บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 431-2 เสิ่นเทียนปะทะสือเทียนจื่อ (2)

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 431-2 เสิ่นเทียนปะทะสือเทียนจื่อ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 431 เสิ่นเทียนปะทะสือเทียนจื่อ (2)

ทว่าเสิ่นเทียนก็พุ่งเข้าไปอีกครั้ง พลันปะทะกับสือเทียนจื่อ!

สือเทียนจื่อออกหมัดเทพอหังการ บนกำปั้นมีแสงเทพสว่างจ้าวนเวียน หมุนโคจรพลังแห่งการทำลายโลกและสร้างโลกไม่หยุด

ระหว่างที่เขาควงหมัด ทั้งท้องนภาสั่นไหวตาม พลังเลือดลมไม่มีสิ้นสุดเต็มผืนฟ้า เหมือนจะทำลายแม่น้ำภูเขา ทำลายดวงดารา!

เสิ่นเทียนดูคล่องแคล่วแข็งแรง เหยียบประกายสายฟ้าสีทอง

มือขวาเรียกค้อนนภาม่วงสะท้านฟ้า กระตุ้นสามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง ทุกค้อนเกิดสายลมเข้าปะทะกับสือเทียนจื่อ!

ค้อนใหญ่ในมือเสิ่นเทียนดูไม่ได้เหนือความคาดหมายแม้แต่น้อย แต่ภายใต้ความเร็วสูงสุดกลับดูโหดยิ่ง!

สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง…ค้อนทุบดาว!

สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง…ค้อนแยกตะวัน!

สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง…ค้อนงัดจันทร์!

…..

ทุกค้อนที่ทุบออกไปจะทำให้อากาศรอบๆ พังทลายลง กลายเป็นซากปรักหักพัง

ทุบไปทีละค้อน มีอานุภาพโหดขึ้นเรื่อยๆ!

พริบตาเดียว ห้วงอากาศแตกเป็นรอยร้าวนับไม่ถ้วน

รอยร้าวอากาศลุกลามไปในฟ้าดิน ละลานตาสะท้านใจคน ทำให้ทุกอย่างเข้าสู่เงามืด!

ตะวันจันทราถอดสี ฟ้าดินไร้แสงสว่าง เหมือนว่าฟ้าดินรับพลังนี้ไม่ไหว จะถูกฉีกขาดทั้งหมด!

สองคนล้วนเป็นโอรสสวรรค์ที่สุดของยุค กำลังรบที่ระเบิดออกมาทำให้ฟ้าดินกู่ร้อง พลังกลืนกินภูผานที ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำลายอากาศได้!

ทั้งท้องนภาถูกปกคลุมด้วยแสงเทพไร้พรมแดน ละลานตาแสบตาถึงที่สุด ทำให้คนลืมตาไม่ขึ้น

หากที่นี่ยังมีคนอื่น บางทีอาจจะถูกอำนาจเทพนี้บดทำลายเป็นเศษเนื้อหมอกโลหิต ไม่อาจต่อต้านได้เลย!

จักรพรรดิฮวงสือยืนตัวตรง อำนาจเทพมากมายพลันมอดดับลงรอบกายเขาทันที ราวกับว่าอยู่คนละโลก

แต่เมื่อเห็นภาพนี้ ดวงตาเขาเป็นประกายเสี้ยวหนึ่ง

คนรุ่นใหม่ควรค่าแก่การยกย่องนับถือ!

…..

ในห้วงอากาศมืดมิด สือเทียนจื่อมีความองอาจห้าวหาญเป็นหนึ่ง ไม่ปนเปื้อนธุลีดิน ไม่อาบคราบเลือด เหนือธรรมดา!

เขาควงหมัดเทพมาพร้อมกับพลังแห่งตะวันจันทราและธารดารา พลังอำนาจยิ่งใหญ่ไร้พรมแดน เหมือนดวงดาราบนฟ้าตกลงมา

พริบตาเดียวท้องนภาถูกทำลายเป็นรูใหญ่ เหนี่ยวนำกฎเกณฑ์มากมายตกลงมา ลำดับยังปั่นป่วนถึงที่สุด

เจตจำนงหมัดนี้ไร้พ่ายในโลก ทรงพลังไม่อาจต้านทาน สังหารศัตรูได้ทุกคน!

เสิ่นเทียนมีใบหน้าสงบนิ่ง ไม่ว่าเจ้าจะมาไม้ไหน ข้าทุบค้อนเดียวก็จัดการได้!

สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้างไม่ใช่วิชาลับของโลกนี้ มีอานุภาพน่ากลัวถึงที่สุด

ขณะควงค้อนยังมากพอจะทำลายฟ้าดิน บดห้วงอากาศแตกเป็นเสี่ยงๆ!

ตึง!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง!

ในที่สุดสือเทียนจื่อก็ถูกกระแทกถอยไปหลายสิบก้าว

เขาเหยียบอากาศ ทุกก้าวที่ลงจะเหยียบอากาศพังทลาย เห็นได้ชัดว่าอากาศตอนนี้รับน้ำหนักที่มันไม่ควรจะรับไว้แล้ว

เสิ่นเทียนก็ไม่ต่างกัน เพียงแค่ค้อนนภาม่วงสะท้านฟ้าถูกหมัดชกแตกระหว่างทุบสือเทียนจื่อ

หลักๆ เป็นเพราะสือเทียนจื่อใช้พลังของกระดูกจักรพรรดิ ทำให้กายเนื้อแข็งแกร่งยิ่งไม่ด้อยไปกว่าอาวุธอริยะ

ค้อนนภาม่วงสะท้านฟ้าเป็นเพียงอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดย่อมรับไว้ไม่ไหว

สือเทียนจื่อมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาตื่นตะลึง

เขาไม่คาดคิดเลยว่าก่อนหน้านี้ตนจะมองพลาดไป ไม่อยากเชื่อว่าเสิ่นเทียนจะแกร่งขนาดนี้ ในการปะทะกันครั้งนี้ เขาถูกเสิ่นเทียนกำราบอย่างอยู่หมัด

หากไม่ใช่เพราะค้อนแตกเกรงว่าคงเสียเปรียบหนักแน่

สือเทียนจื่อสูดลมหายใจเข้าลึก ให้ความสำคัญกับเสิ่นเทียนอย่างแท้จริงแล้ว

จิตต่อสู้เขาลุกโชตช่วงเหมือนเปลวไฟ ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง “เสิ่นเทียน เจ้าแกร่งมาก! ข้าดูถูกเจ้าไปจริงๆ แต่ศึกนี้เจ้าต้องแพ้แล้ว!”

สือเทียนจื่อเอ่ย ภายในกายก็ปล่อยพลังน่ากลัวยิ่งออกมา

แสงเทพลุกโชตช่วงเหมือนดวงตะวันส่องสะท้อนฟ้าดิน

เกิดปรากฏการณ์ยักษ์ลอยขึ้นมาข้างหลังเขา บดบังฟ้าบังดวงตะวัน สั่นสะเทือนและส่องแสงท้องนภา!

นั่นคือภาพลักษณ์การสร้างโลกจากดินน้ำลมไฟ พลังยิ่งใหญ่มหาศาล เหมือนจะสร้างฟ้าดินกำเนิดฟ้าขึ้น

สือเทียนจื่อมีกำลังรบเป็นหนึ่ง มีพลังบำเพ็ญถึงระดับหลอมรวมเทพตอนปลาย ทั้งยังฝึกศาสตร์หลอมปราณและหลอมกายพร้อมกัน

พลังบำเพ็ญศาสตร์หลอมกายของเขาถึงระดับผ่านเทวะ หลอมรวมเทพสามร้อยหกสิบห้าทวารใหญ่กับสามพันทวารเล็ก สร้างเป็นยอดพลังวิเศษไร้พ่าย แสงวิบัติสร้างโลก

ตอนแรกเขาก็อาศัยพลังวิเศษนี้ข้ามขั้นไปสังหารอริยะแท้ลัทธิวิญญาณร้ายได้

เมื่อปรากฏยอดพลังวิเศษแสงวิบัติสร้างโลก จะเหมือนทำให้ฟ้าดินกลับตาลปัตร อานุภาพเทพเจ้าไม่มีสิ้นสุดพุ่งขึ้นฟ้า!

เวลานี้ท้องนภาถูกแสงเทพปั่นป่วน กลุ่มเมฆสิบทิศถูกสะเทือนแตกกระจาย เหมือนวัฏจักรย้อนกลับ สร้างฟ้าดินขึ้น

พลังของสือเทียนจื่อเปลี่ยนเป็นน่าสะพรึงอย่างยิ่ง ในดวงตาซ้อนทับกันขยับประกายดึงดูดวิญญาณ แสงเทพกระดูกจักรพรรดิในกายสว่างถึงที่สุด!

ตอนนี้ เขาเหมือนกับเทพเจ้าผู้ปกครองฟ้าดินจะมาลงทัณฑ์สวรรค์!

“เสิ่นเทียน นี่คือการโจมตีที่แกร่งที่สุดของข้า! หากเจ้าต้านไว้ได้ก็ถือว่าข้าแพ้!”

จนถึงตอนนี้ ในใจสือเทียนจื่อยอมรับในศักยภาพของเสิ่นเทียนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้!

เขาเป็นผู้สูงส่งสูงสุดหนุ่ม มีกระดูกโอหังทั้งตัว ตั้งแต่เกิดมาก็ไร้พ่ายต่อโลก สั่นสะเทือนแปดทิศ!

จะไปยอมแพ้คนอื่นได้อย่างไร

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะตัดสินสูงต่ำกับเสิ่นเทียน!

ตำแหน่งโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในแปดทิศห้าดินแดนมีได้เพียงคนเดียว!

นั่นก็คือเขา…สือเทียนจื่อ!

……

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะพูดขึ้น “มาเถอะ!”

สือเทียนจื่อมีกำลังรบไม่ธรรมดา นี่คือโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา

ภายใต้การเสริมของพลังวิเศษสร้างโลก กำลังรบของสือเทียนจื่อเทียบเท่ากับอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์แล้ว

เสิ่นเทียนรู้สึกถึงแรงกดดันจากสือเทียนจื่อว่าหนักอึ้งเพียงใด มันเหมือนกับดาราและดวงตะวันตกลงมา!

“แสงวิบัติสร้างโลก!”

สือเทียนจื่อคำรามเสียงดัง กลิ่นอายพลังในกายสั่นกระเพื่อมถึงที่สุด

ดวงตาซ้อนทับกันพลันเปล่งแสงเทพสว่างพร่างพราว อักขระมากมายถาโถมออกมา สร้างเป็นพลังเทพเจ้าที่น่าสะพรึงอย่างยิ่ง!

ขณะเดียวกัน กระดูกจักรพรรดิในกายมีแสงสีสันหลากสีวนเวียน กลายเป็นลายจักรพรรดิสีทองพันรอบกาย กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ถึงที่สุด!

ดวงตาซ้อนทับกันลี้ลับมาตลอด แฝงไว้ด้วยอานุภาพเทพ ผู้มีดวงตาซ้อนทับกันทุกรุ่นล้วนเป็นบุคคลสุดยอดมาแต่โบราณจนถึงตอนนี้แล้ว!

และสือเทียนจื่อไม่ได้มีเพียงดวงตาซ้อนทับกัน แต่ยังมีกระดูกจักรพรรดิ เรียกได้ว่าเป็นบุตรรักของมหามรรคฟ้าดิน!

สือเทียนจื่อที่รวมพลังระดับนี้ไว้เป็นหนึ่งเดียวมีพลังน่ากลัวจนถึงขั้นยากจะจินตนาการได้!

เขาออกมือแล้ว ในดวงตาสองดวงยิงแสงเทพสว่างพร่างพราว ละลานตาถึงที่สุด!

แสงเทพมีอานุภาพเอ่อล้นยากจะปัดป้องได้ ผ่านไปที่ใดหมื่นวิชามอดดับ เหมือนฟ้าดินลงทัณฑ์ ไม่อาจต้านทานได้!

ปรากฏการณ์สร้างโลกข้างหลังเหมือนท้องนภากดทับลงมา กำราบทุกสรรพสัตว์ฟ้าดินสูญสิ้น!

สื่อเทียนจื่อที่ออกมือสุดกำลังมีการโจมตีน่ากลัวที่สุด เกรงว่าแม้แต่อริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ก็ยังยากจะต้านไว้ได้ บางทีอาจจะนองเลือดพ่ายแพ้เลยก็ได้!

เสิ่นเทียนตัวสั่นเบาๆ สัมผัสได้ถึงพลังน่ากลัวถาโถมเข้ามาเหมือนจะบดเขาแหลกเป็นเสี่ยงๆ

แต่เขายังหน้าไม่เปลี่ยนสี มือขยับแสงสีม่วง กระบี่คู่ม่วงครามลอยขึ้นมา

เสิ่นเทียนคว้ากระบี่ยาวในมือไว้ ปิดตาสนิท กลิ่นอายพลังเขย่าจิตวิญญาณในกายพลันพุ่งขึ้น!

ชิ้ง!

กระบี่คู่ม่วงครามส่งเสียงชิ้ง สั่นสะเทือนสวรรค์เก้าชั้น!

แสงเทพสีสันหลากสีพุ่งออกมาจากกระบี่คู่ม่วงคราม สีสันสว่างจ้าละลานตา ทุกอย่างถอดสีลง

เจตจำนงกระบี่สะท้านฟ้าน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งปะทุขึ้นฟ้า พุ่งไปชั้นเมฆสวรรค์เก้าชั้น เหมือนจะทะลวงโลกนี้

เสิ่นเทียนขยับตัวช้าๆ กวัดแกว่งกระบี่คู่ในมือขึ้น

พลังกระบี่คล่องแคล่วว่องไว ดูเหมือนธรรมดาแต่กลับยิงแสงเทพสว่างจ้าออกไป

ภายใต้แสงกระบี่วนเวียน เสิ่นเทียนเหมือนกับเซียนกระบี่ที่สุดแห่งยุคระเบิดการโจมตีที่โหดเหี้ยมที่สุด!

ฉึก!

หนึ่งกระบี่ฟันออกไป แสงสว่างเย็นเยือกหลายหมื่นลี้!

ปราณกระบี่มหาศาลดั่งธารดารา ตกลงมาอย่างน่าเกรงขาม ลอบจู่โจมฟ้าดิน!

ทันใดนั้นห้วงอากาศพังทลายลง รอยแยกมิติมากมายกลืนกินไปทั้งมิติ แสงกระบี่ที่สุดแห่งยุคทำลายล้างไปเรื่อยๆ!

นี่ก็คือปราณกระบี่เซียนเหินฟ้า เหมือนจะตัดขาดยุคโบราณกับปัจจุบัน ตัดขาดฟ้าดิน!

บึ้ม!

พริบตาเดียว แสงวิบัติสร้างโลกที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งถูกแสงกระบี่สะท้านฟ้าฟันขาด

แม้แต่ปรากฏการณ์ยอดพลังวิเศษสร้างโลกข้างหลังสือเทียนจื่อยังถูกกระบี่ฟันแตกเป็นเสี่ยงๆ ระเบิดกระจายไปทั้งหมด

……

พรวด!

สือเทียนจื่อกระอักเลือด ร่างกระเด็นถอยไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง

ยอดพลังวิเศษถูกทำลาย ต่อให้เป็นสือเทียนจื่อก็ยังต้านพลังย้อนกลับไม่ได้ พ่ายแพ้ไปในพริบตา!

ชุดคลุมขาวเขาอาบเลือด กลิ่นอายพลังอ่อนแรง เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัสในระดับที่แน่นอน

แต่สือเทียนจื่อไม่สนใจอาการบาดเจ็บของเขา เขาจ้องเสิ่นเทียนด้วยความตกตะลึง

พลังที่เสิ่นเทียนสำแดงออกมาทำให้ในใจเขาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

โดยเฉพาะปราณกระบี่ที่สุดแห่งยุคนั้น กลิ่นอายพลังน่ากลัวถึงขั้นทำให้สือเทียนจื่อหวาดกลัวในใจ แม้แต่ยอดพลังวิเศษสร้างโลกของตนยังไม่อาจต่อต้านได้ นี่เรียกได้ว่ามีพลังอำนาจน่าสะพรึงที่สุด

มีเพียงประมือกับเสิ่นเทียนด้วยตนเองเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้ว่ากำลังรบเขาน่ากลัวเพียงใด!

กระบี่นี้คือที่สุดแล้วตั้งแต่โบราณกาลมา

นี่ไม่ใช่ทักษะกระบี่ของโลกมนุษย์ เพราะโลกมนุษย์ไม่มีทางมีทักษะกระบี่เช่นนี้ได้

จนถึงตอนนี้ ในความคิดสือเทียนจื่อยังมีท่วงท่าสง่างามไร้พ่ายของกระบี่นั้นที่เสิ่นเทียนสำแดงอยู่เลย!

กระบี่นั้นเหมือนเซียนกระบี่บนฟ้ามาเยือน ทำให้ทักษะกระบี่ทั้งหมดในโลกถอดสี

เหนือธรรมดาจริงๆ ไม่มีใครเทียบได้!

…….

“ข้าแพ้แล้ว!”

สือเทียนจื่ออดพึมพำกับตัวเองไม่ได้

เขานั่งลงกับพื้นด้วยแววตาสับสน สงสัยในชีวิตนิดๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแพ้ให้กับคนรุ่นเดียวกัน กระทั่งอีกฝ่ายยังเด็กกว่าเขา

อืม ตรงนี้พูดถึงอายุ

ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ สารภาพตามตรงมันกระทบกระเทือนจิตใจสือเทียนจื่อมาก ประกายคมในกายตอนแรกหุบเข้าไปลับๆ

แต่จักรพรรดิฮวงสือมองว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่อะไร เพราะแข็งเกินหักง่าย คนหนุ่มราบรื่นไปเสียหมดก็ไม่ใช่เรื่องดี

…..

อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนถอนหายใจโล่งอกเช่นกัน

กำลังรบของสือเทียนจื่อเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้มาก

ถึงขั้นต้องใช้ปราณกระบี่เซียนเหินฟ้าถึงจะพอเอาชนะสือเทียนจื่อได้ในกระบวนท่าเดียว

สมกับเป็นโอรสสวรรค์สูงสุดของดินแดนกลาง ศักยภาพน่าตกใจจริงๆ เกือบจะตกม้าตายแล้ว

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด