บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 321 สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เมื่อพบเสิ่นเทียนถึงได้สงสัยในชีวิต

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 321 สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เมื่อพบเสิ่นเทียนถึงได้สงสัยในชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 321 สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เมื่อพบเสิ่นเทียนถึงได้สงสัยในชีวิต

ตอนนี้ หวังเสินซวีเข้มแข็งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เป็นผู้มีกายเทพท้องนภา หวังเสินซวีจึงเก็บตัวมานานมาก

เห็นๆ อยู่ว่ามีศักยภาพสูงสุดในรุ่นเยาว์ แต่ยังไม่อาจโอ้อวดต่อหน้าทุกคนได้

ความเจ็บปวดนี้ ความคับอกคับใจนี้ มีใครเข้าใจหวังเสินซวีบ้าง

โอรสสวรรค์คนใดบ้างที่ไม่มีความโอหังของตนเองอยู่ในใจ

โอรสสวรรค์คนใดบ้างที่ยอมถูกคนอื่นกดขี่ ได้แต่เงยหน้ามองโอรสสวรรค์คนอื่นเปล่งประกายแสงหมื่นจั้ง

ไม่มี!

หากไม่ใช่เพราะอายุขัยไม่อนุญาต หวังเสินซวีคงเที่ยวเล่นสร้างเรื่องราวใหญ่โตไปแล้ว

คิดว่าศิษย์น้องหญิงเหมยหลันจู๋จวี๋ทั้งสี่โน้มน้าวให้หวังเสินซวีรับคำท้าสู้ เพียงเพราะพวกนางอยากให้หวังเสินซวีตายหรือ

ไม่ใช่แน่นอน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ทั้งหมด!

พวกนางเติบโตมากับหวังเสินซวีตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ แทบจะถือว่าเป็นสหายกัน จึงรู้สึกว่าหลายสิบปีมานี้หวังเสินซวีไม่มีความสุขเลย กระทั่งอึดอัดใจมาก

ศิษย์น้องหญิงทั้งสี่โน้มน้าวให้หวังเสินซวีรับคำท้าของฉีเซ่าเสวียน จากในแง่มุมบางอย่าง คือหวังจะให้ศิษย์พี่ได้สู้อย่างถึงอกถึงใจจริงๆ สักครั้ง จากนั้นได้หลุดพ้น

แต่หวังเสินซวีหนีออกจากดินแดนบูรพามาทะเลอุดร หรือว่าแค่เพราะกลัวตายจริงๆ

ไม่ใช่เด็ดขาด ตนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา จะไม่อยากแกร่งกว่าใครจริงๆ หรือ

ที่หวังเสินซวีหนีมาเพราะกลัวว่าตอนเผชิญหน้ากับฉีเซ่าเสวียน…จะอดใจตัดชีวิตสิ้นชีพไปเหมือนอย่างที่ศิษย์น้องหญิงทั้งสี่โน้มน้าวจริงๆ ไม่ได้!

การเลือกจากความรู้สึกกับเหตุผลไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาหวังเสินซวีอึดอัดใจมานานมาก เหมือนกับกักน้ำป่าไว้หมื่นจั้ง

และตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้คัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์มา แรงกดดันด้านอายุขัยพลันคลายออกเก้าส่วน

เงามืด ความคับอกคับใจ ความแค้นและอึดอัดใจที่อัดแน่นอยู่ในใจมาหลายสิบปี ตอนนี้ไหลออกมาเหมือนกับน้ำหลาก

หวังเสินซวี ต้องหาคนมาระบายออก!

……

ตอนนี้ในแดนลับเต่าดำ เสิ่นเทียนมีบุญคุณมอบวิชาและมอบสมบัติให้หวังเสินซวี เรียกได้ว่ามีบุญคุณยิ่งใหญ่ดั่งภูเขา

หวังเสินซวีย่อมไม่มีทางระบายกับเสิ่นเทียน อีกทั้งในใจเขายังมีความละอายใจอยู่นิดๆ ถ้าลงมือกับสหายเสิ่นจริงๆ เกรงว่าตนคงได้สงสัยในชีวิตยิ่งกว่าเดิม

ส่วนเอ๋าอู ดูเหมือนเด็กดื้อ อีกทั้งยังหน้าตาน่ารัก มิหนำซ้ำยังไม่ก้าวสู่ระดับผู้สูงศักดิ์เลย

หากลงมือกับเขาหวังเสินซวีก็รู้สึกขายหน้านิดๆ เหมือนรังแกสหายตัวน้อย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เหลือเพียงฉีเซ่าเสวียนแล้ว

สารภาพตามตรง หวังเสินซวีไม่ถูกชะตาฉีเซ่าเสวียนมาไม่ใช่แค่วันสองวัน

เป็นโอรสสวรรค์สูงสุดของดินแดนบูรพาเหมือนกัน ถ้าบอกว่าบุตรพุทธะขู่ตัวกับฟางฉางอยู่อันดับสองกับสามในรายนามแก่นพลังทองอย่างสมศักดิ์ศรีแล้ว

เช่นนั้นหวังเสินซวีอยู่อันดับสี่รายนามแก่นพลังทอง ความจริงเขาไม่ยอมรับอยู่ในใจมาตลอด เพราะเขาเชื่อว่าศักยภาพแท้จริงของเขาไม่แพ้ฉีเซ่าเสวียนเลย

เพียงเพราะกายเทพท้องนภาต้องสาป สำแดงคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภาต้องลดชีวิต ดังนั้นเขาถึงได้แต่เอาตัวรอดไปวันๆ

ตอนนี้ได้วิธีแก้คำสาปแล้ว หวังเสินซวีคิดว่าเขาก็อยากลองเป็น ‘อันดับหนึ่งใต้ฟ้า’ เช่นกัน!

“คนแซ่ฉี แซ่หวังไม่ถูกชะตาเจ้ามานานมากแล้ว! มา มาสู้กับข้า!”

ท่ามกลางแสงเงินปกคลุมทั่วร่าง ทั้งตัวหวังเสินซวีหลอมรวมเข้ากับมวลอากาศ นี่คือวิชาลับในคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภา

หลังจากสำแดงวิชาลับนี้ หวังเสินซวีจะต้านการโจมตีของศัตรูได้มากกว่าเก้าส่วนขึ้นไป ตนแทบจะอยู่ในแดนไร้พ่าย เรียกได้ว่ามีความสามารถระดับตัวโกง

เขามองฉีเซ่าเสวียนไกลๆ สองมือพลันประสานมุทรา “ค่ายกลกระบี่ท้องนภา เปิด!”

เมื่อเกิดหนึ่งความคิด มิติก็ปั่นป่วน

มิติพลันผันผวน พลังแห่งมิติไร้ที่สิ้นสุดกลายเป็นกระบี่เทพหลายเล่มปกคลุมตัวหวังเสินซวีไว้ตรงกลาง

ดวงตาขอบตาดำของเขาเพ่งมอง มุทราในมือพุ่งใส่ฉีเซ่าเสวียนในทันใด ไอกระบี่มิติไร้ที่สิ้นสุดตัดสลับกัน

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะสู้ไหวรึ”

ฉีเซ่าเสวียนยิ้มเยาะ เขารู้สึกว่าตอนนี้พลังค่ายกลกระบี่ของหวังเสินซวีแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

แต่แล้วอย่างไร

เขาฉีเซ่าเสวียนบุกฝ่าไร้พ่ายในรุ่นเยาว์ดินแดนบูรพา ย่อมมีหัวใจไร้พ่าย

ก็เหมือนที่สหายเสิ่นบอก คนที่เคยถูกเขาฉีเซ่าเสวียนกดขี่ไว้ใต้ล่าง ก็อย่าได้คิดพลิกตัวขึ้นมาเหนือศีรษะเขาได้อีกตลอดกาล

ตำแหน่งอันดับหนึ่งใต้ฟ้านี้ เขาไม่เคยคิดจะยกให้ใครทั้งนั้น!

……..

เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วง!

เนตรสวรรค์สีม่วงตรงระหว่างคิ้วเปิดออกช้าๆ

ฉีเซ่าเสวียนถือง้าวมังกรสวรรค์มองทะลุมิติ ไอกระบี่มิติมากมายพลันเผยออกมา

จุดที่แปลกที่สุดของไอกระบี่มิติคือมันไร้รูปไร้ร่องรอย แทบจะป้องกันไม่ได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีที่ประหลาดที่สุด

ทว่าเนตรสวรรค์ของฉีเซ่าเสวียนมีความสามารถลึกลับ กลับมองทะลุไอกระบี่มิติพวกนี้ได้ กระทั่งคาดการณ์วงโคจรของไอกระบี่พวกนี้ได้

ง้าวมังกรแปดรกร้าง!

ไอม่วงไร้ที่สิ้นสุดข้างหลังไหลเชี่ยว พลันกลายเป็นเงามังกรเต็มผืนฟ้า

ฉีเซ่าเสวียนกวัดแกว่งง้าวมังกรในมือ ยิงประกายง้าวออกไปหมื่นสาย เวลานี้โดยรอบฟ้าดินเต็มไปด้วยเงาง้าว

ไอกระบี่มิติพวกนั้นทำลายการป้องกันไม่สำเร็จเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าฉีเซ่าเสวียน ถูกเขากันไว้ได้ทั้งหมด ข้ามผ่านแม่น้ำมาไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว

แน่นอน ถึงอย่างไรไอกระบี่พวกนี้ก็สร้างขึ้นจากอายุขัยของหวังเสินซวี แม้จะไม่ใช่การโจมตีสู้สุดชีวิตที่เผาอายุไปห้าสิบปี แต่ก็มีอานุภาพค่อนข้างไม่ธรรมดา

เมื่อขอบตาดำของหวังเสินซวีหนักขึ้น ฉีเซ่าเสวียนก็เริ่มมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทีละนิด เหงื่อลากผ่านหน้าผาก

เขา บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงฉีเซ่าเสวียน อันดับหนึ่งใต้ฟ้า กลับถูกเจ้าหวังเสินซวีกดดัน!

ไอ้ผีขี้ขลาดเผาชีวิตตัวเองขึ้นมาจริงๆ แล้ว ไม่อยากเชื่อว่าจะแข็งแกร่งเช่นนี้!

ฉีเซ่าเสวียนต้องยอมรับว่าเสิ่นเทียนพูดไว้ไม่ผิด หากอยู่ในสภาวะเผาชีวิต หวังเสินซวีไม่อ่อนแอไปกว่าเขาเลย กระทั่งในระดับบางอย่าง หวังเสินซวียังแกร่งกว่าเขาอีก

เพราะจนถึงตอนนี้ ฉีเซ่าเสวียนยังคงได้แต่ต่อต้านค่ายกลกระบี่ท้องนภา ไม่อาจใช้วิชาสายฟ้าทำลายค่ายกลนี้ได้

แม้ช่วงเวลาหนึ่งหวังเสินซวีจะทำอะไรฉีเซ่าเสวียนไม่ได้ แต่สำหรับแซ่ฉีแล้วนี่คือความอัปยศ!

“ข้ายอมรับว่าเจ้ามีศักยภาพแข็งแกร่งมาก มีคุณสมบัติสู้กับข้า”

ฉีเซ่าเสวียนดวงตาเร่าร้อนขึ้นมา “เพียงแต่ว่าแค่ค่ายกลกระบี่ระดับนี้ ยังทำอะไรแซ่ฉีไม่ได้!”

เพิ่งพูดจบ ไอม่วงหลายพันจั้งข้างหลังฉีเซ่าเสวียนก็หมุนม้วนอย่างบ้าคลั่งราวกับคลื่นลูกใหญ่ กลายเป็นแม่น้ำภูเขาไอม่วงสามสิบสามชั้น

แม้แม่น้ำภูเขาไอม่วงพวกนี้จะแตกกระจายลงอย่างรวดเร็วภายใต้การโจมตีของไอกระบี่มิติ แต่สำหรับฉีเซ่าเสวียนแล้ว ซื้อเวลาได้ครู่หนึ่งก็พอแล้ว

“แปดทิศหกประสาน ฝูงมังกรไร้หัว!”

ง้าวมังกรสวรรค์ในมือหลอมรวมกับตัวเขาเป็นหนึ่งเดียว ฉีเซ่าเสวียนเขย่าร่างกลายเป็นมังกรม่วงตัวหนึ่ง

ไอม่วงมหาศาลวนเวียนรอบตัวเขา ดูยิ่งใหญ่และสง่างามมาก กระทั่งด้านหลังมังกรม่วงนี้ยังเห็นสองปีกสีม่วงรางๆ

นั่นคือความหมายลึกล้ำส่วนหนึ่งของวิชาเผิง ซึ่งฉีเซ่าเสวียนเรียนรู้และนำมาหลอมรวมในง้าวมังกรแปดรกร้าง ทำให้อานุภาพของง้าวมังกรแปดรกร้างเพิ่มขึ้นจนถึงระดับใหม่

ทะลวง!

ร่างฉีเซ่าเสวียนพลันทะลวงมิติออกไป

ศีรษะมังกรม่วงนั้นปรากฏดวงตาที่สาม ดวงตาตรงกลางหน้าผากยิงแสงวิบัติสายหนึ่งออกมา

วิชาลับ…แสงวิบัติเนตรม่วง!

มิติพังทลายลง กระแสปั่นป่วนหลั่งทะลักเข้ามาไม่มีที่สิ้นสุด

มังกรม่วงเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าก่อนพุ่งกระโจนไปในที่หนึ่งของมิติ “ข้าหาเจ้าเจอแล้ว ยอมรับความพ่ายแพ้ของเจ้าเสีย!”

กรรซ์~

มังกรสวรรค์สีม่วงเงยหน้าคำราม มิติพังทลายลงโดยพลัน

หวังเสินซวียืนอยู่กลางกระแสปั่นป่วนของมิติสีดำนั้น ชุดคลุมขาวโบกสะบัด

นัยน์ตาเขาฉายแววตกใจวูบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ากำลังรบของฉีเซ่าเสวียนเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้

แต่หวังเสินซวีกลับไม่มีสีหน้ายำเกรงเลย แต่หัวเราะเยาะ “หากมีแค่นี้ ยังไม่พอหรอก!”

จอนผมดำเปลี่ยนเป็นสีขาวหิมะช้าๆ

ผิวพรรณรอบๆ ดวงตาสองข้างดำลึกขึ้นกว่าเดิม

หวังเสินซวีกางสองมือออกช้าๆ เหมือนกอดมวลอากาศแห่งนี้ไว้

เขาท่องเสียงเบา “สัมผัสถึงอากาศเถอะ! ยอมรับอากาศเถอะ! เข้าใจอากาศเถอะ! ทุกอย่างมีหรือไม่มีคือวิชา ทุกสรรพสัตว์ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากอากาศธาตุ และจะหวนคืนสู่อากาศธาตุ สดับฟังเสียงแห่งอากาศ กอดพลังแห่งอากาศ

วิชาลับ…นภากาศมรณะ!”

……

บึ้ม~

มิติพลันถล่มลง

ปรากฏหลุมสีดำขึ้นกลางกระแสปั่นป่วนของมิติไร้ที่สิ้นสุดนั้น

ทันทีที่ปรากฏหลุมดำ ทุกสรรพสิ่งรอบตัวเหมือนถูกดูดเข้าไป

ไอม่วงมืดฟ้ามัวดินนั้นถูกหลุมดำดูดเข้าไป ไม่อาจเติมเต็มได้ราวกับไหลเข้าไปในหลุมไร้ก้น

ฉีเซ่าเสวียนด้านหน้าหลุมดำนี้มีสีหน้ามืดลงเล็กน้อย เพราะเขาก็รู้สึกถึงอำนาจคุกคามแห่งความตายมาจากหลุมดำนี้

หากโดนหลุมดำนี้กินเข้าไป ต้องตายเป็นสิบรอบไม่มีเกิดใหม่แน่!

ฉีเซ่าเสวียนไม่เคยถูกหลุมดำนี้กินมาก่อน แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าห่างเจ้านี่มากเท่าไรก็ยิ่งดี

หวังเสินซวีเผยรอยยิ้ม ‘กุมทุกอย่างได้’ จอนผมสีขาวสะบัดอยู่ตรงหน้าเขา “ฉีเซ่าเสวียน ขอร้องข้าเถอะ! นภากาศมรณะนี่คือวิชาต้องห้ามสูงสุดในบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภา เคยฝังร่างมหาจักรพรรดิมาแล้ว ต่อให้เจ้ามีคุณสมบัติของมหาจักรพรรดิ ก็ได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจ”

หวังเสินซวีในตอนนี้รู้สึกมีความสุขจนตัวลอยขึ้นฟ้าแล้ว

อันดับหนึ่งรายนามแก่นพลังทองอะไรนี่ ฉีเซ่าเสวียนผู้มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิอะไรนี่ ก็ยังต้องคุกเข่าขอยอมแพ้ไม่ใช่รึ

มีความสุข แปลกใจ เกิดคลื่นกระเพื่อม!

แม้ศึกนี้จะเผาอายุขัยแซ่หวังไปร้อยปี แต่แล้วอย่างไร อย่างมากก็กลับไปปิดด่านบำเพ็ญสักปีครึ่ง จากนั้นก็พักสักเล็กน้อย

มีความสุขก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน!

“จงอ้อนวอนเถอะ! หากเจ้าขอร้องจริงใจพอ แซ่หวังจะไว้ชีวิตเจ้า”

หวังเสินซวียืนเท้าสะเอวอย่างโอหังอยู่กลางมิติ จอนผมสีขาวสะบัดไปตามสายลม “เร็วหน่อย ไม่เช่นนั้นอีกเดี๋ยวแซ่หวังจะถอนวิชาไม่ได้แล้ว”

ฉีเซ่าเสวียนหน้าเขียวปัดในทันที “อย่าได้คิดเลย!”

จะให้แซ่ฉีอ้อนวอนรึ เหอะๆ ถึงตายก็ไม่มีทาง!

ฉีเซ่าเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึก ทั่วร่างเขาลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟสีม่วงสว่างจ้า เห็นได้ชัดว่าเริ่มเผาพลังปราณเดิมของตนแล้ว

ก็แค่เอาชีวิตมาระเบิดพลังไม่ใช่รึ!

ดีไม่ดีไม่ต้องบาดเจ็บเหมือนใครบางคนด้วย!

ทันใดนั้นง้าวมังกรสวรรค์ในมือฉีเซ่าเสวียนพลันขยายใหญ่ขึ้นหลายร้อยจั้ง ก่อนกระแทกใส่หลุมดำประหนึ่งเสายักษ์ค้ำฟ้านั้น

……

เปรี้ยง~

ประกายง้าวไม่มีที่สิ้นสุดรวมเป็นลำแสงร้อนแรง ปักเข้าไปกลางหลุมดำนั้นพร้อมกับพลังมหาศาลที่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้

ทันใดนั้นเอง หลุมดำที่เดิมทีมีเส้นผ่าศูนย์กลางจั้งกว่าก็พองขึ้น ก่อนจะพังลงช้าๆ

และเมื่อหลุมดำถล่มลง พลังงานมหาศาลก็ได้ปะทุตามมา

หวังเสินซวีกับฉีเซ่าเสวียนที่อยู่ด้านหน้าถูกโจมตีอย่างรุนแรง ถูกพลังมิติมหาศาลถาโถมเข้ามา โลหิตสาดกระจายเต็มผืนฟ้า

“ภูผานทีไอม่วงสวรรค์สามสิบสามขั้น รวม!”

เพิ่งเอ่ยจบ ไอม่วงมากมายนั้นก็กลายเป็นแม่น้ำภูเขาขวางไว้ข้างหน้า

ทางด้านหวังเสินซวีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง แสงเงินทั่วร่างสว่างขึ้นมาก รวมเป็นชุดเกราะป้องกันตรงหน้า

ปัง~

หลุมดำถล่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง เริ่มบิดเบี้ยวและหมุนวนช้าๆ

คำว่า ‘ช้าๆ’ นี่ไม่ได้ช้าจริงๆ แต่เป็นความรู้สึกหลอนจากตาเนื้อ

ความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้หลุมดำมิติบิดเบี้ยวเร็วยิ่ง จนเกิดเป็นน้ำวนมิติน่ากลัวขึ้น พลังกลืนกินเพิ่มขึ้นมาก

ทุกคนบนทั้งแท่นลอยฟ้าถูกหลุมดำมิติดึงดูดอย่างรุนแรง แทบจะถูกกลืนกินเข้าไป

“พี่เสินซวี รีบถอนวิชาของพี่เถอะ!”

เอ๋าอูยื่นมือเล็กออกมาคว้าศิลาหินเต่าดำไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความลนลาน

แม้เขาจะมีพรสวรรค์สายเลือดอันดับต้นๆ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันของเผ่ามังกรดำ แต่ก็ยังเยาว์วัยเกินไป

ตอนนี้ในทุกคนเขาอ่อนแอที่สุด หลังน้ำวนมิติปรากฏขึ้นก็เป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว แทบจะถูกดูดเข้าไปแล้ว

ตอนนี้หวังเสินซวีอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ดูขอบตาดำยิ่งกว่าเดิม จอนผมเป็นจุดสีขาวเล็กน้อย

เขามุมปากกระตุก “นภากาศมรณะตัดอายุขัยมากเกินไป ข้าก็เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ครั้งแรกก็ใช้กับเจ้าฉีเซ่าเสวียนเลย โดนเขากระแทกแตก ตอนนี้หลุดจากการควบคุมของแซ่หวังไปแล้ว”

ฟิ้ว~

หวังเสินซวีเพิ่งพูดจบ เอ๋าอูก็คว้าศิลาหินเต่าดำไว้ไม่อยู่อีก ตัวเขาถูกน้ำวนดูดไป ลอยไปทางน้ำวนมิตินั้น

“พี่เสิ่นเทียน พี่เซ่าเสวียน พี่เซิ่นซวี ช่วยข้าด้วย!”

เอ๋าอูตะเกียกตะกายไปมากลางอากาศ ดูร้อนใจจนแทบจะร้องไห้แล้ว

ฉีเซ่าเสวียนหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ไอม่วงสามพันจั้งที่คลุมทั้งตัวพลันกลายเป็นฝ่ามือยักษ์คว้าไปทางเอ๋าอู

ทว่าน้ำวนมิติมีแรงดูดรุนแรงจริงๆ ไอม่วงพวกนั้นถูกน้ำวนมิติกลืนกินไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ยืนหยัดได้อีกไม่นานแล้ว

ฉีเซ่าเสวียนมุมปากกระตุก “เจ้าคนแซ่หวัง รีบหาทางจัดการเจ้านี่เสีย ไม่อย่างนั้นทุกคนได้ตายกันหมดแน่!”

………

ฉีเซ่าเสวียนพูดพลางชำเลืองตามองเสิ่นเทียนที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่หน้าศิลาหินเต่าดำ มุมปากกระตุกขึ้นมา

สหายเสิ่นก็คือสหายเสิ่น พวกเราเทียบศักยภาพด้วยไม่ได้จริงๆ

แม้แต่น้ำวนมิติยังคุกคามไม่ถึงสหายเสิ่น

ท่าทางแน่นิ่งเช่นนี้ไม่สั่นคลอนเหมือนกับดูดติดอยู่กับพื้น บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดุดันดั่งพยัคฆ์ นั่งขัดสมาธิยังดูดติดพื้นได้!

น่าเสียดายก็แต่ตอนนี้สหายเสิ่นเหมือนจะอยู่ในสภาวะตระหนักมรรค ไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงรอบตัวเลย

เถาวัลย์สีเขียวมรกตพันรอบตัวเขา บนเถาวัลย์มีดอกไม้สีขาวเบ่งบานหลายดอก

ตอนที่ดอกไม้พวกนี้บานสะพรั่ง เสิ่นเทียนก็เหมือนรวมกับอากาศธาตุเป็นหนึ่งเดียว

ไม่ว่ามวลอากาศรอบตัวจะพังทลายลงอย่างไร เขาก็ยังสนใจเพียงแต่ตัวเอง

ศักยภาพของสหายเสิ่นลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!

ปัญหาคือสหายเสิ่น เจ้ารีบตื่นมาเถอะ!

พวกสหายของเจ้าต้องการให้เจ้าช่วย ไม่เช่นนั้นต้องตายแน่!

น้ำวนมิติยังคงยิ่งใหญ่ จากที่หวังเสินซวีบอก มันจะใหญ่ไปตลอด จนกว่าพลังงานทั้งหมดในพื้นที่ที่แผ่ออกไปจะถูกดูดเข้ามาหมดแล้ว จากนั้นค่อยๆ ถูกกฎมิติเปลี่ยนกลับมาเป็นอากาศธาตุ

“จะให้น้ำวนใหญ่ต่อไปไม่ได้ ข้าจะสู้กับมันเอง!”

หวังเสินซวีทำหน้าแน่วแน่เด็ดขาด

เขาเป็นคนสร้างหลุมดำนี้ขึ้นมา เกิดปัญหา เขาก็ต้องรับผิดชอบเอง

วันนี้ต่อให้แซ่หวังจะเสียอายุขัยทั้งหมด ผมดำกลายเป็นผมขาว ก็ต้องจัดการน้ำวนนี่ให้ได้!

“สายลมพัดผ่านวารีเยือกแข็งง่าย ผู้กล้าจากไปไม่หวนคืน!”

หวังเสินซวีทำหน้าเศร้า “สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เผาอายุขัยทั้งหมดกำราบมิติ!”

เพิ่งพูดจบก็พบว่าเส้นผมของหวังเสินซวีเปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน ขอบตาทั้งสองดำขึ้นเรื่อยๆ

แต่กลิ่นอายพลังรอบตัวเขาก็แกร่งขึ้นเช่นกัน กระทั่งทำให้ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าหวาดกลัว

ไม่อยากเชื่อว่าหวังเสินซวีในสภาวะสู้สุดชีวิตจะแข็งแกร่งเช่นนี้ เขาอาจจะสู้ได้ยากแล้ว

หรือว่า เจ้านี่คิดจะเผาอายุขัยทั้งหมดเพื่อช่วยข้ากับเสี่ยวอูกัน

ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าซับซ้อนขึ้นมา

…….

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนที่นั่งขัดสมาธิตระหนักมรรคใต้ศิลาหินเต่าดำ ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นช้าๆ

ตอนที่เห็นพวกฉีเซ่าเสวียนสามคนกำลังลำบาก เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย

“สหายไม่ต้องตระหนก แซ่เสิ่นมาช่วยพวกเจ้าแล้ว!”

หวังเสินซวีถึงกับงุนงง

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 321 สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เมื่อพบเสิ่นเทียนถึงได้สงสัยในชีวิต

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 321 สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เมื่อพบเสิ่นเทียนถึงได้สงสัยในชีวิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 321 สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เมื่อพบเสิ่นเทียนถึงได้สงสัยในชีวิต

ตอนนี้ หวังเสินซวีเข้มแข็งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เป็นผู้มีกายเทพท้องนภา หวังเสินซวีจึงเก็บตัวมานานมาก

เห็นๆ อยู่ว่ามีศักยภาพสูงสุดในรุ่นเยาว์ แต่ยังไม่อาจโอ้อวดต่อหน้าทุกคนได้

ความเจ็บปวดนี้ ความคับอกคับใจนี้ มีใครเข้าใจหวังเสินซวีบ้าง

โอรสสวรรค์คนใดบ้างที่ไม่มีความโอหังของตนเองอยู่ในใจ

โอรสสวรรค์คนใดบ้างที่ยอมถูกคนอื่นกดขี่ ได้แต่เงยหน้ามองโอรสสวรรค์คนอื่นเปล่งประกายแสงหมื่นจั้ง

ไม่มี!

หากไม่ใช่เพราะอายุขัยไม่อนุญาต หวังเสินซวีคงเที่ยวเล่นสร้างเรื่องราวใหญ่โตไปแล้ว

คิดว่าศิษย์น้องหญิงเหมยหลันจู๋จวี๋ทั้งสี่โน้มน้าวให้หวังเสินซวีรับคำท้าสู้ เพียงเพราะพวกนางอยากให้หวังเสินซวีตายหรือ

ไม่ใช่แน่นอน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ทั้งหมด!

พวกนางเติบโตมากับหวังเสินซวีตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ แทบจะถือว่าเป็นสหายกัน จึงรู้สึกว่าหลายสิบปีมานี้หวังเสินซวีไม่มีความสุขเลย กระทั่งอึดอัดใจมาก

ศิษย์น้องหญิงทั้งสี่โน้มน้าวให้หวังเสินซวีรับคำท้าของฉีเซ่าเสวียน จากในแง่มุมบางอย่าง คือหวังจะให้ศิษย์พี่ได้สู้อย่างถึงอกถึงใจจริงๆ สักครั้ง จากนั้นได้หลุดพ้น

แต่หวังเสินซวีหนีออกจากดินแดนบูรพามาทะเลอุดร หรือว่าแค่เพราะกลัวตายจริงๆ

ไม่ใช่เด็ดขาด ตนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา จะไม่อยากแกร่งกว่าใครจริงๆ หรือ

ที่หวังเสินซวีหนีมาเพราะกลัวว่าตอนเผชิญหน้ากับฉีเซ่าเสวียน…จะอดใจตัดชีวิตสิ้นชีพไปเหมือนอย่างที่ศิษย์น้องหญิงทั้งสี่โน้มน้าวจริงๆ ไม่ได้!

การเลือกจากความรู้สึกกับเหตุผลไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาหวังเสินซวีอึดอัดใจมานานมาก เหมือนกับกักน้ำป่าไว้หมื่นจั้ง

และตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้คัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์มา แรงกดดันด้านอายุขัยพลันคลายออกเก้าส่วน

เงามืด ความคับอกคับใจ ความแค้นและอึดอัดใจที่อัดแน่นอยู่ในใจมาหลายสิบปี ตอนนี้ไหลออกมาเหมือนกับน้ำหลาก

หวังเสินซวี ต้องหาคนมาระบายออก!

……

ตอนนี้ในแดนลับเต่าดำ เสิ่นเทียนมีบุญคุณมอบวิชาและมอบสมบัติให้หวังเสินซวี เรียกได้ว่ามีบุญคุณยิ่งใหญ่ดั่งภูเขา

หวังเสินซวีย่อมไม่มีทางระบายกับเสิ่นเทียน อีกทั้งในใจเขายังมีความละอายใจอยู่นิดๆ ถ้าลงมือกับสหายเสิ่นจริงๆ เกรงว่าตนคงได้สงสัยในชีวิตยิ่งกว่าเดิม

ส่วนเอ๋าอู ดูเหมือนเด็กดื้อ อีกทั้งยังหน้าตาน่ารัก มิหนำซ้ำยังไม่ก้าวสู่ระดับผู้สูงศักดิ์เลย

หากลงมือกับเขาหวังเสินซวีก็รู้สึกขายหน้านิดๆ เหมือนรังแกสหายตัวน้อย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เหลือเพียงฉีเซ่าเสวียนแล้ว

สารภาพตามตรง หวังเสินซวีไม่ถูกชะตาฉีเซ่าเสวียนมาไม่ใช่แค่วันสองวัน

เป็นโอรสสวรรค์สูงสุดของดินแดนบูรพาเหมือนกัน ถ้าบอกว่าบุตรพุทธะขู่ตัวกับฟางฉางอยู่อันดับสองกับสามในรายนามแก่นพลังทองอย่างสมศักดิ์ศรีแล้ว

เช่นนั้นหวังเสินซวีอยู่อันดับสี่รายนามแก่นพลังทอง ความจริงเขาไม่ยอมรับอยู่ในใจมาตลอด เพราะเขาเชื่อว่าศักยภาพแท้จริงของเขาไม่แพ้ฉีเซ่าเสวียนเลย

เพียงเพราะกายเทพท้องนภาต้องสาป สำแดงคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภาต้องลดชีวิต ดังนั้นเขาถึงได้แต่เอาตัวรอดไปวันๆ

ตอนนี้ได้วิธีแก้คำสาปแล้ว หวังเสินซวีคิดว่าเขาก็อยากลองเป็น ‘อันดับหนึ่งใต้ฟ้า’ เช่นกัน!

“คนแซ่ฉี แซ่หวังไม่ถูกชะตาเจ้ามานานมากแล้ว! มา มาสู้กับข้า!”

ท่ามกลางแสงเงินปกคลุมทั่วร่าง ทั้งตัวหวังเสินซวีหลอมรวมเข้ากับมวลอากาศ นี่คือวิชาลับในคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภา

หลังจากสำแดงวิชาลับนี้ หวังเสินซวีจะต้านการโจมตีของศัตรูได้มากกว่าเก้าส่วนขึ้นไป ตนแทบจะอยู่ในแดนไร้พ่าย เรียกได้ว่ามีความสามารถระดับตัวโกง

เขามองฉีเซ่าเสวียนไกลๆ สองมือพลันประสานมุทรา “ค่ายกลกระบี่ท้องนภา เปิด!”

เมื่อเกิดหนึ่งความคิด มิติก็ปั่นป่วน

มิติพลันผันผวน พลังแห่งมิติไร้ที่สิ้นสุดกลายเป็นกระบี่เทพหลายเล่มปกคลุมตัวหวังเสินซวีไว้ตรงกลาง

ดวงตาขอบตาดำของเขาเพ่งมอง มุทราในมือพุ่งใส่ฉีเซ่าเสวียนในทันใด ไอกระบี่มิติไร้ที่สิ้นสุดตัดสลับกัน

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะสู้ไหวรึ”

ฉีเซ่าเสวียนยิ้มเยาะ เขารู้สึกว่าตอนนี้พลังค่ายกลกระบี่ของหวังเสินซวีแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

แต่แล้วอย่างไร

เขาฉีเซ่าเสวียนบุกฝ่าไร้พ่ายในรุ่นเยาว์ดินแดนบูรพา ย่อมมีหัวใจไร้พ่าย

ก็เหมือนที่สหายเสิ่นบอก คนที่เคยถูกเขาฉีเซ่าเสวียนกดขี่ไว้ใต้ล่าง ก็อย่าได้คิดพลิกตัวขึ้นมาเหนือศีรษะเขาได้อีกตลอดกาล

ตำแหน่งอันดับหนึ่งใต้ฟ้านี้ เขาไม่เคยคิดจะยกให้ใครทั้งนั้น!

……..

เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วง!

เนตรสวรรค์สีม่วงตรงระหว่างคิ้วเปิดออกช้าๆ

ฉีเซ่าเสวียนถือง้าวมังกรสวรรค์มองทะลุมิติ ไอกระบี่มิติมากมายพลันเผยออกมา

จุดที่แปลกที่สุดของไอกระบี่มิติคือมันไร้รูปไร้ร่องรอย แทบจะป้องกันไม่ได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการโจมตีที่ประหลาดที่สุด

ทว่าเนตรสวรรค์ของฉีเซ่าเสวียนมีความสามารถลึกลับ กลับมองทะลุไอกระบี่มิติพวกนี้ได้ กระทั่งคาดการณ์วงโคจรของไอกระบี่พวกนี้ได้

ง้าวมังกรแปดรกร้าง!

ไอม่วงไร้ที่สิ้นสุดข้างหลังไหลเชี่ยว พลันกลายเป็นเงามังกรเต็มผืนฟ้า

ฉีเซ่าเสวียนกวัดแกว่งง้าวมังกรในมือ ยิงประกายง้าวออกไปหมื่นสาย เวลานี้โดยรอบฟ้าดินเต็มไปด้วยเงาง้าว

ไอกระบี่มิติพวกนั้นทำลายการป้องกันไม่สำเร็จเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าฉีเซ่าเสวียน ถูกเขากันไว้ได้ทั้งหมด ข้ามผ่านแม่น้ำมาไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว

แน่นอน ถึงอย่างไรไอกระบี่พวกนี้ก็สร้างขึ้นจากอายุขัยของหวังเสินซวี แม้จะไม่ใช่การโจมตีสู้สุดชีวิตที่เผาอายุไปห้าสิบปี แต่ก็มีอานุภาพค่อนข้างไม่ธรรมดา

เมื่อขอบตาดำของหวังเสินซวีหนักขึ้น ฉีเซ่าเสวียนก็เริ่มมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทีละนิด เหงื่อลากผ่านหน้าผาก

เขา บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงฉีเซ่าเสวียน อันดับหนึ่งใต้ฟ้า กลับถูกเจ้าหวังเสินซวีกดดัน!

ไอ้ผีขี้ขลาดเผาชีวิตตัวเองขึ้นมาจริงๆ แล้ว ไม่อยากเชื่อว่าจะแข็งแกร่งเช่นนี้!

ฉีเซ่าเสวียนต้องยอมรับว่าเสิ่นเทียนพูดไว้ไม่ผิด หากอยู่ในสภาวะเผาชีวิต หวังเสินซวีไม่อ่อนแอไปกว่าเขาเลย กระทั่งในระดับบางอย่าง หวังเสินซวียังแกร่งกว่าเขาอีก

เพราะจนถึงตอนนี้ ฉีเซ่าเสวียนยังคงได้แต่ต่อต้านค่ายกลกระบี่ท้องนภา ไม่อาจใช้วิชาสายฟ้าทำลายค่ายกลนี้ได้

แม้ช่วงเวลาหนึ่งหวังเสินซวีจะทำอะไรฉีเซ่าเสวียนไม่ได้ แต่สำหรับแซ่ฉีแล้วนี่คือความอัปยศ!

“ข้ายอมรับว่าเจ้ามีศักยภาพแข็งแกร่งมาก มีคุณสมบัติสู้กับข้า”

ฉีเซ่าเสวียนดวงตาเร่าร้อนขึ้นมา “เพียงแต่ว่าแค่ค่ายกลกระบี่ระดับนี้ ยังทำอะไรแซ่ฉีไม่ได้!”

เพิ่งพูดจบ ไอม่วงหลายพันจั้งข้างหลังฉีเซ่าเสวียนก็หมุนม้วนอย่างบ้าคลั่งราวกับคลื่นลูกใหญ่ กลายเป็นแม่น้ำภูเขาไอม่วงสามสิบสามชั้น

แม้แม่น้ำภูเขาไอม่วงพวกนี้จะแตกกระจายลงอย่างรวดเร็วภายใต้การโจมตีของไอกระบี่มิติ แต่สำหรับฉีเซ่าเสวียนแล้ว ซื้อเวลาได้ครู่หนึ่งก็พอแล้ว

“แปดทิศหกประสาน ฝูงมังกรไร้หัว!”

ง้าวมังกรสวรรค์ในมือหลอมรวมกับตัวเขาเป็นหนึ่งเดียว ฉีเซ่าเสวียนเขย่าร่างกลายเป็นมังกรม่วงตัวหนึ่ง

ไอม่วงมหาศาลวนเวียนรอบตัวเขา ดูยิ่งใหญ่และสง่างามมาก กระทั่งด้านหลังมังกรม่วงนี้ยังเห็นสองปีกสีม่วงรางๆ

นั่นคือความหมายลึกล้ำส่วนหนึ่งของวิชาเผิง ซึ่งฉีเซ่าเสวียนเรียนรู้และนำมาหลอมรวมในง้าวมังกรแปดรกร้าง ทำให้อานุภาพของง้าวมังกรแปดรกร้างเพิ่มขึ้นจนถึงระดับใหม่

ทะลวง!

ร่างฉีเซ่าเสวียนพลันทะลวงมิติออกไป

ศีรษะมังกรม่วงนั้นปรากฏดวงตาที่สาม ดวงตาตรงกลางหน้าผากยิงแสงวิบัติสายหนึ่งออกมา

วิชาลับ…แสงวิบัติเนตรม่วง!

มิติพังทลายลง กระแสปั่นป่วนหลั่งทะลักเข้ามาไม่มีที่สิ้นสุด

มังกรม่วงเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าก่อนพุ่งกระโจนไปในที่หนึ่งของมิติ “ข้าหาเจ้าเจอแล้ว ยอมรับความพ่ายแพ้ของเจ้าเสีย!”

กรรซ์~

มังกรสวรรค์สีม่วงเงยหน้าคำราม มิติพังทลายลงโดยพลัน

หวังเสินซวียืนอยู่กลางกระแสปั่นป่วนของมิติสีดำนั้น ชุดคลุมขาวโบกสะบัด

นัยน์ตาเขาฉายแววตกใจวูบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ากำลังรบของฉีเซ่าเสวียนเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้

แต่หวังเสินซวีกลับไม่มีสีหน้ายำเกรงเลย แต่หัวเราะเยาะ “หากมีแค่นี้ ยังไม่พอหรอก!”

จอนผมดำเปลี่ยนเป็นสีขาวหิมะช้าๆ

ผิวพรรณรอบๆ ดวงตาสองข้างดำลึกขึ้นกว่าเดิม

หวังเสินซวีกางสองมือออกช้าๆ เหมือนกอดมวลอากาศแห่งนี้ไว้

เขาท่องเสียงเบา “สัมผัสถึงอากาศเถอะ! ยอมรับอากาศเถอะ! เข้าใจอากาศเถอะ! ทุกอย่างมีหรือไม่มีคือวิชา ทุกสรรพสัตว์ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากอากาศธาตุ และจะหวนคืนสู่อากาศธาตุ สดับฟังเสียงแห่งอากาศ กอดพลังแห่งอากาศ

วิชาลับ…นภากาศมรณะ!”

……

บึ้ม~

มิติพลันถล่มลง

ปรากฏหลุมสีดำขึ้นกลางกระแสปั่นป่วนของมิติไร้ที่สิ้นสุดนั้น

ทันทีที่ปรากฏหลุมดำ ทุกสรรพสิ่งรอบตัวเหมือนถูกดูดเข้าไป

ไอม่วงมืดฟ้ามัวดินนั้นถูกหลุมดำดูดเข้าไป ไม่อาจเติมเต็มได้ราวกับไหลเข้าไปในหลุมไร้ก้น

ฉีเซ่าเสวียนด้านหน้าหลุมดำนี้มีสีหน้ามืดลงเล็กน้อย เพราะเขาก็รู้สึกถึงอำนาจคุกคามแห่งความตายมาจากหลุมดำนี้

หากโดนหลุมดำนี้กินเข้าไป ต้องตายเป็นสิบรอบไม่มีเกิดใหม่แน่!

ฉีเซ่าเสวียนไม่เคยถูกหลุมดำนี้กินมาก่อน แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าห่างเจ้านี่มากเท่าไรก็ยิ่งดี

หวังเสินซวีเผยรอยยิ้ม ‘กุมทุกอย่างได้’ จอนผมสีขาวสะบัดอยู่ตรงหน้าเขา “ฉีเซ่าเสวียน ขอร้องข้าเถอะ! นภากาศมรณะนี่คือวิชาต้องห้ามสูงสุดในบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิท้องนภา เคยฝังร่างมหาจักรพรรดิมาแล้ว ต่อให้เจ้ามีคุณสมบัติของมหาจักรพรรดิ ก็ได้แต่เก็บความแค้นไว้ในใจ”

หวังเสินซวีในตอนนี้รู้สึกมีความสุขจนตัวลอยขึ้นฟ้าแล้ว

อันดับหนึ่งรายนามแก่นพลังทองอะไรนี่ ฉีเซ่าเสวียนผู้มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิอะไรนี่ ก็ยังต้องคุกเข่าขอยอมแพ้ไม่ใช่รึ

มีความสุข แปลกใจ เกิดคลื่นกระเพื่อม!

แม้ศึกนี้จะเผาอายุขัยแซ่หวังไปร้อยปี แต่แล้วอย่างไร อย่างมากก็กลับไปปิดด่านบำเพ็ญสักปีครึ่ง จากนั้นก็พักสักเล็กน้อย

มีความสุขก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากัน!

“จงอ้อนวอนเถอะ! หากเจ้าขอร้องจริงใจพอ แซ่หวังจะไว้ชีวิตเจ้า”

หวังเสินซวียืนเท้าสะเอวอย่างโอหังอยู่กลางมิติ จอนผมสีขาวสะบัดไปตามสายลม “เร็วหน่อย ไม่เช่นนั้นอีกเดี๋ยวแซ่หวังจะถอนวิชาไม่ได้แล้ว”

ฉีเซ่าเสวียนหน้าเขียวปัดในทันที “อย่าได้คิดเลย!”

จะให้แซ่ฉีอ้อนวอนรึ เหอะๆ ถึงตายก็ไม่มีทาง!

ฉีเซ่าเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึก ทั่วร่างเขาลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟสีม่วงสว่างจ้า เห็นได้ชัดว่าเริ่มเผาพลังปราณเดิมของตนแล้ว

ก็แค่เอาชีวิตมาระเบิดพลังไม่ใช่รึ!

ดีไม่ดีไม่ต้องบาดเจ็บเหมือนใครบางคนด้วย!

ทันใดนั้นง้าวมังกรสวรรค์ในมือฉีเซ่าเสวียนพลันขยายใหญ่ขึ้นหลายร้อยจั้ง ก่อนกระแทกใส่หลุมดำประหนึ่งเสายักษ์ค้ำฟ้านั้น

……

เปรี้ยง~

ประกายง้าวไม่มีที่สิ้นสุดรวมเป็นลำแสงร้อนแรง ปักเข้าไปกลางหลุมดำนั้นพร้อมกับพลังมหาศาลที่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้

ทันใดนั้นเอง หลุมดำที่เดิมทีมีเส้นผ่าศูนย์กลางจั้งกว่าก็พองขึ้น ก่อนจะพังลงช้าๆ

และเมื่อหลุมดำถล่มลง พลังงานมหาศาลก็ได้ปะทุตามมา

หวังเสินซวีกับฉีเซ่าเสวียนที่อยู่ด้านหน้าถูกโจมตีอย่างรุนแรง ถูกพลังมิติมหาศาลถาโถมเข้ามา โลหิตสาดกระจายเต็มผืนฟ้า

“ภูผานทีไอม่วงสวรรค์สามสิบสามขั้น รวม!”

เพิ่งเอ่ยจบ ไอม่วงมากมายนั้นก็กลายเป็นแม่น้ำภูเขาขวางไว้ข้างหน้า

ทางด้านหวังเสินซวีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง แสงเงินทั่วร่างสว่างขึ้นมาก รวมเป็นชุดเกราะป้องกันตรงหน้า

ปัง~

หลุมดำถล่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง เริ่มบิดเบี้ยวและหมุนวนช้าๆ

คำว่า ‘ช้าๆ’ นี่ไม่ได้ช้าจริงๆ แต่เป็นความรู้สึกหลอนจากตาเนื้อ

ความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้หลุมดำมิติบิดเบี้ยวเร็วยิ่ง จนเกิดเป็นน้ำวนมิติน่ากลัวขึ้น พลังกลืนกินเพิ่มขึ้นมาก

ทุกคนบนทั้งแท่นลอยฟ้าถูกหลุมดำมิติดึงดูดอย่างรุนแรง แทบจะถูกกลืนกินเข้าไป

“พี่เสินซวี รีบถอนวิชาของพี่เถอะ!”

เอ๋าอูยื่นมือเล็กออกมาคว้าศิลาหินเต่าดำไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความลนลาน

แม้เขาจะมีพรสวรรค์สายเลือดอันดับต้นๆ ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันของเผ่ามังกรดำ แต่ก็ยังเยาว์วัยเกินไป

ตอนนี้ในทุกคนเขาอ่อนแอที่สุด หลังน้ำวนมิติปรากฏขึ้นก็เป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว แทบจะถูกดูดเข้าไปแล้ว

ตอนนี้หวังเสินซวีอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ดูขอบตาดำยิ่งกว่าเดิม จอนผมเป็นจุดสีขาวเล็กน้อย

เขามุมปากกระตุก “นภากาศมรณะตัดอายุขัยมากเกินไป ข้าก็เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน ครั้งแรกก็ใช้กับเจ้าฉีเซ่าเสวียนเลย โดนเขากระแทกแตก ตอนนี้หลุดจากการควบคุมของแซ่หวังไปแล้ว”

ฟิ้ว~

หวังเสินซวีเพิ่งพูดจบ เอ๋าอูก็คว้าศิลาหินเต่าดำไว้ไม่อยู่อีก ตัวเขาถูกน้ำวนดูดไป ลอยไปทางน้ำวนมิตินั้น

“พี่เสิ่นเทียน พี่เซ่าเสวียน พี่เซิ่นซวี ช่วยข้าด้วย!”

เอ๋าอูตะเกียกตะกายไปมากลางอากาศ ดูร้อนใจจนแทบจะร้องไห้แล้ว

ฉีเซ่าเสวียนหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ไอม่วงสามพันจั้งที่คลุมทั้งตัวพลันกลายเป็นฝ่ามือยักษ์คว้าไปทางเอ๋าอู

ทว่าน้ำวนมิติมีแรงดูดรุนแรงจริงๆ ไอม่วงพวกนั้นถูกน้ำวนมิติกลืนกินไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ยืนหยัดได้อีกไม่นานแล้ว

ฉีเซ่าเสวียนมุมปากกระตุก “เจ้าคนแซ่หวัง รีบหาทางจัดการเจ้านี่เสีย ไม่อย่างนั้นทุกคนได้ตายกันหมดแน่!”

………

ฉีเซ่าเสวียนพูดพลางชำเลืองตามองเสิ่นเทียนที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่หน้าศิลาหินเต่าดำ มุมปากกระตุกขึ้นมา

สหายเสิ่นก็คือสหายเสิ่น พวกเราเทียบศักยภาพด้วยไม่ได้จริงๆ

แม้แต่น้ำวนมิติยังคุกคามไม่ถึงสหายเสิ่น

ท่าทางแน่นิ่งเช่นนี้ไม่สั่นคลอนเหมือนกับดูดติดอยู่กับพื้น บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดุดันดั่งพยัคฆ์ นั่งขัดสมาธิยังดูดติดพื้นได้!

น่าเสียดายก็แต่ตอนนี้สหายเสิ่นเหมือนจะอยู่ในสภาวะตระหนักมรรค ไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงรอบตัวเลย

เถาวัลย์สีเขียวมรกตพันรอบตัวเขา บนเถาวัลย์มีดอกไม้สีขาวเบ่งบานหลายดอก

ตอนที่ดอกไม้พวกนี้บานสะพรั่ง เสิ่นเทียนก็เหมือนรวมกับอากาศธาตุเป็นหนึ่งเดียว

ไม่ว่ามวลอากาศรอบตัวจะพังทลายลงอย่างไร เขาก็ยังสนใจเพียงแต่ตัวเอง

ศักยภาพของสหายเสิ่นลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ!

ปัญหาคือสหายเสิ่น เจ้ารีบตื่นมาเถอะ!

พวกสหายของเจ้าต้องการให้เจ้าช่วย ไม่เช่นนั้นต้องตายแน่!

น้ำวนมิติยังคงยิ่งใหญ่ จากที่หวังเสินซวีบอก มันจะใหญ่ไปตลอด จนกว่าพลังงานทั้งหมดในพื้นที่ที่แผ่ออกไปจะถูกดูดเข้ามาหมดแล้ว จากนั้นค่อยๆ ถูกกฎมิติเปลี่ยนกลับมาเป็นอากาศธาตุ

“จะให้น้ำวนใหญ่ต่อไปไม่ได้ ข้าจะสู้กับมันเอง!”

หวังเสินซวีทำหน้าแน่วแน่เด็ดขาด

เขาเป็นคนสร้างหลุมดำนี้ขึ้นมา เกิดปัญหา เขาก็ต้องรับผิดชอบเอง

วันนี้ต่อให้แซ่หวังจะเสียอายุขัยทั้งหมด ผมดำกลายเป็นผมขาว ก็ต้องจัดการน้ำวนนี่ให้ได้!

“สายลมพัดผ่านวารีเยือกแข็งง่าย ผู้กล้าจากไปไม่หวนคืน!”

หวังเสินซวีทำหน้าเศร้า “สุดทางเซียนใครจะอยู่สูงสุด เผาอายุขัยทั้งหมดกำราบมิติ!”

เพิ่งพูดจบก็พบว่าเส้นผมของหวังเสินซวีเปลี่ยนเป็นสีขาวด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน ขอบตาทั้งสองดำขึ้นเรื่อยๆ

แต่กลิ่นอายพลังรอบตัวเขาก็แกร่งขึ้นเช่นกัน กระทั่งทำให้ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าหวาดกลัว

ไม่อยากเชื่อว่าหวังเสินซวีในสภาวะสู้สุดชีวิตจะแข็งแกร่งเช่นนี้ เขาอาจจะสู้ได้ยากแล้ว

หรือว่า เจ้านี่คิดจะเผาอายุขัยทั้งหมดเพื่อช่วยข้ากับเสี่ยวอูกัน

ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าซับซ้อนขึ้นมา

…….

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนที่นั่งขัดสมาธิตระหนักมรรคใต้ศิลาหินเต่าดำ ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นช้าๆ

ตอนที่เห็นพวกฉีเซ่าเสวียนสามคนกำลังลำบาก เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย

“สหายไม่ต้องตระหนก แซ่เสิ่นมาช่วยพวกเจ้าแล้ว!”

หวังเสินซวีถึงกับงุนงง

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+