เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 307 ขีดจํากัด

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 307 ขีดจํากัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 307 ขีดจํากัด

“หากต้องการทะลวงขอบเขตเข้าสู่เซียนเทพปฐพี จะต้องใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดผสานเขากับทะเลปราณในส่วนลึกของความว่างเปล่า จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงพลังปราณฉีจากทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกาย…”
ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา

ในตอนนี้โซ่ตรวนและคอขวดในการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่มันอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด ไม่ต่างไปจากการดูเส้นลายมือของตนเอง
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ยากที่สุดสําหรับการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีของคนอื่นๆ คือการนําจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าไปยังส่วนลึกของความว่างเปล่า จับตําแหน่งของทะเลปราณ และรวมเข้ากับมันให้สําเร็จ แต่สําหรับซูฉินมันแทบจะไม่มีขั้นตอนนี้อยู่ด้วยซ้ํา

ท้ายที่สุด ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําซึ่งเป็นที่รักของพลังงานธาตุไฟ สามารถสัมผัสตําแหน่งของทะเลปราณได้อย่างเป็นธรรมชาติ เทียบได้กับการที่ซูฉินถือแหล่งกําเนิดธาตุไฟขนาดพกพาติดตัวเอาไว้ ด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําที่สามารถตอบสนองต่อทะเลปราณ ยกเว้นไว้แต่ซูฉินจะไม่ได้ตั้งใจหา การชักนําจิตวิญญาณแรกกําเนิดไปยังทะเลปราณก็ง่ายเพียงแค่คิด

“ตามบันทึกจากพรรคหมื่นดาบ ในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพี การรวมจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าสู่ทะเลปราณนับเป็นขั้นตอนสําคัญ แต่จริงๆแล้วขั้นตอนการนําจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าสู่ทะเลปราณ และขั้นตอนที่ใช้ทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกายนั้นมีความสําคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน”

ดวงตาของซูฉินหลบต่ํา ครุ่นคิดอยู่ภายในใจอย่างรวดเร็ว

ในฐานะที่พรรคหมื่นดาบสืบทอดต่อมาจากเซียนเทพปฐพี แน่นอนว่ามีบันทึกเกี่ยวกับการทะลวงขั้นเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีอยู่ และหลังจากที่ซูฉินทําลายพรรคหมื่นดาบ เขาก็ได้ปกคลุมทั่วทั้งพรรคหมื่นดาบด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นตอนที่เขาแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดสําเร็จ ก็ปกคลุมทุกที่บนเกาะด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิดอีกครั้ง เปิดดูหนังสือโบราณของพรรคหมื่นดาบที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
ซึ่งรวมไปถึงบันทึกเหล่านี้ด้วย

“การใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดผสานเข้ากับทะเลปราณ หยิบยืมทะเลปราณมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณแรกกําเนิด จากนั้นจึงดึงทะเลปราณเข้ามาเติมเต็มร่างกาย กระบวนการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน จําเป็นต้องดําเนินการอย่างช้าๆ”

“นักพรตหมั่นดาบใช้เวลาเป็นสิบปี ในการใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดดึงพลังจากทะเลปราณเข้าสู่ร่างกาย ในที่สุดก็เข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี…”

ซูฉินคิดกับตนเอง

พลังของทะเลปราณยิ่งใหญ่เพียงใด? มันคือสัญลักษณ์ของพลังฟ้าดินของทั้งโลก แม้ว่าร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินจะเหนือกว่าร่างกายธรรมดา แต่หากไม่ระวังก็อาจถูกพลังของทะเลปราณระเบิดร่างได้
ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการดึงพลังจากทะเลปราณอย่างมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้แม้การทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี่จะล้มเหลว

แน่นอนว่าตํานานยุทธขั้นสูงสุดส่วนใหญ่ไม่สา มารถดึงพลังจากทะเลปราณมาขัดเกลาเนื้อหนังได้ เมื่อยามที่พวกเขาค้นหาทะเลปราณ จิตวิญญาณแรกกําเนิดของพวกเขาก็อาจจะสูญหายไปในส่วนลึกของความว่างเปล่าตั้งแต่แรกแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ด้วยความเร็วที่ร่างศักดิ์สิทธิ์ อีกาทองคําสามารถใช้ดูดซับพลังงานได้ มันจะใช้เวลาน้อยกว่าสิบปี ถ้าช้าหน่อยก็อาจจะเป็นปี ถ้าเร็วกว่านั้นก็อาจจะสําเร็จในไม่กี่เดือน….”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

นักพรตหมื่นดาบใช้เวลาสิบปีในการดึงพลัง จากทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกาย เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไปและพลังที่ดูดซับได้ก็มีจํากัด แต่ความสามารถดูดซับพลังงานของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินในหนึ่งวัน เท่ากับสิ่งที่นักพรตหมั่นดาบทําได้ในเวลาหนึ่งหรือสองเดือน

อิงจากความแข็งแกร่งของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา หลังจากสื่อสารกับทะเลปราณ พลังงานที่จําเป็นต้องใช้เองก็ย่อมต้องมากกว่าที่นักพรตหมื่นดาบต้องใช้ ไม่เช่นนั้นหากจํานวนพลังงานที่ต้องใช้นั้นเท่ากัน ซูฉินอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่ก็หลายสิบวันในการก้าวจากตํานานยุทธขั้นสูงสุดไปเป็นเซียนเทพปฐพี

“แต่ถึงแม้เวลาในการพัฒนาจะสั้น แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์แล้วนั้น แทบจะทิ้งห่างกันไม่เห็น

ฝุ่น”

ซูฉินแลดูเคร่งขรึม

ในช่วงการทะลวงขั้น จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินจะต้องรวมเข้ากับทะเลปราณและไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกได้ ในขณะที่ร่างกายต้องทนต่อการขัดเกลาของทะเลปราณอยู่ตลอดเวลา ก็ทําให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้เช่นกัน

และในช่วงเวลานั้น หากเลือกยอมแพ้ จิตวิญญาณแรกกําเนิดจะกลับคืนสู่ร่างกาย ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการทะลวงขั้นเท่านั้น แต่ยังต้องปะทะเข้ากับฟันเฟืองภายในทะเลปราณทั้งหลายอีกด้วย

ความสูญเสียนี้ แม้แต่ซูฉินก็ยังต้องขนลุกซู่ แม้ว่าจะมี ‘ลูกท้อป้าน” ผลไม้เซียนที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดได้ แต่ซูฉินก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะมีเวลากลืนลูกท้อป้านเมื่ออยู่ต่อหน้าฟันเฟืองภายในทะเลปราณหรือไม่

ดังนั้น สําหรับซูฉิน เมื่อเขาเลือกที่จะทะลวงขั้น หมายความว่าเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้อย่างน้อยสองสามเดือน หรืออาจจะเป็นปี
“มาดูกันว่าจิตวิญญาณแรกกําเนิดของข้าจะหลอมรวมเข้ากับทะเลปราณได้ลึกแค่ไหน” ซูฉินหลับตาลงช้าๆ

หวิ่ง!

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินพุ่งออกจากช่องว่างระหว่างคิ้ว เดินออกมาที่โถงพระราชวังสีดํา จากนั้นจึงก้าวเข้าไปผสานกับความว่างเปล่า
ในส่วนลึกของความว่างเปล่านั้นเวิ้งว้างไร้ขอบเขต

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินเดินเข้าไปในความว่างเปล่าอย่างไม่เร่งร้อน

ด้วยการนําทางของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา พลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินก็ได้เข้าไปในส่วนลึกของความว่างเปล่า จับตําแหน่งของทะเลปราณได้มั่น พุ่งตรงไปยังทิศทางที่แน่นอนโดยไม่มีความลังเลใดๆ
ไม่มีตัวกําหนดทิศทางในส่วนลึกของความว่างเปล่า มีความปั่นป่วนที่น่ากลัวของกระแสมิติอยู่ทั่วทุกหนแห่ง แต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินนั้นแข็งแกร่งเพียงใด? เว้นแต่จะเจอเข้ากับพายุภายในความว่างเปล่าซึ่งหาได้ยากยิ่ง ความปั่นป่วนธรรมดาๆ นี้ไม่สามารถทําอะไรซูฉินได้เลย

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

แต่ดูยาวนานราวกับหลายร้อยปีได้ผ่านพ้น

ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินก็ถูกบีบให้เข้าสู่โลกที่มีสีสัน

โลกนี้เต็มไปด้วยพลังงานฟ้าดินอันไร้ที่สิ้นสุด มีทั้งพลังงานจากธาตุทองคํา ไม้ น้ํา ไฟ ดิน หยิน หยาง และสายฟ้า…..

“นี่คือทะเลปราณงั้นรึ?”

ซูฉินตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะคาดการณ์สิ่งที่จะได้เห็นไว้อยู่นานแล้ว แต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้

ทะเลปราณนั้นช่างกว้างใหญ่ พลังฟ้าดินก็มีอยู่อย่างไร้ที่สิ้นสุด กระจายไปทั่วทุกที่ และซูฉินยังรู้สึกว่ามีคุณลักษณะบางอย่างของพลังงานฟ้าดินที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ล่องลอยอยู่ห่างไกลออกไปภายในทะเลปราณ

“สิ่งมีชีวิตปราณฉี!”

รูม่านตาของซูฉินหดตัวเล็กลงเล็กน้อย
สิ่งมีชีวิตปราณฉีเป็นการรวมตัวกันของพลังฟ้าดินที่ไร้ที่สิ้นสุด หลังจากผ่านเวลายาวนานไม่รู้จบ จะมีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่จะให้กําเนิดสิ่งมีชีวิตปราณฉีขึ้นมา

สิ่งมีชีวิตปราณฉีเกิดมาในธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานฟ้าดิน แม้ว่ามันจะด้อยกว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อย่างอีกาทองคําสามขา แค่ก็แข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆมาก อย่างน้อยๆ ตอนนี้แม้จะเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินที่เต็มไปด้วยพลังงานธาตุไฟก็ไม่ได้ดีเท่ากับสิ่งมีชีวิตปราณฉี

ท้ายที่สุด ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําก็เป็นเพียงร่างกายที่สร้างขึ้นจากความสําเร็จระดับเล็กของภาพดวงตะวันขนาดมหึมาเท่านั้น ย่อมไม่อาจนํามาเทียบกับสิ่งมีชีวิตปราณฉีที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีพลังฟ้าดินอันไร้ที่สิ้นสุด

แน่นอนว่าหากซูฉินสําเร็จภาพดวงตะวันฯ ชั้นยอด มันจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที

หลังจากฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาจนสําเร็จเสร็จสิ้น จะสามารถแปลงเป็นอีกาทองคําสามขาได้ แม้ความแข็งแกร่งของซูฉินจะอยู่ในระดับของอีกาทองคําสามขาวัยเยาว์เท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตปราณฉี ก็ไม่รู้ว่ามันเหนือกว่าเท่าไหร่

“นี่เป็นเพียงชั้นพื้นผิวของทะเลปราณเท่านั้น หากเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ที่ค้นพบทะเลปราณ พวกเขาคงเลือกหยุดอยู่ตรงนี้”

ดวงตาของซูฉินกวาดไปทั่วทะเลปราณอันกว้างใหญ่

“แต่ข้าแตกต่างออกไป”

ซูฉินหัวเราะ ก้าวเท้าไปข้างหน้า และเริ่มต้นเข้าสู่ส่วนลึกของทะเลปราณ

ขณะที่ซูฉินกําลังเริ่มสํารวจทะเลปราณด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิด
เรื่องราวการต่อสู้ระหว่างซูฉินและครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ในยุทธภพต่างแดน นิกายใหญ่นั้นครองพิภพมาเนิ่นนานมั่นคง ก้มมองสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จากบนฟ้า แต่ทั่วทั้งดินแดนโพ้นทะเลไม่ได้มีเพียงนิกายใหญ่เท่านั้น มีจอมยุทธจํานวนนับไม่ถ้วนและนิกายอื่นๆ อีกมากมายอยู่ด้วย
ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อเมื่อได้ยินว่าครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดของนิกายใหญ่ร่วมมือกัน แต่ก็ยังตกตายภายใต้ฝีมือของซูฉิน

“ตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ?”

“เป็นไปได้อย่างไร?! หรือตํานานยุทธอาณาจักรถึงจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วจริงๆ ?”

“มิผิด ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ถึงเจ็ดคนร่วมมือกัน ยกเว้นก็แต่เซียนเทพปฐพี ใครเล่าจะต้านทานไหว?”

ผู้ฝึกยุทธจํานวนมากต่างไม่เชื่อข่าวนี้เพราะมันไร้สาระอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด การตกตายของครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพี ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้กลับตกตายไปเจ็ดคนติดต่อกัน? ทั้งยังตายด้วยฝีมือของคนคนเดียวกันอีก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ข่าวลือเรื่องนี้ก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยามที่ข่าวลือน่าเหลือเชื่อนี้แพร่กระจายไปทั่ว แต่นิกายใหญ่ทั้งหลายกลับเงียบนิ่ง การกระทําเช่นนี้เท่ากับเป็นคํายืนยัน

ไม่เช่นนั้น ด้วยความเย่อหยิ่งของนิกายใหญ่จะอยู่เฉยได้อย่างไรเมื่อมีข่าวลือเรื่องการตายของบรรพชนครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี? ไม่มีแม้แต่จะออกมาพูดอะไร?

ในทันที

จอมยุทธไร้สังกัดในโลกยุทธภพต่างแดนต่างก็ตื่นเต้น

นิกายใหญ่ทั้งหลายในต่างแดนล้วนอยู่บนจุดสูงสุด ผูกขาดทรัพยากรบ่มเพาะส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่าจอมยุทธไร้สังกัดได้รับความเดือดร้อนจากนิกายใหญ่มาแล้วกี่คนต่อกี่คน ยามที่พวกเขาได้เห็นนิกายใหญ่เหล่านี้ตกจากจุดสูงสุดลงสู่โลกมนุษย์ จะมีความเห็นอกเห็นใจเกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ตํานานยุทธอาณาจักรถังน่ากลัวเกินไปแล้ว เกรงว่าคงจะมีแต่เหลยเฉียนคือเมื่อสามร้อยปีก่อนเท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงได้……”

ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ห้าถอนหายใจออกมา

ทันทีที่คํากล่าวนั้นถูกพูดออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เหลยเฉียนจือเป็นศิษย์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในช่วงหลายพันปีมานี้ เป็นที่รู้กันว่าเขาน่าจะเป็นตัวตนที่มีโอกาสเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี

ว่ากันว่าถึงกับเกิดทะเลสายฟ้าในยามที่เหลยเฉียนจือเกิดขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะมีอาวุโสนิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้ผ่านไปบริเวณนั้นทันเวลา เกรงว่าเหลยเฉียนลือคงกลายเป็นฝุ่นธุลีภายในทะเลสายฟ้าไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าด้วยเหตุนี้เอง

เหลยเฉียนลือจึงมีการรับรู้ในวิถีสายฟ้าดีกว่าคนทั่วไป

หลังจากกราบเข้านิกายเทพเจ้าสายฟ้า อาศัยทรัพยากรบ่มเพาะที่จัดหามาให้โดยนิกายเทพเจ้าสายฟ้าโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย เขาก็ได้เข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดภายในเวลาที่น้อยกว่าสามร้อยปี และยังควบแน่นอาณาเขตรวมถึงแปลงจิตวิญญาณได้สําเร็จ มีแม้กระทั่งเรื่องราวที่เขาเคยจัดการกับครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี

อย่างไรก็ตาม

น่าเสียดายยิ่ง

เหลยเฉียนจือซึ่งแต่เดิมได้รับยกย่องว่าเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า กลับหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อสามร้อยปีก่อน และไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย

“เหลยเฉียนจือ?”

“เหลยเฉียนจือจะเทียบเคียงตํานานยุทธอาณาจักรถังได้อย่างไร?”

มีตํานานยุทธโต้กลับทันที “ความแข็งแกร่งของเหลยเฉียนลือคือสามารถจัดการกับครึ่งก้าว เข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพี่เท่านั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้ตํานานยุทธอาณาจักรถังถึงกับสังหารครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ไปเจ็ดคนติดต่อกัน จะนําทั้งคู่มาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร?”
“แต่ถ้าเหลยเฉียนจือยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ เขาคงจะเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีไปแล้ว และมีคุณสมบัติเทียบเท่าตํานานยุทธอาณาจักรถัง…”
“ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่สามารถตัดผ่านไปได้โดยง่ายหรือไร?”

ขณะที่จอมยุทธต่างแดนจํานวนมากกําลังโต้เถียงกัน

ภายในโถงพระราชวังสูงตระหง่านสีดําใต้เมืองฉางอัน ซูฉินก็กําลังนั่งขัดสมาธิ จิตวิญญาณแรกกําเนิดจมดิ่งสู่ทะเลปราณอันกว้างใหญ่

“ถึงขีดจํากัดแล้วหรือ?”

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินหยุดลงกะทันหัน มองดูรอบๆ ตัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 307 ขีดจํากัด

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 307 ขีดจํากัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 307 ขีดจํากัด

“หากต้องการทะลวงขอบเขตเข้าสู่เซียนเทพปฐพี จะต้องใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดผสานเขากับทะเลปราณในส่วนลึกของความว่างเปล่า จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงพลังปราณฉีจากทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกาย…”
ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา

ในตอนนี้โซ่ตรวนและคอขวดในการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่มันอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด ไม่ต่างไปจากการดูเส้นลายมือของตนเอง
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ยากที่สุดสําหรับการเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีของคนอื่นๆ คือการนําจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าไปยังส่วนลึกของความว่างเปล่า จับตําแหน่งของทะเลปราณ และรวมเข้ากับมันให้สําเร็จ แต่สําหรับซูฉินมันแทบจะไม่มีขั้นตอนนี้อยู่ด้วยซ้ํา

ท้ายที่สุด ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําซึ่งเป็นที่รักของพลังงานธาตุไฟ สามารถสัมผัสตําแหน่งของทะเลปราณได้อย่างเป็นธรรมชาติ เทียบได้กับการที่ซูฉินถือแหล่งกําเนิดธาตุไฟขนาดพกพาติดตัวเอาไว้ ด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําที่สามารถตอบสนองต่อทะเลปราณ ยกเว้นไว้แต่ซูฉินจะไม่ได้ตั้งใจหา การชักนําจิตวิญญาณแรกกําเนิดไปยังทะเลปราณก็ง่ายเพียงแค่คิด

“ตามบันทึกจากพรรคหมื่นดาบ ในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพี การรวมจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าสู่ทะเลปราณนับเป็นขั้นตอนสําคัญ แต่จริงๆแล้วขั้นตอนการนําจิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าสู่ทะเลปราณ และขั้นตอนที่ใช้ทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกายนั้นมีความสําคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน”

ดวงตาของซูฉินหลบต่ํา ครุ่นคิดอยู่ภายในใจอย่างรวดเร็ว

ในฐานะที่พรรคหมื่นดาบสืบทอดต่อมาจากเซียนเทพปฐพี แน่นอนว่ามีบันทึกเกี่ยวกับการทะลวงขั้นเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีอยู่ และหลังจากที่ซูฉินทําลายพรรคหมื่นดาบ เขาก็ได้ปกคลุมทั่วทั้งพรรคหมื่นดาบด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นตอนที่เขาแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดสําเร็จ ก็ปกคลุมทุกที่บนเกาะด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิดอีกครั้ง เปิดดูหนังสือโบราณของพรรคหมื่นดาบที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
ซึ่งรวมไปถึงบันทึกเหล่านี้ด้วย

“การใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดผสานเข้ากับทะเลปราณ หยิบยืมทะเลปราณมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณแรกกําเนิด จากนั้นจึงดึงทะเลปราณเข้ามาเติมเต็มร่างกาย กระบวนการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน จําเป็นต้องดําเนินการอย่างช้าๆ”

“นักพรตหมั่นดาบใช้เวลาเป็นสิบปี ในการใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดดึงพลังจากทะเลปราณเข้าสู่ร่างกาย ในที่สุดก็เข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี…”

ซูฉินคิดกับตนเอง

พลังของทะเลปราณยิ่งใหญ่เพียงใด? มันคือสัญลักษณ์ของพลังฟ้าดินของทั้งโลก แม้ว่าร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินจะเหนือกว่าร่างกายธรรมดา แต่หากไม่ระวังก็อาจถูกพลังของทะเลปราณระเบิดร่างได้
ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการดึงพลังจากทะเลปราณอย่างมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้แม้การทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพี่จะล้มเหลว

แน่นอนว่าตํานานยุทธขั้นสูงสุดส่วนใหญ่ไม่สา มารถดึงพลังจากทะเลปราณมาขัดเกลาเนื้อหนังได้ เมื่อยามที่พวกเขาค้นหาทะเลปราณ จิตวิญญาณแรกกําเนิดของพวกเขาก็อาจจะสูญหายไปในส่วนลึกของความว่างเปล่าตั้งแต่แรกแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ด้วยความเร็วที่ร่างศักดิ์สิทธิ์ อีกาทองคําสามารถใช้ดูดซับพลังงานได้ มันจะใช้เวลาน้อยกว่าสิบปี ถ้าช้าหน่อยก็อาจจะเป็นปี ถ้าเร็วกว่านั้นก็อาจจะสําเร็จในไม่กี่เดือน….”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉิน

นักพรตหมื่นดาบใช้เวลาสิบปีในการดึงพลัง จากทะเลปราณมาขัดเกลาร่างกาย เพราะร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไปและพลังที่ดูดซับได้ก็มีจํากัด แต่ความสามารถดูดซับพลังงานของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินในหนึ่งวัน เท่ากับสิ่งที่นักพรตหมั่นดาบทําได้ในเวลาหนึ่งหรือสองเดือน

อิงจากความแข็งแกร่งของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา หลังจากสื่อสารกับทะเลปราณ พลังงานที่จําเป็นต้องใช้เองก็ย่อมต้องมากกว่าที่นักพรตหมื่นดาบต้องใช้ ไม่เช่นนั้นหากจํานวนพลังงานที่ต้องใช้นั้นเท่ากัน ซูฉินอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่ก็หลายสิบวันในการก้าวจากตํานานยุทธขั้นสูงสุดไปเป็นเซียนเทพปฐพี

“แต่ถึงแม้เวลาในการพัฒนาจะสั้น แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์แล้วนั้น แทบจะทิ้งห่างกันไม่เห็น

ฝุ่น”

ซูฉินแลดูเคร่งขรึม

ในช่วงการทะลวงขั้น จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินจะต้องรวมเข้ากับทะเลปราณและไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกได้ ในขณะที่ร่างกายต้องทนต่อการขัดเกลาของทะเลปราณอยู่ตลอดเวลา ก็ทําให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้เช่นกัน

และในช่วงเวลานั้น หากเลือกยอมแพ้ จิตวิญญาณแรกกําเนิดจะกลับคืนสู่ร่างกาย ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการทะลวงขั้นเท่านั้น แต่ยังต้องปะทะเข้ากับฟันเฟืองภายในทะเลปราณทั้งหลายอีกด้วย

ความสูญเสียนี้ แม้แต่ซูฉินก็ยังต้องขนลุกซู่ แม้ว่าจะมี ‘ลูกท้อป้าน” ผลไม้เซียนที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดได้ แต่ซูฉินก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะมีเวลากลืนลูกท้อป้านเมื่ออยู่ต่อหน้าฟันเฟืองภายในทะเลปราณหรือไม่

ดังนั้น สําหรับซูฉิน เมื่อเขาเลือกที่จะทะลวงขั้น หมายความว่าเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้อย่างน้อยสองสามเดือน หรืออาจจะเป็นปี
“มาดูกันว่าจิตวิญญาณแรกกําเนิดของข้าจะหลอมรวมเข้ากับทะเลปราณได้ลึกแค่ไหน” ซูฉินหลับตาลงช้าๆ

หวิ่ง!

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินพุ่งออกจากช่องว่างระหว่างคิ้ว เดินออกมาที่โถงพระราชวังสีดํา จากนั้นจึงก้าวเข้าไปผสานกับความว่างเปล่า
ในส่วนลึกของความว่างเปล่านั้นเวิ้งว้างไร้ขอบเขต

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินเดินเข้าไปในความว่างเปล่าอย่างไม่เร่งร้อน

ด้วยการนําทางของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา พลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินก็ได้เข้าไปในส่วนลึกของความว่างเปล่า จับตําแหน่งของทะเลปราณได้มั่น พุ่งตรงไปยังทิศทางที่แน่นอนโดยไม่มีความลังเลใดๆ
ไม่มีตัวกําหนดทิศทางในส่วนลึกของความว่างเปล่า มีความปั่นป่วนที่น่ากลัวของกระแสมิติอยู่ทั่วทุกหนแห่ง แต่จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินนั้นแข็งแกร่งเพียงใด? เว้นแต่จะเจอเข้ากับพายุภายในความว่างเปล่าซึ่งหาได้ยากยิ่ง ความปั่นป่วนธรรมดาๆ นี้ไม่สามารถทําอะไรซูฉินได้เลย

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

แต่ดูยาวนานราวกับหลายร้อยปีได้ผ่านพ้น

ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินก็ถูกบีบให้เข้าสู่โลกที่มีสีสัน

โลกนี้เต็มไปด้วยพลังงานฟ้าดินอันไร้ที่สิ้นสุด มีทั้งพลังงานจากธาตุทองคํา ไม้ น้ํา ไฟ ดิน หยิน หยาง และสายฟ้า…..

“นี่คือทะเลปราณงั้นรึ?”

ซูฉินตกใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะคาดการณ์สิ่งที่จะได้เห็นไว้อยู่นานแล้ว แต่ก็ยังอดตกใจไม่ได้

ทะเลปราณนั้นช่างกว้างใหญ่ พลังฟ้าดินก็มีอยู่อย่างไร้ที่สิ้นสุด กระจายไปทั่วทุกที่ และซูฉินยังรู้สึกว่ามีคุณลักษณะบางอย่างของพลังงานฟ้าดินที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ล่องลอยอยู่ห่างไกลออกไปภายในทะเลปราณ

“สิ่งมีชีวิตปราณฉี!”

รูม่านตาของซูฉินหดตัวเล็กลงเล็กน้อย
สิ่งมีชีวิตปราณฉีเป็นการรวมตัวกันของพลังฟ้าดินที่ไร้ที่สิ้นสุด หลังจากผ่านเวลายาวนานไม่รู้จบ จะมีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่จะให้กําเนิดสิ่งมีชีวิตปราณฉีขึ้นมา

สิ่งมีชีวิตปราณฉีเกิดมาในธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานฟ้าดิน แม้ว่ามันจะด้อยกว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อย่างอีกาทองคําสามขา แค่ก็แข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆมาก อย่างน้อยๆ ตอนนี้แม้จะเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินที่เต็มไปด้วยพลังงานธาตุไฟก็ไม่ได้ดีเท่ากับสิ่งมีชีวิตปราณฉี

ท้ายที่สุด ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําก็เป็นเพียงร่างกายที่สร้างขึ้นจากความสําเร็จระดับเล็กของภาพดวงตะวันขนาดมหึมาเท่านั้น ย่อมไม่อาจนํามาเทียบกับสิ่งมีชีวิตปราณฉีที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่มีพลังฟ้าดินอันไร้ที่สิ้นสุด

แน่นอนว่าหากซูฉินสําเร็จภาพดวงตะวันฯ ชั้นยอด มันจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที

หลังจากฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาจนสําเร็จเสร็จสิ้น จะสามารถแปลงเป็นอีกาทองคําสามขาได้ แม้ความแข็งแกร่งของซูฉินจะอยู่ในระดับของอีกาทองคําสามขาวัยเยาว์เท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตปราณฉี ก็ไม่รู้ว่ามันเหนือกว่าเท่าไหร่

“นี่เป็นเพียงชั้นพื้นผิวของทะเลปราณเท่านั้น หากเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ที่ค้นพบทะเลปราณ พวกเขาคงเลือกหยุดอยู่ตรงนี้”

ดวงตาของซูฉินกวาดไปทั่วทะเลปราณอันกว้างใหญ่

“แต่ข้าแตกต่างออกไป”

ซูฉินหัวเราะ ก้าวเท้าไปข้างหน้า และเริ่มต้นเข้าสู่ส่วนลึกของทะเลปราณ

ขณะที่ซูฉินกําลังเริ่มสํารวจทะเลปราณด้วยจิตวิญญาณแรกกําเนิด
เรื่องราวการต่อสู้ระหว่างซูฉินและครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ในยุทธภพต่างแดน นิกายใหญ่นั้นครองพิภพมาเนิ่นนานมั่นคง ก้มมองสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จากบนฟ้า แต่ทั่วทั้งดินแดนโพ้นทะเลไม่ได้มีเพียงนิกายใหญ่เท่านั้น มีจอมยุทธจํานวนนับไม่ถ้วนและนิกายอื่นๆ อีกมากมายอยู่ด้วย
ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อเมื่อได้ยินว่าครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดของนิกายใหญ่ร่วมมือกัน แต่ก็ยังตกตายภายใต้ฝีมือของซูฉิน

“ตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ?”

“เป็นไปได้อย่างไร?! หรือตํานานยุทธอาณาจักรถึงจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วจริงๆ ?”

“มิผิด ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ถึงเจ็ดคนร่วมมือกัน ยกเว้นก็แต่เซียนเทพปฐพี ใครเล่าจะต้านทานไหว?”

ผู้ฝึกยุทธจํานวนมากต่างไม่เชื่อข่าวนี้เพราะมันไร้สาระอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด การตกตายของครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพี ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้กลับตกตายไปเจ็ดคนติดต่อกัน? ทั้งยังตายด้วยฝีมือของคนคนเดียวกันอีก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ข่าวลือเรื่องนี้ก็ยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยามที่ข่าวลือน่าเหลือเชื่อนี้แพร่กระจายไปทั่ว แต่นิกายใหญ่ทั้งหลายกลับเงียบนิ่ง การกระทําเช่นนี้เท่ากับเป็นคํายืนยัน

ไม่เช่นนั้น ด้วยความเย่อหยิ่งของนิกายใหญ่จะอยู่เฉยได้อย่างไรเมื่อมีข่าวลือเรื่องการตายของบรรพชนครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี? ไม่มีแม้แต่จะออกมาพูดอะไร?

ในทันที

จอมยุทธไร้สังกัดในโลกยุทธภพต่างแดนต่างก็ตื่นเต้น

นิกายใหญ่ทั้งหลายในต่างแดนล้วนอยู่บนจุดสูงสุด ผูกขาดทรัพยากรบ่มเพาะส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่าจอมยุทธไร้สังกัดได้รับความเดือดร้อนจากนิกายใหญ่มาแล้วกี่คนต่อกี่คน ยามที่พวกเขาได้เห็นนิกายใหญ่เหล่านี้ตกจากจุดสูงสุดลงสู่โลกมนุษย์ จะมีความเห็นอกเห็นใจเกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ตํานานยุทธอาณาจักรถังน่ากลัวเกินไปแล้ว เกรงว่าคงจะมีแต่เหลยเฉียนคือเมื่อสามร้อยปีก่อนเท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงได้……”

ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ห้าถอนหายใจออกมา

ทันทีที่คํากล่าวนั้นถูกพูดออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เหลยเฉียนจือเป็นศิษย์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในช่วงหลายพันปีมานี้ เป็นที่รู้กันว่าเขาน่าจะเป็นตัวตนที่มีโอกาสเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี

ว่ากันว่าถึงกับเกิดทะเลสายฟ้าในยามที่เหลยเฉียนจือเกิดขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะมีอาวุโสนิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้ผ่านไปบริเวณนั้นทันเวลา เกรงว่าเหลยเฉียนลือคงกลายเป็นฝุ่นธุลีภายในทะเลสายฟ้าไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าด้วยเหตุนี้เอง

เหลยเฉียนลือจึงมีการรับรู้ในวิถีสายฟ้าดีกว่าคนทั่วไป

หลังจากกราบเข้านิกายเทพเจ้าสายฟ้า อาศัยทรัพยากรบ่มเพาะที่จัดหามาให้โดยนิกายเทพเจ้าสายฟ้าโดยไม่คํานึงถึงค่าใช้จ่าย เขาก็ได้เข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดภายในเวลาที่น้อยกว่าสามร้อยปี และยังควบแน่นอาณาเขตรวมถึงแปลงจิตวิญญาณได้สําเร็จ มีแม้กระทั่งเรื่องราวที่เขาเคยจัดการกับครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี

อย่างไรก็ตาม

น่าเสียดายยิ่ง

เหลยเฉียนจือซึ่งแต่เดิมได้รับยกย่องว่าเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า กลับหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อสามร้อยปีก่อน และไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย

“เหลยเฉียนจือ?”

“เหลยเฉียนจือจะเทียบเคียงตํานานยุทธอาณาจักรถังได้อย่างไร?”

มีตํานานยุทธโต้กลับทันที “ความแข็งแกร่งของเหลยเฉียนลือคือสามารถจัดการกับครึ่งก้าว เข้าสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพี่เท่านั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้ตํานานยุทธอาณาจักรถังถึงกับสังหารครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ไปเจ็ดคนติดต่อกัน จะนําทั้งคู่มาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร?”
“แต่ถ้าเหลยเฉียนจือยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ เขาคงจะเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีไปแล้ว และมีคุณสมบัติเทียบเท่าตํานานยุทธอาณาจักรถัง…”
“ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่สามารถตัดผ่านไปได้โดยง่ายหรือไร?”

ขณะที่จอมยุทธต่างแดนจํานวนมากกําลังโต้เถียงกัน

ภายในโถงพระราชวังสูงตระหง่านสีดําใต้เมืองฉางอัน ซูฉินก็กําลังนั่งขัดสมาธิ จิตวิญญาณแรกกําเนิดจมดิ่งสู่ทะเลปราณอันกว้างใหญ่

“ถึงขีดจํากัดแล้วหรือ?”

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของซูฉินหยุดลงกะทันหัน มองดูรอบๆ ตัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+