาหมดเลยอย่างนั้นหรือ”

ชายวัยกลางคนในชุดทหารผู้หนึ่งเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม “ใช่แล้วขอรับ ไม่เหลือไว้แม้แต่เพียงคนเดียว ไล่ออกมาหมดเลยขอรับ แม้กระทั่ง…สาวใช้คนทำครัวก็ไม่เก็บไว้เลยขอรับ”

เซี่ยลี่ขมวดคิ้ว “คุณชายเว่ยว่าอย่างไร”

ชายผู้นั้นเอ่ย “ข้าน้อยไม่เห็นคุณชายเว่ยและซิงเฉิงจวิ้นจู่ขอรับ เป็นสตรีสวมชุดแดงนางหนึ่งออกมาขอรับ”

เซี่ยลี่นึกถึงหญิงงามที่สวมชุดสีแดงลูกท้อยืนอยู่ด้านหลังซิงเฉิงจวิ้นจู่ เดิมทีเห็นว่าสตรีผู้นั้นใบหน้างดงามมิได้ด้อยไปจากซิงเฉิงจวิ้นจู่นัก เพียงแต่รูปร่างหน้าตาไม่ได้ดูเอาอกเอาใจเท่าใด จึงคิดว่าเป็นเพียงคนข้างกายของคุณชายเว่ย ตอนนี้ดูเหมือนพวกเขาทายผิดหรอกหรือ ต่างก็บอกว่าคุณชายเว่ยมีใจซื่อสัตย์ แม้คนส่วนใหญ่จะไม่คิดจริงจัง แต่ด้วยนิสัยของซิงเฉิงจวิ้นจู่จะยอมให้สตรีงดงามอยู่ข้างกายสามีหรือ

“คนคนนั้นเอ่ยอันใดบ้าง”

ชายผู้นั้นเอ่ยตอบ “เพียงให้เงินค่าย้ายออกคนละห้าตำลึง บอกว่าคนในจวนมีมากไม่มีที่อยู่ ไม่ต้องการคนคอยรับใช้ขอรับ”

เซี่ยลี่ส่งเสียงหยัน “คนเยอะไม่มีที่อยู่อย่างนั้นหรือ” คำแก้ตัวง่ายๆ เช่นนี้ก็ยังกล้าเอ่ยออกมาได้ คนพวกนั้นไม่ต้องกินข้าวหรืออย่างไร ไม่ต้องทำงานหนักแล้วหรือ

“ท่านแม่ทัพ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไรขอรับ”

เซี่ยลี่โบกปัดมืออย่างหงุดหงิด เอ่ย “คุณชายเว่ยมิใช่คนโง่ คิดจะวางคนเข้าไปแฝงอยู่ด้วยหากง่ายเพียงนั้นฝ่าบาทคงไม่ต้องให้เขาเข้ามาอยู่ในกองทัพหรอก”

ชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าละอายใจออกมา เพียงแต่ยังไม่ยอมแพ้ “แต่ว่า…หากเป็นเช่นนี้ พวกเราคงยากที่จะรายงานกับฝ่าบาทนะขอรับ”

เซี่ยลี่ยิ้มเย็น เอ่ย “เช่นนั้นเจ้าว่าควรทำเยี่ยงไร ให้ข้าออกคำสั่งว่าต้องรับคนที่เป็นหูเป็นตาอย่างพวกเจ้าโดยไม่อาจปฏิเสธหรือ ต่อให้แม่ทัพเช่นข้ายอมเสียหน้า แต่ก็ต้องดูว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่จะยอมหรือไม่” เรื่องในบ้านซิงเฉิงจวิ้นจู่เป็นคนดูแล เขาที่เป็นแม่ทัพขั้นสองต่อให้มือยาวเพียงใดก็ไม่อาจยื่นเข้าไปยุ่งเรื่องในบ้านของคนอื่นหรอกใช่หรือไม่ มองชายวัยกลางคนผู้นั้นด้วยความหงุดหงิด เอ่ย “ข้าเคยบอกแล้ว หมากตัวเล็กๆ อย่างพวกเจ้าใช้การไม่ได้หรอก”

ดวงตาของชายวัยกลางคนเผยความโกรธออกมา ทว่ายังคงยิ้ม “ท่านแม่ทัพโปรดอภัย พวกเรา…ต่างก็ทำเพื่อฝ่าบาทมิใช่หรือ”

เอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเซี่ยลี่ยิ่งไม่น่ามองมากขึ้น ฝ่าบาทส่งคนพวกนี้มา อีกทั้งรับสั่งที่มีมาไม่หยุด ในที่สุดคือไม่เชื่อใจเขาหรือคิดว่าเขาไร้ความสามารถ

เนิ่นนาน เซี่ยลี่จึงถอนหายใจ เอ่ยว่า “เอาล่ะ เจ้าไปเถิด ยังมีเวลาอีกนาน ค่อยๆ คิดหาวิธีก็ได้ ตอนนี้คุณชายเว่ยอยู่ในกองทัพ ตอนนี้คงเล่นแง่อันใดไม่ได้หรอก”

ชายวัยกลางคนพยักหน้าอย่างทำอันใดไม่ได้ เอ่ย “คงต้องเป็นเช่นนั้น เพียงแต่ฝ่าบาทเร่งรัด ขอท่านแม่ทัพใส่ใจด้วย”

เซี่ยลี่พยักหน้ามิได้เอ่ยอันใดต่อ

“รายงานท่านแม่ทัพ ด้านนอกมีแม่นางผู้หนึ่งมาขอพบขอรับ” ด้านนอก ทหารองครักษ์เอ่ยรายงาน เซี่ยลี่ขมวดคิ้ว “แม่นางอันใดกัน”

ทหารองครักษ์เอ่ยตอบ “แม่นางผู้นั้น มีสิ่งของของซิงเฉิงจวิ้นจู่มายืนยันขอรับ บอกว่ามีเรื่องขอเข้าพบท่านแม่ทัพ”

เซี่ยลี่หัวใจกระตุก พยักหน้าเอ่ย “เชิญนางเข้ามา”

โบกปัดมือให้ชายวัยกลางคนผู้นั้น ชายวัยกลางคนพยักหน้าเดินไปด้านหลังห้องโถง ไม่นานชวีเหลียนซิงในชุดสีแดงก็เดินตามทหารองครักษ์เข้ามา “คารวะแม่ทัพเซี่ย”

เซี่ยลี่หรี่ตาลงเล็กน้อย “แม่นางผู้นี้เป็นคนข้างกายซิงเฉิงจวิ้นจู่หรือ ชื่ออันใดเล่า”

ชวีเหลียนซิงยิ้มหวาน “ผู้ดูแลเล็กๆ ข้างกายจวิ้นจู่เจ้าค่ะ ชื่อต่ำต้อยไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง ข้าแซ่ชวีเจ้าค่ะ”

เซี่ยลี่พยักหน้า “ที่แท้ก็เป็นผู้ดูแลชวี ข้างกายจวิ้นจู่ยังมีสตรีงดงามเพียงนี้อยู่ข้างกาย ข้าช่างนับถือใจของซิงเฉิงจวิ้นจู่”

ชวีเหลียนซิงยิ้ม เอ่ย “แม่ทัพเซี่ยชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ หิ่งห้อยใต้แสงเทียน ไหนเลยจะกล้าคุยโวโอ้อวด”

เห็นรอยยิ้มบางบนใบหน้าชวีเหลียนซิง สีหน้าไม่สะทกสะท้าน เซี่ยลี่เองก็รู้ว่าไม่อาจเอ่ยถามประโยชน์อันใดได้ เพียงเอ่ยตรงๆ “ไม่รู้ว่าผู้ดูแลชวีมาที่นี่ มีเรื่องอันใดหรือ” ชวีเหลียนซิงย่อตัวเล็กน้อย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณชายและจวิ้นจู่มีผู้ติดตามมามาก ไม่อยากสิ้นเปลืองจึงได้ให้ทหารรับใช้เดิมในจวนย้ายออก หากมีสิ่งใดล่วงเกิน ขอแม่ทัพเซี่ยได้โปรดอภัยด้วย จวิ้นจู่กล่าวว่า น้ำใจของท่านแม่ทัพต้องสูญเปล่า รู้สึกเสียใจจริงๆ จึงตั้งใจให้ข้ามาขออภัยต่อท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”

ดวงตาของเซี่ยลี่จมลึก เอ่ยเสียงเรียบ “จวิ้นจู่เอ่ยเกินไปแล้ว เพียงคนรับใช้เดิมของแม่ทัพหันเท่านั้น จวิ้นจู่และแม่ทัพเว่ยไม่สะดวกใช้งานพวกเขา ไล่ออกไปก็พอแล้ว”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *