เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 331 กลับคืนต้นกําเนิด

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 331 กลับคืนต้นกําเนิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 331 กลับคืนต้นกําเนิด

สระสายฟ้าโบราณนั้นน่ากลัวยิ่ง

แม้ว่าจะมีขนาดเพียงไม่กี่เมตร แต่น้ําในสระที่กระเพื่อมอยู่นั้นก็คือสายฟ้าที่ถูกควบแน่นสุดขั้วจนกลายเป็นของเหลว!

ช่างน่าเหลือเชื่ออะไรเช่นนี้?

สายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ ผสานเข้าหากันไม่ได้ แม้จะเป็นสายฟ้าธรรมดาๆ ก็ตาม หากต้องการบีบอัดจนเป็นของเหลว เซียนเทพปฐพีวิถีสายฟ้าธรรมดาๆ ไม่สามารถทําได้ ไม่ต้องกล่าวถึงของเหลวสายฟ้าภายในสระสายฟ้าโบราณในตอนนี้ ที่อย่างน้อยๆก็เป็นระดับเดียวกับสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

“ไม่เลว”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาพอใจอย่างมาก

แม้ว่าสระสายฟ้าโบราณจะไม่ใช่สมบัติล้ําค่าศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็เหนือกว่าสมบัติล้ําค่าธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่น เพียงแค่น้ําในสระ ก็ไม่รู้ว่าควบแน่นสายฟ้าเข้าไปมากมายแค่ไหน หากเซียนเทพปฐพีวิถีสายฟ้าได้รับมันไป ด้วยความช่วยเหลือจากน้ําในสระ คงจะใช้เวลาแค่ไม่กี่ร้อยปีในการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีขั้นสถิตเทพระดับสูงสุดโดยตรง

นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้สร้างตัวสระสายฟ้าโบราณเองก็มีความลึกลับอย่างยิ่ง ด้วยเส้นสายที่อธิบายไม่ได้ปกคลุมอยู่จางๆ มันราวกับมีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ถูกตราเอาไว้บนนั้น

ในความเป็นจริง เมื่อเทียบกับน้ําในสระ ซูฉินให้ค่ากับตัวสระสายฟ้าเสียมากกว่า ท้ายที่สุด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรจุของเหลวสายฟ้าจํานวนมากไว้ในที่เดียวกันแบบนี้ แม้จะเป็นสมบัติล่าค่าของผู้ทรงพลังถึงขีดสุดก็ตาม

“ในช่วงเวลานี้ หากพอจะมีเวลา ก็สามารถใช้ของเหลวสายฟ้าภายในสระเพื่อฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าได้…”

ซูฉินคิดตัดสินใจ

ช่วงยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว ซูฉินฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าอย่างเต็มที่ อาบร่างกายด้วยสายฟ้าต่างน้ํา หลอมกายาด้วยพลังจากสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัว

อย่างไรก็ตาม ในภายหลังเขายังได้รับกิ่งไม้อสนีบาตภัย และสมบัติธาตุสายฟ้าอื่นๆ อีกมากมาย ทําให้ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าสามารถยกระดับจนเกินขีดจํากัดไปได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ แม้แต่ซูฉินเองก็ไม่รู้ว่าห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าจะไปถึงระดับใด

สิ่งที่ซูฉินรู้ก็คือแม้แต่สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในตํานานที่มีเพียงเซียนเทพปฐพีขั้นกลับคืนต้นกําเนิดในวิถีสายฟ้าเท่านั้นที่ควบคุมได้ ก็ยังทําร้ายเขาไม่ได้เลย

นี่ไม่ได้หมายความว่าซูฉินนั้นเหนือกว่าขั้นกลับคืนต้นกําเนิดไปมาก แต่ร่างกายของเขาสามารถต้านทานสายฟ้าจํานวนมากได้ ทั้งยังมีภูมิคุ้มกันต่อพลังสายฟ้าอยู่ในระดับหนึ่ง

“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการพัฒนาต่อไปอีกขั้น ก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด”

ซูฉินหันมองกลับมาอย่างกะทันหัน คิดอย่างรวดเร็วภายในใจ

ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แบ่งออกเป็นสามขั้น แบ่งจิต กลับคืนต้นกําเนิด และสถิตเทพซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย

แม้ว่าช่องว่างระหว่างขั้นจะไม่ได้ห่างไกลกันเหมือนก้าวจากขอบเขตตํานานยุทธขึ้นมาเป็นเซียนเทพปฐพี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะก้าวข้ามไปได้ง่ายๆ

ซูฉินสามารถปราบเหลยเฉียนจอได้ด้วยมือเปล่า นอกเหนือจากไพ่ลับในมือที่แข็งแกร่งแล้ว อีกเหตุผลก็เป็นเพราะซูฉินมีฐานการบ่มเพาะสูงกว่าเหลยเฉียนจือไปมาก

ขณะที่เหลยเฉียนจือบุกเข้าเมืองฉางอันมา เขาเพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี เพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต และซูฉินในตอนนั้นอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้ว โดยที่ไม่ต้องคํานึงถึงความแข็งแกร่ง แค่ความห่างชั้นของฐานการบ่มเพาะก็มากอย่างยิ่ง

“หากต้องการจะเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด สิ่งแรกที่ต้องทําคือรวบรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดให้กลายเป็นหนึ่งเดียว…..”

ความคิดของซูฉินผันผวน

ในตอนที่เขาเดินไปรอบเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ก็ได้เปิดหนังสือโบราณจํานวนมหาศาลซึ่งนิกายเทพเจ้าสายฟ้ารวบรวมเอาไว้มาอ่านดู หนังสือโบราณเหล่านี้หาใช่มีเพียงแค่เคล็ดวิชาต่างๆ ที่สืบทอดต่อมาในนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการฝึกฝนวิทยายุทธที่สืบทอดต่อมาจากยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีด้วย

ในยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟู มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน แม้เซียนเทพปฐพีจะมีพลังอํานาจ แต่พวกเขาก็มีอยู่อย่างมากมาย ทั้งยังมีผู้ทรงพลังถึงขีดสุดซึ่งอยู่ในขอบเขตทลายนภากาศอีก

หนังสือโบราณที่สืบทอดต่อมาตั้งแต่ยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟูนี้ทําให้ซูฉินพึงพอใจอย่างมาก

“กลับคืนต้นกําเนิด กลับคืนต้นกําเนิดคือสิ่งใด?”

“พลังทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียว ทั้งพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิด พลังของปราณเลือด แม้กระทั่งพลังของอาณาเขต…”

ความคิดของซูฉินผันแปรไป จมเข้าไปอยู่ในความคิด

แม้คําพูดจะฟังดูง่าย อย่างการรวมพลังทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวได้ก็สามารถเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด แต่หากต้องการจะทําจริงๆ ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องยาก

พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดและพลังของกายเนื้อเป็นพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การรวมพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน เท่ากับเป็นการรวมน้ําเข้ากับไฟ

แน่นอนว่า การรวมพลังของขั้นกลับคืนต้นกําเนิด จริงๆแล้วไม่ได้เป็นการผสานรวมกัน แต่เป็นการที่พลังต่างๆคอยเสริมส่งซึ่งกันและกัน สร้างพลังใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมขึ้นมา

“คงต้องลองดูก่อน”

ซูฉินค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง พินิจภายในร่าง พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้ามาบรรจบ และในขณะเดียวกันพลังปราณเลือดก็โผล่ขึ้นด้านในร่างกาย

ด้วยการควบคุมของซูฉิน พลังทั้งสองค่อยๆ รวมเข้าด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาขณะที่จิตวิญญาณแรกกําเนิดและปราณเลือดสัมผัสกัน พวกมันก็เริ่มระเหิดอย่างรุนแรง ราวกับน้ําถูกไฟเผาจนเดือด
“ไม่ไหว”

“เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวมจิตวิญญาณแรกกําเนิดกับปราณเลือดเข้าด้วยกัน” หลังจากพยายามหลายต่อหลายครั้ง ซูฉินก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้ว

เหมือนกับที่เขาได้คาดเดาไปในตอนแรก ปราณชีวิตและเลือดเนื้อนั้นแตกต่างจากจิต วิญญาณแรกกําเนิดโดยสิ้นเชิง ซึ่งปกติแล้วต่อให้เป็นพลังที่ตรงข้ามกัน หากอยู่ภายในร่างกายของซูฉินก็เหมือนกับน้ําบ่อไม่ยุ่งกับน้ําคลอง ไม่ควรจะมีอะไรเกิดขึ้น

แต่ตอนนี้ซูฉินต้องการบังคับให้พวกมันเข้ามาอยู่ในที่เดียวกันย่อมเกิดปัญหา แม้ว่าทั้งสองจะมีต้นกําเนิดเดียวกันก็ตาม แต่มันย่อมต่อต้านกันเป็นธรรมดา

หากซูฉินยังคงฝืนบังคับต่อไป ผลคือพลังทั้งสองจะระเหยหายไป และในที่สุดความแข็งแกร่งของซูฉินจะถดถอยลง

“มันต้องมีวิธีอื่น”

เห็นได้ชัดว่าซูฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด กําลังคิดต่อไปอย่างใจเย็น

เนื่องจากมีผู้ฝึกยุทธที่ก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดได้ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด เขาก็ต้องทําได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะละเลยรายละเอียดบางอย่างไป

“หากแค่การรวมพลังของปราณเลือดเข้ากับพลังจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดเป็นเรื่องยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเราเพิ่มพลังของอาณาเขตเข้าไปล่ะ?”

ดวงตาของซูฉินเป็นประกายระยิบระยับ พลังของอาณาเขตไม่ใช่พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิด ทั้งยังไม่ใช่พลังจากกายเนื้ออย่างปราณเลือดด้วย มันเป็นพลังอีกประเภทโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะพลังของอาณาเขตขนาดใหญ่มีความสามารถครอบคลุมระยะทางหลายร้อยลี้ ภายในอาณาเขตนี้ซูฉินมีอํานาจเหนือทุกอย่าง เข้าใจพลังภายในโลกหล้าได้อย่างง่ายดาย

“หากพลังของอาณาเขตสามารถประนีประนอมทั้งพลังของปราณเลือดและพลังจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ มันก็เท่ากับเป็นการทําให้พลังของทั้งสามกลับคืนสู่จุดแรกกําเนิดได้ในเวลาเดียวกัน……”

ยิ่งซูฉินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้ นอกเหนือจากพลังของอาณาเขตแล้ว ซูฉินก็นึกถึงวิธีการอื่นที่สามารถบังคับให้จิตวิญญาณแรกกําเนิดและปราณเลือดกลับคืนสู่ต้นกําเนิดไม่ออก

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

หนึ่งปีผ่านไปภายในพริบตา

ในหนึ่งปีนี้ซูฉินหมกมุ่นอยู่แต่กับการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่นั้นมีอายุยืนยาวกว่าพันปี และซูฉินนั้นมีอายุขัยถึงสองพันปีซึ่งนี่ยังไม่นับผลท้อป้านที่เก็บเอาไว้อีก หนึ่งปีสําหรับซุฉินจึงไม่ได้มีค่าอะไรเลย เป็นเพียงแค่ช่วงกะพริบตาเท่านั้น

และในขณะที่ซูฉินพยายามทะลวงคอขวด เข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด

บนยอดเขาคุนหลุน จู่ๆ ก็มีร่างห้าร่างปรากฏขึ้น ร่างทั้งห้านี้เหินลงมาจากฟ้า กลิ่นอายของพวกเขาเชื่อมโยงกับทะเลปราณอันกว้างใหญ่ในส่วนลึกของความว่างเปล่า พวกเขาทั้งห้าคือกลุ่มคนที่ออกมาจากประตูเซียน

“มันคือที่นี่แหละ”

“ข้าได้ใช้วิธีลับจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในการค้นหา และสถานที่ที่วิหารการสงครามปรากฏขึ้นครั้งสุดท้ายก็อยู่ที่นี่”

ในบรรดาคนทั้งห้า เด็กหนุ่มในกลุ่มก็มองผ่านความว่างเปล่า มีความกระตือรือร้นฉายออกมาผ่านสีหน้าของเขา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 331 กลับคืนต้นกําเนิด

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 331 กลับคืนต้นกําเนิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 331 กลับคืนต้นกําเนิด

สระสายฟ้าโบราณนั้นน่ากลัวยิ่ง

แม้ว่าจะมีขนาดเพียงไม่กี่เมตร แต่น้ําในสระที่กระเพื่อมอยู่นั้นก็คือสายฟ้าที่ถูกควบแน่นสุดขั้วจนกลายเป็นของเหลว!

ช่างน่าเหลือเชื่ออะไรเช่นนี้?

สายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ ผสานเข้าหากันไม่ได้ แม้จะเป็นสายฟ้าธรรมดาๆ ก็ตาม หากต้องการบีบอัดจนเป็นของเหลว เซียนเทพปฐพีวิถีสายฟ้าธรรมดาๆ ไม่สามารถทําได้ ไม่ต้องกล่าวถึงของเหลวสายฟ้าภายในสระสายฟ้าโบราณในตอนนี้ ที่อย่างน้อยๆก็เป็นระดับเดียวกับสายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

“ไม่เลว”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาพอใจอย่างมาก

แม้ว่าสระสายฟ้าโบราณจะไม่ใช่สมบัติล้ําค่าศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็เหนือกว่าสมบัติล้ําค่าธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่น เพียงแค่น้ําในสระ ก็ไม่รู้ว่าควบแน่นสายฟ้าเข้าไปมากมายแค่ไหน หากเซียนเทพปฐพีวิถีสายฟ้าได้รับมันไป ด้วยความช่วยเหลือจากน้ําในสระ คงจะใช้เวลาแค่ไม่กี่ร้อยปีในการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีขั้นสถิตเทพระดับสูงสุดโดยตรง

นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้สร้างตัวสระสายฟ้าโบราณเองก็มีความลึกลับอย่างยิ่ง ด้วยเส้นสายที่อธิบายไม่ได้ปกคลุมอยู่จางๆ มันราวกับมีค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ถูกตราเอาไว้บนนั้น

ในความเป็นจริง เมื่อเทียบกับน้ําในสระ ซูฉินให้ค่ากับตัวสระสายฟ้าเสียมากกว่า ท้ายที่สุด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรจุของเหลวสายฟ้าจํานวนมากไว้ในที่เดียวกันแบบนี้ แม้จะเป็นสมบัติล่าค่าของผู้ทรงพลังถึงขีดสุดก็ตาม

“ในช่วงเวลานี้ หากพอจะมีเวลา ก็สามารถใช้ของเหลวสายฟ้าภายในสระเพื่อฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าได้…”

ซูฉินคิดตัดสินใจ

ช่วงยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว ซูฉินฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าอย่างเต็มที่ อาบร่างกายด้วยสายฟ้าต่างน้ํา หลอมกายาด้วยพลังจากสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัว

อย่างไรก็ตาม ในภายหลังเขายังได้รับกิ่งไม้อสนีบาตภัย และสมบัติธาตุสายฟ้าอื่นๆ อีกมากมาย ทําให้ห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าสามารถยกระดับจนเกินขีดจํากัดไปได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ แม้แต่ซูฉินเองก็ไม่รู้ว่าห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าจะไปถึงระดับใด

สิ่งที่ซูฉินรู้ก็คือแม้แต่สายฟ้าสวรรค์เก้าชั้นฟ้าในตํานานที่มีเพียงเซียนเทพปฐพีขั้นกลับคืนต้นกําเนิดในวิถีสายฟ้าเท่านั้นที่ควบคุมได้ ก็ยังทําร้ายเขาไม่ได้เลย

นี่ไม่ได้หมายความว่าซูฉินนั้นเหนือกว่าขั้นกลับคืนต้นกําเนิดไปมาก แต่ร่างกายของเขาสามารถต้านทานสายฟ้าจํานวนมากได้ ทั้งยังมีภูมิคุ้มกันต่อพลังสายฟ้าอยู่ในระดับหนึ่ง

“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการพัฒนาต่อไปอีกขั้น ก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด”

ซูฉินหันมองกลับมาอย่างกะทันหัน คิดอย่างรวดเร็วภายในใจ

ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่แบ่งออกเป็นสามขั้น แบ่งจิต กลับคืนต้นกําเนิด และสถิตเทพซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย

แม้ว่าช่องว่างระหว่างขั้นจะไม่ได้ห่างไกลกันเหมือนก้าวจากขอบเขตตํานานยุทธขึ้นมาเป็นเซียนเทพปฐพี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะก้าวข้ามไปได้ง่ายๆ

ซูฉินสามารถปราบเหลยเฉียนจอได้ด้วยมือเปล่า นอกเหนือจากไพ่ลับในมือที่แข็งแกร่งแล้ว อีกเหตุผลก็เป็นเพราะซูฉินมีฐานการบ่มเพาะสูงกว่าเหลยเฉียนจือไปมาก

ขณะที่เหลยเฉียนจือบุกเข้าเมืองฉางอันมา เขาเพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี เพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นแบ่งจิต และซูฉินในตอนนั้นอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิตแล้ว โดยที่ไม่ต้องคํานึงถึงความแข็งแกร่ง แค่ความห่างชั้นของฐานการบ่มเพาะก็มากอย่างยิ่ง

“หากต้องการจะเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด สิ่งแรกที่ต้องทําคือรวบรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดให้กลายเป็นหนึ่งเดียว…..”

ความคิดของซูฉินผันผวน

ในตอนที่เขาเดินไปรอบเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ก็ได้เปิดหนังสือโบราณจํานวนมหาศาลซึ่งนิกายเทพเจ้าสายฟ้ารวบรวมเอาไว้มาอ่านดู หนังสือโบราณเหล่านี้หาใช่มีเพียงแค่เคล็ดวิชาต่างๆ ที่สืบทอดต่อมาในนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการฝึกฝนวิทยายุทธที่สืบทอดต่อมาจากยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีด้วย

ในยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟู มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน แม้เซียนเทพปฐพีจะมีพลังอํานาจ แต่พวกเขาก็มีอยู่อย่างมากมาย ทั้งยังมีผู้ทรงพลังถึงขีดสุดซึ่งอยู่ในขอบเขตทลายนภากาศอีก

หนังสือโบราณที่สืบทอดต่อมาตั้งแต่ยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟูนี้ทําให้ซูฉินพึงพอใจอย่างมาก

“กลับคืนต้นกําเนิด กลับคืนต้นกําเนิดคือสิ่งใด?”

“พลังทั้งหมดรวมอยู่ในที่เดียว ทั้งพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิด พลังของปราณเลือด แม้กระทั่งพลังของอาณาเขต…”

ความคิดของซูฉินผันแปรไป จมเข้าไปอยู่ในความคิด

แม้คําพูดจะฟังดูง่าย อย่างการรวมพลังทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวได้ก็สามารถเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด แต่หากต้องการจะทําจริงๆ ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องยาก

พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดและพลังของกายเนื้อเป็นพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การรวมพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน เท่ากับเป็นการรวมน้ําเข้ากับไฟ

แน่นอนว่า การรวมพลังของขั้นกลับคืนต้นกําเนิด จริงๆแล้วไม่ได้เป็นการผสานรวมกัน แต่เป็นการที่พลังต่างๆคอยเสริมส่งซึ่งกันและกัน สร้างพลังใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมขึ้นมา

“คงต้องลองดูก่อน”

ซูฉินค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง พินิจภายในร่าง พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้ามาบรรจบ และในขณะเดียวกันพลังปราณเลือดก็โผล่ขึ้นด้านในร่างกาย

ด้วยการควบคุมของซูฉิน พลังทั้งสองค่อยๆ รวมเข้าด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาขณะที่จิตวิญญาณแรกกําเนิดและปราณเลือดสัมผัสกัน พวกมันก็เริ่มระเหิดอย่างรุนแรง ราวกับน้ําถูกไฟเผาจนเดือด
“ไม่ไหว”

“เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวมจิตวิญญาณแรกกําเนิดกับปราณเลือดเข้าด้วยกัน” หลังจากพยายามหลายต่อหลายครั้ง ซูฉินก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้ว

เหมือนกับที่เขาได้คาดเดาไปในตอนแรก ปราณชีวิตและเลือดเนื้อนั้นแตกต่างจากจิต วิญญาณแรกกําเนิดโดยสิ้นเชิง ซึ่งปกติแล้วต่อให้เป็นพลังที่ตรงข้ามกัน หากอยู่ภายในร่างกายของซูฉินก็เหมือนกับน้ําบ่อไม่ยุ่งกับน้ําคลอง ไม่ควรจะมีอะไรเกิดขึ้น

แต่ตอนนี้ซูฉินต้องการบังคับให้พวกมันเข้ามาอยู่ในที่เดียวกันย่อมเกิดปัญหา แม้ว่าทั้งสองจะมีต้นกําเนิดเดียวกันก็ตาม แต่มันย่อมต่อต้านกันเป็นธรรมดา

หากซูฉินยังคงฝืนบังคับต่อไป ผลคือพลังทั้งสองจะระเหยหายไป และในที่สุดความแข็งแกร่งของซูฉินจะถดถอยลง

“มันต้องมีวิธีอื่น”

เห็นได้ชัดว่าซูฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด กําลังคิดต่อไปอย่างใจเย็น

เนื่องจากมีผู้ฝึกยุทธที่ก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดได้ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด เขาก็ต้องทําได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะละเลยรายละเอียดบางอย่างไป

“หากแค่การรวมพลังของปราณเลือดเข้ากับพลังจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดเป็นเรื่องยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าเราเพิ่มพลังของอาณาเขตเข้าไปล่ะ?”

ดวงตาของซูฉินเป็นประกายระยิบระยับ พลังของอาณาเขตไม่ใช่พลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิด ทั้งยังไม่ใช่พลังจากกายเนื้ออย่างปราณเลือดด้วย มันเป็นพลังอีกประเภทโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะพลังของอาณาเขตขนาดใหญ่มีความสามารถครอบคลุมระยะทางหลายร้อยลี้ ภายในอาณาเขตนี้ซูฉินมีอํานาจเหนือทุกอย่าง เข้าใจพลังภายในโลกหล้าได้อย่างง่ายดาย

“หากพลังของอาณาเขตสามารถประนีประนอมทั้งพลังของปราณเลือดและพลังจากจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ มันก็เท่ากับเป็นการทําให้พลังของทั้งสามกลับคืนสู่จุดแรกกําเนิดได้ในเวลาเดียวกัน……”

ยิ่งซูฉินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้ นอกเหนือจากพลังของอาณาเขตแล้ว ซูฉินก็นึกถึงวิธีการอื่นที่สามารถบังคับให้จิตวิญญาณแรกกําเนิดและปราณเลือดกลับคืนสู่ต้นกําเนิดไม่ออก

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

หนึ่งปีผ่านไปภายในพริบตา

ในหนึ่งปีนี้ซูฉินหมกมุ่นอยู่แต่กับการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่นั้นมีอายุยืนยาวกว่าพันปี และซูฉินนั้นมีอายุขัยถึงสองพันปีซึ่งนี่ยังไม่นับผลท้อป้านที่เก็บเอาไว้อีก หนึ่งปีสําหรับซุฉินจึงไม่ได้มีค่าอะไรเลย เป็นเพียงแค่ช่วงกะพริบตาเท่านั้น

และในขณะที่ซูฉินพยายามทะลวงคอขวด เข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิด

บนยอดเขาคุนหลุน จู่ๆ ก็มีร่างห้าร่างปรากฏขึ้น ร่างทั้งห้านี้เหินลงมาจากฟ้า กลิ่นอายของพวกเขาเชื่อมโยงกับทะเลปราณอันกว้างใหญ่ในส่วนลึกของความว่างเปล่า พวกเขาทั้งห้าคือกลุ่มคนที่ออกมาจากประตูเซียน

“มันคือที่นี่แหละ”

“ข้าได้ใช้วิธีลับจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในการค้นหา และสถานที่ที่วิหารการสงครามปรากฏขึ้นครั้งสุดท้ายก็อยู่ที่นี่”

ในบรรดาคนทั้งห้า เด็กหนุ่มในกลุ่มก็มองผ่านความว่างเปล่า มีความกระตือรือร้นฉายออกมาผ่านสีหน้าของเขา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+