หมอหญิงยอดมือสังหาร 1016 วีรบุรุษผมขาว (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 1016 วีรบุรุษผมขาว (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1016 วีรบุรุษผมขาว (1)

กงเสี่ยวเตี๋ยตกใจกับคำพูดของกงชี จ้องมองสตรีหน้าตาธรรมดาทว่าเย็นชาตรงหน้า นางรู้มาโดยตลอด หลายปีมานี้แม้กงชีจะอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือนางมาตลอด แต่อย่างไรก็ไม่ใช่คนของตนเอง ขอเพียงตนมีสิ่งใดที่จะส่งผลกระทบถึงกงอวี้เฉิน นางก็พร้อมจะเปลี่ยนสีหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที ความนอบน้อมที่ผ่านมานั้นล้วนเป็นเรื่องโกหก

เห็นว่าตนทำให้นางตกใจ กงชีจึงมีสีหน้าผ่อนคลายลง ถอนหายใจเบาๆ เอ่ย “คุณหนูอย่าได้โกรธ เมื่อครู่เป็นข้าเองที่ล่วงเกิน แต่คุณหนูได้โปรดคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ในเมื่อท่านเองก็รู้ว่าเยี่ยนอ๋องเริ่มสงสัยพวกเราแล้ว ไยจึงเอาความหวังไปฝากไว้กับเขาได้ หากรู้…เยี่ยนอ๋องเกลียดที่สุดคือคนทรยศ ต่อให้เขาเห็นแก่คุณชายสี่ไว้ชีวิตท่าน แต่ท่านอยากใช้ชีวิตทั้งชีวิตนี้อยู่ในวังเย็นไปตลอดชีวิตหรือ”

กงเสี่ยวเตี๋ยกัดริมฝีปากไม่เอ่ยสิ่งใด กงชีเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณหนู คนนอกอย่างไรก็พึ่งไม่ได้ บนโลกใบนี้ มีเพียงเจ้าสำนักที่ใกล้ชิดกับท่านมากที่สุดมิใช่หรือ”

กงเสี่ยวเตี๋ยหลุบตาลงไม่เอ่ยวาจากงชีเองก็ไม่รีบร้อน นิสัยของกงเสี่ยวเตี๋ยนางรู้จักเป็นอย่างดีมาตั้งนานแล้ว ขี้ขลาด ลังเลไม่เด็ดขาด ราวกับดอกถูซือที่ไม่อาจยืนหยัดได้ด้วยตัวมันเอง ไม่อาจยึดมั่นกับความคิดของตนเองได้ ต่อให้เป็นความรู้สึกของตนเอง ตอนนั้นก็จะเป็นจะตายเพราะคุณชายเสียนเกอที่เพิ่งเคยเจอเพียงครั้งเดียว ยามนี้อาศัยสุขสบายอยู่ในจวนเยี่ยนอ๋องมาหลายปีจึงคิดจะพึ่งพาเยี่ยนอ๋องไปทั้งใจ แม้แต่เผชิญหน้ากับคุณชายเสียนเกอก็ยังไม่มีเยื่อใยแม้เพียงนิด เช่นนี้พูดให้น่าฟังสักหน่อยก็คือปล่อยวางได้ เอ่ยไม่น่าฟังก็คือไร้หัวใจ

หากกงเสี่ยวเตี๋ยเกิดในตระกูลร่ำรวยทั่วไป นิสัยเช่นนี้ไม่มีอันใดไม่ดี แม้จะไม่อาจเป็นนายหญิงใหญ่ดูแลจวนได้ แต่ก็เพียงพอที่จะเป็นภรรยารองที่โปรดปรานได้ แต่ว่า…กงชีสงสัยเสียจริง เจ้าสำนักทนต่อนิสัยเช่นนี้ของกงเสี่ยวเตี๋ยได้เยี่ยงไร

ความจริงนี่คงเป็นการปรักปรำกงอวี้เฉินแล้ว หากทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน กงเสี่ยวเตี๋ยไม่มีทางโตมาด้วยนิสัยเช่นนี้เป็นแน่ น่าเสียดายที่กว่าทั้งสองจะได้เจอกัน กงเสี่ยวเตี๋ยก็อายุสิบหกแล้ว นิสัยถูกบ่มเพาะมาแล้ว ทั้งยังมีจังติ้งฟังคอยปกป้อง กงอวี้เฉินเองก็ไม่กล้าหักหน้าจังติ้งฟังเร็วนัก รอจนจังติ้งฟังตายแล้ว เพียงเห็นท่าทีของกงเสี่ยวเตี๋ยหลังจากที่เห็นจังติ้งฟังตายไปแล้วกงอวี้เฉินก็สิ้นหวังต่อการเปลี่ยนนิสัยของนาง กลายเป็นไม่อาจช่วยอันใดได้แล้ว พ่อบุญธรรมที่รักเลี้ยงดูตนเองมาหลายปีตายไปนางก็ไม่กล้าเอ่ยแม้เพียงประโยคเดียว แม้แต่เรื่องราวหลังจากนั้นยังไม่กล้าทำแทนเขา นิสัยเช่นนี้ยังทำอันใดได้ โชคดีที่สิ่งที่กงอวี้เฉินต้องการก็ไม่ใช่ความฉลาดเปี่ยมล้นความสามารถของนาง

กงเสี่ยวเตี๋ยมองกงชีเดินจากไปก็ล้มลงไปนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง ดวงตาสวยของนางเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและจนปัญญา หลายปีก่อนนางนึกว่าตนเองเป็นคุณหนูธรรมดาในครอบครัวที่มีฐานะ พ่อบุญธรรมของนางรักและเอ็นดูแทบจะตามใจทุกอย่าง วันหนึ่งกลับมีคนปรากฏตัวขึ้นมาบอกว่าเป็นพี่ชายของนาง เพียงไม่นานพ่อบุญธรรมก็เคลื่อนทัพก่อกบฏ ตอนนั้นเองที่นางเพิ่งรู้ว่าพ่อบุญธรรมของนางเคยเป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่มาก่อน ฐานะที่เปลี่ยนไปกะทันหันทำให้นางงุนงง แต่ไม่ปฏิเสธว่านางชอบ เมื่อเทียบกับการอยู่ในชนบท นางชอบสาวใช้ห้อมล้อม ผ้าแพรอาหารรสเลิศมากกว่า อยากได้อันใดเพียงยื่นมือออกไปก็ได้มาแล้ว เดิมทีนางควรเป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ

แต่หลังจากพ่อบุญธรรมตายไปแล้ว นางตัวคนเดียวไม่มีที่พึ่ง จำต้องติดตามพี่ชายของตน จำต้องยอมถูกเขาบีบบังคับให้เข้าไปอยู่ในจวนเยี่ยนอ๋อง เยี่ยนอ๋องดีกับนางมาก นอกจากพ่อบุญธรรมก็ไม่มีใครดีกับนางเพียงนี้มาก่อน นางไม่สนใจความทะเยอทะยานของกงอวี้เฉิน นางเพียงอยากมีชีวิตเรียบง่ายไปวันๆ มีบุรุษที่รักตนเอง ไยจะทำเช่นนี้ไม่ได้ ไยกงอวี้เฉินจะต้องบีบบังคับนาง

แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของกงชี กงเสี่ยวเตี๋ยก็อดขดตัวเข้าไม่ได้ วิธีการจัดการคนทรยศของเยี่ยนอ๋องแม้นางไม่เคยเห็นกับตาตนเองแต่ก็เคยได้ยินมาไม่น้อย นางควร…ทำอย่างไร

เฉินโจว

เมื่อมีเว่ยจวินมั่วเข้าร่วม การเผชิญหน้ากับกองทัพราชสำนักบนเขาชิงอวิ๋นราบรื่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แน่นอน เดิมทีหนิงอ๋องก็ไม่ได้ใช้ความสามารถเต็มที่ แต่ทว่าความราบรื่นของการสู้รบกลับไม่อาจเทียบรังสีทะมึนของคุณชายเว่ยที่มีมากขึ้นในทุกๆ วัน ไม่เพียงทหารในกองทัพ แม้แต่หนิงอ๋องเองที่เห็นเว่ยจวินมั่วเป็นเช่นนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเดินหลีกหนี

ในกระโจมใหญ่ หยวนชุนที่เต็มไปด้วยผมขาวท่าทางดูแก่และอ่อนแรงกำลังยืนอยู่ตรงกลาง ตำแหน่งเหนือสุดนั้นมีเว่ยจวินมั่วและหนิงอ๋องนั่งหน้านิ่งอยู่ตรงหน้าแม่ทัพเก่าแก่ การปะทะกันเมื่อบ่ายหยวนชุนโชคร้ายถูกคุณชายเว่ยจับตัวมาได้ และทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้รับประสบการณ์ที่เรียกว่าชิงตัวแม่ทัพท่ามกลางทหารนับพันนับหมื่นเป็นครั้งแรก แม้ว่าคุณชายเว่ยจะไม่ได้ตัดหัวของหยวนชุน แต่แม่ทัพถูกจับตัวไปคงมีผลกระทบกับกองทัพมากกว่าการถูกสังหาร กองทัพที่เดิมเคยเป็นระเบียบยามนี้แตกออกคนละทิศละทางกลายเป็นกลุ่มเล็กๆ คิดจะปราบให้ราบคาบคงเป็นเรื่องจะช้าจะเร็วเพียงเท่านั้น

หยวนชุนเงยหน้ามองชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่ด้านบน ใบหน้าที่เดิมดูแก่ก็ยิ่งอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง การต่อสู้กับศัตรู สุดท้ายต้องมาตกอยู่ในมือของคนหนุ่มทั้งสอง จากนั้นมองไปยังเหล่าขุนพลโดยรอบ ในนั้นเป็นขุนพลที่อายุไม่ถึงสามสิบไปเกินกว่าครึ่ง ยิ่งทำให้เอ้อกั๋วกงรู้สึกแก่อย่างช่วยไม่ได้

หนิงอ๋องมองสำรวจเอ้อกั๋วกงอย่างสนอกสนใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “กั๋วกงชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลือ น่าเสียดายที่ไร้วาสนาได้รู้จัก วันนี้ได้เจอ ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง” นี่ไม่ใช่คำเย้ยหยัน หนิงอ๋องนั้นไม่รู้จักเอ้อกั๋วกงจริงๆ เขาอยู่ในวังอายุยังน้อยไม่มีใครสนใจ อายุสิบกว่าก็ถูกอดีตฮ่องเต้ส่งไปยังสีโจว ไหนเลยจะได้รู้จักกับเสาหลักของประเทศอย่างเอ้อกั๋วกงได้”

หยวนชุนยิ้มขมขื่น ยกมือขึ้นช้าๆ เอ่ย “หนิงอ๋องกล่าวล้อเล่นแล้ว ทหารที่พ่ายแพ้ไม่อาจรับคำชื่นชม”

หนิงอ๋องโบกมือเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เอ่ยเช่นนี้ก็ไม่ถูก เป็นที่รู้กันดีว่าเอ้อกั๋วกงทำสงครามมาทั่วใต้หล้า ยามนี้…มิใช่รบผิดพลาด”

หยวนชุนสีหน้าสับสนมองไปยังหนิงอ๋องและเว่ยจวินมั่วที่นั่งอยู่ด้านข้าง ถอนหายใจ เอ่ย “ใช่แล้ว มิใช่รบผิดพลาด…เป็นสวรรค์ที่ไม่ช่วยกระหม่อม ไม่ช่วยฝ่าบาท”

หนิงอ๋องเท้าคาง “ข้าผู้น้อยชื่นชมกั๋วกงมีคุณธรรมสูงส่ง ยามนี้เซียวเชียนเยี่ยเจ้าเด็กนั่นปฏิบัติผิดทำนองคลองธรรม ให้ร้ายเสด็จอา ไม่คำนึงถึงคนความสัมพันธ์ พี่สามกำลังยึดหลักของอดีตฮ่องเต้สยบความวุ่นวาย ไยกั๋วกงจึงไม่…”

หยวนชุนเอ่ยขัดคำของหนิงอ๋อง เอ่ยเสียงเข้ม “วาจานี้ของหนิงอ๋อง อาจจะมากไปสักนิด ฝ่าบาทเป็นกษัตริย์ต้าเซี่ยที่อดีตฮ่องเต้เลือกมา กระหม่อมไม่มีทางทรยศต่อฮ่องเต้อย่างแน่นอน”

หนิงอ๋องราวกับได้ยินเรื่องน่าขัน หัวเราะออกมา “มากไปอย่างนั้นหรือ หรือว่าเสด็จพี่ทั้งสองของข้าตายไปเพราะหาทางออกไม่ได้เองอย่างนั้นหรือ หรือว่าเหล่าพี่น้องที่ถูกเคลื่อนย้ายไปอยู่ในเมืองที่เสื่อมโทรมเป็นพวกเขาที่ยินยอมเองหรือว่าพวกเขาทำเรื่องร้ายแรงคิดต่อต้านหรืออย่างไร ต้าเซี่ยก่อตั้งมาเป็นสิบปี พวกข้าและพี่น้องต่างยึดมั่นในคำของฮ่องเต้ องค์รัชทายาทคุ้มกันประเทศ ผู้ปกครองเมืองดูแลเขตปกครอง ต่อให้ไม่มีความดีความชอบก็คงทำงานอย่างหนักกระมัง ฮ่องเต้ยังจากไปได้ไม่นาน เซียวเชียนเยี่ยก็ลงมือกับเสด็จอาของตนเอง น่าเกลียดเกินไปแล้ว”

หยวนชุนเงียบไม่เอ่ยวาจา เดิมทีเขาก็ไม่ถนัดการพูดจา ไหนเลยจะเถียงสู้หนิงอ๋องได้

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *