เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 207 (1) เกาะเซียนทะเลบูรพา

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 207 (1) เกาะเซียนทะเลบูรพา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นั่นคือ…”

ซูฉินแตะปลายคาง แววตาครุ่นคิด

ในชั่วพริบตา ซูฉันรู้สึกได้รางๆ ถึงบางสิ่งมาจากทางทะเลทิศบูรพาไอพลังอันเก่าแก่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น

ไอพลังนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล แต่หาใช่สิ่งมีชีวิตไม่หากไม่ใช่เพราะวิชาปราณฉีฟ้ากําหนดที่สามารถตรวจจับไอพลังปราณได้ทั่วทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการเบิกเนตรดวงตาแห่งสัจจะเกรงว่าคงจะไม่ทันสังเกตเห็นไอพลังนี้

“มันเกี่ยวข้องกับการที่ปราณฉีฟื้นคืนหรือเปล่านะ?”

ใบหน้าของซูฉินครุ่นคิด

ก่อนที่ไอพลังอันเก่าแก่จากทะเลบูรพาจะปรากฏขึ้นกระแสปราณฉีระหว่างฟ้าดินได้พุ่งสูงขึ้นอีกระลอก

ซูฉินคาดเดาว่าเป็นเพราะกระแสพลังที่พุ่งสูงขึ้นทําให้ไอพลังนี้ปรากฏขึ้นตามมา

“น่าสนใจ”

“ดูเหมือนข้าจะต้องไปที่ทะเลบูรพาสักหน่อยแล้ว”

ความคิดของซูฉินผันผวน ใคร่ครวญอยู่ในใจเงียบๆ

ในระดับของซุฉิน นอกจากการข้ามผ่านคอขวดของขอบเขตอรหันต์แล้ว สิ่งอื่นที่พึงกระทําคือการหาสถานที่ลงชื่อเข้าใช้ที่มี “เต๋สะสม”เพียงพอ

และไอพลังจากทะเลบูรพานั้นเก่าแก่โบราณยิ่งหากซูฉินหามันพบจะต้องลงชื่อเข้าใช้ ได้รับของมาอีกมากแน่นอน

เป็นไปได้ว่าอาจจะช่วยซูฉินให้ฝ่าคอขวดขึ้นไปถึงขอบเขตยอดอรหันต์ได้

“ทะเลบูรพา……

ซูฉินกระซิบคํากับตนเอง

ทะเลบูรพาไม่ใช่ต่างดินแดน แต่เป็นพื้นที่ทะเลขนาดใหญ่ใกล้กับทิศตะวันออกของแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่โบราณกาลมามีตํานานมากมายเล่าขานเกี่ยวกับทะเลบูรพา เช่น วังมังกรแห่งทะเลบูรพาหรือเซียนแห่งทะเลบูรพา

ซูฉินยิ้มเยาะสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่เรียกว่าเซียนอมตะในสายตาของซูฉินก็เป็นเพียงจอมยุทธผู้ทรงพลังเท่านั้น

สําหรับปุถุชนไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธในขอบเขตตํานานยุทธขอบเขตเซียนเทพปฐพี และเซียนอมตะแท้จริงแล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งเหล่านี้เล่าพวกเขาจะรู้หรือไม่?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉินก็ก้าวเท้าหายไปจากโถงพระราชวังใต้ดินอันสูงสง่าและปรากฏตัวขึ้นเหนือน่านฟ้ากว่าพันเมตรมองเห็นเมืองฉางอันทั้งเมือง

ในเวลานี้ เมืองฉางอันมีหร่วนชิงและเหยียนไฟที่เป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สามคอยเฝ้าอยู่เป็นตัวตนที่สูงส่งอย่างยิ่งแม้จะต้องเจอศัตรูตัวฉกาจแต่ก็สามารถรั้งเอาไว้ ได้ชั่วขณะหนึ่งเพียงพอสําหรับซูฉินที่จะเร่งรุดกลับมา

ในเวลาต่อมา

“พุ่งไป”

ซูฉินแหวกอากาศพุ่งไปยังทะเลบูรพา

หากเป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่หนึ่งหรือชั้นที่สองการเหาะเหินเดินอากาศในระยะยาวอาจจะกินพลังงาน มากเกินไปแต่สําหรับนภาชั้นที่เจ็ดที่สามารถควบแน่น อาณาเขตได้แล้วอย่างซูฉินการโบยบินบนท้องฟ้าไม่ต่างไป จากความสามารถพื้นฐาน

ง่ายดายราวกับกินดื่มหรือเดินเล่น

ไม่นานนัก

ยังไม่ทันจะถึงหนึ่งชั่วโมง

ซูฉินก็มาถึงทะเลบูรพา

นี่ซูฉินจงใจลดความเร็วลงหน่อยแล้ว มิฉะนั้นคงมาถึงเร็วกว่านี้

“นี่คือทะเลบูรพา…”

ซูฉินกระซิบกับตนเองขณะมองไปยังผืนทะเลอัน กว้างใหญ่

คัมภีร์โบราณบันทึกเกี่ยวกับตํานานในทะเลบูรพาเอาไว้ไม่เพียงแต่มีวังมังกรแห่งทะเลบูรพาเท่านั้น แต่ยังมีสิบทวีปและสามเกาะซึ่งเซียนอมตะได้อาศัยอยู่ไม่รู้ว่าสมัยก่อนมียอดจักรพรรดิมากมายเพียงใดที่ส่งผู้คนออกไปยังท้องทะเลยามที่ตนแก่ชรา เพื่อตามหาเซียนอมตะพยายามจะค้น หาวิธีต่อชีวิตอีกครั้ง

น่าเสียดายที่ไม่มีจักรพรรดิพระองค์ใดบรรลุความปรารถนานี้ได้

ดูเหมือนว่าสิบทวีปและสามเกาะ จะมีอยู่จริงเพียงในตํานานเท่านั้น

“ถ้าสิบทวีปและสามเกาะมีอยู่จริง มันคงจะเป็นดินแดนของผู้ฝึกยุทธขอบเขตตํานานยุทธหรือแม้กระทั่งเซียนเทพปฐพีแน่นอนว่าที่นั้นจะต้องถูกปกคลุมไปด้วยค่ายกล ฟ้าดินจํานวนมากคนธรรมดาต่อให้ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่มีวัน หาพบ”

ซูฉินเดินไปบนทะเลบูรพา ในใจก็ใคร่ครวญอย่างรวดเร็ว

“นั่นแหละปัญหา…”

ซุฉินรู้สึกว่ามันค่อนข้างยุ่งยากทีเดียว

หากไอพลังที่เขารู้สึกนั้นมาจากสิบทวีปและอีกสามเกาะตามตํานานเล่าขานจริงๆ มันคงจะรายล้อมไปด้วยค่ายกล ฟ้าดินอันกว้างใหญ่ไพศาลและคงเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาพบจากการใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว

“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ใช้ไม่ได้ งั้นก็ต้องใช้อาณาเขต

ซูฉินตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิธีการ

ค่ายกลฟ้าดินนั้นสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับจากจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แต่เมื่ออยู่ภายใต้พื้นที่ของอาณาเขตย่อมไม่มีอะไรให้หลบซ่อนอีก

อาณาเขตคือสิ่งใด?

ภายในอาณาเขต ซูฉินเป็นนายเหนือหัวแต่เพียงผู้เดียวสามารถควบคุมทุกสิ่งจะมีอะไรซ่อนตัวจากเขาได้?

“แต่ทว่า หากต้องการจะค้นหาด้วยอาณาเขตจริงๆ คง จะครอบคลุมรัศมีแค่ร้อยจ้างเท่านั้นไม่ได้…”

อาณาเขตในรัศมีร้อยจ้างเป็นระยะที่แข็งแกร่งที่สุดของซูฉินภายในระยะนี้ซูฉินสามารถจัดการกับความสามารถในการควบคุมฟ้าดินของเหล่าตํานานยุทธได้อย่างง่าย ดาย กดระดับพวกเขาให้ต่ําลงไปจนไม่ต่างจากขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้น

แต่เมื่อเพิ่มระยะอาณาเขตออกไป ความสามารถในการควบคุมของซูฉินจะลดลงไปเรื่อยๆ

ตัวอย่างเช่น ในอาณาเขตรัศมีร้อยจ้าง ซูฉินสามารถตัดการใช้พลังฟ้าดินของตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่หกได้ในความคิดเดียวแต่จะเป็นเรื่องที่ยากมากหากขยายอาณา เขตออกไปเป็นพันจ้าง

แน่นอนว่าซูฉินกําลังจะตรวจสอบพื้นที่เท่านั้นในตอนนี้ไม่ใช่เพื่อกําจัดศัตรูไม่จําเป็นจะต้องควบคุมอาณาเขตมากขนาดนั้น

“งั้นก็ขยายระยะให้กว้างขึ้น”

เพียงซูฉันคิด อาณาเขตรัศมีร้อยจ้างก็แพร่ขยายออกไป

หากเขายังคงค้นหาด้วยอาณาเขตระยะร้อยจ้างต่อไปท่ามกลางน่านน้ําอันกว้างใหญ่ไพศาลของทะเลบูรพาเกรงว่าคงเป็นปีกว่าจะพบ

อาณาเขตระยะร้อยจ้างเป็นระยะที่ซูฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ซูฉินสามารถรับรู้ทุกสิ่งได้อย่างดีเยี่ยม

“ตอนนี้ก็ทําได้เพียงแค่รอ”

ซูฉินพบเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง จึงตัดต้นไม้แก่สองสามต้นมาสร้างแพเขานั่งแพล่องลอยไปตามทะเล

พระอาทิตย์สาดแสงมา สําหรับคนทั่วไปอาจจะรู้สึกได้ว่าร้อนเหลือทนแต่เมื่อแสงส่องกระทบร่างของซูฉินมันก็ทําให้เขารู้สึกเพียงอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น

แพลอยเอื่อยเฉื่อย และอาณาเขตก็ขยายระยะออกไปใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเพียงไม่กี่วันก็กวาดไปถึงครึ่งหนึ่งของทะเลบูรพา

ในช่วงสองสามวันมานี้ ซูฉินไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้เลยโอกาสในการลงชื่อเข้าใช้รายวันจึงถูกใช้ไปโดยร่างจําแลงภายในโลกถ้ําปีศาจ

“ด้วยความเร็วขนาดนี้ น่าจะสามารถกวาดไปทั่วทะเลบูรพาทั้งหมดได้ในเวลาไม่เกินสองวัน”

ซูฉินนอนอยู่บนแพ ล่องลอยไปตามกระแสน้ําครุ่นคิดไปมาอย่างช้าๆ

ไม่กี่วันมานี้ เขาไม่ได้ฝึกฝน ไม่ได้ปิดด่านฝึกตนได้แต่นอนบนแพล่องไปมองดูฟ้าดูทะเลที่กว้างไกลไร้ที่สิ้นสุดอึดอัดดีเหมือนกัน

ในช่วงเวลานี้ เขาได้พบสัตว์ทะเลบางตัวที่หมายตาตัวเขาไว้แต่จิตสังหารที่ส่งผ่านไอพลังออกไปทําให้พวกมันตื่นกลัวและหนีห่างไปจากซูฉินทันที

เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์เหล่านี้ไวต่ออันตรายมากกว่า

“กระแสพลังกําลังฟื้นคืนขั้นรุนแรงแม้กระทั่งสัตว์ทะเลเหล่านี้ก็เริ่มเกิดปัญญาขึ้นมาแล้ว”

ยามที่จ้องมองไปยังน้ําทะเลสีฟ้าซูฉินก็คิดอยู่ภายในใจ

“การฟื้นคืนของกระแสปราณฉีเป็นโอกาสที่ดีสําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นคืนของกระแสปราณฉีนี้ ”

มุมมองของซูฉินนั้นกว้างไกล

ตามการคาดเดาของเขาในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้เมื่อกระแสพลังฟื้นคืนจะมีสัตว์ร้ายผุดขึ้นตามรายทางฝึกฝนบ่มเพาะกลายเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรตามที่มีในตํานานอย่างแน่นอน

“ดูเหมือนตํานานเล่าขานจะไม่ใช่เรื่องแต่งเติมไปเสียทั้งหมด……..”

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

กลุ่มสัตว์อสูรถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณหลายเล่มแต่ซูฉินกลับไม่เคยพบสัตว์อสูรใดๆเลยหลังจากที่เขากลายเป็นอรหันต์มาหลายปี

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหตุผลที่ซูฉินไม่เห็นนั้นไม่ใช่เพราะไม่มีอยู่จริงแต่เพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออํานวย

และตอนนี้ ด้วยการฟื้นฟูของกระแสปราณฉีสภาพแวดล้อมภายในโลกมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นการกําเนิดของเหล่าสัตว์อสูรคงใช้เวลาอีกไม่นาน

ขณะที่ซูฉินกําลังคิดเรื่องเหล่านี้อยู่นั้น

เรือประมงก็แล่นเข้ามาหาอย่างช้าๆ

บนเรือประมงมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ ผิวออกคล้ําเล็กน้อยและพอมองเห็นได้ว่างดงามไม่น้อย

“พี่ชาย”

“ขึ้นมาเถอะ เราจะพาเจ้ากลับไปเอง”

หญิงสาวโบกมือ ตะโกนมาทางซูฉิน

ในมุมของหญิงสาว ซูฉินน่าจะเป็นชาวประมงบนเรือสินค้าสักลําแต่เมื่อออกทะเลไปอาจพบอุบัติเหตุทําให้เรืออับปาง ขาจึงต้องต่อแพขึ้นมาพยายามหาทางกลับเข้า ฝั่งด้วยแพนี้

ดังนั้นหญิงสาวจึงเสนอให้ซูฉินขึ้นเรือมากับพวกตน

ทะเลนั้นเต็มไปด้วยอันตราย แม้แต่เรือประมงขนาดใหญ่เท่ากับของนางก็ยังจมอยู่ก้นทะเลได้ นับประสาอะไรก็แพที่ซูฉินเหยียบอยู่?

เกรงว่าคลื่นซัดมา แพก็คงจมหายไปแล้ว

และถ้าไม่มีแพ แม้ว่าซูฉินจะไม่จมลงไปในน้ําแต่ไม่ช้าก็เร็วคงต้องตกลงไปอยู่ในท้องของสัตว์ทะเลสักตัว

“ไม่เป็นไร”

ซูฉินโบกมือ ไม่ได้พูดอะไรมาก

“ไม่เป็นไร?” หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

“อาตั๋ว ในเมื่อเขาต้องการอยู่เป็นอาหารสัตว์ทะเลพวกเราก็ปล่อยเขาไปเถอะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาเหลือบมองมาทางซูฉินจากบนเรือแล้วจึงกล่าวคํา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 207 (1) เกาะเซียนทะเลบูรพา

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 207 (1) เกาะเซียนทะเลบูรพา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นั่นคือ…”

ซูฉินแตะปลายคาง แววตาครุ่นคิด

ในชั่วพริบตา ซูฉันรู้สึกได้รางๆ ถึงบางสิ่งมาจากทางทะเลทิศบูรพาไอพลังอันเก่าแก่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้น

ไอพลังนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล แต่หาใช่สิ่งมีชีวิตไม่หากไม่ใช่เพราะวิชาปราณฉีฟ้ากําหนดที่สามารถตรวจจับไอพลังปราณได้ทั่วทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการเบิกเนตรดวงตาแห่งสัจจะเกรงว่าคงจะไม่ทันสังเกตเห็นไอพลังนี้

“มันเกี่ยวข้องกับการที่ปราณฉีฟื้นคืนหรือเปล่านะ?”

ใบหน้าของซูฉินครุ่นคิด

ก่อนที่ไอพลังอันเก่าแก่จากทะเลบูรพาจะปรากฏขึ้นกระแสปราณฉีระหว่างฟ้าดินได้พุ่งสูงขึ้นอีกระลอก

ซูฉินคาดเดาว่าเป็นเพราะกระแสพลังที่พุ่งสูงขึ้นทําให้ไอพลังนี้ปรากฏขึ้นตามมา

“น่าสนใจ”

“ดูเหมือนข้าจะต้องไปที่ทะเลบูรพาสักหน่อยแล้ว”

ความคิดของซูฉินผันผวน ใคร่ครวญอยู่ในใจเงียบๆ

ในระดับของซุฉิน นอกจากการข้ามผ่านคอขวดของขอบเขตอรหันต์แล้ว สิ่งอื่นที่พึงกระทําคือการหาสถานที่ลงชื่อเข้าใช้ที่มี “เต๋สะสม”เพียงพอ

และไอพลังจากทะเลบูรพานั้นเก่าแก่โบราณยิ่งหากซูฉินหามันพบจะต้องลงชื่อเข้าใช้ ได้รับของมาอีกมากแน่นอน

เป็นไปได้ว่าอาจจะช่วยซูฉินให้ฝ่าคอขวดขึ้นไปถึงขอบเขตยอดอรหันต์ได้

“ทะเลบูรพา……

ซูฉินกระซิบคํากับตนเอง

ทะเลบูรพาไม่ใช่ต่างดินแดน แต่เป็นพื้นที่ทะเลขนาดใหญ่ใกล้กับทิศตะวันออกของแผ่นดินใหญ่ ตั้งแต่โบราณกาลมามีตํานานมากมายเล่าขานเกี่ยวกับทะเลบูรพา เช่น วังมังกรแห่งทะเลบูรพาหรือเซียนแห่งทะเลบูรพา

ซูฉินยิ้มเยาะสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่เรียกว่าเซียนอมตะในสายตาของซูฉินก็เป็นเพียงจอมยุทธผู้ทรงพลังเท่านั้น

สําหรับปุถุชนไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธในขอบเขตตํานานยุทธขอบเขตเซียนเทพปฐพี และเซียนอมตะแท้จริงแล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งเหล่านี้เล่าพวกเขาจะรู้หรือไม่?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉินก็ก้าวเท้าหายไปจากโถงพระราชวังใต้ดินอันสูงสง่าและปรากฏตัวขึ้นเหนือน่านฟ้ากว่าพันเมตรมองเห็นเมืองฉางอันทั้งเมือง

ในเวลานี้ เมืองฉางอันมีหร่วนชิงและเหยียนไฟที่เป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สามคอยเฝ้าอยู่เป็นตัวตนที่สูงส่งอย่างยิ่งแม้จะต้องเจอศัตรูตัวฉกาจแต่ก็สามารถรั้งเอาไว้ ได้ชั่วขณะหนึ่งเพียงพอสําหรับซูฉินที่จะเร่งรุดกลับมา

ในเวลาต่อมา

“พุ่งไป”

ซูฉินแหวกอากาศพุ่งไปยังทะเลบูรพา

หากเป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่หนึ่งหรือชั้นที่สองการเหาะเหินเดินอากาศในระยะยาวอาจจะกินพลังงาน มากเกินไปแต่สําหรับนภาชั้นที่เจ็ดที่สามารถควบแน่น อาณาเขตได้แล้วอย่างซูฉินการโบยบินบนท้องฟ้าไม่ต่างไป จากความสามารถพื้นฐาน

ง่ายดายราวกับกินดื่มหรือเดินเล่น

ไม่นานนัก

ยังไม่ทันจะถึงหนึ่งชั่วโมง

ซูฉินก็มาถึงทะเลบูรพา

นี่ซูฉินจงใจลดความเร็วลงหน่อยแล้ว มิฉะนั้นคงมาถึงเร็วกว่านี้

“นี่คือทะเลบูรพา…”

ซูฉินกระซิบกับตนเองขณะมองไปยังผืนทะเลอัน กว้างใหญ่

คัมภีร์โบราณบันทึกเกี่ยวกับตํานานในทะเลบูรพาเอาไว้ไม่เพียงแต่มีวังมังกรแห่งทะเลบูรพาเท่านั้น แต่ยังมีสิบทวีปและสามเกาะซึ่งเซียนอมตะได้อาศัยอยู่ไม่รู้ว่าสมัยก่อนมียอดจักรพรรดิมากมายเพียงใดที่ส่งผู้คนออกไปยังท้องทะเลยามที่ตนแก่ชรา เพื่อตามหาเซียนอมตะพยายามจะค้น หาวิธีต่อชีวิตอีกครั้ง

น่าเสียดายที่ไม่มีจักรพรรดิพระองค์ใดบรรลุความปรารถนานี้ได้

ดูเหมือนว่าสิบทวีปและสามเกาะ จะมีอยู่จริงเพียงในตํานานเท่านั้น

“ถ้าสิบทวีปและสามเกาะมีอยู่จริง มันคงจะเป็นดินแดนของผู้ฝึกยุทธขอบเขตตํานานยุทธหรือแม้กระทั่งเซียนเทพปฐพีแน่นอนว่าที่นั้นจะต้องถูกปกคลุมไปด้วยค่ายกล ฟ้าดินจํานวนมากคนธรรมดาต่อให้ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่มีวัน หาพบ”

ซูฉินเดินไปบนทะเลบูรพา ในใจก็ใคร่ครวญอย่างรวดเร็ว

“นั่นแหละปัญหา…”

ซุฉินรู้สึกว่ามันค่อนข้างยุ่งยากทีเดียว

หากไอพลังที่เขารู้สึกนั้นมาจากสิบทวีปและอีกสามเกาะตามตํานานเล่าขานจริงๆ มันคงจะรายล้อมไปด้วยค่ายกล ฟ้าดินอันกว้างใหญ่ไพศาลและคงเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาพบจากการใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว

“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ใช้ไม่ได้ งั้นก็ต้องใช้อาณาเขต

ซูฉินตัดสินใจเปลี่ยนแปลงวิธีการ

ค่ายกลฟ้าดินนั้นสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับจากจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แต่เมื่ออยู่ภายใต้พื้นที่ของอาณาเขตย่อมไม่มีอะไรให้หลบซ่อนอีก

อาณาเขตคือสิ่งใด?

ภายในอาณาเขต ซูฉินเป็นนายเหนือหัวแต่เพียงผู้เดียวสามารถควบคุมทุกสิ่งจะมีอะไรซ่อนตัวจากเขาได้?

“แต่ทว่า หากต้องการจะค้นหาด้วยอาณาเขตจริงๆ คง จะครอบคลุมรัศมีแค่ร้อยจ้างเท่านั้นไม่ได้…”

อาณาเขตในรัศมีร้อยจ้างเป็นระยะที่แข็งแกร่งที่สุดของซูฉินภายในระยะนี้ซูฉินสามารถจัดการกับความสามารถในการควบคุมฟ้าดินของเหล่าตํานานยุทธได้อย่างง่าย ดาย กดระดับพวกเขาให้ต่ําลงไปจนไม่ต่างจากขอบเขตวิทยายุทธทั้งเก้าระดับชั้น

แต่เมื่อเพิ่มระยะอาณาเขตออกไป ความสามารถในการควบคุมของซูฉินจะลดลงไปเรื่อยๆ

ตัวอย่างเช่น ในอาณาเขตรัศมีร้อยจ้าง ซูฉินสามารถตัดการใช้พลังฟ้าดินของตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่หกได้ในความคิดเดียวแต่จะเป็นเรื่องที่ยากมากหากขยายอาณา เขตออกไปเป็นพันจ้าง

แน่นอนว่าซูฉินกําลังจะตรวจสอบพื้นที่เท่านั้นในตอนนี้ไม่ใช่เพื่อกําจัดศัตรูไม่จําเป็นจะต้องควบคุมอาณาเขตมากขนาดนั้น

“งั้นก็ขยายระยะให้กว้างขึ้น”

เพียงซูฉันคิด อาณาเขตรัศมีร้อยจ้างก็แพร่ขยายออกไป

หากเขายังคงค้นหาด้วยอาณาเขตระยะร้อยจ้างต่อไปท่ามกลางน่านน้ําอันกว้างใหญ่ไพศาลของทะเลบูรพาเกรงว่าคงเป็นปีกว่าจะพบ

อาณาเขตระยะร้อยจ้างเป็นระยะที่ซูฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ซูฉินสามารถรับรู้ทุกสิ่งได้อย่างดีเยี่ยม

“ตอนนี้ก็ทําได้เพียงแค่รอ”

ซูฉินพบเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง จึงตัดต้นไม้แก่สองสามต้นมาสร้างแพเขานั่งแพล่องลอยไปตามทะเล

พระอาทิตย์สาดแสงมา สําหรับคนทั่วไปอาจจะรู้สึกได้ว่าร้อนเหลือทนแต่เมื่อแสงส่องกระทบร่างของซูฉินมันก็ทําให้เขารู้สึกเพียงอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น

แพลอยเอื่อยเฉื่อย และอาณาเขตก็ขยายระยะออกไปใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเพียงไม่กี่วันก็กวาดไปถึงครึ่งหนึ่งของทะเลบูรพา

ในช่วงสองสามวันมานี้ ซูฉินไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้เลยโอกาสในการลงชื่อเข้าใช้รายวันจึงถูกใช้ไปโดยร่างจําแลงภายในโลกถ้ําปีศาจ

“ด้วยความเร็วขนาดนี้ น่าจะสามารถกวาดไปทั่วทะเลบูรพาทั้งหมดได้ในเวลาไม่เกินสองวัน”

ซูฉินนอนอยู่บนแพ ล่องลอยไปตามกระแสน้ําครุ่นคิดไปมาอย่างช้าๆ

ไม่กี่วันมานี้ เขาไม่ได้ฝึกฝน ไม่ได้ปิดด่านฝึกตนได้แต่นอนบนแพล่องไปมองดูฟ้าดูทะเลที่กว้างไกลไร้ที่สิ้นสุดอึดอัดดีเหมือนกัน

ในช่วงเวลานี้ เขาได้พบสัตว์ทะเลบางตัวที่หมายตาตัวเขาไว้แต่จิตสังหารที่ส่งผ่านไอพลังออกไปทําให้พวกมันตื่นกลัวและหนีห่างไปจากซูฉินทันที

เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์เหล่านี้ไวต่ออันตรายมากกว่า

“กระแสพลังกําลังฟื้นคืนขั้นรุนแรงแม้กระทั่งสัตว์ทะเลเหล่านี้ก็เริ่มเกิดปัญญาขึ้นมาแล้ว”

ยามที่จ้องมองไปยังน้ําทะเลสีฟ้าซูฉินก็คิดอยู่ภายในใจ

“การฟื้นคืนของกระแสปราณฉีเป็นโอกาสที่ดีสําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นคืนของกระแสปราณฉีนี้ ”

มุมมองของซูฉินนั้นกว้างไกล

ตามการคาดเดาของเขาในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้เมื่อกระแสพลังฟื้นคืนจะมีสัตว์ร้ายผุดขึ้นตามรายทางฝึกฝนบ่มเพาะกลายเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรตามที่มีในตํานานอย่างแน่นอน

“ดูเหมือนตํานานเล่าขานจะไม่ใช่เรื่องแต่งเติมไปเสียทั้งหมด……..”

ซูฉินพยักหน้าเล็กน้อย

กลุ่มสัตว์อสูรถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณหลายเล่มแต่ซูฉินกลับไม่เคยพบสัตว์อสูรใดๆเลยหลังจากที่เขากลายเป็นอรหันต์มาหลายปี

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหตุผลที่ซูฉินไม่เห็นนั้นไม่ใช่เพราะไม่มีอยู่จริงแต่เพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออํานวย

และตอนนี้ ด้วยการฟื้นฟูของกระแสปราณฉีสภาพแวดล้อมภายในโลกมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นการกําเนิดของเหล่าสัตว์อสูรคงใช้เวลาอีกไม่นาน

ขณะที่ซูฉินกําลังคิดเรื่องเหล่านี้อยู่นั้น

เรือประมงก็แล่นเข้ามาหาอย่างช้าๆ

บนเรือประมงมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ ผิวออกคล้ําเล็กน้อยและพอมองเห็นได้ว่างดงามไม่น้อย

“พี่ชาย”

“ขึ้นมาเถอะ เราจะพาเจ้ากลับไปเอง”

หญิงสาวโบกมือ ตะโกนมาทางซูฉิน

ในมุมของหญิงสาว ซูฉินน่าจะเป็นชาวประมงบนเรือสินค้าสักลําแต่เมื่อออกทะเลไปอาจพบอุบัติเหตุทําให้เรืออับปาง ขาจึงต้องต่อแพขึ้นมาพยายามหาทางกลับเข้า ฝั่งด้วยแพนี้

ดังนั้นหญิงสาวจึงเสนอให้ซูฉินขึ้นเรือมากับพวกตน

ทะเลนั้นเต็มไปด้วยอันตราย แม้แต่เรือประมงขนาดใหญ่เท่ากับของนางก็ยังจมอยู่ก้นทะเลได้ นับประสาอะไรก็แพที่ซูฉินเหยียบอยู่?

เกรงว่าคลื่นซัดมา แพก็คงจมหายไปแล้ว

และถ้าไม่มีแพ แม้ว่าซูฉินจะไม่จมลงไปในน้ําแต่ไม่ช้าก็เร็วคงต้องตกลงไปอยู่ในท้องของสัตว์ทะเลสักตัว

“ไม่เป็นไร”

ซูฉินโบกมือ ไม่ได้พูดอะไรมาก

“ไม่เป็นไร?” หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

“อาตั๋ว ในเมื่อเขาต้องการอยู่เป็นอาหารสัตว์ทะเลพวกเราก็ปล่อยเขาไปเถอะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาเหลือบมองมาทางซูฉินจากบนเรือแล้วจึงกล่าวคํา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+