หมอหญิงยอดมือสังหาร 1232 ซานเซ่อหลิง

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 1232 ซานเซ่อหลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1232 ซานเซ่อหลิง

ฮองเฮายื่นมือไปกุมมือหนานกงมั่ว เอ่ย “อู๋สยา เจ้ารีบดูให้พวกนาง เป็น…” วันนี้หากมีพระชายาสักคนตายอยู่ในวัง เรื่องนี้คงไม่มีทางเป็นเรื่องดีได้แล้ว หนานกงมั่วพยักหน้า “เสด็จแม่ไม่ต้องกังวลเพคะ เสด็จอาทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”

ซุนเหยียนเอ๋อร์เอ่ย “เสด็จอาทั้งสองไม่เป็นอันใด ออกไปรับรองสตรีทั้งหลายอยู่ข้างนอกแล้ว มีเพียงพระชายาจิ้นอ๋อง โจวอ๋อง ฉีอ๋อง คังอ๋อง อู๋อ๋อง เสด็จอาไม่กี่คนนี้…”

หนานกงมั่วพยักหน้า รีบเดินเข้าไปหาพระชายาจิ้นอ๋องที่อาการหนักที่สุด หมอหลวงที่กำลังตรวจชีพจรให้พระชายาจิ้นอ๋องรีบถอยห่าง เปิดทางให้หนานกงมั่ว หนานกงมั่วนั่งลงยื่นมือออกไปจับมือพระชายาจิ้นอ๋องขึ้นมาข้างหนึ่งตรวจชีพจรให้นาง พลางเอ่ยถามหมอหลวง “เป็นอย่างไรบ้าง” หมอหลวงมองหนานกงมั่วด้วยความลำบากใจ หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเข้ม “เอ่ยมาตามตรงเถิด”

หมอหลวงเอ่ยเสียงเบา “พระชายาทั้งหลายถูกพิษซานเซ่อหลิง จากการกินผิดพ่ะย่ะค่ะ”

ซานเซ่อหลิง คือพืชน้ำชนิดหนึ่ง ดอกเล็กสวยบอบบาง ทว่ามีทั้งสีขาว สีฟ้าและสีแดงอ่อนๆ สามสี พืชชนิดนี้เดิมทีไม่มีพิษ แต่ว่ารูปร่างของมันคล้ายกับหลิงเจี่ยว[1]ที่เจอได้บ่อยๆ ของเจียงหนาน แต่มีพิษร้ายแรง หากกินเล็กน้อยอาจเพียงอาเจียนและวิงเวียน หากกินลงไปมากอาจอาเจียนเป็นเลือดและถึงขั้นตายได้ ความจริงวาจาของหมอหลวงเมื่อครู่ทุกคนต่างก็เข้าใจ อาหารในวังไม่ว่าชนิดใดต่างก็ได้รับการตรวจแทบจะแปดร้อยรอบ ไหนเลยจะมีเรื่องกินผิด เพียงมีคนวางยาพิษเท่านั้น ฟังประโยคนี้ สีหน้าของพระชายาทั้งหลายต่างก็ไม่น่ามองขึ้นมา

หนานกงมั่วหยิบยาขวดเล็กออกมายื่นให้หมอหลวง เอ่ย “ให้พระชายาทุกพระองค์วันละเม็ด กลืนน้ำตามลงไปสามารถช่วยสลายพิษได้หลายส่วน” เอ่ยจบ ก็หยิบหนึ่งเม็ดป้อนให้แก่พระชายาจิ้นอ๋อง พระชายาโจวอ๋องที่อยู่ด้านข้างเอ่ยเสียงเข้ม “ช้าก่อน พระชายาฉู่อ๋อง…เจ้าจะป้อนยาให้พี่สะใภ้รองง่ายๆ อย่างนี้ได้เยี่ยงไร หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น ผู้ใดจะรับผิดชอบ”

หนานกงมั่วมองนางเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “นี่เป็นยาสลายพิษเพคะ”

สีหน้าพระชายาโจวอ๋องแสดงออกว่าไม่เชื่อ “ใครจะรู้ว่าเจ้าอยาก…”

หมอหลวงตรวจสอบยาเรียบร้อย รีบเอ่ยรายงานอย่างนอบน้อม “ทูลฮองเฮา พระชายา นี่เป็นยาสลายพิษจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ใช้ยานี้แล้ว แม้ไม่อาจกำจัดพิษได้ทั้งหมด อย่างน้อยก็กำจัดไปได้กว่าห้าส่วนพ่ะย่ะค่ะ” พระชายาโจวอ๋องขมวดคิ้ว ราวกับกำลังจะเอ่ยสิ่งใด หนานกงมั่วเอ่ยขัดวาจาของนางขึ้นทันใด เสียงเย็นเอ่ย “ในเมื่อเป็นยาของหม่อมฉัน แน่นอนว่าหม่อมฉันต้องเป็นคนรับผิดชอบ ในเมื่อเสด็จอาสะใภ้โจวอ๋องไม่เชื่อหม่อมฉัน ไม่ต้องกินก็ได้เพคะ อย่างไร…พิษบนร่างกายของพระองค์ก็ไม่ได้หนักมาก ต่อให้รอออกจากวังแล้วค่อยหาหมอที่ไว้วางใจมาตรวจ ก็เหมือนกันเพคะ”

สีหน้าของพระชายาโจวอ๋องเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวคล้ำ เอ่ยอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กนี่…ข้าเพียงเป็นห่วงพี่สะใภ้รอง ใครเคยเห็นหมอที่ใดบ้างจะป้อนยาแก้คนไข้ง่ายๆ เพียงนี้…”

“เอาล่ะ น้องสะใภ้หก” ฮองเฮาเอ่ยเสียงเข้มด้วยความรำคาญ “เจ้ามีเรื่องอันใด รออู๋สยารักษาเสร็จค่อยว่ากัน”

ได้ยินเช่นนั้น พระชายาโจวอ๋องจึงจำต้องหุบปากไป เอนตัวพิงเก้าอี้มองไปยังหนานกงมั่ว

หนานกงมั่วช่วยตรวจชีพจรให้พระชายาจิ้นอ๋องเสร็จ คิ้วเรียวขมวดขึ้น พระชายาจิ้นอ๋องอายุไม่น้อยแล้ว ร่างกายไม่แข็งแรงนัก ดังนั้นเมื่อโดนพิษจึงอาการหนักเช่นนี้ มองใบหน้าซีดเซียวและดวงตาเศร้าหมองของพระชายาจิ้นอ๋อง หนานกงมั่วถอนหายใจอยู่ในใจ วันนี้ช่างมีเรื่องมากมายเสียจริง

“เสด็จป้าสะใภ้รอง พระองค์ไม่ต้องกังวลนะเพคะ ไม่เป็นไรเพคะ” หนานกงมั่วเอ่ยปลอบเสียงเบา

พระชายาจิ้นอ๋องพยักหน้า พยายามยกมุมปากทว่าไม่มีแรงเอ่ยปากได้ หนานกงมั่วไม่ได้มีภาพจำต่อพระชายาจิ้นอ๋องผู้นี้มากนัก แต่รู้ว่านางเป็นคนอ่อนโยนคนหนึ่ง อายุเพียงนี้แล้วยังต้องมารับภัยร้ายทั้งที่ไม่เกี่ยวกับตน จริงๆ เลย…

“หมอหลวง เข็มเงิน” หนานกงมั่วเอ่ย

หมอหลวงที่อยู่ด้านข้างรีบหยิบเข็มเงินออกมาจากกล่อง เปิดออกตรงหน้าหนานกงมั่ว หนานกงมั่วหยิบเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่มมองสำรวจ ก่อนจะพยักหน้า ความจริงบนตัวของนางก็มีเข็ม เพียงแต่ไม่อาจหยิบออกมาต่อหน้าพระชายาเหล่านี้ได้ เข็มหนึ่งเล่มค่อยๆ ปักลงบนจุดลมปราณของพระชายาจิ้นอ๋อง พระชายาจิ้นอ๋องขมวดคิ้วเบาๆ ทว่าไม่ได้มีความเคลื่อนไหวอันใด หนานกงมั่วปักเข็มต่อไปยังจุดฝังเข็ม เห็นใบหน้าที่เคยซีดขาวของพระชายจิ้นอ๋องค่อยๆ มีสีเลือดขึ้นมา หมอหลวงหลายคนหันมองมา ว่ากันว่าวิชาฝังเข็มของพระชายาฉู่อ๋องคือวิชาฝังเข็มเฉียนคุนผู่ตู้ที่สูญหายไปนาน ต่อให้ไม่อาจเรียน ขอเพียงได้เห็นก็นับว่าได้ประสบการณ์แล้ว

หมอหลวงที่คอยเป็นผู้ช่วยให้หนานกงมั่วอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “พระชายา การฝังเข็มสามารถล้างพิษได้หรือพ่ะย่ะค่ะ” สิ่งนี้ไม่เคยเห็นนัก

หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ย “แน่นอนว่าไม่ได้ เพียงสกัดการไหลเวียนของพิษเท่านั้น อีกอย่างยังสามารถกระตุ้นร่างกายให้ต่อสู้กับพิษได้เท่านั้น จากนั้นยังคงต้องอาศัยยาในการกำจัดพิษ”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ พระชายาช่างมีความรู้สูงส่งยิ่งนัก”

หนานกงมั่วส่ายศีรษะ “ท่านหมอหลวงชมเกินไปแล้ว ท่านหมอทุกท่านมีใบสั่งยาถอนพิษแล้วหรือ” ซานเซ่อหลิงนับว่าเป็นพิษที่เจอได้ง่าย ดังนั้นหนานกงมั่วจึงแปลกใจกับสิ่งที่นางกำนัลบอกว่าจนหนทางก่อนหน้านี้ หมอหลวงก้มหน้าขออภัย “พระชายาได้โปรดอภัย พิษของซานเซ่อหลิงไม่ได้ถอนยาก แต่ว่าหลังจากถอนพิษแล้ว…งานเลี้ยงในคืนนี้…”

ยาถอนพิษซานเซ่อหลิงเมื่อใช้แล้ว มีผลต่อพลังงานในร่างกาย อย่างน้อยต้องพักผ่อนหลายวันกว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ แต่จะรอให้จบงานเลี้ยงคืนนี้ค่อยถอนพิษก็ไม่ได้ พิษนี้มีอันตรายต่อปอดและกระเพาะอาหารของคน ยิ่งถ่วงเวลาไปนานก็ยิ่งมีผลมาก พระชายาผู้สูงส่งเหล่านี้ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่หนังหนาแล้วกินผิด ไม่แน่ว่าจะทนได้

หนานกงมั่วเองก็นึกถึงเรื่องนี้ ขมวดคิ้วครุ่นคิด เอ่ย “เดี๋ยวข้าจะฝังเข็มให้เสด็จป้าสะใภ้จิ้นอ๋องก่อน ทุกท่านเขียนยาที่เหมาะสมออกมาเดี๋ยวข้าจะลองตัดสินใจ”

“พ่ะย่ะค่ะ พระชายา”

หมอหลวงทั้งหลายรับคำสั่ง รีบไปหารือเรื่องใบสั่งยาอยู่อีกฝั่ง

ซุนเหยียนเอ๋อร์เดินเข้ามา เอ่ยถามเสียงเบา “พี่สะใภ้ ให้คนไปตามคุณชายเสียนเกอหรือไม่เพคะ”

หนานกงมั่วส่ายศีรษะ เอ่ย “ช่างเถิด อย่างไรศิษย์พี่ก็เป็นบุรุษคงไม่สะดวกนัก ไม่ต้องกังวล ข้าจัดการได้” เห็นสีหน้าที่ไร้ความกังวลของนาง ซุนเหยียนเอ๋อร์จึงลอบถอนหายใจ “เช่นนั้นก็ดีแล้ว”

หนานกงมั่วเหลือบมองไปด้านในตำหนัก เอ่ยถาม “น้องสะใภ้สามเล่า”

ซุนเหยียนเอ๋อร์เองก็ส่ายศีรษะด้วยความงุนงง เอ่ย “พระองค์ไปแล้ว องค์หญิงหลิงอี๋ก็กลับมา แต่ไม่เห็นพี่สะใภ้สามกลับมาด้วยเพคะ”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ยสั่ง “ให้คนไปเตรียมของเบาๆ บำรุงกระเพาะสักหน่อย รอสักพักค่อยให้คนนำมาให้พระชายาเสวย”

“เพคะ หม่อมฉันจะไปสั่งการเดี๋ยวนี้” ซุนเหยียนเอ๋อร์พยักหน้าตอบรับ

หลังฝังเข็มเสร็จแล้ว สีหน้าของพระชายาจิ้นอ๋องพลันดีขึ้นมาก หนานกงมั่วถอนเข็มออกพลางเอ่ยถาม “เสด็จป้าสะใภ้รอง ดีขึ้นบ้างหรือไม่เพคะ”

พระชายาจิ้นอ๋องพยักหน้า เอ่ย “ลำบากเจ้าแล้ว ดีขึ้นมากแล้ว…”

หนานกงมั่วเอ่ยปลอบพร้อมรอยยิ้ม “เสด็จป้าสะใภ้รองไม่ต้องกังวล ไม่ใช่พิษร้ายแรงเพคะ ไม่นานก็จะดีขึ้น”

พระชายาจิ้นอ๋องกำลังจะเอ่ยปาก หน้าตำหนักพลันมีเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมา หนานกงมั่วขมวดคิ้ว มือที่กำลังถอนเข็มกลับไม่สั่นไหวแม้เพียงนิด ยังคงถอนเข็มทีละเล่มอย่างมั่งคง

“เกิดเรื่องใดขึ้น” ฮองเฮาเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

ด้านนอกมีนางกำนัลวิ่งเข้ามารายงาน เอ่ย “ทูลฮองเฮา ท่านอ๋องทั้งหลายมาขอเข้าเฝ้าเพคะ”

สีหน้าของฮองเฮาเข้มขึ้น อย่างไรก็ยังเอ่ยปาก “เชิญเหล่าท่านอ๋องเข้ามาเถิด”

“เพคะ”

ไม่นานท่านอ๋องหลายคนที่อยู่ในชุดคลุมพิธีการปักลายงูเหลือมก็พุ่งตัวเข้ามา คนที่นำอยู่ด้านหน้าเป็นชายวัยกลางคนมองเห็นหนานกงมั่วกำลังถอนเข็มออกพลันตะโกนเสียงดัง “เจ้ากำลังทำอันใดกับพระชายาของข้า” มือของหนานกงมั่วชะงักไปเล็กน้อย ทว่าไม่ได้หยุด ชายผู้นั้นรีบพุ่งเข้ามา ทว่าถูกหนานกงมั่วใช้มือข้างเดียวผลักออกไป

“นี่ พี่รอง ระวังสักหน่อย” หนิงอ๋องยื่นมือมาประคองอยู่ด้านหลังจิ้นอ๋องที่ถูกผลักออกมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พระชายาฉู่อ๋องกำลังฝังเข็มให้พี่สะใภ้รองอยู่ ท่านทำให้พระชายาฉู่อ๋องตกใจไม่เป็นไร หากพี่สะใภ้รองตกใจคงจะยุ่งเอาได้”

จิ้นอ๋องพลันมองชัดเจน สีหน้ายังคงไม่น่ามองทว่าอดทนเอาไว้ได้แล้ว

ฮองเฮาเอ่ยเสียงเข้ม “ท่านอ๋องทั้งหลาย นี่มันเรื่องใดกันเล่า”

จิ้นอ๋องหันมาหาฮองเฮา เอ่ย “ฮองเฮา ได้ข่าวว่าพระชายาของกระหม่อมได้รับพิษแล้ว กระหม่อมกำลังอยากได้คำอธิบายจากฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”

ฮองเฮาสีหน้าทะมึน เพียงเกิดเรื่องนางก็สั่งคนปิดพื้นที่ทั้งวังหลัง ไม่คิดว่าข่าวจะถูกส่งออกไปด้านหน้า กำลังจะเอ่ยปาก ด้านนอกพลันมีเสียงขันทีรายงานว่าฝ่าบาทตรัสถามว่าวังหลังเกิดเรื่องอันใดขึ้น ฮองเฮาหันไปมองหนานกงมั่ว หนานกงมั่วเงยหน้าขึ้น เก็บเข็มอย่างใจเย็น พร้อมเอ่ย “ทูลต่อฝ่าบาท เสด็จอาสะใภ้ทุกพระองค์มิได้เป็นอันใดมาก”

ขันทีมองไปยังฮองเฮา ฮองเฮาพยักหน้า เอ่ย “ทูลตามที่พระชายาฉู่อ๋องบอกเถิด”

รอขันทีออกไปแล้ว โจวอ๋องจึงเอ่ยเสียงหยัน “นี่เรียกว่าไม่เป็นอันใดมากหรือ พระชายาของข้าและพี่สะใภ้ทั้งหลายต่างก็ได้รับพิษแล้ว”

หนานกงมั่วลุกขึ้นพร้อมล้างมือจากน้ำที่นางกำนัลเตรียมเอาไว้ให้ ก่อนจะเอ่ย “เสด็จอาโจวอ๋องวางใจเพคะ เสด็จอาสะใภ้โจวอ๋องยังคงปกติไม่ได้เป็นอะไร ส่วนเรื่องในวันนี้ เชื่อว่าเสด็จพ่อและเสด็จแม่จะมีคำอธิบายให้ทุกพระองค์อย่างแน่นอน วันนี้เป็นวันพระบรมราชสมภพของเสด็จพ่อ เสด็จลุงและเสด็จอาทุกพระองค์ยังคิดเอาเรื่องนี้ไปทำให้เสด็จพ่อกังวลใจอีกหรือเพคะ ไม่ทำให้คณะทูตต่างแคว้นต้องขำขันหรอกหรือ”

สีหน้าของท่านอ๋องหลายคนมีเคลื่อนไหวเล็กน้อย ไม่เอ่ยปากอีก ฉีอ๋องเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พี่รองและน้องหกต่างก็เป็นห่วงพระชายา เอ่ยตามตรงน้องเองก็กังวลอยู่บ้าง ขอพี่สะใภ้สามอย่าได้ถือสา”

ฮองเฮายิ้ม แน่นอนว่าไม่อาจถือสาพวกเขาได้ ยิ้มพลางเอ่ย “ในเมื่อมาแล้ว ไม่ดูก็คิดว่าพวกเจ้าเองก็คงไม่อาจวางใจ นั่งลงเถิด”

ทุกคนเอ่ยขอบคุณโดยพร้อมเพรียง เดินไปนั่งลงด้านข้าง ในห้องกว้างไม่มีใครเอ่ยวาจา บรรยากาศพลันอึมครึมขึ้นมา

หนานกงมั่วตรวจชีพจรให้พระชายาคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีอาการหนักมาก จากนั้นเดินไปหาหมอหลวงที่กำลังหารือเรื่องยา เห็นนางเดินเข้ามา หมอหลวงหลายคนจึงรีบลุกขึ้นคารวะ หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ยบอกพวกเขาไม่ต้องมากพิธี เอ่ยถาม “เป็นอย่างไรบ้าง”

หมอหลวงที่ดูเป็นหัวหน้ารีบยื่นใบสั่งยาให้ เอ่ยอย่างลำบากใจ “พวกกระหม่อมหารือกันได้ใบสั่งยาสองใบนี้ เพียงแต่…” ในวังไม่เคยมีใครถูกพิษซานเซ่อหลิงมาก่อน ดังนั้นเหล่าหมอหลวงรู้เพียงว่าควรถอนพิษอย่างไร ใครก็ไม่เคยทดลองมาก่อน จะเขียนใบสั่งยาอย่างไรกัน อีกทั้งพระชายาที่นั่งอยู่ต่างมีฐานะสูงส่ง ยาที่ไม่เคยทำการทดลอง ใครจะกล้าใช้กับพวกนางกันเล่า แน่นอนว่าหนานกงมั่วเข้าใจเรื่องนี้ หลายครั้งที่หมอหลวงแสดงออกมาว่าจนหนทาง ความจริงไม่ใช่วิชาการแพทย์ของพวกเขาย่ำแย่ อาการป่วยหรือพิษหลายอย่างไม่ใช่พวกเขาไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไร พวกเขาเพียงไม่กล้าเท่านั้น หากไม่มีความสามารถ ไหนเลยจะเข้ามาอยู่ในสำนักหมอหลวงได้

หนานกงมั่วครุ่นคิดกับใบสั่งยาอยู่ชั่วครู่ นั่งลงเขียนใบสั่งยาแผ่นใหม่ก่อนจะส่งคืนไปพร้อมเอ่ยถาม “ทุกท่านลองดู แบบนี้เป็นเช่นไร”

หมอหลวงรับไป หลายคนเข้ามามุงดูด้วยกัน หารือกันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะประสานมือเอ่ย “วิชาการแพทย์ของพระชายาช่างเยี่ยมยอด ใบสั่งยานี้ดีกว่าของพวกกระหม่อมไปอีกขั้นจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ” หนานกงมั่วยิ้มบาง ไม่ได้จริงจังกับคำเยินยอของพวกเขา “ใบสั่งยาของท่านหมอหลวงเองก็มิได้มีปัญหา ข้าเพียงแก้ไขปริมาณของยาเพียงเท่านั้น”

แม้ผลจะดีกว่าสองใบเมื่อครู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมาก ทว่าคนเหล่านี้วางใจได้ก็เท่านั้น

แน่นอนว่าหมอหลวงเองก็เข้าใจหลักการนี้ ยิ้มกระอักกระอ่วนขึ้นมา มองไปยังหนานกงมั่วอย่างกระตือรือร้น ไม่ใช่พวกเขาไม่อยากออกหน้า อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสแสดงความสามารถต่อหน้าฮองเฮา แต่เรื่องนี้เพียงมองก็รู้ว่าต้องมีเรื่องแฝงอยู่อย่างแน่นอน พวกเขาไม่ได้มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งอย่างพระชายาฉู่อ๋อง เลือกทางปลอดภัยไว้จะดีกว่า

หนานกงมั่วเองก็ไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจ นำใบสั่งยามาอยู่ตรงหน้าฮองเฮา เอ่ย “เสด็จแม่ สั่งคนต้มยาให้เสด็จป้าสะใภ้และเสด็จอาสะใภ้ทั้งหลายดื่มก็ดีขึ้นแล้วเพคะ”

ฮองเฮาพ่นลมหายใจ เอ่ย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เช่นนั้นยานี้…”

หนานกงมั่วเอ่ย “เดี๋ยวหม่อมฉันให้คนไปต้มเพคะ”

“ก็ดีเหมือนกัน ใช้คนของเจ้าข้าก็วางใจ ในวังนี้…” พระนางส่ายศีรษะ คนที่วางยาพระชายาหลายพระองค์นี้ยังไม่อาจสืบได้ ฮองเฮาจำต้องระมัดระวัง

หนานกงมั่วยกมือขึ้นมาปรบมือเบาๆ องครักษ์ชุดเทาสองคนปรากฏตัวขึ้นหน้าประตูห้องโถง เอ่ยอย่างนอบน้อม “พระชายา” หนานกงมั่วยื่นใบสั่งยาให้ เอ่ย “เอาไปให้ศิษย์พี่ดู หากเขาบอกไม่มีปัญหาพวกเจ้าก็ต้มยาตามนี้ พวกเจ้าไปด้วยตนเอง”

“เพคะ” องครักษ์ทั้งสองรับใบสั่งยาไป ทำความเคารพและหายไปจากหน้าประตู

ท่านอ๋องหลายคนที่นั่งอยู่เห็นเช่นนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังหนานกงมั่วราวกับกำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง ฮองเฮามองสายตาของทุกคน ยื่นมือไปหาหนานกงมั่วก่อนจะยิ้มพลางเอ่ย “วันนี้โชคดีที่มีเจ้า” หนานกงมั่วนั่งลงด้านข้างฮองเฮา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เสด็จแม่เอ่ยหนักแล้วเพคะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด แม้พิษของซานเซ่อหลิงจะอันตรายถึงชีวิต แต่คนที่ตายเพราะพิษซานเซ่อหลิงนั้นมีน้อยในน้อย ใบสั่งยาของท่านหมอหลวงทั้งหลายก็ดียิ่งนัก เพียงแต่หม่อมฉันอยากให้ศิษย์พี่ช่วยดู ป้องกันเอาไว้ด้วยเพคะ”

หมอหลวงที่อยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนั้น อดส่งสายตาตื้นตันใจไปให้หนานกงมั่วไม่ได้ พวกเขาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องการให้ฮองเฮามองว่าพวกเขาไร้ความสามารถ

ฉีอ๋องมองไปยังพระชายาของตน เอ่ยถาม “อู๋สยา ไม่เป็นไรจริงหรือ”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ย “เสด็จอาฉีอ๋องวางใจเป็นพอเพคะ เสด็จอาสะใภ้ทุกพระองค์ไม่มีอันใดน่าเป็นห่วง เพียงแต่เสด็จป้าสะใภ้จิ้นอ๋องร่างกายไม่แข็งแรงนัก ดังนั้นจึงดูหนักสักหน่อย ผ่านวันนี้ไป เสด็จป้าสะใภ้จิ้นอ๋องหากมีเวลาว่างมานั่งเล่นที่จวนหม่อมฉันก็ได้เพคะ หม่อมฉันจะตรวจดูอาการให้”

ได้ยินเช่นนั้นจิ้นอ๋องพลันดีใจ เขาและพระชายาจิ้นอ๋องเป็นสามีภรรยากันมาตั้งแต่วัยเยาว์ ยามนี้อายุมากแล้วแม้ไม่ได้มีความเสน่หาลึกซึ้ง แต่ความสัมพันธ์ยังดีมาก พระชายาจิ้นอ๋องอายุมากแล้ว เดิมทีร่างกายก็ไม่แข็งแรงจริงๆ ได้ยินมานานแล้วว่าวิชาการแพทย์ของพระชายาฉู่อ๋องนั้นดีอย่างยิ่ง หากมีโอกาสให้นางตรวจดู แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดี คิดเช่นนี้ ยิ่งรู้สึกผิดกับท่าทีของตนที่มีต่อหนานกงมั่วเมื่อครู่ “เมื่อครู่เสด็จลุง ร้อนใจไปสักหน่อย…”

หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ย “เพราะเสด็จลุงเป็นห่วงเสด็จป้าสะใภ้จึงได้ลืมตัว เสด็จป้าสะใภ้ช่างโชคดี อู๋สยาทำได้เพียงอิจฉาแล้วเพคะ”

ท่านอ๋องหลายคนเห็นหนานกงมั่วรับมือด้วยรอยยิ้มอย่างง่ายดาย ลอบถอนหายใจอยู่ในใจ พี่สามช่างมีวาสนาแล้ว มีโอรสที่เก่งกาจไม่พอ แม้แต่ลูกสะใภ้ยังทำให้คนรู้สึกอิจฉามากจริงๆ

[1] หลิงเจี่ยว ต้นกระจับ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *