เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 270 บรรพชนดาบ

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 270 บรรพชนดาบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 270 บรรพชนดาบ 

 

ซูฉันเดินเข้าไปภายในโถงชีวิตนิรันดร์โดยไม่รีบร้อน

 

หลังจากออกจากวิหารหมื่นพุทธในทะเลทรายตะวันตกแล้วซูฉินก็แวะไปวัดเส้าหลินอีกครั้ง หนึ่งก่อนจะรีบกลับมายังเมืองฉางอัน

 

ระหว่างทางซูฉินก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่ยังทําความคุ้นเคยกับทิพยอํานาจคาถาดําดินพยายามปรับ ตัวให้เคยชินกับสภาพแวดล้อมใต้ดิน

 

ทิพยอํานาจนั้นต่างจากคัมภีร์เคล็ดวิชามันคล้ายกับเป็นสัญชาตญาณเสียมากกว่า คล้ายกับการกินอาหารหรือดื่มน้ํามันเป็นเรื่องธรรมชาติแต่ก็ยังต้องสร้างความคุ้นเคย

 

โดยเฉพาะส่วนลึกใต้โลก มีพื้นที่พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ทุกรูปแบบแม้จะเป็นซูฉินเอง เขาก็ต้องหลบเลี่ยงเมื่อพบเจอเพราะหากเข้าไปใกล้ แม้จะไม่ได้มีอันตรายใดๆ แต่มันก็สร้างปัญหาให้อย่างมากอาจจะติดกับอยู่จุดนั้นชั่วระยะเวลา หนึ่ง

 

“พี่สาม”

 

จักรพรรดิถังสาวเท้าเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาและ หยิบยกการคาดคะเนต่างๆตามความเป็นจริง 

 

“หลีหว่านถูกพาตัวไป?”

 

ซูฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

แม้ว่าแหล่งกําเนิดธาตุดินจะเป็นการรวมตัวกันของพลังงานธาตุดินจํานวนมากแต่ไอพลังนั้นก็ถูกยับยั้งเอาไว้หากไม่ใช่เพราะบรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าแห่งวิหารหมื่นพุทธพาเขาไปยังแหล่งกําเนิดธาตุดินเขาก็คงไม่พบสิ่งผิดปกติใดบริเวณแหล่งกําเนิดธาตุดินนั้น 

 

เป็นเรื่องยากที่บุคคลภายนอกจะสามารถหาแหล่งกําเนิดธาตุดินได้และในทํานองเดียวกันหากบุคคลใดเข้าไปอยู่ภายในแหล่งกําเนิดธาตุดินการรับรู้ถึงโลกภายนอกก็จะกลายเป็นคลุมเครือ

 

ซูฉินปิดด่านฝึกตนอยู่ในแหล่งกําเนิดธาตุดินเป็นเวลาสองเดือนการรับรู้ของเขาพร่ามัวนอก จากนี้ทะเลทรายตะวันตกยังอยู่ห่างจากเมืองฉางอันออกไปไกลมากดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องที่หลี หว่านไม่ได้อยู่ภายในเมืองฉางอัน

 

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

 

ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง ค่อยๆ พูดเบาๆ

 

ไม่ว่าอย่างไรหลีหว่านก็เป็นหลานสาวของเขาด้วยเหมือนกันหลังจากใกล้ชิดนางมาหลายปีมักจะชี้แนะนางอยู่เป็นประจําไม่ว่าซูฉินจะเป็นคนเฉยชาแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะนิ่งดูดาย หากหลีหว่านหายตัวไป

 

“ผู้อาวุโส”

 

นักพรตเฒ่าหัวใจสั่นไหว

 

แม้ว่าฉันยังคงดูสงบอยู่ในตอนนี้ราวกับไม่มีความผันผวนเลยแม้แต่น้อยแต่นักพรตเฒ่าก็รู้สึกได้จางๆว่าบรรยากาศรอบตัวของเขาเริ่มจะบีบตัวแน่นแม้แต่กระแสปราณฟ้าดินก็ถูกกดขี่เหยียบ

 

“ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสเพิ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว…” นักพรตเฒ่ารู้สึกว่าตนกําลังเผชิญหน้า อยู่กับพลังแห่งผืนฟ้าอันกว้างใหญ่จึงรีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “คนที่นําตัวองค์หญิงหลี หว่านไปควรจะเป็นคนของพรรคหมื่นดาบแต่คนของพรรคหมื่นดาบคงจะไม่ทราบตัวตนขององค์หญิงหลีหว่าน……”

 

นักพรตเฒ่ากัดฟันอธิบาย

 

ในใจนึกกลัวจริงๆ ว่าซูฉินจะไปเข่นฆ่าสังหารพรรคหมื่นดาบเพราะความโกรธ

 

แม้ว่าความแข็งแกร่งของซูฉินจะทรงพลังมากแม้แต่บรรพบุรุษชีหยวนที่ควบแน่นอาณาจักรได้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แต่ถ้าต้องการจะบีบบังคับนิกายใหญ่สักแห่งเกรงว่ามันจะยังไม่เพียงพอ

 

นิกายใหญ่ในต่างแดนนั้นสืบทอดมรดกมายาวนานอย่างน้อยก็หลายพันปี ด้วยเวลาที่นานเพียงนี้ไม่รู้ว่ามีตํานานยุทธขั้นสูงสุดกําเนิดขึ้นมากี่คนไม่ว่าจะเป็นนิกายใหญ่แห่งใดล้วนเป็นถ้ําเสือสระมังกรทั้งนั้นอันตรายอย่างมาก

 

“พวกเขารู้ตัวตนของหลีหว่านแล้ว”

 

ดวงตาของซูฉินหันเหออกไปเล็กน้อยมองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้

 

“รู้?” นักพรตเฒ่าผงะไปชั่วครู่ ซูฉินอยู่เบื้องหน้าพวกตนเขารู้ได้อย่างไรว่าพรรคหมื่นดาบรู้ ตัวตนของหลีหว่านแล้ว?

 

จักรพรรดิถังและตระกูลซูต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองซูฉินอย่างใกล้ชิด

 

“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าทิ้งไว้ให้กับหลีหว่านได้หายไปแล้ว”ซูฉินเงียบไปครู่หนึ่ง ร่องรอย ความเย็นชาวาบผ่านใบหน้าของเขา

 

หลังจากที่รู้ว่าหลีหว่านหายตัวไปซูฉินก็ค้นหาแผ่นไม้ที่เคยมอบให้หลีหว่านโดยพลัน

 

หลีหว่านพกแผ่นไม้ชิ้นนี้ติดตัวเอาไว้มันมีตราประทับรูปดาบที่ซูฉินสลักไว้ เมื่อหลีหว่านตกอยู่ในอันตรายจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ภายในตราประทับจะถูกกระตุ้นทันที

 

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา แค่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ห้าและชั้นที่หก

 

มีเพียงตํานานยุทธขั้นสูงสุดเท่านั้นที่สามารถระงับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้อย่างเงียบเชียบแม้แต่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดาก็ไม่สามารถระงับได้อย่างสมบูรณ์บางทีอาจจะทําให้เจตจํานงดาบส่งข้อมูลกลับมาได้มีเพียงตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ควบแน่นอาณาเขตแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถใช้มันควบคุมรัศมีร้อยจ้างและระงับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์

 

“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หายไป?”

 

ใบหน้าของนักพรตเฒ่าซีดเซียว เขาเป็นตํานานยุทธแน่นอนย่อมรู้วิธีการใช้จิตสัมผัสศักดิ์ สิทธิ์ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังกว้างใหญ่ไพศาลของตํานานยุทธขั้นสูงสุดเช่นซูฉินมันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร?

 

อาจจะเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดบรรพชนของพรรคหมื่นดาบที่เป็นคนลงมือลบจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินออกไปด้วยความว่องไวจนทําให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี่

 

“พรรคหมื่นดาบกล้าดีอย่างไรถึงได้ฉีกหน้าผู้อาวุโสเช่นนี้?”ใบหน้าของนักพรตเฒ่าดูน่าเก ลียด

 

แม้ว่าร่างหัวใจดาบจะมีศักยภาพสูงแต่มันก็เป็นเพียงศักยภาพเท่านั้นพรรคหมื่นดาบจะมาส ร้างความขุ่นเคืองให้กับตํานานยุทธขั้นสูงสุดเช่นซูฉินเพียงเพราะศักยภาพแค่นี้ได้อย่างไร? 

 

“เป็นไปได้ไหมว่า พรรคหมื่นดาบต้องการร่างหัวใจดาบอย่างเร่งด่วนในยามนี้?”นักพรตเฒ่า ครุ่นคิดความเป็นไปได้มากมายแต่ก็คิดไม่ออก 

 

ด้วยทรัพยากรที่มากมายของพรรคหมื่นดาบหากตั้งใจฟูมฟักร่างหัวใจดาบอย่างเต็มที่ มันก็สามารถผลักดันเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธได้อย่างรวดเร็ว

แต่ก็เท่านั้น

 

หากต้องการไปต่อในขอบเขตตํานานยุทธหรือแม้แต่เข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดร่างหัวใจดาบก็ยังห่างไกลจากคําว่าพึ่งพาได้ มันต้องใช้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้และจังหวะโอกาสจึงจะเป็นไปได้

 

“บอกข้าเกี่ยวกับพรรคหมื่นดาบ” ซูฉันมองไปที่นักพรตเฒ่าและพูดออกมาช้าๆ

 

แม้ว่าร่างกายของซูฉินจะเป็นกายธรรมชาติอยู่กึ่งหนึ่งแล้วต่อให้เจอเซียนเทพปฐพีก็ยังหลบหนี้ได้ก็ตามแต่พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ระดับสูงดังนั้นเขาจึงควรระมัดระวังตนให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมตัวไว้ได้

 

“ขอรับ” นักพรตเฒ่ารู้สึกตื่นเต้นและโค้งคารวะอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า“พรรคหมื่น ดาบตั้งขึ้นเมื่อสี่พันแปดร้อยปีก่อนผู้ก่อตั้งมีนามว่านักพรตหมั่นดาบเขาเป็นเทพเจ้าแห่งวิชาดาบที่ครองยุทธภพในต่างแดนนานถึงห้าร้อยปี”

 

“เมื่อนักพรตหมั่นดาบอายุมากขึ้น เขาก็รู้ตัวว่าไม่มีความหวังที่จะทะลวงขั้นจึงละทิ้งพรรคหมื่นดาบไป”

 

“หลังจากที่นักพรตหมั่นดาบได้จากไปจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่พันกว่าปีไม่มีใครในพรรคหม นดาบได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี”

 

เมื่อนักพรตเฒ่าได้กล่าวเช่นนี้ เขาก็หยุดไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “อย่างไรก็ตามเมื่อหนึ่งพันเก้าร้อยปีก่อนพรรคหมื่นดาบได้ให้กําเนิดศิษย์ผู้ฉลาดเฉลียวและมีพรสวรรค์เป็นอย่างยิ่งเกิดมาพร้อมกับร่างหัวใจดาบเช่นกัน”

 

“ศิษย์ผู้นี้ได้เปิดสมบัติที่นักพรตหมั่นดาบได้ทิ้งเอาไว้ทําให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและในเวลาต่อมาคนผู้นี้ก็สามารถเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาได้…” 

 

“เปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาได้?”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

นอกจากสภาพแวดล้อมในต่างแดนและสมบัติที่นักพรตหมั่นดาบทิ้งเอาไว้พรสวรรค์และความ เข้าใจของคนผู้นั้นก็ต้องสูงมากไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงจุดนั้น

นักพรตเฒ่าเหลือบมองซูฉินอย่างระมัดระวังแล้วกล่าวต่อ “ศิษย์พรรคหมื่นดาบผู้นี้เป็นคนที่นํา พรรคหมื่นดาบให้เจริญรุ่งเรืองได้ในยุคนั้นรู้จักกันในนามบรรพชนดาบแต่สุดท้ายเขาก็ยังหยุดอยู่ที่ระดับการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิด…”

 

นักพรตเฒ่าถอนหายใจเบาๆ

 

แม้แต่อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบเทียมของพรรคหมื่นดาบก็ยังไปแตะขอบเขตเชียนเทพปฐพไม่ได้นี่แสดงให้เห็นถึงความยากลําบากของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

ในยุทธภพต่างแดน แม้แต่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดก็เกิดขึ้นมามากมายมีแม้กระทั่งผู้ที่เปลี่ยนแป ลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

 

อย่างไรก็ตามมันยากอย่างยิ่งที่จะมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาสักคนในรอบพันปีตั้งแต่จบยุค เฟื่องฟูของกระแสปราณฉีกกว่าหมื่นปีแล้วจํานวนเซียนเทพปฐพี่ที่กําเนิดขึ้นในโลกยุทธภพต่างแดนนั้นเกรงว่าจะนับได้ด้วยนิ้วมือ

 

“บรรพชนดาบ?”

 

ซูฉินขมวดคิ้ว จากนั้นจึงสงบใจลงแล้วถามต่อ “มีอะไรอีกไหม?”

 

“ผู้อาวุโส หลังจากยุคของบรรพชนดาบ พรรคหมื่นดาบก็อ่อนแอลงแม้ทุกๆยี่สิบสามสิบปีหรี อกว่าร้อยปีจะมีตํานานยุทธขั้นสูงสุดกําเนิดขึ้นแต่ก็ไม่มีใครน่าพึ่งเท่าบรรพชนดาบ”

 

นักพรตเฒ่ากระซิบคํา

 

ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นความลับสุดยอด แม้แต่ในต่างแดนก็มีเพียงนิกายใหญ่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ นักพรตเฒ่าสามารถรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ก็เพราะเขาชอบเรียนรู้ใฝ่หาข้อมูลจากหนังสือโบราณ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากหนังสือโบราณของสํานักเอกะวิถี

 

“ข้าเข้าใจแล้ว”

 

ท่าทีของซูฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเกิดวังวนที่อธิบายไม่ได้ค่อยๆหมุนวนอยู่ในส่วนลึกของ รูม่านตา ฉับพลันพลังงานฉีทุกรูปแบบในโลกก็ประจักษ์แก่สายตาของซูฉิน

 

พรรคหมื่นดาบระงับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินไปนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการปกปิดร่องรอยของหลีหว่าน หลีกเลี่ยงไม่ให้ซูฉินหาพบ

 

แต่น่าเสียดาย

 

แม้ว่าจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะถูกระงับ มันก็ไม่มีผลกับซูฉินเนื่องจากดวงตาแห่งสัจจะมีความสา มารถในการตรวจจับพลังฉีตราบใดที่ซูฉินได้เคยเห็นพลังฉีนั้นแล้ว แม้ว่าจะหลบนี้ไปยังสุดขอบโลกก็สามารถตรวจจับได้

 

ซูฉินอยู่กับหลีหว่านมานานแล้วและแน่นอนว่าย่อมคุ้นเคยกับพลังฉีในตัวอย่างมากสามารถยืน ยันตําแหน่งของหลีหว่านได้ด้วยการจับตําแหน่งพลังฉี

 

หวิ่ง!!!

 

จิตใจของซูฉินพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างไรขอบเขตดวงตาของเขามองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ อย่างรวดเร็ว

 

“ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้…”

 

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป

 

“ข้าจะออกไปพาหลีหว่านกลับมา” หลังจากซูฉินกล่าวประโยคนี้เขาก็ก้าวเท้าและหายตัวไปจาก

จุดเดิม

 

“พาองค์หญิงหลีหว่านกลับมา….” นักพรตเฒ่ากลืนน้ําลายลงคอรู้สึกเหลือเชื่อ

 

ตามการคาดเดาของเขา พรรคหมื่นดาบสามารถยอมรับแรงกดดันจากการสร้างความขุ่นเคืองให้กับซูฉินยังคงพาหลีหว่านไปด้วยมันคงเป็นเพราะหลีหว่านมีความสําคัญอย่างมาก

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากนี้อีกไม่นานหลีหว่านจะต้องได้รับการปกป้องจากนักดาบที่ทรงพลังจํานวนมากและพรรคหมีนดาบเองก็ไม่ได้ขาดแคลนตํานานยุทธขั้นสูงสุด

 

หากซูฉินต้องการนําหลีหว่านกลับมา มันก็เหมือนเข้าไปคว้าอาหารออกจากปากเสือโคร่ง ช่างอันตรายอย่างยิ่ง

 

“หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผู้อาวุโส…”

 

ตอนนี้นักพรตเฒ่าได้แต่หวังว่าพรรคหมื่นดาบจะมีความกังวลขึ้นบ้าง และมอบหลีหว่านกลับมาไม่เช่นนั้นหากพรรคหมื่นดาบโจมตีซูฉินอย่างไรยางอายสถานการณ์ย่อมอันตรายเป็นที่สุด

 

ในเวลาเดียวกัน

 

นอกอาณาจักรถัง

 

พื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้

 

มียอดเขาขนาดยักษ์พุ่งสูงทะลุท้องฟ้าเสมือนดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ปักลงพื้นดินรัศมีแห่งความดุร้า ยแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของชั้นบรรยากาศ

 

บนยอดเขา มีตําหนักหินอ่อนสูงกว่าสิบเมตรงดงามหาสิ่งอื่นใดมาเทียบเทียม มีร่างหลายร่างนั่งอยู่ภายใน

 

บุคคลเหล่านี้ล้วนสะพายดาบไว้กับตัว ใบหน้าเรียบเฉยแต่ไอพลังพลุ่งพล่าน ทั้งหมดล้วนเป็นตํานานยุทธผู้เกรียงไกร และยังมีตํานานยุทธนสูงสุดอยู่ในหมู่นักดาบเหล่านี้ด้วย

 

นักดาบนั้นเก่งกาจในการฆ่าฟัน นับประสาอะไรกับนักดาบขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุด? 3694

ในตอนนี้ร่างเหล่านี้ได้นั่งล้อมรอบเสาหินและมองหน้ากัน

 

เหนือเสาหินมีแผ่นไม้แผ่นหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นอย่างช้าๆตรงกลางแผ่นไม้มีรอยดาบตื้นๆ สลักอยู่และเจตจํานงดาบที่ก่อตัวขึ้นมาจากตราประทับรูปดาบนี้ก็ให้ความรู้สึกว่ามันสามารถสังหารทุกอย่างได้โดยง่าย

 

“ความเป็นมาของตํานานยุทธขั้นสูงสุดในเมืองฉางอันแห่งราชวงศ์ถังนั้นเป็นเช่นไรกัน ทํา ไมเคล็ดวิชาดาบถึงน่าเหลือเชื่อเช่นนี้?” 

 

ในเวลานั้นตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่นั่งอยู่ด้านซ้ายก็ลืมตาขึ้นมองดูตราประทับดาบที่ลอยอยู่บนเสาหินตรงหน้าพวกเขาพึมพําออกมาด้วยความตกใจ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 270 บรรพชนดาบ

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 270 บรรพชนดาบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 270 บรรพชนดาบ 

 

ซูฉันเดินเข้าไปภายในโถงชีวิตนิรันดร์โดยไม่รีบร้อน

 

หลังจากออกจากวิหารหมื่นพุทธในทะเลทรายตะวันตกแล้วซูฉินก็แวะไปวัดเส้าหลินอีกครั้ง หนึ่งก่อนจะรีบกลับมายังเมืองฉางอัน

 

ระหว่างทางซูฉินก็ไม่ได้อยู่เฉย แต่ยังทําความคุ้นเคยกับทิพยอํานาจคาถาดําดินพยายามปรับ ตัวให้เคยชินกับสภาพแวดล้อมใต้ดิน

 

ทิพยอํานาจนั้นต่างจากคัมภีร์เคล็ดวิชามันคล้ายกับเป็นสัญชาตญาณเสียมากกว่า คล้ายกับการกินอาหารหรือดื่มน้ํามันเป็นเรื่องธรรมชาติแต่ก็ยังต้องสร้างความคุ้นเคย

 

โดยเฉพาะส่วนลึกใต้โลก มีพื้นที่พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ทุกรูปแบบแม้จะเป็นซูฉินเอง เขาก็ต้องหลบเลี่ยงเมื่อพบเจอเพราะหากเข้าไปใกล้ แม้จะไม่ได้มีอันตรายใดๆ แต่มันก็สร้างปัญหาให้อย่างมากอาจจะติดกับอยู่จุดนั้นชั่วระยะเวลา หนึ่ง

 

“พี่สาม”

 

จักรพรรดิถังสาวเท้าเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็วอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาและ หยิบยกการคาดคะเนต่างๆตามความเป็นจริง 

 

“หลีหว่านถูกพาตัวไป?”

 

ซูฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

แม้ว่าแหล่งกําเนิดธาตุดินจะเป็นการรวมตัวกันของพลังงานธาตุดินจํานวนมากแต่ไอพลังนั้นก็ถูกยับยั้งเอาไว้หากไม่ใช่เพราะบรรพชนหกบรรพชนเจ็ดและบรรพชนเก้าแห่งวิหารหมื่นพุทธพาเขาไปยังแหล่งกําเนิดธาตุดินเขาก็คงไม่พบสิ่งผิดปกติใดบริเวณแหล่งกําเนิดธาตุดินนั้น 

 

เป็นเรื่องยากที่บุคคลภายนอกจะสามารถหาแหล่งกําเนิดธาตุดินได้และในทํานองเดียวกันหากบุคคลใดเข้าไปอยู่ภายในแหล่งกําเนิดธาตุดินการรับรู้ถึงโลกภายนอกก็จะกลายเป็นคลุมเครือ

 

ซูฉินปิดด่านฝึกตนอยู่ในแหล่งกําเนิดธาตุดินเป็นเวลาสองเดือนการรับรู้ของเขาพร่ามัวนอก จากนี้ทะเลทรายตะวันตกยังอยู่ห่างจากเมืองฉางอันออกไปไกลมากดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องที่หลี หว่านไม่ได้อยู่ภายในเมืองฉางอัน

 

“มันเกิดอะไรขึ้น?”

 

ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง ค่อยๆ พูดเบาๆ

 

ไม่ว่าอย่างไรหลีหว่านก็เป็นหลานสาวของเขาด้วยเหมือนกันหลังจากใกล้ชิดนางมาหลายปีมักจะชี้แนะนางอยู่เป็นประจําไม่ว่าซูฉินจะเป็นคนเฉยชาแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะนิ่งดูดาย หากหลีหว่านหายตัวไป

 

“ผู้อาวุโส”

 

นักพรตเฒ่าหัวใจสั่นไหว

 

แม้ว่าฉันยังคงดูสงบอยู่ในตอนนี้ราวกับไม่มีความผันผวนเลยแม้แต่น้อยแต่นักพรตเฒ่าก็รู้สึกได้จางๆว่าบรรยากาศรอบตัวของเขาเริ่มจะบีบตัวแน่นแม้แต่กระแสปราณฟ้าดินก็ถูกกดขี่เหยียบ

 

“ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสเพิ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว…” นักพรตเฒ่ารู้สึกว่าตนกําลังเผชิญหน้า อยู่กับพลังแห่งผืนฟ้าอันกว้างใหญ่จึงรีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “คนที่นําตัวองค์หญิงหลี หว่านไปควรจะเป็นคนของพรรคหมื่นดาบแต่คนของพรรคหมื่นดาบคงจะไม่ทราบตัวตนขององค์หญิงหลีหว่าน……”

 

นักพรตเฒ่ากัดฟันอธิบาย

 

ในใจนึกกลัวจริงๆ ว่าซูฉินจะไปเข่นฆ่าสังหารพรรคหมื่นดาบเพราะความโกรธ

 

แม้ว่าความแข็งแกร่งของซูฉินจะทรงพลังมากแม้แต่บรรพบุรุษชีหยวนที่ควบแน่นอาณาจักรได้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แต่ถ้าต้องการจะบีบบังคับนิกายใหญ่สักแห่งเกรงว่ามันจะยังไม่เพียงพอ

 

นิกายใหญ่ในต่างแดนนั้นสืบทอดมรดกมายาวนานอย่างน้อยก็หลายพันปี ด้วยเวลาที่นานเพียงนี้ไม่รู้ว่ามีตํานานยุทธขั้นสูงสุดกําเนิดขึ้นมากี่คนไม่ว่าจะเป็นนิกายใหญ่แห่งใดล้วนเป็นถ้ําเสือสระมังกรทั้งนั้นอันตรายอย่างมาก

 

“พวกเขารู้ตัวตนของหลีหว่านแล้ว”

 

ดวงตาของซูฉินหันเหออกไปเล็กน้อยมองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้

 

“รู้?” นักพรตเฒ่าผงะไปชั่วครู่ ซูฉินอยู่เบื้องหน้าพวกตนเขารู้ได้อย่างไรว่าพรรคหมื่นดาบรู้ ตัวตนของหลีหว่านแล้ว?

 

จักรพรรดิถังและตระกูลซูต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัยจ้องมองซูฉินอย่างใกล้ชิด

 

“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าทิ้งไว้ให้กับหลีหว่านได้หายไปแล้ว”ซูฉินเงียบไปครู่หนึ่ง ร่องรอย ความเย็นชาวาบผ่านใบหน้าของเขา

 

หลังจากที่รู้ว่าหลีหว่านหายตัวไปซูฉินก็ค้นหาแผ่นไม้ที่เคยมอบให้หลีหว่านโดยพลัน

 

หลีหว่านพกแผ่นไม้ชิ้นนี้ติดตัวเอาไว้มันมีตราประทับรูปดาบที่ซูฉินสลักไว้ เมื่อหลีหว่านตกอยู่ในอันตรายจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ภายในตราประทับจะถูกกระตุ้นทันที

 

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา แค่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ห้าและชั้นที่หก

 

มีเพียงตํานานยุทธขั้นสูงสุดเท่านั้นที่สามารถระงับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้อย่างเงียบเชียบแม้แต่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดธรรมดาก็ไม่สามารถระงับได้อย่างสมบูรณ์บางทีอาจจะทําให้เจตจํานงดาบส่งข้อมูลกลับมาได้มีเพียงตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ควบแน่นอาณาเขตแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถใช้มันควบคุมรัศมีร้อยจ้างและระงับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์

 

“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หายไป?”

 

ใบหน้าของนักพรตเฒ่าซีดเซียว เขาเป็นตํานานยุทธแน่นอนย่อมรู้วิธีการใช้จิตสัมผัสศักดิ์ สิทธิ์ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังกว้างใหญ่ไพศาลของตํานานยุทธขั้นสูงสุดเช่นซูฉินมันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร?

 

อาจจะเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดบรรพชนของพรรคหมื่นดาบที่เป็นคนลงมือลบจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินออกไปด้วยความว่องไวจนทําให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี่

 

“พรรคหมื่นดาบกล้าดีอย่างไรถึงได้ฉีกหน้าผู้อาวุโสเช่นนี้?”ใบหน้าของนักพรตเฒ่าดูน่าเก ลียด

 

แม้ว่าร่างหัวใจดาบจะมีศักยภาพสูงแต่มันก็เป็นเพียงศักยภาพเท่านั้นพรรคหมื่นดาบจะมาส ร้างความขุ่นเคืองให้กับตํานานยุทธขั้นสูงสุดเช่นซูฉินเพียงเพราะศักยภาพแค่นี้ได้อย่างไร? 

 

“เป็นไปได้ไหมว่า พรรคหมื่นดาบต้องการร่างหัวใจดาบอย่างเร่งด่วนในยามนี้?”นักพรตเฒ่า ครุ่นคิดความเป็นไปได้มากมายแต่ก็คิดไม่ออก 

 

ด้วยทรัพยากรที่มากมายของพรรคหมื่นดาบหากตั้งใจฟูมฟักร่างหัวใจดาบอย่างเต็มที่ มันก็สามารถผลักดันเข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธได้อย่างรวดเร็ว

แต่ก็เท่านั้น

 

หากต้องการไปต่อในขอบเขตตํานานยุทธหรือแม้แต่เข้าสู่ขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุดร่างหัวใจดาบก็ยังห่างไกลจากคําว่าพึ่งพาได้ มันต้องใช้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้และจังหวะโอกาสจึงจะเป็นไปได้

 

“บอกข้าเกี่ยวกับพรรคหมื่นดาบ” ซูฉันมองไปที่นักพรตเฒ่าและพูดออกมาช้าๆ

 

แม้ว่าร่างกายของซูฉินจะเป็นกายธรรมชาติอยู่กึ่งหนึ่งแล้วต่อให้เจอเซียนเทพปฐพีก็ยังหลบหนี้ได้ก็ตามแต่พรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ระดับสูงดังนั้นเขาจึงควรระมัดระวังตนให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุมตัวไว้ได้

 

“ขอรับ” นักพรตเฒ่ารู้สึกตื่นเต้นและโค้งคารวะอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า“พรรคหมื่น ดาบตั้งขึ้นเมื่อสี่พันแปดร้อยปีก่อนผู้ก่อตั้งมีนามว่านักพรตหมั่นดาบเขาเป็นเทพเจ้าแห่งวิชาดาบที่ครองยุทธภพในต่างแดนนานถึงห้าร้อยปี”

 

“เมื่อนักพรตหมั่นดาบอายุมากขึ้น เขาก็รู้ตัวว่าไม่มีความหวังที่จะทะลวงขั้นจึงละทิ้งพรรคหมื่นดาบไป”

 

“หลังจากที่นักพรตหมั่นดาบได้จากไปจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่พันกว่าปีไม่มีใครในพรรคหม นดาบได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี”

 

เมื่อนักพรตเฒ่าได้กล่าวเช่นนี้ เขาก็หยุดไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “อย่างไรก็ตามเมื่อหนึ่งพันเก้าร้อยปีก่อนพรรคหมื่นดาบได้ให้กําเนิดศิษย์ผู้ฉลาดเฉลียวและมีพรสวรรค์เป็นอย่างยิ่งเกิดมาพร้อมกับร่างหัวใจดาบเช่นกัน”

 

“ศิษย์ผู้นี้ได้เปิดสมบัติที่นักพรตหมั่นดาบได้ทิ้งเอาไว้ทําให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและในเวลาต่อมาคนผู้นี้ก็สามารถเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาได้…” 

 

“เปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาได้?”

 

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

นอกจากสภาพแวดล้อมในต่างแดนและสมบัติที่นักพรตหมั่นดาบทิ้งเอาไว้พรสวรรค์และความ เข้าใจของคนผู้นั้นก็ต้องสูงมากไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงจุดนั้น

นักพรตเฒ่าเหลือบมองซูฉินอย่างระมัดระวังแล้วกล่าวต่อ “ศิษย์พรรคหมื่นดาบผู้นี้เป็นคนที่นํา พรรคหมื่นดาบให้เจริญรุ่งเรืองได้ในยุคนั้นรู้จักกันในนามบรรพชนดาบแต่สุดท้ายเขาก็ยังหยุดอยู่ที่ระดับการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิด…”

 

นักพรตเฒ่าถอนหายใจเบาๆ

 

แม้แต่อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบเทียมของพรรคหมื่นดาบก็ยังไปแตะขอบเขตเชียนเทพปฐพไม่ได้นี่แสดงให้เห็นถึงความยากลําบากของขอบเขตเซียนเทพปฐพี

 

ในยุทธภพต่างแดน แม้แต่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดก็เกิดขึ้นมามากมายมีแม้กระทั่งผู้ที่เปลี่ยนแป ลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

 

อย่างไรก็ตามมันยากอย่างยิ่งที่จะมีเซียนเทพปฐพีกําเนิดขึ้นมาสักคนในรอบพันปีตั้งแต่จบยุค เฟื่องฟูของกระแสปราณฉีกกว่าหมื่นปีแล้วจํานวนเซียนเทพปฐพี่ที่กําเนิดขึ้นในโลกยุทธภพต่างแดนนั้นเกรงว่าจะนับได้ด้วยนิ้วมือ

 

“บรรพชนดาบ?”

 

ซูฉินขมวดคิ้ว จากนั้นจึงสงบใจลงแล้วถามต่อ “มีอะไรอีกไหม?”

 

“ผู้อาวุโส หลังจากยุคของบรรพชนดาบ พรรคหมื่นดาบก็อ่อนแอลงแม้ทุกๆยี่สิบสามสิบปีหรี อกว่าร้อยปีจะมีตํานานยุทธขั้นสูงสุดกําเนิดขึ้นแต่ก็ไม่มีใครน่าพึ่งเท่าบรรพชนดาบ”

 

นักพรตเฒ่ากระซิบคํา

 

ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นความลับสุดยอด แม้แต่ในต่างแดนก็มีเพียงนิกายใหญ่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ นักพรตเฒ่าสามารถรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ก็เพราะเขาชอบเรียนรู้ใฝ่หาข้อมูลจากหนังสือโบราณ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากหนังสือโบราณของสํานักเอกะวิถี

 

“ข้าเข้าใจแล้ว”

 

ท่าทีของซูฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเกิดวังวนที่อธิบายไม่ได้ค่อยๆหมุนวนอยู่ในส่วนลึกของ รูม่านตา ฉับพลันพลังงานฉีทุกรูปแบบในโลกก็ประจักษ์แก่สายตาของซูฉิน

 

พรรคหมื่นดาบระงับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินไปนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการปกปิดร่องรอยของหลีหว่าน หลีกเลี่ยงไม่ให้ซูฉินหาพบ

 

แต่น่าเสียดาย

 

แม้ว่าจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะถูกระงับ มันก็ไม่มีผลกับซูฉินเนื่องจากดวงตาแห่งสัจจะมีความสา มารถในการตรวจจับพลังฉีตราบใดที่ซูฉินได้เคยเห็นพลังฉีนั้นแล้ว แม้ว่าจะหลบนี้ไปยังสุดขอบโลกก็สามารถตรวจจับได้

 

ซูฉินอยู่กับหลีหว่านมานานแล้วและแน่นอนว่าย่อมคุ้นเคยกับพลังฉีในตัวอย่างมากสามารถยืน ยันตําแหน่งของหลีหว่านได้ด้วยการจับตําแหน่งพลังฉี

 

หวิ่ง!!!

 

จิตใจของซูฉินพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างไรขอบเขตดวงตาของเขามองไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ อย่างรวดเร็ว

 

“ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้…”

 

ความคิดของซูฉินผันผวนไปมา ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป

 

“ข้าจะออกไปพาหลีหว่านกลับมา” หลังจากซูฉินกล่าวประโยคนี้เขาก็ก้าวเท้าและหายตัวไปจาก

จุดเดิม

 

“พาองค์หญิงหลีหว่านกลับมา….” นักพรตเฒ่ากลืนน้ําลายลงคอรู้สึกเหลือเชื่อ

 

ตามการคาดเดาของเขา พรรคหมื่นดาบสามารถยอมรับแรงกดดันจากการสร้างความขุ่นเคืองให้กับซูฉินยังคงพาหลีหว่านไปด้วยมันคงเป็นเพราะหลีหว่านมีความสําคัญอย่างมาก

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากนี้อีกไม่นานหลีหว่านจะต้องได้รับการปกป้องจากนักดาบที่ทรงพลังจํานวนมากและพรรคหมีนดาบเองก็ไม่ได้ขาดแคลนตํานานยุทธขั้นสูงสุด

 

หากซูฉินต้องการนําหลีหว่านกลับมา มันก็เหมือนเข้าไปคว้าอาหารออกจากปากเสือโคร่ง ช่างอันตรายอย่างยิ่ง

 

“หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผู้อาวุโส…”

 

ตอนนี้นักพรตเฒ่าได้แต่หวังว่าพรรคหมื่นดาบจะมีความกังวลขึ้นบ้าง และมอบหลีหว่านกลับมาไม่เช่นนั้นหากพรรคหมื่นดาบโจมตีซูฉินอย่างไรยางอายสถานการณ์ย่อมอันตรายเป็นที่สุด

 

ในเวลาเดียวกัน

 

นอกอาณาจักรถัง

 

พื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้

 

มียอดเขาขนาดยักษ์พุ่งสูงทะลุท้องฟ้าเสมือนดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ปักลงพื้นดินรัศมีแห่งความดุร้า ยแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของชั้นบรรยากาศ

 

บนยอดเขา มีตําหนักหินอ่อนสูงกว่าสิบเมตรงดงามหาสิ่งอื่นใดมาเทียบเทียม มีร่างหลายร่างนั่งอยู่ภายใน

 

บุคคลเหล่านี้ล้วนสะพายดาบไว้กับตัว ใบหน้าเรียบเฉยแต่ไอพลังพลุ่งพล่าน ทั้งหมดล้วนเป็นตํานานยุทธผู้เกรียงไกร และยังมีตํานานยุทธนสูงสุดอยู่ในหมู่นักดาบเหล่านี้ด้วย

 

นักดาบนั้นเก่งกาจในการฆ่าฟัน นับประสาอะไรกับนักดาบขอบเขตตํานานยุทธขั้นสูงสุด? 3694

ในตอนนี้ร่างเหล่านี้ได้นั่งล้อมรอบเสาหินและมองหน้ากัน

 

เหนือเสาหินมีแผ่นไม้แผ่นหนึ่งค่อยๆ ลอยขึ้นอย่างช้าๆตรงกลางแผ่นไม้มีรอยดาบตื้นๆ สลักอยู่และเจตจํานงดาบที่ก่อตัวขึ้นมาจากตราประทับรูปดาบนี้ก็ให้ความรู้สึกว่ามันสามารถสังหารทุกอย่างได้โดยง่าย

 

“ความเป็นมาของตํานานยุทธขั้นสูงสุดในเมืองฉางอันแห่งราชวงศ์ถังนั้นเป็นเช่นไรกัน ทํา ไมเคล็ดวิชาดาบถึงน่าเหลือเชื่อเช่นนี้?” 

 

ในเวลานั้นตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่นั่งอยู่ด้านซ้ายก็ลืมตาขึ้นมองดูตราประทับดาบที่ลอยอยู่บนเสาหินตรงหน้าพวกเขาพึมพําออกมาด้วยความตกใจ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+