หมอหญิงยอดมือสังหาร 407 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 407 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 407 สุดท้ายแล้วก็ขุดหลุมฝังตัวเอง (1)
หนานกงมั่วรู้สึกเจ็บหน้าอก ภาพตรงหน้าพลันดับมืดลง

มองหนานกงมั่วที่ค่อยๆ ล้มลงตรงหน้าตนเอง กงอวี้เฉินจึงเก็บแส้และมองไปยังหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นพลางถอนหายใจ “นิสัยของจวิ้นจู่ ใจร้อนไปสักหน่อย รับมือได้ยากเสียจริง” ก้าวเดินไปด้านหน้าสองก้าว กำลังจะก้มลงไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมากงอวี้เฉินกลับชะงักมองมือของตนที่ไม่รู้ว่าขึ้นสีคล้ำตั้งแต่เมื่อใด

“ร้ายกาจจริงๆ เพียงแต่ ยิ่งจวิ้นจู่ร้ายกาจ ข้ายิ่งไม่อยากปล่อยเจ้าไป จะดีได้เยี่ยงไร” กงอวี้เฉินยิ้ม พิษที่มือไม่นับว่าร้ายแรงนัก อย่างไรก็เป็นพิษที่วางมากับแส้และมาโดนมือของเขา ในช่วงเวลารีบร้อนหนานกงมั่วมิได้เตรียมพิษร้ายแรงอันใด และในโลกนี้พิษที่ไร้สีไร้กลิ่นนั้นมีไม่มาก พิษที่ถึงชีวิต ไม่แน่ว่ากงอวี้เฉินอาจรับรู้ได้ ยอดฝีมือจริงๆ มักจะมีสัญชาตญาณที่ไวต่อความอันตราย

จัดการกับพิษที่มือ กงอวี้เฉินจึงเอ่ย “หากลิ่นฉังเฟิงพาคนตามมาทันก็คงจะยุ่งยาก แต่ว่าจวิ้นจู่ ตอนนี้ดูเหมือนสวรรค์จะเข้าข้างข้า”

เมื่อจัดการพิษที่มือของตนแล้ว กงอวี้เฉินจึงเตรียมจะอุ้มหนานกงมั่วขึ้นมาอีกครั้ง มือยังไม่ทันแตะต้องหนานกงมั่วพลันหยุดชะงักอีกครั้ง กงอวี้เฉินไม่ได้หันกลับไป แม้แต่ขยับยังไม่ได้ขยับสักนิด สายตาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่กำลังสลบอยู่ตรงหน้า ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เว่ยจวินมั่ว เจ้ามาทำลายเรื่องของข้าอีกแล้วนะ”

ด้านหลังไร้วี่แววคน ไม่มีใครเอ่ยตอบ กงอวี้เฉินยักไหล่ไม่ใส่ใจ ความรู้สึกว่ามีสายตาเย็นชาแหลมคมทิ่มแทงมายังผิวจับจ้องอยู่ ไม่ผิดแน่ ครั้งนี้กงอวี้เฉินยื่นมือขึ้นไปหวังจะแตะต้องใบหน้าของหนานกงมั่ว

“กงอวี้เฉิน”

“ทนไม่ได้จริงๆ สินะ” กงอวี้เฉินยิ้ม เอ่ย “เว่ยซื่อจื่อในเมื่อมาแล้ว ไยจึงไม่ออกมาเล่า”

ห่างออกไปไม่ไกล ไม่รู้ว่ามีร่างในชุดสีครามปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

ในมือของเว่ยจวินมั่วถือกระบี่อ่อนอยู่ ปลายกระบี่นั้นกลับไม่ได้ชี้ตรงมายังกงอวี้เฉิน ทว่าดวงตาสีม่วงเย็นชากลับแหลมคมเสียยิ่งกว่า “กงอวี้เฉิน เจ้าจะไปเองหรือให้ข้าส่งเจ้าไป” กงอวี้เฉินยิ้ม เอ่ย “ไปหรือ พาจวิ้นจู่ไปด้วยได้หรือ”

“เจ้าลองดูสิ”

กงอวี้เฉินรีบหมุนตัวกลับมาหาเว่ยจวินมั่ว มือข้างหนึ่งกลับวางลงบนศีรษะของหนานกงมั่ว เอ่ย “เว่ยจวินมั่ว ตอนนี้…เหมือนข้าจะได้เปรียบ จวิ้นจู่อยู่ในมือของข้า เจ้าคิดจะทำเช่นไร” เว่ยจวินมั่วยกกระบี่อ่อนในมือขึ้น เอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าลองขยับสิ เดี๋ยวก็รู้ว่าข้าจะทำเช่นไร”

ดวงตาของกงอวี้เฉินหรี่แคบเข้า “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้ามีความสามารถชิงคนไปจากมือข้าได้” วรยุทธ์ของเว่ยจวินมั่วสูงส่งเพียงใดไม่มีใครรู้ดีเท่ากงอวี้เฉิน แต่กงอวี้เฉินรู้ดีว่าพวกเขานั้นใกล้เคียงกัน เว่ยจวินมั่วคิดจะชิงตัวคนไปจากมือของเขานั้นเป็นไปไม่ได้

เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “แม้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด แต่ว่า…ข้าสามารถทำให้เจ้าทำไม่สำเร็จสักเรื่องได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่”

แววตาขบขันของกงอวี้เฉินชะงักไป เลิกคิ้ว เอ่ย “ข้า ไยจึงไม่เข้าใจที่เว่ยซื่อจื่อเอ่ย เจ้าคิดว่าข้าอยากทำอันใดเล่า”

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “วังจื่อเซียวข้าไม่เอาได้ หอธาราเจ้าไม่เอาได้หรือ”

“ข้าไม่เชื่อ” กงอวี้เฉินยิ้มเย็น วังจื่อเซียวเรียกได้ว่าเป็นอำนาจเดียวของเว่ยจวินมั่วในตอนนี้ และเพราะเหตุนี้ทั้งสองจึงยังไม่เคยถึงขั้นที่เจ้าต้องตายข้าถึงจะมีชีวิตรอด เว่ยจวินมั่วต้องปกป้องวังจื่อเซียว เขาต้องปกป้องหอธารา เพราะทั้งหมดนี้คืออำนาจแต้มต่อของพวกเขา ใบหน้าเย็นชาของเว่ยจวินมั่วเผยรอยยิ้มเย็นออกมา “ข้าไม่ทำอะไรเลยก็ได้ ยังคงเป็นหลานของฮ่องเต้และว่าที่จวิ้นอ๋อง แล้วเจ้าเล่าเป็นเจ้าสำนักหอธาราที่ไม่อาจเจอหน้าใครได้อีกอย่างนั้นหรือ กงอวี้เฉิน หลายปีนี้ทำอันใดไม่ได้ เป็นทุกข์ไม่น้อยเลยสินะ เชื่อหรือไม่ ข้าสามารถทำให้เจ้าทำอันใดไม่ได้ไปจนชั่วชีวิตก็ยังได้”

“เจ้าข่มขู่ข้าหรือ” ไอสังหารของกงอวี้เฉินแผ่ออกมา ตั้งแต่เจอกับเว่ยจวินมั่ว เพราะการต่อสู้ของทั้งคู่ทำให้เขาสูญเสียเรื่องดีๆ ไปไม่น้อย นี่ก็เป็นสาเหตุที่กงอวี้เฉินแค้นเคืองต่อเว่ยจวินมั่ว แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เจ้าสำนักกงอดคิดไม่ได้ว่าหากโลกใบนี้มียาแก้เสียใจภายหลัง เมื่อครั้งพบกับเว่ยจวินมั่วเขาควรซื้อมากิน เว่ยจวินมั่วกล่าวไม่ผิดเลย ต่อให้เขาไม่ทำอันใดเลย เขาก็ยังเป็นคุณชายที่สูงส่ง เป็นหลานของฮ่องเต้ หลานชายของชินอ๋อง ว่าที่จวิ้นอ๋อง นอกจากชาติกำเนิดที่ไม่น่ายกย่อง ความจริงเขาเกิดมาก็มีพร้อมสรรพทุกอย่างในสิ่งที่คนอื่นไม่อาจเอื้อมถึงได้ ที่สำคัญก็คือ เขาไม่มีจิตใจที่โหดร้าย แต่กงอวี้เฉินไม่เหมือนกัน เขาอยากทำอันใดมากมาย ดังนั้นหลายครั้งที่เขาทำอันใดจึงไม่ระวังไม่ได้ มิเช่นนั้นด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเว่ยจวินมั่ว คงทำให้เขาเปิดเผยตัวตนของผู้นำวังจื่อเซียวไปนานแล้ว

เว่ยจวินมั่วพยักหน้าเบาๆ “ใช่ เจ้าจะลองดูก็ได้”

กงอวี้เฉินโกรธไม่น้อย เนิ่นนานจึงวางหนานกงมั่วลงลุกขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น “เว่ยจวินมั่ว เราไม่ได้ต่อสู้กันมานานเพียงใดแล้ว หากเจ้าเอาชนะข้าได้ เจ้าเอาตัวซิงเฉิงจวิ้นจู่กลับไป ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับนางอีก”

เว่ยจวินมั่วกระชับกระบี่อ่อนในมือแน่น เอ่ยเสียงเรียบ “ลงมือเถิด”

ป่าอันกว้างใหญ่ ทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมา

เว่ยจวินมั่วอยู่ในชุดสีคราม กระชับกระบี่ยาวในมือแน่น ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเคลือบไปด้วยชั้นน้ำแข็ง ดวงตาสีม่วงมีแววอาฆาตเยือกเย็น กงอวี้เฉินอยู่ในชุดสีดำ ภายใต้แสงแดดที่สาดส่อง ส่งให้หน้ากากดุร้ายนั่นดูน่าขนลุกขึ้นมาหลายเท่า ดวงตาไม่แยแสภายใต้หน้ากากนั้นเปลี่ยนไป จ้องการเคลื่อนไหวของชายตรงหน้าเขม็ง

ยามที่ลิ่นฉังเฟิงมาถึงก็เห็นภาพนั้นแล้ว ขณะเดียวกันก็ถอนหายใจออกมาเมื่อมองเห็นเว่ยจวินมั่ว แม้ลิ่นฉังเฟิงจะรีบพาคนมา แต่พวกเขาก็ไม่อาจได้เปรียบ เพราะระหว่างทางที่ตามมานั้นมีชายชุดดำคนของหอธาราอยู่ไม่น้อย ดังนั้นยามนี้จะชนะหรือแพ้ก็ขึ้นอยู่กับเว่ยจวินมั่วและกงอวี้เฉินสองคนแล้ว

ลิ่นฉังเฟิงรีบวิ่งเข้าไป พาหนานกงมั่วที่กำลังสลบไสลออกห่างจากกงอวี้เฉิน มองดูแล้วเห็นว่านางเพียงสลบไปจึงพยักหน้าให้กับเว่ยจวินมั่ว แม้ลิ่นฉังเฟิงพาคนออกไปต่อหน้าต่อตาตนเอง ทว่ากงอวี้เฉินนั้นไม่มองเลยแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับลิ่นฉังเฟิง เว่ยจวินมั่วจึงจะเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา เมื่อถูกจับจ้องด้วยศัตรูเช่นนี้หากกงอวี้เฉินยังคิดจะไปทำอย่างอื่น เช่นนั้นคงรนหาที่ตายแล้วจริงๆ

กงอวี้เฉินส่งยิ้มเย็นให้เว่ยจวินมั่ว แล้วเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับเงาเข้าหาเว่ยจวินมั่ว สะบัดแส้ยาวกลางอากาศ แส้ยาวฟาดใส่เว่ยจวินมั่วตรงๆ สีหน้าของเว่ยจวินมั่วยังคงเรียบเฉย มือขวาที่ถือกระบี่ยกขึ้นวาดออกไป กระบวนท่าง่ายๆ กงอวี้เฉินกลับรีบดึงแส้ยาวกลับและตวัดฟาดลงไปในทิศทางใหม่

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *