เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 338 (1) พังทลายสิ้น

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 338 (1) พังทลายสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 338 (1) พังทลายสิ้น

ร่างกายกําย่าของหมานโหยวทรุดตัวลงไปในทันที

แม้ว่าหมัดของซูฉันดูเหมือนจะกระแทกเบาๆ ลงบนหน้าอก แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แพร่ไปทั่วทั้งร่างในทันที แม้ว่าชายร่างกําย่าจะแข็งแกร่ง มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนทั้งห้าจากประตูเซียนแต่เขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งการทําลายล้างร่างกายอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ได้

หวิ่ง!!

ช่วงเวลาต่อมา

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของชายร่างกํายําหมานโหยวก็ทะยานออกมาจากร่างมองไปที่ซูฉินด้วยท่าทางหวาดกลัว

เมื่อเปรียบเทียบกับขอบเขตตํานานยุทธแล้วนั้น จิตวิญญาณแรกกําเนิดของเซียนเทพปฐพี่จะถูกควบแน่นจนถึงขีดสุด

ด้วยเหตุนี้ แม้ร่างกายจะตกตาย แต่จิตวิญญาณแรกกาเนิดของชายร่างกายก็ยังรอดชีวิตมาได้

แต่ก็เท่านั้น ความสามารถส่วนใหญ่ของชายร่างกําย่ามาจากกายเนื้อไม่เหมือนกับชายชราคิ้วขาว

ในตอนนี้เขาสูญเสียร่างกายไปซึ่งเทียบเท่าได้กับการทําลายล้างจนสิ้น แม้จะไม่ถึงขนาดได้ทางสู้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างเซียนเทพปฐพี

“ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?” หมานโหยว ชายร่างกําย่าจ้องมองไปที่ซูฉินเขาไม่เข้าใจว่าตัวเขาที่ทรงพลังในด้านกายภาพถึงขั้นที่แม้จะเจอเข้ากับเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดแต่ถ้าวัดกันด้วยพลังกายก็คงไม่สามารถจัดการได้ด้วยเวลาสั้นๆ แต่นี่ซูฉินกลับสังหารได้ในหมัดเดียว?

“เจ้าพูดจาไร้สาระเกินไปแล้ว” ดวงตาของซูฉันดูเหมือนแสงอาทิตย์แผดเผาเปลวเพลิงสีทองทอดผ่านระยะทางหลายพันเมตร เข้าปกคลุมจิตวิญญาณแรกกาเนิดของชายร่างกาย่า

ดวงตาตะวันสีทอง

ทิพยอานาจธาตุไฟได้ถูกเปิดเผยต่อโลกหล้าอีกครั้ง

“ไม่ดีแล้ว!”

ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดของหมานโหยวดูหวาดกลัว รีบถอยหนี้ ปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาอย่างเต็มที่ แต่ทั้งหมดนั้นมันไร้ประโยชน์

เปลวเพลิงสีทองเข้าโอบล้อมตัวเขาทันที

เห็นชายร่างกํายาที่เหลือเพียงจิตวิญญาณแรกกําเนิดกรีดร้องออกมา จากนั้นจิตวิญญาณก็ถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงสีทองจนกลายเป็นความว่างเปล่า

“นี่?”

ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอและคนอื่นๆ มองดูหมานโหยว ชายร่างกําย่าที่หายตัวไปอย่าง สมบูรณ์ พวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย
สิ่งที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วจนเกินไป

ในสายตาคนทั้งหลาย เห็นเพียงซูฉินชกเข้าที่หน้าอกของชายร่างกํายําจากนั้นชายร่างกําย่าก็ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วทันใดนั้นดวงตาของซูฉินก็ปล่อยเปลวเพลิงสีทองออกเผาชายร่างกําย่าที่เหลือแต่จิตวิญญาณจนไม่หลงเหลือสิ่งใด

แม้ว่าจะเป็นเทพธิดาไปอิน เมื่อนางรู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่จิตวิญญาณแรกกําเนิดของชายร่างกํายําตกอยู่ในเปลวเพลิงสีทองไปเสียแล้วสายเกินกว่าจะช่วยเหลือ

“หมานโหยวตายแล้ว?”

ชายชราคิ้วขาวหนังศีรษะชาวาบ

ในบรรดาคนทั้งห้า หมานโหยวมีร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่หมานโหยวยังไม่สามารถทนต่อหมัดของซูฉินได้ ตัวเขาจะไปเหลืออะไร?

ชายชราคิ้วขาวรู้กําลังของตนเองดี เขาเก่งกาจในด้านการใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดแต่กายเนื้อกลับเปราะบางอย่างยิ่งแม้ว่าเมื่อเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีร่างกายจะถูกขัดเกลาด้วยทะเลปราณกลายเป็นกายแห่งธรรมชาติแต่ก็เป็นกายแห่งธรรมชาติระดับต่าที่สุด

ไม่ต้องพูดถึงร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินแค่นําไปเทียบกับร่างกายของเหลยเฉียนจือหรือจอมยุทธคนอื่นๆที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็ยังนับว่าห่างไกล

และในตอนนี้

หลังจากที่ซูฉินสังหารหมานโหยวด้วยดวงตาตะวันสีทองจนสลายหายไปสิ้นร่างของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไปเหลือแต่เพียงภาพติดตา

“ไม่ดี!”

เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของเซียนเทพปฐพีอีกสี่คนก็เปลี่ยนไปกะทันหัน เมื่อได้เห็นบทเรียนจากชายร่างกายก่อนหน้านี้แม้จะเป็นเทพธิดาไทอินก็ไม่เต็มใจจะต้านรับการโจมตีของซูฉิน

น่าเสียดาย

มันสายเกินไปเสียแล้ว

เมื่อร่างของซูฉินปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็มาอยู่ในระยะร้อยเมตรห่างจากเด็กหนุ่มแล้ว

“เป้าหมายของเขาคือข้า!!” เด็กหนุ่มหนังศีรษะชาวาบ เผาผลาญพลังชีวิตโดยไม่คิดลังเลพยายามหนีออกห่างจากซูฉิน

ในมุมของเด็กหนุ่มตราบใดที่เขารอดจากหมัดของซูฉินได้ การรักษาชีวิตไว้ก็ไม่น่ามีปัญหา

อย่างไรก็ตาม

ช่วงเวลาต่อมา

ต่อหน้าสายตาเหลือเชื่อของเด็กหนุ่ม

ซูฉันยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง ดึงคมมีดเทพเจ้าปีศาจออกจากส่วนลึกของความว่างเปล่าใบหน้าเคร่งขรึม ฟันฉับลงมาด้วยความนุ่มนวล

ท้องฟ้าผืนดินพลันมืดมิด ประกายคมมีดสีดําปรากฏขึ้นในอากาศ ทรงพลังจนดูเหมือนจะตัดผ่านท้องฟ้าและผืนดินออกได้
ฉับ

ดวงตาของเด็กหนุ่มตกตะลึง ทันใดนั้นก็มีรอยเลือดปรากฏขึ้นที่หน้าผากของเขา

รอยเลือดเส้นนี้

มีเพียงแค่รอยจางๆ ในตอนแรก แต่มันแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วผ่านจมูกปากคอและหน้าอกท้ายที่สุดก็ผ่ากลางแบ่งร่างออกเป็นสองส่วนพลังงานอันแหลมคมพุ่งออกมาจากรอยเลือดเหล่านั้น

“เจ้า…..ก่อนหน้านี้เจ้าออมมือไว้งั้นหรือ?”

ประกายนัยน์ตาของชายหนุ่มแสดงความรู้สึกไม่อยากเชื่อออกมา

ที่ต่อสู้กันก่อนหน้านี้ ซูฉินก็ได้ใช้มีดเทพเจ้าปีศาจด้วย

เพียงแต่ว่า แม้คมมีดเทพเจ้าปีศาจจะคมกริบอย่างยากที่จะหาสิ่งอื่นใดมาเปรียบได้แม้แต่ดาบสวรรค์เก้รูปแบบจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาดาบสวรรค์ ก็ยังตัดทิ้งได้…

แต่เมื่อเทียบกับประกายคมมีดที่ผ่าร่างเด็กหนุ่มออกเป็นสองส่วนได้ง่ายๆ ในตอนนี้มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ระหว่างชั่วพริบตานั้น เด็กหนุ่มก็บังคับจิตวิญญาณแรกกําเนิดให้หลบหนีออกมาจากร่างเหมือนชายร่างกายแต่น่าเสียดายที่รัศมีพลังซึ่งดูเหมือนมาจากขุมนรกพลันปรากฏขึ้น

ด้วยรัศมีพลังนี้ จิตวิญญาณแรกกําเนิดของเด็กหนุ่มถูกกัดกันอย่างรวดเร็ว ในที่สุดจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ตกลงสู่ความมืดมิด

ศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาดาบสวรรค์ตกตายอย่างสมบูรณ์เพียงเวลาไม่นานหลังจากนั้น

นอกเหนือจากความคมของมีดเทพเจ้าปีศาจ ไอพลังจากขุมนรกที่แปลกประหลาดก็ยังสามารถยับยั้งพลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

“เมื่อครู่ข้าแค่เล่นกับเจ้านิดๆ หน่อยๆ น่ะ” ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย

คมมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นสมบัติที่ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ในโลกถปีศาจใต้พิภพ ซึ่งสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าปีศาจจากส่วนลึกของโลกถปีศาจ

ตอนนี้ซูฉินอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต ครึ่งก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดควบคู่ไปกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําเมื่อคมมีดเทพเจ้าปีศาจถูกตวัดออกก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารเซียนเทพปฐพี่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในขั้นแบ่งจิตภายในไม่กี่วินาที

แน่นอน

คมมีดเทพเจ้าปีศาจไม่ใช่ไม่มีข้อบกพร่อง

นั่นคือคมมีดเทพเจ้าปีศาจนั้นสามารถหลบหลีกได้

นี่คือเหตุผลว่าทําไมซูฉินถึงต้องตวัดคมมีดเทพเจ้าปีศาจในระยะร้อยเมตรใกล้เด็กหนุ่มหนึ่งเป็นเพราะเด็กหนุ่มไม่คิดว่าคมมีดเทพเจ้าปีศาจจะสามารถเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้และอีกอย่างระยะประชิดขนาดนี้เป็นเรื่องยากที่คู่ต่อสู้จะหลบหลีกทันฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

ซูฉันก็เปลี่ยนทิศทางมือและฟันไปทางชายท่าทางอ่อนแอ

แสงใบมีดสีดําสนิทตัดผ่านอากาศ ภายในเวลาไม่นานก็เกือบจะไปถึงหน้าชายท่าทางอ่อนแออยู่แล้ว

เมื่อเห็นคมมีดเล่มนั้น ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอก็ตกใจกลัว ร่างของเขากลายเป็นสายลมไร้รูปร่างซ่อนตัวห่างออกไปหลายลี้มองดูคมมีดของซุฉินตัดส่วนหนึ่งของภูเขาออกอย่างง่ายดายเห็นแบบนั้นเขาก็หวาดกลัวจนหัวหด

“โชคดีที่หุบเขาเทพพระพายของข้านั้นเก่งในเรื่องความว่องไวไม่เช่นนั้นคงถูกทําลายจนสิ้นแล้ว”ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอกลืนน้ําลายรีบถอยกลับไปในทันที
ซูฉินน่ากลัวจริงๆ

ในช่วงเวลาสั้นๆ เซียนเทพปฐพี่ทั้งห้าที่ออกจากประตูเซียนได้ตกตายไปถึงสองคนทั้งยังถูกทําลายจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้เจอสิ่งนี้เกรงว่าพวกเขาจะต้องวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 338 (1) พังทลายสิ้น

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 338 (1) พังทลายสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 338 (1) พังทลายสิ้น

ร่างกายกําย่าของหมานโหยวทรุดตัวลงไปในทันที

แม้ว่าหมัดของซูฉันดูเหมือนจะกระแทกเบาๆ ลงบนหน้าอก แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แพร่ไปทั่วทั้งร่างในทันที แม้ว่าชายร่างกําย่าจะแข็งแกร่ง มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนทั้งห้าจากประตูเซียนแต่เขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งการทําลายล้างร่างกายอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ได้

หวิ่ง!!

ช่วงเวลาต่อมา

จิตวิญญาณแรกกําเนิดของชายร่างกํายําหมานโหยวก็ทะยานออกมาจากร่างมองไปที่ซูฉินด้วยท่าทางหวาดกลัว

เมื่อเปรียบเทียบกับขอบเขตตํานานยุทธแล้วนั้น จิตวิญญาณแรกกําเนิดของเซียนเทพปฐพี่จะถูกควบแน่นจนถึงขีดสุด

ด้วยเหตุนี้ แม้ร่างกายจะตกตาย แต่จิตวิญญาณแรกกาเนิดของชายร่างกายก็ยังรอดชีวิตมาได้

แต่ก็เท่านั้น ความสามารถส่วนใหญ่ของชายร่างกําย่ามาจากกายเนื้อไม่เหมือนกับชายชราคิ้วขาว

ในตอนนี้เขาสูญเสียร่างกายไปซึ่งเทียบเท่าได้กับการทําลายล้างจนสิ้น แม้จะไม่ถึงขนาดได้ทางสู้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างเซียนเทพปฐพี

“ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?” หมานโหยว ชายร่างกําย่าจ้องมองไปที่ซูฉินเขาไม่เข้าใจว่าตัวเขาที่ทรงพลังในด้านกายภาพถึงขั้นที่แม้จะเจอเข้ากับเซียนเทพปฐพี่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดแต่ถ้าวัดกันด้วยพลังกายก็คงไม่สามารถจัดการได้ด้วยเวลาสั้นๆ แต่นี่ซูฉินกลับสังหารได้ในหมัดเดียว?

“เจ้าพูดจาไร้สาระเกินไปแล้ว” ดวงตาของซูฉันดูเหมือนแสงอาทิตย์แผดเผาเปลวเพลิงสีทองทอดผ่านระยะทางหลายพันเมตร เข้าปกคลุมจิตวิญญาณแรกกาเนิดของชายร่างกาย่า

ดวงตาตะวันสีทอง

ทิพยอานาจธาตุไฟได้ถูกเปิดเผยต่อโลกหล้าอีกครั้ง

“ไม่ดีแล้ว!”

ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดของหมานโหยวดูหวาดกลัว รีบถอยหนี้ ปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาอย่างเต็มที่ แต่ทั้งหมดนั้นมันไร้ประโยชน์

เปลวเพลิงสีทองเข้าโอบล้อมตัวเขาทันที

เห็นชายร่างกํายาที่เหลือเพียงจิตวิญญาณแรกกําเนิดกรีดร้องออกมา จากนั้นจิตวิญญาณก็ถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงสีทองจนกลายเป็นความว่างเปล่า

“นี่?”

ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอและคนอื่นๆ มองดูหมานโหยว ชายร่างกําย่าที่หายตัวไปอย่าง สมบูรณ์ พวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย
สิ่งที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วจนเกินไป

ในสายตาคนทั้งหลาย เห็นเพียงซูฉินชกเข้าที่หน้าอกของชายร่างกํายําจากนั้นชายร่างกําย่าก็ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วทันใดนั้นดวงตาของซูฉินก็ปล่อยเปลวเพลิงสีทองออกเผาชายร่างกําย่าที่เหลือแต่จิตวิญญาณจนไม่หลงเหลือสิ่งใด

แม้ว่าจะเป็นเทพธิดาไปอิน เมื่อนางรู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่จิตวิญญาณแรกกําเนิดของชายร่างกํายําตกอยู่ในเปลวเพลิงสีทองไปเสียแล้วสายเกินกว่าจะช่วยเหลือ

“หมานโหยวตายแล้ว?”

ชายชราคิ้วขาวหนังศีรษะชาวาบ

ในบรรดาคนทั้งห้า หมานโหยวมีร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่หมานโหยวยังไม่สามารถทนต่อหมัดของซูฉินได้ ตัวเขาจะไปเหลืออะไร?

ชายชราคิ้วขาวรู้กําลังของตนเองดี เขาเก่งกาจในด้านการใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดแต่กายเนื้อกลับเปราะบางอย่างยิ่งแม้ว่าเมื่อเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีร่างกายจะถูกขัดเกลาด้วยทะเลปราณกลายเป็นกายแห่งธรรมชาติแต่ก็เป็นกายแห่งธรรมชาติระดับต่าที่สุด

ไม่ต้องพูดถึงร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินแค่นําไปเทียบกับร่างกายของเหลยเฉียนจือหรือจอมยุทธคนอื่นๆที่เพิ่งเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็ยังนับว่าห่างไกล

และในตอนนี้

หลังจากที่ซูฉินสังหารหมานโหยวด้วยดวงตาตะวันสีทองจนสลายหายไปสิ้นร่างของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไปเหลือแต่เพียงภาพติดตา

“ไม่ดี!”

เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของเซียนเทพปฐพีอีกสี่คนก็เปลี่ยนไปกะทันหัน เมื่อได้เห็นบทเรียนจากชายร่างกายก่อนหน้านี้แม้จะเป็นเทพธิดาไทอินก็ไม่เต็มใจจะต้านรับการโจมตีของซูฉิน

น่าเสียดาย

มันสายเกินไปเสียแล้ว

เมื่อร่างของซูฉินปรากฏขึ้นอีกครั้ง ก็มาอยู่ในระยะร้อยเมตรห่างจากเด็กหนุ่มแล้ว

“เป้าหมายของเขาคือข้า!!” เด็กหนุ่มหนังศีรษะชาวาบ เผาผลาญพลังชีวิตโดยไม่คิดลังเลพยายามหนีออกห่างจากซูฉิน

ในมุมของเด็กหนุ่มตราบใดที่เขารอดจากหมัดของซูฉินได้ การรักษาชีวิตไว้ก็ไม่น่ามีปัญหา

อย่างไรก็ตาม

ช่วงเวลาต่อมา

ต่อหน้าสายตาเหลือเชื่อของเด็กหนุ่ม

ซูฉันยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง ดึงคมมีดเทพเจ้าปีศาจออกจากส่วนลึกของความว่างเปล่าใบหน้าเคร่งขรึม ฟันฉับลงมาด้วยความนุ่มนวล

ท้องฟ้าผืนดินพลันมืดมิด ประกายคมมีดสีดําปรากฏขึ้นในอากาศ ทรงพลังจนดูเหมือนจะตัดผ่านท้องฟ้าและผืนดินออกได้
ฉับ

ดวงตาของเด็กหนุ่มตกตะลึง ทันใดนั้นก็มีรอยเลือดปรากฏขึ้นที่หน้าผากของเขา

รอยเลือดเส้นนี้

มีเพียงแค่รอยจางๆ ในตอนแรก แต่มันแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วผ่านจมูกปากคอและหน้าอกท้ายที่สุดก็ผ่ากลางแบ่งร่างออกเป็นสองส่วนพลังงานอันแหลมคมพุ่งออกมาจากรอยเลือดเหล่านั้น

“เจ้า…..ก่อนหน้านี้เจ้าออมมือไว้งั้นหรือ?”

ประกายนัยน์ตาของชายหนุ่มแสดงความรู้สึกไม่อยากเชื่อออกมา

ที่ต่อสู้กันก่อนหน้านี้ ซูฉินก็ได้ใช้มีดเทพเจ้าปีศาจด้วย

เพียงแต่ว่า แม้คมมีดเทพเจ้าปีศาจจะคมกริบอย่างยากที่จะหาสิ่งอื่นใดมาเปรียบได้แม้แต่ดาบสวรรค์เก้รูปแบบจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาดาบสวรรค์ ก็ยังตัดทิ้งได้…

แต่เมื่อเทียบกับประกายคมมีดที่ผ่าร่างเด็กหนุ่มออกเป็นสองส่วนได้ง่ายๆ ในตอนนี้มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ระหว่างชั่วพริบตานั้น เด็กหนุ่มก็บังคับจิตวิญญาณแรกกําเนิดให้หลบหนีออกมาจากร่างเหมือนชายร่างกายแต่น่าเสียดายที่รัศมีพลังซึ่งดูเหมือนมาจากขุมนรกพลันปรากฏขึ้น

ด้วยรัศมีพลังนี้ จิตวิญญาณแรกกําเนิดของเด็กหนุ่มถูกกัดกันอย่างรวดเร็ว ในที่สุดจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ตกลงสู่ความมืดมิด

ศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาดาบสวรรค์ตกตายอย่างสมบูรณ์เพียงเวลาไม่นานหลังจากนั้น

นอกเหนือจากความคมของมีดเทพเจ้าปีศาจ ไอพลังจากขุมนรกที่แปลกประหลาดก็ยังสามารถยับยั้งพลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้

“เมื่อครู่ข้าแค่เล่นกับเจ้านิดๆ หน่อยๆ น่ะ” ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย

คมมีดเทพเจ้าปีศาจเป็นสมบัติที่ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ในโลกถปีศาจใต้พิภพ ซึ่งสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าปีศาจจากส่วนลึกของโลกถปีศาจ

ตอนนี้ซูฉินอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นแบ่งจิต ครึ่งก้าวเข้าสู่ขั้นกลับคืนต้นกําเนิดควบคู่ไปกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําเมื่อคมมีดเทพเจ้าปีศาจถูกตวัดออกก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารเซียนเทพปฐพี่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในขั้นแบ่งจิตภายในไม่กี่วินาที

แน่นอน

คมมีดเทพเจ้าปีศาจไม่ใช่ไม่มีข้อบกพร่อง

นั่นคือคมมีดเทพเจ้าปีศาจนั้นสามารถหลบหลีกได้

นี่คือเหตุผลว่าทําไมซูฉินถึงต้องตวัดคมมีดเทพเจ้าปีศาจในระยะร้อยเมตรใกล้เด็กหนุ่มหนึ่งเป็นเพราะเด็กหนุ่มไม่คิดว่าคมมีดเทพเจ้าปีศาจจะสามารถเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้และอีกอย่างระยะประชิดขนาดนี้เป็นเรื่องยากที่คู่ต่อสู้จะหลบหลีกทันฉับพลัน

ในตอนนั้นเอง

ซูฉันก็เปลี่ยนทิศทางมือและฟันไปทางชายท่าทางอ่อนแอ

แสงใบมีดสีดําสนิทตัดผ่านอากาศ ภายในเวลาไม่นานก็เกือบจะไปถึงหน้าชายท่าทางอ่อนแออยู่แล้ว

เมื่อเห็นคมมีดเล่มนั้น ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอก็ตกใจกลัว ร่างของเขากลายเป็นสายลมไร้รูปร่างซ่อนตัวห่างออกไปหลายลี้มองดูคมมีดของซุฉินตัดส่วนหนึ่งของภูเขาออกอย่างง่ายดายเห็นแบบนั้นเขาก็หวาดกลัวจนหัวหด

“โชคดีที่หุบเขาเทพพระพายของข้านั้นเก่งในเรื่องความว่องไวไม่เช่นนั้นคงถูกทําลายจนสิ้นแล้ว”ชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอกลืนน้ําลายรีบถอยกลับไปในทันที
ซูฉินน่ากลัวจริงๆ

ในช่วงเวลาสั้นๆ เซียนเทพปฐพี่ทั้งห้าที่ออกจากประตูเซียนได้ตกตายไปถึงสองคนทั้งยังถูกทําลายจนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้เจอสิ่งนี้เกรงว่าพวกเขาจะต้องวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+