บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 444 พี่ใหญ่พึ่งพาได้กว่าท่านบรรพบุรุษอีก!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 444 พี่ใหญ่พึ่งพาได้กว่าท่านบรรพบุรุษอีก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 444 พี่ใหญ่พึ่งพาได้กว่าท่านบรรพบุรุษอีก!

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนตาเฉียบคมเช่นนี้ มองเป้าหมายเล็กๆ ในใจเขาออก

เขาเกาศีรษะอย่างเขินอาย ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่มีเกียรติอะไร!

ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ กลับคิดจะหลอกรุ่นเยาว์หรือ

พูดออกไปได้ขายหน้าลิงหมดแน่!

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ยิ้มแหยๆ “ข้าล้อเจ้าเล่นน่ะ! ของพวกนี้ย่อมเทียบกับท้อเซียนอมตะไม่ได้! ข้าจะเพิ่มอาวุธเตรียมจักรพรรดิให้อีกสองชิ้น กระบองเทพนภากับเกราะเทพสัประยุทธ์ ทีนี้คงพอแล้วกระมัง!”

เขารู้ว่าหลอกเสิ่นเทียนไม่ได้ เลยได้แต่นำสมบัติมาแลก

ท้อเซียนอมตะมีระดับเหนือกว่ากล้วยหอมอมตะ

อีกทั้งในยุคของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ ท้อเซียนอมตะไม่ปรากฏมาในห้าดินแดน

ดังนั้นจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ตามหามาหมื่นปีก็ยังไม่เคยพบท้อสักลูก

ส่วนกล้วยหอมอมตะ จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เคยกินไปแล้วหลายครั้ง

แต่ท้อเซียนอมตะ ยังไม่เคยลิ้มลองแม้แต่ขนท้อ

สิ่งที่ไม่ได้มาจะกวนใจตลอดไป!

จู่ๆ ท้อเซียนที่ตามหามาหลายหมื่นปีปรากฏขึ้น เขาจะไม่สนใจได้หรือ

แม้ไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนได้ท้อเซียนอมตะมาได้อย่างไร!

แต่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็อดความคิดว่าต้องได้มาไว้ไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแลกมาให้ได้!

……

ฉีจ้านเห็นจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์จะใช้ของมากมายแลกกับท้อเซียนอมตะ!

เขาก็รู้สึกอิจฉาในใจอย่างยิ่ง จึงพูดด้วยใบหน้าขมขื่น “ท่านบรรพบุรุษ ของพวกนี้ให้ข้าไม่ใช่รึ เหตุใดถึงเอาไปแลกล่ะ ท่านเหลือไว้ให้ข้าหน่อยเถอะ!”

ฉีจ้านคับอกคับใจไปหมดแล้ว!

เมื่อครู่ท่านบรรพบุรุษยังพูดหนักแน่นว่าจะให้กล้วยกับข้า!

ปรากฏว่าพริบตาเดียวจะเอาไปแลกลูกท้อ และยังมีอาวุธเตรียมจักรพรรดิอีกสองชิ้น นี่ควรเป็นอาวุธของวานรอริยะสัประยุทธ์ไม่ใช่รึ

ท่านโยนออกไปข้างนอกตาไม่กะพริบเลย นี่จะดีจริงๆ หรือ

ช่วยเอ็นดูชนรุ่นหลังหน่อยไม่ได้รึ

….

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์หน้าแดงเล็กน้อย “แค่กๆ เจ้าหนู ถึงข้าจะไม่ให้อาวุธจักรพรรดิกับสมุนไพรจักรพรรดิเจ้าเลย แต่ก็เหลือทั้งโลกไว้ให้ ให้เจ้าไปฟันฝ่า

ฟ้าดินกว้างใหญ่ไร้พรมแดน ขอแค่เจ้าตั้งใจฝึกบำเพ็ญ ทำให้ตัวเองแกร่งขึ้น ก็จะได้สมบัติทุกอย่างมาไม่ใช่หรือ ทั้งห้าดินแดนนี้คือของขวัญที่ดีที่สุดที่ข้าให้เจ้า! ของอื่นเป็นของนอกกาย เป็นเมฆลอยสายลมเท่านั้น~”

ฉีจ้านงุนงง แต่พูดแขวะในใจอย่างบ้าคลั่ง

ท่านพูดได้ดีจริงๆ!

ข้าขอบคุณท่านจากใจจริง!

……

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย แอบหัวเราะในใจ

ดูท่าลิงแก่นี่คงยึดมั่นในลูกท้อมาก แต่เขานำสมบัติออกมาได้มากขนาดนี้ คงมีฐานะร่ำรวยมากเลย!

เหอะๆ เมื่อครู่ตาแก่นี่ยังคิดจะหลอกข้าอยู่เลย!

วันนี้จะไม่ยอมขาดทุน ทั้งยังจะแลกเอาท้อเซียนอมตะไปอีก

แม้จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์จะเพิ่มให้อีกสองเงื่อนไข เสิ่นเทียนก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ “ผู้อาวุโสจักรพรรดิอริยะ ข้ารู้ว่าท่านอยากแลกท้อเซียนอมตะจากใจจริง ตามหลัก แซ่เสิ่นควรจะช่วยลิงให้สมความปรารถนา!

แต่ลูกท้อนี้มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งให้มา ฝากฝังให้หลอมเป็นโอสถ! ขออภัยที่ผู้เยาว์แลกเปลี่ยนไม่ได้!”

เสิ่นเทียนถอนหายใจหนักๆ สื่อว่าไม่มีกำลังช่วยได้!

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็เก็บท้อเซียนอมตะกลับไป!

“อะไรนะ นี่ยังไม่แลกอีกรึ”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์กระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ

เจ้าให้ความหวังลิง แล้วก็ทำให้ลิงสิ้นหวังรึ

เขาไม่อยากพลาดอท้อดีลูกนี้ไปแล้ว!

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์รีบพูด “ก็แค่วัตถุดิบหลอมโอสถไม่ใช่รึ ข้า ข้าจะให้เจ้า! ใช้อะไรหลอมก็เหมือนกัน กล้วยหอมอมตะสามลูกเป็นอย่างไร”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ไม่เสียดายอะไรแล้ว ขยายเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนอีก

กล้วยหอมอมตะเป็นสมุนไพรจักรพรรดิเช่นกัน แม้จะเทียบกับท้อเซียนอมตะไม่ได้ แต่ก็ล้ำค่าอย่างยิ่ง

หากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เป็นมหาจักรพรรดิสุดยอดเมื่อแสนแปดหมื่นปีก่อน และยังมีสมบัติเก็บไว้บ้าง เขาก็คงทำใจนำออกมาไม่ได้

แต่เสิ่นเทียนก็ยังถอนหายใจ “แต่ผู้อาวุโสท่านนั้นเน้นย้ำว่าต้องท้อเซียนอมตะ…”

“หกลูก!”

“ผู้อาวุโส ท่านทำเช่นนี้ข้าลำบากใจจริงๆ!”

“เก้าลูก!”

“ผู้อาวุโส มันจะได้อย่างไรกัน!”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ขาดตัวกล้วยหอมอมตะสิบผล แลกหรือไม่แลก เยอะกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว!”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ร้องด้วยความร้อนใจ เขาไม่เชื่อว่าแบบนี้เสิ่นเทียนจะยังไม่สนใจอีก

แต่จากนั้นเขาเหมือนนึกอะไรได้ ใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เจ้าเด็กนี่ เหมือนจะโดนเจ้าเด็กนี่หลอกแล้ว!

เอาสมุนไพรจักรพรรดิออกมาแลกท้อผลเดียวมากขนาดนี้ ดีจริงๆ หรือ

จนถึงตอนนี้ จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ถึงพบว่าครั้งนี้ขาดทุนเลือดสาดเลย!

แต่เขายังไม่ทันเปลี่ยนคำ เสิ่นเทียนก็เผยรอยยิ้ม “ตกลง!”

เสิ่นเทียนจะไม่รู้จักการเห็นของดีให้เก็บได้อย่างไร

กล้วยอมตะสิบผล นี่คือขีดจำกัดที่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์รับได้แล้ว ขืนเล่นต่อไปเกรงว่าคงไม่ได้อะไรเลย!

ตอนนี้เองจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ถึงตั้งสติกลับมาได้ เขาส่ายหน้าพลางยิ้มแห้งๆ “เจ้าเด็กนี่ มีของอยู่จริงๆ! ข้าให้ของพวกนี้กับเจ้าได้ แต่มีเงื่อนไข!”

เสิ่นเทียนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสมีเงื่อนไขใด”

เขาไม่กลัวว่าจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์จะกลับคำ

ถึงอย่างไรก็เป็นผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิ ทั้งยังรักเกียรติมาก!

“ท้อเซียนอมตะนี่เอาไว้กับเจ้าก่อน! รอเจ้าลอยขึ้นโลกเซียนเมื่อไรค่อยมาที่นครเทียมฟ้า จวนกุหลาบม่วง เอาท้อเซียนให้ข้า”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์พูดด้วยความจนปัญญา เขาย่อมอยากกินท้อเซียนอยู่แล้ว

แต่ก็ทำไม่ได้!

กายแห่งดวงจิตกินได้ แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรมาก อาหารเลิศรสเช่นนี้ ย่อมต้องสัมผัสด้วยตนเอง!

ถึงอย่างไรก็รอมาเป็นหมื่นปีแล้ว รออีกหน่อยจะเป็นอะไรไป

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ตบหน้าอกรับปาก “ผู้อาวุโสวางใจเถอะ ผู้เยาว์จะส่งท้อเซียนอมตะไปถึงนครเทียมฟ้าอย่างปลอดภัยแน่นอน!”

ท้อเซียนอมตะแลกได้สมบัติมากมายขนาดนี้ เรียกได้ว่ากำไรเลือดสาด

อีกทั้งคำขอของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็ง่ายมาก ไม่มีความยากอะไรเลย

เสิ่นเทียนย่อมตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นควักกล้วยหอมอมตะสิบลูกออกมาอย่างปวดใจ!

เมื่อของพวกนี้ปรากฏ ฟ้าดินพลันเกิดพลังวิญญาณมหาศาล แสงทองปกคลุม พลังชีวิตเข้มข้นถึงที่สุด

แค่กล้วยหอมอมตะพวกนี้ มูลค่าจริงเหนือกว่าท้อเซียนอมตะไปไกลมาก เพียงแต่ของหายากจึงล้ำค่า โดยเฉพาะจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์มีความยึดมั่นอยู่!

อยากจะได้ท้อเซียนอมตะที่เฝ้าใฝ่ฝันย่อมต้องจ่ายมาก

“เจ้าหนู เอาไปเถอะ!”

ต่อให้เป็นจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ การนำของมากขนาดนี้ออกมาในทีเดียวก็ยังปวดใจจนมุมปากกระตุก

แต่จากนั้นเขาก็พูดปลอบใจตนเอง ไม่เป็นไรๆ!

ของเก่าไม่ไป ของใหม่ไม่มา!

ขอแค่มีลูกท้อก็พอ!

“ขอบคุณผู้อาวุโสจักรพรรดิอริยะมาก!”

เสิ่นเทียนย่อมเก็บของพวกนี้ไปอย่างไม่เกรงใจเลย

แม้กล้วยหอมอมตะจะเทียบกับท้อเซียนอมตะกับบัวครามระดับสิบสองไม่ได้

แต่ก็เป็นสมุนไพรจักรพรรดิเช่นกัน สรรพคุณยาเหนือกว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์

อีกทั้งยังมีจำนวนมาก มากพอจะเติมเต็มข้อด้อยในด้านคุณภาพ

กล้วยหอมอมตะสิบผลเหนือกว่ามูลค่าของท้อเซียนอมตะไปไกลมาก

ครั้งนี้กำไรเลือดสาด!

เมื่อเห็นบรรพบุรุษนำสมบัติออกมามากขนาดนี้ ฉีจ้านถึงกับตาค้าง

ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น เหมือนกับกินมะนาวหมื่นปี

พอเห็นดังนั้น จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เหมือนจะทนดูไม่ได้ เขาถอนหายใจก่อนจะโยนกล้วยอมตะให้ฉีจ้านลูกหนึ่ง

“เจ้าเด็กนี่ กินประหยัดๆ หน่อย ข้าก็ไม่มีเหลือแล้วเหมือนกัน”

ถึงอย่างไรก็เป็นชนรุ่นหลังของตน อีกทั้งสายเลือดวานรอริยะยังเหลือเพียงพวกเขาสองลิง

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ย่อมต้องเอ็นดูฉีจ้านสักหน่อย

ฉีจ้านทำหน้าดีใจใหญ่ รีบขอบคุณ “ขอบคุณท่านบรรพบุรุษมาก!”

ท่านบรรพบุรุษยังเอ็นดูตนอยู่จริงๆ!

แม้จะเทียบไม่ได้กับที่เขาเอาออกมาแลกท้อเซียนกินก็เถอะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี เพราะอย่างไรก็เป็นสมุนไพรจักรพรรดิเหมือนกัน!

……

จากนั้นจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ควักของอีกสองชิ้นมาโยนให้เสิ่นเทียน!

ทันทีที่ของสองชิ้นปรากฏ พลันเกิดแสงสว่างจ้าส่องสะท้อนฟ้าดิน มาพร้อมกับพลังมหาศาล!

ของสองชิ้นนี้ก็คืออาวุธเตรียมจักรพรรดิกระบองเทพนภากับเกราะเทพสัประยุทธ์!

กระบองเทพนภาเป็นกระบองยาวสีแดงอมทอง สีสันหลากสี เปล่งแสงเทพสว่างพร่างพราว!

บนตัวกระบองแกะสลักลายเทพกฎเกณฑ์ ภายในแฝงไว้ด้วยอำนาจเทพสูงสุด เป็นอาวุธโจมตีสูงสุด!

กระบองเทพนภาปรากฏมา กฎเกณฑ์มากมายถาโถมตกลงมา ทันใดนั้นห้วงอากาศสั่นไหว มิติบิดเบี้ยว เหมือนจะกระแทกท้องนภาแตกได้!

เกราะเทพสัประยุทธ์อีกชิ้นก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง

บนเกราะเทพเต็มไปด้วยลายเทพสีทองและแดง แสงสว่างตัดสลับกัน วนเวียนหนาทึบ แผ่พลังยิ่งใหญ่

จิตต่อสู้เฉียบคมปะทุมาจากเกราะเทพสัประยุทธ์ สามารถเพิ่มจิตต่อสู้ของผู้ใช้ได้ เป็นอาวุธป้องกันสูงสุด!

เสิ่นเทียนถืออาวุธเตรียมจักรพรรดิสองชิ้นพลางดีใจอยู่ข้างใน

สมกับเป็นสมบัติของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ นี่คงอยู่สุดยอดในระดับอาวุธเตรียมจักรพรรดิแล้ว

โดยเฉพาะกระบองเทพนภา อานุภาพเป็นรองเพียงอาวุธจักรพรรดิเตาหลอมเทพสุริยะ!

พวกนี้ คือของดีทั้งหมด!

แม้ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนจะบอกว่าไม่เอา แต่ร่างกายกลับซื่อตรงมาก

แต่เสิ่นเทียนเหมือนนึกอะไรได้ จึงนำกล้วยหอมอมตะห้าลูกกับกระบองเทพนภาและเกราะเทพสัประยุทธ์ออกมาให้ฉีจ้าน

“สหายฉี ของพวกนี้ให้เจ้า! กระบองเทพนภากับเกราะเทพสัประยุทธ์เหมาะกับวานรอริยะสัประยุทธ์มาก ยกระดับกำลังรบได้!”

ฉีจ้านได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปเลย!

เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะใจกว้างขนาดนี้ แม้แต่อาวุธเตรียมจักรพรรดิยังให้ได้

นี่ไม่ใช่ผักกาดขาวข้างถนน แต่เป็นสมุนไพรจักรพรรดิกับอาวุธเตรียมจักรพรรดินะ!

เอาไปไว้โลกภายนอกก็มากพอจะก่อพายุฝนโลหิต ทำให้มหาอริยะบ้าคลั่ง!

ของพวกนี้ล้ำค่ามากจริงๆ แต่เสิ่นเทียนกลับมอบให้เขาโดยไม่กะพริบตาเลย

ฉีจ้านซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

พี่ใหญ่ดีกับข้าจริงๆ!

มีพี่ใหญ่เช่นนี้ ชีวิตลิงไม่มีอะไรให้เสียใจแล้ว!

ฉีจ้านมองของที่เสิ่นเทียนส่งมาด้วยดวงตาร้อนแรงมาก ทั้งยังใจสั่นไหวอย่างยิ่ง!

ไม่ว่าใครเจอของล้ำค่าเช่นนี้ ก็ไม่มีทางปฏิเสธได้!

ถึงอย่างไร เสิ่นเทียนก็ให้เยอะมากจริงๆ!

แต่สุดท้าย ฉีจ้านก็ยังกดความปรารถนาในใจลง

เมื่ออยู่ต่อหน้าสมบัติกับคุณธรรม เขาเลือกคุณธรรม

ฉีจ้านส่ายหน้า ก่อนพูดด้วยความซึ้งใจ “ขอบคุณพี่ใหญ่มาก แต่ข้ารับไว้ไม่ได้! นี่คือโชคลิขิตของพี่ใหญ่ จะให้ข้าได้อย่างไร”

เสิ่นเทียนผงะไปเล็กน้อย เขาไม่นึกเลยว่าฉีจ้านจะปฏิเสธ

แต่ก็ยังพูดโน้มน้าวต่อ “เกราะนักรบทองของเจ้าก่อนหน้านี้โดนเจ้าอริยะเสียหั่วทำลายไปในเมืองทะเลบูรพาแล้วไม่ใช่รึ ได้เกราะเทพสัประยุทธ์มาแทนพอดี กลบข้อด้อยเสีย! เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน ไฉนต้องมาพูดเรื่องนี่ของเจ้านี่ของข้า”

เสิ่นเทียนทำเช่นนี้ย่อมมีความคิดของเขา

นี่เป็นโชคลิขิตของฉีจ้าน แต่เพราะเสิ่นเทียนปรากฏ ทำให้โชคลิขิตไปตกในมือเขา

หากเสิ่นเทียนรับไว้ แม้จะไม่ทำให้ฉีจ้านเป็นผีซวย!

แต่แบบนั้น ดวงชะตาเขาก็จะไม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน!

ดวงชะตาเทียบกับอาวุธเตรียมจักรพรรดิแล้ว เสิ่นเทียนย่อมเลือกดวงชะตา!

เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ขาดแคลนอาวุธเตรียมจักรพรรดิอะไรนี่

ต่อให้มีเพิ่มมาอีกสองชิ้นก็แค่ประดับดอกไม้บนม่านเท่านั้น!

แต่ดวงชะตาไม่เหมือนกัน นี่เป็นของดี!

สองสิ่งเทียบกัน เสิ่นเทียนย่อมเลือกได้อย่างเด็ดขาด!

…..

ฉีจ้านซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง กระทั่งกระบอกตาร้อนขึ้นมานิดๆ!

แต่เขาก็ยังส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ไม่ได้ๆ ถ้าเช่นนั้น พี่ใหญ่จะเสียเปรียบมากเกินไป! ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย จะไปรับสมบัติมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร”

ของพวกนี้ เสิ่นเทียนใช้ท้อเซียนอมตะแลกมา แต่กลับให้เขาไปมากกว่าครึ่ง นั่นเท่ากับเสิ่นเทียนไม่ใช่แค่ได้กำไร แต่ยังขาดทุนอีก แบบนี้จะได้อย่างไรกัน

เสิ่นเทียนทำหน้าจนปัญญา เหตุใดเจ้าลิงนี่ถึงพูดไม่รู้เรื่องนะ

“เจ้ารับไว้เถอะ!”

“ไม่ได้ โชคลิขิตของพี่ใหญ่จะแบ่งให้ข้ามากขนาดนี้ได้อย่างไร”

“รับไว้เถอะ!”

“พี่ใหญ่ดีกับข้ามากเกินไป ข้ารับไว้ไม่ได้!”

…..

สองคนบอกปัดกันอยู่อย่างนั้น จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เห็นแล้วถึงกับมุมปากกระตุก

เจ้าเด็กสองคนนี่ทำอะไรกัน

ของที่ข้าเอามามีพิษรึ เหตุใดถึงแย่งกันไม่เอา พวกเจ้าไม่เอาก็คืนมาให้ข้าสิ!

ข้ายิ่งมีน้อยๆ อยู่!

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์มุมปากกระตุก แม้เขาจะอยู่มานานหลายปี ก็ยังไม่เคยเจอเรื่องอัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน!

ไม่แย่งสมบัติยังไม่เท่าไร นี่ยังผลักกันไปมาอีก

นี่เป็นเด็กอัศจรรย์อะไรกัน

…..

ตอนนี้เอง ในที่สุดฉีจ้านก็ทนการหลอกล่อของเสิ่นเทียนไม่ไหว ถอนหายใจออกมา

“พี่ใหญ่เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้ารับเกราะเทพสัประยุทธ์ไว้ได้ แต่ถือว่าข้ายืม! รอจากนี้ข้ามีอาวุธเตรียมจักรพรรดิใหม่ จะคืนมันให้ท่านแน่นอน อีกทั้งข้าจะรับเพียงเกราะเทพสัประยุทธ์ ของอื่นๆ ท่านต้องเอาคืนไป ไม่เช่นนั้น ข้าจะไม่รับไว้แม้แต่เกราะเทพสัประยุทธ์!”

ฉีจ้านพูดอย่างแน่วแน่ว่าจะรับเพียงเกราะเทพสัประยุทธ์!

“เอากล้วยไปอีกสองสามลูกสิ เจ้าชอบกินกล้วยที่สุดไม่ใช่รึ”

แต่เสิ่นเทียนก็ยังอยากจะให้กล้วยหอมอมตะกับฉีจ้านอีกสองสามลูก!

“พี่ใหญ่ไม่ต้องแล้ว หากข้าต้องการก็ค่อยไปหาท่านบรรพบุรุษ!”

ฉีจ้านส่ายหน้า ของพวกนี้มีประโยชน์กับเขามากจริงๆ!

แต่เขาก็ไม่อยากให้เสิ่นเทียนเสียเปรียบ ดังนั้นจึงเลือกหนึ่งอย่าง และยังถือว่ายืมใช้

แม้จะเป็นเช่นนั้น ฉีจ้านก็ยังซาบซึ้งใจในเสิ่นเทียนมาก จะมีใครบ้างยอมสละสมบัติเช่นนี้ให้คนอื่น

พอได้ยินคำพูดของฉีจ้าน จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็ทำหน้างุนงง

เจ้าลิงกังนี่ รู้จักแต่จะเอาเปรียบข้า!

อะไรคือถ้าอยากได้จะมาเอาที่ข้าอีก คิดว่าบ้านข้ามีเหมืองจริงๆ รึ

เจ้าลูกหลานล้างผลาญ!

พอเห็นฉีจ้านรับเกราะเทพสัประยุทธ์ ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ไม่ดึงดันอีก

แต่ในใจเขายังอดถอนหายใจมิได้

สังคมสมัยนี้เป็นอะไรกัน

ให้สมบัติเปล่าๆ ยังไม่เอา และยังต้องพูดมากขนาดนี้อีก!

เฮ้อ ข้าลำบากจริงๆ เลย!

…..

ตอนนี้เอง ฉีจ้านรอไม่ไหวสวมเกราะเทพสัประยุทธ์

รอบตัวเขาพลันถูกปกคลุมด้วยแสงเทพสีสันหลากสี แม้แต่พลังยังพุ่งพรวดขึ้น หลั่งทะลักไป

ภายใต้การเสริมด้วยเกราะเทพสัประยุทธ์ แม้แต่จิตต่อสู้ของสายเลือดวานรอริยะยังยิ่งใหญ่ขึ้นไม่อาจคาดเดา แกร่งขึ้นเรื่อยๆ!

ฉีจ้านเปล่งแสงเทพทั้งตัว เหมือนกับจักรพรรดิสงครามที่สุดแห่งยุค จิตต่อสู้ชี้ฟ้า!

เมื่อสัมผัสได้ว่าศักยภาพตนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ฉีจ้านก็ถอนหายใจอยู่ข้างใน ‘ตามพี่ใหญ่นี่ดีจริงๆ เลย! ไม่ใช่แค่อิ่มหนำสำราญ ยังได้อาวุธเตรียมจักรพรรดิอีก!

พี่ใหญ่สุดยอด พึ่งพาได้กว่าท่านบรรพบุรุษอีก! ถึงอย่างไรท่านบรรพบุรุษก็ไม่รู้จักมอบสมบัติให้ข้า รู้จักแต่แลกท้อกิน!’

……

เสิ่นเทียนเห็นภาพนี้ในสายตา

เพียงแต่ว่าเขามองไปที่ศีรษะของฉีจ้านตลอด

ตอนนี้เอง ในที่สุดเสิ่นเทียนก็เห็นภาพที่อยากเห็น!

วงรัศมีสีม่วงเรืองรองเหนือศีรษะฉีจ้านเปล่งแสงม่วงสว่างขึ้นกว่าเดิม!

แสงสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ แสงเทพวนเวียน งดงามเด่นตา!

ภายใต้การผลักดันของแสงม่วงนี้ สีวงรัศมีดวงชะตาลึกล้ำขึ้น สุดท้ายผลัดเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม!

เมื่อได้โชคลิขิตเดิมแล้ว ดวงชะตาฉีจ้านย่อมเพิ่มขึ้น!

ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านในกายเสิ่นเทียนเช่นกัน ทำให้เขามีความสุขจนลอยขึ้น!

ความรู้สึกนั้นมีความสุขมาก แม้แต่จิตใจยังกระเพื่อม ลอยล่องจะเป็นเซียน!

เสิ่นเทียนรีบหยิบกระจกออกมาส่องวงรัศมีดวงชะตาของเขา มันกลับมาเป็นสีทองเข้มอีกครั้งแล้ว!

อีกทั้งยังไม่ใช่แค่นั้น!

ในวงรัศมีสีทองเข้มยังเกิดแสงสีม่วงวนเวียนลับๆ!

แม้จะมีเพียงนิดเดียว แต่ก็ทำให้เขาตื่นเต้นมาก!

ได้เกาะโชคลิขิตหลายครั้ง ข้าได้กลายเป็นบุตรแห่งโชคที่มีวงรัศมีดวงชะตาสีม่วงแล้ว!

สมกับเป็นข้า!

ข้านี่ฉลาดจริงๆ เลย!

…..

เมื่อเห็นสองคนกลมเกลียวกัน จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เผยแววตาชื่นชมเสี้ยวหนึ่ง

สายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์หยิ่งผยองมาตลอด ใช้การต่อสู้เป็นมรรค ไม่ยอมสยบต่อฟ้าดิน!

แม้สายเลือดนี้จะแกร่งมาก แต่ก็ไม่มีสหาย

ถึงอย่างไรมีใครอยากเป็นสหายกับลิงหยิ่งผยองบ้าง

มิหนำซ้ำเผ่าวานรอริยะสัประยุทธ์ยังไม่แยแสจะผูกมิตรกับเผ่าอื่น!

นี่ทำให้สายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์สู้เพียงลำพังมาตลอด!

พอเห็นความสัมพันธ์ของฉีจ้านกับเสิ่นเทียนดีขนาดนี้แล้ว จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ปลงอนิจจังในใจอย่างยิ่ง และเขายังได้เริ่มเปลี่ยนมุมมองต่อเสิ่นเทียนไปทีละนิด

เจ้าหนูนี่ไม่ใช่แค่พาฉีจ้านผู้สืบทอดสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์มาที่นี่ แต่ยังนำท้อเซียนอมตะที่เข้าเฝ้าใฝ่ฝันมาตลอดมาด้วย!

ดูท่าเจ้าหนูนี่คงจะมีวาสนากับสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ข้า!

“เอาล่ะ ต่อไปข้าจะถ่ายทอดสุดยอดวิชาของเผ่าข้าให้กับพวกเจ้า…คัมภีร์จักรพรรดิสัประยุทธ์! คัมภีร์จักรพรรดินี้ต้องใช้จิตต่อสู้ปลุก ยิ่งจิตต่อสู้แกร่งมากเท่าไร ก็ยิ่งปลุกพลังออกมาได้แกร่งมากเท่านั้น จะตระหนักได้เท่าไรก็ต้องดูที่ความสามารถของพวกเจ้า!”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง เขาจะถ่ายทอดคัมภีร์จักรพรรดิสัประยุทธ์ให้ทั้งสองคน ดูว่าพวกเขามีพรสวรรค์เพียงใดกันแน่!

ต้องรู้ว่าคัมภีร์จักรพรรดิสัประยุทธ์ไม่ใช่วิชาจักรพรรดิธรรมดา ต้องมีพรสวรรค์สูงสุดถึงจะตระหนักรู้ได้!

แต่จ่ายไปกับได้กลับคืนมาเท่ากัน หากตระหนักวิชาจักรพรรดินี้สำเร็จ จะเพิ่มกำลังรบขึ้นอย่างมหาศาล!

“ท่านบรรพบุรุษวางใจ ข้าจะตั้งใจฝึกฝนแน่นอน!”

ฉีจ้านได้ยินดังนั้นย่อมตื่นเต้น

เขาเป็นวานรอริยะสัประยุทธ์ ได้ยินความแกร่งของวิชาจักรพรรดิสัประยุทธ์มานานแล้ว ภายในใจอดรนทนไม่ไหวอยากจะฝึกแล้ว

วันนี้ได้จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ถ่ายทอดด้วยตนเอง ทำให้เขาตื่นเต้นมาก!

เสิ่นเทียนยกมุมปากขึ้น เขาเองก็แปลกใจกับวิชาจักรพรรดิสัประยุทธ์มากเช่นกัน

เป็นวิชาจักรพรรดิมรดกของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ ย่อมจะดูถูกอานุภาพไม่ได้!

ไม่รู้ว่าเขาจะตระหนักถึงแก่นแท้ของวิชาจักรพรรดินี้หรือไม่!

เพราะอย่างไรวิชาจักรพรรดิสัประยุทธ์ก็ต้องมีสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ถึงจะสำแดงได้ถึงขีดสุด

แต่เสิ่นเทียนมีกายมรรคสวรรค์ประทาน เข้าใกล้กับหมื่นกฎเกณฑ์ฟ้าดิน บางทีอาจจะก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ไปได้

ทุกอย่าง มีเพียงต้องฝึกฝนเท่านั้นถึงจะรู้

“ดีมาก พวกเจ้าใช้ใจสัมผัสเถอะ!”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์พยักหน้า ก่อนโบกมือใหญ่ พลันมีแสงสีทองสว่างจ้าสองสายพุ่งเข้าไปในสมองสองคน

ทันใดนั้น ข้อมูลที่ซับซ้อนเข้าใจยากยิ่งได้ผุดขึ้นในความคิดสองคน ทำให้สองคนจิตใจสั่นสะท้าน

สองคนเข้าสู่ความเงียบอย่างรวดเร็ว เริ่มตระหนักความหมายลึกลับ

……

เมื่อเห็นสองคนเข้าสู่สภาพบำเพ็ญ จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ดวงตาเป็นประกายวาววับ

ไม่รู้ว่าเจ้าหนูสองคนนี้จะตระหนักได้เท่าไรกัน!

แต่มีข้าชี้แนะ ก็คงไม่แย่เท่าไรหรอก

เหอะๆ~

ในที่สุดมรดกสายเลือดข้าก็จะปรากฏขึ้นในโลกมนุษย์อีกครั้งแล้ว!

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด