บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 394 ข้ายอมตายดีกว่ายอมก้มหัว!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 394 ข้ายอมตายดีกว่ายอมก้มหัว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 394 ข้ายอมตายดีกว่ายอมก้มหัว!

กลางกระแสมิติปั่นป่วน เปลวไฟสีสันงามตาบานออกดั่งดอกไม้

ราชินีหงส์อมตะหลับตาปิดสนิท นั่งขัดสมาธิกลางมิติ พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่

ภายในตัวนางมีเปลวเพลิงน่ากลัวสองชนิดตัดสลับกันไม่หยุด พุ่งชนกัน เกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

แม้ราชินีหงส์อมตะจะโคจรวิชาสุดกำลัง แต่อัคคีอรุณใต้ฉุนเฉียวก็ยังคงบ้าคลั่ง เหมือนจะเผาราชินีหงส์อมตะเป็นเถ้าถ่าน

หลักๆ เป็นเพราะอัคคีอรุณใต้ที่ราชินีหงส์อมตะควบคุมอยู่แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ

อัคคีอรุณใต้เป็นไฟศักดิ์สิทธิ์อันดับสิบในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีมีอานุภาพน่ากลัวเช่นนี้อยู่แล้ว

แต่ได้ราชินีหงส์อมตะหล่อหลอมมาหมื่นปี อานุภาพของอัคคีอรุณใต้ก็น่าสะพรึงถึงที่สุด กระทั่งไม่เป็นรองไฟศักดิ์สิทธิ์อันดับต้นๆ ในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์

ตอนนี้อัคคีอรุณใต้บ้าคลั่งขึ้นมา ทำให้ผู้แข็งแกร่งอย่างราชินีหงส์อมตะต้องรับความทุกข์ถูกไฟเผาผลาญใจ

ดีที่ในกายราชินีหงส์อมตะยังมีเปลวเพลิงอีกชนิด ต่อต้านกับมันได้

เปลวเพลิงชนิดนี้มีนามว่าเพลิงอมตะหงส์เทพ

เพลิงอมตะหงส์เทพอยู่อันดับสี่ในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ไฟศักดิ์สิทธิ์มรดกของเผ่าหงส์อมตะ

ในเปลวเพลิงชนิดนี้แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตทรงพลังอย่างยิ่ง มอบพลังควบคุมการอาบเพลิงเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ

มีไฟศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้ ในด้านการฟื้นฟูเรียกได้ว่าแข็งแกร่งถึงที่สุด

ต่อให้บาดเจ็บสาหัสใกล้ตายก็ยังใช้สิ่งนี้นิพพานเกิดใหม่ได้

ตอนนี้ราชินีหงส์อมตะกำลังใช้เพลิงอมตะหงส์เทพต้านทานกับอัคคีอรุณใต้ ถึงได้ยืนหยัดต่อไปไหว

ถึงอย่างไรปราณกระบี่นั้นก็น่ากลัวจริงๆ แม้แต่เคราะห์สวรรค์ยังฟันขาด แค่ปราณกระบี่นั้นที่กระจายออกมาก็ทำให้ราชินีหงส์อมตะบาดเจ็บสาหัสได้

“ไฟศักดิ์สิทธิ์สองชนิดปะทะกัน ขืนทำให้สงบลงไม่ได้ เกรงว่าวันนี้ต้องเป็นปัญหาแน่”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลังแห่งสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินเดิมทีแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ตั้งแต่โบราณกาลมามีน้อยคนนักที่จะมีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินในตัวมากกว่าสองชนิดขึ้นไป ปกติคนที่กล้าลองเช่นนี้จะถูกการปะทะกันระหว่างสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสองชนิดฉีกร่างเป็นเสี่ยงๆ

ในตัวราชินีหงส์อมตะมีไฟศักดิ์สิทธิ์สองชนิด ปกติย่อมแข็งแกร่งอย่างยิ่ง การโจมตีไร้พ่าย

แต่ตอนนี้อยู่สภาพบาดเจ็บสาหัส ไฟศักดิ์สิทธิ์สองชนิดกลับกลายเป็นภัยที่เป็นปัญหาอย่างยิ่ง ดีไม่ดีอาจจะทำลายฐานรากมรรคของตนได้

และตอนนี้เอง พลังงานในกระแสมิติปั่นป่วนกระเพื่อมขึ้นมา

‘หืม’

ราชินีหงส์อมตะสังเกตเห็นในทันที หันไปมองก็เห็นแสงเทพสายหนึ่งกำลังพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

‘นี่มัน…เตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทองรึ’

ราชินีหงส์อมตะตาเป็นประกาย นางย่อมรู้ข่าวการปรากฏของมหาจักรพรรดิอีกาทอง

มหาจักรพรรดิอีกาทองเป็นมหาจักรพรรดิเผ่าปีศาจ หลังจากลอยขึ้นโลกเซียนเมื่อแปดหมื่นปีก่อนก็ไม่มีข่าวคราวมาอีก

ทว่าตั้งแต่ข่าวเกาะมหานทีปรากฏ ราชินีหงส์อมตะก็รีบมาในตอนแรก อยากจะสำรวจ

แต่ก็จนปัญญาเพราะนอกเกาะมหานทีมีเขตแดนที่มหาจักรพรรดิอีกาทองวางเอาไว้ กันนางไว้ข้างนอก

บังเอิญที่ว่าราชินีหงส์อมตะมีความรู้สึกในใจว่าเคราะห์สวรรค์ครั้งต่อไปจะมาถึงแล้ว

นางจึงเข้าไปในห้วงมิติ เข้าไปในกระแสมิติปั่นป่วนของทะเลอุดร ตั้งใจจะใช้ชีพจรวิญญาณเขตแดนของมหาจักรพรรดิอีกาทองฝ่าด่านเคราะห์

แต่นางไม่คาดคิดเลยว่ากระบี่สะท้านฟ้าที่มาอย่างกะทันหันจะทำให้นางบาดเจ็บสาหัส

ทว่าตอนนี้ได้เห็นเตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทอง นี่ทำให้ราชินีหงส์อมตะดีใจขึ้นมา

“มหาจักรพรรดิอีกาทองควบคุมไฟแท้สุริยะ และเตาหลอมเทพสุริยะเป็นอาวุธจักรพรรดิของมหาจักรพรรดิอีกาทอง บางทีอาจจะมีไฟแท้สุริยะหลงเหลืออยู่ หากข้าหลอมรวมไฟแท้สุริยะได้ ก็จะให้ไฟศักดิ์สิทธิ์ในกายสงบลง แก้วิกฤติครั้งนี้ได้แน่นอน บางทีอาจจะพัฒนาไปอีกขั้นก็ได้”

ตอนนี้ราชินีหงส์อมตะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก การจะแก้ไขก็ต้องได้ไฟศักดิ์สิทธิ์อีกชนิด สร้างเป็นสถานการณ์สามฝ่ายสมดุลกัน

ก่อนจะใช้วิชาลับนิพพานในคัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ ถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้

แต่เงื่อนไขนี้ยากยิ่ง ถึงอย่างไรในกระแสมิติปั่นป่วนจะมีไฟศักดิ์สิทธิ์ปรากฏมาได้อย่างไร

แต่ตอนนี้การปรากฏของเตาหลอมเทพสุริยะทำให้ราชินีหงส์อมตะได้เห็นความหวัง หากหลอมรวมไฟแท้สุริยะได้ นางมั่นใจมากว่าจะแก้วิกฤติครั้งนี้ได้ บางทีอาจจะอาศัยพลังของไฟแท้สุริยะทะลวงคอขวดของตน ระดับพลังพัฒนาไปอีกขั้น

ดังนั้น ราชินีหงส์อมตะจึงยื่นมืองามเล็กและเรียวยาวออกมาอย่างไม่ลังเล คว้าไปทางเตาหลอมเทพสุริยะก่อนจะดึงเข้ามา

แกร๊ง!

เตาหลอมเทพสั่นสะเทือน

เสิ่นเทียนในเตาหลอมเทพสุริยะพลันตกใจตื่น

นี่มันอะไรกัน

ข้าเมารถถึงได้ให้ขับขี่อัตโนมัติเดี๋ยวเดียว ก็ชนแล้วรึ

แต่ประเด็นสำคัญคือที่นี่คือกระแสมิติปั่นป่วนนะ!

ยังมีคนขับรถคนอื่นด้วยหรือ หรือว่าจะชนเข้ากับปราการมิติ

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ดีใจ

ถ้าเป็นปราการมิติจริงๆ ก็ดี นั่นหมายความว่าในที่สุดเขาก็จะได้ออกจากที่บ้าๆ นี่สักที!

เสิ่นเทียนพุ่งออกจากเตาหลอมเทพสุริยะ เตรียมทำลายปราการมิติอย่างมั่นใจเพื่อออกจากกระแสมิติปั่นป่วน

ทว่าทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นก็พบว่าสถานการณ์แปลกๆ ไป

ตรงหน้าเขามีร่างหนึ่งลอยอยู่ เป็นหญิงสวมชุดขนหงส์สีแดงเพลิง รูปร่างร้อนแรงดั่งไฟ ใบหน้างดงามเหมือนแกะสลักขึ้นจากหยกวิญญาณ เนื้อหิมะกระดูกหยก เอกลักษณ์เย็นยะเยือก ไม่เป็นรองสตรีใดที่เสิ่นเทียนเคยพบมา

อาจพูดได้ว่าเอกลักษณ์สูงส่ง เย็นเยือกและงดงามที่สุด มากพอจะสร้างความตกใจกับทั้งห้าดินแดน

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าในตัวร่างนี้แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

เทียบเท่ากับอาจารย์!

……

ไม่ใช่กระมัง

ในกระแสมิติปั่นป่วนไร้ขอบเขตจะมีการคงอยู่ที่น่าสะพรึงเช่นนี้ได้หรือ

“คิกๆ ไม่นึกเลยว่าในเตาหลอมเทพสุริยะจะมีมนุษย์รูปงามเช่นนี้อยู่”

ราชินีหงส์อมตะพิจารณามองเสิ่นเทียนอย่างสนอกสนใจ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

ใบหน้าเสิ่นเทียนเหนือธรรมดา ราวกับเซียนบนฟ้ามาเยือน หล่อเหลากว่ามนุษย์ทุกคนที่นางเคยพบมาในหมื่นปีนี้

ราชินีหงส์อมตะคือเจ้าผู้ครองดินแดนทักษิณ เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจสูงสุด

แต่ก่อนอื่นนางเป็นสตรี อีกทั้งยังเป็นพวกหลงรูป!

เมื่อเห็นว่าตนถูกจับจ้อง เสิ่นเทียนก็หัวใจบีบรัดตัว “เอ่อ…ผู้อาวุโส ผู้เยาว์ไม่ได้ตั้งใจบุกรุกเข้ามา ขออย่าได้ถือสาเลย”

แต่ว่าเสิ่นเทียนก็พบว่าการที่หน้าตาดีก็มีประโยชน์เหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ถูกคนอื่นตบตายในทีเดียว

“ใช้ศักยภาพระดับนิพพาน กล้าท่องในกระแสมิติปั่นป่วน เจ้าหนูกล้าหาญมากนะ! กระทั่งยังควบคุมเตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทองได้ เจ้าเป็นใครกันแน่”

ราชินีหงส์อมตะเองก็แปลกใจเช่นกัน ต้องรู้ว่าในกระแสมิติปั่นป่วน ขนาดผู้อริยะยังไม่กล้าอยู่นาน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์แค่สัมผัสก็ตายทันที

แต่เสิ่นเทียนใช้ระดับพลังนิพพานอยู่ดีในที่นี่ กระทั่งแม้แต่เตาหลอมเทพสุริยะของมหาจักรพรรดิอีกาทองยังอยู่ในมือเขา

นี่ทำให้ราชินีหงส์อมตะเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ว่าใครกันที่มีพรสวรรค์เช่นนี้

“เรียนผู้อาวุโส ผู้เยาว์คือศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เสิ่นเทียน”

เสิ่นเทียนตอบกลับ แต่ในใจพินิจพิเคราะห์ไม่หยุด

ตอนนี้สถานการณ์ไม่ดี ต้องหาทางหนีออกไป

ถึงอย่างไรการคงอยู่นี้ก็น่ากลัวเกินไป อยู่กับนางจะทำให้เขาไม่รู้สึกปลอดภัยเอาเสียเลย

“แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ อ้อ หรือจะเป็นบุตรแห่งโชคชะตาสวรรค์ในตำนานคนนั้นกัน”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจนิดๆ

ราชินีหงส์อมตะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเสิ่นเทียนมาบ้าง ได้ยินได้ฟังมาจากพวกรุ่นเยาว์ทั้งหมด เคยทำให้ดินแดนทักษิณสั่นสะเทือนอยู่ช่วงหนึ่ง

ถึงอย่างไรข่าวที่ยอดธิดาสวรรค์สูงสุดแห่งเผ่านกยูงห้าสีนำกลับมาก็ทำให้โอรสสวรรค์มากมายเกิดความไม่ยอมในใจ อยากจะไปท้าสู้กับเสิ่นเทียน

แต่การคงอยู่ระดับราชินีหงส์อมตะจะสนใจหรือ

แต่ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะได้พบเสิ่นเทียนในกระแสมิติปั่นป่วน นี่ทำให้นางเกิดความสนใจในตัวเสิ่นเทียนมากกว่าเดิม นางอยากรู้ว่าเจ้าหนูนี่มีอะไรพิเศษกันแน่

“ผู้อาวุโสหยอกเล่นแล้ว นั่นเป็นแค่ชื่อเสียงจอมปลอมที่ถูกแพร่งพรายออกไปเกินจริงเท่านั้น”

เสิ่นเทียนรู้ว่าอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับนี้ จะเสแสร้งอวดดีไม่ได้

ทว่าราชินีหงส์อมตะกลับเพ่งสายตามองมาทันที

“หืม เหตุใดข้าถึงรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังของหญิงแก่เอ๋าปิงนั่นจากตัวเจ้าล่ะ ไม่นึกเลยว่านางหญิงแก่นั่นจะยังไม่ตาย ทั้งยังทำสัญญากับมนุษย์อีก

แต่นี่ก็เข้าใจได้ หญิงมังกรตัวนี้มีนิสัยหลงรูป ชอบหาคนหน้าตาหล่อเหลา เหอะๆ หน้าไม่อายจริงๆ อยากเป็นมังกรแก่กินหญ้าอ่อน”

ราชินีหงส์อมตะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยเยาะ เห็นได้ชัดว่าไม่ลงรอยกับเอ๋าปิง

เมื่อได้ยินดังนั้นเสิ่นเทียนก็ขนลุกขึ้นมาในใจ

ตอนนี้ เขาคาดเดาฐานะของร่างเงานี้ได้รางๆ แล้ว

ไม่ลงรอยกับเอ๋าปิง และยังมีศักยภาพแข็งแกร่งเช่นนี้!

นอกจากเจ้าผู้ครองดินแดนทักษิณ…ราชินีหงส์อมตะแล้ว จะมีใครอีก

“ผู้อาวุโสราชินีหงส์ จู่ๆ ผู้เยาว์ก็นึกได้ว่ามีเรื่องนิดหน่อยที่บ้าน ขอตัวก่อน”

เสิ่นเทียนขนลุกบนแผ่นหลัง นี่คือผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุค และยังเป็นศัตรูคู่แค้นของเอ๋าปิง ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะเจอนาง

ตอนนี้ราชินีหงส์อมตะยังรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเอ๋าปิงแล้ว จะปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้อย่างไร

ดังนั้นเสิ่นเทียนคิดว่าหลีกไปจะดีกว่า!

พูดจบแล้วเสิ่นเทียนก็กระตุ้นวิชาคุนเผิง อยากจะออกจากที่นี่

“หยุดอยู่ตรงนั้น ข้าไม่กินเจ้าหรอก”

ในตัวราชินีหงส์อมตะมีอำนาจคุกคามแก่กล้ากระจายออกมา ทำให้เสิ่นเทียนตัวแข็งทื่อ

เมื่อได้ฟังคำพูดของราชินีหงส์อมตะ เสิ่นเทียนก็รู้สึกเย็นในใจ

จบแล้วๆ!

ข้าไม่รอดแล้ว!

แต่เสิ่นเทียนก็รู้สึกว่าราชินีหงส์อมตะเหมือนจะไม่มีเจตนาร้ายต่อตน

“ผู้อาวุโสราชินีหงส์อมตะ มีอะไรที่ช่วยได้ ผู้เยาว์จะช่วยอย่างเต็มที่เลย”

เสิ่นเทียนหมุนตัวกลับมาเอ่ยอย่างจนปัญญา

“มาผู้อาวุสงผู้อาวุโสอะไรกัน ข้าแก่ขนาดนั้นรึ เรียกพี่สาว!”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยราบเรียบ มองเสิ่นเทียนเหมือนยิ้มทีเล่นทีจริง มีความงดงามของสตรีหลากหลาย

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

เหตุใดสตรียุคนี้ถึงชอบให้คนอื่นเรียกว่าพี่สาวกันจัง

“พี่สาวหงส์ ข้าเห็นกลิ่นอายพลังในกายท่านเหมือนจะปั่นป่วน ที่ข้ามีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสามประกายวารีเทพ บางทีอาจจะมีประโยชน์ได้”

เสิ่นเทียนเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังฉุนเฉียวในกายราชินีหงส์อมตะแล้ว อานุภาพน่ากลัวนั้นทำให้ท้องนภาจะถล่มทลายลง

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนเองก็สงสัยในใจเช่นกัน ว่าสิ่งใดกันที่ทำให้การคงอยู่ระดับสุดยอดอย่างราชินีหงส์อมตะบาดเจ็บสาหัส

ไม่เข้าใจเลย!

แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เสิ่นเทียนอยากหาทางกำราบสตรีคนนี้ก่อน

ถ้าเกิดนางอารมณ์ไม่ดีเพราะบาดเจ็บ ลงมือสังหารข้าขึ้นมาจะทำอย่างไร

ถึงอย่างไรข้าก็มีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสามประกายวารีเทพอยู่เยอะ ให้ออกไปเล็กน้อยก็ไม่ได้ปวดใจ

“เจ้าหนูนี่ดวงดี มีกระทั่งของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสามประกายวารีเทพ แต่ของสิ่งนี้ได้แค่รักษา แต่ไม่มีประโยชน์กับข้า ข้าต้องการเจ้า…ไฟแท้สุริยะในกายเจ้า”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยอย่างเฉยชา สายตาเพ่งมองเสิ่นเทียน มีกลิ่นอายสังหารแผ่กระจายออกไป

นางยังกังวลอยู่เลยว่าจะจัดการไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ฉุนเฉียวในกายไม่ได้ ตอนนี้ไม่อยากเชื่อว่าเสิ่นเทียนจะส่งมาให้ถึงมือ

หากนำไฟแท้สุริยะในกายออกมา ราชินีหงส์อมตะจะต้องกำราบไฟศักดิ์สิทธิ์ฉุนเฉียวในกายได้แน่นอน

เวลานี้ เสิ่นเทียนเหงื่อไหลย้อยลงมา

ไฟแท้สุริยะนี้เป็นเพียงเชื้อไฟชนิดหนึ่ง หลอมรวมอยู่ในกายเขา ไม่อาจกระตุ้นได้เลย

หากราชินีหงส์อมตะต้องการไฟแท้สุริยะ ก็ได้แต่ฝืนใจดึงออกมาให้ แต่ถ้าดึงออกมา เกิดดึงไปหมดเลยจะทำอย่างไร

ไม่ได้ ต้องหาทางหนีให้เร็วที่สุด!

หากไม่ไหวจริงๆ เช่นนั้นก็ใช้แหวนทองสัมฤทธิ์อีกครั้ง

ไม่รู้ว่าจักรพรรดินีในแหวนทองสัมฤทธิ์จะออกมือช่วยได้อีกหรือไม่

เฮ้อ ข้าซวยไปถึงบ้านเลยจริงๆ

เสิ่นเทียนใจคอเหี่ยวแห้งอย่างมาก

และตอนนี้เอง มืองามเรียวเล็กข้างหนึ่งลูบใบหน้าเสิ่นเทียน “อีกอย่าง เจ้ายังเป็นบุรุษของเอ๋าปิง ข้าย่อมปล่อยเจ้าไปไม่ได้ง่ายๆ”

ราชินีหงส์อมตะหัวเราะเบาๆ

เมื่อหมื่นปีก่อน นางก็เป็นศัตรูคู่แค้นที่มีฝีมือทัดเทียมของหญิงมังกรเอ๋าปิงแห่งเกาะมังกรดำ

สองคนต่างไม่มีใครยอมใคร ต่อสู้ชิงความเป็นหนึ่งกัน

ดังนั้น ต่อให้เป็นเสิ่นเทียนที่ลงนามสัญญาเทพมังกรกับเอ๋าปิง ราชินีหงส์อมตะก็จะแย่งมาด้วย

แน่นอนว่าใบหน้าที่สุดแห่งยุคของเสิ่นเทียน ก็เป็นสาเหตุส่วนน้อยที่ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง

หลังเห็นใบหน้านี้แล้ว ราชินีหงส์อมตะก็กลั้นใจสังหารชิงไฟแท้สุริยะในกายเขาออกมาไม่ได้

บุรุษรูปงามคนนี้ น่าจะเก็บไว้เป็นอาหารตาจะดีกว่า

“เจ้าหนู ข้าจะลงนามสัญญาเทพหงส์กับเจ้า ให้เจ้าเป็นพันธมิตรมนุษย์ของเผ่าหงส์อมตะ ไม่รู้ว่าเจ้าตกลงหรือไม่”

เสียงเฉยชาของราชินีหงส์อมตะดังขึ้น เหมือนไม่ให้โอกาสปฏิเสธเลย

กล้าปฏิเสธคำเชิญของสุดยอดผู้แข็งแกร่ง เกรงว่าคงไม่รู้ว่าคำว่าตายเขียนอย่างไร!

เสิ่นเทียนรู้ในจุดนี้ดี

ภายใต้สถานการณ์บีบบังคับ ก็ต้องก้มหัวแล้ว!

อีกอย่าง การลงนามเทพหงส์กับราชินีหงส์อมตะ เป็นพันธมิตรมนุษย์ของเผ่าหงส์อมตะ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าขายหน้าอะไร

บางทีภายภาคหน้าอาจจะมีคนใหญ่คนโตปกป้องตนได้

แค่คิดก็ฟินแล้ว!

“ผู้เยาว์ยินดี!”

เสิ่นเทียนตอบกลับ

รู้ว่าตนคัดค้านไม่ได้ เช่นนั้นก็ยอมรับไปเงียบๆ เถอะ

“ดี เช่นนั้นก็ลงนามสัญญา”

ราชินีหงส์อมตะเด็ดขาดมาก สร้างค่ายกลลงนามสัญญากลางมิติ

“หยดโลหิตลงไป ก็จะลงนามกับข้าได้”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยราบเรียบ

เสิ่นเทียนพยักหน้า เขาคุ้นชินกับขั้นตอนนี้ดี เพียงแต่ไม่เคยลงนามสัญญากับการคงอยู่ระดับราชินีหงส์อมตะมาก่อน

ต่อให้ตอนแรกลงนามสัญญากับหญิงมังกรเอ๋าปิง นั่นก็เพราะนางบาดเจ็บสาหัส ศักยภาพลดลงถึงขีดสุด

แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในใจเสิ่นเทียนถึงยังตื่นเต้นนิดๆ

ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อ!

ไม่นานนัก การลงนามเทพหงส์ก็เสร็จสิ้นลง ขณะเดียวกันเสิ่นเทียนยังรู้สึกว่ามีพลังงานร้อนระอุชนิดหนึ่งกำลังรวมอยู่ในกายเขา

นั่นคือพลังแห่งเทพหงส์ของเผ่าหงส์อมตะ

ตอนแรกที่เสิ่นเทียนได้พลังแห่งเทพมังกรมาก็เพราะลงนามสัญญาเทพมังกรกับเอ๋าปิง

ตอนนี้ก็เช่นกัน ลงนามสัญญากับราชินีหงส์อมตะ ย่อมได้พลังแห่งหงส์ส่วนหนึ่ง กระทั่งยังหลอมรวมมรดกสูงสุดของเผ่าหงส์อมตะ คัมภีร์เทพหงส์

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็โล่งอกอยู่ในใจ

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ได้พลังแห่งเทพหงส์ แต่ยังแก้วิกฤติในครั้งนี้ได้

หลังจากลงนามสัญญาเทพหงส์ ราชินีหงส์อมตะก็คงไม่คิดร้ายกับตนอีกแล้วกระมัง

ถึงอย่างไรก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว

“ดี ต่อไปจะได้จัดการได้แล้ว ข้าจะใช้ไฟแท้สุริยะในตัวเจ้ากำราบไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุในตัวข้า”

ตอนนี้เองเสียงของราชินีหงส์อมตะดังขึ้นอีกครั้ง

อะไรนะ

เสิ่นเทียนใจสั่นไหว

นี่มันอะไรกัน

ไม่ใช่ว่าลงนามสัญญากันแล้วรึ เหตุใดถึงยังลงมือกับข้าอีก

ราชินีหงส์อมตะเหมือนเห็นความสงสัยในใจเสิ่นเทียนจึงเอ่ยราบเรียบ “วางใจเถอะ ข้าไม่ได้ต้องการชีวิตของเจ้า ตอนแรกข้ากำลังฝ่าด่านเคราะห์ที่นี่ แต่จู่ๆ แสงกระบี่สายหนึ่งก็ทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัส ทำให้ไฟศักดิ์สิทธิ์ในกายข้าบ้าคลั่งขึ้นมา ตอนนี้ข้าต้องขอยืมใช้ไฟแท้สุริยะมานิพพานบำเพ็ญ”

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นก็ใจฝ่อขึ้นมาทันที

แสงกระบี่ที่โจมตีราชินีหงส์อมตะนั่น คงไม่ใช่กระบี่นั้นที่จักรพรรดินีใช้จากในแหวนทองสัมฤทธิ์นั่นหรอกนะ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

มีเพียงจักรพรรดินีที่สุดแห่งยุคนั้นเท่านั้นที่จะทำอันตรายผู้แข็งแกร่งสุดยอดอย่างราชินีหงส์อมตะได้

จะให้ราชินีหงส์อมตะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นนางต้องฉีกทึ้งข้าแน่

ด้วยเหตุนี้ เสิ่นเทียนจึงใจฝ่อขึ้นมานิดๆ “ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พี่สาวราชินีหงส์จะให้ผู้เยาว์ทำอย่างไร ผู้เยาว์จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ใบหน้างดงามที่สุดนั้นของราชินีหงส์อมตะถึงมีความแดงเรื่อวูบผ่าน

แม้นางจะปกปิดไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พ้นสายตาเสิ่นเทียน

ตอนนี้เสิ่นเทียนพลันพบว่าราชินีหงส์อมตะเหมือนจะมีอาการผิดปกติเล็กน้อย

เสิ่นเทียนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เห็นในดวงตาของราชินีหงส์อมตะมีประกายไฟสองสายตัดสลับกัน

เวลานี้ กลิ่นอายว้าวุ่นใจลอยขึ้นมาจากในใจเสิ่นเทียน

“ตอนนี้ข้าธาตุไฟเข้าแทรก เจ้าบังเอิญโผล่มาที่นี่พอดี ดูท่าคงจะเป็นชะตาฟ้าลิขิต”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ย แต่กลับหน้าแดงขึ้นมา

ตอนนี้นางลงนามสัญญากับเสิ่นเทียนแล้ว ย่อมไม่มีทางสังหารเขาเอาไฟ

แต่ราชินีหงส์อมตะรู้ว่ายังมีอีกวิธีหนึ่ง ที่จะกำราบไฟศักดิ์สิทธิ์ในกายได้เช่นกัน

นั่นคือบทวิชาลับคู่ประสานที่เคยบันทึกไว้ในคัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ เป็นการฝึกคู่ประสานกับผู้ร่วมลงนามเทพหงส์ สองฝ่ายจะได้ประโยชน์กันอย่างมาก กระทั่งมีประโยชน์ยิ่งกว่าหลอมรวมไฟแท้สุริยะ

ดังนั้น ราชินีหงส์อมตะจึงคิดจะใช้วิธีนี้กำราบไฟศักดิ์สิทธิ์ในกาย

“ช่างเถอะ ถึงเจ้าจะมีพลังบำเพ็ญอ่อนแอ แต่ใบหน้าก็พอจะคู่ควรกับข้า วันนี้เป็นลาภปากกับเจ้าแล้ว!”

ราชินีหงส์อมตะเอ่ยขึ้น ประกายไฟในดวงตารุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนว่าราชินีหงส์อมตะกำลังจะธาตุไฟเข้าแทรกแล้ว เหนี่ยวนำให้จิตวิญญาณสั่นไหว ถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้

แต่จุดนี้ ราชินีหงส์อมตะเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

นางเพียงแค่คิดในใจว่า ข้าทำเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ไม่ใช่เพราะเจ้าหนูนี่มีใบหน้าหล่อเหลาเด็ดขาด

ไม่ใช่เด็ดขาด!

……

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นก็ตัวแข็งทื่อ

อะไรนะ

นางหมายความว่าอย่างไรกัน

อะไรคือเป็นลาภปากกับข้า

ข้าต้องทำอะไร

แต่ไม่นานเสิ่นเทียนก็เข้าใจ ราชินีหงส์อมตะได้ใช้รูปแบบดวงจิตส่งวิชาลับคู่ประสานในคัมภีร์เทพหงส์มาให้แล้ว

นี่ทำให้เสิ่นเทียนตัวสั่นสะท้าน

บ้าจริง หญิงแก่นี่กระหายในตัวข้า!

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก นี่มันน่าสะเทือนจิตใจเกินไปแล้วกระมัง!

ข้าบริสุทธิ์มาตลอด จนถึงตอนนี้ยังมีกายแห่งหยางบริสุทธิ์นะ!

คิดจะทำให้กายเนื้อข้าด่างพร้อยรึ

ไม่มีทาง!

ข้ายอมตายเสียดีกว่ายอมก้มหัว!

เสิ่นเทียนเอ่ยขึ้น “พี่สาวราชินีหงส์ ข้าเพิ่งเคยเป็นครั้งแรก”

ก็ได้ หลังจากสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังน่ากลัวที่แผ่มาจากราชินีหงส์อมตะแล้ว

เสิ่นเทียนก็กลัวขึ้นมานิดๆ

ภาษิตว่าบุรุษงอได้ยืดได้ ยาวได้สั้นได้ หยาบได้ละเอียดได้ อ่อนได้แข็งได้!

นี่ไม่ใช่เพราะข้ากลัวตายหรอก!

ไม่ใช่เด็ดขาด!

ราชินีหงส์อมตะชำเลืองตามองเสิ่นเทียนทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะ “ครั้งแรกแล้วอย่างไร ต้องให้รางวัลเจ้ารึ อีกอย่าง ข้าก็เพิ่งเคยเป็นครั้งแรกเหมือนกัน เจ้าไม่ได้เสียเปรียบ”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ราชินีหงส์อมตะก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย

นางโบกมืองาม ดูดเสิ่นเทียนมาไว้ข้างกาย เพลิงเทพร้อนแรงพลันพุ่งขึ้นฟ้า สร้างเป็นลานฝึกบำเพ็ญเปลวไฟลุกโชติช่วง

เวลานี้ ทิวทัศน์ใบไม้ผลิไร้พรมแดนถูกเปลวไฟลุกโชตช่วงปกคลุม

เหลือเพียงเสียงน่าหลงใหลที่เหมือนมีและเหมือนไม่มีดังกึกก้องในห้วงมิติ

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด