เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 56 การกลับมาของจอมมาร สั่นสะเทือนยุทธภพ!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 56 การกลับมาของจอมมาร สั่นสะเทือนยุทธภพ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 56 การกลับมาของจอมมาร สั่นสะเทือนยุทธภพ!

 

 

ต้าถัง

 

นิกายเทียนไถ

 

ในฐานะที่เป็นสุดยอดพรรคฝ่ายธรรมะภายใต้ราชวงศ์ถัง นิกายเทียนไถมีศิษย์สาวกมากมาย และมีนักพรตเทียนเหลียนที่เป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด

 

แม้ว่านิกายเทียนไถจะไม่ได้สืบทอดมรดกยาวนานเท่าวัดเส้าหลินที่อยู่มานับพันปี แต่ศิษย์รุ่นนี้ของนิกายก็อยู่ในช่วงรุ่งเรือง นอกจากนักพรตเทียนเหลียนแล้ว ยังมียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งถือกำเนิดขึ้นอีกสองคน

 

ในขณะนี้ที่นิกายเทียนไถ สาวกของนิกายหลายคนต่างกำลังพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“ผู้อาวุโสหร่วน เมื่อไม่นานมานี้เจ้าได้เข้าร่วมปิดล้อมปราบปรามสาวกที่เหลือของพรรคมารมานี่ เป็นเยี่ยงไรบ้างเล่า ข้าได้ยินว่าพวกที่เหลือของพรรคมารนั้นเจ้าเล่ห์และโหดร้ายอย่างมาก…”

 

ศิษย์หนุ่มเริ่มเอ่ยถามอย่างสงสัย

 

“เฮ้เฮ้…”

 

ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหร่วนยิ้มเยาะ “ผลลัพธ์จะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? พวกเด็กอมมือพรรคมารเหล่านั้นจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของนิกายเทียนไถของเราได้อย่างไร นี่เป็นการร่วมมือกันของกลุ่มสำนักฝ่ายธรรมะ แล้วเป็นนิกายเทียนไถของเรานี่แหละที่กวาดล้างพวกที่เหลือของพรรคมารไปได้มากที่สุด…”

 

ผู้อาวุโสหร่วนกล่าวอย่างมีชัย

 

ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วที่เหล่ายอดฝีมือและอาวุโสในสามระดับบนของพรรคมารได้ตกตายลงในชั่วข้ามคืน สาวกจำนวนนับไม่ถ้วนของพรรคมารต่างพากันหนีไปด้วยความหวาดกลัวและแยกย้ายกระจัดกระจายกันออกไป

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อกำจัดต้นตอให้สิ้นซาก สำนักฝ่ายธรรมะ นำโดยนิกายเทียนไถได้รวมกองกำลังเข้าปิดล้อมและปราบปรามเหล่าสาวกพรรคมารที่หลงเหลืออยู่

 

“อย่างไรก็ตามข้าได้ยินมาว่าสาเหตุที่สาวกพรรคมารต้องยุบตัวลงเช่นนี้เป็นเพราะสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามแห่งวัดเส้าหลิน…”

 

ศิษย์หนุ่มคนเมื่อครู่เหมือนจะคิดอะไรออก และถามต่ออย่างกระตือรือร้น

 

อาวุโสหร่วนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พูดออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ความดีความชอบบางส่วนก็ต้องยกให้กับวัดเส้าหลินอย่างแน่นอน”

 

ทันใดนั้น

 

เสียงแหบแห้งและเย็นชาก็ดังขึ้นมา

 

“โอ้?”

 

“นิกายเทียนไถของพวกเจ้าสังหารสาวกพรรคมารไปมากที่สุดงั้นหรือ?”

 

เห็นเป็นชายชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

 

ชายชุดดำอยู่ห่างออกไปเป็นพันเมตรในทีแรก แต่พริบตาเดียวเขาก็มาถึงด้านหน้านิกายเทียนไถแล้ว

 

“เจ้าเป็นใคร?”

 

ผู้อาวุโสหร่วนมองไปที่ชายชุดดำโดยไม่มีความเกรงกลัวบนใบหน้าของเขา

 

รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือนิกายเทียนไถ ต่อให้ชายชุดดำคนนี้จะมีความกล้าหาญมากเพียงใด เขาจะกล้าลงมือที่นี่งั้นหรือ?

 

“ข้าเป็นใคร?”

 

ชายในชุดดำยกมือขึ้นมาเล็กน้อย และไอมารก็กระจายออกมาเป็นปีกกระจายตัวเข้าครอบคลุมไปทั่วทุกมุม

 

“ข้าก็เป็นเจ้าของพรรคมารที่เจ้ากำลังพูดถึงอยู่นั่นอย่างไรเล่า”

 

ปึง

 

ทั้งผู้อาวุโสหร่วนและเหล่าสาวกทั้งหลายของนิกายเทียนไถล้วนกลายเป็นละอองเลือดในฉับพลัน

 

“คนที่แข็งแกร่งเยี่ยงเจ้าคือใครกัน?!”

 

เสียงตะโกนแหวกอากาศออกมาอย่างรุนแรง และร่างของรองผู้นำนิกายเทียนไถก็วูบไหวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วจ้องไปที่ชายชุดดำด้วยสายตาเคร่งขรึม

 

“ดูเหมือนว่า เวลาห้าสิบปีที่ข้าห่างหายไปจากยุทธภพ จะมีคนหลงลืมไปแล้วสินะว่าข้าเป็นใคร”

 

ชายชุดดำหัวเราะอย่างดุดัน สะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียวกระแทกใส่รองผู้นำนิกายเทียนไถที่เพิ่งมาถึง

 

“เจ้า?!”

 

รองผู้นำนิกายเทียนไถอาเจียนออกมาเป็นเลือด และมองไปที่ชายชุดดำด้วยความตกใจ

 

เขาไม่คาดคิดว่าชายชุดคลุมสีดำตรงหน้าจะทรงพลังน่าหวาดหวั่นขนาดนี้

 

ในตอนนั้นเอง

 

เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังแว่วมา

 

“ข้าไม่ได้พบเจ้ามากว่าห้าสิบปีแล้ว เจ้าจอมมารนี่ยังดูแข็งแกร่งเหมือนเก่าเลยนะ…”

 

ผู้นำนิกายเทียนไถเดินเข้ามาช้าๆ มองไปที่ชายในชุดคลุมสีดำด้วยแววตาซับซ้อน

 

“อะไรนะ?”

 

“จอมมาร?”

 

“ห้าสิบปี?”

 

รองผู้นำนิกายเทียนไถที่ยืนถัดจากตัวผู้นำ สีหน้าเปลี่ยนไปมากและมองไปที่ชายชุดดำอย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

ถ้าฟังแค่ในส่วนที่ว่า ห้าสิบปีก่อน เขาจะไม่เอะใจอะไร แต่ถ้าเพิ่มคำว่าจอมมารเข้ามาด้วยมันชักจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว

 

ห้าสิบปีก่อน มียอดปรมาจารย์ปรากฏตัวขึ้นในพรรคมาร

 

ด้วยการนำพาของมัน พรรคมารเจริญสู่ความรุ่งโรจน์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อต้านพวกมัน

 

แต่โชคยังดีที่จู่ๆ จอมมารผู้นั้นก็หายตัวไปอย่างไม่มีใครทราบสาเหตุ พรรคมารจึงสูญเสียอำนาจส่วนหนึ่งไป และด้วยการต่อสู้กันระหว่างธรรมะและอธรรม พรรคมารถูกกดดันให้ถอยร่นเข้าสู่ยงโจวในที่สุด

 

ทั่วทั้งยุทธภพลือกันว่าผู้นำของพรรคมารได้ตกตายลงไปแล้ว ไม่เช่นนั้นทำไมตลอดห้าสิบปีถึงไม่โผล่ตัวมาเลยเล่า? ไยจึงยอมให้พรรคมารเสื่อมถอยลง?

 

แต่ตอนนี้รองผู้นำนิกายเทียนไถเหม่อมองไปที่ชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ไม่ไกล ความตกใจสะท้อนอยู่ในอก

 

“จอมมารมาที่นี่มีเหตุอันใดหรือ?”

 

นักพรตเทียนเหลียนกล่าวออกด้วยท่าทีเคร่งขรึม

 

เมื่อห้าสิบปีก่อนจอมมารถึงจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่ง และปัจจุบันตัวเขาเองก็กลายมาเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุดด้วยเช่นกัน ถึงแม้นักพรตเทียนเหลียนจะเกรงกลัวจอมมาร แต่ก็ไม่ได้กลัวมากขนาดนั้น

 

ทั้งคู่ต่างเป็นจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่ง แม้นนักพรตเทียนเหลียนจะจัดการอีกฝ่ายไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ฆ่านักพรตเทียนเหลียนไม่ได้เช่นกัน

 

ด้วยเหตุนี้นักพรตเทียนเหลียนจึงกล้าออกมาเผชิญหน้ากับจอมมาร

 

“เหตุผลมันง่ายมาก”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจอมมารชุดดำ

 

“พวกเจ้าสังหารสาวกพรรคมารของข้า”

 

“ข้าก็จะทำลายนิกายเทียนไถของเจ้า”

 

ทันทีที่ชายชุดดำกล่าวจบ พลังมารอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา โอบล้อมไปทั่วทุกสารทิศ

 

เพียงครึ่งวันต่อมา

 

นักพรตเทียนเหลียน ผู้นำนิกายเทียนไถตกตายในระหว่างการต่อสู้และรองผู้นำนิกายในระดับชั้นที่หนึ่งทั้งสองคนก็ตายในสถานที่สู้รบ มีเพียงสาวกนิกายเทียนไถไม่กี่ชีวิตเท่านั้นที่รอดไปได้ แต่ส่วนใหญ่ล้วนนอนตายกลายเป็นศพอยู่ที่นี่

 

 

จอมมารได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว

 

สาวกนิกายเทียนไถที่หลบหนีออกไปได้ พวกเขาก็ส่งข่าวต่อไปยังสำนักพรรคนิกายในอาณาจักรราชวงศ์ถังทันที ด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง

 

บางทีคนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้ความ แต่จอมยุทธรุ่นเก่าที่รอดชีวิตมาได้เมื่อห้าสิบปีก่อน รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของจอมมารดี

 

เมื่อห้าสิบปีก่อน จอมมารได้ใช้พลังของตัวเองเพียงผู้เดียวในการปราบสำนักฝ่ายธรรมะอย่างมิเกรงฟ้ากลัวดิน หากมันไม่ได้หายตัวอย่างลึกลับในยามนั้น เกรงว่าสำนักพรรคต่างๆ ทั่วทั้งยุทธภพคงจะต้องถูกปกครองโดยจอมมารไปเสียแล้ว

 

“เป็นไปได้เยี่ยงไร?”

 

“นักพรตเทียนเหลียนเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุด แม้เขาจะพ่ายแพ้ให้กับจอมมารแต่เขาก็ไม่ควรจะตกตายในระหว่างการต่อสู้มิใช่หรือ?”

 

“เป็นไปได้ไหมว่าวิทยายุทธของจอมมารก้าวหน้าขึ้น”

 

จอมยุทธจำนวนนับไม่ถ้วนต่างสั่นสะท้านในหัวใจ

 

แม้จะเป็นนักพรตจางแห่งเขาหวู่ตั้งที่อยู่ในจุดสูงสุดระดับชั้นที่หนึ่งก็เถอะ ตัวนักพรตจางนั้นแตกต่างไปจากจอมมาร

 

นักพรตจางสำเร็จจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่งในช่วงห้าสิบปีที่จอมมารหายตัวไป และตัวเขาก็มีบุคลิกที่สงบเสงี่ยม ตัดขาดจากโลก ไร้ความทะเยอทะยาน

 

แต่กับจอมมาร…

 

เมื่อใดที่จอมมารครองอำนาจในยุทธภพได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่อาจจะเป็นนรกบนดิน

 

หลังจากที่จอมมารกลับมาอีกครั้ง มันจะต้องรวบรวมเหล่าสาวกพรรคมารที่กระจัดกระจายกันออกไป แล้วสร้างพรรคมารขึ้นมาใหม่และจะเริ่มออกล่าฝ่ายธรรมะที่เคยสังหารสาวกพรรคมารอย่างแน่นอน

 

ในช่วงเวลานี้พรรคมารจะรุ่งเรือง และฝ่ายธรรมะจะต้องสูญเสียดินแดนที่เคยมีไป

 

เหล่ายอดฝีมือระดับชั้นที่หนึ่งของฝ่ายธรรมะมิใช่ว่ามิคิดต่อต้าน แต่ทุกครั้งที่รวมกำลังกันเข้าสู้ก็ถูกสยบด้วยน้ำมือของจอมมาร

 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ผู้คนเชื่อมากขึ้นว่า จอมมารได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุดผู้อยู่เหนือใต้หล้า

 

และเมื่อยามที่จอมมารทรงพลังอำนาจมากขึ้น เขาก็ป่าวประกาศออกมาว่า

 

“สิบวันนับจากนี้ ข้าจะขึ้นภูเขาไปวัดเส้าหลินด้วยเรื่องส่วนตัวและจะขอพบสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามของวัดเส้าหลินสักหน่อย!”

 

เหมือนเวลาหยุดนิ่ง

 

จอมยุทธทั้งหลายต่างตระหนักถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของการปรากฏตัวของจอมมารในครั้งนี้

 

สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามแห่งวัดเส้าหลิน?

 

ทุกคนต่างสงสัยว่าสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามแห่งวัดเส้าหลินรูปนี้จะเป็นคู่ต่อสู้กับจอมมารได้จริงหรือ?

 

ขณะที่โลกภายนอกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

 

ภายในวัดเส้าหลิน

 

พื้นต้องห้ามภูเขาด้านหลัง

 

การผ่าด่านของซูฉินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 56 การกลับมาของจอมมาร สั่นสะเทือนยุทธภพ!

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 56 การกลับมาของจอมมาร สั่นสะเทือนยุทธภพ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 56 การกลับมาของจอมมาร สั่นสะเทือนยุทธภพ!

 

 

ต้าถัง

 

นิกายเทียนไถ

 

ในฐานะที่เป็นสุดยอดพรรคฝ่ายธรรมะภายใต้ราชวงศ์ถัง นิกายเทียนไถมีศิษย์สาวกมากมาย และมีนักพรตเทียนเหลียนที่เป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด

 

แม้ว่านิกายเทียนไถจะไม่ได้สืบทอดมรดกยาวนานเท่าวัดเส้าหลินที่อยู่มานับพันปี แต่ศิษย์รุ่นนี้ของนิกายก็อยู่ในช่วงรุ่งเรือง นอกจากนักพรตเทียนเหลียนแล้ว ยังมียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งถือกำเนิดขึ้นอีกสองคน

 

ในขณะนี้ที่นิกายเทียนไถ สาวกของนิกายหลายคนต่างกำลังพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา

 

“ผู้อาวุโสหร่วน เมื่อไม่นานมานี้เจ้าได้เข้าร่วมปิดล้อมปราบปรามสาวกที่เหลือของพรรคมารมานี่ เป็นเยี่ยงไรบ้างเล่า ข้าได้ยินว่าพวกที่เหลือของพรรคมารนั้นเจ้าเล่ห์และโหดร้ายอย่างมาก…”

 

ศิษย์หนุ่มเริ่มเอ่ยถามอย่างสงสัย

 

“เฮ้เฮ้…”

 

ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหร่วนยิ้มเยาะ “ผลลัพธ์จะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? พวกเด็กอมมือพรรคมารเหล่านั้นจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของนิกายเทียนไถของเราได้อย่างไร นี่เป็นการร่วมมือกันของกลุ่มสำนักฝ่ายธรรมะ แล้วเป็นนิกายเทียนไถของเรานี่แหละที่กวาดล้างพวกที่เหลือของพรรคมารไปได้มากที่สุด…”

 

ผู้อาวุโสหร่วนกล่าวอย่างมีชัย

 

ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วที่เหล่ายอดฝีมือและอาวุโสในสามระดับบนของพรรคมารได้ตกตายลงในชั่วข้ามคืน สาวกจำนวนนับไม่ถ้วนของพรรคมารต่างพากันหนีไปด้วยความหวาดกลัวและแยกย้ายกระจัดกระจายกันออกไป

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อกำจัดต้นตอให้สิ้นซาก สำนักฝ่ายธรรมะ นำโดยนิกายเทียนไถได้รวมกองกำลังเข้าปิดล้อมและปราบปรามเหล่าสาวกพรรคมารที่หลงเหลืออยู่

 

“อย่างไรก็ตามข้าได้ยินมาว่าสาเหตุที่สาวกพรรคมารต้องยุบตัวลงเช่นนี้เป็นเพราะสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามแห่งวัดเส้าหลิน…”

 

ศิษย์หนุ่มคนเมื่อครู่เหมือนจะคิดอะไรออก และถามต่ออย่างกระตือรือร้น

 

อาวุโสหร่วนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พูดออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ความดีความชอบบางส่วนก็ต้องยกให้กับวัดเส้าหลินอย่างแน่นอน”

 

ทันใดนั้น

 

เสียงแหบแห้งและเย็นชาก็ดังขึ้นมา

 

“โอ้?”

 

“นิกายเทียนไถของพวกเจ้าสังหารสาวกพรรคมารไปมากที่สุดงั้นหรือ?”

 

เห็นเป็นชายชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

 

ชายชุดดำอยู่ห่างออกไปเป็นพันเมตรในทีแรก แต่พริบตาเดียวเขาก็มาถึงด้านหน้านิกายเทียนไถแล้ว

 

“เจ้าเป็นใคร?”

 

ผู้อาวุโสหร่วนมองไปที่ชายชุดดำโดยไม่มีความเกรงกลัวบนใบหน้าของเขา

 

รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือนิกายเทียนไถ ต่อให้ชายชุดดำคนนี้จะมีความกล้าหาญมากเพียงใด เขาจะกล้าลงมือที่นี่งั้นหรือ?

 

“ข้าเป็นใคร?”

 

ชายในชุดดำยกมือขึ้นมาเล็กน้อย และไอมารก็กระจายออกมาเป็นปีกกระจายตัวเข้าครอบคลุมไปทั่วทุกมุม

 

“ข้าก็เป็นเจ้าของพรรคมารที่เจ้ากำลังพูดถึงอยู่นั่นอย่างไรเล่า”

 

ปึง

 

ทั้งผู้อาวุโสหร่วนและเหล่าสาวกทั้งหลายของนิกายเทียนไถล้วนกลายเป็นละอองเลือดในฉับพลัน

 

“คนที่แข็งแกร่งเยี่ยงเจ้าคือใครกัน?!”

 

เสียงตะโกนแหวกอากาศออกมาอย่างรุนแรง และร่างของรองผู้นำนิกายเทียนไถก็วูบไหวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วจ้องไปที่ชายชุดดำด้วยสายตาเคร่งขรึม

 

“ดูเหมือนว่า เวลาห้าสิบปีที่ข้าห่างหายไปจากยุทธภพ จะมีคนหลงลืมไปแล้วสินะว่าข้าเป็นใคร”

 

ชายชุดดำหัวเราะอย่างดุดัน สะบัดนิ้วเพียงครั้งเดียวกระแทกใส่รองผู้นำนิกายเทียนไถที่เพิ่งมาถึง

 

“เจ้า?!”

 

รองผู้นำนิกายเทียนไถอาเจียนออกมาเป็นเลือด และมองไปที่ชายชุดดำด้วยความตกใจ

 

เขาไม่คาดคิดว่าชายชุดคลุมสีดำตรงหน้าจะทรงพลังน่าหวาดหวั่นขนาดนี้

 

ในตอนนั้นเอง

 

เสียงถอนหายใจเบาๆ ดังแว่วมา

 

“ข้าไม่ได้พบเจ้ามากว่าห้าสิบปีแล้ว เจ้าจอมมารนี่ยังดูแข็งแกร่งเหมือนเก่าเลยนะ…”

 

ผู้นำนิกายเทียนไถเดินเข้ามาช้าๆ มองไปที่ชายในชุดคลุมสีดำด้วยแววตาซับซ้อน

 

“อะไรนะ?”

 

“จอมมาร?”

 

“ห้าสิบปี?”

 

รองผู้นำนิกายเทียนไถที่ยืนถัดจากตัวผู้นำ สีหน้าเปลี่ยนไปมากและมองไปที่ชายชุดดำอย่างไม่อยากจะเชื่อ

 

ถ้าฟังแค่ในส่วนที่ว่า ห้าสิบปีก่อน เขาจะไม่เอะใจอะไร แต่ถ้าเพิ่มคำว่าจอมมารเข้ามาด้วยมันชักจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว

 

ห้าสิบปีก่อน มียอดปรมาจารย์ปรากฏตัวขึ้นในพรรคมาร

 

ด้วยการนำพาของมัน พรรคมารเจริญสู่ความรุ่งโรจน์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อต้านพวกมัน

 

แต่โชคยังดีที่จู่ๆ จอมมารผู้นั้นก็หายตัวไปอย่างไม่มีใครทราบสาเหตุ พรรคมารจึงสูญเสียอำนาจส่วนหนึ่งไป และด้วยการต่อสู้กันระหว่างธรรมะและอธรรม พรรคมารถูกกดดันให้ถอยร่นเข้าสู่ยงโจวในที่สุด

 

ทั่วทั้งยุทธภพลือกันว่าผู้นำของพรรคมารได้ตกตายลงไปแล้ว ไม่เช่นนั้นทำไมตลอดห้าสิบปีถึงไม่โผล่ตัวมาเลยเล่า? ไยจึงยอมให้พรรคมารเสื่อมถอยลง?

 

แต่ตอนนี้รองผู้นำนิกายเทียนไถเหม่อมองไปที่ชายในชุดคลุมสีดำที่อยู่ไม่ไกล ความตกใจสะท้อนอยู่ในอก

 

“จอมมารมาที่นี่มีเหตุอันใดหรือ?”

 

นักพรตเทียนเหลียนกล่าวออกด้วยท่าทีเคร่งขรึม

 

เมื่อห้าสิบปีก่อนจอมมารถึงจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่ง และปัจจุบันตัวเขาเองก็กลายมาเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุดด้วยเช่นกัน ถึงแม้นักพรตเทียนเหลียนจะเกรงกลัวจอมมาร แต่ก็ไม่ได้กลัวมากขนาดนั้น

 

ทั้งคู่ต่างเป็นจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่ง แม้นนักพรตเทียนเหลียนจะจัดการอีกฝ่ายไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ฆ่านักพรตเทียนเหลียนไม่ได้เช่นกัน

 

ด้วยเหตุนี้นักพรตเทียนเหลียนจึงกล้าออกมาเผชิญหน้ากับจอมมาร

 

“เหตุผลมันง่ายมาก”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจอมมารชุดดำ

 

“พวกเจ้าสังหารสาวกพรรคมารของข้า”

 

“ข้าก็จะทำลายนิกายเทียนไถของเจ้า”

 

ทันทีที่ชายชุดดำกล่าวจบ พลังมารอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา โอบล้อมไปทั่วทุกสารทิศ

 

เพียงครึ่งวันต่อมา

 

นักพรตเทียนเหลียน ผู้นำนิกายเทียนไถตกตายในระหว่างการต่อสู้และรองผู้นำนิกายในระดับชั้นที่หนึ่งทั้งสองคนก็ตายในสถานที่สู้รบ มีเพียงสาวกนิกายเทียนไถไม่กี่ชีวิตเท่านั้นที่รอดไปได้ แต่ส่วนใหญ่ล้วนนอนตายกลายเป็นศพอยู่ที่นี่

 

 

จอมมารได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว

 

สาวกนิกายเทียนไถที่หลบหนีออกไปได้ พวกเขาก็ส่งข่าวต่อไปยังสำนักพรรคนิกายในอาณาจักรราชวงศ์ถังทันที ด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง

 

บางทีคนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้ความ แต่จอมยุทธรุ่นเก่าที่รอดชีวิตมาได้เมื่อห้าสิบปีก่อน รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของจอมมารดี

 

เมื่อห้าสิบปีก่อน จอมมารได้ใช้พลังของตัวเองเพียงผู้เดียวในการปราบสำนักฝ่ายธรรมะอย่างมิเกรงฟ้ากลัวดิน หากมันไม่ได้หายตัวอย่างลึกลับในยามนั้น เกรงว่าสำนักพรรคต่างๆ ทั่วทั้งยุทธภพคงจะต้องถูกปกครองโดยจอมมารไปเสียแล้ว

 

“เป็นไปได้เยี่ยงไร?”

 

“นักพรตเทียนเหลียนเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุด แม้เขาจะพ่ายแพ้ให้กับจอมมารแต่เขาก็ไม่ควรจะตกตายในระหว่างการต่อสู้มิใช่หรือ?”

 

“เป็นไปได้ไหมว่าวิทยายุทธของจอมมารก้าวหน้าขึ้น”

 

จอมยุทธจำนวนนับไม่ถ้วนต่างสั่นสะท้านในหัวใจ

 

แม้จะเป็นนักพรตจางแห่งเขาหวู่ตั้งที่อยู่ในจุดสูงสุดระดับชั้นที่หนึ่งก็เถอะ ตัวนักพรตจางนั้นแตกต่างไปจากจอมมาร

 

นักพรตจางสำเร็จจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่งในช่วงห้าสิบปีที่จอมมารหายตัวไป และตัวเขาก็มีบุคลิกที่สงบเสงี่ยม ตัดขาดจากโลก ไร้ความทะเยอทะยาน

 

แต่กับจอมมาร…

 

เมื่อใดที่จอมมารครองอำนาจในยุทธภพได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งที่รอพวกเขาอยู่อาจจะเป็นนรกบนดิน

 

หลังจากที่จอมมารกลับมาอีกครั้ง มันจะต้องรวบรวมเหล่าสาวกพรรคมารที่กระจัดกระจายกันออกไป แล้วสร้างพรรคมารขึ้นมาใหม่และจะเริ่มออกล่าฝ่ายธรรมะที่เคยสังหารสาวกพรรคมารอย่างแน่นอน

 

ในช่วงเวลานี้พรรคมารจะรุ่งเรือง และฝ่ายธรรมะจะต้องสูญเสียดินแดนที่เคยมีไป

 

เหล่ายอดฝีมือระดับชั้นที่หนึ่งของฝ่ายธรรมะมิใช่ว่ามิคิดต่อต้าน แต่ทุกครั้งที่รวมกำลังกันเข้าสู้ก็ถูกสยบด้วยน้ำมือของจอมมาร

 

เรื่องราวที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ผู้คนเชื่อมากขึ้นว่า จอมมารได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุดผู้อยู่เหนือใต้หล้า

 

และเมื่อยามที่จอมมารทรงพลังอำนาจมากขึ้น เขาก็ป่าวประกาศออกมาว่า

 

“สิบวันนับจากนี้ ข้าจะขึ้นภูเขาไปวัดเส้าหลินด้วยเรื่องส่วนตัวและจะขอพบสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามของวัดเส้าหลินสักหน่อย!”

 

เหมือนเวลาหยุดนิ่ง

 

จอมยุทธทั้งหลายต่างตระหนักถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของการปรากฏตัวของจอมมารในครั้งนี้

 

สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามแห่งวัดเส้าหลิน?

 

ทุกคนต่างสงสัยว่าสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์นิรนามแห่งวัดเส้าหลินรูปนี้จะเป็นคู่ต่อสู้กับจอมมารได้จริงหรือ?

 

ขณะที่โลกภายนอกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย

 

ภายในวัดเส้าหลิน

 

พื้นต้องห้ามภูเขาด้านหลัง

 

การผ่าด่านของซูฉินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+