หมอหญิงยอดมือสังหาร 1073 จุดจบของแม่ทัพผู้เกรียงไกร (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 1073 จุดจบของแม่ทัพผู้เกรียงไกร (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1073 จุดจบของแม่ทัพผู้เกรียงไกร (1)

ออกมาจากวังหลัง พลันมองเห็นเว่ยจวินมั่วยืนรอพวกนางอยู่หน้าประตูตามลำพัง หนานกงมั่วยิ้มหวาน สาวเท้าเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว “จวินมั่ว”

คุณชายเว่ยมองเซียวเชียนเยี่ยที่ตามมาด้านหลัง ยื่นมือไปกุมมือหนานกงมั่วเอาไว้ “ไม่เป็นไรใช่หรือไม่”

หนานกงมั่วยิ้ม “จะมีเรื่องอันใดได้เล่า ท่านมาที่นี่เพื่อรอข้าหรือ” เว่ยจวินมั่วพยักหน้า มองดูท่าทางรักใคร่ของพวกเขาสามีภรรยา เซียวเชียนเยี่ยส่งเสียงหยัน หมุนตัวเดินตรงไปยังตำหนักของตนเอง แน่นอนว่าองครักษ์ด้านหลังทั้งสองก็ตามไปด้วย หนานกงมั่วเองก็ไม่ได้สนใจเขา เพียงเงยหน้าขึ้นไปมองเว่ยจวินมั่ว เอ่ย “พวกเรากลับกันเถิด”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้า ทั้งสองจูงมือเดินมุ่งหน้าออกจากวัง ระหว่างทางหนานกงมั่วเอ่ยถึงเรื่องของฮองเฮาและองค์ชายใหญ่ ลังเลอยู่ชั่วครู่จึงเอ่ยถาม “เช่นนี้…ไม่เป็นไรหรือ” ยามนี้ฐานะของฮองเฮาและองค์ชายใหญ่นับว่าอ่อนไหว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหลานสะใภ้หรือลูกสะใภ้ของเยี่ยนอ๋องก็ไม่ควรแสดงออกถึงความสนิทสนมกับคนเหล่านี้จนเกินไป

เว่ยจวินมั่วไม่ใส่ใจ เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร เจ้าทำตามใจก็พอ”

หนานกงมั่วยิ้มร่า “ข้ารู้แล้ว”

เมื่อกลับมาถึงหอเทียนอี เว่ยจวินมั่วกลับห้องหนังสือไปจัดการธุระ หนานกงมั่วยังไม่ทันได้กลับเรือนหลังไปดูบุตรสาวก็ได้รับจดหมายลับจากซิงเวยมาหนึ่งฉบับ

มองจดหมายที่คุ้นเคยตรงหน้า คิ้วสวยของหนานกงมั่วเลิกขึ้นไม่เอ่ยสิ่งใด

“ท่านแม่ ท่านแม่” เท้าเล็กของเยาเยาสาวเท้าวิ่งเข้ามาด้วยความสดใส ด้านหลังมีซังเจี้ยวตามเข้ามาด้วยใบหน้าจนปัญญา หนานกงมั่วยิ้มรับเอาบุตรสาวเข้ามาในอ้อมแขน เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เด็กดี อันใดกันหรือ”

เยาเยาโผเข้าสู่อ้อมแขนของหนานกงมั่วใบหน้าเล็กถูไถออดอ้อน “เยาเยาคิดถึงท่านแม่” เยาเยาที่เพิ่งได้กลับมาอยู่ข้างกายบิดามารดาค่อนข้างติดคน เพียงแต่หนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วนั่นยุ่งมาก ไม่มีเวลาอยู่กับนางมากนัก โชคดีที่ยังมีซังเจี้ยวคอยอยู่ด้วยมิเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าเด็กหญิงจะร้องไห้เพียงใด

“อาเจี้ยว ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง” หนานกงมั่วกอดเยาเยา ก้มลงไปมองซังเจี้ยวที่อยู่ด้านข้าง ไม่ได้เจอหลายวัน ซังเจี้ยวผอมลงไปไม่น้อย ก่อนหน้านี้วุ่นวาย ไม่มีเวลาสนใจลูกศิษย์ของตนเอง หนานกงมั่วรู้สึกละอายอยู่ในใจ ซังเจี้ยวพยักหน้า “ขอบคุณท่านอาจารย์ที่เป็นห่วง อาเจี้ยวสบายดีขอรับ อาเจี้ยวไม่อาจปกป้องศิษย์น้องได้ ขออาจารย์ได้โปรดลงโทษด้วยขอรับ” เรื่องกงอวี้เฉินจับตัวเยาเยาไป อาเจี้ยวรู้สึกเศร้าอยู่ในใจ หากไม่ใช่เพราะเขามีความสามารถไม่เพียงพอ เยาเยาจะตกไปอยู่ในมือศัตรูนานเพียงนั้นได้อย่างไร

“เด็กโง่ เอ่ยอันใดกัน” หนานกงมั่วตบไหล่ลูกศิษย์ด้วยรอยยิ้ม เอ่ย “เจ้าเพิ่งอายุเท่าไรกันเชียว พวกเรามีผู้ใหญ่ตั้งกี่คนยังปล่อยให้คนจับตัวเยาเยาไปได้ ไหนเลยจะโทษเจ้าได้ อย่ากดดันตนเองจนเกินไป”

ซังเจี้ยวพยักหน้าเงียบๆ “ศิษย์รู้แล้วขอรับ ศิษย์จะพยายามต่อไป”

“เด็กดี”

คุณชายเสียนเกอเดินเข้ามาเชื่องช้า กวาดตามองจดหมายลับที่หนานกงมั่วยังไม่ทันเก็บ เอ่ยถาม “กงอวี้เฉินหรือ เขาคิดจะทำอันใดอีกเล่า”

หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอันใด บอกว่าจะไปแล้วให้ข้าไปส่ง”

คุณชายจนคำพูด “กงอวี้เฉินไม่ได้ป่วยกระมัง” เขาคิดว่าเขาเป็นเพื่อนกับมั่วเอ๋อร์หรืออย่างไร ยังต้องไปส่งอีกหรือ

หนานกงมั่วยักไหล่ “ใครจะรู้เล่า”

คุณชายเสียนเกอลูบปลายคาง เอ่ย “ตามนิสัยของกงอวี้เฉิน ไปจากจงหยวนแล้วก็คงยังคงชั่วร้ายอยู่ มิสู้ข้าช่วยเจ้าไปจัดการเขาดีหรือไม่”

หนานกงมั่วมองศิษย์พี่อย่างจนปัญญา “ศิษย์พี่ ท่านคิดว่ากงอวี้เฉินเป็นคนกลัวตายหรือ”

ในเมื่อกล้าให้นางไปส่ง กงอวี้เฉินจะไม่ได้เตรียมตัวหรือ

คุณชายเสียนเกอส่งเสียงหยันไม่เอ่ยวาจา

“เช่นนั้นเจ้าจะไปหรือไม่” คุณชายเสียนเกอเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

หนานกงมั่วราวกับไม่ใส่ใจ “ไปดูสักหน่อยก็ไม่เป็นไร” นางเองก็อยากรู้ ถึงเวลานี้แล้วกงอวี้เฉินยังอยากเจอนางคิดจะเอ่ยสิ่งใด

คุณชายเสียนเกอพยักหน้า ไม่ได้ห้าม เพียงเอ่ยกำชับ “ระวังตัวด้วย”

หนานกงมั่วเม้มริมฝีปากยิ้ม “ข้ารู้ ขอบคุณศิษย์พี่”

“ท่านแม่ ท่านแม่” เด็กน้อยในอ้อมแขนของหนานกงมั่วกระตุกชายเสื้อ

หนานกงมั่วก้มหน้าลง “อันใดหรือ”

“คนชั่วใหญ่” เยาเยาเอ่ย

หนานกงมั่วยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ “ใช่ คนชั่วใหญ่ ทำไมหรือ”

เยาเยากะพริบตาปริบ “คนชั่วใหญ่จะไปที่ใดหรือ” แม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่มารดากับท่านลุงคุยกัน แต่การไปส่งนางก็ยังรู้จักบ้าง

หนานกงมั่วถอนหายใจลูบศีรษะเล็ก “คนชั่วใหญ่จะกลับบ้านแล้ว”

“คนชั่วใหญ่ไม่มีบ้านเขาจึงทำเรื่องไม่ดี เขามีบ้านแล้ว จะไม่ทำเรื่องไม่ดีแล้วใช่หรือไม่” เยาเยาหันศีรษะเล็กมาเอ่ยถาม

หนานกงมั่วไม่มั่นใจ “อาจจะกระมัง”

ตุ๊กตาน้อยกอดคอมารดา “หากคนชั่วใหญ่ไม่ทำเรื่องไม่ดีแล้วก็คงดี”

หนานกงมั่วกอดบุตรสาวเอาไว้ หันไปมองคุณชายเสียนเกอ ผู้ใหญ่สองคนสบตากันด้วยรอยยิ้ม เพราะความไร้เดียงสาของเด็ก

“แม่นางมั่ว” ด้านนอก ลิ่นฉังเฟิงรีบร้อนเข้ามา

หนานกงมั่วหันกลับไปเลิกคิ้วพลางเอ่ย “คุณชายฉังเฟิง มีเรื่องร้อนใจอันใดหรือ”

ลิ่นฉังเฟิงถอนหายใจ เอ่ยเสียงเข้ม “จวนเอ้อกั๋วกงเพิ่งส่งข่าวมาเมื่อครู่ ว่าเอ้อกั๋วกงฆ่าตัวตายอยู่ในจวนแล้ว” ได้ยินเช่นนั้น หนานกงมั่วเองก็ตกใจอยู่ในใจ สำหรับเอ้อกั๋วกงผู้นี้ ไม่ว่าเมื่อใด ไม่ว่าจุดยืนของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร หนานกงมั่วยังคงนับถือเขา

เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าเอ้อกั๋วกงจะไม่ได้ตายในสนามรบ กลับต้องมาเสียสละชีวิตเพื่อเซียวเชียนเยี่ย

มือข้างหนึ่งอุ้มเยาเยา หนานกงมั่วเอ่ย “จวินมั่วอยู่ในห้องหนังสือ พวกเราไปกันเถิด”

เว่ยจวินมั่วไม่ได้อยู่ในห้องหนังสือ เขาอยู่ลานนอกห้องหนังสือ ตรงกลางลานมีหนานกงไหวที่ถูกมัดเอาไว้แน่นหนา

นับตั้งแต่ถูกจับ หนานกงไหวก็ไม่เคยคิดถึงจุดจบของตนเอง หรือกล่าวได้ว่าดิ้นรนมากว่าหลายปีเขาเหนื่อยแล้ว เมื่อครั้งถูกปล่อยออกมาจากคุกหลวงเขาคิดว่าตนเองจะได้ชำระล้างมลทิน กลับมาอย่างมีเกียรติ แต่บนโลกใบนี้เพียงเกิดขึ้นแล้วไม่ใช่ว่าเจ้าอยากเช็ดล้างก็จะเช็ดมันไปได้ง่ายๆ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำสงครามติดต่อกันพ่ายแพ้ติดต่อกัน ยังมาพ่ายแพ้อยู่ในกำมือของบุตรชายบุตรสาวที่เขาเกลียดและเกลียดเขา จนตอนนี้ต้องกลายมาเป็นนักโทษ หนานกงไหวรู้สึกว่าการดิ้นรนตลอดหลายวันที่ผ่านมาของตนเป็นเพียงเรื่องน่าขัน

เว่ยจวินมั่วกลับไม่ได้เอ่ยสิ่งใดมาก ดวงตาสีม่วงคู่นั้นมองสำรวจหนานกงไหวราบเรียบ ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการเขาอย่างไรดี เจี่ยนชิวหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างหดลำคอ สัมผัสได้ถึงรังสีเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมา บางทีเขาอาจจะพลาดแล้ว ไม่ควรพาหนานกงไหวกลับมา ตัดหัวเขาไปก็คงพอแล้วกระมัง อย่างไรก็เป็นบิดาของจวิ้นจู่ ให้คุณชายเว่ยจัดการบางทีอาจจะลำบากใจหรือไม่

“จวินมั่ว” หนานกงมั่วอุ้มเยาเยาเดินเข้มา เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้วเบาๆ “อู๋สยา ลิ่นฉังเฟิง เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *