บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 71 ปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้น

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 71 ปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 71 ปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้น
เป็นน้ำ!

เสิ่นเทียนเข้าใจแจ่มแจ้งในใจ

ดังนั้นปัญจธาตุของข้าคือธาตุน้ำหรือ

มิน่าข้าถึงนิสัยดีเช่นนี้ จิตใจดีดั่งสายน้ำ

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย ในเมื่อมั่นใจในธาตุตนแล้วก็เริ่มฝึกเลยเถอะ!

เขาโคจรวิชาอัสนีธาตุน้ำในเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมพลางเริ่มสูบกินพลังวิญญาณรอบกาย

พลังวิญญาณที่อยู่ในศิลาวิญญาณข้างกายถูกเขาสูบกินอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สัญลักษณ์สีทองตรงระหว่างคิ้วเขาเริ่มขยับวูบวาบแล้ว

น้ำมวลหนักปฐมกาลที่เดิมทีเงียบสงบในไตก็คึกคักขึ้นมาเช่นกัน

พลังวิญญาณที่เสิ่นเทียนสูบกินเข้ามาในร่างเขา วนเวียนไปทั่วร่างอย่างเร็วไว สายฟ้าสีทองหลั่งออกมาตรงระหว่างคิ้วเขาทีละสายก่อนจะเชื่อมกับพลังวิญญาณที่สูบกิน

ทางด้านน้ำมวลหนักปฐมกาลในไตเสิ่นเทียนก็ไหลไปทั่วร่าง หลอมรวมกับพลังวิญญาณเช่นกัน วัตถุวิญญาณฟ้าดินพิเศษสองชนิดเหมือนกับสายฟ้าสวรรค์ชักนำสายน้ำผืนปฐพี ทำให้รวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าสีดำลอยออกมาจากผิวกายเสิ่นเทียนทีละน้อย

“ข้าต้องการพลังวิญญาณ ต้องการพลังวิญญาณจำนวนมาก!”

………

เสิ่นเทียนหยิบศิลาวิญญาณหมื่นก้อนจากแหวนเวหามาปูไว้ใต้ร่าง จากนั้นก็เริ่มโคจรธาตุน้ำในเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมให้สูบกินอย่างเต็มกำลัง

ทันใดนั้นพลังวิญญาณจำนวนมากก็หลั่งไหลไปในร่างเสิ่นเทียนราวกับแม่น้ำหลาก

ตอนแรกเสิ่นเทียนยังกังวลเล็กน้อย กลัวว่าจะธาตุไฟเข้าแทรกเหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่นานเขาก็พบว่าการโคจรพลังวิญญาณไม่มีปัญหา

เห็นได้ชัดว่าเมื่อวงรัศมีชะตาของเสิ่นเทียนเป็นวงสีขาวอมแสงเขียว ก็สามารถฝึกปราณได้ตามปกติแล้ว อย่างน้อยเขาก็คิดว่าแค่ฝึกอัสนีเทพธาตุน้ำอย่างเดียวก็น่าจะพอแล้ว

หลังวางใจอย่างเต็มที่เขาก็เริ่มใช้สมาธิทั้งหมดไปกับเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม

ทันใดนั้นเองสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วเขาระเบิดแสงสว่างพร่างพราว ส่วนผิวกายก็มีของเหลวสีเงินลอยออกมาช้าๆ เช่นกัน

ขณะเดียวกับที่แสงสีทองและเงินสว่างขึ้นพร้อมกันนั้น ยังเกิดพลานุภาพทรงพลังขึ้นกลางฟ้าดิน ตอนนี้กุ้ยกงกงกับฉินเกาที่อยู่ข้างกายยังรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

พวกเขามองเสิ่นเทียนพลางรู้สึกเหมือนมองเทพเจ้าด้วยความเคารพ

คุณลักษณะของพลังนั้นสูงมากจริงๆ!

…….

ศิลาวิญญาณรอบๆ เหือดแห้งและแตกสลายไปอย่างเร็วไว

พลังที่แผ่มาจากตัวเสิ่นเทียนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ไม่ใช่แค่พลังบำเพ็ญศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทอง แต่ยังมีระดับของหลอมกาย

ยามนี้ อัสนีเทพกำเนิดฟ้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลเกิดการรวมกันอย่างน่าประหลาด ทำการชะล้างกระดูกอย่างง่ายดาย

ระดับของศาสตร์ทั้งสองแขนงของเสิ่นเทียนเหมือนประสานและเกื้อหนุนกัน พัฒนาไปพร้อมๆ กัน

คอขวดจุดสูงสุดหลอมกายขั้นสี่ถูกทะลวงทันที

ตอนนี้เสิ่นเทียนบรรลุหลอมกายขั้นห้า!

ส่วนศาสตร์หลอมปราณก้าวหน้าน่าตกใจยิ่งกว่า

หลอมปราณขั้นหนึ่ง

หลอมปราณขั้นสอง

หลอมปราณขั้นสาม

ปลอมปราณขั้นสี่

หลอมปราณขั้นห้า

เพียงสามชั่วยามสั้นๆ เสิ่นเทียนทะลวงถึงหลอมปราณขั้นห้า!

ถ้าการยกระดับด้วยความเร็วเช่นนี้แพร่งพรายออกไป คงจะมีคนตกใจตายกันเป็นหมู่คณะ

……

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิง พลังบำเพ็ญบรรลุช่วงหลอมกายขั้นสี่ พูดได้ว่าแค่ระดับความแกร่งของร่างกาย เสิ่นเทียนยังไม่ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งหลอมปราณขั้นเก้าเลย

ตอนนี้มีศิลาวิญญาณมากพอแล้ว ประกอบกับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าและน้ำมวลหนักปฐมกาลตอบสนองประสานกัน ทำให้พลังบำเพ็ญหลอมปราณของเสิ่นเทียนรุดหน้าเร็วกว่าหลอมกายในตอนแรก

กุ้ยกงกงกับฉินเกาที่คุ้มกันอยู่ด้านข้างถึงกับเหม่อมอง

อะไรกัน ไม่ต้องพูดเลยว่ามันกระทบกระเทือนจิตใจขนาดไหน คัมภีร์มารสู่สุริยันที่พูดไว้ดิบดีว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่ฝึกฝนรวดเร็วที่สุดในแดนบูรพาล่ะ!

เหตุใดทุกครั้งที่ฝ่าบาททะลวงพลังถึงเหมือนเรื่องเล่นสนุกเลย คนอื่นเขาลำบากฝึกฝนหลายเดือนกระทั่งหลายปีกว่าจะยกระดับขั้นหนึ่งอย่างทุกข์ทรมาน

แต่ฝ่าบาทนี่สิ พอควักศิลาวิญญาณออกมาทีไรก็ปึงๆๆ ทะลวงพลังเลย

ท่านฝึกบำเพ็ญเช่นนี้ ไม่กลัวกระทบกระเทือนจิตใจคนรอบข้างให้สงสัยในชีวิตจนธาตุไฟเข้าแทรกรึ

คนอื่นเป็นหรือไม่ไม่รู้ แต่กุ้ยกงกงกับฉินเการู้สึกสงสัยในชีวิตแล้วว่าใครที่เดินทางลัดฝึกบำเพ็ญวิชามารกันแน่นะ!

………

พลังของเสิ่นเทียนยังคงสูงขึ้น ผิวกายถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าสีดำ

ใช่ สายฟ้าสีดำ

สีดำในธาตุน้ำของปัญจธาตุ สีของอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าก็คือสีดำ

ยามนี้ทั้งตัวเสิ่นเทียนประหนึ่งเทพสายฟ้ามาจุติ น่าเกรงขามไม่ธรรมดา

แค่ใบหน้าดำเล็กน้อย เหมือนกับหัวหน้าชนเผ่าแอฟริกา

แต่นี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเสิ่นเทียนรู้สึกถึงคอขวดอีกแล้ว ใช่ เขารู้สึกว่าจะฝึกฝนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าของตนสำเร็จแล้ว

อัสนีเทพสิบชนิดในเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมล้วนเป็นส่วนแยกย่อยของมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าปัญจธาตุ

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนกลืนกินแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจำนวนมากอย่างน่าพิศวงในร้านวิญญาณสวรรค์ ขอแค่เขาจ่ายพลังวิญญาณมากพอก็จะรวมออกมาเป็นอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าได้อย่างง่ายดาย

คนอื่นๆ ฝึกฝนอัสนีเทพยากยิ่ง แต่สำหรับเสิ่นเทียนมันเหมือนไม่มีอยู่จริง!

……..

“นั่นหมายความว่าแค่พลังบำเพ็ญข้าสูงพอ ก็จะใช้เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมได้ตามใจชอบหรือ”

เสิ่นเทียนหัวเราะ มีแค่ล้างดวงชะตาให้เป็นสีขาวสะอาดถึงจะมีเรื่องดีมาหาถึงหน้าบ้านจริงๆ ด้วย

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนตะโกนเสียงดัง “เต่าดำถล่มแม่น้ำขุนเขา รวม!”

เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมรวมเป็นปรากฏการณ์พิลึกสัตว์เทพปัญจธาตุ ทวีคูณตัวเองกดอัดศัตรู

ครั้งก่อนจางอวิ๋นซีก็เคยสำแดงปรากฏการณ์พิลึกพยัคฆ์ขาวคำรามนภา แทบจะกวาดล้างไร้พ่ายในพลังบำเพ็ญเดียวกัน

เป็นอัสนีเทพปัญจธาตุเหมือนกัน อัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าที่เสิ่นเทียนฝึกบำเพ็ญย่อมมีปรากฏการณ์สอดคล้องกัน

นั่นคือปรากฏการณ์การป้องกันและบดขยี้เป็นหลัก เต่าดำถล่มแคว้น

หากสำแดงปรากฏการณ์นี้จะรวมเป็นร่างสัตว์เทพเต่าดำปกป้องตัวเองได้ ถึงตอนนั้น อัสนีเทพเต่าดำสีดำจะรวมเป็นชุดเกราะคุ้มกาย เรียกได้ว่าแข็งแกร่งยากที่จะตีแตก!

ขณะเดียวกันปรากฏการณ์เต่าดำล่มแคว้นยังเป็นปรากฏการณ์กำราบศัตรูที่ทรงพลังที่สุด สามารถปราบสิ่งชั่วร้ายในใต้หล้า

ตั้งแต่โบราณกาลมาผนึกที่ใช้ปราบมารร้ายจำนวนมากในแดนบูรพาล้วนแล้วแต่เป็นผนึกกำราบจากร่างจำแลงเต่าดำ

…..

ตอนนี้เสิ่นเทียนรู้สึกว่าตนจะฝึกฝนอัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าสำเร็จแล้ว ก้าวสุดท้ายคือรวมปรากฏการณ์เต่าดำ

เขาตะโกนเสียงดัง สายฟ้าสีดำทั่วร่างเปล่งแสงสว่างรวมกันอย่างหนาแน่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

กลิ่นอายพลังทั้งลึกลับและดำมืดลอยขึ้นมาจากตัวเขาช้าๆ

นี่ไม่เกี่ยวกับพลังมากหรือน้อย แต่เกี่ยวกับวิถีและอิทธิฤทธิ์ ไม่อาจบรรยายได้

ไม่นานก็ปรากฏแสงสีดำเหนือศีรษะเสิ่นเทียน แสงสีดำนั้นแผ่กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ ค่อยๆ รวมเป็นสัตว์เทพสีดำตัวหนึ่ง มันลอยอยู่เหนือหัวเสิ่นเทียนอย่างมั่นคงราวกับวิทยาราชแน่นิ่ง

นี่ก็คือปรากฏการณ์อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า เต่าดำถล่มแคว้น!

……

พอเห็นปรากฏการณ์ที่รวมขึ้นเหนือหัวเสิ่นเทียนแล้ว กุ้ยกงกงกับฉินเกาตะลึงงันไป

เสิ่นเทียนเห็นกุ้ยกงกงกับฉินเกาตกตะลึงแล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

“เป็นอะไร ทำอย่างกับไม่เคยเห็น ตกใจกับพรสวรรค์ของข้าละสิ?”

กุ้ยกงกงกลืนน้ำลายก่อนยิ้มเก้ๆ กังๆ “ฝ่าบาททรงฝึกฝนรวดเร็วจนเรียกได้ว่าที่สุดตั้งแต่โบราณกาลจนบัดนี้ พรสวรรค์เลิศล้ำเป็นเอก น่าปลื้มใจจริงๆ

หากพระสนมหลานในปรโลกรู้เข้าจะต้องปลื้มใจมากแน่!”

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”

ทางด้านฉินเกามุมปากกระตุก

เขาอดยื่นกระจกให้มิได้ “ฝ่าบาทท่านส่องกระจกหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”

ส่องกระจก?

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย ข้าฝึกวิชาแล้วจะไม่หล่อรึ?

ทันใดนั้นเสิ่นเทียนมองไปที่ศีรษะตนเอง ก่อนจะหน้าดำมืดยิ่งกว่าเดิม!

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 71 ปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้น

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 71 ปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 71 ปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้น
เป็นน้ำ!

เสิ่นเทียนเข้าใจแจ่มแจ้งในใจ

ดังนั้นปัญจธาตุของข้าคือธาตุน้ำหรือ

มิน่าข้าถึงนิสัยดีเช่นนี้ จิตใจดีดั่งสายน้ำ

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย ในเมื่อมั่นใจในธาตุตนแล้วก็เริ่มฝึกเลยเถอะ!

เขาโคจรวิชาอัสนีธาตุน้ำในเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมพลางเริ่มสูบกินพลังวิญญาณรอบกาย

พลังวิญญาณที่อยู่ในศิลาวิญญาณข้างกายถูกเขาสูบกินอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สัญลักษณ์สีทองตรงระหว่างคิ้วเขาเริ่มขยับวูบวาบแล้ว

น้ำมวลหนักปฐมกาลที่เดิมทีเงียบสงบในไตก็คึกคักขึ้นมาเช่นกัน

พลังวิญญาณที่เสิ่นเทียนสูบกินเข้ามาในร่างเขา วนเวียนไปทั่วร่างอย่างเร็วไว สายฟ้าสีทองหลั่งออกมาตรงระหว่างคิ้วเขาทีละสายก่อนจะเชื่อมกับพลังวิญญาณที่สูบกิน

ทางด้านน้ำมวลหนักปฐมกาลในไตเสิ่นเทียนก็ไหลไปทั่วร่าง หลอมรวมกับพลังวิญญาณเช่นกัน วัตถุวิญญาณฟ้าดินพิเศษสองชนิดเหมือนกับสายฟ้าสวรรค์ชักนำสายน้ำผืนปฐพี ทำให้รวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าสีดำลอยออกมาจากผิวกายเสิ่นเทียนทีละน้อย

“ข้าต้องการพลังวิญญาณ ต้องการพลังวิญญาณจำนวนมาก!”

………

เสิ่นเทียนหยิบศิลาวิญญาณหมื่นก้อนจากแหวนเวหามาปูไว้ใต้ร่าง จากนั้นก็เริ่มโคจรธาตุน้ำในเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมให้สูบกินอย่างเต็มกำลัง

ทันใดนั้นพลังวิญญาณจำนวนมากก็หลั่งไหลไปในร่างเสิ่นเทียนราวกับแม่น้ำหลาก

ตอนแรกเสิ่นเทียนยังกังวลเล็กน้อย กลัวว่าจะธาตุไฟเข้าแทรกเหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่นานเขาก็พบว่าการโคจรพลังวิญญาณไม่มีปัญหา

เห็นได้ชัดว่าเมื่อวงรัศมีชะตาของเสิ่นเทียนเป็นวงสีขาวอมแสงเขียว ก็สามารถฝึกปราณได้ตามปกติแล้ว อย่างน้อยเขาก็คิดว่าแค่ฝึกอัสนีเทพธาตุน้ำอย่างเดียวก็น่าจะพอแล้ว

หลังวางใจอย่างเต็มที่เขาก็เริ่มใช้สมาธิทั้งหมดไปกับเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม

ทันใดนั้นเองสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วเขาระเบิดแสงสว่างพร่างพราว ส่วนผิวกายก็มีของเหลวสีเงินลอยออกมาช้าๆ เช่นกัน

ขณะเดียวกับที่แสงสีทองและเงินสว่างขึ้นพร้อมกันนั้น ยังเกิดพลานุภาพทรงพลังขึ้นกลางฟ้าดิน ตอนนี้กุ้ยกงกงกับฉินเกาที่อยู่ข้างกายยังรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

พวกเขามองเสิ่นเทียนพลางรู้สึกเหมือนมองเทพเจ้าด้วยความเคารพ

คุณลักษณะของพลังนั้นสูงมากจริงๆ!

…….

ศิลาวิญญาณรอบๆ เหือดแห้งและแตกสลายไปอย่างเร็วไว

พลังที่แผ่มาจากตัวเสิ่นเทียนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ไม่ใช่แค่พลังบำเพ็ญศาสตร์หลอมปราณแก่นพลังทอง แต่ยังมีระดับของหลอมกาย

ยามนี้ อัสนีเทพกำเนิดฟ้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลเกิดการรวมกันอย่างน่าประหลาด ทำการชะล้างกระดูกอย่างง่ายดาย

ระดับของศาสตร์ทั้งสองแขนงของเสิ่นเทียนเหมือนประสานและเกื้อหนุนกัน พัฒนาไปพร้อมๆ กัน

คอขวดจุดสูงสุดหลอมกายขั้นสี่ถูกทะลวงทันที

ตอนนี้เสิ่นเทียนบรรลุหลอมกายขั้นห้า!

ส่วนศาสตร์หลอมปราณก้าวหน้าน่าตกใจยิ่งกว่า

หลอมปราณขั้นหนึ่ง

หลอมปราณขั้นสอง

หลอมปราณขั้นสาม

ปลอมปราณขั้นสี่

หลอมปราณขั้นห้า

เพียงสามชั่วยามสั้นๆ เสิ่นเทียนทะลวงถึงหลอมปราณขั้นห้า!

ถ้าการยกระดับด้วยความเร็วเช่นนี้แพร่งพรายออกไป คงจะมีคนตกใจตายกันเป็นหมู่คณะ

……

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิง พลังบำเพ็ญบรรลุช่วงหลอมกายขั้นสี่ พูดได้ว่าแค่ระดับความแกร่งของร่างกาย เสิ่นเทียนยังไม่ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งหลอมปราณขั้นเก้าเลย

ตอนนี้มีศิลาวิญญาณมากพอแล้ว ประกอบกับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าและน้ำมวลหนักปฐมกาลตอบสนองประสานกัน ทำให้พลังบำเพ็ญหลอมปราณของเสิ่นเทียนรุดหน้าเร็วกว่าหลอมกายในตอนแรก

กุ้ยกงกงกับฉินเกาที่คุ้มกันอยู่ด้านข้างถึงกับเหม่อมอง

อะไรกัน ไม่ต้องพูดเลยว่ามันกระทบกระเทือนจิตใจขนาดไหน คัมภีร์มารสู่สุริยันที่พูดไว้ดิบดีว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่ฝึกฝนรวดเร็วที่สุดในแดนบูรพาล่ะ!

เหตุใดทุกครั้งที่ฝ่าบาททะลวงพลังถึงเหมือนเรื่องเล่นสนุกเลย คนอื่นเขาลำบากฝึกฝนหลายเดือนกระทั่งหลายปีกว่าจะยกระดับขั้นหนึ่งอย่างทุกข์ทรมาน

แต่ฝ่าบาทนี่สิ พอควักศิลาวิญญาณออกมาทีไรก็ปึงๆๆ ทะลวงพลังเลย

ท่านฝึกบำเพ็ญเช่นนี้ ไม่กลัวกระทบกระเทือนจิตใจคนรอบข้างให้สงสัยในชีวิตจนธาตุไฟเข้าแทรกรึ

คนอื่นเป็นหรือไม่ไม่รู้ แต่กุ้ยกงกงกับฉินเการู้สึกสงสัยในชีวิตแล้วว่าใครที่เดินทางลัดฝึกบำเพ็ญวิชามารกันแน่นะ!

………

พลังของเสิ่นเทียนยังคงสูงขึ้น ผิวกายถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าสีดำ

ใช่ สายฟ้าสีดำ

สีดำในธาตุน้ำของปัญจธาตุ สีของอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าก็คือสีดำ

ยามนี้ทั้งตัวเสิ่นเทียนประหนึ่งเทพสายฟ้ามาจุติ น่าเกรงขามไม่ธรรมดา

แค่ใบหน้าดำเล็กน้อย เหมือนกับหัวหน้าชนเผ่าแอฟริกา

แต่นี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเสิ่นเทียนรู้สึกถึงคอขวดอีกแล้ว ใช่ เขารู้สึกว่าจะฝึกฝนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าของตนสำเร็จแล้ว

อัสนีเทพสิบชนิดในเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมล้วนเป็นส่วนแยกย่อยของมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าปัญจธาตุ

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนกลืนกินแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจำนวนมากอย่างน่าพิศวงในร้านวิญญาณสวรรค์ ขอแค่เขาจ่ายพลังวิญญาณมากพอก็จะรวมออกมาเป็นอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าได้อย่างง่ายดาย

คนอื่นๆ ฝึกฝนอัสนีเทพยากยิ่ง แต่สำหรับเสิ่นเทียนมันเหมือนไม่มีอยู่จริง!

……..

“นั่นหมายความว่าแค่พลังบำเพ็ญข้าสูงพอ ก็จะใช้เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมได้ตามใจชอบหรือ”

เสิ่นเทียนหัวเราะ มีแค่ล้างดวงชะตาให้เป็นสีขาวสะอาดถึงจะมีเรื่องดีมาหาถึงหน้าบ้านจริงๆ ด้วย

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนตะโกนเสียงดัง “เต่าดำถล่มแม่น้ำขุนเขา รวม!”

เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมรวมเป็นปรากฏการณ์พิลึกสัตว์เทพปัญจธาตุ ทวีคูณตัวเองกดอัดศัตรู

ครั้งก่อนจางอวิ๋นซีก็เคยสำแดงปรากฏการณ์พิลึกพยัคฆ์ขาวคำรามนภา แทบจะกวาดล้างไร้พ่ายในพลังบำเพ็ญเดียวกัน

เป็นอัสนีเทพปัญจธาตุเหมือนกัน อัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าที่เสิ่นเทียนฝึกบำเพ็ญย่อมมีปรากฏการณ์สอดคล้องกัน

นั่นคือปรากฏการณ์การป้องกันและบดขยี้เป็นหลัก เต่าดำถล่มแคว้น

หากสำแดงปรากฏการณ์นี้จะรวมเป็นร่างสัตว์เทพเต่าดำปกป้องตัวเองได้ ถึงตอนนั้น อัสนีเทพเต่าดำสีดำจะรวมเป็นชุดเกราะคุ้มกาย เรียกได้ว่าแข็งแกร่งยากที่จะตีแตก!

ขณะเดียวกันปรากฏการณ์เต่าดำล่มแคว้นยังเป็นปรากฏการณ์กำราบศัตรูที่ทรงพลังที่สุด สามารถปราบสิ่งชั่วร้ายในใต้หล้า

ตั้งแต่โบราณกาลมาผนึกที่ใช้ปราบมารร้ายจำนวนมากในแดนบูรพาล้วนแล้วแต่เป็นผนึกกำราบจากร่างจำแลงเต่าดำ

…..

ตอนนี้เสิ่นเทียนรู้สึกว่าตนจะฝึกฝนอัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าสำเร็จแล้ว ก้าวสุดท้ายคือรวมปรากฏการณ์เต่าดำ

เขาตะโกนเสียงดัง สายฟ้าสีดำทั่วร่างเปล่งแสงสว่างรวมกันอย่างหนาแน่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

กลิ่นอายพลังทั้งลึกลับและดำมืดลอยขึ้นมาจากตัวเขาช้าๆ

นี่ไม่เกี่ยวกับพลังมากหรือน้อย แต่เกี่ยวกับวิถีและอิทธิฤทธิ์ ไม่อาจบรรยายได้

ไม่นานก็ปรากฏแสงสีดำเหนือศีรษะเสิ่นเทียน แสงสีดำนั้นแผ่กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ ค่อยๆ รวมเป็นสัตว์เทพสีดำตัวหนึ่ง มันลอยอยู่เหนือหัวเสิ่นเทียนอย่างมั่นคงราวกับวิทยาราชแน่นิ่ง

นี่ก็คือปรากฏการณ์อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า เต่าดำถล่มแคว้น!

……

พอเห็นปรากฏการณ์ที่รวมขึ้นเหนือหัวเสิ่นเทียนแล้ว กุ้ยกงกงกับฉินเกาตะลึงงันไป

เสิ่นเทียนเห็นกุ้ยกงกงกับฉินเกาตกตะลึงแล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

“เป็นอะไร ทำอย่างกับไม่เคยเห็น ตกใจกับพรสวรรค์ของข้าละสิ?”

กุ้ยกงกงกลืนน้ำลายก่อนยิ้มเก้ๆ กังๆ “ฝ่าบาททรงฝึกฝนรวดเร็วจนเรียกได้ว่าที่สุดตั้งแต่โบราณกาลจนบัดนี้ พรสวรรค์เลิศล้ำเป็นเอก น่าปลื้มใจจริงๆ

หากพระสนมหลานในปรโลกรู้เข้าจะต้องปลื้มใจมากแน่!”

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”

ทางด้านฉินเกามุมปากกระตุก

เขาอดยื่นกระจกให้มิได้ “ฝ่าบาทท่านส่องกระจกหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”

ส่องกระจก?

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย ข้าฝึกวิชาแล้วจะไม่หล่อรึ?

ทันใดนั้นเสิ่นเทียนมองไปที่ศีรษะตนเอง ก่อนจะหน้าดำมืดยิ่งกว่าเดิม!

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+