เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร

 

เมื่อบรรพชนเจ็ดได้ยินเช่นนี้ ท่าทีของเขาก็เชื่องช้าลงไปเล็กน้อย มองดูรอยหมัดตื้นๆ บนลูกประคําอย่างพินิจพิเคราะห์ ขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวว่า “หากไม่มีการเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดรอยหมัดนี้ข้าก็เกรงว่ามันจะมาจากพลังกายล้วนๆ”

 

แร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ น่าจะใกล้เคียงกับขอบเขตยอดอรหันต์เต็มทนแล้ว”

 

บรรพชนเจ็ดมองด้วยความประหลาดใจ

 

เมื่อเทียบกับพลังที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้ของจิตวิญญาณแรกกําเนิดการรับมือสี่ งอื่นๆ ด้วยพลังก็ยังพอกระทําได้ เว้นแต่ซูฉินจะมีพละกําลังจากร่างกายที่ไปถึงขอบเขตเชียนเทพปฐพีซึ่งนั้นจะเป็นสิ่งรับมือได้ยากที่สุด

 

“ลูกประคํามีจิตวิญญาณอยู่ มันเป็นเพียงรอยกําปั้นเล็กๆ จะไม่ทําลายแก่นของสมบัติพุทธ คุณสามารถฟื้นตัวได้หลังจากดูดซับพลังสักหลายร้อยปี”

 

บรรพชนหกพูดอย่างช้าๆ ที่ด้านข้าง

 

ในฐานะที่เป็นสมบัติพุทธคุณที่ยอดอรหันต์ทิ้งไว้ มันจึงเข้ากันได้ดีกับวิชาบ่มเพาะภายในวิหารหมื่นพุทธ สามารถใช้ประโยชน์จากพลังของบรรดาผู้ทรงสมณศักดิ์มากมายในวิหารหมื่นพุทธเพิ่มบํารุงหล่อเลี้ยงพวกมันได้อย่างสมบูรณ์

 

“ข้าไม่ได้กังวลเรื่องลูกประคํา”

 

บรรพชนเก้าเก็บลูกประคําไปแล้วส่ายศีรษะ “ข้าเป็นกังวลว่าผู้ทรงสมณศักดิ์วัดเส้าหลินจะใช้เหตุผลนี้ในการมาสร้างปัญหายังวิหารหมื่นพุทธหรือไม่….”

 

“สร้างปัญหาให้กับวิหารหมื่นพุทธของพวกเรา?” บรรพชนหกหัวเราะเบาๆ หลังจากได้ยินคํากล่าวนั้น “เจ้ากังวลเกินไปแล้ว วิหารหมื่นพุทธเป็นตัวตนเช่นไร หากมีคนสามารถมาสร้างปัญหาได้ ที่นี่จะสืบทอดต่อมานับหมื่นปีได้หรือ?”

 

“มิผิด”

 

บรรพชนเจ็ดพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าผ่อนคลายแล้วกล่าวขึ้นว่า “ก่อนที่บรรพชนหกและตัวข้าจะมาที่นี่ได้นําตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณติดมาด้วย”

 

“ ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ?”

 

บรรพชนเก้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

 

ต้นกําเนิดของตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนั้นลึกลับอย่างยิ่ง ว่ากันว่าสร้างขึ้นด้วยความอุตสาหะของยอดอรหันต์

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณทําหน้าที่เดียวเท่านั้น

 

คือป้องกัน

 

เมื่อตะเกียงไฟถูกจุด มันจะปล่อยสิ่งกีดขวางออกมาเพื่อหยุดการโจมตีทั้งหมด

 

หลายพันปีก่อน วิหารหมื่นพุทธเคยใช้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณในการสกัดกั้นการระเบิดพลังของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

แน่นอนว่าหลังจากการระเบิดพลังในครั้งนั้น ไส้ตะเกียงก็ถูกเผาจนไหม้เกรียม และยังไม่นตัวเต็มที่จนถึงทุกวันนี้

 

แต่ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ชื่อของตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณก็ได้ทําให้โลกยุทธภพต่างแดนตกตะถึงตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา

 

“เจ้าจงดู”

 

บรรพชนเจ็ดก็ได้ยกมือขวาขึ้นมา และเห็นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณลอยอยู่เบื้องหน้า

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณค่อยๆ สว่างขึ้น ไส้ตะเกียงลุกไหม้ ปล่อยไอพลังอุ่นๆออกมา

 

“ด้วยตะเกียงนี้ ไม่ต้องกังวลว่าผู้ทรงสมณศักดิ์จะมา ถ้าเขากล้ามาจริงๆ ก็คงต้องปล่อยให้เขาเหน็ดเหนื่อยทรมานแล้ว”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบรรพชนหกแล้วกล่าวคําออกมาแผ่วเบา

 

ด้วยตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณที่คอยรักษาสถานที่แห่งนี้ ทั้งยังมีอรหันต์ขั้นสูงสุดเช่นพวกเขาสามคนพวกเขาก็ไม่เคยคิดถึงเหตุไม่คาดฝันใดๆ อีก

 

“ ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณข้าสบายใจขึ้นแล้ว…” บรรพชนเก้าพยักหน้า

 

แม้ว่าเขาจะเห็นความแข็งแกร่งของซูฉินด้วยตนเอง เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจาะทะลวงตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้ได้

 

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” บรรพชนหกมองไปทางบรรพชนเก้าแล้วกล่าวอย่างช้าๆ “ข้าอยู่ยั้งยีนยงในวิหารหมื่นพุทธมานับพันปี คลื่นลมแรงระดับไหนที่มิเคยสัมผัส? อดีตศัตรูต่างก็สิ้นอายุขัยไปจนหมดหลังจากตายก็มลายสิ้น”

 

“มีแต่วิหารหมื่นพุทธของเราเท่านั้นที่ยังคงอยู่ เจริญรุ่งเรืองจากรุ่นสู่รุ่น”

 

“ถึงแม้ว่าผู้ทรงสมณศักดิ์วัดเส้าหลินจะทรงพลังอํานาจเหนือโลกหล้า แต่จะเปรียบเทียบกับความรุ่งโรจน์ของวิหารหมื่นพุทธของพวกเราได้อย่างไร?”

 

แม้ว่าเสียงของบรรพชนหกจะเบา แต่ก็ยังดังก้องอยู่ภายในหูของบรรพชนเก้าและบรรพชนเจ็ด

 

“ถ้ามีโอกาส ข้าก็อยากให้ผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินได้มาสัมผัสพลังของวิหารหมื่นพุทธเป็นการส่วนตัว…”

 

ก่อนที่บรรพชนหกจะพูดจบ ทั้งตัวเขา บรรพชนเจ็ด บรรพชนเก้า ตลอดจนศิษย์สาวกคนอื่นๆ ที่ประจําการอยู่ภายในวิหารหมื่นพุทธก็รู้สึกสั่นสะท้าน กระวนกระวายใจ

 

บรรพชนหกได้หายตัวไปและปรากฏตัวอีกทีด้านนอกวิหารหมื่นพุทธ ตามมาด้วยบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้า ต่างก็เงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน

 

บูม!

 

บูม!

 

บูม!

 

ราวกับอุกกาบาตตกลงมา แผ่นดินสะเทือน เสมือนมีพายุขนาดยักษ์พุ่งเข้ามาทําลายพื้นดินให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

บรรพชนหกดูเคร่งขรึม จับตามองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอย่างใกล้ชิด

 

เห็นทะเลทรายตะวันตกที่เมื่อก่อนเคยมีทรายสีเหลืองทองอยู่เต็มท้องฟ้า บัดนี้กลับแจ่มใสเกิดระลอกคลื่นท่ามกลางทรายสีเหลืองอันไร้ที่สิ้นสุด กระจายออกเป็นวงเปิดช่องทางสู่โลกภายนอก

 

ทรายสีเหลืองกระจายออกไปจากระยะร้อยลี้ ปกคลุมท้องฟ้าและดวงตะวัน

 

“นั่นคือ?”

 

บรรพชนเก้าดูเคร่งขรึม จ้องมองไกลออกไป

 

เห็นสุดปลายทางอุโมงค์ที่ประกอบไปด้วยทรายสีเหลือง มีชายร่างสูงเพรียวกําลังสูดลมหายใจเข้าไป

 

ทุกย่างก้าวของเขาได้ก้าวข้ามผ่านระยะกว่าร้อยลี้

 

เพียงครู่เดียวก็มาหยุดอยู่หน้าวิหารหมื่นพุทธด้วยสายตาลึกล้ํา มองดูผู้คนในวิหารหมื่นพุทธแล้วจึงกล่าวคําเบาๆ

 

“ภิกษุเฉินกวนผู้ต่ําต้อย มาสักการะวิหาร!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร

 

เมื่อบรรพชนเจ็ดได้ยินเช่นนี้ ท่าทีของเขาก็เชื่องช้าลงไปเล็กน้อย มองดูรอยหมัดตื้นๆ บนลูกประคําอย่างพินิจพิเคราะห์ ขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวว่า “หากไม่มีการเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดรอยหมัดนี้ข้าก็เกรงว่ามันจะมาจากพลังกายล้วนๆ”

 

แร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ น่าจะใกล้เคียงกับขอบเขตยอดอรหันต์เต็มทนแล้ว”

 

บรรพชนเจ็ดมองด้วยความประหลาดใจ

 

เมื่อเทียบกับพลังที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้ของจิตวิญญาณแรกกําเนิดการรับมือสี่ งอื่นๆ ด้วยพลังก็ยังพอกระทําได้ เว้นแต่ซูฉินจะมีพละกําลังจากร่างกายที่ไปถึงขอบเขตเชียนเทพปฐพีซึ่งนั้นจะเป็นสิ่งรับมือได้ยากที่สุด

 

“ลูกประคํามีจิตวิญญาณอยู่ มันเป็นเพียงรอยกําปั้นเล็กๆ จะไม่ทําลายแก่นของสมบัติพุทธ คุณสามารถฟื้นตัวได้หลังจากดูดซับพลังสักหลายร้อยปี”

 

บรรพชนหกพูดอย่างช้าๆ ที่ด้านข้าง

 

ในฐานะที่เป็นสมบัติพุทธคุณที่ยอดอรหันต์ทิ้งไว้ มันจึงเข้ากันได้ดีกับวิชาบ่มเพาะภายในวิหารหมื่นพุทธ สามารถใช้ประโยชน์จากพลังของบรรดาผู้ทรงสมณศักดิ์มากมายในวิหารหมื่นพุทธเพิ่มบํารุงหล่อเลี้ยงพวกมันได้อย่างสมบูรณ์

 

“ข้าไม่ได้กังวลเรื่องลูกประคํา”

 

บรรพชนเก้าเก็บลูกประคําไปแล้วส่ายศีรษะ “ข้าเป็นกังวลว่าผู้ทรงสมณศักดิ์วัดเส้าหลินจะใช้เหตุผลนี้ในการมาสร้างปัญหายังวิหารหมื่นพุทธหรือไม่….”

 

“สร้างปัญหาให้กับวิหารหมื่นพุทธของพวกเรา?” บรรพชนหกหัวเราะเบาๆ หลังจากได้ยินคํากล่าวนั้น “เจ้ากังวลเกินไปแล้ว วิหารหมื่นพุทธเป็นตัวตนเช่นไร หากมีคนสามารถมาสร้างปัญหาได้ ที่นี่จะสืบทอดต่อมานับหมื่นปีได้หรือ?”

 

“มิผิด”

 

บรรพชนเจ็ดพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าผ่อนคลายแล้วกล่าวขึ้นว่า “ก่อนที่บรรพชนหกและตัวข้าจะมาที่นี่ได้นําตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณติดมาด้วย”

 

“ ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ?”

 

บรรพชนเก้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

 

ต้นกําเนิดของตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนั้นลึกลับอย่างยิ่ง ว่ากันว่าสร้างขึ้นด้วยความอุตสาหะของยอดอรหันต์

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณทําหน้าที่เดียวเท่านั้น

 

คือป้องกัน

 

เมื่อตะเกียงไฟถูกจุด มันจะปล่อยสิ่งกีดขวางออกมาเพื่อหยุดการโจมตีทั้งหมด

 

หลายพันปีก่อน วิหารหมื่นพุทธเคยใช้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณในการสกัดกั้นการระเบิดพลังของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

แน่นอนว่าหลังจากการระเบิดพลังในครั้งนั้น ไส้ตะเกียงก็ถูกเผาจนไหม้เกรียม และยังไม่นตัวเต็มที่จนถึงทุกวันนี้

 

แต่ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ชื่อของตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณก็ได้ทําให้โลกยุทธภพต่างแดนตกตะถึงตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา

 

“เจ้าจงดู”

 

บรรพชนเจ็ดก็ได้ยกมือขวาขึ้นมา และเห็นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณลอยอยู่เบื้องหน้า

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณค่อยๆ สว่างขึ้น ไส้ตะเกียงลุกไหม้ ปล่อยไอพลังอุ่นๆออกมา

 

“ด้วยตะเกียงนี้ ไม่ต้องกังวลว่าผู้ทรงสมณศักดิ์จะมา ถ้าเขากล้ามาจริงๆ ก็คงต้องปล่อยให้เขาเหน็ดเหนื่อยทรมานแล้ว”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบรรพชนหกแล้วกล่าวคําออกมาแผ่วเบา

 

ด้วยตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณที่คอยรักษาสถานที่แห่งนี้ ทั้งยังมีอรหันต์ขั้นสูงสุดเช่นพวกเขาสามคนพวกเขาก็ไม่เคยคิดถึงเหตุไม่คาดฝันใดๆ อีก

 

“ ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณข้าสบายใจขึ้นแล้ว…” บรรพชนเก้าพยักหน้า

 

แม้ว่าเขาจะเห็นความแข็งแกร่งของซูฉินด้วยตนเอง เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจาะทะลวงตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้ได้

 

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” บรรพชนหกมองไปทางบรรพชนเก้าแล้วกล่าวอย่างช้าๆ “ข้าอยู่ยั้งยีนยงในวิหารหมื่นพุทธมานับพันปี คลื่นลมแรงระดับไหนที่มิเคยสัมผัส? อดีตศัตรูต่างก็สิ้นอายุขัยไปจนหมดหลังจากตายก็มลายสิ้น”

 

“มีแต่วิหารหมื่นพุทธของเราเท่านั้นที่ยังคงอยู่ เจริญรุ่งเรืองจากรุ่นสู่รุ่น”

 

“ถึงแม้ว่าผู้ทรงสมณศักดิ์วัดเส้าหลินจะทรงพลังอํานาจเหนือโลกหล้า แต่จะเปรียบเทียบกับความรุ่งโรจน์ของวิหารหมื่นพุทธของพวกเราได้อย่างไร?”

 

แม้ว่าเสียงของบรรพชนหกจะเบา แต่ก็ยังดังก้องอยู่ภายในหูของบรรพชนเก้าและบรรพชนเจ็ด

 

“ถ้ามีโอกาส ข้าก็อยากให้ผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินได้มาสัมผัสพลังของวิหารหมื่นพุทธเป็นการส่วนตัว…”

 

ก่อนที่บรรพชนหกจะพูดจบ ทั้งตัวเขา บรรพชนเจ็ด บรรพชนเก้า ตลอดจนศิษย์สาวกคนอื่นๆ ที่ประจําการอยู่ภายในวิหารหมื่นพุทธก็รู้สึกสั่นสะท้าน กระวนกระวายใจ

 

บรรพชนหกได้หายตัวไปและปรากฏตัวอีกทีด้านนอกวิหารหมื่นพุทธ ตามมาด้วยบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้า ต่างก็เงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน

 

บูม!

 

บูม!

 

บูม!

 

ราวกับอุกกาบาตตกลงมา แผ่นดินสะเทือน เสมือนมีพายุขนาดยักษ์พุ่งเข้ามาทําลายพื้นดินให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

บรรพชนหกดูเคร่งขรึม จับตามองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอย่างใกล้ชิด

 

เห็นทะเลทรายตะวันตกที่เมื่อก่อนเคยมีทรายสีเหลืองทองอยู่เต็มท้องฟ้า บัดนี้กลับแจ่มใสเกิดระลอกคลื่นท่ามกลางทรายสีเหลืองอันไร้ที่สิ้นสุด กระจายออกเป็นวงเปิดช่องทางสู่โลกภายนอก

 

ทรายสีเหลืองกระจายออกไปจากระยะร้อยลี้ ปกคลุมท้องฟ้าและดวงตะวัน

 

“นั่นคือ?”

 

บรรพชนเก้าดูเคร่งขรึม จ้องมองไกลออกไป

 

เห็นสุดปลายทางอุโมงค์ที่ประกอบไปด้วยทรายสีเหลือง มีชายร่างสูงเพรียวกําลังสูดลมหายใจเข้าไป

 

ทุกย่างก้าวของเขาได้ก้าวข้ามผ่านระยะกว่าร้อยลี้

 

เพียงครู่เดียวก็มาหยุดอยู่หน้าวิหารหมื่นพุทธด้วยสายตาลึกล้ํา มองดูผู้คนในวิหารหมื่นพุทธแล้วจึงกล่าวคําเบาๆ

 

“ภิกษุเฉินกวนผู้ต่ําต้อย มาสักการะวิหาร!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 261 (II) เงินกวนพระผู้ต่ําต้อย มานมัสการวิหาร

 

เมื่อบรรพชนเจ็ดได้ยินเช่นนี้ ท่าทีของเขาก็เชื่องช้าลงไปเล็กน้อย มองดูรอยหมัดตื้นๆ บนลูกประคําอย่างพินิจพิเคราะห์ ขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวว่า “หากไม่มีการเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดรอยหมัดนี้ข้าก็เกรงว่ามันจะมาจากพลังกายล้วนๆ”

 

แร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ น่าจะใกล้เคียงกับขอบเขตยอดอรหันต์เต็มทนแล้ว”

 

บรรพชนเจ็ดมองด้วยความประหลาดใจ

 

เมื่อเทียบกับพลังที่แปลกประหลาดและคาดเดาไม่ได้ของจิตวิญญาณแรกกําเนิดการรับมือสี่ งอื่นๆ ด้วยพลังก็ยังพอกระทําได้ เว้นแต่ซูฉินจะมีพละกําลังจากร่างกายที่ไปถึงขอบเขตเชียนเทพปฐพีซึ่งนั้นจะเป็นสิ่งรับมือได้ยากที่สุด

 

“ลูกประคํามีจิตวิญญาณอยู่ มันเป็นเพียงรอยกําปั้นเล็กๆ จะไม่ทําลายแก่นของสมบัติพุทธ คุณสามารถฟื้นตัวได้หลังจากดูดซับพลังสักหลายร้อยปี”

 

บรรพชนหกพูดอย่างช้าๆ ที่ด้านข้าง

 

ในฐานะที่เป็นสมบัติพุทธคุณที่ยอดอรหันต์ทิ้งไว้ มันจึงเข้ากันได้ดีกับวิชาบ่มเพาะภายในวิหารหมื่นพุทธ สามารถใช้ประโยชน์จากพลังของบรรดาผู้ทรงสมณศักดิ์มากมายในวิหารหมื่นพุทธเพิ่มบํารุงหล่อเลี้ยงพวกมันได้อย่างสมบูรณ์

 

“ข้าไม่ได้กังวลเรื่องลูกประคํา”

 

บรรพชนเก้าเก็บลูกประคําไปแล้วส่ายศีรษะ “ข้าเป็นกังวลว่าผู้ทรงสมณศักดิ์วัดเส้าหลินจะใช้เหตุผลนี้ในการมาสร้างปัญหายังวิหารหมื่นพุทธหรือไม่….”

 

“สร้างปัญหาให้กับวิหารหมื่นพุทธของพวกเรา?” บรรพชนหกหัวเราะเบาๆ หลังจากได้ยินคํากล่าวนั้น “เจ้ากังวลเกินไปแล้ว วิหารหมื่นพุทธเป็นตัวตนเช่นไร หากมีคนสามารถมาสร้างปัญหาได้ ที่นี่จะสืบทอดต่อมานับหมื่นปีได้หรือ?”

 

“มิผิด”

 

บรรพชนเจ็ดพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าผ่อนคลายแล้วกล่าวขึ้นว่า “ก่อนที่บรรพชนหกและตัวข้าจะมาที่นี่ได้นําตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณติดมาด้วย”

 

“ ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณ?”

 

บรรพชนเก้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

 

ต้นกําเนิดของตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนั้นลึกลับอย่างยิ่ง ว่ากันว่าสร้างขึ้นด้วยความอุตสาหะของยอดอรหันต์

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณทําหน้าที่เดียวเท่านั้น

 

คือป้องกัน

 

เมื่อตะเกียงไฟถูกจุด มันจะปล่อยสิ่งกีดขวางออกมาเพื่อหยุดการโจมตีทั้งหมด

 

หลายพันปีก่อน วิหารหมื่นพุทธเคยใช้ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณในการสกัดกั้นการระเบิดพลังของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

แน่นอนว่าหลังจากการระเบิดพลังในครั้งนั้น ไส้ตะเกียงก็ถูกเผาจนไหม้เกรียม และยังไม่นตัวเต็มที่จนถึงทุกวันนี้

 

แต่ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ชื่อของตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณก็ได้ทําให้โลกยุทธภพต่างแดนตกตะถึงตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา

 

“เจ้าจงดู”

 

บรรพชนเจ็ดก็ได้ยกมือขวาขึ้นมา และเห็นตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณลอยอยู่เบื้องหน้า

 

ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณค่อยๆ สว่างขึ้น ไส้ตะเกียงลุกไหม้ ปล่อยไอพลังอุ่นๆออกมา

 

“ด้วยตะเกียงนี้ ไม่ต้องกังวลว่าผู้ทรงสมณศักดิ์จะมา ถ้าเขากล้ามาจริงๆ ก็คงต้องปล่อยให้เขาเหน็ดเหนื่อยทรมานแล้ว”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบรรพชนหกแล้วกล่าวคําออกมาแผ่วเบา

 

ด้วยตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณที่คอยรักษาสถานที่แห่งนี้ ทั้งยังมีอรหันต์ขั้นสูงสุดเช่นพวกเขาสามคนพวกเขาก็ไม่เคยคิดถึงเหตุไม่คาดฝันใดๆ อีก

 

“ ตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณข้าสบายใจขึ้นแล้ว…” บรรพชนเก้าพยักหน้า

 

แม้ว่าเขาจะเห็นความแข็งแกร่งของซูฉินด้วยตนเอง เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเจาะทะลวงตะเกียงพุทธหมื่นวิญญาณนี้ได้

 

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” บรรพชนหกมองไปทางบรรพชนเก้าแล้วกล่าวอย่างช้าๆ “ข้าอยู่ยั้งยีนยงในวิหารหมื่นพุทธมานับพันปี คลื่นลมแรงระดับไหนที่มิเคยสัมผัส? อดีตศัตรูต่างก็สิ้นอายุขัยไปจนหมดหลังจากตายก็มลายสิ้น”

 

“มีแต่วิหารหมื่นพุทธของเราเท่านั้นที่ยังคงอยู่ เจริญรุ่งเรืองจากรุ่นสู่รุ่น”

 

“ถึงแม้ว่าผู้ทรงสมณศักดิ์วัดเส้าหลินจะทรงพลังอํานาจเหนือโลกหล้า แต่จะเปรียบเทียบกับความรุ่งโรจน์ของวิหารหมื่นพุทธของพวกเราได้อย่างไร?”

 

แม้ว่าเสียงของบรรพชนหกจะเบา แต่ก็ยังดังก้องอยู่ภายในหูของบรรพชนเก้าและบรรพชนเจ็ด

 

“ถ้ามีโอกาส ข้าก็อยากให้ผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินได้มาสัมผัสพลังของวิหารหมื่นพุทธเป็นการส่วนตัว…”

 

ก่อนที่บรรพชนหกจะพูดจบ ทั้งตัวเขา บรรพชนเจ็ด บรรพชนเก้า ตลอดจนศิษย์สาวกคนอื่นๆ ที่ประจําการอยู่ภายในวิหารหมื่นพุทธก็รู้สึกสั่นสะท้าน กระวนกระวายใจ

 

บรรพชนหกได้หายตัวไปและปรากฏตัวอีกทีด้านนอกวิหารหมื่นพุทธ ตามมาด้วยบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้า ต่างก็เงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน

 

บูม!

 

บูม!

 

บูม!

 

ราวกับอุกกาบาตตกลงมา แผ่นดินสะเทือน เสมือนมีพายุขนาดยักษ์พุ่งเข้ามาทําลายพื้นดินให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

บรรพชนหกดูเคร่งขรึม จับตามองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอย่างใกล้ชิด

 

เห็นทะเลทรายตะวันตกที่เมื่อก่อนเคยมีทรายสีเหลืองทองอยู่เต็มท้องฟ้า บัดนี้กลับแจ่มใสเกิดระลอกคลื่นท่ามกลางทรายสีเหลืองอันไร้ที่สิ้นสุด กระจายออกเป็นวงเปิดช่องทางสู่โลกภายนอก

 

ทรายสีเหลืองกระจายออกไปจากระยะร้อยลี้ ปกคลุมท้องฟ้าและดวงตะวัน

 

“นั่นคือ?”

 

บรรพชนเก้าดูเคร่งขรึม จ้องมองไกลออกไป

 

เห็นสุดปลายทางอุโมงค์ที่ประกอบไปด้วยทรายสีเหลือง มีชายร่างสูงเพรียวกําลังสูดลมหายใจเข้าไป

 

ทุกย่างก้าวของเขาได้ก้าวข้ามผ่านระยะกว่าร้อยลี้

 

เพียงครู่เดียวก็มาหยุดอยู่หน้าวิหารหมื่นพุทธด้วยสายตาลึกล้ํา มองดูผู้คนในวิหารหมื่นพุทธแล้วจึงกล่าวคําเบาๆ

 

“ภิกษุเฉินกวนผู้ต่ําต้อย มาสักการะวิหาร!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+