หมอหญิงยอดมือสังหาร 1156 การแต่งงานของหนานกงชวี่ (1)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 1156 การแต่งงานของหนานกงชวี่ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1156 การแต่งงานของหนานกงชวี่ (1)

เมื่อส่งหนานกงชวี่กลับไปแล้ว หนานกงมั่วก็กุมขมับพร้อมคร่ำครวญออกมา รู้จักมานานหลายปีเพียงนี้ นางเพิ่งพบว่าพี่ใหญ่ของนางผู้นี้แปลกประหลาดยิ่งนัก ดูสิ่งที่เขาเอ่ยสิ…เขาจะแต่งงาน เจ้าสาวคือเซวียเสียวเสี่ยว…ท่านจะแต่งนางก็จะแต่งด้วยอย่างนั้นหรือ

ชวีเหลียนซิงเดินเข้ามาแล้วมองเห็นนางฟุบอยู่บนโต๊ะท่าทางไร้ชีวิตชีวา เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้ “พระชายาเป็นอันใดไปเพคะ หรือว่าคุณชายหนานกงมีปัญหายากมาให้พระองค์แล้ว”

หนานกงมั่วส่ายศีรษะ ลูบปลายคางครุ่นคิด “หากจะเอ่ยเรื่องสู่ขอ ข้าไปเองจะเหมาะสมหรือเชิญฮูหยินที่น่าเคารพนับถือไปจะเหมาะสมกว่า”

ชวีเหลียนซิงส่ายศีรษะ นางไม่เข้าใจธรรมเนียมของตระกูลสูงศักดิ์ในจินหลิงมากนัก หนานกงมั่วครุ่นคิด “ช่างเถิด ข้าจะลองไปถามเสด็จแม่”

“คุณชายหนานกงถูกใจแม่นางตระกูลใดแล้วหรือเจ้าคะ” ชวีเหลียนซิงเอ่ยด้วยความสงสัย

หนานกงมั่วกลอกตา เอ่ย “มีคนเช่นนั้น คนมาชอบยังทำเป็นเล่นตัว รอคนเขาไม่ชอบแล้วเขาถึงหันกลับมามอง” แม้เรื่องของหนานกงชวี่ไม่อาจนับได้ว่าเป็นเช่นนี้ แต่ก็ประมาณนี้ วันนั้นที่เซวียเสียวเสี่ยวไปขอความรัก หากหนานกงชวี่เอ่ยมากกว่านั้นสักสองประโยคคงไม่วุ่นวายเพียงนี้

ช่างเถิด นางไปถามตระกูลเซวียก่อนดีกว่า ถึงตอนนั้นจะได้ไม่กระอักกระอ่วน

หลายวันมานี้เซวียฮูหยินเองก็กลุ้มใจ บุตรสาวของตนเอาแต่เศร้าสร้อยไม่ร่าเริง ถามนางว่ามีเรื่องอันใดก็ไม่ยอมเอ่ยปาก เพราะสงครามสองปีที่แล้ว ทำให้การแต่งงานของหญิงสาวต้องล่าช้า ช่วงนี้เซวียฮูหยินกำลังรีบร้อนหาเจ้าบ่าวที่เหมาะสมให้กับบุตรสาว คนที่มาสู่ขอแน่นอนว่ามีไม่น้อย อย่างไรยามนี้เซวียเจินก็เป็นแม่ทัพคนสนิทของฝ่าบาท อีกทั้งยังถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นกั๋วกง ตระกูลเซวียไม่ว่าจะเป็นบุตรสาวหรือบุตรชายเชื้อสายหลัก ยามนี้ต่างก็เป็นบุคคลที่ต้องเกรงใจในเมืองจินหลิง บุตรชายยามนี้ไม่เอ่ยถึง การแต่งงานของบุตรสาวกลับค่อนข้างลำบากใจ พวกเขาเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเหล่าผู้มีอำนาจในจินหลิงมากนัก ยิ่งลูกหลานที่ไม่ทำอันใดของพวกเขายิ่งไม่ถูกตา และหนุ่มสาวที่วัยใกล้เคียงกับเซวียเสียวเสี่ยวไม่แต่งงานแล้วก็มีคู่หมายแล้ว คนที่ยังไม่แต่งงานและยังไม่มีคู่หมายก็มีจุดไม่ดีอยู่บ้าง ทำให้เซวียฮูหยินร้อนใจ ดังนั้นได้รับเทียบเชิญจากหนานกงมั่วเซวียฮูหยินจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตั้งใจเอาไว้ว่าถึงตอนนั้นจะพาบุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงของพระชายาฉู่อ๋องอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าอาจได้เจอคู่ครองที่เหมาะสมก็เป็นได้

เพียงแต่บุตรสาวที่เคยสดใสร่าเริงนั้นดูซึมเศร้า ทำให้เซวียฮูหยินกังวลเป็นอย่างยิ่ง

ได้ยินว่าพระชายาฉู่อ๋องมาหา เซวียฮูหยินจึงตกใจเป็นอย่างแรกก่อนจะรีบออกไปต้อนรับ พระชายาฉู่อ๋องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบุตรสาวของตนเซวียฮูหยินย่อมรู้ เพียงแต่ประหลาดใจว่าพระชายาฉู่อ๋องมาเยี่ยมบุตรสาวของตน อย่างไรพระชายานั้นก็มีฐานะที่แตกต่าง ต่อให้สนิทเพียงใดก็ไม่ควรลำบากมาเยี่ยมด้วยตนเอง

หนานกงมั่วนั่งดื่มชาอยู่ในห้องโถงรับแขกของตระกูลเซวีย ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกจึงเงยหน้าขึ้นมา พลันมองเห็นเซวียฮูหยินเดินเข้ามา

“ถวายพระพรพระชายา”

หนานกงมั่วยิ้มเอ่ย “ฮูหยินไม่ต้องมากพิธี หนานกงมั่วมาโดยไม่บอกกล่าว ต้องขออภัยด้วย”

เซวียฮูหยินได้ยินก็รู้ว่าตนเองคิดผิดแล้ว หนานกงมั่วไม่ได้มาเยี่ยมบุตรีของตน จึงรีบเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พระชายาล้อเล่นแล้ว พระชายามาที่ตระกูลเซวียของเรา นับว่าเป็นวาสนาของชีวิตแล้วเพคะ” ทั้งสองต่างไม่ใช่คนอ้อมค้อม ทักทายกันไม่กี่ประโยคหนานกงมั่วจึงเอ่ยถึงจุดประสงค์ที่มา ฟังหนานกงมั่วจบ เซวียฮูหยินพลันนิ่งค้าง

ฐานะของจิ้งอานโหว แน่นอนว่าคู่ควรกับตระกูลเซวีย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ ของพระชายาฉู่อ๋อง เซวียฮูหยินก็มิใช่คนที่จะอยู่แต่บ้านไม่รู้เรื่องรู้ราว ความสามารถของหนานกงชวี่แน่นอนว่าได้ยินเซวียเจินกล่าวถึง ปัญหาเดียวก็คือหนานกงชวี่เคยแต่งภรรยาแล้วหนึ่งคน แม้จะแยกกันไปนานแล้ว แต่การให้บุตรสาวที่รักของตนไปเป็นจี้ซื่อให้คนอื่น เซวียฮูหยินไม่ไตร่ตรองให้มากไม่ได้

หนานกงมั่วเองก็ไม่รีบร้อน หากเซวียฮูหยินได้ฟังแล้วตอบรับในทันทีนั่นถึงจะแปลก

ตระกูลเซวียมาถึงจุดนี้ เรียกได้ว่าถึงจุดสูงสุดที่เซวียเจินจะมาถึงได้แล้ว ไม่ว่าอำนาจหรือจิตใจเสียสละเขามีมากกว่าหนานกงชวี่อยู่ไม่น้อย ตระกูลเซวียไม่มีความจำเป็นต้องเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลหนานกง หนานกงมั่วยังคงนั่งดื่มชาอย่างมั่นคง เซวียฮูหยินเองก็กำลังไตร่ตรอง นางเองก็เคยพบเจอหนานกงชวี่ บุตรชายของหนานกงไหว หลานของสกุลเมิ่ง อีกทั้งยังเป็นพี่ชายแท้ๆ ของพระชายาฉู่อ๋อง เอ่ยถึงรูปโฉม ความสามารถ หรือฐานะ ตำแหน่งเหมาะสมกับบุตรสาวของตนยิ่งกว่าเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสตรีที่โดดเด่นอย่างพระชายาฉู่อ๋อง เซวียฮูหยินกระทั่งกังวลว่าบุตรสาวที่ธรรมดาของตนถูกตาอีกฝ่ายจริงหรือ แม้ว่าจะอายุมากกว่าบุตรสาวของตนไปบ้าง เพียงแต่บุตรสาวของตนก็แต่งงานล่าช้าไปสองสามปีแล้ว หาชายที่อายุใกล้เคียงกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

ข้อเสียอย่างเดียวก็คือ…

“พระชายา อย่าได้โกรธที่หม่อมฉันเสียมารยาท ได้ยินว่าคนก่อนของจิ้งอานโหว…”

หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ย “ข้าเข้าใจความหมายของฮูหยิน คิดว่าฮูหยินเองก็คงเคยได้ยิน หลายปีก่อนตระกูลหนานกงเกิดเรื่อง พี่สะใภ้คนเก่านั้นหย่าร้างกับพี่ชายไปแล้ว”

เซวียฮูหยินพลันเข้าใจทันที หนานกงมั่วเอ่ยอย่างชัดเจน ฮูหยินหนานกงคนก่อนหน้านั้นไม่อาจร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหนานกงชวี่ ไม่เกี่ยวข้องต่อกันแล้ว หลังจากนี้ก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกันอีก ยามนี้ตระกูลหนานกงลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง ไม่ว่าหนานกงมั่วหรือหนานกงชวี่ต่างไม่ไปเอาคืนตระกูลหลิน เห็นได้ว่าหนานกงชวี่ก็มิใช่คนโหดเหี้ยมไร้คุณธรรม

แน่นอนว่าสิ่งที่เซวียฮูหยินไม่รู้ก็คือ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าหนานกงชวี่ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้แม้เพียงนิด

เซวียฮูหยินครุ่นคิด เอ่ย “เรื่องนี้ยังต้องหารือกับนายท่าน ไม่รู้ว่าพระชายา…”

“แน่นอน” หนานกงมั่วพยักหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หากได้รับการอนุญาตจากแม่ทัพเซวีย ขอฮูหยินช่วยส่งจดหมายไปที่จวนด้วย ข้าจะได้เชิญคนมาสู่ขอที่จวนของท่านเป็นอย่างไร”

“นี่แน่นอนอยู่แล้วเพคะ” เซวียฮูหยินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พูดคุยกับหนานกงมั่วทำให้นางรู้สึกผ่อนคลาย หนานกงมั่วแยกเรือนออกมานานแล้ว ที่บ้านมีหนานกงชวี่เพียงคนเดียว ไม่มีผู้อาวุโส ความสัมพันธ์ของพระชายาฉู่อ๋องและบุตรสาวของตนก็ไม่เลว พระชายาฉู่อ๋องเองก็เป็นคนดีมาก มีน้องสามีเช่นนี้ไม่ต้องกลัวว่าบุตรสาวจะได้รับความลำบากใจ เพียงแต่ตัวตนของหนานกงชวี่ยังต้องถามกับนายท่านจึงจะรู้ได้ เซวียฮูหยินกระตือรือร้นต่อการแต่งงานครั้งนี้เป็นอย่างมาก

เอ่ยกับเซวียฮูหยินเรียบร้อยหนานกงมั่วพลันขอตัวลา ไม่ได้ไปหาเซวียเสียวเสี่ยว อย่างไรก็เพิ่งเอ่ยเรื่องนี้กับมารดาของนางแล้วยังไปหานาง ไม่แน่ว่าเซวียฮูหยินอาจคิดว่านางละเลยต่อเซวียเสียวเสี่ยว แพร่งพรายออกไป คงไม่ดีต่อชื่อเสียงของเซวียเสียวเสี่ยว

หนานกงมั่วเพิ่งจากไป เซวียเสียวเสี่ยวก็เข้ามาในห้องโถงรับแขก มองเห็นมารดานั่งอยู่คนเดียวราวกับกำลังคิดสิ่งใด เอ่ยขึ้น “ท่านแม่ พระชายาฉู่อ๋องมามิใช่หรือ นางเล่า”

เซวียฮูหยินจิ้มนิ้วไปยังหว่างคิ้วของบุตรสาว เอ่ย “ไปทำอันใดอยู่ นางกลับไปแล้ว”

เซวียเสียวเสี่ยวยู่ปากเล็กนั่งลงด้านข้างมารดา เขย่าแขนเซวียฮูหยิน เอ่ย “ข้าได้ยินว่าพระชายาฉู่อ๋องมาก็รีบมาเลยนะเจ้าคะ ใครจะรู้ว่านางจะไปเร็วเพียงนี้ ท่านแม่ พระชายาฉู่อ๋องมาหาท่านทำไมหรือเจ้าคะ เทียบเชิญงานเลี้ยงชมดอกเหมยก็ถูกส่งมาแล้วมิใช่หรือ” แม้ว่าหลายวันนี้ไม่ได้ออกจากเรือน แต่เซวียเสียวเสี่ยวยังรู้ว่าช่วงนี้หนานกงมั่วกำลังยุ่ง เพียงแต่เพิ่งถูกหนานกงชวี่ปฏิเสธ เซวียเสียวเสี่ยวไม่กล้าไปช่วยอย่างที่ฉินซีและเซี่ยเพ่ยหวนทำ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *