บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 417 เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จั๊กจี้ลิ้นนิดๆ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 417 เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จั๊กจี้ลิ้นนิดๆ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 417 เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จั๊กจี้ลิ้นนิดๆ!

พิธีแต่งตั้งครั้งนี้ นอกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่แล้ว แดนเทวาแดนผาสุกที่อยู่ใกล้กับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มาด้วย

เสิ่นเทียนเห็นกลุ่มคนจากแดนเทวาดาวประกายพรึกในกลุ่มคนที่มาแสดงความยินดี!

ในกลุ่มแดนเทวาดาวประกายพรึกครั้งนี้ มีคนรู้จักเก่าเยอะมาก

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เตรียมจะเข้าไปทักทาย

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาแล้ว!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หล่อเหลามาก ไม่ไหว ข้าหลงแล้ว~”

“เดิมทีคิดว่าศิษย์พี่ฉางเกอหล่อเหลามากแล้ว แต่เทียบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว อ้อ ข้าไม่น่าจะมีความคิดเช่นนี้สิ ใบหน้าของศิษย์พี่ฉางเหอจะไปมีสิทธิ์เทียบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร”

…….

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนเดินเข้ามา ศิษย์จากแดนเทวาดาวประกายพรึก โดยเฉพาะศิษย์หญิงต่างตื่นเต้นกันมาก ทุกคนหน้าแดง แก้มแดงเลือดฝาด!

ถึงอย่างไรด้วยบารมีของเสิ่นเทียนตอนนี้ ไม่ด้อยไปกว่าผู้อริยะบางส่วนเลย กระทั่งในบางด้านยังเหนือกว่า โดยเฉพาะหน้าตาที่หล่อเหลานี้ ยิ่งไม่เป็นที่ต้องสงสัยยิ่งกว่า!

กระทั่งตอนนี้มีหลายคนมอบฉายา ‘บุรุษรูปงามอันดับหนึ่งแห่งดินแดนบูรพา’ ให้เสิ่นเทียน

ในหมู่คณะจากแดนเทวาดาวประกายพรึก พลันมีคนหนึ่งวิ่งเข้ามา ร้องด้วยความดีใจ “พี่เสิ่นเทียน!”

คนนี้ตัวเล็กน่ารัก บนศีรษะวางกระถางดอกไม้ ในกระถางเป็นเถาวัลย์สีมรกตห้อยลงมา เหมือนกับผูกเปียเถาวัลย์เกลียว

รอบๆ กระถางดอกไม้นี้มีผมชี้หย่อมหนึ่งแกว่งไกวตามสายลม ดันกระถางดอกไม้ไว้อย่างมั่นคง

ใช่ เด็กสาวคนนี้คือหลี่เหลียนเอ๋อร์

…..

นางโผเข้าอ้อมกอดเสิ่นเทียน ปากยังพูดพึมพำ “พี่เสิ่นเทียน ข้าคิดถึงท่านมากเลย!”

เสิ่นเทียนลูบผมชี้บนศีรษะหลี่เหลียนเอ๋อร์ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “เหลียนเอ๋อร์ ไม่ได้เจอกันนานเลย!”

“พี่เสิ่นเทียน เหตุใดถึงไม่มาหาเหลียนเอ๋อร์ตั้งนานขนาดนี้!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์กอดเสิ่นเทียนไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยมือ

เสิ่นเทียนจนปัญญา ขณะจะพูดอะไรนั้นก็รู้สึกเย็นที่แผ่นหลัง

ปราณกระบี่ที่รวดเร็วและดุดันถึงขีดสุดพุ่งขึ้นฟ้า ชี้มาที่เสิ่นเทียน หนาวเยือกถึงที่สุด

มีกลิ่นอายสังหาร!

เสิ่นเทียนเกิดความระแวงขึ้นในใจ หมุนตัวกลับไปมอง

หรือจะเป็นคนที่มาชอบเหลียนเอ๋อร์ เลยหึงข้า

บทละครแบบเก่า น่าเบื่อและกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ มีแต่นักเขียนไร้ความสามารถเท่านั้นถึงเขียนออกมาได้!

เอ่อ เหมือนจะด่วนสรุปไปหน่อย~

ใบหน้าเสิ่นเทียนมีเส้นสีดำปรากฏขึ้นหลายเส้น

เขามองไปยังบุรุษวัยกลางคนร่างกำยำที่แบกกระบี่ไว้ข้างหลัง

คนนั้นจ้องเสิ่นเทียนเขม็ง ดวงตากระบี่เฉียบคมมีปราณกระบี่กระจายออก เหมือนจะกวัดแกว่งกระบี่ยาวในมือ ฟันเสิ่นเทียนให้ตาย

ใช่ เจ้านี่คือบิดาของหลี่เหลียนเอ๋อร์…หลี่ชางหลัน

เสิ่นเทียนพลันหน้าชา ไม่นึกเลยว่าเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ที่หวงลูกสาวจะมาด้วย และยังเห็นภาพนี้อีก!

ดีที่มีคนเดินมาลากหลี่เหลียนเอ๋อร์ไป ขัดความคลุ้มคลั่งของเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์!

คนที่ดึงหลี่เหลียนเอ๋อร์ไปก็คือราชันกระบี่บัวครามหลี่ฉางเกอ

เพียงแต่ว่าหลี่ฉางเกอในตอนนี้ทุบแก่นเป็นดรุณแล้ว ได้รับขนานนามว่าเจ้ากระบี่บัวคราม!

หลี่ฉางเกอลากหลี่เหลียนเอ๋อร์ไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญา “น้องพี่ เจ้าสำรวมหน่อยได้หรือไม่ ท่านพ่อยังดูอยู่ข้างหลังนะ!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์ดิ้นด้วยความไม่ยอม ทำเสียงขึ้นจมูก “พี่ ปล่อยข้า น่ารังเกียจ! อย่าขวางข้า ข้าจะไปหาพี่เสิ่น!”

หลี่ฉางเกอพูดไม่ออก

เขามองเสิ่นเทียน แววตาเต็มไปด้วยความจำใจ ก่อนพูดอธิบาย “น้องเขยอย่าเข้าใจผิด…เอ่อ!”

ยังไม่ทันพูดจบ หลี่ฉางเกอก็รู้สึกขนหัวลุก!

แย่แล้ว ปากบ้านี่ พูดผิดไปแล้ว!

ท่านพ่อยังอยู่เลย!

หลี่ฉางเหอถึงกับมุมปากกระตุก รีบแก้คำเรียกและเปลี่ยนเรื่องสนทนา

“แค่กๆ สหายเสิ่นองอาจห้าวหาญจริงๆ แยกกันครั้งก่อน ไม่นึกเลยว่าสหายเสิ่นจะยกระดับพลังบำเพ็ญได้เร็วเช่นนี้!”

หลี่ฉางเกอยังแอบตกใจ เจอกันครั้งก่อนเสิ่นเทียนยังเป็นแค่ไก่อ่อน ต้องให้เขาปกป้อง

นี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไรเอง ศักยภาพเสิ่นเทียนสู้กับผู้อริยะได้แล้ว!

ผู้โดดเด่นชนรุ่นหลังไม่เท่าไร ถึงอย่างไรห้าดินแดนก็มีสุดยอดอัจฉริยะมากมาย แต่เสิ่นเทียนเป็นแค่ผู้โดดเด่นชนรุ่นหลังหรือ นี่มันคือพรสวรรค์ยอดเยี่ยม!

เทียบกับเขาแล้ว หลายปีมานี้เขามัวทำอะไรอยู่

ฝึกบำเพ็ญหรือ ฝึกบำเพ็ญไม่มีประโยชน์อะไรเลยรึ

ถึงเขาจะคุยโวว่าเป็นอัจฉริยะ ตอนนี้ก็ยังอดสงสัยในชีวิตไม่ได้

เสิ่นเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้เจอกันปีกว่า พลังบำเพ็ญของสหายฉางเกอพัฒนาขึ้นมากเลย ยินดีด้วย! เห็นทีว่าในระดับดวงจิตดรุณ คงมีน้อยคนที่เทียบกับสหายฉางเหอได้!”

เสิ่นเทียนรู้สึกว่าหลี่ฉางเหอทะลวงดวงจิตดรุณแล้ว ทั้งยังซ่อนเจตจำนงกระบี่ที่พิเศษอย่างยิ่งเอาไว้

เจตจำนงกระบี่นี้ต่างกับเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์หลี่ชางหลัน เป็นเจตจำนงกระบี่ของหลี่ฉางเกอโดยเฉพาะ หากให้เวลาเขามากพอ หากหลี่ฉางเหอฝึกเจตจำนงกระบี่นี้ต่อไป บางทีอาจจะเดินบนวิถีกระบี่ของเขาเองได้

ดังนั้น พรสวรรค์ของหลี่ฉางเหอจึงไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ด้อยไปกว่าสุดยอดโอสรสวรรค์พวกนั้นเลย

หลี่ฉางเกอแบะปาก พูดพึมพำเสียงเบา “จะไปบ้าเท่าเจ้าได้อย่างไรล่ะ”

หลี่เหลียนเอ๋อร์เอ่ย “ท่านพี่ อย่าคิดว่าพูดเสียงเบาแล้วจะไม่มีใครได้ยินนะ! ท่านจะต้องริษยาพี่เสิ่นเทียนแน่ๆ ถึงได้ว่าร้ายเขา! ใจแคบจริงๆ มิน่าท่านถึงไม่มีคู่ครอง”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

หลี่ฉางเกองุนงง

เฮ้ย หลี่ฉางเหอพลันรู้สึกปวดตับนิดๆ!

นี่มันน้องสาวใครกันแน่ กอดผิดคนหรือไม่!

เหตุใดถึงกระแทกศอกเข้าหาฝ่ายตัวเองล่ะ!

แทงใจเหลือเกินน้องสาว!

……

“น้องสิบสาม ไม่ได้เจอกันนานเลย!”

เสิ่นเอ้าก็เดินเข้ามาเช่นกัน เขาเป็นศิษย์แดนเทวาดาวประกายพรึก มีฐานะไม่ธรรมดา มิหนำซ้ำ ครั้งนี้ยังเป็นพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเสิ่นเทียน เขาเป็นพี่ชายจะไม่มาได้อย่างไร

เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย “พี่หก!”

สองพี่น้องพบหน้ากัน ย่อมขาดการทักทายไปไม่ได้

สำหรับพี่หกเสิ่นเอ้า เสิ่นเทียนก็ยังมีความใกล้ชิดและความรู้สึกดีๆ หลายส่วน ถึงอย่างไรตอนนั้นก่อนที่เสิ่นเทียนจะเป็นตัวโกง เสิ่นเอ้าก็ไว้หน้าเขามากจริงๆ

ระหว่างสองพี่น้องมีความรักของพี่น้องหลายส่วน

ต้องรู้ว่าเส้นทางเซียนนั้น คนส่วนใหญ่ต้องโดดเดี่ยว ผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคมากมายยอมทำทุกอย่าง สุดท้ายเดินบนเส้นทางไร้พ่าย

พลันหันกลับมา กลับพบว่าข้างกายไม่มีใครอีกเลย

นี่คือความจำใจของผู้แข็งแกร่ง และเป็นบทสรุปที่ยากจะเปลี่ยนแปลงได้

การได้เจอกับเสิ่นเอ้าที่มีสายเลือดเดียวกับตน เสิ่นเทียนจึงอดอยากช่วยมิได้

เขานำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกมาเม็ดหนึ่ง ส่งให้เสิ่นเอ้า “พี่หก นี่ข้าเตรียมไว้ให้พี่!”

เสิ่นเอ้ามองโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าในมือพลางตัวสั่นอย่างรุนแรง

เขายื่นมือมาตามจิตใต้สำนึก แต่ก็ฝืนดึงมือกลับไป

เสิ่นเอ้ากระแอมไอเบาๆ “น้องสิบสาม โอสถล้ำค่าเช่นนี้ พี่จะรับไว้ได้อย่างไรกัน”

ผู้อริยะจากทุกขุมอำนาจใหญ่ต่างชิงโอสถเสริมสวรรค์กันอย่างบ้าคลั่ง ยอมหมดตัวเพื่อแลกกับหนึ่งเม็ด!

สุดท้ายก็ต้องเก็บกลับไปด้วยความเสียดายเพราะโอสถเสริมสวรรค์มีไม่พอ!

แต่ตอนนี้ เสิ่นเทียนกลับมอบโอสถที่ทำให้ผู้อริยะเป็นบ้ากับตนเปล่าๆ

เสิ่นเอ้าจะไม่ซาบซึ้งใจได้อย่างไร

“น้องสิบสาม โอสถสูงสุดเช่นนี้เอาไปแลกเป็นอาวุธอริยะเพิ่มศักยภาพเถอะ จะได้ปกป้องตัวเจ้าเองได้!”

แม้ในใจจะอยากได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามาก แต่เสิ่นเอ้าก็ยังเอ่ยปฏิเสธ

น้องสิบสามดีกับข้าเช่นนี้ ข้าจะไปเห็นโอสถดีกว่าได้อย่างไร

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางด้านข้างมุมปากกระตุก ก่อนจะฝืนยิ้มปั้นยากมานิดๆ

แต่ในใจเขากลับเจ็บจี๊ด ‘ศิษย์ชั่ว ศิษย์ชั่ว!

ศิษย์โง่ของข้านี่ นี่ไปปฏิเสธได้อย่างไร นั่นคือโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเชียวนะ!

แค่กินไปเม็ดเดียว อย่างน้อยก็ทำให้เจ้าไม่ต้องพยายามไปหลายพันปีเลย!’

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางตัวสั่นอย่างรุนแรง โมโหจนเคราแทบตั้งชี้!

…..

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าพี่หกจะเกรงใจเช่นนี้!

นี่ช่างน่าซึ้งใจจริงๆ เลย!

เสิ่นเทียนตบๆ บ่าเสิ่นเอ้า “พี่หกรับไว้เถอะ! ข้ายังมีของสิ่งนี้อีก อีกอย่างอาวุธอริยะอะไรนั่น ก็มีไม่ขาดเลย!”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็นำอาวุธอริยะเข่งหนึ่งที่ผู้อริยะพวกนั้นเพิ่งให้มา เอาออกมา

“หากพี่หกชอบก็เลือกได้ตามใจเลย”

อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดกับอาวุธอริยะมากขนาดนี้ มีอาวุธอริยะที่เพิ่มพลังให้เสิ่นเทียนได้ไม่เยอะ ของที่เหลือได้แต่เอาไปแลกเปลี่ยนหรือให้คนอื่น

ถึงอย่างไรให้คนอื่นก็คือให้ ให้เสิ่นเอ้าสักชิ้นจะเป็นอะไรไป ดีเลวอย่างไรก็เป็นพี่น้องแท้ๆ ที่เลือดข้นกว่าน้ำนะ!

เสิ่นเอ้ามองอาวุธอริยะเข่งนั้นด้วยอาการมึนงงกว่าเดิม

อะไรกัน!

เหตุใดข้ารู้สึกว่าตัวเองเทียบกับน้องสิบสามแล้ว ไม่มีอะไรดีสักอย่างเลยล่ะ!

ข้ามเรื่องโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไปก่อน ของสิ่งนี้มีเพียงตัวประหลาดอย่างน้องสิบสามที่ฝึกได้ ต้องรู้ว่าอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดชิ้นหนึ่ง ต้องให้อาจารย์ฟันฝ่ามาตั้งหลายร้อยปี

แต่น้องสิบสามหยิบออกมาตามใจก็เป็นอาวุธอริยะทั้งหมด!

ทั้งยังใส่มาเป็นเข่ง!

เลือกได้ตามใจ!

ความเย้ายวนนี้ ใครจะไปต้านไหวกัน!

เหตุใดองค์ชายแห่งอาณาจักรต้าเหยียนถึงต่างกันมากขนาดนี้!

ไม่รู้เพราะเหตุใด ถึงเกิดคำพูดเช่นนี้ดังขึ้นมาในความคิดเสิ่นเอ้า!

…….

เสิ่นเทียนกลอกตา ก่อนจะนำโอสถเสริมสวรรค์ออกมาอีกสองเม็ด แบ่งให้หลี่เหลียนเอ๋อร์และหลี่ฉางเกอ

“เหลียนเอ๋อร์ สหายฉางเกอ โอสถเสริมสวรรค์นี่ให้พวกเจ้า!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์มีฐานะพิเศษมากในใจเสิ่นเทียน นางเป็นน้องหญิงกุยช่ายคนแรกของเขา หากไม่ได้หลี่เหลียนเอ๋อร์ช่วยหนุนหลังเขา ตอนโอ้อวดลวงหลอกในสวนหมื่นวิญญาณคงไม่ราบรื่นขนาดนั้นแน่นอน

ส่วนหลี่ฉางเกอก็เคยช่วยเสิ่นเทียน มอบป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ช่วยเสิ่นเทียนแก้วิกฤติหลายครั้ง!

เสิ่นเทียนไม่ใช่คนลืมคุณคน ย่อมไม่ลืมพวกเขา

หลี่ฉางเกอกำโอสถเสริมสวรรค์ในมือพลางใจสั่นอย่างรุนแรง

เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องดีเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขา

“น้องเขย นี่จะได้อย่างไรกัน! ข้าหลี่ฉางเกอจะเป็นคนไม่ทำคุณประโยชน์แต่รับผลตอบแทนได้อย่างไร”

หลี่ฉางเกอรับโอสถเสริมสวรรค์มา แม้แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของบิดายังลืมไปแล้ว

เขากอดบ่าเสิ่นเทียนไว้ “น้องเขย ข้าเห็นมานานแล้วว่าเจ้าองอาจไม่ธรรมดา คู่ควรกับน้องสาวข้าแน่นอน!”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

เสิ่นเทียนทำหน้าจำใจ ก็แค่โอสถเสริมสวรรค์เม็ดเดียวเองไม่ใช่รึ!

ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้!

หลี่เหลียนเอ๋อร์หน้าแดงเรื่อ “ท่านพี่ ท่านพูดอะไรน่ะ! น่าอายชะมัด!”

จากนั้นหลี่เหลียนเอ๋อร์ก็ย่างก้าวดอกบัว เขย่งปลายเท้า ริมฝีปากหยกแดงฉ่ำกดที่ใบหน้าเสิ่นเทียน

“ขอบคุณพี่เสิ่นเทียนมาก!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์พูดเสียงเบา ใบหน้าแดงเขินอาย ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง

เหลียนเอ๋อร์เดาไว้ไม่ผิดจริงๆ!

พี่เสิ่นเทียนชอบเหลียนเอ๋อร์จริงๆ!

คิกๆๆ มีความสุขมาก!

ทุกคนเงียบ

เสิ่นเทียนงุนงง

อะไรกัน!

ข้าแค่เหม่อก็ถูกเอาเปรียบรึ ถูกเอาเปรียบไม่เท่าไร ขาดทุนก็ขาดทุนนิดเดียว!

แต่ที่สำคัญคือที่นี่ยังมีพ่อหวงลูกสาวอยู่อีกคน!

เจ้าทำเช่นนี้ ไม่กลัวบางคนคลุ้มคลั่งรึ

เป็นอย่างที่คิดไว้ เสิ่นเทียนชำเลืองตามองเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ พบว่าใบหน้าของตาแก่คนนั้นดำยิ่งกว่าก้อนถ่านหิน

ภายในกายหลี่ชางหลันยิงเจตจำนงกระบี่สะท้านฟ้าออกมา ปราณกระบี่วนเวียนไม่ขาด

เหมือนคลื่นลูกใหญ่ถาโถมลงมา พุ่งขึ้นฟ้า ฉีกห้วงอากาศรอบๆ ขาดเป็นเสี่ยงๆ

กระบี่เทพข้างหลังเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง แผ่อำนาจเทพน่าสะพรึงออกมา

ชิ้ง!

กระบี่เทพพลันออกจากฝัก ยิงแสงกระบี่สว่างพร่างพราว พลังยิ่งใหญ่มาแรง!

ในที่สุดเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ผู้หวงลูกสาวก็ทนไม่ไหว ชักกระบี่เทพจะสับคนแล้ว!

ทำเสิ่นเทียนตกใจเรียกค้อนเทพกำราบสมุทรออกมา เพ่งสมาธิจ้องตาแก่ฉุนเฉียวนี่

ใครจะรู้ว่าตอนที่ตาแก่นี่บ้าคลั่งจะฟันกระบี่ใส่ข้าจริงหรือไม่!

คนหวงลูกสาวน่ากลัวที่สุดแล้ว!

ดีที่เจ้าแดนเทวาดาวประกายพรึกเข้ามากอดหลี่ชางหลันไว้ทัน ขวางเขาไว้ “ศิษย์พี่ใจเย็น ใจเย็น!”

เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์กัดฟันพูดด้วยความโกรธ “จะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร ศิษย์น้องปล่อยมือ ข้าจะสับมันให้ตาย!”

เจ้าแดนเทวาดาวประกายพรึกพูดด้วยความจำใจ “ศิษย์พี่ใจเย็นไม่ได้ก็ต้องใจเย็นแล้ว! เขามอบโอสถเสริมสวรรค์ให้เราสามเม็ด นั่นคือหน่ออ่อนเซียนสามต้นเชียวนะ!

ฉางเกอกับเหลียนเอ๋อร์ยังได้ไป ท่านสับเขาตอนนี้ไม่เหมาะสมจริงๆ! อีกอย่าง ขนาดอริยะแท้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังฟาดค้อนปลิวไปได้ ต่อให้ท่านเข้าไปสับเขา ร่างกายแก่ชราอย่างท่านก็อาจจะต้านค้อนเขาไว้ได้ไม่กี่ค้อนกระมัง!”

เจ้าแดนเทวาดาวประกายพรึกพูดโน้มน้าวปากเปียกปากแฉะ เขากลัวว่าเจ้านี่จะพุ่งเข้าไปจริงๆ

เขาไม่กลัวเสิ่นเทียนเป็นอะไร แต่กลัวหลี่ชางหลันบุ่มบ่ามแล้วจะถูกทุบตี!

ข้ามเรื่องหลี่ชางหลันต้านค้อนโหดไม่ได้ก่อน ต้องรู้ว่าที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

พิธีใหญ่แต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ผู้แข็งแกร่งจากขุมอำนาจใหญ่แปดทิศมารวมกันที่นี่

หากหลี่ชางหลันออกมือสับเสิ่นเทียนจริงๆ ก็คงสับไม่ได้!

แพร่งพรายออกไปชื่อเสียงคงป่นปี้กันหมด!

…..

หลี่ชางหลันพลันหยุดชะงัก ในที่สุดก็วางกระบี่ในมือลง

เขามองเสิ่นเทียนด้วยใบหน้าปวดไข่ ก่อนจะมองค้อนใหญ่ในมือเขา พลางอดถอนหายใจมิได้ “ลูกไม่รักดี ลูกไม่รักดี!”

จากนั้น หลี่ชางหลันหมุนตัวกลับ เงาแผ่นหลังดูเงียบเหงา!

ผักกาดขาวน้อยของตน เจ้าผักกาดขาวน้อยเอ๋ย!

ก็ยังถูกคนขุดเอาไป!

หลี่ฉางเกอตบบ่าเสิ่นเทียน “น้องเขยวางใจเถอะ มีพี่อยู่ จะต้องให้ท่านพ่อยอมรับเจ้าให้ได้!”

เอาของเขามาแล้วก็ต้องช่วยพูดให้เขา หลี่ฉางเกอก็รับประกันให้ได้ รับปากว่าจะช่วยเสิ่นเทียนทำให้หลี่ชางหลันยอมรับ!

ตอนนี้เองพลันมีเสียงเฉยชาดังขึ้นข้างหลังเขา “ฉางเกอ กลับไปแล้วเพิ่มการฝึกเป็นเท่าตัว! กวัดแกว่งกระบี่วันละแสนครั้ง ไม่ทะลวงหลอมรวมเทพห้ามออกจากบ้าน!”

หลี่ฉางเกอมุมปากกระตุก รอยยิ้มแข็งทื่อทีละนิด

ระยำ เสแสร้งเกินไปหน่อย

เขาเพิ่งทุบแก่นเป็นดรุณไม่นาน ทะลวงหลอมรวมเทพก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไร!

บ้าจริง ข้าคงไม่ได้ออกไปเที่ยวเตร่อีกนานเลย!

เสิ่นเอ้ามองหลี่ฉางเกอด้วยความเห็นใจ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไฉนศิษย์พี่ถึงทำเช่นนี้ล่ะ! ไม่อยากเชื่อว่าจะกล้าลำพองใจลืมตัวต่อหน้าอาจารย์ลุงชางหลัน!”

เสิ่นเอ้าเข้าใจในการฝึกของหลี่ชางหลันดีมาก ว่ามัน…มีความสุขเพียงใด!

เฮ้อ เห็นพี่น้องตนถูกฝึกนี่มันมีความสุขจริงๆ!

“เจ้าด้วยเสิ่นเอ้า เจ้าก็ต้องไปฝึกพิเศษด้วย”

ทว่าคำพูดต่อมาของหลี่ชางหลันกลับทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเสิ่นเอ้าแข็งทื่ออย่างรวดเร็ว

น้องสิบสาม ช่วยข้าด้วย!

…..

อีกด้านหนึ่ง หวังเสินซวีกับฉีเซ่าเสวียนกำลังเตรียมการอวยพรให้เสิ่นเทียน

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนมอบโอสถ หวังเสินซวีก็ตาโต

โอสถเสริมสวรรค์ โอสถเสริมสวรรค์!

ข้าก็อยากได้โอสถเสริมสวรรค์เหมือนกัน!

หวังเสินซวีพลันกระโดดออกมา วิ่งมาข้างเสิ่นเทียน ก่อนพูดด้วยความเลื่อมใส “แซ่หวังพบสหายเสิ่นครั้งแรกก็รู้สึกว่าสหายเสิ่นมีพรสวรรค์สุดยอด เป็นมังกรในหมู่มนุษย์ ด้วยพรสวรรค์ของสหายเสิ่นจะต้องสำเร็จอยู่สุดยอดของห้าดินแดน แกร่งกว่าบางคนที่มีคุณสมบัติของมหาจักรพรรดิอีก!

แซ่หวังมองว่าสหายเสิ่นจะมีแค่คุณสมบัติของมหาจักรพรรดิได้อย่างไร นั่นเรียกว่ามีคุณสมบัติแห่งราชาเซียน คุณสมบัติแห่งจักรพรรดิเซียน!”

เพื่อกอดต้นขาหนาข้างนี้ ต่อให้ข้าแซ่หวังคุกเข่ากับพื้น ก็จะต้องอวยให้สหายเสิ่นมีความสุขให้ได้!

เสิ่นเทียนเงียบ

สหายหวังเจ้าเลียเช่นนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์บ้านเจ้ารู้หรือไม่

อีกด้านหนึ่ง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาหน้าดำมืดไม่น้อยไปกว่าหลี่ชางหลันก่อนหน้านี้เท่าไร

น่าขายหน้าอะไรเช่นนี้ เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาน่ะ

เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเป็นตัวแทนของแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา

กลับไปจะฆ่าศิษย์ชั่วอย่างเจ้าให้ตาย!

น่าขายหน้าเกินไปแล้ว!

……

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาโกรธจนตัวสั่น หัวใจเย็นเยือกแล้ว

กับอีแค่โอสถเสริมสวรรค์เล็กจ้อยเม็ดเดียว ศิษย์ชั่วนี่ถึงกับไม่เอาเกียรติของบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาแล้วรึ

มิหนำซ้ำ สมบัติสุดยอดอย่างโอสถเสริมสวรรค์นี่ เจ้าคิดว่าเจ้าพูดหน้ายื่นประจบไม่กี่คำ เขาจะให้เจ้ารึ

ใช้สมองหน่อยได้หรือไม่!

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “เอาละสหายหวัง โอสถเสริมสวรรค์นี่ให้เจ้า”

เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหวังเสินซวีคิดอะไรอยู่

แต่ก็จนปัญญาเพราะเจ้านี่คุยโม้ไม่ดูอะไรเลย คุยโม้จนน้ำไหลไฟดับ

ทำเอาข้าใจฝ่อเลย!

ขืนให้เจ้าคุยโม้ต่อไป เกิดคนอื่นเชื่อขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร

ถึงตอนนั้นเทพมารทุกคนถือดาบมาจะสังหารผู้มีคุณสมบัติจักรพรรดิเซียนอย่างข้า จะไม่จบเห่รึ

ไม่ได้ๆ ต้องให้เจ้านี่หุบปาก!

เสิ่นเทียนใช้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ายัดใส่ปากหวังเสินซวี ไม่ให้เขาเลียต่อไป

แต่การมอบโอสถเสริมสวรรค์ให้หวังเสินซวีก็ไม่ขาดทุนเช่นกัน เพราะเจ้านี่ก็เป็นบุตรแห่งโชคที่มีดวงชะตาสีม่วงเหนือศีรษะ

การยกระดับศักยภาพของเขาขึ้น จากนี้ก็จะได้เกาะมหาโชคลิขิตอีกหลายครั้ง!

ได้ทั้งจัดการเจ้าคนน่ารำคาญนี่ และยังได้เก็บเกี่ยวกุยช่ายอีก!

ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง!

สมกับเป็นข้า!

ข้านี่ฉลาดจริงๆ!

…..

เมื่อเห็นศิษย์ตนแค่พูดเลียบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่กี่คำก็ได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดหนึ่งแล้ว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาถึงกับงุนงง!

ควรรู้ไว้ว่าในงานประมูลเทพสวรรค์ อาวุธอริยะหลายชิ้นยังแลกเป็นโอสถเสริมสวรรค์สักเม็ดไม่ได้

โอสถสูงสุดเช่นนี้ ศิษย์ชั่วของตนเลียได้มาเช่นนี้รึ

สารภาพตามตรง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภารู้สึกว่าตน…

พลันจั๊กจี้ลิ้นนิดๆ แล้ว~

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด