บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนบอกว่ายินดีจะสอนตน ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับผงะไป

จากนั้น ดวงตาที่ตอนแรกเบิกโตเหมือนกระดิ่งทองแดงออกสีแดงเล็กน้อย ตาชื้นแล้ว

รู้กันดีว่าแม้แต่ตอนที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมารดาของฉินอวิ๋นตี๋ตัดขาดเลิกให้เงินเขา เขายังไม่ยอมแพ้ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ให้กำลังใจและแบ่งปันอย่างไม่ขี้เหนียวแม้แต่นิด ทำให้เขากลับหลั่งน้ำตา

หลายปีมานี้ในที่สุดก็มีคนรู้ใจเข้าใจข้าสักที ทั้งยังยินดีแบ่งปันสุดยอดทักษะเช่นนี้ให้กับเขา!

ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนกำราบฉินอวิ๋นตี๋อยู่หมัดจริงๆ

ตอนแรกได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้มีวาสนาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ภายในใจฉินอวิ๋นตี๋ยังมีความสงสัย ถึงอย่างไรในแดนศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ก็มีอัจฉริยะมากมาย ใครบ้างไม่ใช่คนหยิ่งยโส

การนำบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิกลับมาสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่จริงๆ มีสิทธิ์เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้านั่งตำแหน่งนี้จะกำราบทุกคนได้หรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเลือกในรอบหนึ่งร้อยปี ส่วนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะผลัดเปลี่ยนในรอบพันปี

ถ้าไม่มีกำลังรบกับเสน่ห์เลิศล้ำมากพอจะทำให้ทุกคนเชื่อฟังได้ แม้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็มีอำนาจแค่ร้อยปีเท่านั้น ท้ายที่สุดไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

ศิษย์สายตรงอย่างฉินอวิ๋นตี๋มีผู้อาวุโสสูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพหนุนหลังอยู่ เลยไม่ค่อยยำเกรงบุตรศักดิ์สิทธิ์เท่าไร

ในทางตรงกันข้าม บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้แย่งชิงสิบท่านที่จะแย่งตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กลับต้องดึงตัวศิษย์สายตรงพวกนี้ไป

……..

เรื่องที่เสิ่นเทียนรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้กระจายไปทั่ววงในศิษย์สายตรงแล้ว ทุกคนคิดว่าต่อให้เสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นแค่วัตถุมงคลประดับไว้เท่านั้น

แต่ตอนนี้ฉินอวิ๋นตี๋ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ยินดีจะยืนอยู่ข้างบุตรศักดิ์สิทธิ์

ถึงอย่างไร…ก็ได้ประโยชน์จากเขา

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยสีหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่ ได้จริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนกระอักกระอ่วน ก่อนจะเริ่มอธิบายให้ฉินอวิ๋นตี๋ฟัง “ได้แน่นอน เจ้าตั้งใจฟังให้ดี”

เขาวนลูกประคำ ให้จิ่วเอ๋อร์เรียกมวลน้ำเล็กออกมาอีก

เสิ่นเทียนชี้ไปที่มวลน้ำนี้ “ศิษย์น้อง น้ำนี่รวมขึ้นจากอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนสองสิ่ง”

แม้ฉินอวิ๋นตี๋จะฟังไม่เข้าใจแต่ก็ยังพยักหน้า “อืม ต้นกำเนิดหยินและหยาง”

เสิ่นเทียนกล่าว “สายฟ้าจะแยกน้ำเป็นอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนใหม่”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “สายฟ้าแยกน้ำเป็นต้นกำเนิดหยินหยางรึ”

ฉินอวิ๋นตี๋สามารถปรับแก้ยันต์ระเบิดอัสนีโดยไม่มีใครชี้แนะได้ นี่ต้องเป็นคนฉลาดระดับใด แม้เขาจะไม่รู้ว่าต้นกำเนิดหยินและหยางที่ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์บอกคืออะไรกันแน่

แต่ถ้าคิดในมุมการฝึกบำเพ็ญเซียนแล้ว หากเกี่ยวโยงถึงหยินหยางจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ!

อ้อ มิน่าจู่ๆ ค่ายกลยันต์ระเบิดอัสนีของข้าครั้งก่อนถึงมีอานุภาพสูงขึ้น

ฉินอวิ๋นตี๋เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ได้เปิดโลกในพริบตาเลย

ที่แท้ข้าก็เคยก้าวข้ามไปมหามรรคหยินหยางโดยไม่รู้ตัวนี่เอง!

…..

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยความเลื่อมใส “ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจแล้ว! มันคือการใช้วิธีลับกระตุ้นต้นกำเนิดหยินและหยางก็จะผสานหยินและหยางได้ และระเบิดเป็นอานุภาพที่แข็งแกร่งใช่หรือไม่”

ต้นกำเนิดหยิน ต้นกำเนิดหยาง หยินหยางผสานกัน

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย เขาพูดอะไรออกมากัน

แต่ถ้าตามที่ฉินอวิ๋นตี๋อธิบาย ฟังดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร!

นำไฮโดรเจนและออกซิเจนผสมกันในปริมาตรสองต่อหนึ่งแล้วจุดระเบิด มันก็คือไฮโดรเจนและออกซิเจนผสานกันนั่นแหละ!

คิดๆ แล้ว ถ้าจะต้องแก้ไขอธิบายให้ชัดเจน ก็อาจจะต้องให้ฉินอวิ๋นตี๋เรียนเคมีเสริมทั้งวัน

ด้วยความจนปัญญา เสิ่นเทียนเลยตัดสินใจขอโทษอาจารย์เคมี “ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว แต่ไม่ต้องใช้วิธีลับกระตุ้น แค่ใช้เพลิงอัสนีจุดนิดเดียวก็พอ อันนี้ข้าเองก็ค้นพบโดยไม่ได้ตั้งใจตอนฝึกวิชาอัสนีธาตุน้ำเช่นกัน”

ฉินอวิ๋นตี๋พยักหน้า “สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ มีมหาโชคอยู่กับตัวจริงๆ ศิษย์น้องละอายใจ มุมานะบากบั่นศึกษามาหลายเดือน ก็ยังไม่พบความลึกลับของต้นกำเนิดหยินหยางเลย

ศิษย์พี่แค่ฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ตระหนักหลักการอยู่เหนือข้อพิพาทใดๆ เช่นนี้ได้เลย ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำมีประโยชน์กับทุกสรรพสิ่งและไม่แก่งแย่ง รูปร่างมันเหมือนไร้ขีดจำกัด แต่ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากของทุกสรรพสิ่ง แก่นรากของทุกสรรพสิ่งให้กำเนิดหยินหยาง

ดังนั้นน้ำจึงเป็นโครงสร้างของต้นกำเนิดหยินและหยาง สามารถกลายเป็นหยินหยาง ละเอียดลึกซึ้ง ละเอียดลึกซึ้งยิ่ง! ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าท่านเหมือนจะเจอมหามรรคเป็นเอกแห่งยุคแล้ว!

บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเดินบนเส้นทางแห่งมหาจักรพรรดิหยินหยางทวนวารีที่ไม่เคยมีมาก่อน!”

เห็นฉินอวิ๋นตี๋ยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิมแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหงื่อแตกอย่างบ้าคลั่ง

ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำดั่งไร้ขีดจำกัด ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากทุกสรรพสิ่ง แก่นรากทุกสรรพสิ่งแบ่งเป็นหยินหยาง ดังนั้นสิ่งที่ออกมาจากไฟฟ้าแยกสังเคราะห์น้ำก็คือต้นกำเนิดหยินและต้นกำเนิดหยาง

เวร ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ แม้แต่ข้าคงเชื่อไปแล้ว

จากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า ฉิน ลาวัวซีเย[1] อวิ๋นตี๋!

เจ้าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโลกบำเพ็ญเซียน!

……

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพลันรู้สึกสบายไปทั้งตัว

เขามีสีหน้าดีใจ รีบควักกระจกจากอกเสื้อมาส่องไปที่ศีรษะ

เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ วงรัศมีเดิมทีมีเพียงแสงสีเขียวอ่อนๆ วนเวียนอยู่ ตอนนี้แสงสว่างจ้าขึ้นมาก

แสงสีเขียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วนเวียนตามวงรัศมีและย้อมสีมันไปด้วย

ไม่นานวงรัศมีของเสิ่นเทียนก็มีลวดลายสีเขียวอ่อนเพิ่มมา ส่วนเขารู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนเช่นกัน

เป็นคนโชคดีสบายกว่าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าใช้มันสมองเอาความรู้ที่คืนอาจารย์ไปแล้วกลับมา

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนจู่ๆ ก็เอากระจกออกมาส่อง ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับงุนงงเล็กน้อย ศิษย์พี่หมายความว่าอย่างไรกัน

หรือจะเตือนข้าว่าอย่าลุ่มหลงเพราะสิ่งที่ได้มาชั่วครู่

ให้หากระจกมา กล้ามองข้อเสียและจุดบกพร่องตรงๆ คิดทบทวนถึงจุดที่ต้องแก้ไขหรือ

ซี้ด สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!

ฉินอวิ๋นตี๋ทำใจสงบลง “ศิษย์พี่ให้อภัยด้วย ข้าตื่นเต้นมากเกินไป”

เสิ่นเทียนดูกระจกพลางพูดแบบขอไปที “ช่วยไม่ได้ ศิษย์น้องตื่นเต้นก็ดี”

ฉินอวิ๋นตี๋ใช้สายฟ้าแยกน้ำไปพลางถามด้วยความแปลกใจไปพลาง “ศิษย์พี่ ท่านตั้งชื่อกระบวนท่านี้แล้วรึยัง”

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วพูดไปว่า “ในเมื่อไฟฟ้าแยกน้ำทำให้เกิดอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจน ถ้าอย่างนั้นก็ชื่ออัสนีเทพไฮดรอกไซด์แล้วกัน!”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “อัสนีเทพหยินหยางรึ ก็ได้ จะได้เนียนคล้ายๆ กับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างได้ง่ายๆ”

เสิ่นเทียนงุนงง

เสิ่นเทียนถอนหายใจ เขารู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ

ช่วงที่เขาหมุนตัวกลับมา ตัดสินใจว่าเพิ่มดวงชะตาเสร็จแล้วจะกลับนั้น

ฉินอวิ๋นตี๋พลันมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาลุกวาว “ศิษย์พี่ รับข้าไปด้วยเถอะ!”

อะไรนะ

เสิ่นเทียนสะดุ้งแล้ว “จะ…เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ภายภาคหน้าจะต้องก่อตั้งกองกำลังหลักเฉพาะ อวิ๋นตี๋ยินดีที่จะติดตามศิษย์พี่ ขอแค่ศิษย์พี่ประคับประคองอวิ๋นตี๋บ้าง สอนพื้นฐานของมหามรรคหยินหยางทวนวารีให้อวิ๋นตี๋บ้างก็พอ เห็นแก่ที่เราลุ่มหลงในศิลปะเหมือนกัน ศิษย์พี่ท่านรับข้าไปด้วยเถอะ!”

สารภาพตามตรง พอเห็นความจริงใจของฉินอวิ๋นตี๋แล้ว เสิ่นเทียนใจอ่อน

เป็นศิษย์สายตรงผู้ยิ่งใหญ่กลับลดตัวต่ำลงมาเช่นนี้…

ก็ได้!

ไอ้พวกนั้นโกหกทั้งเพ ความจริงคือเสิ่นเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งในใจ

ถ้าข้าชี้แนะฉินอวิ๋นตี๋ให้พัฒนาไปในแนวทาง ‘ระเบิดมือ’ ‘ปืนกลสายฟ้า’ หรือ ‘ปืนใหญ่แม่เหล็กพลังงานวิญญาณ’

เช่นนั้นก่อนที่ฉินอวิ๋นตี๋จะค้นพบสิ่งเหล่านี้จะเห็นภาพโชคลิขิตก่อนหรือไม่

ไม่พบโชคลิขิต ข้าก็จะลองสร้างโชคลิขิตขึ้นเอง

ซี้ด อันนี้ลองดูได้!

…………………………………

[1] ลาวัวซีเย มาจากชื่อ อ็องตวน ลาวัวซีเย นักวิทยาศาสตร์เคมีชาวฝรั่งเศส

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนบอกว่ายินดีจะสอนตน ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับผงะไป

จากนั้น ดวงตาที่ตอนแรกเบิกโตเหมือนกระดิ่งทองแดงออกสีแดงเล็กน้อย ตาชื้นแล้ว

รู้กันดีว่าแม้แต่ตอนที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมารดาของฉินอวิ๋นตี๋ตัดขาดเลิกให้เงินเขา เขายังไม่ยอมแพ้ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ให้กำลังใจและแบ่งปันอย่างไม่ขี้เหนียวแม้แต่นิด ทำให้เขากลับหลั่งน้ำตา

หลายปีมานี้ในที่สุดก็มีคนรู้ใจเข้าใจข้าสักที ทั้งยังยินดีแบ่งปันสุดยอดทักษะเช่นนี้ให้กับเขา!

ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนกำราบฉินอวิ๋นตี๋อยู่หมัดจริงๆ

ตอนแรกได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้มีวาสนาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ภายในใจฉินอวิ๋นตี๋ยังมีความสงสัย ถึงอย่างไรในแดนศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ก็มีอัจฉริยะมากมาย ใครบ้างไม่ใช่คนหยิ่งยโส

การนำบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิกลับมาสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่จริงๆ มีสิทธิ์เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้านั่งตำแหน่งนี้จะกำราบทุกคนได้หรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเลือกในรอบหนึ่งร้อยปี ส่วนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะผลัดเปลี่ยนในรอบพันปี

ถ้าไม่มีกำลังรบกับเสน่ห์เลิศล้ำมากพอจะทำให้ทุกคนเชื่อฟังได้ แม้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็มีอำนาจแค่ร้อยปีเท่านั้น ท้ายที่สุดไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

ศิษย์สายตรงอย่างฉินอวิ๋นตี๋มีผู้อาวุโสสูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพหนุนหลังอยู่ เลยไม่ค่อยยำเกรงบุตรศักดิ์สิทธิ์เท่าไร

ในทางตรงกันข้าม บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้แย่งชิงสิบท่านที่จะแย่งตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กลับต้องดึงตัวศิษย์สายตรงพวกนี้ไป

……..

เรื่องที่เสิ่นเทียนรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้กระจายไปทั่ววงในศิษย์สายตรงแล้ว ทุกคนคิดว่าต่อให้เสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นแค่วัตถุมงคลประดับไว้เท่านั้น

แต่ตอนนี้ฉินอวิ๋นตี๋ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ยินดีจะยืนอยู่ข้างบุตรศักดิ์สิทธิ์

ถึงอย่างไร…ก็ได้ประโยชน์จากเขา

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยสีหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่ ได้จริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนกระอักกระอ่วน ก่อนจะเริ่มอธิบายให้ฉินอวิ๋นตี๋ฟัง “ได้แน่นอน เจ้าตั้งใจฟังให้ดี”

เขาวนลูกประคำ ให้จิ่วเอ๋อร์เรียกมวลน้ำเล็กออกมาอีก

เสิ่นเทียนชี้ไปที่มวลน้ำนี้ “ศิษย์น้อง น้ำนี่รวมขึ้นจากอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนสองสิ่ง”

แม้ฉินอวิ๋นตี๋จะฟังไม่เข้าใจแต่ก็ยังพยักหน้า “อืม ต้นกำเนิดหยินและหยาง”

เสิ่นเทียนกล่าว “สายฟ้าจะแยกน้ำเป็นอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนใหม่”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “สายฟ้าแยกน้ำเป็นต้นกำเนิดหยินหยางรึ”

ฉินอวิ๋นตี๋สามารถปรับแก้ยันต์ระเบิดอัสนีโดยไม่มีใครชี้แนะได้ นี่ต้องเป็นคนฉลาดระดับใด แม้เขาจะไม่รู้ว่าต้นกำเนิดหยินและหยางที่ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์บอกคืออะไรกันแน่

แต่ถ้าคิดในมุมการฝึกบำเพ็ญเซียนแล้ว หากเกี่ยวโยงถึงหยินหยางจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ!

อ้อ มิน่าจู่ๆ ค่ายกลยันต์ระเบิดอัสนีของข้าครั้งก่อนถึงมีอานุภาพสูงขึ้น

ฉินอวิ๋นตี๋เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ได้เปิดโลกในพริบตาเลย

ที่แท้ข้าก็เคยก้าวข้ามไปมหามรรคหยินหยางโดยไม่รู้ตัวนี่เอง!

…..

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยความเลื่อมใส “ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจแล้ว! มันคือการใช้วิธีลับกระตุ้นต้นกำเนิดหยินและหยางก็จะผสานหยินและหยางได้ และระเบิดเป็นอานุภาพที่แข็งแกร่งใช่หรือไม่”

ต้นกำเนิดหยิน ต้นกำเนิดหยาง หยินหยางผสานกัน

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย เขาพูดอะไรออกมากัน

แต่ถ้าตามที่ฉินอวิ๋นตี๋อธิบาย ฟังดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร!

นำไฮโดรเจนและออกซิเจนผสมกันในปริมาตรสองต่อหนึ่งแล้วจุดระเบิด มันก็คือไฮโดรเจนและออกซิเจนผสานกันนั่นแหละ!

คิดๆ แล้ว ถ้าจะต้องแก้ไขอธิบายให้ชัดเจน ก็อาจจะต้องให้ฉินอวิ๋นตี๋เรียนเคมีเสริมทั้งวัน

ด้วยความจนปัญญา เสิ่นเทียนเลยตัดสินใจขอโทษอาจารย์เคมี “ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว แต่ไม่ต้องใช้วิธีลับกระตุ้น แค่ใช้เพลิงอัสนีจุดนิดเดียวก็พอ อันนี้ข้าเองก็ค้นพบโดยไม่ได้ตั้งใจตอนฝึกวิชาอัสนีธาตุน้ำเช่นกัน”

ฉินอวิ๋นตี๋พยักหน้า “สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ มีมหาโชคอยู่กับตัวจริงๆ ศิษย์น้องละอายใจ มุมานะบากบั่นศึกษามาหลายเดือน ก็ยังไม่พบความลึกลับของต้นกำเนิดหยินหยางเลย

ศิษย์พี่แค่ฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ตระหนักหลักการอยู่เหนือข้อพิพาทใดๆ เช่นนี้ได้เลย ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำมีประโยชน์กับทุกสรรพสิ่งและไม่แก่งแย่ง รูปร่างมันเหมือนไร้ขีดจำกัด แต่ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากของทุกสรรพสิ่ง แก่นรากของทุกสรรพสิ่งให้กำเนิดหยินหยาง

ดังนั้นน้ำจึงเป็นโครงสร้างของต้นกำเนิดหยินและหยาง สามารถกลายเป็นหยินหยาง ละเอียดลึกซึ้ง ละเอียดลึกซึ้งยิ่ง! ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าท่านเหมือนจะเจอมหามรรคเป็นเอกแห่งยุคแล้ว!

บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเดินบนเส้นทางแห่งมหาจักรพรรดิหยินหยางทวนวารีที่ไม่เคยมีมาก่อน!”

เห็นฉินอวิ๋นตี๋ยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิมแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหงื่อแตกอย่างบ้าคลั่ง

ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำดั่งไร้ขีดจำกัด ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากทุกสรรพสิ่ง แก่นรากทุกสรรพสิ่งแบ่งเป็นหยินหยาง ดังนั้นสิ่งที่ออกมาจากไฟฟ้าแยกสังเคราะห์น้ำก็คือต้นกำเนิดหยินและต้นกำเนิดหยาง

เวร ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ แม้แต่ข้าคงเชื่อไปแล้ว

จากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า ฉิน ลาวัวซีเย[1] อวิ๋นตี๋!

เจ้าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโลกบำเพ็ญเซียน!

……

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพลันรู้สึกสบายไปทั้งตัว

เขามีสีหน้าดีใจ รีบควักกระจกจากอกเสื้อมาส่องไปที่ศีรษะ

เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ วงรัศมีเดิมทีมีเพียงแสงสีเขียวอ่อนๆ วนเวียนอยู่ ตอนนี้แสงสว่างจ้าขึ้นมาก

แสงสีเขียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วนเวียนตามวงรัศมีและย้อมสีมันไปด้วย

ไม่นานวงรัศมีของเสิ่นเทียนก็มีลวดลายสีเขียวอ่อนเพิ่มมา ส่วนเขารู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนเช่นกัน

เป็นคนโชคดีสบายกว่าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าใช้มันสมองเอาความรู้ที่คืนอาจารย์ไปแล้วกลับมา

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนจู่ๆ ก็เอากระจกออกมาส่อง ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับงุนงงเล็กน้อย ศิษย์พี่หมายความว่าอย่างไรกัน

หรือจะเตือนข้าว่าอย่าลุ่มหลงเพราะสิ่งที่ได้มาชั่วครู่

ให้หากระจกมา กล้ามองข้อเสียและจุดบกพร่องตรงๆ คิดทบทวนถึงจุดที่ต้องแก้ไขหรือ

ซี้ด สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!

ฉินอวิ๋นตี๋ทำใจสงบลง “ศิษย์พี่ให้อภัยด้วย ข้าตื่นเต้นมากเกินไป”

เสิ่นเทียนดูกระจกพลางพูดแบบขอไปที “ช่วยไม่ได้ ศิษย์น้องตื่นเต้นก็ดี”

ฉินอวิ๋นตี๋ใช้สายฟ้าแยกน้ำไปพลางถามด้วยความแปลกใจไปพลาง “ศิษย์พี่ ท่านตั้งชื่อกระบวนท่านี้แล้วรึยัง”

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วพูดไปว่า “ในเมื่อไฟฟ้าแยกน้ำทำให้เกิดอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจน ถ้าอย่างนั้นก็ชื่ออัสนีเทพไฮดรอกไซด์แล้วกัน!”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “อัสนีเทพหยินหยางรึ ก็ได้ จะได้เนียนคล้ายๆ กับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างได้ง่ายๆ”

เสิ่นเทียนงุนงง

เสิ่นเทียนถอนหายใจ เขารู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ

ช่วงที่เขาหมุนตัวกลับมา ตัดสินใจว่าเพิ่มดวงชะตาเสร็จแล้วจะกลับนั้น

ฉินอวิ๋นตี๋พลันมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาลุกวาว “ศิษย์พี่ รับข้าไปด้วยเถอะ!”

อะไรนะ

เสิ่นเทียนสะดุ้งแล้ว “จะ…เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ภายภาคหน้าจะต้องก่อตั้งกองกำลังหลักเฉพาะ อวิ๋นตี๋ยินดีที่จะติดตามศิษย์พี่ ขอแค่ศิษย์พี่ประคับประคองอวิ๋นตี๋บ้าง สอนพื้นฐานของมหามรรคหยินหยางทวนวารีให้อวิ๋นตี๋บ้างก็พอ เห็นแก่ที่เราลุ่มหลงในศิลปะเหมือนกัน ศิษย์พี่ท่านรับข้าไปด้วยเถอะ!”

สารภาพตามตรง พอเห็นความจริงใจของฉินอวิ๋นตี๋แล้ว เสิ่นเทียนใจอ่อน

เป็นศิษย์สายตรงผู้ยิ่งใหญ่กลับลดตัวต่ำลงมาเช่นนี้…

ก็ได้!

ไอ้พวกนั้นโกหกทั้งเพ ความจริงคือเสิ่นเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งในใจ

ถ้าข้าชี้แนะฉินอวิ๋นตี๋ให้พัฒนาไปในแนวทาง ‘ระเบิดมือ’ ‘ปืนกลสายฟ้า’ หรือ ‘ปืนใหญ่แม่เหล็กพลังงานวิญญาณ’

เช่นนั้นก่อนที่ฉินอวิ๋นตี๋จะค้นพบสิ่งเหล่านี้จะเห็นภาพโชคลิขิตก่อนหรือไม่

ไม่พบโชคลิขิต ข้าก็จะลองสร้างโชคลิขิตขึ้นเอง

ซี้ด อันนี้ลองดูได้!

…………………………………

[1] ลาวัวซีเย มาจากชื่อ อ็องตวน ลาวัวซีเย นักวิทยาศาสตร์เคมีชาวฝรั่งเศส

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนบอกว่ายินดีจะสอนตน ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับผงะไป

จากนั้น ดวงตาที่ตอนแรกเบิกโตเหมือนกระดิ่งทองแดงออกสีแดงเล็กน้อย ตาชื้นแล้ว

รู้กันดีว่าแม้แต่ตอนที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมารดาของฉินอวิ๋นตี๋ตัดขาดเลิกให้เงินเขา เขายังไม่ยอมแพ้ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ให้กำลังใจและแบ่งปันอย่างไม่ขี้เหนียวแม้แต่นิด ทำให้เขากลับหลั่งน้ำตา

หลายปีมานี้ในที่สุดก็มีคนรู้ใจเข้าใจข้าสักที ทั้งยังยินดีแบ่งปันสุดยอดทักษะเช่นนี้ให้กับเขา!

ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนกำราบฉินอวิ๋นตี๋อยู่หมัดจริงๆ

ตอนแรกได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้มีวาสนาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ภายในใจฉินอวิ๋นตี๋ยังมีความสงสัย ถึงอย่างไรในแดนศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ก็มีอัจฉริยะมากมาย ใครบ้างไม่ใช่คนหยิ่งยโส

การนำบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิกลับมาสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่จริงๆ มีสิทธิ์เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้านั่งตำแหน่งนี้จะกำราบทุกคนได้หรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเลือกในรอบหนึ่งร้อยปี ส่วนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะผลัดเปลี่ยนในรอบพันปี

ถ้าไม่มีกำลังรบกับเสน่ห์เลิศล้ำมากพอจะทำให้ทุกคนเชื่อฟังได้ แม้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็มีอำนาจแค่ร้อยปีเท่านั้น ท้ายที่สุดไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

ศิษย์สายตรงอย่างฉินอวิ๋นตี๋มีผู้อาวุโสสูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพหนุนหลังอยู่ เลยไม่ค่อยยำเกรงบุตรศักดิ์สิทธิ์เท่าไร

ในทางตรงกันข้าม บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้แย่งชิงสิบท่านที่จะแย่งตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กลับต้องดึงตัวศิษย์สายตรงพวกนี้ไป

……..

เรื่องที่เสิ่นเทียนรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้กระจายไปทั่ววงในศิษย์สายตรงแล้ว ทุกคนคิดว่าต่อให้เสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นแค่วัตถุมงคลประดับไว้เท่านั้น

แต่ตอนนี้ฉินอวิ๋นตี๋ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ยินดีจะยืนอยู่ข้างบุตรศักดิ์สิทธิ์

ถึงอย่างไร…ก็ได้ประโยชน์จากเขา

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยสีหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่ ได้จริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนกระอักกระอ่วน ก่อนจะเริ่มอธิบายให้ฉินอวิ๋นตี๋ฟัง “ได้แน่นอน เจ้าตั้งใจฟังให้ดี”

เขาวนลูกประคำ ให้จิ่วเอ๋อร์เรียกมวลน้ำเล็กออกมาอีก

เสิ่นเทียนชี้ไปที่มวลน้ำนี้ “ศิษย์น้อง น้ำนี่รวมขึ้นจากอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนสองสิ่ง”

แม้ฉินอวิ๋นตี๋จะฟังไม่เข้าใจแต่ก็ยังพยักหน้า “อืม ต้นกำเนิดหยินและหยาง”

เสิ่นเทียนกล่าว “สายฟ้าจะแยกน้ำเป็นอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนใหม่”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “สายฟ้าแยกน้ำเป็นต้นกำเนิดหยินหยางรึ”

ฉินอวิ๋นตี๋สามารถปรับแก้ยันต์ระเบิดอัสนีโดยไม่มีใครชี้แนะได้ นี่ต้องเป็นคนฉลาดระดับใด แม้เขาจะไม่รู้ว่าต้นกำเนิดหยินและหยางที่ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์บอกคืออะไรกันแน่

แต่ถ้าคิดในมุมการฝึกบำเพ็ญเซียนแล้ว หากเกี่ยวโยงถึงหยินหยางจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ!

อ้อ มิน่าจู่ๆ ค่ายกลยันต์ระเบิดอัสนีของข้าครั้งก่อนถึงมีอานุภาพสูงขึ้น

ฉินอวิ๋นตี๋เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ได้เปิดโลกในพริบตาเลย

ที่แท้ข้าก็เคยก้าวข้ามไปมหามรรคหยินหยางโดยไม่รู้ตัวนี่เอง!

…..

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยความเลื่อมใส “ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจแล้ว! มันคือการใช้วิธีลับกระตุ้นต้นกำเนิดหยินและหยางก็จะผสานหยินและหยางได้ และระเบิดเป็นอานุภาพที่แข็งแกร่งใช่หรือไม่”

ต้นกำเนิดหยิน ต้นกำเนิดหยาง หยินหยางผสานกัน

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย เขาพูดอะไรออกมากัน

แต่ถ้าตามที่ฉินอวิ๋นตี๋อธิบาย ฟังดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร!

นำไฮโดรเจนและออกซิเจนผสมกันในปริมาตรสองต่อหนึ่งแล้วจุดระเบิด มันก็คือไฮโดรเจนและออกซิเจนผสานกันนั่นแหละ!

คิดๆ แล้ว ถ้าจะต้องแก้ไขอธิบายให้ชัดเจน ก็อาจจะต้องให้ฉินอวิ๋นตี๋เรียนเคมีเสริมทั้งวัน

ด้วยความจนปัญญา เสิ่นเทียนเลยตัดสินใจขอโทษอาจารย์เคมี “ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว แต่ไม่ต้องใช้วิธีลับกระตุ้น แค่ใช้เพลิงอัสนีจุดนิดเดียวก็พอ อันนี้ข้าเองก็ค้นพบโดยไม่ได้ตั้งใจตอนฝึกวิชาอัสนีธาตุน้ำเช่นกัน”

ฉินอวิ๋นตี๋พยักหน้า “สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ มีมหาโชคอยู่กับตัวจริงๆ ศิษย์น้องละอายใจ มุมานะบากบั่นศึกษามาหลายเดือน ก็ยังไม่พบความลึกลับของต้นกำเนิดหยินหยางเลย

ศิษย์พี่แค่ฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ตระหนักหลักการอยู่เหนือข้อพิพาทใดๆ เช่นนี้ได้เลย ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำมีประโยชน์กับทุกสรรพสิ่งและไม่แก่งแย่ง รูปร่างมันเหมือนไร้ขีดจำกัด แต่ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากของทุกสรรพสิ่ง แก่นรากของทุกสรรพสิ่งให้กำเนิดหยินหยาง

ดังนั้นน้ำจึงเป็นโครงสร้างของต้นกำเนิดหยินและหยาง สามารถกลายเป็นหยินหยาง ละเอียดลึกซึ้ง ละเอียดลึกซึ้งยิ่ง! ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าท่านเหมือนจะเจอมหามรรคเป็นเอกแห่งยุคแล้ว!

บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเดินบนเส้นทางแห่งมหาจักรพรรดิหยินหยางทวนวารีที่ไม่เคยมีมาก่อน!”

เห็นฉินอวิ๋นตี๋ยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิมแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหงื่อแตกอย่างบ้าคลั่ง

ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำดั่งไร้ขีดจำกัด ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากทุกสรรพสิ่ง แก่นรากทุกสรรพสิ่งแบ่งเป็นหยินหยาง ดังนั้นสิ่งที่ออกมาจากไฟฟ้าแยกสังเคราะห์น้ำก็คือต้นกำเนิดหยินและต้นกำเนิดหยาง

เวร ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ แม้แต่ข้าคงเชื่อไปแล้ว

จากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า ฉิน ลาวัวซีเย[1] อวิ๋นตี๋!

เจ้าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโลกบำเพ็ญเซียน!

……

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพลันรู้สึกสบายไปทั้งตัว

เขามีสีหน้าดีใจ รีบควักกระจกจากอกเสื้อมาส่องไปที่ศีรษะ

เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ วงรัศมีเดิมทีมีเพียงแสงสีเขียวอ่อนๆ วนเวียนอยู่ ตอนนี้แสงสว่างจ้าขึ้นมาก

แสงสีเขียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วนเวียนตามวงรัศมีและย้อมสีมันไปด้วย

ไม่นานวงรัศมีของเสิ่นเทียนก็มีลวดลายสีเขียวอ่อนเพิ่มมา ส่วนเขารู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนเช่นกัน

เป็นคนโชคดีสบายกว่าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าใช้มันสมองเอาความรู้ที่คืนอาจารย์ไปแล้วกลับมา

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนจู่ๆ ก็เอากระจกออกมาส่อง ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับงุนงงเล็กน้อย ศิษย์พี่หมายความว่าอย่างไรกัน

หรือจะเตือนข้าว่าอย่าลุ่มหลงเพราะสิ่งที่ได้มาชั่วครู่

ให้หากระจกมา กล้ามองข้อเสียและจุดบกพร่องตรงๆ คิดทบทวนถึงจุดที่ต้องแก้ไขหรือ

ซี้ด สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!

ฉินอวิ๋นตี๋ทำใจสงบลง “ศิษย์พี่ให้อภัยด้วย ข้าตื่นเต้นมากเกินไป”

เสิ่นเทียนดูกระจกพลางพูดแบบขอไปที “ช่วยไม่ได้ ศิษย์น้องตื่นเต้นก็ดี”

ฉินอวิ๋นตี๋ใช้สายฟ้าแยกน้ำไปพลางถามด้วยความแปลกใจไปพลาง “ศิษย์พี่ ท่านตั้งชื่อกระบวนท่านี้แล้วรึยัง”

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วพูดไปว่า “ในเมื่อไฟฟ้าแยกน้ำทำให้เกิดอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจน ถ้าอย่างนั้นก็ชื่ออัสนีเทพไฮดรอกไซด์แล้วกัน!”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “อัสนีเทพหยินหยางรึ ก็ได้ จะได้เนียนคล้ายๆ กับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างได้ง่ายๆ”

เสิ่นเทียนงุนงง

เสิ่นเทียนถอนหายใจ เขารู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ

ช่วงที่เขาหมุนตัวกลับมา ตัดสินใจว่าเพิ่มดวงชะตาเสร็จแล้วจะกลับนั้น

ฉินอวิ๋นตี๋พลันมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาลุกวาว “ศิษย์พี่ รับข้าไปด้วยเถอะ!”

อะไรนะ

เสิ่นเทียนสะดุ้งแล้ว “จะ…เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ภายภาคหน้าจะต้องก่อตั้งกองกำลังหลักเฉพาะ อวิ๋นตี๋ยินดีที่จะติดตามศิษย์พี่ ขอแค่ศิษย์พี่ประคับประคองอวิ๋นตี๋บ้าง สอนพื้นฐานของมหามรรคหยินหยางทวนวารีให้อวิ๋นตี๋บ้างก็พอ เห็นแก่ที่เราลุ่มหลงในศิลปะเหมือนกัน ศิษย์พี่ท่านรับข้าไปด้วยเถอะ!”

สารภาพตามตรง พอเห็นความจริงใจของฉินอวิ๋นตี๋แล้ว เสิ่นเทียนใจอ่อน

เป็นศิษย์สายตรงผู้ยิ่งใหญ่กลับลดตัวต่ำลงมาเช่นนี้…

ก็ได้!

ไอ้พวกนั้นโกหกทั้งเพ ความจริงคือเสิ่นเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งในใจ

ถ้าข้าชี้แนะฉินอวิ๋นตี๋ให้พัฒนาไปในแนวทาง ‘ระเบิดมือ’ ‘ปืนกลสายฟ้า’ หรือ ‘ปืนใหญ่แม่เหล็กพลังงานวิญญาณ’

เช่นนั้นก่อนที่ฉินอวิ๋นตี๋จะค้นพบสิ่งเหล่านี้จะเห็นภาพโชคลิขิตก่อนหรือไม่

ไม่พบโชคลิขิต ข้าก็จะลองสร้างโชคลิขิตขึ้นเอง

ซี้ด อันนี้ลองดูได้!

…………………………………

[1] ลาวัวซีเย มาจากชื่อ อ็องตวน ลาวัวซีเย นักวิทยาศาสตร์เคมีชาวฝรั่งเศส

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 103 ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ ข้าคงเชื่อไปแล้ว
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนบอกว่ายินดีจะสอนตน ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับผงะไป

จากนั้น ดวงตาที่ตอนแรกเบิกโตเหมือนกระดิ่งทองแดงออกสีแดงเล็กน้อย ตาชื้นแล้ว

รู้กันดีว่าแม้แต่ตอนที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมารดาของฉินอวิ๋นตี๋ตัดขาดเลิกให้เงินเขา เขายังไม่ยอมแพ้ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ให้กำลังใจและแบ่งปันอย่างไม่ขี้เหนียวแม้แต่นิด ทำให้เขากลับหลั่งน้ำตา

หลายปีมานี้ในที่สุดก็มีคนรู้ใจเข้าใจข้าสักที ทั้งยังยินดีแบ่งปันสุดยอดทักษะเช่นนี้ให้กับเขา!

ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนกำราบฉินอวิ๋นตี๋อยู่หมัดจริงๆ

ตอนแรกได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้มีวาสนาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ภายในใจฉินอวิ๋นตี๋ยังมีความสงสัย ถึงอย่างไรในแดนศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ก็มีอัจฉริยะมากมาย ใครบ้างไม่ใช่คนหยิ่งยโส

การนำบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิกลับมาสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่จริงๆ มีสิทธิ์เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้านั่งตำแหน่งนี้จะกำราบทุกคนได้หรือไม่นั่นคืออีกเรื่อง

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเลือกในรอบหนึ่งร้อยปี ส่วนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะผลัดเปลี่ยนในรอบพันปี

ถ้าไม่มีกำลังรบกับเสน่ห์เลิศล้ำมากพอจะทำให้ทุกคนเชื่อฟังได้ แม้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็มีอำนาจแค่ร้อยปีเท่านั้น ท้ายที่สุดไม่มีวาสนาได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

ศิษย์สายตรงอย่างฉินอวิ๋นตี๋มีผู้อาวุโสสูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพหนุนหลังอยู่ เลยไม่ค่อยยำเกรงบุตรศักดิ์สิทธิ์เท่าไร

ในทางตรงกันข้าม บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้แย่งชิงสิบท่านที่จะแย่งตำแหน่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กลับต้องดึงตัวศิษย์สายตรงพวกนี้ไป

……..

เรื่องที่เสิ่นเทียนรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้กระจายไปทั่ววงในศิษย์สายตรงแล้ว ทุกคนคิดว่าต่อให้เสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นแค่วัตถุมงคลประดับไว้เท่านั้น

แต่ตอนนี้ฉินอวิ๋นตี๋ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยเขาก็ยินดีจะยืนอยู่ข้างบุตรศักดิ์สิทธิ์

ถึงอย่างไร…ก็ได้ประโยชน์จากเขา

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยสีหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่ ได้จริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนกระอักกระอ่วน ก่อนจะเริ่มอธิบายให้ฉินอวิ๋นตี๋ฟัง “ได้แน่นอน เจ้าตั้งใจฟังให้ดี”

เขาวนลูกประคำ ให้จิ่วเอ๋อร์เรียกมวลน้ำเล็กออกมาอีก

เสิ่นเทียนชี้ไปที่มวลน้ำนี้ “ศิษย์น้อง น้ำนี่รวมขึ้นจากอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนสองสิ่ง”

แม้ฉินอวิ๋นตี๋จะฟังไม่เข้าใจแต่ก็ยังพยักหน้า “อืม ต้นกำเนิดหยินและหยาง”

เสิ่นเทียนกล่าว “สายฟ้าจะแยกน้ำเป็นอะตอมไฮโดรเจนและอะตอมออกซิเจนใหม่”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “สายฟ้าแยกน้ำเป็นต้นกำเนิดหยินหยางรึ”

ฉินอวิ๋นตี๋สามารถปรับแก้ยันต์ระเบิดอัสนีโดยไม่มีใครชี้แนะได้ นี่ต้องเป็นคนฉลาดระดับใด แม้เขาจะไม่รู้ว่าต้นกำเนิดหยินและหยางที่ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์บอกคืออะไรกันแน่

แต่ถ้าคิดในมุมการฝึกบำเพ็ญเซียนแล้ว หากเกี่ยวโยงถึงหยินหยางจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ!

อ้อ มิน่าจู่ๆ ค่ายกลยันต์ระเบิดอัสนีของข้าครั้งก่อนถึงมีอานุภาพสูงขึ้น

ฉินอวิ๋นตี๋เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ได้เปิดโลกในพริบตาเลย

ที่แท้ข้าก็เคยก้าวข้ามไปมหามรรคหยินหยางโดยไม่รู้ตัวนี่เอง!

…..

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนด้วยความเลื่อมใส “ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจแล้ว! มันคือการใช้วิธีลับกระตุ้นต้นกำเนิดหยินและหยางก็จะผสานหยินและหยางได้ และระเบิดเป็นอานุภาพที่แข็งแกร่งใช่หรือไม่”

ต้นกำเนิดหยิน ต้นกำเนิดหยาง หยินหยางผสานกัน

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย เขาพูดอะไรออกมากัน

แต่ถ้าตามที่ฉินอวิ๋นตี๋อธิบาย ฟังดูแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร!

นำไฮโดรเจนและออกซิเจนผสมกันในปริมาตรสองต่อหนึ่งแล้วจุดระเบิด มันก็คือไฮโดรเจนและออกซิเจนผสานกันนั่นแหละ!

คิดๆ แล้ว ถ้าจะต้องแก้ไขอธิบายให้ชัดเจน ก็อาจจะต้องให้ฉินอวิ๋นตี๋เรียนเคมีเสริมทั้งวัน

ด้วยความจนปัญญา เสิ่นเทียนเลยตัดสินใจขอโทษอาจารย์เคมี “ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว แต่ไม่ต้องใช้วิธีลับกระตุ้น แค่ใช้เพลิงอัสนีจุดนิดเดียวก็พอ อันนี้ข้าเองก็ค้นพบโดยไม่ได้ตั้งใจตอนฝึกวิชาอัสนีธาตุน้ำเช่นกัน”

ฉินอวิ๋นตี๋พยักหน้า “สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ มีมหาโชคอยู่กับตัวจริงๆ ศิษย์น้องละอายใจ มุมานะบากบั่นศึกษามาหลายเดือน ก็ยังไม่พบความลึกลับของต้นกำเนิดหยินหยางเลย

ศิษย์พี่แค่ฝึกฝนวิชาอัสนีธาตุน้ำแล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็ตระหนักหลักการอยู่เหนือข้อพิพาทใดๆ เช่นนี้ได้เลย ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำมีประโยชน์กับทุกสรรพสิ่งและไม่แก่งแย่ง รูปร่างมันเหมือนไร้ขีดจำกัด แต่ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากของทุกสรรพสิ่ง แก่นรากของทุกสรรพสิ่งให้กำเนิดหยินหยาง

ดังนั้นน้ำจึงเป็นโครงสร้างของต้นกำเนิดหยินและหยาง สามารถกลายเป็นหยินหยาง ละเอียดลึกซึ้ง ละเอียดลึกซึ้งยิ่ง! ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าท่านเหมือนจะเจอมหามรรคเป็นเอกแห่งยุคแล้ว!

บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเดินบนเส้นทางแห่งมหาจักรพรรดิหยินหยางทวนวารีที่ไม่เคยมีมาก่อน!”

เห็นฉินอวิ๋นตี๋ยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิมแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหงื่อแตกอย่างบ้าคลั่ง

ใจดีดั่งสายน้ำ น้ำดั่งไร้ขีดจำกัด ไร้ขีดจำกัดให้กำเนิดแก่นรากทุกสรรพสิ่ง แก่นรากทุกสรรพสิ่งแบ่งเป็นหยินหยาง ดังนั้นสิ่งที่ออกมาจากไฟฟ้าแยกสังเคราะห์น้ำก็คือต้นกำเนิดหยินและต้นกำเนิดหยาง

เวร ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเรียนหนังสือ แม้แต่ข้าคงเชื่อไปแล้ว

จากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่า ฉิน ลาวัวซีเย[1] อวิ๋นตี๋!

เจ้าจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงโลกบำเพ็ญเซียน!

……

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพลันรู้สึกสบายไปทั้งตัว

เขามีสีหน้าดีใจ รีบควักกระจกจากอกเสื้อมาส่องไปที่ศีรษะ

เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ วงรัศมีเดิมทีมีเพียงแสงสีเขียวอ่อนๆ วนเวียนอยู่ ตอนนี้แสงสว่างจ้าขึ้นมาก

แสงสีเขียวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว วนเวียนตามวงรัศมีและย้อมสีมันไปด้วย

ไม่นานวงรัศมีของเสิ่นเทียนก็มีลวดลายสีเขียวอ่อนเพิ่มมา ส่วนเขารู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนเช่นกัน

เป็นคนโชคดีสบายกว่าจริงๆ ไม่เสียแรงที่ข้าใช้มันสมองเอาความรู้ที่คืนอาจารย์ไปแล้วกลับมา

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนจู่ๆ ก็เอากระจกออกมาส่อง ฉินอวิ๋นตี๋ถึงกับงุนงงเล็กน้อย ศิษย์พี่หมายความว่าอย่างไรกัน

หรือจะเตือนข้าว่าอย่าลุ่มหลงเพราะสิ่งที่ได้มาชั่วครู่

ให้หากระจกมา กล้ามองข้อเสียและจุดบกพร่องตรงๆ คิดทบทวนถึงจุดที่ต้องแก้ไขหรือ

ซี้ด สมกับเป็นศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!

ฉินอวิ๋นตี๋ทำใจสงบลง “ศิษย์พี่ให้อภัยด้วย ข้าตื่นเต้นมากเกินไป”

เสิ่นเทียนดูกระจกพลางพูดแบบขอไปที “ช่วยไม่ได้ ศิษย์น้องตื่นเต้นก็ดี”

ฉินอวิ๋นตี๋ใช้สายฟ้าแยกน้ำไปพลางถามด้วยความแปลกใจไปพลาง “ศิษย์พี่ ท่านตั้งชื่อกระบวนท่านี้แล้วรึยัง”

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วพูดไปว่า “ในเมื่อไฟฟ้าแยกน้ำทำให้เกิดอะตอมไฮโดรเจนและออกซิเจน ถ้าอย่างนั้นก็ชื่ออัสนีเทพไฮดรอกไซด์แล้วกัน!”

ฉินอวิ๋นตี๋เหมือนมีความคิดบางอย่าง “อัสนีเทพหยินหยางรึ ก็ได้ จะได้เนียนคล้ายๆ กับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างได้ง่ายๆ”

เสิ่นเทียนงุนงง

เสิ่นเทียนถอนหายใจ เขารู้สึกเหนื่อยใจจริงๆ

ช่วงที่เขาหมุนตัวกลับมา ตัดสินใจว่าเพิ่มดวงชะตาเสร็จแล้วจะกลับนั้น

ฉินอวิ๋นตี๋พลันมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาลุกวาว “ศิษย์พี่ รับข้าไปด้วยเถอะ!”

อะไรนะ

เสิ่นเทียนสะดุ้งแล้ว “จะ…เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ภายภาคหน้าจะต้องก่อตั้งกองกำลังหลักเฉพาะ อวิ๋นตี๋ยินดีที่จะติดตามศิษย์พี่ ขอแค่ศิษย์พี่ประคับประคองอวิ๋นตี๋บ้าง สอนพื้นฐานของมหามรรคหยินหยางทวนวารีให้อวิ๋นตี๋บ้างก็พอ เห็นแก่ที่เราลุ่มหลงในศิลปะเหมือนกัน ศิษย์พี่ท่านรับข้าไปด้วยเถอะ!”

สารภาพตามตรง พอเห็นความจริงใจของฉินอวิ๋นตี๋แล้ว เสิ่นเทียนใจอ่อน

เป็นศิษย์สายตรงผู้ยิ่งใหญ่กลับลดตัวต่ำลงมาเช่นนี้…

ก็ได้!

ไอ้พวกนั้นโกหกทั้งเพ ความจริงคือเสิ่นเทียนมีความคิดอย่างหนึ่งในใจ

ถ้าข้าชี้แนะฉินอวิ๋นตี๋ให้พัฒนาไปในแนวทาง ‘ระเบิดมือ’ ‘ปืนกลสายฟ้า’ หรือ ‘ปืนใหญ่แม่เหล็กพลังงานวิญญาณ’

เช่นนั้นก่อนที่ฉินอวิ๋นตี๋จะค้นพบสิ่งเหล่านี้จะเห็นภาพโชคลิขิตก่อนหรือไม่

ไม่พบโชคลิขิต ข้าก็จะลองสร้างโชคลิขิตขึ้นเอง

ซี้ด อันนี้ลองดูได้!

…………………………………

[1] ลาวัวซีเย มาจากชื่อ อ็องตวน ลาวัวซีเย นักวิทยาศาสตร์เคมีชาวฝรั่งเศส

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+