เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 311 (1) บุรุษชะตาฟ้า

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 311 (1) บุรุษชะตาฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 311 (1) บุรุษชะตาฟ้า
ด้านบนหอดูดาว

ความคิดที่ผันผวนของซูฉินในที่สุดก็สงบลงอย่างช้าๆ

ไม่รู้ว่าพลังของสิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งคับฟ้าเพียงใดหากสําเร็จวิชาแต่ละอันแต่ตอนนี้ซูฉินเพิ่งจะสําเร็จภาพดวงตะวันฯในระดับเล็กเท่านั้น ยังอยู่ห่างไกลจากความสําเร็จชั้นยอดไปอีกนับหมื่นลี้

“แต่การที่ผู้นํานิกายใหญ่มาขออภัยโทษดูเหมือนว่าจะไม่มีเซียนเทพปฐพีอยู่จริงๆ…”

ใบหน้าของซูฉินดูครุ่นคิด

ตราบใดที่นิกายใหญ่เหล่านั้นมีเซียนเทพปฐพีอยู่พวกเขาจะไม่มีวันมาขอโทษด้วยตนเองเช่นนี้และพวกเขายังยอมรับข้อเรียกร้องของซูฉินโดย ไม่มีคําโต้แย้งแต่อย่างใด

“น่าเสียดาย….”

ร่องรอยความผิดหวังปรากฏขึ้นภายในดวงตาของซูฉิน

เดิมที่เขาต้องการจะบีบบังให้เซียนเทพปฐพีออกมาเพื่อตรวจดูพลังที่แท้จริงของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําด้วยครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดที่ผนึกกําลังกันก่อนหน้านี้ ทําให้ซูฉินออกมือออกเท้าได้เพียงบางส่วนเท่านั้น แม้แต่ทิพยอํานาจดวงตาก็ยังไม่ได้ใช้ เป็นไปไม่ได้ ที่จะเห็นขีดจํากัดสูงสุดของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา

“อย่างไรก็ตาม ในครานี้ นอกจากผู้นํานิกาย ใหญ่แล้ว ยังมีคนอื่นอยู่ที่นี่อีก….”

ซูฉินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เหม่อมองออกไป นอกพระราชวัง พินิจไปทางโรงเตี้ยมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองฉางอัน

โรงเตี้ยมแห่งนี้มีชื่อว่า โรงเตี้ยม”ไหลสู่ ใน ขณะนี้ เบื้องหน้าลานสายตาของซูฉินพลังฉีนับร้อยก็ปรากฏขึ้น ซึ่งบ้างแข็งแกร่ง บ้างอ่อนแอ แต่มีพลังฉีจุดหนึ่งที่พิเศษอย่างยิ่งราวกับว่าได้ปกปิดส่วนใหญ่ของพลังเอาไว้ด้วยทักษะลับบางอย่างหากไม่ใช่เพราะดวงตาแห่งสัจจะที่เข้าใจเห็นแจ้งถึงพลังฉีชนิดต่างๆ บางทีซูฉินอาจจะละ เลยมันไปแล้วจริงๆ

แม้แต่ซูฉินที่มีดวงตาแห่งสัจจะก็แทบจะไม่ทัน สังเกต เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เชี่ยวชาญในการใช้พลังฉีอย่างมาก

ต้องรู้ว่าพลังฉีเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต ตราบ ใดที่เป็นสิ่งมีชีวิตย่อมมีพลังฉีไม่มีข้อยกเว้นใดๆถึงแม้จะเป็นเซียนเทพปฐพีก็ตาม “มีคนแอบดูข้าอยู่งั้นรึ?”

ร่องรอยที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฏขึ้นบนใบ หน้าของซูฉิน

แม้เจ้าของพลังฉีนี้จะไม่ได้ทําให้รู้สึกถึงภัย คุกคามใด แต่มันก็ค่อนข้างน่าสนใจในสายตาของซูฉินท้ายที่สุดมันก็เป็นครั้งแรกที่มีบางอย่างส่งผลกระทบต่อดวงตาแห่งสัจจะหลังจากที่ เขาใช้งานมันมาเป็นเวลาหลายปี

“ไม่ใช่เซียนเทพปฐพี…”

ซูฉินมองอย่างระมัดระวังอีกครั้งแล้วส่ายศีรษะ เล็กน้อย

หากเป็นเซียนเทพปฐพี จิตวิญญาณแรกกําเนิดจะต้องผสานเข้ากับทะเลปราณไม่ว่าจะปกปิดเพียงใดก็ยังต้องเผยกลิ่นอายเล็กๆที่เกิดจากการ ผสานเข้ากับทะเลปราณซึ่งเป็นเป็นไปไม่ได้เล ยที่จะหลบซ่อนจากสายตาซูฉินที่ตรวจสอบพลังงานฉีได้

“น่าสนใจ”

ซูฉินก้าวเท้าหายตัวไป และเมื่อปรากฏตัวอีก ครั้งซูฉินก็ยืนอยู่ด้านนอกของโรงเตี้ ยมไหลแล้ว

นอกเมืองฉางอัน

ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้กลับไปพบกับบรรพชนทั้งหลาย

ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้อธิบายทุกสิ่งให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดในเมืองฉางอัน

บรรพชนนิกายเทพเจ้าสายฟ้ารับฟัง แต่ท่าทีของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าซูฉินขอให้นิกายเทพเจ้าสายฟ้าเพิ่ม หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าให้อีกสองชั่งก็ยิ่ง เจ็บปวดใจมากขึ้นไปอีก
แม้ว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะสะสมมรดกมานานนับพันปีแต่หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าที่ครอบครองก็มีเพียงไม่กี่ชั่งการนําหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าจํานวนหนึ่งออกไปให้ซูฉินถือเป็นการหลั่งเลือดชโลมดินรู้หรือไม่ว่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าไม่ได้ใช้เพียงเพิ่มฐานการบ่มเพาะเท่านั้นแต่ยังมีบทบาทในการทลายคอขวดได้อีกด้วย

แม้แต่ในตอนที่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดจะทะลวงขั้นขึ้นไปสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีกองหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าจํานวนหนึ่งก็ให้ผลเทียบเท่ากับแห ล่งกําเนิดธาตุสายฟ้ามันสามารถช่วยให้จิตวิญญาณแรกกําเนิดของตํานานยุทธขั้นสูงสุด สัมผัสถึงทะเลปราณในส่วนลึกของความว่างเปล่าได้ง่ายขึ้น

อาจกล่าวได้ว่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าเป็นสมบัติที่ล้ําค่าที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าแล้วแม้แต่กิ่งอสนีบาตภัยก็ไม่อาจจะเทียบเทียม
ท้ายที่สุด หากสูญเสียกิ่งไม้อสนีบาตภัยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าหายไปความเป็นไปได้ที่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะให้กําเนิดเซียนเทพปฐพี่จะลดลงอย่างมหาศาล

“มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังจะมากเกินไปแล้วคิดว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าของข้าจะรังแกได้ตามต้องการงั้นหรือ?”

ความโกรธฉายชัดบนใบหน้าของบรรพชน

นิกายเทพเจ้าสายฟ้าที่ปกครองโลกมาหลายพันปีมาถูกปราบปรามเช่นนี้ได้อย่างไร? หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าหนึ่งซึ่งไม่เพียงพอต้องเพิ่มเป็นสองชั่ง?

หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าเป็นหินดาดๆ ที่หาได้ตามข้างถนนหรือไร?

ใบหน้าของบรรพชนคนอื่นๆ ก็แสดงความไม่พอใจเช่นกัน

ในที่สุด ทุกคนก็มองไปยังบรรพชนที่อาวุโสที่สุด

บรรพชนผู้นี้มีสถานะสูงที่สุดหลังจากที่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าพ่ายแพ้
“ทําตามที่มนุษย์สวรรค์บอก”

บรรพชนอาวุโสเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกมา

“ท่านบรรพชนแต่ว่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าที่เหลืออยู่มันได้เตรียมไว้สําหรับเหลยเฉียนจือหากเรานําไปให้มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังถ้าวันหนึ่งเหลยเฉียนจือกลับมาเล่า……”

มีบรรพชนบางคนลังเล

“เหลยเฉียนจือ…”

ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้ารับฟังด้วยความเคารพแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นํานิกาย แต่ก็ยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้มีความสําคัญใดเมื่ออยู่ต่อหน้าบรรพชน แต่เมื่อได้ยินคําว่าเหลยเฉียนจือ’ มันก็ยังสร้างคลื่นภายในใจให้กับตัวเขา

เหลยเฉียนจือเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในรอบเกือบหมื่นปีและยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นเซียนเทพปฐพี่มากที่สุด

น่าเสียดายที่เหลยเฉียนจือได้หายตัวไปเมื่อสามร้อยปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะดวงไฟแห่งชีวิตของเหลยเฉียนจือในส่วนลึกของนิกายยังไม่ดับลงเกรงว่าทุกคนคงคิดว่าเหลยเฉียนจือตกตายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้เหลยเฉียนฉือจะยังไม่ตาย แต่ก็ไม่ได้ปรากฏตัวมาเป็นเวลาสามร้อยปี ในสายตาของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าส่วนใหญ่กว่า แปดในสิบส่วน คิดว่าคงจะติดอยู่ในสถานที่ลับไม่สามารถกลับออกมาได้หรืออาจจะถูกสะกดปิดผนึกซึ่งไม่ได้แตกต่างจากการตายเลย

“ไม่สําคัญว่าเหลยเฉียนฉือจะกลับมาในอนาคต หรือไม่”

“แต่ตอนนี้มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังกําลังเรืองอํานาจถ้านิกายเทพเจ้าสายฟ้ากล้าฝ่าฝืนความตั้งใจของมนุษย์สวรรค์แม้จะมีสมบัติล้ําค่าอยู่ในมือแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลบหนีจากการล่มสลาย”

บรรพชนอาวุโสกล่าวทุกคําออกมาตามนี้

“ขอรับ”

บรรพชนคนอื่นๆ มองหน้ากัน แล้วกล่าวคํากลับไปแบบนิ่งๆ

หากซูฉินแสดงความแข็งแกร่งของขอบเขตเซียนเทพปฐพีออกมาแม้ว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะหวั่นเกรงแต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวหรือกังวลจนเกินไปนักเพราะก็มีเซียนเทพปฐพี่มากกว่าสิบคนกําเนิดขึ้นที่นี่แต่ตอนนี้เซียนเทพปฐพี่เหล่านั้นล้วนแก่ตายไปหมดแล้ว มีเพียงนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่

อย่างไรก็ตาม

สิ่งที่น่าหวาดหวั่นสําหรับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็คือตอนนี้เป็นยุคที่กระแสปราณฉีฟื้นคืนด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินบางทีเขาอาจจะอาศัย จังหวะที่กระแสปราณฉีฟื้นคืนนี้ก้าวเข้าสู่ ขอบเขตผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดก็เป็นได้

ผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุด…

แม้แต่ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดก็เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกในตอนที่โลกปีศาจบุกรุกเข้ามาหากไม่ใช่เพราะผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดคอยป้องกันกองทัพปีศาจกว่าร้อยล้านตน ปราบปีศาจที่แข็งแกร่งจํานวนนับไม่ถ้วนจากโลกถ้ำปีศาจเกรงว่าป่านนี้ทั่วทั้งโลกคงกลายเป็นสวรรค์ของโลกถ้ำปีศาจไปแล้ว

แน่นอน

การเป็นผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดเป็นเรื่องยากแค่ไหน? แม้แต่ในยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟูก็ยังมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นบุตรแห่งโชคลาภทั้งปวงบนโลก มีพรสวรรค์สูงล้ํา

แม้ว่าซูฉินจะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ความหวังที่จะไปยังขอบเขตผู้ทรงพลังถึงขีดสุดยังคงน้อยนิด

แต่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ไม่กล้าเสี่ยง

ไม่เพียงแต่นิกายเทพเจ้าสายฟ้า แต่เมื่อบรรพชนนิกายใหญ่แห่งอื่นๆได้ทราบถึงคําร้องขอของซูฉินพวกเขาก็ตอบรับโดยไม่ลังเลแม้แต่นิกายใหญ่อย่างตําหนักเทพเจ้าสายฟ้าและหุบเขาเทพอสูรก็ยังเสนอสมบัติอื่นๆ เพิ่มเพื่อเอาอกเอาใจซูฉิน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล 311 (1) บุรุษชะตาฟ้า

Now you are reading เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล Chapter 311 (1) บุรุษชะตาฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Sign in Buddha’s palm 311 (1) บุรุษชะตาฟ้า
ด้านบนหอดูดาว

ความคิดที่ผันผวนของซูฉินในที่สุดก็สงบลงอย่างช้าๆ

ไม่รู้ว่าพลังของสิบสองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งคับฟ้าเพียงใดหากสําเร็จวิชาแต่ละอันแต่ตอนนี้ซูฉินเพิ่งจะสําเร็จภาพดวงตะวันฯในระดับเล็กเท่านั้น ยังอยู่ห่างไกลจากความสําเร็จชั้นยอดไปอีกนับหมื่นลี้

“แต่การที่ผู้นํานิกายใหญ่มาขออภัยโทษดูเหมือนว่าจะไม่มีเซียนเทพปฐพีอยู่จริงๆ…”

ใบหน้าของซูฉินดูครุ่นคิด

ตราบใดที่นิกายใหญ่เหล่านั้นมีเซียนเทพปฐพีอยู่พวกเขาจะไม่มีวันมาขอโทษด้วยตนเองเช่นนี้และพวกเขายังยอมรับข้อเรียกร้องของซูฉินโดย ไม่มีคําโต้แย้งแต่อย่างใด

“น่าเสียดาย….”

ร่องรอยความผิดหวังปรากฏขึ้นภายในดวงตาของซูฉิน

เดิมที่เขาต้องการจะบีบบังให้เซียนเทพปฐพีออกมาเพื่อตรวจดูพลังที่แท้จริงของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําด้วยครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดที่ผนึกกําลังกันก่อนหน้านี้ ทําให้ซูฉินออกมือออกเท้าได้เพียงบางส่วนเท่านั้น แม้แต่ทิพยอํานาจดวงตาก็ยังไม่ได้ใช้ เป็นไปไม่ได้ ที่จะเห็นขีดจํากัดสูงสุดของร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคํา

“อย่างไรก็ตาม ในครานี้ นอกจากผู้นํานิกาย ใหญ่แล้ว ยังมีคนอื่นอยู่ที่นี่อีก….”

ซูฉินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เหม่อมองออกไป นอกพระราชวัง พินิจไปทางโรงเตี้ยมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองฉางอัน

โรงเตี้ยมแห่งนี้มีชื่อว่า โรงเตี้ยม”ไหลสู่ ใน ขณะนี้ เบื้องหน้าลานสายตาของซูฉินพลังฉีนับร้อยก็ปรากฏขึ้น ซึ่งบ้างแข็งแกร่ง บ้างอ่อนแอ แต่มีพลังฉีจุดหนึ่งที่พิเศษอย่างยิ่งราวกับว่าได้ปกปิดส่วนใหญ่ของพลังเอาไว้ด้วยทักษะลับบางอย่างหากไม่ใช่เพราะดวงตาแห่งสัจจะที่เข้าใจเห็นแจ้งถึงพลังฉีชนิดต่างๆ บางทีซูฉินอาจจะละ เลยมันไปแล้วจริงๆ

แม้แต่ซูฉินที่มีดวงตาแห่งสัจจะก็แทบจะไม่ทัน สังเกต เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เชี่ยวชาญในการใช้พลังฉีอย่างมาก

ต้องรู้ว่าพลังฉีเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต ตราบ ใดที่เป็นสิ่งมีชีวิตย่อมมีพลังฉีไม่มีข้อยกเว้นใดๆถึงแม้จะเป็นเซียนเทพปฐพีก็ตาม “มีคนแอบดูข้าอยู่งั้นรึ?”

ร่องรอยที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฏขึ้นบนใบ หน้าของซูฉิน

แม้เจ้าของพลังฉีนี้จะไม่ได้ทําให้รู้สึกถึงภัย คุกคามใด แต่มันก็ค่อนข้างน่าสนใจในสายตาของซูฉินท้ายที่สุดมันก็เป็นครั้งแรกที่มีบางอย่างส่งผลกระทบต่อดวงตาแห่งสัจจะหลังจากที่ เขาใช้งานมันมาเป็นเวลาหลายปี

“ไม่ใช่เซียนเทพปฐพี…”

ซูฉินมองอย่างระมัดระวังอีกครั้งแล้วส่ายศีรษะ เล็กน้อย

หากเป็นเซียนเทพปฐพี จิตวิญญาณแรกกําเนิดจะต้องผสานเข้ากับทะเลปราณไม่ว่าจะปกปิดเพียงใดก็ยังต้องเผยกลิ่นอายเล็กๆที่เกิดจากการ ผสานเข้ากับทะเลปราณซึ่งเป็นเป็นไปไม่ได้เล ยที่จะหลบซ่อนจากสายตาซูฉินที่ตรวจสอบพลังงานฉีได้

“น่าสนใจ”

ซูฉินก้าวเท้าหายตัวไป และเมื่อปรากฏตัวอีก ครั้งซูฉินก็ยืนอยู่ด้านนอกของโรงเตี้ ยมไหลแล้ว

นอกเมืองฉางอัน

ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้กลับไปพบกับบรรพชนทั้งหลาย

ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้อธิบายทุกสิ่งให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดในเมืองฉางอัน

บรรพชนนิกายเทพเจ้าสายฟ้ารับฟัง แต่ท่าทีของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าซูฉินขอให้นิกายเทพเจ้าสายฟ้าเพิ่ม หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าให้อีกสองชั่งก็ยิ่ง เจ็บปวดใจมากขึ้นไปอีก
แม้ว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะสะสมมรดกมานานนับพันปีแต่หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าที่ครอบครองก็มีเพียงไม่กี่ชั่งการนําหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าจํานวนหนึ่งออกไปให้ซูฉินถือเป็นการหลั่งเลือดชโลมดินรู้หรือไม่ว่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าไม่ได้ใช้เพียงเพิ่มฐานการบ่มเพาะเท่านั้นแต่ยังมีบทบาทในการทลายคอขวดได้อีกด้วย

แม้แต่ในตอนที่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดจะทะลวงขั้นขึ้นไปสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีกองหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าจํานวนหนึ่งก็ให้ผลเทียบเท่ากับแห ล่งกําเนิดธาตุสายฟ้ามันสามารถช่วยให้จิตวิญญาณแรกกําเนิดของตํานานยุทธขั้นสูงสุด สัมผัสถึงทะเลปราณในส่วนลึกของความว่างเปล่าได้ง่ายขึ้น

อาจกล่าวได้ว่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าเป็นสมบัติที่ล้ําค่าที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าแล้วแม้แต่กิ่งอสนีบาตภัยก็ไม่อาจจะเทียบเทียม
ท้ายที่สุด หากสูญเสียกิ่งไม้อสนีบาตภัยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าหายไปความเป็นไปได้ที่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะให้กําเนิดเซียนเทพปฐพี่จะลดลงอย่างมหาศาล

“มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังจะมากเกินไปแล้วคิดว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าของข้าจะรังแกได้ตามต้องการงั้นหรือ?”

ความโกรธฉายชัดบนใบหน้าของบรรพชน

นิกายเทพเจ้าสายฟ้าที่ปกครองโลกมาหลายพันปีมาถูกปราบปรามเช่นนี้ได้อย่างไร? หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าหนึ่งซึ่งไม่เพียงพอต้องเพิ่มเป็นสองชั่ง?

หินแหล่งกําเนิดสายฟ้าเป็นหินดาดๆ ที่หาได้ตามข้างถนนหรือไร?

ใบหน้าของบรรพชนคนอื่นๆ ก็แสดงความไม่พอใจเช่นกัน

ในที่สุด ทุกคนก็มองไปยังบรรพชนที่อาวุโสที่สุด

บรรพชนผู้นี้มีสถานะสูงที่สุดหลังจากที่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าพ่ายแพ้
“ทําตามที่มนุษย์สวรรค์บอก”

บรรพชนอาวุโสเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกมา

“ท่านบรรพชนแต่ว่าหินแหล่งกําเนิดสายฟ้าที่เหลืออยู่มันได้เตรียมไว้สําหรับเหลยเฉียนจือหากเรานําไปให้มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังถ้าวันหนึ่งเหลยเฉียนจือกลับมาเล่า……”

มีบรรพชนบางคนลังเล

“เหลยเฉียนจือ…”

ผู้นํานิกายเทพเจ้าสายฟ้ารับฟังด้วยความเคารพแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นํานิกาย แต่ก็ยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้มีความสําคัญใดเมื่ออยู่ต่อหน้าบรรพชน แต่เมื่อได้ยินคําว่าเหลยเฉียนจือ’ มันก็ยังสร้างคลื่นภายในใจให้กับตัวเขา

เหลยเฉียนจือเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าในรอบเกือบหมื่นปีและยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นเซียนเทพปฐพี่มากที่สุด

น่าเสียดายที่เหลยเฉียนจือได้หายตัวไปเมื่อสามร้อยปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะดวงไฟแห่งชีวิตของเหลยเฉียนจือในส่วนลึกของนิกายยังไม่ดับลงเกรงว่าทุกคนคงคิดว่าเหลยเฉียนจือตกตายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้เหลยเฉียนฉือจะยังไม่ตาย แต่ก็ไม่ได้ปรากฏตัวมาเป็นเวลาสามร้อยปี ในสายตาของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าส่วนใหญ่กว่า แปดในสิบส่วน คิดว่าคงจะติดอยู่ในสถานที่ลับไม่สามารถกลับออกมาได้หรืออาจจะถูกสะกดปิดผนึกซึ่งไม่ได้แตกต่างจากการตายเลย

“ไม่สําคัญว่าเหลยเฉียนฉือจะกลับมาในอนาคต หรือไม่”

“แต่ตอนนี้มนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังกําลังเรืองอํานาจถ้านิกายเทพเจ้าสายฟ้ากล้าฝ่าฝืนความตั้งใจของมนุษย์สวรรค์แม้จะมีสมบัติล้ําค่าอยู่ในมือแต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลบหนีจากการล่มสลาย”

บรรพชนอาวุโสกล่าวทุกคําออกมาตามนี้

“ขอรับ”

บรรพชนคนอื่นๆ มองหน้ากัน แล้วกล่าวคํากลับไปแบบนิ่งๆ

หากซูฉินแสดงความแข็งแกร่งของขอบเขตเซียนเทพปฐพีออกมาแม้ว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะหวั่นเกรงแต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวหรือกังวลจนเกินไปนักเพราะก็มีเซียนเทพปฐพี่มากกว่าสิบคนกําเนิดขึ้นที่นี่แต่ตอนนี้เซียนเทพปฐพี่เหล่านั้นล้วนแก่ตายไปหมดแล้ว มีเพียงนิกายเทพเจ้าสายฟ้าเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่

อย่างไรก็ตาม

สิ่งที่น่าหวาดหวั่นสําหรับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็คือตอนนี้เป็นยุคที่กระแสปราณฉีฟื้นคืนด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินบางทีเขาอาจจะอาศัย จังหวะที่กระแสปราณฉีฟื้นคืนนี้ก้าวเข้าสู่ ขอบเขตผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดก็เป็นได้

ผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุด…

แม้แต่ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดก็เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกในตอนที่โลกปีศาจบุกรุกเข้ามาหากไม่ใช่เพราะผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดคอยป้องกันกองทัพปีศาจกว่าร้อยล้านตน ปราบปีศาจที่แข็งแกร่งจํานวนนับไม่ถ้วนจากโลกถ้ำปีศาจเกรงว่าป่านนี้ทั่วทั้งโลกคงกลายเป็นสวรรค์ของโลกถ้ำปีศาจไปแล้ว

แน่นอน

การเป็นผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดเป็นเรื่องยากแค่ไหน? แม้แต่ในยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟูก็ยังมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นบุตรแห่งโชคลาภทั้งปวงบนโลก มีพรสวรรค์สูงล้ํา

แม้ว่าซูฉินจะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขานั้นแข็งแกร่งเพียงใด แต่ความหวังที่จะไปยังขอบเขตผู้ทรงพลังถึงขีดสุดยังคงน้อยนิด

แต่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ไม่กล้าเสี่ยง

ไม่เพียงแต่นิกายเทพเจ้าสายฟ้า แต่เมื่อบรรพชนนิกายใหญ่แห่งอื่นๆได้ทราบถึงคําร้องขอของซูฉินพวกเขาก็ตอบรับโดยไม่ลังเลแม้แต่นิกายใหญ่อย่างตําหนักเทพเจ้าสายฟ้าและหุบเขาเทพอสูรก็ยังเสนอสมบัติอื่นๆ เพิ่มเพื่อเอาอกเอาใจซูฉิน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+