หมอหญิงยอดมือสังหาร 1057 การเปลี่ยนแปลงในศาลบูรพกษัตริย์ (2)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 1057 การเปลี่ยนแปลงในศาลบูรพกษัตริย์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1057 การเปลี่ยนแปลงในศาลบูรพกษัตริย์ (2)

หลังจากคุกเข่าอยู่ที่นี่มาทั้งคืน สีหน้าของเซียวเชียนเยี่ยก็ไม่ค่อยดีนัก เพียงแค่ยังคงมีร่องรอยของความเฉยเมยและการเสียดสีในสายตาที่มองมายังเยี่ยนอ๋อง เยี่ยนอ๋องกล่าวอย่างเฉยเมย “ไยฝ่าบาททรงทำเช่นนี้”

เซียวเชียนเยี่ยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองไปยังเยี่ยนอ๋องอย่างเย้ยหยัน เอ่ย “เสด็จลุงเยี่ยนอ๋องล้อเล่นแล้ว เป็นความจริงที่ข้าพ่ายแพ้ยับเยิน แต่ดูเหมือนว่าเสด็จลุงเองก็ไม่ได้ดีนัก”

เยี่ยนอ๋องนับว่าไม่ได้ดีนักเมื่อเทียบกับเยี่ยนอ๋องผู้สง่างามมีอำนาจที่เซียวเชียนเยี่ยเคยเห็นเมื่อไม่กี่ปีก่อน เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนอ๋องผอมกว่าและซีดเซียวกว่ามาก พิษระยะยาวและการบาดเจ็บทำให้ใบหน้าของเขาซูบโทรม เซียวเชียนเยี่ยคิดอยู่ในใจ หากเมื่อก่อนเห็นเยี่ยนอ๋องเป็นเช่นนี้ เขาก็คงไม่เกรงกลัวเยี่ยนอ๋องเพียงนั้นไม่ใช่หรือ

เยี่ยนอ๋องถอนหายใจ มองเซียวเชียนเยี่ยเงียบๆ เอ่ย “ฝ่าบาทยังคิดว่าตนเองไม่ผิดอีกหรือ”

เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยเสียงหยัน “ชนะเป็นราชาแพ้เป็นโจร แน่นอนว่าข้าผิดแล้ว”

เยี่ยนอ๋องเงียบไปนาน “ข้ามิได้หมายความเช่นนี้”

เซียวเชียนเยี่ยเย้ยหยันและนิ่งเงียบ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ เพียงมองไปยังสามพี่น้องตระกูลเซียวที่ยืนอยู่ด้านหลังเยี่ยนอ๋อง พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ว่าเสด็จลุงจะหมายความอย่างไร ต่อไปคงไม่ต้องให้ข้าต้องกังวลใจแล้ว เมื่อครั้งเสด็จปู่แต่งตั้งข้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเชื้อพระวงศ์ ยามนี้…ข้าช่างแปลกใจว่าเสด็จลุงจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ได้ยินมาว่า…น้องชายทั้งสามมีผลงานไม่น้อยตลอดหลายปีมานี้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเยี่ยนอ๋องก็ทะมึนลงเล็กน้อย สามพี่น้องตระกูลเซียวเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา คำเอ่ยของเซียวเชียนเยี่ยทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างแน่นอน แต่นั่นเป็นความจริงที่ไม่อาจเลี่ยงได้

เยี่ยนอ๋องไม่โกรธ เพียงมองไปที่เซียวเชียนเยี่ยและส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น “เชียนเยี่ย เจ้าไม่เข้าใจ”

“สิ่งใดหรือ” เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว รู้สึกโกรธอยู่ในใจ เขาไม่ชอบสายตามที่มองเขาราวกับเด็กที่โง่เขลา แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้เขาก็ยังคงเป็นฮ่องเต้

เยี่ยนอ๋องเอ่ยเสียงเรียบ “ราชวงศ์เป็นเช่นนี้เสมอ ข้าจะยึดมั่นแต่กับความสมบูรณ์แบบได้อย่างไร” เป็นความจริงที่พี่น้องในราชวงศ์ฆ่ากันเองและพ่อลูกก็กลายเป็นศัตรูกัน แต่มันดีจริงหรือที่จะไม่ต่อสู้ ไม่มีใครจะทะนุถนอมสิ่งที่ถูกมองข้าม และจะไม่มีความพยายามใดที่ปราศจากการดิ้นรน นับแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ฮ่องเต้องค์ใดที่ล่วงลับไปแล้วในประวัติศาสตร์จะรอดพ้นจากการสู้รบอันน่าสลดใจได้เล่า ต่อให้ไม่ใช่การต่อสู้กันของพี่น้อง แต่ก็ยังมีการต่อสู้ระหว่างขุนนางอีกด้วยมิใช่หรือ เยี่ยนอ๋องแตกต่างจากอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้ไม่เคยเป็นองค์ชาย แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมและแผนการในแบบของกษัตริย์ แต่เขาก็หวังว่าจะมีความสามัคคีในครอบครัวของเขาเหมือนคนทั่วไป เยี่ยนอ๋องไม่ได้เกลียดคนที่ต่อสู้กัน เขาแค่เกลียดคนงี่เง่า ไม่มองภาพรวม และไม่รู้หนักเบา

เซียวเชียนเยี่ยส่งเสียงหยัน และเพิกเฉยต่อวาจาของเยี่ยนอ๋อง เอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าอยู่ตรงนี้ หากจะสังหาร เสด็จลุงเยี่ยนอ๋องก็สังหารเถิด”

เยี่ยนอ๋องถอนหายใจ “ฝ่าบาททรงคิดมากแล้ว โปรดไปที่ห้องบรรทมเถิด”

เซียวเชียนเยี่ยชำเลืองมองเยี่ยนอ๋อง ลุกขึ้น หันหลังแล้วเดินออกไป

ทันใดนั้น เซียวเชียนเยี่ยที่เดินยังไม่ถึงประตูก็โอนเอนไปมา เยี่ยนอ๋องที่ตามมาข้างหลังเขาผงะไปชั่วครู่ ไม่ทันได้สติก็ล้มตามลงไป

เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้คนที่อยู่นอกประตูก็ยิ่งตกใจมากขึ้น

“เสด็จพ่อ”

“ท่านอ๋อง”

เซียวเชียนชื่อสามพี่น้องรีบพุ่งเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว เฉินอวี้เอ่ยเสียงดังอย่างเฉียบขาด “ทหาร คุ้มกัน” ขณะเดียวกันเซวียเจินก็รีบพุ่งเข้าไป เซียวเชียนจย่งรีบวิ่งไปด้านหน้า แยกชายในชุดดำที่จู่ๆ ก็กระโดดออกมาจากห้องโถงด้านหลังและพุ่งเข้าหาเยี่ยนอ๋องด้วยดาบของเขา เมื่อชายชุดดำเห็นว่าโจมตีพลาดจึงก้าวถอยหลังไปสองก้าว ยืนอย่างมั่นคงด้วยความใจเย็น

“อย่าเข้ามา” เยี่ยนอ๋องที่ล้มลงกับพื้นกัดฟันเอ่ย

“สายเกินไปแล้ว” เสียงดังขึ้นมาจากห้องโถงด้านหลัง เซียวเชียนชื่อสามพี่น้องและเฉินอวี้ก็ล้มลงเช่นกัน เพียงแต่เมื่อเฉินอวี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงเตะเซวียเจินที่อยู่ด้านหลังเขาออกไป

ชายในชุดดำสองคนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คนหนึ่งจับเซียวเชียนชื่อ และอีกคนลากเซียวเชียนเหว่ยไปยังทางเข้าห้องโถง ทหารของกองทัพเฉินโจวที่เพิ่งรีบเข้ามาเห็นมีดส่องแสงสีเงินสองเล่มจ่ออยู่บนคอของคุณชายทั้งสองจึงตกตะลึง ใบหน้าของเซวียเจินเข้มขึ้น รีบห้ามทุกคนอย่างรวดเร็ว “ถอย”

ชายรูปงามในชุดเสื้อคลุมสีดำเดินเชื่องช้าออกมา เสื้อคลุมผ้าไหมสีดำปักด้วยลวดลายสีทอง ทว่าเป็นใบหน้าของเนี่ยนหย่วน จะเป็นใครได้หากไม่ใช่กงอวี้เฉิน

“กงอวี้เฉิน” เยี่ยนอ๋องเอ่ยเสียงเข้ม

กงอวี้เฉินยิ้มอ่อนโยนในแบบของเนี่ยนหย่วน พยักหน้าเบาๆ แล้วจึงเอ่ย “ท่านอ๋อง เราพบกันอีกแล้ว”

“เนี่ยนหย่วน เจ้าต้องการทำอันใด” เซียวเชียนจย่งยืนอยู่ข้างหน้าเยี่ยนอ๋อง จ้องมองกงอวี้เฉินที่อยู่เบื้องหน้าเขาอย่างระแวดระวัง

กงอวี้เฉินถอนหายใจ “คุณชายสามช่างเป็นเด็กจริงๆ น่าเสียดาย…ข้าเกิดมาไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกของคุณชายสาม”

เยี่ยนอ๋องมองไปที่กงอวี้เฉิน เอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าควรเรียกเจ้าว่าองค์ชายแห่งเป่ยหยวนหรือไม่”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง มองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าพวกเขาอย่างพร้อมเพรียง รูปร่างหน้าตาหล่อ สง่าสูงส่ง สมกับเป็นชาวจงหยวนโดยสมบูรณ์ ใครจะคิดว่าเขาจะเป็นองค์ชายแห่งเป่ยหยวนกันเล่า

กงอวี้เฉินไม่ปฏิเสธเช่นกัน เพียงถอนหายใจ “หากกระหม่อมรู้ว่าท่านอ๋องรับมือยากเพียงนี้ ตอนนั้นกระหม่อมก็ไม่ควรปรานีจริงๆ”

เยี่ยนอ๋องส่งเสียงหยันไม่เอ่ยวาจา

กงอวี้เฉินไม่สนใจ “โชคดีที่ตอนนี้กระหม่อมยังคงชนะ ท่านอ๋องลำบากมาจนถึงตอนนี้ แต่คงไม่คิดว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้กระมัง” เยี่ยนอ๋องมองเขาอย่างแปลกประหลาด “หรือเจ้าคิดว่าสังหารข้า สังหารฝ่าบาท เจ้าก็จะสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้แล้วอย่างนั้นหรือ”

กงอวี้เฉินหัวเราะพลางเอ่ย “กระหม่อมไร้เดียงสาเพียงนี้เลยหรือ ถ้ากระหม่อมไม่ได้สังหารเพียงท่านอ๋องและฮ่องเต้ แต่ยังสังหารลูกชายทั้งสามคนและ…ขุนนางคนสำคัญทั้งหมดในราชสักนักเล่า”

เยี่ยนอ๋องยังคงนิ่งเงียบ ถ้าเป็นเช่นนั้น แม้ว่ากงอวี้เฉินจะไม่สามารถขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้ ความวุ่นวายในแผ่นดินก็ยากจะหลีกเลี่ยงได้ เมื่อความวุ่นวายเกิดขึ้น จูหงและหนิงอ๋องซึ่งยังคงเฝ้าระวังชาวเป่ยหยวนอยู่ที่โยวโจวในยามนี้คงไม่เพียงพอ และอาจเป็นไปได้ที่ชาวเป่ยหยวนจะนำทัพบุกเข้ามาในจงหยวนอีกครั้ง

“ทำเช่นนี้ มีประโยชน์อันใดกับเจ้า” เยี่ยนอ๋องถามเสียงเย็น

กงอวี้เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ประโยชน์หรือ กระหม่อมถูกสอนให้ทำสิ่งนี้ตั้งแต่กระหม่อมจำความได้ ไหนเลยจะมีประโยชน์อันใด เพียงแต่โชคดีที่กระหม่อมพบประโยชน์บางอย่างสำหรับตัวเอง เมื่อเป่ยหยวนเข้าสู่จงหยวนครั้ง ราชสำนักเป่ยหยวนโง่นั่น…แน่นอนว่าไม่ต้องมีอยู่ต่อไปอีกแล้ว ” ในตอนแรกราชวงศ์เป่ยหยวนถูกอดีตฮ่องเต้สังหารไปไม่น้อย ฮ่องเต้เป่ยหยวนในปัจจุบันนั้นมีบุตรชายบุตรสาวหรือพี่น้องก็เพียงไม่กี่คน แม้ว่ากงอวี้เฉินจะได้รับการสั่งสอนให้ช่วยเหลือเป่ยหยวนตั้งแต่เขาจำความได้ แต่เขาไม่ใช่คนโง่เขลาจงรักภักดีต่อเป่ยหยวน เขาจะทำสิ่งต่างๆ เพื่อทำลายต้าเซี่ย แต่…นั่นเป็นเพราะตัวเขาเองต้องการแผ่นดินนี้ ไม่ใช่เพราะคนโง่ที่เอาแต่อาศัยอยู่นอกกำแพงโดยไม่ทำอันใดเลย

เห็นเยี่ยนอ๋องเงียบไป กงอวี้เฉินเลิกคิ้วขึ้น เอ่ย “ไยท่านอ๋องจึงไม่เอ่ยปากเล่า”

เยี่ยนอ๋องเอ่ยด้วยท่าทางเรียบนิ่ง “ข้าเหมือนจะไม่มีสิ่งใดต้องเอ่ยแล้ว”

กงอวี้เฉินมองไปที่เยี่ยนอ๋องพร้อมกับถอนหายใจ เอ่ย “หากไม่ใช่ศัตรู กระหม่อมชื่นชมท่านอ๋องที่ไม่สนความเป็นตายอย่างยิ่ง กระหม่อมเคยเห็นคนมากมายที่ไม่กลัวความตาย แต่…คนที่กำลังจะมีแผ่นดินอยู่ในกำมือทว่าไม่กลัวตาย กระหม่อมยังไม่เคยเห็นมาก่อน ท่านอ๋องคิดว่า…เว่ยจวินมั่วและซิงเฉิงจวิ้นจู่จะมาช่วยพวกท่านหรือ”

เซียวเชียนจย่งจ้องมองกงอวี้เฉิน เอ่ย “พี่ชายและพี่สะใภ้จะมาอย่างแน่นอน”

กงอวี้เฉินเอ่ยเย้ยหยัน “กระหม่อมคิดว่าทางที่ดีท่านอ๋องควรภาวนาอย่าให้พวกเขามาเสียจะดีกว่า ฝ่าบาท มิสู้พระองค์บอกกับพวกเขา ศาลบูรพกษัตริย์แห่งนี้…พวกเขาจะออกไปได้หรือไม่”

เซียวเชียนเยี่ยผู้ซึ่งถูกละเลยมาโดยตลอดเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง กงอวี้เฉินมองเซียวเชียนเยี่ยพร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “กระหม่อมเสียใจจริงๆ ที่เอาฝ่าบาทเข้ามาด้วย แต่…กระหม่อมเองก็ไม่มีทางเลือก หากไม่มีฝ่าบาท เยี่ยนอ๋องก็คงไม่มาที่นี่ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นพระราชประสงค์ของฝ่าบาทด้วยมิใช่หรือ” เขาเพียงไม่ได้บอกเซียวเชียนเยี่ยว่าจะวางยาพิษก็เท่านั้น

เซียวเชียนเยี่ยดูเหมือนจะไม่สนใจ เขาเงยหน้าขึ้นและเอ่ยกับทุกคน “ด้านล่างของศาลบูรพกษัตริย์ถูกขุดหมดแล้ว ด้านในเต็มไปด้วยดินปืน นอกจากนี้เขายังเตรียมน้ำมันตุงหลายร้อยถัง”

เฉินอวี้กัดฟัน “เป็นไปไม่ได้” เนื่องจากทหารที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าบอกพวกเขาว่าด้านในมีเซียวเชียนเยี่ยเพียงคนเดียว แน่นอนว่าสืบก่อนอยู่แล้ว ต่อให้ซ่อนเอาไว้ก่อน คนมากมายเพียงนี้จะรอดพ้นต่อการตรวจค้นได้เช่นไร

กงอวี้เฉินคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้ม เอ่ย “เจ้าหมายถึง…คนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกนั่นน่ะหรือ”

หัวใจของเฉินอวี้จมดิ่ง กงอวี้เฉินสามารถแทรกซึมเข้าไปในกองทัพโยวโจวในตัวตนของเนี่ยนหย่วน คนจากสำนักหอธารายังสามารถแทรกซึมเข้าไปในราชสำนักได้เป็นถึงรองเจ้ากรม เช่นนั้น…จะไม่มีคนของสำนักหอธาราเข้ามาอยู่ในกองทัพโยวโจวได้เยี่ยงไร

กงอวี้เฉินโบกปัดมือของเขา และชายชุดดำกลุ่มหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลัง ถือถังน้ำมันตุงไปวางไว้ในส่วนต่างๆ ของตำหนัก และไม่นานทั่วทั้งตำหนักก็เต็มไปด้วยกลิ่นฉุน

กงอวี้เฉินยิ้มพลางเอ่ย “ท่านอ๋องเข้าใจแล้วหรือไม่ ว่าไยกระหม่อมจึงบอกว่าท่านออกไปไม่ได้”

เยี่ยนอ๋องหลุบตาลง เอ่ยเสียงเรียบ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไยเจ้าจึงไม่สังหารข้าเลยเล่า ไยต้องวางแผนรอบคอบเพียงนี้”

กงอวี้เฉินเอ่ย “ท่านอ๋องเป็นวีรบุรุษ มันน่าเสียดายถ้าต้องตายเงียบๆ เยี่ยนอ๋องก่อกบฏและโจมตีจินหลิง แต่ท้ายที่สุดเขาก็พาลูกชายทั้งสามคนและขุนพลที่รักของเขาไปตายพร้อมกับฮ่องเต้ในศาลบูรพกษัตริย์ ท่านอ๋องคิดว่าคนทั่วหล้าจะชอบเรื่องนี้หรือไม่”

“ชั่วช้า”

“ชั่วช้างั้นหรือ” กงอวี้เฉินเลิกคิ้วขึ้นและมองไปยังสามพี่น้องตระกูลเซียวที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “ใครในโลกนี้ที่ไม่ชั่วช้าบ้าง ฮ่องเต้ของพระองค์ได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากเซียวฉุนในการขึ้นครองบัลลังก์ แต่ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นมาแก้แค้น เรียกว่าชั่วช้าหรือไม่ อืม…เยี่ยนอ๋องผู้เป็นอาของฮ่องเต้พระองค์สมรู้ร่วมคิดกบฏและบีบจินหลิง เรียกว่าชั่วช้าหรือไม่ อืม…และคุณชายเว่ยที่ซ่อนตัวอยู่หลังกองทัพโยวโจว และสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง เรียกว่าชั่วช้าหรือไม่ คุณชายเซียวสาม ไม่ใช่ว่าผู้คนในโลกนี้ชั่วช้า แต่เป็นเพราะเจ้ายังไม่เติบโต”

“ถุย” เซียวเชียนจย่งถ่มน้ำลายด้วยความโกรธ แต่น่าเสียดายที่กงอวี้เฉินยืนอยู่ห่างเกินไป มันไม่มีประโยชน์

กงอวี้เฉินถอนหายใจพลางมองเยี่ยนอ๋อง เอ่ยเบาๆ “ตอนนี้ยังมีคำถามสุดท้ายหนึ่งข้อ เยี่ยนอ๋องโปรดรับสั่งให้ถอนกำลังของกองทัพโยวโจวและกองทัพเฉินโจวออกจากวังหลวง เป็นอย่างไร”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *