เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง

ภายในโถงชีวิตนิรันดร์

 

ชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผากจ้องไปที่จักรพรรดิถังซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังขันที่ชุดแดง หัวใจสั่นกระตุก

 

เขาแอบเข้ามาในพระราชวังถังครั้งนี้ คิดไปว่าความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงที่สุดคือการที่อาจถูกค้นพบโดยตํานานยุทธที่อยู่ภายในพระราชวัง

 

ด้วยเหตุนี้ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดจึงสวมใส่สมบัติประจําสํานักสังหารโลหิต “อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย ซึ่งสร้างไว้เป็นพิเศษ จุดประสงค์ในครั้งนี้เพื่อใช้ในการป้องกันไม่ให้ตํานานยุทธค้นพบตัวตนของเขาได้

 

“อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย ถูกทิ้งไว้โดยตํานานยุทธ เมื่อสองร้อยปีก่อน การสวมใส่อาภรณ์หยกผืนนี้สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของตํานานยุทธคนอื่นๆ ได้อย่างสม บูรณ์

 

นี่คือที่พึ่งของชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผาก

 

ในความคิดของเขา ตราบใดที่ตํานานยุทธภายในวังหลวงไม่ได้ลงมือ การลอบสังหารจักรพรรดิถังควรจะสําเร็จได้อย่างสวยงาม

 

“เจ้ารู้ว่าข้าจะมาลอบสังหาร?”

 

ชายที่มีรอยสีแดงบนหน้าผากก็นึกขึ้นมาได้ มองไปที่จักรพรรดิถังพร้อมเปิดปากพูด

นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดออก

 

ด้วยวิธีนี้จักรพรรดิถังจึงตื่นตัวเตรียมพร้อม ให้ยอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ในเงามืดภายในวังหลวง และเมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้น คนเหล่านั้นก็จะปรากฏตัวออกมา ทําให้เกิดฉากดังที่ได้เห็น

 

“ไม่เลว”

 

จักรพรรดิถังพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคําพูดของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดง

 

อันที่จริง นับตั้งแต่การลอบสังหารที่จักรพรรดิถังประสบ เมื่อตอนที่เขายังเป็นองค์รัชทายาทก็ทําให้เขาเตรียมตัวป้องกันการลอบสังหารไว้อยู่เสมออยู่แล้ว

 

เขายิ่งระแวงมากขึ้นไปอีกหลังจากได้ทราบเรื่องราวเบื้องหลังว่าสํานักสังหารโลหิตเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏของราชาหัวเมืองทั้งสิบ

 

เพราะสิ่งที่สํานักสังหารโลหิตถนัดที่สุดคือการลอบสังหาร

 

ดังนั้นก่อนที่บุตรชายของราชาหัวเมืองจะเข้ามาภายในวังหลวง เขาได้ขอให้ขันที่ชุดแดงที่อยู่ในระดับชั้นที่หนึ่ง ทุกคนแอบอยู่ในเงามืดคอยปกป้องตัวเขา จากนั้นจึงให้รองแม่ทัพกว่าหนึ่งโหลเตรียมคุ้มกันอีกชั้น และหากมีเหตุร้ายใดก็ให้รีบนํากองทัพเข้ามาล้อมโถงชีวิตนิรันดร์ได้ในทันที

 

การจัดการขององค์จักรพรรดิสามารถกล่าวได้ว่าราบรื่น เป็นธรรมชาติยิ่ง

 

แม้ว่ามือสังหารจะเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ด้วยการคุ้มกันของวันที่ชุดแดงกว่าโหลสามารถยื้อเวลาได้ชั่วขณะหนึ่ง เพียงพอให้จักรพรรดิถังล่าถอยไปได้

 

จากนั้นกองทัพด้านนอกห้องโถงก็จะเข้าล้อมและปราบปราม มีความเป็นไปได้สูงว่าจะสามารถสังหารยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แม้จะช้าสักหน่อย

 

“ตอนแรกข้าคิดว่าจะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง ขั้นสูงสุดที่มาลอบสังหารข้า แต่เจ้ากลับไม่ใช่…”

 

จักรพรรดิถังส่ายศีรษะ มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกําลังสมเพชเวทนา

 

“ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด…”

 

ใบหน้าของชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผากแข็งทื่อไปในทันที

 

แม้ว่าจะเป็นถึงสํานักสังหารโลหิต แต่ก็มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดเพียงแค่สี่คนสามคนสิ้นชีวิตไปแล้ว ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์นั่น และที่เหลืออีกหนึ่งจําเป็นจะต้องประจําการอยู่ที่ฐานใหญ่ของสํานักสังหารโลหิต

 

เรียกได้ว่าไม่มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดที่สํานักสังหารโลหิตจะส่งออกมาได้ในยามนี้

 

“เจ้าจะยอมจํานนด้วยตัวเจ้าเอง หรือให้คนของข้าจัดการ?” จักรพรรดิถังเอ่ยถาม จ้องมองไปยังชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดด้วยท่าทางถมึงทึง

 

“จะให้ยอมจํานนงั้นหรือ?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดจ้องตรงไปยังจักรพรรดิถัง กัดฟันพูดออกมาประโยคหนึ่ง “เป็นเวลากว่าหลายร้อยปี คนของสํานักสังหารโลหิตไม่เคยถูกจับกุมด้วยน้ำมือของใครมาก่อน”

 

เสียงพูดเพิ่งจบไป

 

ร่างของชายที่มีรอยแดงบนหน้าผากก็หายไป

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

ขันที่ชุดแดงจํานวนหนึ่งเห็นสิ่งนั้นสีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไป ล้อมปกป้องจักรพรรดิถังที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นหนา ดวงตากวาดส่ายไปรอบๆ

 

ในตอนนั้นเอง

 

ก็มีเสียงการปะทะกันอยู่ด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์

 

“เขาหนีไปแล้ว?”

 

ขันทีชุดแดงเหลือบมองหน้ากัน แต่ไม่ได้ออกไปช่วยสนับสนุน

 

หน้าที่ของพวกเขาคือคอยคุ้มกันองค์จักรพรรดิถัง หากพวกเขารีบร้อนพุ่งออกไป อาจจะติดกับแผนการล่อเสือออกจากถ้ำของฝ่ายตรงข้าม หากเป็นเช่นนั้นจักรพรรดิถังอาจจะสิ้นพระชนม์ก็เป็นได้

 

นอกจากนี้ยังมีรองแม่ทัพมากมายอยู่ภายนอกโถงชีวิตนิรันดร์ มือสังหารคงอยู่ได้ไม่นาน อย่างมากสุดก็คงแค่หนีไปได้สําเร็จ

 

พวกเขาเพียงต้องรับรองความปลอดภัยให้กับจักรพรรดิถังก่อนเป็นอันดับแรก

ในตอนนี้

 

ด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงมองดูรองแม่ทัพของวังหลวงกําลังรุกคืบเข้ามาหาตนอย่างเงียบๆ

 

“บ้าเอ๊ย!!!”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด รู้สึกว่าครั้งนี้ตนอาจจะถูกฝังกลบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็เป็น

 

“ให้ตายเถอะ!”

 

เห็นรองแม่ทัพคนหนึ่งก้าวเข้ามา ซัดหนึ่งฝ่ามือเข้าหาตัวเขา

 

เปรี้ยง

 

เสียงฉีกกระชากอากาศดังขึ้นเบาๆ เนื่องมาจากฝ่ามือนี้ เห็นได้ชัดว่าทรงพลังยิ่ง สีหน้าของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดเปลี่ยนไปชั่วขณะ

 

ฟิ้ว!

 

ร่างของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดกลายเป็นเงาอีกครั้ง สามารถหลบเลี่ยงฝ่ามือนี้ได้อย่างฉิวเฉียด

 

ทันใดนั้น

 

แม่ทัพนายกองต่างๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ลงมือในทันที

 

“หมัดบดขยี้”

 

แม่ทัพของวังหลวงคือยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง อากาศสันสะเทือนยามเมื่อเขาออกหมัด

 

“อ้าาาาา!”

 

“เจ้าบังคับขาเองนะ!”

 

เมื่อชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเห็นแบบนั้นก็รู้แล้วว่า ตนคงหนีไม่พ้น

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

รอยสีแดงบนหน้าผากก็ระเบิดออก กลายเป็นละอองเลือดพุ่งออกมา

 

ทันใดนั้น

 

ความแข็งแกร่งของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงก็พุ่งสูงขึ้น จนขึ้นมาถึงระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดในชั่วพริบตา

 

เพล้ง!

 

ร่างของแม่ทัพวังหลวงก็ลอยกระเด็นออกไป

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงขับไล่แม่ทัพออกไปได้ แต่เขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจังหวะดังกล่าวเข้าติดตามสังหาร แต่กลับเหลือบมองรองแม่ทัพอีกนับสิบคนอย่างเย็นชา ก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นเงาอีกครั้งแล้วหายตัวไปจากที่ตรงนั้น

 

“มันใช้วิชาต้องห้าม คงวิ่งหนีไปได้ไม่ไกล”

 

“ออกคําสั่ง ค้นหาให้ทั่ววัง อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้เป็นอันขาด”

 

แม่ทัพแห่งวังหลวงฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองดูรองแม่ทัพคนอื่นๆ จากนั้นจึงกล่าวคําด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ไม่ไกลจากโถงชีวิตนิรันดร์ ในเงามืดแห่งหนึ่งที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงยืนอยู่ตรงจุดนั้นด้วยท่าทางที่แสนจะมืดมน

 

“ต้องออกจากวังโดยเร็วที่สุด”

 

ทันใดนั้น ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดก็รู้สึกถึงความเร่งรีบในใจ

 

ตอนนี้วังหลวงก็เหมือนกับถ้ำเสือสระมังกรสําหรับตน ร่องรอยของเขาอาจจะถูกเปิดเผยเมื่อไหร่ก็ได้ หากเป็นแบบนั้นคงถูกปิดล้อมปราบปรามอีกครั้งเป็นแน่

 

“ประตูวังทั้งสี่ด้านนั้นได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาด้วยกองกําลังส่วนพระองค์ ด้วยสภาพปัจจุบันของข้าหากเข้าไปใกล้อาจจะถูกพบเห็นได้”

 

ความคิดของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงหมุนเวียน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พลางคิดว่าตนจะเอาชีวิตรอดออกไปได้อย่างไร

 

“ไหนจะยังตํานานยุทธที่อยู่ในวังนั่นอีก…”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงตื่นตระหนก

 

เพราะตัวเขาได้ก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ แม้ว่าจะ มี”อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย” ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังตํานานยุทธในตอนนี้

 

แต่ก็เท่านั้น

 

เนื่องจากตํานานยุทธยังไม่ลงมืออะไรจนถึงตอนนี้ ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเดาว่าอีกฝ่ายคงออกจากวังไปทําธุระบางอย่าง?

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดก็โล่งใจมากขึ้น

 

“ตอนนี้ข้าต้องหาสถานที่สําหรับซ่อนตัวที่ยากจะค้นหา จากนั้นจึงรักษาอาการบาดเจ็บ รอจนกว่าการตรวจตราภายในวังจะผ่อนปรน จากนั้นจึงหาจังหวะหนีออกไป”

 

แม้ว่าชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงต้องการจะออกจากวังหลวง แต่เขาก็รู้ว่าคงจะออกไปไม่ได้ในช่วงเร็วๆ นี้

 

“ข้าควรจะไปพักฟื้นที่ไหนดี?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดมองไปรอบๆ และในที่สุดก็หยุดสายตาเมื่อมองไปยังทิศทางของพระราชวังตะวันออก

 

“ปัจจุบันอาณาจักรถังยังไม่มีการแต่งตั้งรัชทายาท พระราชวังตะวันออกย่อมรกร้างไม่มีคนอาศัยอยู่เป็นธรรมดา ถ้าข้าเลือกที่นี่เพื่อฟื้นตัวก็คงพอเป็นไปได้”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงคิดได้ดังนี้ ก็กลายเป็นร่างเงาอีกครั้งและพุ่งไปที่

พระราชวังตะวันออกอย่างรวดเร็ว 

 

“ตราบใดที่ข้าไปถึงพระราชวังตะวันออก ข้าก็ยังพอมีหวังที่จะรอดชีวิตอยู่”

 

เขามีแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าข้างในหัวใจ ความเร็วก็เพิ่มขึ้นมากในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

“ตามที่สํานักสังหารโลหิตได้สืบทราบมา แม้ตอนนี้พระราชวังตะวันออกจะถูกทิ้งร้าง อย่างไรก็ยังมีซูฉิน พี่ชายคนที่สามของฮองเฮาองค์ปัจจุบันอาศัยอยู่”

 

“หากข้าสามารถควบคุมซูฉินได้ บางทีข้าอาจจะลอบเข้าไปข้างกายจักรพรรดิถังและลอบสังหารได้อีกครั้ง”

 

ยิ่งชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ดวงตาของเขาก็ยิ่งสดใสมากขึ้นเท่านั้น

 

ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบว่าพระราชวังตะวันออกนี่แหละคือ สมบัติสําหรับตัวเขา

 

ไม่ใช่ว่าชายที่มีสัญลักษณ์สีแดงเลือดจะไม่เคยคิดที่จะคุม ตัวองค์ชายและองค์หญิงเอาไว้ แต่ด้วยนิสัยของจักรพรรดิถัง เกรงว่าทั้งคู่คงจะได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนามานานแล้ว

 

แต่ซูฉินไม่ได้ใกล้ชิดกับจักรพรรดิถังมากนัก แต่ก็ไม่ได้ห่างเหิน ทําให้เขามีโอกาสที่จะลงมือในครั้งนี้

 

ไม่นาน

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงก็มาถึงด้านหน้าตําหนักชุนฝั่งขวา

 

“นี่คือสถานที่ที่ซูฉินอาศัยอยู่?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดก็มองดูคร่าวๆ แล้ ก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล

 

อย่างไรก็ตาม

 

ทันทีที่ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดเข้าสู่ตําหนักชุ ฝั่งขวา เขาก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพลังฟ้าดิน ราวกับเขาได้เข้าสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

 

“นี่คือ?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงดูตกตะลึง

 

ทันทีหลัง

 

ไม่ทันที่เขาจะตอบสนองอะไร

 

สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดได้เข้ามาอยู่ในห้องเรียบร้อย

 

“หือ?”

 

“เมื่อครู่เป็นภาพลวงตางั้นหรือ?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงกะพริบตาถี ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ทําให้เขาเห็นชายคนหนึ่งกําลังนั่งขัดสมาธิอยู่ไม่ไกล ชายผู้มีดวงตาอันลึกล้ำคนนั้นค่อยๆ มองมาที่ตัวเขา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง

ภายในโถงชีวิตนิรันดร์

 

ชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผากจ้องไปที่จักรพรรดิถังซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังขันที่ชุดแดง หัวใจสั่นกระตุก

 

เขาแอบเข้ามาในพระราชวังถังครั้งนี้ คิดไปว่าความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงที่สุดคือการที่อาจถูกค้นพบโดยตํานานยุทธที่อยู่ภายในพระราชวัง

 

ด้วยเหตุนี้ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดจึงสวมใส่สมบัติประจําสํานักสังหารโลหิต “อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย ซึ่งสร้างไว้เป็นพิเศษ จุดประสงค์ในครั้งนี้เพื่อใช้ในการป้องกันไม่ให้ตํานานยุทธค้นพบตัวตนของเขาได้

 

“อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย ถูกทิ้งไว้โดยตํานานยุทธ เมื่อสองร้อยปีก่อน การสวมใส่อาภรณ์หยกผืนนี้สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของตํานานยุทธคนอื่นๆ ได้อย่างสม บูรณ์

 

นี่คือที่พึ่งของชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผาก

 

ในความคิดของเขา ตราบใดที่ตํานานยุทธภายในวังหลวงไม่ได้ลงมือ การลอบสังหารจักรพรรดิถังควรจะสําเร็จได้อย่างสวยงาม

 

“เจ้ารู้ว่าข้าจะมาลอบสังหาร?”

 

ชายที่มีรอยสีแดงบนหน้าผากก็นึกขึ้นมาได้ มองไปที่จักรพรรดิถังพร้อมเปิดปากพูด

นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดออก

 

ด้วยวิธีนี้จักรพรรดิถังจึงตื่นตัวเตรียมพร้อม ให้ยอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ในเงามืดภายในวังหลวง และเมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้น คนเหล่านั้นก็จะปรากฏตัวออกมา ทําให้เกิดฉากดังที่ได้เห็น

 

“ไม่เลว”

 

จักรพรรดิถังพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคําพูดของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดง

 

อันที่จริง นับตั้งแต่การลอบสังหารที่จักรพรรดิถังประสบ เมื่อตอนที่เขายังเป็นองค์รัชทายาทก็ทําให้เขาเตรียมตัวป้องกันการลอบสังหารไว้อยู่เสมออยู่แล้ว

 

เขายิ่งระแวงมากขึ้นไปอีกหลังจากได้ทราบเรื่องราวเบื้องหลังว่าสํานักสังหารโลหิตเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏของราชาหัวเมืองทั้งสิบ

 

เพราะสิ่งที่สํานักสังหารโลหิตถนัดที่สุดคือการลอบสังหาร

 

ดังนั้นก่อนที่บุตรชายของราชาหัวเมืองจะเข้ามาภายในวังหลวง เขาได้ขอให้ขันที่ชุดแดงที่อยู่ในระดับชั้นที่หนึ่ง ทุกคนแอบอยู่ในเงามืดคอยปกป้องตัวเขา จากนั้นจึงให้รองแม่ทัพกว่าหนึ่งโหลเตรียมคุ้มกันอีกชั้น และหากมีเหตุร้ายใดก็ให้รีบนํากองทัพเข้ามาล้อมโถงชีวิตนิรันดร์ได้ในทันที

 

การจัดการขององค์จักรพรรดิสามารถกล่าวได้ว่าราบรื่น เป็นธรรมชาติยิ่ง

 

แม้ว่ามือสังหารจะเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ด้วยการคุ้มกันของวันที่ชุดแดงกว่าโหลสามารถยื้อเวลาได้ชั่วขณะหนึ่ง เพียงพอให้จักรพรรดิถังล่าถอยไปได้

 

จากนั้นกองทัพด้านนอกห้องโถงก็จะเข้าล้อมและปราบปราม มีความเป็นไปได้สูงว่าจะสามารถสังหารยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แม้จะช้าสักหน่อย

 

“ตอนแรกข้าคิดว่าจะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง ขั้นสูงสุดที่มาลอบสังหารข้า แต่เจ้ากลับไม่ใช่…”

 

จักรพรรดิถังส่ายศีรษะ มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกําลังสมเพชเวทนา

 

“ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด…”

 

ใบหน้าของชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผากแข็งทื่อไปในทันที

 

แม้ว่าจะเป็นถึงสํานักสังหารโลหิต แต่ก็มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดเพียงแค่สี่คนสามคนสิ้นชีวิตไปแล้ว ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์นั่น และที่เหลืออีกหนึ่งจําเป็นจะต้องประจําการอยู่ที่ฐานใหญ่ของสํานักสังหารโลหิต

 

เรียกได้ว่าไม่มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดที่สํานักสังหารโลหิตจะส่งออกมาได้ในยามนี้

 

“เจ้าจะยอมจํานนด้วยตัวเจ้าเอง หรือให้คนของข้าจัดการ?” จักรพรรดิถังเอ่ยถาม จ้องมองไปยังชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดด้วยท่าทางถมึงทึง

 

“จะให้ยอมจํานนงั้นหรือ?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดจ้องตรงไปยังจักรพรรดิถัง กัดฟันพูดออกมาประโยคหนึ่ง “เป็นเวลากว่าหลายร้อยปี คนของสํานักสังหารโลหิตไม่เคยถูกจับกุมด้วยน้ำมือของใครมาก่อน”

 

เสียงพูดเพิ่งจบไป

 

ร่างของชายที่มีรอยแดงบนหน้าผากก็หายไป

 

“ไม่ดีแล้ว!”

 

ขันที่ชุดแดงจํานวนหนึ่งเห็นสิ่งนั้นสีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไป ล้อมปกป้องจักรพรรดิถังที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นหนา ดวงตากวาดส่ายไปรอบๆ

 

ในตอนนั้นเอง

 

ก็มีเสียงการปะทะกันอยู่ด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์

 

“เขาหนีไปแล้ว?”

 

ขันทีชุดแดงเหลือบมองหน้ากัน แต่ไม่ได้ออกไปช่วยสนับสนุน

 

หน้าที่ของพวกเขาคือคอยคุ้มกันองค์จักรพรรดิถัง หากพวกเขารีบร้อนพุ่งออกไป อาจจะติดกับแผนการล่อเสือออกจากถ้ำของฝ่ายตรงข้าม หากเป็นเช่นนั้นจักรพรรดิถังอาจจะสิ้นพระชนม์ก็เป็นได้

 

นอกจากนี้ยังมีรองแม่ทัพมากมายอยู่ภายนอกโถงชีวิตนิรันดร์ มือสังหารคงอยู่ได้ไม่นาน อย่างมากสุดก็คงแค่หนีไปได้สําเร็จ

 

พวกเขาเพียงต้องรับรองความปลอดภัยให้กับจักรพรรดิถังก่อนเป็นอันดับแรก

ในตอนนี้

 

ด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงมองดูรองแม่ทัพของวังหลวงกําลังรุกคืบเข้ามาหาตนอย่างเงียบๆ

 

“บ้าเอ๊ย!!!”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด รู้สึกว่าครั้งนี้ตนอาจจะถูกฝังกลบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็เป็น

 

“ให้ตายเถอะ!”

 

เห็นรองแม่ทัพคนหนึ่งก้าวเข้ามา ซัดหนึ่งฝ่ามือเข้าหาตัวเขา

 

เปรี้ยง

 

เสียงฉีกกระชากอากาศดังขึ้นเบาๆ เนื่องมาจากฝ่ามือนี้ เห็นได้ชัดว่าทรงพลังยิ่ง สีหน้าของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดเปลี่ยนไปชั่วขณะ

 

ฟิ้ว!

 

ร่างของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดกลายเป็นเงาอีกครั้ง สามารถหลบเลี่ยงฝ่ามือนี้ได้อย่างฉิวเฉียด

 

ทันใดนั้น

 

แม่ทัพนายกองต่างๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ลงมือในทันที

 

“หมัดบดขยี้”

 

แม่ทัพของวังหลวงคือยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง อากาศสันสะเทือนยามเมื่อเขาออกหมัด

 

“อ้าาาาา!”

 

“เจ้าบังคับขาเองนะ!”

 

เมื่อชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเห็นแบบนั้นก็รู้แล้วว่า ตนคงหนีไม่พ้น

 

ช่วงเวลาต่อมา

 

รอยสีแดงบนหน้าผากก็ระเบิดออก กลายเป็นละอองเลือดพุ่งออกมา

 

ทันใดนั้น

 

ความแข็งแกร่งของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงก็พุ่งสูงขึ้น จนขึ้นมาถึงระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดในชั่วพริบตา

 

เพล้ง!

 

ร่างของแม่ทัพวังหลวงก็ลอยกระเด็นออกไป

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงขับไล่แม่ทัพออกไปได้ แต่เขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากจังหวะดังกล่าวเข้าติดตามสังหาร แต่กลับเหลือบมองรองแม่ทัพอีกนับสิบคนอย่างเย็นชา ก่อนที่ร่างของเขาจะกลายเป็นเงาอีกครั้งแล้วหายตัวไปจากที่ตรงนั้น

 

“มันใช้วิชาต้องห้าม คงวิ่งหนีไปได้ไม่ไกล”

 

“ออกคําสั่ง ค้นหาให้ทั่ววัง อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้เป็นอันขาด”

 

แม่ทัพแห่งวังหลวงฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองดูรองแม่ทัพคนอื่นๆ จากนั้นจึงกล่าวคําด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ไม่ไกลจากโถงชีวิตนิรันดร์ ในเงามืดแห่งหนึ่งที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงยืนอยู่ตรงจุดนั้นด้วยท่าทางที่แสนจะมืดมน

 

“ต้องออกจากวังโดยเร็วที่สุด”

 

ทันใดนั้น ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดก็รู้สึกถึงความเร่งรีบในใจ

 

ตอนนี้วังหลวงก็เหมือนกับถ้ำเสือสระมังกรสําหรับตน ร่องรอยของเขาอาจจะถูกเปิดเผยเมื่อไหร่ก็ได้ หากเป็นแบบนั้นคงถูกปิดล้อมปราบปรามอีกครั้งเป็นแน่

 

“ประตูวังทั้งสี่ด้านนั้นได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาด้วยกองกําลังส่วนพระองค์ ด้วยสภาพปัจจุบันของข้าหากเข้าไปใกล้อาจจะถูกพบเห็นได้”

 

ความคิดของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงหมุนเวียน เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พลางคิดว่าตนจะเอาชีวิตรอดออกไปได้อย่างไร

 

“ไหนจะยังตํานานยุทธที่อยู่ในวังนั่นอีก…”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงตื่นตระหนก

 

เพราะตัวเขาได้ก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ แม้ว่าจะ มี”อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย” ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดบังตํานานยุทธในตอนนี้

 

แต่ก็เท่านั้น

 

เนื่องจากตํานานยุทธยังไม่ลงมืออะไรจนถึงตอนนี้ ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเดาว่าอีกฝ่ายคงออกจากวังไปทําธุระบางอย่าง?

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดก็โล่งใจมากขึ้น

 

“ตอนนี้ข้าต้องหาสถานที่สําหรับซ่อนตัวที่ยากจะค้นหา จากนั้นจึงรักษาอาการบาดเจ็บ รอจนกว่าการตรวจตราภายในวังจะผ่อนปรน จากนั้นจึงหาจังหวะหนีออกไป”

 

แม้ว่าชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงต้องการจะออกจากวังหลวง แต่เขาก็รู้ว่าคงจะออกไปไม่ได้ในช่วงเร็วๆ นี้

 

“ข้าควรจะไปพักฟื้นที่ไหนดี?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดมองไปรอบๆ และในที่สุดก็หยุดสายตาเมื่อมองไปยังทิศทางของพระราชวังตะวันออก

 

“ปัจจุบันอาณาจักรถังยังไม่มีการแต่งตั้งรัชทายาท พระราชวังตะวันออกย่อมรกร้างไม่มีคนอาศัยอยู่เป็นธรรมดา ถ้าข้าเลือกที่นี่เพื่อฟื้นตัวก็คงพอเป็นไปได้”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงคิดได้ดังนี้ ก็กลายเป็นร่างเงาอีกครั้งและพุ่งไปที่

พระราชวังตะวันออกอย่างรวดเร็ว 

 

“ตราบใดที่ข้าไปถึงพระราชวังตะวันออก ข้าก็ยังพอมีหวังที่จะรอดชีวิตอยู่”

 

เขามีแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าข้างในหัวใจ ความเร็วก็เพิ่มขึ้นมากในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

“ตามที่สํานักสังหารโลหิตได้สืบทราบมา แม้ตอนนี้พระราชวังตะวันออกจะถูกทิ้งร้าง อย่างไรก็ยังมีซูฉิน พี่ชายคนที่สามของฮองเฮาองค์ปัจจุบันอาศัยอยู่”

 

“หากข้าสามารถควบคุมซูฉินได้ บางทีข้าอาจจะลอบเข้าไปข้างกายจักรพรรดิถังและลอบสังหารได้อีกครั้ง”

 

ยิ่งชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ดวงตาของเขาก็ยิ่งสดใสมากขึ้นเท่านั้น

 

ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบว่าพระราชวังตะวันออกนี่แหละคือ สมบัติสําหรับตัวเขา

 

ไม่ใช่ว่าชายที่มีสัญลักษณ์สีแดงเลือดจะไม่เคยคิดที่จะคุม ตัวองค์ชายและองค์หญิงเอาไว้ แต่ด้วยนิสัยของจักรพรรดิถัง เกรงว่าทั้งคู่คงจะได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนามานานแล้ว

 

แต่ซูฉินไม่ได้ใกล้ชิดกับจักรพรรดิถังมากนัก แต่ก็ไม่ได้ห่างเหิน ทําให้เขามีโอกาสที่จะลงมือในครั้งนี้

 

ไม่นาน

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงก็มาถึงด้านหน้าตําหนักชุนฝั่งขวา

 

“นี่คือสถานที่ที่ซูฉินอาศัยอยู่?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดก็มองดูคร่าวๆ แล้ ก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล

 

อย่างไรก็ตาม

 

ทันทีที่ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดเข้าสู่ตําหนักชุ ฝั่งขวา เขาก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของพลังฟ้าดิน ราวกับเขาได้เข้าสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า

 

“นี่คือ?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงดูตกตะลึง

 

ทันทีหลัง

 

ไม่ทันที่เขาจะตอบสนองอะไร

 

สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดได้เข้ามาอยู่ในห้องเรียบร้อย

 

“หือ?”

 

“เมื่อครู่เป็นภาพลวงตางั้นหรือ?”

 

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงกะพริบตาถี ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ทําให้เขาเห็นชายคนหนึ่งกําลังนั่งขัดสมาธิอยู่ไม่ไกล ชายผู้มีดวงตาอันลึกล้ำคนนั้นค่อยๆ มองมาที่ตัวเขา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+