หมอหญิงยอดมือสังหาร 1044 กลับมารวมตัว (1)
ตอนที่ 1044 กลับมารวมตัว (1)
“เจ้าสำนัก”
ในห้องหนังสือ กงอวี้เฉินกำลังเล่นจี้หยกในมืออย่างไม่ใส่ใจ ชายชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เอ่ยรายงานเรื่องเซียวเชียนเยี่ยเจอกับเว่ยหงเฟย
กงอวี้เฉินโบกมือบอกให้ชายชุดดำถอยออกไป คิ้วคมเลิกขึ้น “เว่ยหงเฟยหรือ น่าสนใจ”
กงเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเอ่ยเสียงเข้ม “เจ้าสำนัก เวลาเช่นนี้จู่ๆ เว่ยหงเฟยก็กลับมาเห็นได้ชัดว่าถูกส่งมา พวกเราจะ…” กงอวี้เฉินส่งเสียงหยัน เอ่ย “หากเจ้ารีบจัดการเขาก่อนที่จะไปเจอเซียวเชียนเยี่ยก็คงดี ยามนี้เซียวเชียนเยี่ยเจอกับเขาแล้ว สิ่งที่ควรเอ่ยคิดว่าคงเอ่ยไปหมดแล้ว สังหารเขาตอนนี้ก็คงเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เขาเอ่ยนั้นเป็นเรื่องจริง”
“เจ้าสำนักรู้หรือขอรับว่าเขาเอ่ยสิ่งใดกับเซียวเชียนเยี่ย”
กงอวี้เฉินเอ่ยเสียงเรียบ “เว่ยจวินมั่วปล่อยเขาออกมาตอนนี้ จะมีเรื่องอันใดอีกเล่า ไม่เป็นไร ไม่ว่าเซียวเชียนเยี่ยจะคิดอย่างไร ยามนี้คงไม่จำเป็นแล้ว นอกเสียจาก เขายอมจำนนเปิดประตูเมืองต้อนรับเยี่ยนอ๋องในเวลานี้” หลายวันมานี้กงเอ้อร์ก็เข้าใจเซียวเชียนเยี่ยคนผู้นี้บ้างแล้ว จะให้เขายอมจำนนแก่เยี่ยนอ๋องไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน เกรงว่าคงยากกว่าให้เขาตายเสียอีก
“พวกเราจะปล่อยไปเช่นนี้หรือขอรับ” กงเอ้อร์เอ่ย
กงอวี้เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคิดว่า วันข้างหน้าชีวิตของเว่ยหงเฟยจะดีหรือไม่ ไม่ว่าสุดท้ายใครจะแพ้ใครจะชนะ ชีวิตของเว่ยหงเฟยก็ไม่ดีทั้งนั้น” หากเซียวเชียนเยี่ยชนะแล้ว เซียวเชียนเยี่ยไม่มีทางลืมความผิดที่ผ่านมาของเขาเพียงเพราะความดีความชอบในวันนี้เพียงเท่านั้นอย่างแน่นอน หากเยี่ยนอ๋องชนะ เว่ยหงเฟยยิ่งน่าเวทนาขึ้นไปอีก ต่อให้ไม่ตาย ชีวิตนี้คงราวกับกึ่งเป็นกึ่งตายแล้ว คนเช่นนี้คิดแล้วช่างน่าเศร้า คิดว่าเขามีชีวิตอยู่น่าสนุกกว่าเขาตายไปเป็นไฉน
เห็นท่าทีของกงอวี้เฉิน กงเอ้อร์ก็ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใด
กงอวี้เฉินเล่นจี้หยกในมือพลางเอ่ยถาม “แต่ละที่จัดเตรียมไว้อย่างไรแล้วบ้าง”
กงเอ้อร์เอ่ยเสียงเข้ม “เวลาเพียงไม่กี่วันก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วขอรับ ข้าน้อยรับรองว่าไร้ข้อผิดพลาดอย่างแน่นอนขอรับ”
กงอวี้เฉินพยักหน้า เอ่ยเสียงเบา “เช่นนั้นก็ดี จะแพ้ชนะก็เพราะการโจมตีครั้งนี้แล้ว”
“ขอรับ เจ้าสำนัก”
เว่ยหงเฟยมาตามที่อยู่ในแผนที่ที่ขันทีบอกจนมาถึงตรอกบนถนนทางทิศเหนือของรอบนอกเมืองจินหลิง ที่แห่งนี้เมื่อก่อนเว่ยหงเฟยไม่เคยมา เมื่อครั้งที่เขาติดตามอดีตฮ่องเต้เข้าวังมาก็อาศัยอยู่เมืองจินหลิงชั้นในที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด แต่ที่นี่กลับเป็นที่ที่ยากจนที่สุดในจินหลิง อดีตจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง ราชบุตรเขยในองค์หญิงฉังผิงแน่นอนว่าไม่เคยมาสถานที่เยี่ยงนี้
ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงออกมาจากด้านใน แม้จะถูกขังอยู่ในคุกมานานหลายปีเว่ยหงเฟยก็อดขมวดคิ้วไมได้ ในคุกขังเพียงมืดและอับชื้น แน่นอนว่ากลิ่นก็ไม่ได้ดีนัก แต่เมื่อเทียบกับกลิ่นที่ไม่รู้ผสมสิ่งใดบ้างเยี่ยงนี้นับว่าเกือบจะเรียกได้ว่าอากาศบริสุทธิ์แล้ว ผู้คนที่นี่ต่างก็ซูบผอม แทบไม่อยากเชื่อว่าที่นี่คือจินหลิง เดิมที่นี่เป็นที่ที่คนยากจนที่สุดในจินหลิงอาศัยอยู่ ไม่ต้องเอ่ยถึงเมืองชั้นในที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไป แม้แต่คนที่อยู่เมืองชั้นนอกก็หลีกหนีจากพวกเขา
คนในตรอกมองเห็นเว่ยหงเฟยก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ เพราะสภาพของเว่ยหงเวยในตอนนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกเขาเท่าใดนัก สอบถามมาตลอดทาง ในที่สุดก็หาครอบครัวของตนเองเจอในที่ที่อยู่ลึกที่สุด ยืนอยู่หน้าประตูผุพัง ดวงตาเหือดแห้งของเว่ยหงเฟยอดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้ บ้านผุพัง สกปรกที่เอนไปมาหลังนี้ ไม่อาจเทียบได้แม้แต่ห้องของบ่าวรับใช้ที่อยู่ชั้นต่ำที่สุดของจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง แต่ว่าตอนนี้บ้านหลังนี้มีครอบครัวของเขานับแต่เด็กไปจนถึงคนแก่อาศัยอยู่ด้วยกันหลายคน
นับตั้งแต่เว่ยหงเฟยพ่ายแพ้ถูกจับตัวเป็นเชลย เว่ยจวินปั๋วและเว่ยจวินเจ๋อสองพี่น้องถูกควบคุมตัวกลับจินหลิงแล้วไม่นานก็ถูกตัดหัว เดิมทีคนตระกูลเว่ยจะต้องถูกเนรเทศไปยังชายแดน สุดท้ายเพราะขุนนางที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องขอเอาไว้จึงไม่มีการเนรเทศ เพียงแต่ถูกปลดให้เป็นสามัญชน สมบัติทั้งหมดของจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องถูกยึดเข้าคลังทั้งหมด แม่เฒ่าเว่ยจึงต้องพาครอบครัวย้ายออกจากเมืองชั้นในมาอาศัยอยู่ในเมืองชั้นนอก แต่ครอบครัวนี้อยู่สุขสบายมานานหลายปี ไหนเลยจะรู้ว่าชีวิตคนธรรมทั่วไปอยู่กันอย่างไร ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เดิมทีแม่เฒ่าเว่ยยังมีเงินที่หลงเหลืออยู่บ้างกลับถูกใช้จนหมดสิ้น สุดท้ายทำอันใดไม่ได้จึงต้องย้ายมาอยู่ในตรอกเก่าที่สุดแห่งนี้
ครอบครัวตระกูลเว่ยมีแต่สตรี นอกจากเสิ่นซื่อภรรยาเว่ยจวินปั๋วที่ถูกครอบครัวมารับกลับไป คนอื่นๆ จึงจำต้องอยู่กับแม่เฒ่าเว่ยแล้ว ส่วนเหล่าสาวใช้อุ่นเตียง คนที่ขายก็ขายคนที่หนีก็หนีกันไปหมดแล้ว ยามนี้บ้านหลังเล็กๆ หลังนี้มีแม่เฒ่าเว่ยและเฝิงซื่อภรรยาเอกของเว่ยหงเฟย อนุเซียงและอนุหันที่ให้กำเนิดบุตรีแก่เว่ยหงเฟย ภรรยาของเว่ยจวินเจ๋อและเว่ยจวินอี้แบ่งเป็นหนึ่งบุตรีเชื้อสายหลักและหนึ่งบุตรชายเชื้อสายรอง ต่างก็เป็นตุ๊กตาตัวเล็กๆ ที่รอการป้อนอาหาร รวมไปถึงสองแม่นางตระกูลเว่ย เว่ยเฟยและเว่ยเชี่ยน เดิมก็เป็นเชื้อสายรอง เดิมทีเฝิงซื่อก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องการออกเรือนของพวกนาง รอจนตระกูลเว่ยตกต่ำก็ยิ่งไม่อาจได้ออกเรือนแล้ว กระทั่งตอนนี้เว่ยเฟยอายุยี่สิบสองแล้ว เว่ยเชี่ยนยี่สิบแล้วแต่ก็ยังเป็นสตรีในห้องหอ
เรือนเล็กเพียงนี้ อยู่ด้วยกันมากมายเช่นนี้แน่นอนว่าลำบาก เว่ยหงเฟยยังไม่ทันเข้าประตูก็ได้ยินเสียงก่นด่าของแม่เฒ่าเว่ยดังออกมา กำลังด่าเฝิงซื่อและอนุทั้งสองขี้เกียจ ต่อมาด่าเว่ยเฟยและเว่ยเชี่ยนเรื่องเงินที่หายไป แม้แต่หลานสะใภ้ทั้งสองยังไม่อาจหลุดรอดไปได้ โดนด่าว่าทำลายชีวิตสามีทำให้หลานชายทั้งสองของตนต้องตาย
เว่ยหงเฟยรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาทันใด เขารู้ว่ามารดาของตนไม่ได้มีความรู้มากนัก อย่าว่าแต่เทียบกับแม่เฒ่าตระกูลเซี่ยตระกูลฉินเช่นนั้น แม้แต่สตรีตระกูลจูที่ถูกเหล่าผู้มีอำนาจดูถูกก็ยังมีความรู้มากกว่ามารดาของเขา เขาคุ้นชินกับการด่าทอเหมือนหญิงชาวบ้านของมารดามาตั้งแต่เด็ก หลายปีมานี้ได้รับการเคารพและเอาใจใส่ ค่อยๆ ได้ฝึกฝนนิสัยใจคอของตนเอง ยิ่งทำให้แม่เฒ่าเว่ยมีหน้ามีตาขึ้นมามากขึ้น ภายนอกนั้นดูสูงส่งเป็นไท่เฟยของจวิ้นอ๋อง น่าเสียดายหลายปีมานี้ต้องลำบากทำให้การฝึกฝนที่สั่งสมมาหายไปจนหมดแล้ว
ในที่สุดก็ทนไม่ไหว เว่ยหงเฟยยื่นมือออกไปเคาะประตู
ชั่วครู่ ถึงได้มีคนเปิดประตูออกมาจากด้านใน คนที่อยู่ด้านนอกและด้านในต่างชะงัก เว่ยเฟยขมวดคิ้วมองชายชราที่ยืนอยู่หน้าประตูนิ่ง เอ่ยอย่างไม่พอใจ “เจ้าเป็นใครกัน คิดจะทำอันใด” เว่ยหงเฟยชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะได้สติ เอ่ย “เฟยเอ๋อร์ นี่พ่อเจ้าเอง”
เว่ยเฟยชะงัก มองเว่ยหงเฟยตรงหน้าอยู่เนิ่นนานไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา
เว่ยหงเฟยรีบเอ่ย “ข้าเป็นบิดาของเจ้าจริงๆ ท่านย่าและแม่ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ท่านพ่อหรือ” เว่ยเฟยเอ่ยมึนงง
ด้านหลังได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของแม่เฒ่าเว่ยดังขึ้น “เจ้าเด็กโง่ เปิดประตูมาตั้งนานแล้ว เชื่อหรือไม่ว่าพรุ่งนี้ข้าจะขายเจ้า”
“ท่านแม่” เว่ยหงเฟยเอ่ยเรียก
แม่เฒ่าเว่ยชะงัก มองเว่ยหงเฟยนิ่งค้าง เนิ่นนานจึงส่งเสียงออกมาได้ “เจ้า…เจ้าคือหงเฟยหรือ” เว่ยหงเฟยรีบพยักหน้า คุกเข่าลงตรงหน้าแม่เฒ่าเว่ย “ลูกอกตัญญู ท่านแม่…ลูกกลับมาแล้ว”
Comments