บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย!
ตอนนี้ พวกฉินอวิ๋นตี๋ถูกคลื่นแรงระเบิดกระแทกเข้าไปกลางหมอกวิญญาณหนาทึบ

สารภาพตามตรง พอเผชิญหน้ากับเถาจองจำเซียนน่าสะพรึงเพียงลำพัง เสิ่นเทียนตื่นตระหนกมาก

เมื่อเห็นเถาจองจำเซียนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็หวาดกลัวสุดขีด

ทางด้านเถาจองจำเซียนเหมือนจะตื่นเต้นมาก มันขยับส่วนรากของตนไปมา บีบเข้ามาหาเสิ่นเทียนทีละก้าว

‘ไอ้หนู เจ้าหนีสิ! เจ้าดิ้นรนสิ! เจ้ากรีดร้องสิ!’

ของเหลวหยดลงมาจากบาดแผลเถาจองจำเซียนทีละหยด และเมื่อของเหลวซึมออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ บาดแผลของมันก็กำลังสมานกัน

แน่นอนเพราะเมื่อครู่นี้โดนเสิ่นเทียนระเบิดบาดเจ็บหนักมาก ส่วนเอวของมันแทบจะขาดครึ่ง ตอนนี้จึงไม่ได้ฟื้นฟูเร็วนัก

แต่ไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บจะฟื้นฟูได้ในไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกในตอนนี้คือสูบกินเจ้าหนูที่ไม่เจียมตัวนี่ให้เหือดแห้ง

เถาจองจำเซียนเข้ามาใกล้เสิ่นเทียนขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มพบว่าเจ้าหนูนี่เหมือนเลิกคิดจะต่อต้านไปแล้ว

ใช่สิ แบบนี้สิถึงจะถูก!

ไม่ต้องต่อต้าน ให้ข้าสูบกินเจ้าเต็มที่เถอะ!

เถาจองจำเซียนขยับกายไปมา ร่างมหึมาแตกออกเป็นเถาหนาเท่าแขนพุ่งไปทางเสิ่นเทียนอย่างคลุ้มคลั่ง

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนถอนหายใจ ก่อนจะมีป้ายคำสั่งสีเงินอันหนึ่งลอยขึ้นตรงหน้า ทุกส่วนเปล่งแสงสว่างพร่างพราว ร่างเงายิ่งใหญ่ปรากฏเบื้องหลังเสิ่นเทียน สวมผ้าเนื้อหยาบ มือถือกระบี่ใหญ่สีดำเล่มหนึ่งดูทรงอำนาจอย่างยิ่ง

ร่างมายานี้ชักกระบี่รับการโจมตีของเถาจองจำเซียนไว้

กระบี่นี้เหมือนทะลวงผ่านมิติ ดูช้ามาก แต่กลับหลบไม่ได้เลย

ประกายแสงกระบี่ทะลวงอากาศลากผ่านร่างเถาจองจำเซียนเบาๆ และตัดตามรอยแผลน่าสยดสยองนั้นต่อ

ชิ้ง!

กระบี่ใหญ่สีดำกลับเข้าฝักอีกครั้ง ร่างมายานั้นอ่อนแสงลงไปมากก่อนจะเข้าไปในป้ายคำสั่งสีเงิน

เถายักษ์ความยาวเกือบร้อยจั้งถูกตัดขาดเป็นสองส่วนทันที ของเหลวมหาศาลหลั่งทะลักมาจากบาดแผลนั้น เถายักษ์ร่วงลงมากลางอากาศ ทับบ้านหลังหนึ่งเป็นซาก ฝุ่นควันตลบคลุ้ง

‘เถาจองจำเซียนนี่น่ากลัวมาก ถ้าไม่มีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ ครั้งนี้คงอันตรายจริงๆ’

เสิ่นเทียนเก็บป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เข้าแหวนเวหา ให้มันสูบกินศิลาวิญญาณฟื้นฟูอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้ภายใต้สถานการณ์นี้ มีเพียงป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย

เสิ่นเทียนมองเถาจองจำเซียนที่ร่างยังกระตุกช้าๆ พลางซัดอัสนีหยินหยางเจาะเกราะใส่มันไปอีกหลายสิบลูก

ทันใดนั้น เถาจองจำเซียนที่เดิมทีบาดเจ็บหนักมีแต่รูพรุนยิ่งกว่าเดิม ค่อยๆ หมดแรงดิ้นรน

‘เป็นเถาจองจำเซียนที่น่ากลัวมาก ในศัตรูของข้าทั้งหมด ข้านับถือว่าเจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด’

เสิ่นเทียนแอบปลงอนิจจังในใจ เถาจองจำเซียนที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งยิ่งมีความสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระนี่มันคือหายนะของผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์ชัดๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะตนมีจิตใจแน่วแน่ต่อต้านสุดชีวิต การต่อสู้สุดชีวิตครั้งนี้อาจจะแพ้ให้กับเถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณนี่จริงๆ ก็ได้

หลับให้สบายเถอะ เจ้าเถา! ถึงเจ้าจะตายไปแล้ว แต่ข้าจะหลอมเจ้าเป็นโซ่จองจำเซียนระดับสูงสุด ให้เจ้าอยู่กับข้า

เจ้าจะเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีเกียรติที่สุดของข้า!

เสิ่นเทียนกระตุ้นแหวนเวหา ลองยัดเถาวัลย์เถามหึมากับส่วนรากของเถาจองจำเซียนเข้าไป

โชคดีที่แหวนเวหาที่ผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงให้มาใหญ่มากพอ จึงเก็บมันไปได้ทั้งหมด ถ้าเป็นแหวนมิติของผู้ฝึกบำเพ็ญคนอื่น ต่อให้ยัดจนเต็มก็เกรงว่าคงใส่ไม่ได้แม้แต่หนึ่งส่วนสาม

เสิ่นเทียนคำนวณคร่าวๆ รวมถึงเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองที่จางอวิ๋นซีตัดกับเถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณในตอนนี้

ในแหวนเวหาเขา ตอนนี้มีเถาจองจำเซียนเกือบจะสิบต้นแล้ว อีกทั้งทุกต้นยังเป็นระดับสูงสุด โดยเฉพาะเถาจองจำเซียนประหลาดระดับดวงจิตดรุณต้นนั้น ยิ่งล้ำค่ากว่าต้นที่จางอวิ๋นซีตัดมาในที่ราบหมอกลับแลอีก

ถ้าไปขายในตลาดจะประเมินมูลค่ามันไม่ได้เลย

ฟู่ว!

ใช้เวลาตั้งนาน ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ยัดเถาจองจำเซียนยักษ์นี่เข้าแหวนเวหาจนหมดได้

ทว่าตอนนี้เองหมอกวิญญาณปกคลุมทั้งเมืองแล้ว

ขอไม่พูดเกินจริงเช่นว่าแค่ยื่นมือก็มองไม่เห็นห้านิ้ว แต่ห่างไปสามก้าวก็ยากจะแยกชายหญิงออกแล้ว

ทันใดนั้น พลันมีเถาจองจำเซียนต้นหนึ่งยื่นมาจากหมอกลับแล เข้ามามัดปืนปทุมฆาตเทพในมือเสิ่นเทียนเต็มแรง

ขณะเดียวกัน เถาวัลย์เถาอีกเส้นก็มุดขึ้นมาจากพื้นดินด้วยความเร็วเหนือกว่าสายฟ้า จากนั้นพันขาเสิ่นเทียนไว้

แรงมหาศาลแผ่มาจากเถาวัลย์ลากเสิ่นเทียนลอยออกไป เวลานี้ไม่อาจควบคุมสมดุลในใจได้เลย

เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขารีบโปรยยันต์ระเบิดอัสนีไปทีละแผ่น จุดชนวนระเบิดเถาจองจำเซียน พร้อมกันนั้นยังส่งพลังวิญญาณในกายเข้าไปในหมวกเกราะเต่าดำอย่างบ้าคลั่ง เป็นการกระตุ้นมันขึ้นมา

เพียงชั่วพริบตาเดียวก็รวมเป็นเต่าดำขนาดเท่าอ่างอาบน้ำอยู่เหนือศีรษะเสิ่นเทียน แผ่กระจายอำนาจคุกคามจางๆ ส่วนเกราะเต่าดำบนตัวเขาเปล่งแสงอ่อนๆ รวมขึ้นเป็นชุดเกราะสีดำบนผิวกาย

บึ้ม!

ยันต์ระเบิดอัสนีระเบิดกระจาย

ทว่าผลการโจมตีเถาจองจำเซียนกลับไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยาง ไม่ใช่อัสนีหยินหยางเจาะเกราะหรือปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ใช้มันรับมือกับเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองก็ค่อนข้างฝืนไปหน่อยจริงๆ

ทว่าการป้องกันของเกราะเต่าดำที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้มากลับสร้างความตกใจระคนดีใจที่คาดไม่ถึงกับเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ชัดเจนว่าเมื่อชุดเกราะของหมวกเกราะเต่าดำปรากฏขึ้นแล้ว เถาวัลย์ที่พันเท้าตนไว้ก็คลายออกไม่น้อย

แต่เท่านี้ยังไม่เพียงพอ เพราะตอนนี้เถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองที่ล้อมโจมตีเขาไม่ได้มีเพียงต้นเดียว แต่มีสองต้นร่วมมือกันจู่โจม

แม้หลังจากหมวกเกราะเต่าดำสำแดงอานุภาพแล้ว เถาวัลย์เถาสองต้นนี่จะโจมตีทะลวงการป้องกันมาไม่ได้ชั่วขณะก็ตาม แต่พลังวิญญาณของเสิ่นเทียนมีจำกัด ต่อให้สูบกินศิลาวิญญาณฟื้นฟูก็ไม่มีทางใช้งานสมบัติวิเศษได้ตลอด

มิหนำซ้ำ ตอนนี้เถาจองจำเซียนสองต้นนี้ยังห่อเกราะป้องกันของเสิ่นเทียนเหมือนกับบ๊ะจ่าง

ถึงเสิ่นเทียนจะหยิบศิลาวิญญาณจากแหวนเวหามาฟื้นฟูพลัง แต่มันก็ยืนหยัดได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ถ้าเอาแต่พึ่งหมวกเกราะเต่าดำก็คงไม่มีทางหลุดจากเถาจองจำเซียนนี่ได้แน่นอน

เสิ่นเทียนมองเถาวัลย์ที่ขยับยึกยือนอกเกราะป้องกันพลางขบคิดอย่างรวดเร็ว

จะสลัดหลุดได้อย่างไร จะสลัดหลุดได้อย่างไร หรือไม่ก็ยืนหยัดไปจนการช่วยเหลือมาถึงได้อย่างไร

นี่ มันยากเกินไปแล้ว~!

…………

ทันใดนั้น เสิ่นเทียนรู้สึกว่าคัมภีร์คบเพลิงในกายเริ่มฉุนเฉียวขึ้นมา

เขามองเถาจองจำเซียนสีเขียวอมดำที่ขยับยึกยือนอกเกราะป้องกันนั้นไม่หยุด ไม่อยากจะเชื่อว่า…

ตกตะลึง! ตอนนี้เสิ่นเทียนมองเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองสองต้นนอกเกราะป้องกัน จู่ๆ เขาก็น้ำลายไหล

เขารู้สึกว่าตอนนี้เถาวัลย์สองต้นนอกเกราะป้องกันเหมือนกลายเป็นปาท่องโก๋ยาวสองชิ้น ขนมแผ่นเผ็ดและอ้อยสองต้น

พวกมันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้เซลล์ทุกส่วนในกายเสิ่นเทียนเกิดความคิดกระหายขึ้นมา จนเมื่อพบว่าตนเกิดความคิดนี้ขึ้น เสิ่นเทียนถึงกับตะลึงงัน

‘เวรเอ๊ย ข้าเป็นนักกินอาหารจีนผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดถึงถูกใจวัตถุดิบอาหารชนิดนี้

อย่างอื่นไม่ว่า แค่หน้าตาก็กระเดือกลงคอไม่ได้แล้วไหม!

รอเดี๋ยว เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่านี่เป็นวัตถุดิบอาหารล่ะ

นี่มันเถาน่าสะพรึงชัดๆ เลยนะ!’

เสิ่นเทียนเกิดคลื่นอารมณ์ในใจอย่างบ้าคลั่ง หลังผ่านไปนาน ในที่สุดเขาก็เอาชนะความไม่สบายในใจลงได้

‘หึ เถาจองจำเซียนพวกนี้สูบกินข้าได้ หรือว่าข้าจะสูบกินพวกเจ้าไม่ได้กัน

ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าก็ถูกมัดอยู่ ในเมื่อไม่ให้ข้าไปข้าก็จะกัดเจ้าให้ตาย!’

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็มองเถาจองจำเซียนนอกเกราะป้องกัน…

เขาหลับตาลงแล้วหยิบเถาวัลย์เส้นหนึ่งขึ้นมากัด!

………

เดิมทีเสิ่นเทียนคิดว่าของเหลวในตัวมันจะขมมากจนชวนอ้วก แต่วินาทีที่เขากัดลงไป ของเหลวในเถาวัลย์อันอิ่มเอิบก็ระเบิดในปาก

ซี้ด~

เสิ่นเทียนไม่คาดคิดเลยว่าเจ้านี่จะมีรสชาติหวานมาก

เขาเบิกตาโตทันที “โอ้ ไม่เลวเลยนี่!”

จากนั้นเสิ่นเทียนก็เริ่มสูบกินอย่างบ้าคลั่ง!

…………………………..………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย!
ตอนนี้ พวกฉินอวิ๋นตี๋ถูกคลื่นแรงระเบิดกระแทกเข้าไปกลางหมอกวิญญาณหนาทึบ

สารภาพตามตรง พอเผชิญหน้ากับเถาจองจำเซียนน่าสะพรึงเพียงลำพัง เสิ่นเทียนตื่นตระหนกมาก

เมื่อเห็นเถาจองจำเซียนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็หวาดกลัวสุดขีด

ทางด้านเถาจองจำเซียนเหมือนจะตื่นเต้นมาก มันขยับส่วนรากของตนไปมา บีบเข้ามาหาเสิ่นเทียนทีละก้าว

‘ไอ้หนู เจ้าหนีสิ! เจ้าดิ้นรนสิ! เจ้ากรีดร้องสิ!’

ของเหลวหยดลงมาจากบาดแผลเถาจองจำเซียนทีละหยด และเมื่อของเหลวซึมออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ บาดแผลของมันก็กำลังสมานกัน

แน่นอนเพราะเมื่อครู่นี้โดนเสิ่นเทียนระเบิดบาดเจ็บหนักมาก ส่วนเอวของมันแทบจะขาดครึ่ง ตอนนี้จึงไม่ได้ฟื้นฟูเร็วนัก

แต่ไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บจะฟื้นฟูได้ในไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกในตอนนี้คือสูบกินเจ้าหนูที่ไม่เจียมตัวนี่ให้เหือดแห้ง

เถาจองจำเซียนเข้ามาใกล้เสิ่นเทียนขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มพบว่าเจ้าหนูนี่เหมือนเลิกคิดจะต่อต้านไปแล้ว

ใช่สิ แบบนี้สิถึงจะถูก!

ไม่ต้องต่อต้าน ให้ข้าสูบกินเจ้าเต็มที่เถอะ!

เถาจองจำเซียนขยับกายไปมา ร่างมหึมาแตกออกเป็นเถาหนาเท่าแขนพุ่งไปทางเสิ่นเทียนอย่างคลุ้มคลั่ง

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนถอนหายใจ ก่อนจะมีป้ายคำสั่งสีเงินอันหนึ่งลอยขึ้นตรงหน้า ทุกส่วนเปล่งแสงสว่างพร่างพราว ร่างเงายิ่งใหญ่ปรากฏเบื้องหลังเสิ่นเทียน สวมผ้าเนื้อหยาบ มือถือกระบี่ใหญ่สีดำเล่มหนึ่งดูทรงอำนาจอย่างยิ่ง

ร่างมายานี้ชักกระบี่รับการโจมตีของเถาจองจำเซียนไว้

กระบี่นี้เหมือนทะลวงผ่านมิติ ดูช้ามาก แต่กลับหลบไม่ได้เลย

ประกายแสงกระบี่ทะลวงอากาศลากผ่านร่างเถาจองจำเซียนเบาๆ และตัดตามรอยแผลน่าสยดสยองนั้นต่อ

ชิ้ง!

กระบี่ใหญ่สีดำกลับเข้าฝักอีกครั้ง ร่างมายานั้นอ่อนแสงลงไปมากก่อนจะเข้าไปในป้ายคำสั่งสีเงิน

เถายักษ์ความยาวเกือบร้อยจั้งถูกตัดขาดเป็นสองส่วนทันที ของเหลวมหาศาลหลั่งทะลักมาจากบาดแผลนั้น เถายักษ์ร่วงลงมากลางอากาศ ทับบ้านหลังหนึ่งเป็นซาก ฝุ่นควันตลบคลุ้ง

‘เถาจองจำเซียนนี่น่ากลัวมาก ถ้าไม่มีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ ครั้งนี้คงอันตรายจริงๆ’

เสิ่นเทียนเก็บป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เข้าแหวนเวหา ให้มันสูบกินศิลาวิญญาณฟื้นฟูอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้ภายใต้สถานการณ์นี้ มีเพียงป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย

เสิ่นเทียนมองเถาจองจำเซียนที่ร่างยังกระตุกช้าๆ พลางซัดอัสนีหยินหยางเจาะเกราะใส่มันไปอีกหลายสิบลูก

ทันใดนั้น เถาจองจำเซียนที่เดิมทีบาดเจ็บหนักมีแต่รูพรุนยิ่งกว่าเดิม ค่อยๆ หมดแรงดิ้นรน

‘เป็นเถาจองจำเซียนที่น่ากลัวมาก ในศัตรูของข้าทั้งหมด ข้านับถือว่าเจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด’

เสิ่นเทียนแอบปลงอนิจจังในใจ เถาจองจำเซียนที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งยิ่งมีความสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระนี่มันคือหายนะของผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์ชัดๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะตนมีจิตใจแน่วแน่ต่อต้านสุดชีวิต การต่อสู้สุดชีวิตครั้งนี้อาจจะแพ้ให้กับเถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณนี่จริงๆ ก็ได้

หลับให้สบายเถอะ เจ้าเถา! ถึงเจ้าจะตายไปแล้ว แต่ข้าจะหลอมเจ้าเป็นโซ่จองจำเซียนระดับสูงสุด ให้เจ้าอยู่กับข้า

เจ้าจะเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีเกียรติที่สุดของข้า!

เสิ่นเทียนกระตุ้นแหวนเวหา ลองยัดเถาวัลย์เถามหึมากับส่วนรากของเถาจองจำเซียนเข้าไป

โชคดีที่แหวนเวหาที่ผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงให้มาใหญ่มากพอ จึงเก็บมันไปได้ทั้งหมด ถ้าเป็นแหวนมิติของผู้ฝึกบำเพ็ญคนอื่น ต่อให้ยัดจนเต็มก็เกรงว่าคงใส่ไม่ได้แม้แต่หนึ่งส่วนสาม

เสิ่นเทียนคำนวณคร่าวๆ รวมถึงเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองที่จางอวิ๋นซีตัดกับเถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณในตอนนี้

ในแหวนเวหาเขา ตอนนี้มีเถาจองจำเซียนเกือบจะสิบต้นแล้ว อีกทั้งทุกต้นยังเป็นระดับสูงสุด โดยเฉพาะเถาจองจำเซียนประหลาดระดับดวงจิตดรุณต้นนั้น ยิ่งล้ำค่ากว่าต้นที่จางอวิ๋นซีตัดมาในที่ราบหมอกลับแลอีก

ถ้าไปขายในตลาดจะประเมินมูลค่ามันไม่ได้เลย

ฟู่ว!

ใช้เวลาตั้งนาน ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ยัดเถาจองจำเซียนยักษ์นี่เข้าแหวนเวหาจนหมดได้

ทว่าตอนนี้เองหมอกวิญญาณปกคลุมทั้งเมืองแล้ว

ขอไม่พูดเกินจริงเช่นว่าแค่ยื่นมือก็มองไม่เห็นห้านิ้ว แต่ห่างไปสามก้าวก็ยากจะแยกชายหญิงออกแล้ว

ทันใดนั้น พลันมีเถาจองจำเซียนต้นหนึ่งยื่นมาจากหมอกลับแล เข้ามามัดปืนปทุมฆาตเทพในมือเสิ่นเทียนเต็มแรง

ขณะเดียวกัน เถาวัลย์เถาอีกเส้นก็มุดขึ้นมาจากพื้นดินด้วยความเร็วเหนือกว่าสายฟ้า จากนั้นพันขาเสิ่นเทียนไว้

แรงมหาศาลแผ่มาจากเถาวัลย์ลากเสิ่นเทียนลอยออกไป เวลานี้ไม่อาจควบคุมสมดุลในใจได้เลย

เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขารีบโปรยยันต์ระเบิดอัสนีไปทีละแผ่น จุดชนวนระเบิดเถาจองจำเซียน พร้อมกันนั้นยังส่งพลังวิญญาณในกายเข้าไปในหมวกเกราะเต่าดำอย่างบ้าคลั่ง เป็นการกระตุ้นมันขึ้นมา

เพียงชั่วพริบตาเดียวก็รวมเป็นเต่าดำขนาดเท่าอ่างอาบน้ำอยู่เหนือศีรษะเสิ่นเทียน แผ่กระจายอำนาจคุกคามจางๆ ส่วนเกราะเต่าดำบนตัวเขาเปล่งแสงอ่อนๆ รวมขึ้นเป็นชุดเกราะสีดำบนผิวกาย

บึ้ม!

ยันต์ระเบิดอัสนีระเบิดกระจาย

ทว่าผลการโจมตีเถาจองจำเซียนกลับไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยาง ไม่ใช่อัสนีหยินหยางเจาะเกราะหรือปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ใช้มันรับมือกับเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองก็ค่อนข้างฝืนไปหน่อยจริงๆ

ทว่าการป้องกันของเกราะเต่าดำที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้มากลับสร้างความตกใจระคนดีใจที่คาดไม่ถึงกับเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ชัดเจนว่าเมื่อชุดเกราะของหมวกเกราะเต่าดำปรากฏขึ้นแล้ว เถาวัลย์ที่พันเท้าตนไว้ก็คลายออกไม่น้อย

แต่เท่านี้ยังไม่เพียงพอ เพราะตอนนี้เถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองที่ล้อมโจมตีเขาไม่ได้มีเพียงต้นเดียว แต่มีสองต้นร่วมมือกันจู่โจม

แม้หลังจากหมวกเกราะเต่าดำสำแดงอานุภาพแล้ว เถาวัลย์เถาสองต้นนี่จะโจมตีทะลวงการป้องกันมาไม่ได้ชั่วขณะก็ตาม แต่พลังวิญญาณของเสิ่นเทียนมีจำกัด ต่อให้สูบกินศิลาวิญญาณฟื้นฟูก็ไม่มีทางใช้งานสมบัติวิเศษได้ตลอด

มิหนำซ้ำ ตอนนี้เถาจองจำเซียนสองต้นนี้ยังห่อเกราะป้องกันของเสิ่นเทียนเหมือนกับบ๊ะจ่าง

ถึงเสิ่นเทียนจะหยิบศิลาวิญญาณจากแหวนเวหามาฟื้นฟูพลัง แต่มันก็ยืนหยัดได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ถ้าเอาแต่พึ่งหมวกเกราะเต่าดำก็คงไม่มีทางหลุดจากเถาจองจำเซียนนี่ได้แน่นอน

เสิ่นเทียนมองเถาวัลย์ที่ขยับยึกยือนอกเกราะป้องกันพลางขบคิดอย่างรวดเร็ว

จะสลัดหลุดได้อย่างไร จะสลัดหลุดได้อย่างไร หรือไม่ก็ยืนหยัดไปจนการช่วยเหลือมาถึงได้อย่างไร

นี่ มันยากเกินไปแล้ว~!

…………

ทันใดนั้น เสิ่นเทียนรู้สึกว่าคัมภีร์คบเพลิงในกายเริ่มฉุนเฉียวขึ้นมา

เขามองเถาจองจำเซียนสีเขียวอมดำที่ขยับยึกยือนอกเกราะป้องกันนั้นไม่หยุด ไม่อยากจะเชื่อว่า…

ตกตะลึง! ตอนนี้เสิ่นเทียนมองเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองสองต้นนอกเกราะป้องกัน จู่ๆ เขาก็น้ำลายไหล

เขารู้สึกว่าตอนนี้เถาวัลย์สองต้นนอกเกราะป้องกันเหมือนกลายเป็นปาท่องโก๋ยาวสองชิ้น ขนมแผ่นเผ็ดและอ้อยสองต้น

พวกมันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้เซลล์ทุกส่วนในกายเสิ่นเทียนเกิดความคิดกระหายขึ้นมา จนเมื่อพบว่าตนเกิดความคิดนี้ขึ้น เสิ่นเทียนถึงกับตะลึงงัน

‘เวรเอ๊ย ข้าเป็นนักกินอาหารจีนผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดถึงถูกใจวัตถุดิบอาหารชนิดนี้

อย่างอื่นไม่ว่า แค่หน้าตาก็กระเดือกลงคอไม่ได้แล้วไหม!

รอเดี๋ยว เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่านี่เป็นวัตถุดิบอาหารล่ะ

นี่มันเถาน่าสะพรึงชัดๆ เลยนะ!’

เสิ่นเทียนเกิดคลื่นอารมณ์ในใจอย่างบ้าคลั่ง หลังผ่านไปนาน ในที่สุดเขาก็เอาชนะความไม่สบายในใจลงได้

‘หึ เถาจองจำเซียนพวกนี้สูบกินข้าได้ หรือว่าข้าจะสูบกินพวกเจ้าไม่ได้กัน

ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าก็ถูกมัดอยู่ ในเมื่อไม่ให้ข้าไปข้าก็จะกัดเจ้าให้ตาย!’

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็มองเถาจองจำเซียนนอกเกราะป้องกัน…

เขาหลับตาลงแล้วหยิบเถาวัลย์เส้นหนึ่งขึ้นมากัด!

………

เดิมทีเสิ่นเทียนคิดว่าของเหลวในตัวมันจะขมมากจนชวนอ้วก แต่วินาทีที่เขากัดลงไป ของเหลวในเถาวัลย์อันอิ่มเอิบก็ระเบิดในปาก

ซี้ด~

เสิ่นเทียนไม่คาดคิดเลยว่าเจ้านี่จะมีรสชาติหวานมาก

เขาเบิกตาโตทันที “โอ้ ไม่เลวเลยนี่!”

จากนั้นเสิ่นเทียนก็เริ่มสูบกินอย่างบ้าคลั่ง!

…………………………..………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 140 โอ้ รสชาติไม่เลวเลย!
ตอนนี้ พวกฉินอวิ๋นตี๋ถูกคลื่นแรงระเบิดกระแทกเข้าไปกลางหมอกวิญญาณหนาทึบ

สารภาพตามตรง พอเผชิญหน้ากับเถาจองจำเซียนน่าสะพรึงเพียงลำพัง เสิ่นเทียนตื่นตระหนกมาก

เมื่อเห็นเถาจองจำเซียนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็หวาดกลัวสุดขีด

ทางด้านเถาจองจำเซียนเหมือนจะตื่นเต้นมาก มันขยับส่วนรากของตนไปมา บีบเข้ามาหาเสิ่นเทียนทีละก้าว

‘ไอ้หนู เจ้าหนีสิ! เจ้าดิ้นรนสิ! เจ้ากรีดร้องสิ!’

ของเหลวหยดลงมาจากบาดแผลเถาจองจำเซียนทีละหยด และเมื่อของเหลวซึมออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ บาดแผลของมันก็กำลังสมานกัน

แน่นอนเพราะเมื่อครู่นี้โดนเสิ่นเทียนระเบิดบาดเจ็บหนักมาก ส่วนเอวของมันแทบจะขาดครึ่ง ตอนนี้จึงไม่ได้ฟื้นฟูเร็วนัก

แต่ไม่เป็นไร อาการบาดเจ็บจะฟื้นฟูได้ในไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกในตอนนี้คือสูบกินเจ้าหนูที่ไม่เจียมตัวนี่ให้เหือดแห้ง

เถาจองจำเซียนเข้ามาใกล้เสิ่นเทียนขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มพบว่าเจ้าหนูนี่เหมือนเลิกคิดจะต่อต้านไปแล้ว

ใช่สิ แบบนี้สิถึงจะถูก!

ไม่ต้องต่อต้าน ให้ข้าสูบกินเจ้าเต็มที่เถอะ!

เถาจองจำเซียนขยับกายไปมา ร่างมหึมาแตกออกเป็นเถาหนาเท่าแขนพุ่งไปทางเสิ่นเทียนอย่างคลุ้มคลั่ง

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนถอนหายใจ ก่อนจะมีป้ายคำสั่งสีเงินอันหนึ่งลอยขึ้นตรงหน้า ทุกส่วนเปล่งแสงสว่างพร่างพราว ร่างเงายิ่งใหญ่ปรากฏเบื้องหลังเสิ่นเทียน สวมผ้าเนื้อหยาบ มือถือกระบี่ใหญ่สีดำเล่มหนึ่งดูทรงอำนาจอย่างยิ่ง

ร่างมายานี้ชักกระบี่รับการโจมตีของเถาจองจำเซียนไว้

กระบี่นี้เหมือนทะลวงผ่านมิติ ดูช้ามาก แต่กลับหลบไม่ได้เลย

ประกายแสงกระบี่ทะลวงอากาศลากผ่านร่างเถาจองจำเซียนเบาๆ และตัดตามรอยแผลน่าสยดสยองนั้นต่อ

ชิ้ง!

กระบี่ใหญ่สีดำกลับเข้าฝักอีกครั้ง ร่างมายานั้นอ่อนแสงลงไปมากก่อนจะเข้าไปในป้ายคำสั่งสีเงิน

เถายักษ์ความยาวเกือบร้อยจั้งถูกตัดขาดเป็นสองส่วนทันที ของเหลวมหาศาลหลั่งทะลักมาจากบาดแผลนั้น เถายักษ์ร่วงลงมากลางอากาศ ทับบ้านหลังหนึ่งเป็นซาก ฝุ่นควันตลบคลุ้ง

‘เถาจองจำเซียนนี่น่ากลัวมาก ถ้าไม่มีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ ครั้งนี้คงอันตรายจริงๆ’

เสิ่นเทียนเก็บป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เข้าแหวนเวหา ให้มันสูบกินศิลาวิญญาณฟื้นฟูอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้ภายใต้สถานการณ์นี้ มีเพียงป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย

เสิ่นเทียนมองเถาจองจำเซียนที่ร่างยังกระตุกช้าๆ พลางซัดอัสนีหยินหยางเจาะเกราะใส่มันไปอีกหลายสิบลูก

ทันใดนั้น เถาจองจำเซียนที่เดิมทีบาดเจ็บหนักมีแต่รูพรุนยิ่งกว่าเดิม ค่อยๆ หมดแรงดิ้นรน

‘เป็นเถาจองจำเซียนที่น่ากลัวมาก ในศัตรูของข้าทั้งหมด ข้านับถือว่าเจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด’

เสิ่นเทียนแอบปลงอนิจจังในใจ เถาจองจำเซียนที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งยิ่งมีความสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระนี่มันคือหายนะของผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์ชัดๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะตนมีจิตใจแน่วแน่ต่อต้านสุดชีวิต การต่อสู้สุดชีวิตครั้งนี้อาจจะแพ้ให้กับเถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณนี่จริงๆ ก็ได้

หลับให้สบายเถอะ เจ้าเถา! ถึงเจ้าจะตายไปแล้ว แต่ข้าจะหลอมเจ้าเป็นโซ่จองจำเซียนระดับสูงสุด ให้เจ้าอยู่กับข้า

เจ้าจะเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีเกียรติที่สุดของข้า!

เสิ่นเทียนกระตุ้นแหวนเวหา ลองยัดเถาวัลย์เถามหึมากับส่วนรากของเถาจองจำเซียนเข้าไป

โชคดีที่แหวนเวหาที่ผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงให้มาใหญ่มากพอ จึงเก็บมันไปได้ทั้งหมด ถ้าเป็นแหวนมิติของผู้ฝึกบำเพ็ญคนอื่น ต่อให้ยัดจนเต็มก็เกรงว่าคงใส่ไม่ได้แม้แต่หนึ่งส่วนสาม

เสิ่นเทียนคำนวณคร่าวๆ รวมถึงเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองที่จางอวิ๋นซีตัดกับเถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณในตอนนี้

ในแหวนเวหาเขา ตอนนี้มีเถาจองจำเซียนเกือบจะสิบต้นแล้ว อีกทั้งทุกต้นยังเป็นระดับสูงสุด โดยเฉพาะเถาจองจำเซียนประหลาดระดับดวงจิตดรุณต้นนั้น ยิ่งล้ำค่ากว่าต้นที่จางอวิ๋นซีตัดมาในที่ราบหมอกลับแลอีก

ถ้าไปขายในตลาดจะประเมินมูลค่ามันไม่ได้เลย

ฟู่ว!

ใช้เวลาตั้งนาน ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ยัดเถาจองจำเซียนยักษ์นี่เข้าแหวนเวหาจนหมดได้

ทว่าตอนนี้เองหมอกวิญญาณปกคลุมทั้งเมืองแล้ว

ขอไม่พูดเกินจริงเช่นว่าแค่ยื่นมือก็มองไม่เห็นห้านิ้ว แต่ห่างไปสามก้าวก็ยากจะแยกชายหญิงออกแล้ว

ทันใดนั้น พลันมีเถาจองจำเซียนต้นหนึ่งยื่นมาจากหมอกลับแล เข้ามามัดปืนปทุมฆาตเทพในมือเสิ่นเทียนเต็มแรง

ขณะเดียวกัน เถาวัลย์เถาอีกเส้นก็มุดขึ้นมาจากพื้นดินด้วยความเร็วเหนือกว่าสายฟ้า จากนั้นพันขาเสิ่นเทียนไว้

แรงมหาศาลแผ่มาจากเถาวัลย์ลากเสิ่นเทียนลอยออกไป เวลานี้ไม่อาจควบคุมสมดุลในใจได้เลย

เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขารีบโปรยยันต์ระเบิดอัสนีไปทีละแผ่น จุดชนวนระเบิดเถาจองจำเซียน พร้อมกันนั้นยังส่งพลังวิญญาณในกายเข้าไปในหมวกเกราะเต่าดำอย่างบ้าคลั่ง เป็นการกระตุ้นมันขึ้นมา

เพียงชั่วพริบตาเดียวก็รวมเป็นเต่าดำขนาดเท่าอ่างอาบน้ำอยู่เหนือศีรษะเสิ่นเทียน แผ่กระจายอำนาจคุกคามจางๆ ส่วนเกราะเต่าดำบนตัวเขาเปล่งแสงอ่อนๆ รวมขึ้นเป็นชุดเกราะสีดำบนผิวกาย

บึ้ม!

ยันต์ระเบิดอัสนีระเบิดกระจาย

ทว่าผลการโจมตีเถาจองจำเซียนกลับไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเพียงยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยาง ไม่ใช่อัสนีหยินหยางเจาะเกราะหรือปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ใช้มันรับมือกับเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองก็ค่อนข้างฝืนไปหน่อยจริงๆ

ทว่าการป้องกันของเกราะเต่าดำที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้มากลับสร้างความตกใจระคนดีใจที่คาดไม่ถึงกับเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ชัดเจนว่าเมื่อชุดเกราะของหมวกเกราะเต่าดำปรากฏขึ้นแล้ว เถาวัลย์ที่พันเท้าตนไว้ก็คลายออกไม่น้อย

แต่เท่านี้ยังไม่เพียงพอ เพราะตอนนี้เถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองที่ล้อมโจมตีเขาไม่ได้มีเพียงต้นเดียว แต่มีสองต้นร่วมมือกันจู่โจม

แม้หลังจากหมวกเกราะเต่าดำสำแดงอานุภาพแล้ว เถาวัลย์เถาสองต้นนี่จะโจมตีทะลวงการป้องกันมาไม่ได้ชั่วขณะก็ตาม แต่พลังวิญญาณของเสิ่นเทียนมีจำกัด ต่อให้สูบกินศิลาวิญญาณฟื้นฟูก็ไม่มีทางใช้งานสมบัติวิเศษได้ตลอด

มิหนำซ้ำ ตอนนี้เถาจองจำเซียนสองต้นนี้ยังห่อเกราะป้องกันของเสิ่นเทียนเหมือนกับบ๊ะจ่าง

ถึงเสิ่นเทียนจะหยิบศิลาวิญญาณจากแหวนเวหามาฟื้นฟูพลัง แต่มันก็ยืนหยัดได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ถ้าเอาแต่พึ่งหมวกเกราะเต่าดำก็คงไม่มีทางหลุดจากเถาจองจำเซียนนี่ได้แน่นอน

เสิ่นเทียนมองเถาวัลย์ที่ขยับยึกยือนอกเกราะป้องกันพลางขบคิดอย่างรวดเร็ว

จะสลัดหลุดได้อย่างไร จะสลัดหลุดได้อย่างไร หรือไม่ก็ยืนหยัดไปจนการช่วยเหลือมาถึงได้อย่างไร

นี่ มันยากเกินไปแล้ว~!

…………

ทันใดนั้น เสิ่นเทียนรู้สึกว่าคัมภีร์คบเพลิงในกายเริ่มฉุนเฉียวขึ้นมา

เขามองเถาจองจำเซียนสีเขียวอมดำที่ขยับยึกยือนอกเกราะป้องกันนั้นไม่หยุด ไม่อยากจะเชื่อว่า…

ตกตะลึง! ตอนนี้เสิ่นเทียนมองเถาจองจำเซียนระดับแก่นพลังทองสองต้นนอกเกราะป้องกัน จู่ๆ เขาก็น้ำลายไหล

เขารู้สึกว่าตอนนี้เถาวัลย์สองต้นนอกเกราะป้องกันเหมือนกลายเป็นปาท่องโก๋ยาวสองชิ้น ขนมแผ่นเผ็ดและอ้อยสองต้น

พวกมันส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้เซลล์ทุกส่วนในกายเสิ่นเทียนเกิดความคิดกระหายขึ้นมา จนเมื่อพบว่าตนเกิดความคิดนี้ขึ้น เสิ่นเทียนถึงกับตะลึงงัน

‘เวรเอ๊ย ข้าเป็นนักกินอาหารจีนผู้ยิ่งใหญ่ เหตุใดถึงถูกใจวัตถุดิบอาหารชนิดนี้

อย่างอื่นไม่ว่า แค่หน้าตาก็กระเดือกลงคอไม่ได้แล้วไหม!

รอเดี๋ยว เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่านี่เป็นวัตถุดิบอาหารล่ะ

นี่มันเถาน่าสะพรึงชัดๆ เลยนะ!’

เสิ่นเทียนเกิดคลื่นอารมณ์ในใจอย่างบ้าคลั่ง หลังผ่านไปนาน ในที่สุดเขาก็เอาชนะความไม่สบายในใจลงได้

‘หึ เถาจองจำเซียนพวกนี้สูบกินข้าได้ หรือว่าข้าจะสูบกินพวกเจ้าไม่ได้กัน

ถึงอย่างไรตอนนี้ข้าก็ถูกมัดอยู่ ในเมื่อไม่ให้ข้าไปข้าก็จะกัดเจ้าให้ตาย!’

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็มองเถาจองจำเซียนนอกเกราะป้องกัน…

เขาหลับตาลงแล้วหยิบเถาวัลย์เส้นหนึ่งขึ้นมากัด!

………

เดิมทีเสิ่นเทียนคิดว่าของเหลวในตัวมันจะขมมากจนชวนอ้วก แต่วินาทีที่เขากัดลงไป ของเหลวในเถาวัลย์อันอิ่มเอิบก็ระเบิดในปาก

ซี้ด~

เสิ่นเทียนไม่คาดคิดเลยว่าเจ้านี่จะมีรสชาติหวานมาก

เขาเบิกตาโตทันที “โอ้ ไม่เลวเลยนี่!”

จากนั้นเสิ่นเทียนก็เริ่มสูบกินอย่างบ้าคลั่ง!

…………………………..………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+