หมอหญิงยอดมือสังหาร 557 เส้นทางสู่ทางเหนือ (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 557 เส้นทางสู่ทางเหนือ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 557 เส้นทางสู่ทางเหนือ (1)

ฉินจื่อซวี่ยิ้ม เอ่ย “ก็เพราะไม่ใช่จวงเซียงอ๋องน่ะสิ ดังนั้นพวกเราจึงดำเนินการได้ มิเช่นนั้น…ไหนเลยจะมาถึงพี่ชายของเจ้า ฮ่องเต้จะใจกว้างกับตระกูลฉินได้หรือ”

ฉินซีมองพี่ชาย ส่ายหน้า “หากคุณชายเว่ยรู้ว่าเขาเป็น…สำหรับท่าน ต้องโกรธมากแน่” สุดท้ายคุณชายเว่ยจะกลายเป็นจวงเซียงอ๋องหรือไม่นางไม่รู้ แต่นางรู้ว่านิสัยของคุณชายเว่ยไม่ได้ดีไปกว่าจวงเซียงอ๋องแน่ๆ

“เอ่อ…ข้าเพียงพลั้งปากไปเท่านั้น” ฉินจื่อซวี่ยิ้มตาหยีมองน้องสาว “นี่เป็นความลับของเรา แม้แต่กับท่านพ่อท่านแม่ข้ายังไม่เคยเอ่ย ซีเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจหรือไม่”

ฉินซีถอนหายใจ “ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ ข้าจะช่วยพี่ชายเก็บเป็นความลับ”

“ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง”

เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วเองไม่ใช่ขุนนางใหญ่ผู้มีอำนาจอันใด เมื่อไปจากจินหลิงจึงมิได้เป็นที่น่าแตกตื่นเท่าใดนัก ระยะเวลาสามวัน หนานกงมั่วกลับไปเยี่ยมหนานกงชวี่ในคุกหลวงอีกครั้ง หนานกงไหวถูกตัดสินประหารชีวิตหลังผ่านฤดูใบไม้ร่วง เฉียวเฟยเยียนสามแม่ลูกถูกเนรเทศออกไปจากจินหลิงสามพันลี้ หนานกงชวี่เนรเทศหนึ่งพันลี้ ส่วนหลินซื่อ หนานกงชวี่เขียนหนังสือหย่าในคุกและนำส่งต่อเซียวเชียนเยี่ย เซียวเชียนเยี่ยยังจำความดีความชอบที่หนานกงชวี่ทำเพื่อตนเองได้ ยังจำได้ว่าน้องชายของหนานกงชวี่คือบุตรเขยของแม่ทัพกุยฮว่า จึงได้อนุญาตแล้ว หลังจากหย่าขาดแล้วหลินซื่อก็กลับบ้าน ไม่ต้องถูกเนรเทศไปกับหนานกงชวี่ ไม่ต้องตกทุกข์ได้ยากจากการเนรเทศ แน่นอนว่าหลินซื่อยินยอม เมื่อได้รับหนังสือหย่าก็ออกจากห้องขังไปในวันนั้นทันที เดิมนางกับหนานกงชวี่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน รู้สึกว่าตนเองโชคร้ายต้องมาโดนร่างแหไปด้วยจึงไม่พอใจนัก ทว่าไม่มีอันใดต้องเสียดาย

ส่วนหนานกงไหว ไม่รู้ได้รับการกระตุ้นอันใด ทำให้เขาดูมีอายุมากขึ้นกว่ายี่สิบปี หนานกงมั่วที่ไปเยี่ยมเยียนหาได้ยากที่เขาจะไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา เพียงมองเฉียวเฟยเยียนใบหน้าบวมแดงก็พอรู้ได้ว่าหนานกงไหวสงบได้เพียงนี้แลกมาด้วยการเสียสละของเฉียวเฟยเยียน ไม่สนใจครอบครัวของหนานกงไหว หนานกงมั่วเพียงกำชับหนานกงชวี่ไปบางอย่าง อีกทั้งจัดการผู้คุมและเจ้าหน้าที่ของคุกหลวงด้วยตนเองก่อนจากไป นางฝากฝังตระกูลเซี่ยและตระกูลฉินช่วยดูแลหนานกงชวี่ รอเขาไปถึงสถานที่เนรเทศแล้ว ก็คงจัดการสิ่งใดได้ง่ายขึ้น

รุ่งเช้า ขบวนรถม้าเคลื่อนตัวออกจากจินหลิง ความจริงมีรถม้ามีทั้งหมดสองคัน คนอื่นๆ ที่เหลือล้วนขี่ม้า เมื่อมองไกลออกไปเรียกได้ว่าดูยิ่งใหญ่ องค์หญิงฉังผิงและบ่าวรับใช้ไม่กี่คน รวมไปถึงแม่นมหลานนั่งอยู่ในรถม้า หนานกงมั่วและคนอื่นๆ ขี่ม้าขนาบอยู่รอบข้าง ด้านหลังพวกเขามีทหารองครักษ์สี่สิบห้าสิบนายควบม้าตามมา รวมไปถึง…เอ้อกั๋วกงและองครักษ์ข้างกายเซียวเชียนเยี่ย สองคนนี้เป็นบุคคลที่เซียวเชียนเยี่ยส่งมาคุ้มกันพวกเขาออกจากเมืองหลวง

เพื่อการเดินทางที่สะดวก ทุกคนจึงมีสัมภาระไม่มากนัก ทำให้ทุกคนเกิดความสงสัยว่าสินเจ้าสาวขบวนยาวสิบลี้ของหนานกงมั่วนั้นถูกโยนทิ้งแล้วหรือ

“เอ้อกั๋วกง ลำบากแล้ว” หนานกงมั่วที่นั่งอยู่บนหลังม้า ประสานมือเข้าหากันเอ่ยขอบคุณเอ้อกั๋วกง คิ้วขาวของเอ้อกั๋วกงขยับเล็กน้อย ถอนหายใจ “จวิ้นจู่เกรงใจแล้ว”

หนานกงมั่วเอ่ย “ฝ่าบาทถอดบรรดาศักดิ์จวิ้นจู่ข้าไปแล้ว ท่านกั๋วกงเรียกชื่อข้าก็พอเจ้าค่ะ”

เอ้อกั๋วกงส่ายศีรษะ เอ่ย “ออกเดินทางเถิด”

ตามสัญญา พวกเขาจะแลกเปลี่ยนสิ่งของกันหลังจากเคลื่อนตัวห่างจากจินหลิงสองร้อยลี้ สองร้อยลี้หากเพียงขี่ม้าใช้เวลาครึ่งค่อนวันอาจเพียงพอ ทว่ากลุ่มขบวนของหนานกงมั่วยังมีรถม้า แน่นอนว่าต้องช้าลงมาก ออกเดินทางจนถึงเช้าวันที่สามจึงนับว่าออกห่างจากจินหลิงสองร้อยลี้ ยามนี้ได้ข้ามแม่น้ำไปแล้วกว่าเกือบร้อยลี้

เอ้อกั๋วกงหยุดม้า เอ่ย “ข้าคงมาส่งทั้งสองท่านเพียงเท่านี้”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ย “ลำบากกั๋วกงแล้ว”

เอ้อกั๋วกงถอนหายใจ “ช่างเถิด ขอคุณชายเว่ยและจวิ้นจู่ทำตามสัญญา ส่งของมาให้ข้าเถิด” ความจริงเอ้อกั๋วกงเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งใดกันที่ทำให้เซียวเชียนเยี่ยยอมปล่อยเว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วเพื่อแลกมันมา แต่เข้าใจว่าคงเป็นของที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้นเซียวเชียนเยี่ยคงไม่ยอมถอยถึงเพียงนี้

หนานกงมั่วเองไม่พูดมาก หยิบซองจดหมายออกมายื่นให้ “นี่คือแผนที่”

องครักษ์ด้านข้างเอ้อกั๋วกงรับไป หยิบกล่องผ้าไหมออกมาและใส่ลงไปปิดเอาไว้อย่างดี เอ้อกั๋วกงเองก็ไม่เอ่ยอันใดมาก เพียงเอ่ยเสียงดัง “ข้าต้องกลับไปแล้ว ทุกท่านเดินทางอย่างราบรื่น”

“ขอบคุณ ท่านกั๋วกงเดินทางปลอดภัย”

มองเอ้อกั๋วกงนำกำลังคนกลับไป หนานกงมั่วถอนหายใจมองเว่ยจวินมั่วที่อยู่ด้านข้าง “ยังไม่กล้าเชื่อเท่าใดนัก พวกเราออกจากจินหลิงแล้วจริงๆ” นับตั้งแต่ปีที่แล้วที่กลับมายังจินหลิงจนถึงตอนนี้เป็นเวลาไม่ถึงปี ทว่าผ่านเรื่องราวมามากมายที่หลายคนคงไม่เคยพบเจอตลอดของช่วงชีวิต

เว่ยจวินมั่วยกยิ้มเบาๆ ยื่นมือออกไปจัดผ้าคลุมของนางที่ถูกลมพัดมาไว้ด้านหน้า เอ่ย “ไปกันเถิด”

องครักษ์ด้านข้างเป่าเสียงส่งสัญญาณออกเดินทาง ขบวนเคลื่อนตัวต่อไป ทว่าค่อยๆ มีผู้คนเพิ่มเข้ามา และมีหลายคนจากไป

ในวังผลวง ตรงหน้าของิซียวเชียนเยี่ยคือกล่องหยกที่ถูกเปิดเอาไว้ ด้านในมีราชโองการสีทองวางอยู่ หนานกงมั่วนั้นเจ้าเล่ห์เพทุบายเซียวเชียนเยี่ยเคยเจอมาแล้ว ครั้งนี้เองก็ไม่แตกต่าง แม้เอ้อกั๋วกงจะเอาแผนที่กลับมาแล้ว แต่กว่าเขาจะได้ราชโองการมาก็ผ่านไปกว่าสองวันแล้ว เซียวเชียนเยี่ยสูดหายใจเข้าลึก ยื่นมือไปเปิดราชโองการออก ดวงตาเบิกกว้างขึ้นทันใด

นั่นเป็นราชโองการจริงๆ เป็นลายพระหัตถ์ของเสด็จปู่ ตราประจำพระองค์เด่นชัด ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เป็นราชโองการของจริง แต่ว่าบนราชโองการมีเพียงไม่กี่คำ โอรสสวรรค์ปกครองประเทศ ผู้ปกครองเมืองรักษาดินแดน

เพล้ง! เซียวเชียนเยี่ยปัดมือ ถ้วยชาตรงหน้าร่วงหล่นลงบนพื้นแตกกระจาย

“ฝ่าบาท” นางกำนัลขันที่ต่างพากันคุกเข่าลง “ฝ่าบาท อย่าทรงโกรธเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“เหอะ” ใบหน้าของเซียวเชียนเยี่ยบิดเบี้ยว “หนานกงมั่ว เด็กๆ ส่งคนไปตามล่าให้ข้า ขอเพียงจับได้…ฆ่าทิ้งให้หมด”

คิดจะตามจับเว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วสองสามีภรรยาไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อให้เป็นเซียวเชียนเยี่ยผู้มีชื่อเสียงกว้างไกล แต่ความเป็นจริง พื้นที่ของผู้ปกครองเมืองส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ฟังคำสั่งของผู้ปกครองเมือง และเมื่อเปรียบเทียบกับเซียวเชียนเยี่ยแล้ว คนที่ผู้ปกครองเมืองไม่กล้าล่วงเกินนั้นคือพี่สามเยี่ยนอ๋อง ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหนานกงมั่วคงพาขบวนรีบเร่งให้ถึงโยวโจวนั้น พวกหนานกงมั่วทั้งสองกลับพาองค์หญิงฉังผิงแต่งกายเป็นชาวบ้านและเปลี่ยนเส้นทางแล้ว ผู้ที่นำขบวนกลับจริงๆ นั้นมีเพียงเซียวเชียนชื่อสามพี่น้อง ตลอดทางมีม้าเร็วและยอดฝีมือคอยคุ้มกัน คนทั่วไปไม่อาจทำอันใดพวกเขาได้

เวลานี้ หนานกงมั่วกำลังนั่งอยู่บนรถม้ากับองค์หญิงฉังผิง

ทว่าไม่ใช่รถม้าหรูหราขององค์หญิงฉังผิงแล้ว เป็นรถม้าเล็กๆ ของชาวบ้านทั่วไปดูแล้วไม่เด่นสะดุดตา เพียงแต่ด้านในรถม้ากลับตกแต่งอย่างสบายเป็นที่สุด องค์หญิงฉังผิงกำลังกอดเตาอุ่นมือนั่งอยู่ฝั่งหนึ่งของรถม้า มองหนานกงมั่วที่ในมือนั้นมีหนังสือการแพทย์ด้วยรอยยิ้ม

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *