บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 435-2 หญิงมังกรเมื่อหมื่นปีก่อนก็เข้าร่วมด้วย! (2)

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 435-2 หญิงมังกรเมื่อหมื่นปีก่อนก็เข้าร่วมด้วย! (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 435 หญิงมังกรเมื่อหมื่นปีก่อนก็เข้าร่วมด้วย! (2)

กลางมิติ คนชราสองคนกำลังมองภาพนี้ด้วยความสนอกสนใจ

หนึ่งในนั้นคือผู้อาวุโสซู และคนตรงข้ามเขาเป็นคนชราผมสีทอง

คนชราผมทองนั้นมีกลิ่นอายพลังเก่าแก่ สวมอาภรณ์คราม แต่กลิ่นอายพลังกลับยิ่งใหญ่ไม่อาจคาดเดา

ในดวงตาเขามีประกายไฟร้อนแรงไหลเวียน กระชากจิตวิญญาณคน!

คนชราผมทองก็คือปรมาจารย์สำนักอสูรของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

“ผู้อาวุโสจิน เจ้าว่าฝ่ายใดจะชนะ”

ผู้อาวุโสซูมองการต่อสู้ด้วยความตื่นเต้น ไม่ได้คิดจะสอดมือ

ทุกรุ่นที่ผ่านมา สำนักมนุษย์กับสำนักอสูรขัดแย้งกันมาตลอด ปะทะและประลองฝีมือกันเป็นประจำ

ตอนแรกพวกเขาก็ทะเลาะกันเช่นนี้ ยิ่งสู้ยิ่งสนิทสนมกัน!

แบบนี้จะมีประโยชน์กับการเติบโตของศิษย์ เหมือนกับการฝึกอาวุธที่ผ่านการขัดเกลาในการต่อสู้ไปเรื่อยๆ

ขอแค่ไม่ลงมือถึงตาย ปรมาจารย์สำนักก็จะไม่สอดมือ

มิหนำซ้ำช่วงนี้ลัทธิวิญญาณร้ายยังอวดดีอย่างยิ่ง ทำให้ผู้แข็งแกร่งห้าดินแดนรู้สึกถึงอันตรายกำลังมาเยือน

ให้ดีที่สุดคือให้โอรสสวรรค์พวกนี้ยกระดับศักยภาพให้เร็วที่สุด ถึงจะเพิ่มโอกาสมีชีวิตรอดในมหาเคราะห์ภัยที่กำลังจะมาถึงได้

ดังนั้นปรมาจารย์สำนักมนุษย์และสำนักอสูรจึงเลือกมองดู

พอได้ยินคำถามของผู้อาวุโสซู ผู้อาวุโสจินก็เผยรอยยิ้มกว้าง “ยังต้องบอกอีกรึ ก็ต้องเป็นสำนักอสูรข้าอยู่แล้ว!”

สำนักอสูรแข็งแกร่งกว่าสำนักมนุษย์มาตลอด มิหนำซ้ำรุ่นนี้ยังมีหน่ออ่อนสุดยอดมากมาย เขาไม่เชื่อว่าจะแพ้ให้กับสำนักมนุษย์

ผู้อาวุโสซูเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาขยับประกายวาววับ “อย่างนั้นรึ เช่นนั้นเรามาเดิมพันกัน”

เมื่อพูดถึงการเดิมพัน ผู้อาวุโสจินก็คึกคักขึ้นมา “เดิมพันอะไร”

ผู้อาวุโสซูพูดอย่างเฉยชา “เดิมพันว่าใครแพ้ใครชนะ!”

“ตกลง ข้าเดิมพันว่าสำนักอสูรชนะ ของเดิมพันเป็นสุราวิญญาณอริยะสิบชั่ง!”

นั่นคือสุราดีที่บ่มด้วยยางไม้วิญญาณอริยะสามด่านเคราะห์อย่างดี มีมูลค่าเท่าเมือง

นี่เป็นสุราดีที่ถวายเฉพาะราชวงศ์เซียนต้าฮวง ราชวงศ์หลักถึงจะได้ลิ้มลอง คนปกติยากจะได้มา!

ในตัวผู้อาวุโสซูก็มีอยู่ส่วนหนึ่ง ทำให้ผู้อาวุโสจินน้ำลายไหล

เพียงแค่ตาแก่นี่ขี้เหนียวมาตลอด ผู้อาวุโสจินพูดปากเปียกปากแฉะยังหลอกเอามาไม่ได้

ตอนนี้มีการเดิมพัน เขาย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป

“ตาแก่นี่ จ้องของข้ามานานแล้วสิ!”

ผู้อาวุโสซูส่ายหน้ายิ้มๆ แต่ก็กลอกตาไปมาทันที “ได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขเช่นกัน! หากข้าชนะ เจ้าจะต้องมอบผลไม้วิญญาณฟ้าครามในเผ่าเจ้ากับข้า!”

ผู้อาวุโสจินเป็นผู้อาวุโสของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง ในเผ่ามีผลไม้วิญญาณชนิดหนึ่งหอมหวาน ทำให้คนน้ำลายไหล กระทั่งยังใช้หลอมโอสถได้ ประสิทธิภาพทรงพลัง เป็นผลไม้วิญญาณระดับโอสถศักดิ์สิทธิ์!

เพียงแต่มีปริมาณน้อยมาก ให้ใช้ได้แต่ศิษย์ในเผ่า ปกติจะไม่ปล่อยสู่โลกภายนอก

แต่ผู้อาวุโสซูก็เคยโชคดีได้มาผลหนึ่ง ย่อมรู้สรรพคุณของผลไม้วิญญาณฟ้าคราม

ดังนั้น ผู้อาวุโสซูจึงใช้โอกาสนี้ร้องขอเช่นกัน!

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องมีแผน! ตกลง เอาตามนี้!”

ถึงผลไม้วิญญาณฟ้าครามจะมีมูลค่าสูงสุด กระทั่งสูงกว่าสุราวิญญาณอริยะสิบชั่งเล็กน้อย!

แต่ผู้อาวุโสจินก็ไม่ปฏิเสธคำขอของผู้อาวุโสซู เพราะเขามั่นใจว่าชนะแน่นอน

ผู้อาวุโสจินแอบดีใจอยู่ข้างใน ‘ผู้อาวุโสซูหนอผู้อาวุโสซู เจ้าคิดว่าสำนักมนุษย์มีสือเทียนจื่อเข้ามาแล้วจะชนะได้รึ เจ้าไม่รู้ว่าสำนักอสูรข้ายังมีไพ่ตายอยู่อีก! อดีตอันน่ารังเกียจของเจ้านั่นจะต้องเผยออกมาแล้ว!’

ผู้อาวุโสซูไม่รู้ความคิดผู้อาวุโสจิน

เขาแอบดีใจอยู่เช่นกัน ‘สำนักมนุษย์ข้ามีปีศาจน้อยสือเทียนจื่อกับเสิ่นเทียน แค่นี้ก็ชนะได้ง่ายๆ แล้วไม่ใช่รึ ผู้อาวุโสจินหนอผู้อาวุโสจิน ครั้งนี้ต้องกระอักเลือดคำโตแน่!’

ตาแก่สองคนนี้ต่างคิดว่าตนชนะแน่ จึงไม่อาจปกปิดรอยยิ้มเอาไว้ได้

…..

ตอนนี้สถานการณ์รบด้านล่างกลับลุกเป็นไฟ

แม้ว่าทางฝั่งสำนักมนุษย์จะมีสุดยอดโอรสสวรรค์อย่างสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ หวังเสินซวีและฉีเซ่าเสวียนร่วมด้วย แต่สถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ดีมากนัก

ถึงอย่างไรนอกจากพวกเขาแล้ว สำนักมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นโอรสสวรรค์ศิษย์ใหม่ มีศิษย์อาวุโสส่วนหนึ่ง ในด้านจำนวนเทียบโอรสสวรรค์สำนักอสูรไม่ได้เลย

อีกทั้งสำนักอสูรยังมีผู้แข็งแกร่งเช่นกัน ศิษย์รุ่นใหม่อย่างข่งเมิ่ง เอ๋าอูและจินอวี่ก็มีศักยภาพไม่ธรรมดา ทั้งยังมีศิษย์อาวุโสอย่างคุนหมิงและคุนอวี้คอยคุมสถานการณ์อยู่ด้วย จำนวนยังมากกว่าสำนักมนุษย์หลายเท่า

ดังนั้นกำลังรบสุดยอดของสำนักมนุษย์จึงถูกรั้งไว้

โอรสสวรรค์ที่เหลือไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสำนักอสูรเลย

สถานการณ์วุ่นวายอย่างยิ่ง จะเห็นโอรสสวรรค์ร้องโอดครวญกับพื้นทุกที่ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นเผ่ามนุษย์

ในเวลาอันสั้น โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์ถอยไปเรื่อยๆ ตอนนี้พ่ายแพ้แน่แล้ว

ทันใดนั้นเองมีร่างหนึ่งลอยลงมา กำราบสถานการณ์ด้วยพลังแก่กล้า!

โอรสสวรรค์สำนักอสูรพลันจ้องร่างเงาชุดคลุมขาวนั้นด้วยความหวาดกลัว อสูรมากมายถึงขั้นตัวสั่น

คนนี้คือสือเทียนจื่อ ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัว!

สือเทียนจื่อเดินหนึ่งก้าว กลิ่นอายพลังมหาศาลยากจะคาดเดา พลังอำนาจถาโถมทำลายทุกอย่าง!

พริบตาเดียว รอบนอกสำนักมนุษย์ถูกปกคลุมด้วยพลังไม่มีสิ้นสุด พายุคลั่งหมุนม้วนฟ้าดินอย่างรุนแรง!

บึ้ม!

พายุคลั่งกลายเป็นพลังเทพสูงสุดกระแทกโอรสสวรรค์สำนักอสูรถอยไปทั้งหมด

สถานการณ์พลันพลิกกลับแล้ว!

……

เมื่อเห็นดังนั้น โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์ต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ

“องค์ชายเทียนจื่อออกมือแล้ว ดูสิว่าพวกอสูรจะโอหังได้อย่างไรอีก!”

“มีองค์ชายเทียนจื่ออยู่ สำนักมนุษย์ไร้พ่ายแล้ว!”

การปรากฏตัวของสือเทียนจื่อปลุกขวัญกำลังของสำนักมนุษย์ ทำให้พวกเขากลับไปสู่จุดสูงสุด

ทางด้านโอรสสวรรค์สำนักอสูรมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างชัดเจน

สือเทียนจื่อมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต่อต้านได้เลย!

ทั้งสำนักอสูร ก็มีเพียงฉีจ้านที่มีชื่อเสียงพอๆ กับสือเทียนจื่อ

หากสือเทียนจื่อออกมือกับพวกเขา ก็ยากจะต่อต้านได้!

จากนั้นพวกเขาก็พบคำถามที่สำคัญ

ฉีจ้านมาสำนักมนุษย์ก็เพื่อท้าสู้กับสือเทียนจื่อ แต่สือเทียนจื่อปรากฏตัวแล้ว ฉีจ้านกลับหายตัวไปหรือ

หรือว่าฉีจ้านจะแพ้ให้กับสือเทียนจื่อและบาดเจ็บสาหัสกัน

โอรสสวรรค์สำนักอสูรพลันคลุ้มคลั่งขึ้นมา ฉีหั่วคำรามด้วยความโกรธ “สือเทียนจื่อ เจ้าทำอะไรพี่ใหญ่ข้า”

สือเทียนจื่อมุมปากกระตุก

เผ่าอสูรพวกนี้สมองมีปัญหากันรึ

ไม่ใช่แค่บุกมาก่อเรื่องสำนักมนุษย์ แต่จะมาหาฉีจ้านเอากับเขาอีกรึ

ฉีจ้านถูกเสิ่นเทียนลากเข้าไปในกระแสมิติปั่นป่วนไม่ใช่หรือ

แค่กๆ ข้าไม่ได้แอบดูนะ!

…….

สือเทียนจื่อพูดด้วยใบหน้าเฉยชา “ลิงเหม็นนั่นเกี่ยวอะไรกับข้า หากพวกเจ้าจะก่อเรื่องต่อ ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแล้วกัน!”

ตนเป็นผู้สูงส่งสูงสุดหนุ่มเผ่ามนุษย์ สือเทียนจื่อย่อมไม่ปล่อยให้เกียรติสำนักมนุษย์ถูกเหยียบย่ำ!

เขาแผ่พลังแข็งแกร่งออกมา เหมือนจะกำราบโอรสสวรรค์สำนักอสูรทั้งหมด!

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังจากสือเทียนจื่อ โอรสสวรรค์สำนักอสูรมากมายพากันหุบปาก

ไม่มีใครกล้าล่วงเกินสือเทียนจื่อ ศักยภาพต่างกันมากจริงๆ!

……

กลางห้วงมิติ เมื่อเห็นสือเทียนจื่อออกมือ รอยยิ้มบนใบหน้าผู้อาวุโสซูก็กว้างมากขึ้น

ด้วยศักยภาพของสือเทียนจื่อต้องกำราบเผ่าอสูรที่นี่ได้ทั้งหมดแน่!

“ผู้อาวุโสจิน ดูท่าเจ้าคงเก็บผลไม้วิญญาณของเจ้าไว้ไม่ได้แล้วล่ะ!” ผู้อาวุโสซูเย้าหยอก

แต่ผู้อาวุโสจินไม่สนใจ ยังพูดด้วยใบหน้ามั่นใจ “อย่างนั้นรึ มันจะจบง่ายๆ เช่นนั้นได้อย่างไร สือเทียนจื่อแข็งแกร่งจริงๆ แต่คิดจะกวาดล้างสำนักอสูรก็ไม่ง่ายขนาดนั้น!”

ผู้อาวุโสซูส่ายหน้าไม่เชื่อ “โอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดของสำนักอสูรเจ้าถูกเสิ่นเทียนรั้งไว้แล้ว! คนอื่นสู้ตายกว่านี้ จะใช่คู่ต่อสู้สือเทียนจื่อได้หรือ”

ผู้อาวุโสจินดวงตาขยับแสงเทพวาววับ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “สำนักมนุษย์เจ้ามีโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุค สำนักอสูรข้าจะไม่มีได้อย่างไร”

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ พลันมีเสียงเฉยชาดังขึ้นข้างหลังโอรสสวรรค์สำนักอสูร

“แค่เด็กน้อยคนเดียว มีอะไรต้องกลัวกัน”

คนที่มาอวดดีอย่างยิ่ง ไม่เห็นแม้แต่สือเทียนจื่ออยู่ในสายตา

“ใคร”

โอรสสวรรค์ทุกคนมีสีหน้าตกใจ มีคนกล้าดูถูกสือเทียนจื่อด้วยรึ

ก่อนหน้านี้ฉีจ้านนั่นไม่เท่าไร สมองเขามีปัญหาจะพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าอะไรก็ได้

แต่ตัดฉีจ้านออกไป ในโอรสสวรรค์สำนักอสูรไม่มีใครทัดเทียมกับสือเทียนจื่อได้อีกแล้ว!

ตอนนี้กลับมีคนกล้ายั่วยุเช่นนี้ ไม่กลัวสือเทียนจื่อระเบิดพลังใส่รึ

พอได้ยินคำพูดนี้ สือเทียนจื่อมีเส้นสีดำขึ้นเต็มใบหน้า

ข้าเพิ่งเคยถูกเรียกว่าเป็นเด็กน้อยครั้งแรก ข้าเล็กตรงไหนกัน!

ทุกคนมองไปตามเสียง เห็นร่างเงาผอมสูงก้าวออกมาจากห้วงอากาศ

นางสวมชุดกระโปรงยาวสีดำ แผ่กลิ่นอายพลังสูงส่งและเฉยชา ตรงหน้าอกยังเป็นคลื่นใหญ่โตดูชั่วร้ายมาก

ใบหน้างดงามทำให้คนอดเกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากล่วงเกินมิได้!

หญิงคนนี้ยืนกลางฟ้าดินเหมือนหลอมรวมมิติเป็นหนึ่งเดียว

กลิ่นอายพลังลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ทำให้คนใจสั่นสะท้าน!

…..

พอเห็นภาพนี้ ผู้อาวุโสซูก็อึ้งไป

ก่อนเขาจะมุมปากกระตุก “พวกเจ้าเชิญบรรพบุรุษท่านนี้มาได้อย่างไร นางก็นับว่าเป็นศิษย์ด้วยหรือ วัดจากรุ่นอาวุโสแล้ว เจ้ากับข้ายังต้องเรียกนางว่ายายด้วยซ้ำ! บุคคลเมื่อหมื่นปีก่อน แม้แต่ท่านจักรพรรดิยังต้องสนทนากับนางด้วยศักดิ์เท่ากัน!”

ผู้อาวุโสจินยิ้มหน้าบาน “จะไม่นับได้อย่างไร ก่อนนางถูกผนึกก็มีอายุไม่ถึงพันปี มองจากในบางระดับ ก็ยังอยู่ในขอบเขตจำกัดศิษย์ตำหนักศึกษา ย่อมเข้าได้”

คนนี้ ก็คือไพ่ตายที่ผู้อาวุโสจินมั่นใจว่าจะชนะ!

มีนางอยู่ ต่อให้เป็นสือเทียนจื่อก็อาจจะเอาชนะไม่ได้!

เหอะๆ สุราวิญญาณอริยะเป็นของข้าแล้ว!

หลังเห็นคนนี้ สือเทียนจื่อก็มีแววตาจริงจังอย่างพบเห็นได้ยาก เขารู้สึกว่าคนนี้มีกลิ่นอายพลังน่ากลัวมาก ลึกล้ำเหมือนมหาสมุทร

แม้แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสู้ด้วยได้เท่าไร!

โอรสสวรรค์คนอื่นตัวสั่น ถูกพลังแก่กล้ากำราบ ไม่เกิดความคิดต่อต้านขึ้นเลย

จางอวิ๋นซีกัดฟัน ทำเสียงหึในใจ ‘ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นหญิงมังกรแก่นี่ นางปิดด่านบำเพ็ญอยู่ไม่ใช่รึ เหตุใดถึงออกมาได้’

เมื่อเห็นร่างเงานี้ จางอวิ๋นซีก็เกิดความรู้สึกถึง ‘วิกฤติ’ อย่างรุนแรง!

….

นางไม่มีวันลืมวันนั้น ศิษย์น้องนั่งบนรถสงครามของหญิงมังกรแก่นี่ แล่นไปยังทะเลอุดร

หญิงมังกรแก่ชั่วร้ายนี่คือคู่ต่อสู้แย่งชิงที่แกร่งที่สุดสำหรับนาง!

บัดซบ หรือนางจะมาเพราะศิษย์น้องกัน

วิญญาณเงามืดยังไม่หายไปจริงๆ!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด