บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 437 หนึ่งเดือน!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 437 หนึ่งเดือน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 437 หนึ่งเดือน!

ตอนนี้ เสิ่นเทียนกำลังชงชาด้วยความสนอกสนใจ

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ครั้งแรก เขาชำนาญมานานแล้ว มีศิลปะชาลึกล้ำ

ในอ่างใหญ่ น้ำแร่วิญญาณไหลเข้าไปเหมือนธารน้ำยาว

หมอกขมุกขมัววนเวียนหนาทึบ ทำให้อากาศรอบๆ สดใหม่

น้ำแร่วิญญาณพวกนี้มีมูลค่าไม่ธรรมดา แต่เสิ่นเทียนกลับเทออกมาดังจ๊อกๆ เหมือนไม่ใช้เงินแล้ว

การกระทำเขาดูชำนาญ ไม่นานก็ต้มน้ำแร่วิญญาณจนเดือด

ควันขาวฟุ้งกระจาย ส่งกลิ่นหอมเป็นพิเศษ

แต่นี่ยังไม่จบแค่นี้เลย เสิ่นเทียนนำใบชาสีม่วงออกมาอีกสิบกว่าใบ

ใบชาสิบกว่าใบมีพลังวนเวียน สะท้อนเป็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ แผ่ท่วงทำนองมรรคเข้มข้น

พวกนี้คือชาตระหนักรู้ แฝงไว้ด้วยโชควาสนาไม่มีสิ้นสุด ทำให้คนใกล้ชิดกับกฎเกณฑ์มหามรรคและตระหนักความลี้ลับมหามรรค!

ครั้งนี้โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์กับอสูรมีจำนวนมาก เสิ่นเทียนใช้อ่างที่ใหญ่กว่าเมื่อก่อน ใบชาตระหนักรู้ก็มากกว่านิดหน่อย

เสิ่นเทียนใส่ชาตระหนักรู้สิบกว่าใบลงในอ่างใหญ่ ต้มกับน้ำแร่วิญญาณเดือดพล่าน!

ด้านบนมีปรากฏการณ์มากมายตัดสลับกัน เปล่งแสงเทพสว่างจ้า

มีปรากฏการณ์ดาบกระบี่หม้อสำริดและขวานไหลมารวมกันไม่ขาด แผ่เป็นอำนาจเทพเจ้ายิ่งใหญ่

และยังมีปรากฏการณ์เช่นกิเลน วิหคชาด มังกรเขียว พยัคฆ์ขาวและเต่าดำเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า โอ่อ่ายิ่งใหญ่

ปรากฏการณ์พวกนี้ล้วนกำเนิดจากท่วงทำนองมรรค แม้จะขาดหายไปบ้าง แต่ก็มีจำนวนมาก

ภายใต้การเสริมด้วยท่วงทำนองมรรคสิบกว่าชนิด ทำให้น้ำแร่วิญญาณอ่างนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง

น้ำแร่วิญญาณกลายเป็นสีเข้มอย่างยิ่ง กฎเกณฑ์ลายเทพวนเวียน กลิ่นอายมหามรรคลอยขึ้นมา

ท่วงทำนองวิญญาณกับท่วงทำนองมรรคเข้มข้นถึงที่สุด

กลิ่นอายพลังมหาศาลหมุนม้วนออกมา ทำให้คนจิตใจปลอดโปร่ง เหมือนทำให้ใกล้ชิดกับมหามรรคฟ้าดิน!

เมื่อเห็นภาพนี้ ผู้อาวุโสสองคนกลางห้วงมิติอึ้งยิ่งกว่าเดิม!

เสิ่นเทียนใช้อ่างใหญ่มาต้มชาตระหนักรู้ก็ทำให้พวกเขาตกใจมากแล้ว

แต่ตอนนี้พวกเขากลับตกตะลึงกับคุณภาพชาตระหนักรู้ที่เสิ่นเทียนนำออกมายิ่งกว่า!

สองผู้อาวุโสรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของชาตระหนักรู้นี้ แค่ดมกลิ่นก็ทำให้จิตใจพวกเขาเปิดกว้าง!

หากได้ดื่มอึกหนึ่ง จะไม่ลอยขึ้นไปในทุกนาทีเลยรึ

ชาตระหนักรู้นี้มีอายุเท่าไรกันแน่

เหตุใดถึงมีประสิทธิผลเช่นนี้

……

ผู้อาวุโสจินพูดพึมพำ “เหตุใดข้ารู้สึกว่าใบชาตระหนักรู้ที่เจ้าหนูนี่เอาออกมามีประสิทธิผลดีกว่าต้นนั้นของท่านจักรพรรดิอีกล่ะ”

สองผู้อาวุโสมองหน้ากัน ต่างเห็นถึงความตกตะลึงในแววตากันและกัน

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก็มีชาตระหนักรู้ต้นหนึ่งเช่นกัน จักรพรรดิฮวงสือเป็นคนปลูก

แต่เทียบประสิทธิผลกับชาตระหนักรู้ที่เสิ่นเทียนนำออกมาแล้ว เป็นความต่างของฟ้าและดิน!

สองปรมาจารย์มีความรู้ประสบการณ์สูง ยังอดใจน้ำลายไหลมิได้!

กลิ่นชานี่ ทำให้อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้!

หอมจริงๆ~

…….

โอรสสวรรค์สองสำนักที่เดิมทียังทะเลาะกันก็ถูกกลิ่นหอมชาตระหนักรู้ดึงความสนใจเช่นกัน

ทุกคนเงียบลง อึ้งค้างอยู่ที่เดิม

“กลิ่นอะไร เหตุใดถึงหอมเช่นนี้”

“ข้าไม่เคยได้กลิ่นหอมเข้มข้นเช่นนี้มาก่อนเลย!”

“ในนั้นยังแฝงไว้ด้วยพลังมหัศจรรย์ ทำให้คนผลัดเปลี่ยนได้!”

ทุกคนดมกลิ่นหอมชาตระหนักรู้ด้วยความละโมบ ภายในใจสั่นสะท้าน

พวกเขาไปตามกลิ่นหอม สุดท้ายมองไปที่อ่างใหญ่ตรงหน้าเสิ่นเทียน!

เมื่อเห็นภาพนี้ โอรสสวรรค์ทุกคนต่างเบิกตาค้างอ้าปากกว้าง

“นี่มัน…ชาตระหนักรู้รึ”

“บ้าจริง ใช้อ่างต้มชาตระหนักรู้รึ”

“มารดาเถอะ ชีวิตนี้ข้าไม่เคยเห็นชาตระหนักรู้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเชิญเราดื่มชาตระหนักรู้รึ”

โอรสสวรรค์สำนักอสูรดวงตาเหม่อลอย เดิมทีพวกเขาไม่ชอบดื่มชาเลย!

แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าเสิ่นเทียนจะนำชาตระหนักรู้ที่ล้ำค่าเช่นนี้ออกมา

ชาตระหนักรู้ นั่นคือสิ่งที่ชาเขียวธรรมดาจะเทียบได้หรือ

เสิ่นเทียนนำชาตระหนักรู้ออกมาต้อนรับสหายรึ

ใครจะไปปฏิเสธได้กัน

แพ้แล้วๆ!

ไม่ต้องเอ่ยถึงกำลังรบระหว่างสองสำนักว่าใครสูงใครต่ำแล้ว แค่น้ำใจ กำลังทรัพย์และปณิธานนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ชนะขาด

ถึงอย่างไรสำนักอสูรหลายพันปีมานี้ก็ไม่เคยมีโอรสสวรรค์ที่ใจกว้างเช่นนี้มาก่อน

แต่ชาถ้วยนี้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ วันนี้ข้าขอยอมแพ้!

เพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้างมากจริงๆ!

…..

ส่วนเหล่าโอรสสวรรค์ในสำนักมนุษย์ก็มีความคิดไม่ต่างกัน

แม้พวกเขาจะเป็นศิษย์แกนหลักของขุมอำนาจใหญ่ เป็นผู้โดดเด่นทุกยุค!

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่เคยลิ้มลองชาตระหนักรู้มาก่อน

นี่คือสมบัติล้ำค่าฟ้าดิน มีน้อยในโลกนี้

ในทั้งห้าดินแดนก็มีเพียงราชวงศ์เซียนต้าฮวงที่เหลืออยู่ต้นเดียว มีจักรพรรดิฮวงสือเป็นคนปลูก!

เหล่าโอรสสวรรค์ไม่คาดคิดเลยว่าเสิ่นเทียนจะมีใบชาตระหนักรู้ด้วย!

กระทั่งยังต้มเป็นอ่างใหญ่!

ครั้งนี้ลาภปากแล้ว!

มีบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่ เป็นมหาโชคของสำนักมนุษย์จริงๆ!

ในใจโอรสสวรรค์สำนักมนุษย์ทุกคนเกิดความคิดนี้ขึ้น

ทางด้านโอรสสวรรค์อาวุโสสำนักอสูรมีใบหน้าเต็มไปด้วยความสำนึกเสียใจ!

พวกเขาไม่อาจปฏิเสธความเย้ายวนของชาตระหนักรู้ได้

แต่ก็จนปัญญา พวกเขาพูดไว้เด็ดขาดก่อนแล้วว่าจะไม่ดื่มชา

ตอนนี้จะหน้าไม่อายพูดได้หรือ

ไม่อาจลงได้เพราะเกียรติ!

เหล่าอสูรจ้องชาตระหนักรู้อ่างใหญ่นั้นด้วยแววตาคับแค้นใจ น้ำลายไหลพราก

……

แต่ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนแบ่งชาตระหนักรู้ที่ต้มเสร็จไปแล้ว แบ่งให้โอรสสวรรค์ที่รู้จักกับเขาไปก่อนคนละถ้วย

“ขอบคุณมากสหายเสิ่น!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้าง!”

เมื่อได้รับชาตระหนักรู้ เหล่าโอรสสวรรค์ต่างตกใจที่ได้รับความเมตตาเกินไป

ชาตระหนักรู้มีประโยชน์กับพวกเขามาก มีประสิทธิผลยกระดับการตระหนักรู้

โอรสสวรรค์พวกนั้นดื่มชาตระหนักรู้ไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเผยรอยยิ้มเคลิบเคลิ้ม!

“ชาดี ชาดี!”

“รสชาติดีที่สุดเลย!”

“สมกับเป็นชาตระหนักรู้ ข้ารู้สึกตัวจะระเบิดเลย!”

“ตอนนี้ ข้ารู้สึกเหมือนหลอมรวมกับมหามรรคเป็นหนึ่ง”

…..

ภายใต้การเสริมด้วยชาตระหนักรู้ โอรสสวรรค์พวกนั้นต่างเปล่งแสงสว่างทั้งตัว นั่งขัดสมาธิลงตระหนักรู้มหามรรคฟ้าดิน

ชั่วครู่เดียว ปรากฏการณ์ในกายโอรสสวรรค์พวกนั้นก็ปรากฏขึ้น ศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

นี่คือชาตระหนักรู้ที่ชงด้วยใบชาตระหนักรู้สิบกว่าใบ มีสรรพคุณชัดเจนมาก

จากนั้นเสิ่นเทียนก็ให้โอรสสวรรค์ที่รู้จักแจกจ่ายชาตระหนักรู้ต่อ ส่วนเขาถือมาสองสามถ้วยแล้วเดินไปทางสือเทียนจื่อกับฉีจ้าน!

“สหายเทียนจื่อ สหายฉี เรามาดื่มกันเถอะ”

เสิ่นเทียนยิ้ม สองคนนี้คือผู้มีดวงชะตาสูงสุดในกุยช่ายมากมาย ย่อมต้องให้ความสนใจ

ฉีจ้านเกาศีรษะ “พี่ใหญ่ ข้าไม่ชอบดื่มชา! ข้าชอบกินลูกท้อ! ท่านเอากลับไปเถอะ!”

โอรสสวรรค์สำนักอสูรพูดไม่ออก

พอได้ยินคำพูดของฉีจ้าน ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรกลุ่มใหญ่ก็อดตะโกนในใจมิได้!

สมองลิงเจ้าลิงกังนี่ไม่มีรอยหยักสมองเลยสักนิด!

ลิงเลิกกินลูกท้อไม่ได้จริงๆ!

นั่นคือชาตระหนักรู้นะ ชาตระหนักรู้!

เจ้าไม่เอาก็มาให้ข้าสิ!

ข้าเอา ข้าเอานะ!

พวกนี้ล้วนเป็นศิษย์อาวุโสที่ก่อนหน้านี้เสแสร้งไม่แยแสจะดื่มชา และโอรสสวรรค์ที่แจกจ่ายชาตระหนักรู้พวกนั้นก็เชื่อฟังมาก ไม่ให้พวกเขาเลยสักถ้วยจริงๆ

ทำเหล่าอสูรร้อนใจจนเข็ดฟันยิบๆ ได้แต่โมโหคลั่งอย่างจนปัญญาในใจ!

……

เสิ่นเทียนยิ้มราบเรียบ “รสชาติชานี่ไม่เป็นรองผลไม้วิญญาณฟ้าดินเลย สหายฉีลองดูเถอะ”

“อย่างนั้นรึ เช่นนั้นข้าจะลองดู!”

ฉีจ้านพลันคึกคักขึ้นมา ยกชาตระหนักรู้ดื่มไปอึกๆ

เขาทำปากแจ๊บๆ เหมือนกำลังลิ้มรสชาติของชาตระหนักรู้ ไม่นานก็ทำหน้าตกใจ “จริงด้วย อร่อยมาก!”

“ที่ใช่ชาที่ใดกัน นี่มันของเหลววิญญาณฟ้าดิน รสชาติไม่เป็นรองสุราวานรของเผ่าข้าเลย! พี่ใหญ่ ท่านว่าข้าจะขอดื่มอีกสักสองสามถ้วยได้หรือไม่ ยังดื่มไม่หนำใจเลย”

ฉีจ้านทำหน้ากระหาย เหมือนถูกกระตุ้นหนอนตะกละขึ้น

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้แน่นอน แต่ชาตระหนักรู้มีผลในด้านการตระหนักรู้ แม้จะมีรสชาติดี แต่จะละโมบมากไม่ได้!”

ถึงอย่างไรก็มีชาตระหนักรู้เป็นอ่างใหญ่ เสิ่นเทียนย่อมไม่ขี้เหนียว

อย่างมากดื่มหมดก็ต้มใหม่ ข้ามีของสิ่งนี้ในคลังน้อยของข้าเยอะเลย!

ดื่มก็ดื่มไม่หมด ได้แต่เอามาดูแลกุยช่าย!

และฉีจ้านคือกุยช่ายใหญ่!

เสิ่นเทียนไม่กลัวไม่พออยู่แล้ว ให้ดื่มชาตระหนักรู้ได้เต็มที่เลย!

ฉีจ้านพยักหน้าลิงหงึกๆ ทำหน้าตื่นเต้นขึ้นมา ก่อนจะดื่มไปรวดเดียวสองถ้วยใหญ่

สุดท้ายผิวกายเขาเปล่งแสงทองสว่าง กลิ่นอายพลังไหลหลากบ้าคลั่งไม่หยุด เหนี่ยวนำกฎเกณฑ์ฟ้าดินตกลงมา

ฉีจ้านรีบนั่งขัดสมาธิลง อาศัยสรรพคุณของชาตระหนักรู้สัมผัสมหามรรคฟ้าดิน!

ขณะเดียวกันฉีจ้านยังแอบปลงอนิจจังในใจอย่างยิ่ง!

ท่านจักรพรรดิพูดไว้ไม่ผิดจริงๆ!

มีสวรรค์เป็นอาจารย์ มีสวรรค์เป็นสหาย มีสวรรค์เป็นพี่ใหญ่ จะบรรลุมรรคจริงๆ!

อู้หู~ แซ่ฉีจะลอยขึ้นแล้ว!

……

กลิ่นอายพลังของฉีจ้านหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ได้ประโยชน์มหาศาลด้วยชาตระหนักรู้!

พอเห็นภาพนี้ สือเทียนจื่อก็สนใจแล้ว

เขาอดใจไม่ไหวอยากจะรับชาตระหนักรู้มาสักถ้วย

สือเทียนจื่อฝึกฝนกับจักรพรรดิฮวงสือก็จริง เคยมีวาสนาได้ลิ้มลองชาตระหนักรู้

แต่สรรพคุณไม่อาจเทียบกับชาตระหนักรู้ที่เสิ่นเทียนนำออกมาได้เลย!

ขนาดสมองลิงอย่างฉีจ้านยังชาตระหนักรู้ได้ ศักยภาพเปลี่ยนไปอย่างมาก

หากเขาดื่มบ้างจะไม่ยกระดับสูงกว่าหรือ

แต่ก็จนปัญญาเพราะสือเทียนจื่อโอหังมาตลอด ยังอายที่จะรับไว้

เสิ่นเทียนส่งชาตระหนักรู้ถึงมือเขา ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “สหายเทียนจื่อ พวกเราใช้ชาแทนสุรา ลบล้างความขัดแย้งก่อนหน้านี้กันเถอะ จากนี้เราจะเป็นสหายกัน มีโอกาสก็ไปตามหาโชคลิขิตด้วยกัน! แซ่เสิ่นขอดื่มก่อนเพื่อเป็นการเคารพ”

เขารู้ถึงความกระดากอายของสือเทียนจื่อ เสิ่นเทียนจึงหาทางลงให้กับเขาเอง

นี่คือกุยช่ายใหญ่ที่มีดวงชะตาสูงที่สุด จะพลาดไปไม่ได้!

เมื่อเห็นดังนั้น ใบหน้าเฉยชาของสือเทียนจื่อก็มีความซับซ้อนขึ้นมา แม้สือเทียนจื่อจะแพ้ให้กับเสิ่นเทียนไปก่อนหน้านี้ แต่เขาก็คิดหาทางเอาชัยชนะกลับคืนมาตลอด

เขามองเสิ่นเทียนเป็นศัตรูตัวฉกาจมาตลอด

แต่คนปกติเจอศัตรูตัวฉกาจไม่สู้กันก็เยี่ยมแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับช่วยเหลือ

ทว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่แค่ไม่กำราบ แต่ยังช่วยพูดให้สือเทียนจื่อ ให้กระทั่งชาตระหนักรู้ที่ยกระดับศักยภาพได้

สือเทียนจื่อจะไม่ทอดถอนใจได้อย่างไร

สือเทียนจื่อมองชาตระหนักรู้ในมือ พลันรู้สึกว่าจิตใจของตนหนักอึ้งขึ้นมา

เทียบกับเสิ่นเทียนแล้ว น้ำใจของเขาเล็กมากเกินไป!

สือเทียนจื่อสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาขยับประกายวาววับ

เขาพูดอย่างจริงจังว่า “สหายเสิ่นมีจิตใจกว้างขวาง สมกับเป็นศัตรูตัวฉกาจในชีวิตนี้ของแซ่สือ! แซ่สือจะต้องยกระดับศักยภาพอย่างสุดความสามารถ แล้วตัดสินสูงต่ำกับสหายเสิ่นอีกครั้ง”

ในมุมมองของสือเทียนจื่อ วิธีการเคารพศัตรูตัวฉกาจที่สุดคือการสู้กับเขาอย่างเต็มที่

เมื่อเอ่ยจบ สือเทียนจื่อก็ดื่มชาตระหนักรู้หมดในอึกเดียว เริ่มตระหนักรู้มหามรรคฟ้าดิน ไม่นานในตัวเขาก็เปล่งแสงเทพ เหนี่ยวหมื่นกฎเกณฑ์ตกลงมา

สือเทียนจื่อมีพรสวรรค์สุดยอด ประกอบกับสรรพคุณของชาตระหนักรู้อันแข็งแกร่ง จึงได้ประโยชน์ไปอย่างมาก!

ไม่นานนักสือเทียนจื่อก็เข้าสู่ความเงียบ กลิ่นอายพลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

นี่ทำให้เสิ่นเทียนมีเส้นสีดำขึ้นบนหน้าผาก แอบพูดแขวะในใจ

ข้าให้ชาตระหนักรู้เขา ให้เขายกระดับศักยภาพมาทุบตีข้ารึ

เล่นอะไรกัน!

เจ้าเด็กนี่ฟังภาษาคนไม่เข้าใจรึ

ข้าจะรวมกลุ่มกับเขาไปล่าปีศาจ ไม่ใช่ให้มาล่าข้า!

เฮ่ย!

รู้อย่างนี้แต่แรกน่าจะทุบตีเขาอีกสักยก ยังจะมาดื่มชาอีก ดื่มกับผีสิ!

เป็นคนที่น่าปวดหัวจริงๆ

……

ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรมองโอรสสวรรค์ที่ยกระดับพลังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนสวมหน้ากากเจ็บปวด ใบหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น!

พวกเขาจ้องชาตระหนักรู้ ปากยังกลืนน้ำลายไปไม่หยุด!

เรื่องมาจนถึงตอนนี้ ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรอยากจะตบปากตัวเองใจจะขาด

เมื่อครู่ข้าพูดอะไรออกไป

เหตุใดต้องเสแสร้ง เหตุใดต้องปฏิเสธเจตนาดีของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

นี่มันชาตระหนักรู้เชียวนะ

จะพลาดไปเช่นนี้หรือ

ข้าเสียใจ!

ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรร้องโอดครวญในใจ รู้สึกพลาดมหาโชคลิขิตไป

ทว่าเสิ่นเทียนกลับไม่ได้ลำเอียง มอบชาตระหนักรู้ให้ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรพวกนั้นเช่นกัน

เกาะเจ้าซื่อบื้อสือเทียนจื่อไม่ได้ ก็ยังมีกุยช่ายใหญ่ต้นอื่นอีกไม่ใช่หรือ

ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรพวกนี้ก็เป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่มีดวงชะตาสูงยิ่งเช่นกัน รวมเข้าด้วยกันแล้ว เสิ่นเทียนเห็นแล้วยังตื่นเต้นในใจ!

ยังไม่รีบใช้โอกาสนี้หว่านแหมาให้หมดในทีเดียวอีกหรือ

เสิ่นเทียนเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม มอบชาตระหนักรู้ให้ “ศิษย์พี่สำนักอสูรทุกท่าน กลมเกลียวกันไว้เถอะ มาดื่มชาด้วยกันเป็นอย่างไร”

พอได้ฟังคำพูดของเสิ่นเทียน ศิษย์อาวุโสสำนักอสูรก็ตาเป็นประกายขึ้นมา เหมือนเห็นแสงสว่างในเงามืด

พวกเขาทำหน้ากระหาย แต่ก็ยังเกรงใจนิดๆ

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้พวกเขาก็อวดดีขนาดนั้น ปรากฏว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่แค่ไม่โกรธ แต่ยังเชิญพวกเขาดื่มชาอีก

ภายในใจศิษย์สำนักอสูรเป็นทุกข์กันมาก

แต่สุดท้ายก็ไม่มีอสูรปฏิเสธ ต่างรับไว้กันหมด

เพราะอย่างไรเสิ่นเทียนก็ให้มาเยอะมาก

เหล่าอสูรหน้าชา “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีคุณธรรมและปรีชาสูงส่ง พวกข้าละอายใจยิ่งนัก ก็อย่างที่บุตรศักดิ์สิทธิ์บอก สำนักอสูรเราใฝ่หาความกลมเกลียวมาตลอด! ขอแค่มีบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่ ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้สำนักมนุษย์แน่นอน!”

พวกเขาต่างลืมคำพูดก่อนหน้านี้ไปทั้งหมดเพื่อชาตระหนักรู้

เหอะๆ เกียรติจะมีประโยชน์อะไร

หอมเท่าชาตระหนักรู้หรือไม่

ไม่อยู่แล้ว!

กลุ่มศิษย์อาวุโสสำนักอสูรดื่มชาตระหนักรู้กันอย่างมีความสุข

ไม่นานก็ทยอยกันเกิดปรากฏการณ์ขึ้นไม่หยุด แสงเทพสีสันหลากสีส่องสะท้อนฟ้าดิน!

ด้วยเหตุนี้ โอรสสวรรค์ทุกคนที่นี่จึงเกิดการเปลี่ยนมุมมองความคิดต่อเสิ่นเทียนไปอย่างมาก!

ระดับความรู้สึกดีพุ่งพรวดขึ้นดังตึกๆๆ!

……

กลางห้วงมิติ ผู้อาวุโสซูกับผู้อาวุโสจินมองตาค้างแล้ว

“มารดาเถอะ ชาตระหนักรู้หอมมาก ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว!”

ผู้อาวุโสจินส่ายศีรษะลิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระหาย

ชาตระหนักรู้ระดับนี้มีประโยชน์กับพวกเขา!

โดยเฉพาะกลิ่นหอมชาที่เข้มข้นอย่างยิ่ง ไม่เป็นรองกลิ่นหอมสุราระดับอริยะเลย

อีกทั้งผู้อาวุโสจินยังชื่นชอบสุราเป็นชีวิตจิตใจ ชอบชามากเช่นกัน

ความรู้สึกได้แต่มองแต่ไปไม่ถึงนี้ทำให้เขาทุกข์ใจมากจริงๆ!

ผู้อาวุโสจินได้แต่นั่งยองลงใช้จมูกดมในห้วงมิติ แต่ไม่อาจลิ้มรสชาติได้

ดมอยู่หลายครั้งก็เกาหูเกาแก้มด้วยความร้อนใจ

ผู้อาวุโสซูทำหน้าจนปัญญา ก่อนถอนหายใจ “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี เจ้ากล้าโผล่ไปตอนนี้ ไปขอดื่มชากับเจ้าหนูนี่หรือไม่ล่ะ”

พวกเขาเป็นปรมาจารย์สำนักศึกษาหลวง ตอนสองสำนักปะทะกันไม่ออกหน้าไปห้าม

ตอนนี้จะออกไปเอาชาตระหนักรู้ จะไม่ถูกคนหัวเราะจนตายรึ มิหนำซ้ำพวกเขาก็วางเกียรติไม่ลงที่จะไปขอจากรุ่นเยาว์

แต่ก็จนปัญญา ชาตระหนักรู้นี่เย้ายวนเกินไปจริงๆ

ความรู้สึกที่อยู่ใกล้แค่ตรงหน้าแต่ดื่มไม่ได้ ได้แต่ดมกลิ่นนี้ น่าคับอกคับใจยิ่งนัก

เวลานี้ สองผู้อาวุโสมีแววตาคับแค้นใจขึ้นมา เหมือนกับลูกเมียน้อยที่ไม่ได้รับความรัก!

เสิ่นเทียนเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่างก็ยกมุมปากขึ้น มิติเกิดคลื่นขึ้น ชาตระหนักรู้สองถ้วยหายไป

จากนั้นเกิดแสงสว่างกลางมิติ ชาตระหนักรู้สองถ้วยลอยมาในห้วงมิติช้าๆ

สองปรมาจารย์มองชาตระหนักรู้ที่จู่ๆ โผล่มาตรงหน้าด้วยอาการอึ้งไป ก่อนจะดีใจใหญ่

รอยย่นบนใบหน้าผู้อาวุโสจินบีบรวมเป็นกอง “เด็กดี มีความสามารถไม่เบาเลย! ไม่ใช่แค่เก่งกาจ แต่ยังรู้จักวางตัวอีกด้วย! ไม่ใช่แค่นั้น ยังร่ำรวยมากอีกต่างหาก! ผู้อาวุโสซู ดูท่าในสำนักมนุษย์คงมีอัจฉริยะที่สุดแห่งยุคเพิ่มมาแล้วล่ะ”

ถึงผู้อาวุโสจินจะกำลังพูดอยู่ แต่ก็ไม่ลืมยื่นมือใหญ่ออกมาคว้าชาตระหนักรู้ไว้

“ไม่เลว ไม่เลวจริงๆ!”

เขาดื่มด่ำรสชาติไปอึกหนึ่ง ทำปากจิ๊ๆ แปลกใจ ทั้งยังชมความอัศจรรย์ของชาตระหนักรู้

ทางด้านผู้อาวุโสซูก็รับชาตระหนักรู้มาเช่นกัน แต่เขากลับตกตะลึงในใจอย่างยิ่ง

ผู้อาวุโสสองคนเป็นปรมาจารย์สุดยอดในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย!

พลังบำเพ็ญยังบรรลุเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์

พวกเขาซ่อนกลิ่นอายพลังในห้วงมิติ ไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์จะตรวจหาเจอได้เลย

แต่ไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่แค่พบพวกเขา แต่ยังส่งชาตระหนักรู้มาให้ ทำให้สองผู้อาวุโสตกใจกันมาก

สมกับเป็นอัจฉริยะ

โดยเฉพาะยังรู้อีกว่าพวกเขาสองคนตะกละ จึงส่งชาตระหนักรู้มาให้สองถ้วย!

เจ้าหนูนี่แกร่งกว่าสือเทียนจื่อนั่นมาก!

รู้จักวางตัวจริงๆ~

…..

ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เสิ่นเทียนทำ

แม้แต่สือเทียนจื่อกับฉีจ้านยังไม่รู้ว่าในห้วงมิติยังมีตาแก่สองคนซ่อนอยู่

เอ๋าปิงเหมือนสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ แต่ก็ไม่แน่ใจ

นางจ้องเสิ่นเทียน แต่กลับถูกใบหน้าที่สุดแห่งโลกนั้นดึงดูด ยังแอบร้องอุทาน

ไม่นึกเลยว่าไม่ได้เจอกันนาน เจ้าหนูนี่จะมีกลิ่นอายของบุรุษมากกว่าเดิมอีก!

แต่ว่าในตัวเจ้าหนูนี่มีกลิ่นอายของนางหงส์เหม็นนั่น

ทั้งยังเป็นพลังแห่งต้นกำเนิดอีกรึ

ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกแปลกๆ

เอ๋าปิงกัดฟันงาม ในที่สุดก็ทนไม่ไหวเดินเข้ามา!

นางทะยานมาลงข้างกายเสิ่นเทียน ลากมือเขาไป

สองคนเหมือนกับสายฟ้าเข้าไปในกระแสมิติปั่นป่วน

เมื่อเห็นดังนั้นโอรสสวรรค์รอบกายต่างงุนงงกันหมด

พี่หญิงใหญ่เป็นอะไร เหตุใดถึงลากบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปล่ะ หรือเพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้ให้ชานาง นางเลยลากเขาไปวิวาทด้วยรึ

ซี้ด สตรีน่ากลัวจริงๆ!

ไม่สิ หญิงมังกรน่ากลัวจริงๆ!

จางอวิ๋นซีมีใบหน้าเหมือนน้ำแข็ง “หญิงแก่นี่คิดจะทำอะไร! พวกเขาจะไปที่ใดกัน”

พอเห็นเอ๋าปิงจะลากเสิ่นเทียนไป จางอวิ๋นซีก็รู้สึกถึงอันตรายในใจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งนางจะตามเข้าไปขวางเอ๋าปิง แต่ถูกจางอวิ๋นถิงสกัดไว้

“อวิ๋นซีใจเย็นหน่อย! หญิงมังกรเป็นสหายพันธสัญญาของบุตรศักดิ์สิทธิ์ ไม่รังแกเขาหรอก!”

จางอวิ๋นถิงพึมพำในใจ เหตุใดน้องพี่เจอเอ๋าปิงแล้วถึงฉุนเฉียวเช่นนี้กัน!

จางอวิ๋นซีจะไม่รู้ได้อย่างไร

สิ่งที่นางกังวลไม่ใช่เอ๋าปิงรังแกเสิ่นเทียนแบบปกติ!

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เอ๋าปิงรวดเร็วยิ่ง พลันลากเสิ่นเทียนเข้าไปในมิติปั่นป่วน

จางอวิ๋นซีตามก็ตามไม่ทัน ได้แต่กระทืบเท้าด้วยความโมโห

…….

ในกระแสมิติปั่นป่วน เสิ่นเทียนทำหน้ามึนงง

เขาไม่คิดเลยว่าเอ๋าปิงจะออกมืออย่างกะทันหัน ลากเขามาที่นี่

เมื่อเห็นเอ๋าปิงทำหน้าเย็นชาและสูงส่ง เสิ่นเทียนก็เกาศีรษะด้วยรอยยิ้ม “พี่สาวปิง มีเรื่องใดก็คุยกันข้างนอกไม่ได้รึ”

เสิ่นเทียนย่อมรู้ว่าเหตุใดเอ๋าปิงถึงทำเช่นนี้

เขาครุ่นคิดไปมา ต้องหาทางออกไป

แต่เอ๋าปิงจะให้เขาทำแผนการสำเร็จได้อย่างไร นางทำเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง ใบหน้าเย็นชา

“หากวันนี้เจ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน อย่าได้คิดออกไปเลย รีบบอกมา เหตุใดในตัวเจ้าถึงมีพลังต้นกำเนิดของนางหงส์เหม็นนั่น”

พลังแห่งเทพมังกรไหลหลากในกายเอ๋าปิง ผนึกมิติแห่งนี้เอาไว้

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย แต่ก็คิดข้ออ้างไม่ออก ต้องเล่าเรื่องซ้ำอีกรอบ!

“อะไรนะ เจ้าหลับนอนกับนางรึ ขัดขืนไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็เลยไม่ขัดขืนหรือ

นางหงส์สารเลว กล้าแย่งบุรุษกับข้า จะรังแกมังกรเกินไปแล้ว! ไม่ได้การ นางทำครั้งแรกสิบห้าวัน! นางทำสิบห้าวัน ข้าก็จะทำหนึ่งเดือน!”

……

ฉึก!

เสียงอาภรณ์ถูกฉีกดังขึ้น!

แสงเทพไม่มีสิ้นสุดสว่างจ้า รวมเป็นม่านแสงสว่างปกคลุมที่นี่ไว้หมด!

มีเสียงน่าหลงใหลบ้างสูงบ้างต่ำ บ้างเร็วบ้างช้า ดังกึกก้องในห้วงมิติอยู่นานมาก

เสียงนี้ดังก้องไปตลอด…

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด