บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 441 หรือว่าร่างแยกเจ้าจะแยกร่างได้อีก

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 441 หรือว่าร่างแยกเจ้าจะแยกร่างได้อีก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 441 หรือว่าร่างแยกเจ้าจะแยกร่างได้อีก

เสิ่นเทียนยืนกลางอากาศอย่างโอหัง รอบกายเปล่งแสงเทพ ปกคลุมท้องนภา!

ตรงหน้าเขา เข็มอริยะอัคคีชาดสามสิบหกเล่มขยับแสงดั่งดวงตะวัน กลิ่นอายพลังน่ากลัวถึงที่สุด!

เข็มทุกเล่มแผ่อำนาจเทพน่าสะพรึง เหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน!

สิ่งนี้เป็นอาวุธมหาอริยะ หลังกระตุ้นพลังทั้งหมดจะมีพลังอำนาจไม่มีสิ้นสุด ทะลวงอริยะแท้ได้ง่ายดาย

หากเข็มสามสิบหกเล่มรวมกัน แม้แต่เจ้าอริยะยังบาดเจ็บสาหัส แต่ดีที่เสิ่นเทียนไม่ใช่ตัวคนเดียว เขามีสิบคนเต็มๆ!

เสิ่นเทียนสิบคนช่วยกันแบ่งรับพลังของเข็มอริยะอัคคีชาดไปได้ทั้งหมด พวกเขาออกมือพร้อมกัน สำแดงพลังเทพไหลเข้าไปในเข็มอริยะอัคคีชาดเรื่อยๆ

ครืนๆๆ!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นเบาๆ

เข็มอริยะอัคคีชาดสามสิบหกเล่มถูกกำราบลง ไม่ทะลวงเข้าไปอีก อีกทั้งอานุภาพของเข็มอริยะอัคคีชาดพวกนี้ยังลดทอนลงเรื่อยๆ

ไม่นานนัก พลังงานของอาวุธมหาอริยะนี้ก็หมดลง ถูกเขาเก็บไป!

“มารดาเถอะ เจ้าหนูนี่เก็บได้จริงๆ รึ”

เมื่อเห็นอาวุธมหาอริยะระเบิดพลังแล้วยังทำอะไรเสิ่นเทียนไม่ได้ กระทั่งถูกเอาไป

หัวใจของเจ้าอริยะเสียหั่วกำลังหลั่งเลือด!

นั่นคืออาวุธมหาอริยะ แม้แต่อริยะแท้ยังใฝ่หากันอย่างบ้าคลั่ง เจ้าอริยะก็อาจจะไม่ได้ไปครอง!

ตอนแรกเขายอมทำคุณูปการยิ่งใหญ่ให้ลัทธิวิญญาณร้าย เจ้าลัทธิถึงมอบเข็มอริยะอัคคีชาดให้เป็นรางวัล

แต่ไม่นึกเลยว่าวันนี้เขาจะต้องระเบิดอาวุธมหาอริยะเพื่อหนีเอาตัวรอด!

ประเด็นคือระเบิดอาวุธมหาอริยะแล้วยังไม่มีประโยชน์อะไร สังหารคู่ต่อสู้ยังไม่ได้ ได้แค่ถ่วงเวลาครู่เดียว!

คราวนี้ขาดทุนเลือดสาดไปถึงบ้านเลยจริงๆ!

เจ้าอริยะเสียหั่วแอบด่าทออยู่ในใจ

นี่มันตัวบ้าอะไรกัน

ไม่ใช่แค่เรียกร่างแยกมาได้มากขนาดนี้ ศักยภาพยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้อีก!

เจอผีแล้วจริงๆ!

แม้ภายในใจจะเจ็บปวดอย่างยิ่ง เจ้าอริยะเสียหั่วก็ไม่ได้ออกมือเรียกเข็มอริยะอัคคีชาดคืน แต่หันหน้าหนีมุดเข้าไปในมิติ

เขาระเบิดอาวุธมหาอริยะก็เพื่อรั้งเสิ่นเทียน ตนจะได้หาโอกาสหนีออกไป ขืนยื้อต่อไป เสิ่นเทียนตั้งตัวได้เมื่อไรเขาก็จะไปไม่ได้แล้ว

ต่อให้ต้องทิ้งอาวุธมหาอริยะ เจ้าอริยะเสียหั่วก็ไม่อยากกลับไปรนหาที่ตาย!

“เจ้าหนู เจ้ารอข้าก่อนเถอะ เก่งจริงก็อย่าหนีล่ะ! ตอนนี้ข้าจะไปขอกำลังเสริม เตรียมตัวตายได้เลย!”

เจ้าอริยะเสียหั่วรวดเร็วมาก พริบตาเดียวก็หายวับไป มุดเข้าไปในกระแสมิติปั่นป่วน

แต่ก่อนไปเขายังอดด่าทอเสียงดังมิได้ ไม่มีมาดของเจ้าอริยะแม้แต่น้อย

ช่วยไม่ได้ เจ้านี่เป็นบ้าไปแล้ว!

ถูกเสิ่นเทียนสิบคนทุบค้อนใส่ และยังเสียอาวุธมหาอริยะอีก!

ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ต้องเป็นบ้า!

ตอนนี้เจ้าอริยะเสียหั่วคิดแค่อยากหนีไปหากำลังเสริม เรียกผู้อาวุโสลัทธิวิญญาณร้ายพวกนั้นมา!

แบบนั้นไม่ใช่แค่สังหารเสิ่นเทียนได้ กระทั่งยังได้เข็มอริยะอัคคีชาดคืนมา

ยอมทิ้งอาวุธมหาอริยะชิ้นหนึ่ง ทำให้เจ้าอริยะเสียหั่วปวดใจจนแทบกระอักเลือด!

…..

แน่นอน เจ้าอริยะเสียหั่วก็รู้ดีอยู่ในใจ เมื่อเขาติดต่อผู้อาวุโสคนอื่นมา กำลังเสริมของราชวงศ์เซียนต้าฮวงต้องมาถึงเช่นกัน

ถ้าจะกู้สถานการณ์ก็คงไม่มีหวัง

แต่ถึงจะเข้าใจหลักการ ก็ต้องหาข้ออ้างพูดจาปากเก่งให้กับตนเองด้วย!

ไม่เช่นนั้นเสียอาวุธมหาอริยะหนีไปเช่นนี้ น่าขายหน้าตายเลย!

เมื่อเห็นดังนั้น ฉีจ้านตกใจใหญ่ “พี่ใหญ่ ตาแก่นั่นจะหนีไปแล้ว!”

เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าอริยะเสียหั่วจะไม่สู้และหนีไป นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ใครเคยเห็นเจ้าอริยะถูกผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทุบตีจนหนีไปด้วยสภาพจนตรอกบ้าง

ฉีจ้านตั้งสติได้ก็รีบตามไปขวางเขา

ถึงอย่างไรก็เป็นเจ้าอริยะลัทธิวิญญาณร้าย หากสังหารเขาที่นี่ได้ จะทำให้ลัทธิวิญญาณร้ายเสียพลังปราณเดิมอย่างหนัก

แต่ก็จนปัญญาเพราะเจ้าอริยะเสียหั่วรวดเร็วยิ่ง ฉีจ้านตามไม่ทันเลย

“พี่ใหญ่ ตอนนี้จะเอาอย่างไรดี”

ฉีจ้านมีใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนใจ เจ้าอริยะเสียหั่วหนีไปแล้ว ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก

ถึงอย่างไรเจ้าอริยะก็ยังสู้เสิ่นเทียนไม่ได้

แต่ฉีจ้านกังวลว่าเจ้าอริยะเสียหั่วจะไปเรียกกำลังเสริม ในละแวกนี้ยังมีเจ้าอริยะคนอื่นอีก

หากมีเจ้าอริยะมาอีกสองสามคน พวกเขาคงตายแน่!

อีกทั้งดูจากท่าทางของเจ้าอริยะเสียหั่วแล้ว ไม่อยากจบลงด้วยดีเลย!

เสิ่นเทียนกลับทำหน้าเฉยเมย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร เขาหนีไม่รอดหรอก!”

เขาไม่ได้สนใจเจ้าอริยะเสียหั่ว แต่กำราบเข็มอริยะอัคคีชาดต่อไป!

เมื่อพลังเทพไหลเข้าไปเรื่อยๆ ในที่สุดอาวุธมหาอริยะก็สิ้นพลังงาน ตกลงบนพื้น

เสิ่นเทียนโบกมือกว้าง ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่ช่วยฉีจ้าน แต่ยังได้อาวุธมหาอริยะ!

กำไรเลือดสาด!

ส่วนเจ้าอริยะเสียหั่ว ย่อมมีคนจัดการอยู่แล้ว

……

ในกระแสมิติปั่นป่วน เจ้าอริยะเสียหั่วกำลังข้ามผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนีตายอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อเห็นไม่มีใครตามมา ในที่สุดเขาก็โล่งอก

ช่วยไม่ได้ พลังที่เสิ่นเทียนสำแดงออกมาทำให้เขาตกใจจริงๆ

เจ้าอริยะผู้ยิ่งใหญ่กลับถูกรุ่นเยาว์ทุบตีจนไม่มีแรงสวนกลับ ได้แต่หนีหัวซุกหัวซุน

เจ้าอริยะเสียหั่วอึดอัดใจยิ่งนัก กล้ำกลืนความแค้นนี้ไม่ลง!

เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไปรายงานเรื่องเจ้านี่กับเจ้าผู้คุมกฎลัทธิวิญญาณร้าย ขอแค่ทำให้เจ้าผู้คุมกฎหรือเจ้าลัทธิเกรงกลัวได้ จะต้องสังหารเสิ่นเทียนแน่!

แบบนั้นจะได้แก้ปมความแค้นในใจเขาด้วย!

เจ้าอริยะเสียหั่วกระตุ้นพลังฤทธิ์เดินทางในกระแสมิติปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นปรากฏร่างหนึ่งขึ้นขวางหน้าเขา คนนั้นสวมเกราะนักรบสีสันหลากสี แสงเรืองรองวนเวียนหนาทึบ กฎเกณฑ์ไหลหลาก

รอบกายยังอาบประกายสายฟ้าสว่างจ้า ยืนเอามือไพล่หลัง หันหลังให้เจ้าอริยะเสียหั่ว

เขาอยู่ในกระแสมิติปั่นป่วนเหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน กลิ่นอายพลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง!

เมื่อเห็นภาพนี้ เจ้าอริยะเสียหั่วพลันหยุดชะงัก มองร่างเงาตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว

“สหายเป็นใครกัน ไฉนต้องขวางทางข้า”

เจ้าอริยะเสียหั่วพูดอย่างจริงจัง ร่างนี้ดูไม่ธรรมดามาก ไม่ใช่คนธรรมดาเลย

ร่างนั้นหมุนตัวกลับมา ใบหน้ามีรอยยิ้ม “ตกใจหรือไม่ แปลกใจหรือไม่!”

เจ้าอริยะเสียหั่วพลันม่านตาหดตัวลง ใบหน้ามีความตื่นตกใจ “เหตุใดถึงเป็นเจ้า ไม่มีทาง เจ้าจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือว่ายังมีร่างแยกอีกกัน”

เจ้าอริยะเสียหั่วงุนงงไปหมด เมื่อครู่เขาเพิ่งหนีรอดมาจากเงื้อมมือเสิ่นเทียน ปรากฏว่าเสิ่นเทียนมาโผล่ตรงหน้าเขาอีกหรือ

เป็นไปได้อย่างไร!

เขาเห็นชัดว่าเสิ่นเทียนเรียกร่างแยกออกมาเก้าร่าง ทั้งยังกำลังต้านเข็มอริยะอัคคีชาดอยู่ เหตุใดถึงมีอีกคนตามมา ทั้งยังขวางไว้หน้าข้าอีกล่ะ

เจ้าอริยะเสียหั่วมองไปรอบๆ พบว่ามีเพียงเสิ่นเทียนคนเดียว ร่างแยกอื่นไม่ได้ตามมา

เขาถอนหายใจแรงๆ จิตใจผ่อนคลายลง

ตกใจเสียเปล่าเลย!

เดิมทีข้าก็คิดว่าเจ้าหนูนั่นไม่ยอมเลิกรา พาเก้าร่างแยกตามมาด้วย

ที่แท้ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น!

….

เจ้าอริยะเสียหั่วเผยแววตาเหี้ยมโหด ทำเสียงขึ้นจมูก “ใจกล้านัก ไม่อยากเชื่อว่าจะตามมาคนเดียว ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าอำนาจของเจ้าอริยะล่วงเกินมิได้!”

เจ้าอริยะเสียหั่วหัวเราะเยาะ

แม้เขาจะสู้เสิ่นเทียนสิบคนไม่ได้ แต่ก็รับมือกับคนเดียวได้ง่ายดาย

เขาจะฉีกร่างแยกนี้ของเสิ่นเทียนให้เป็นชิ้นๆ ขจัดความแค้นในใจเขา!

หลังเห็นเจ้าอริยะเสียหั่ว เสิ่นเทียนก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม

เสิ่นเทียนไม่นึกเลยว่าตาแก่นี่จะหนีมาทางที่เขากำลังมาที่นี่พอดี ไม่เสียเวลาเปล่าเลย!

เสิ่นเทียนส่ายหน้าแล้วเอ่ยอย่างเฉยชา “ดูท่าเจ้าคงดวงไม่ค่อยดีเอาเสียเลย!”

ในเมื่อส่งมาถึงหน้าประตู เสิ่นเทียนย่อมไม่มีเหตุผลปล่อยเขาไป!

เจ้าอริยะเสียหั่วโกรธแล้ว ไม่อยากเชื่อว่าจะโดนเสิ่นเทียนคนเดียวดูถูก

“โอหัง เป็นแค่ร่างแยกยังกล้ามาขวางทางข้า หรือเจ้าจะยังแยกร่างได้อีกกัน ตายเสียเถอะ!”

เจ้าอริยะเสียหั่วตะโกนด้วยความโกรธ กระตุ้นไฟชั่วร้ายพุ่งใส่เสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนหัวเราะเยาะ “เจ้าฉลาดจริงๆ เดาถูกอีกแล้ว!”

เขากระตุ้นเคล็ดวิชา ผนึกห้วงมิติไว้!

จากนั้นเคล็ดวิชาในมือเสิ่นเทียนเปลี่ยนไปอีกครั้ง ข้างหลังเขาเป็นแดนเทวาขมุกขมัวลอยขึ้นมา!

แสงเทพยิ่งใหญ่วนเวียนหนาทึบ เหมือนฟ้าดินถูกเปิด

เมื่อเห็นภาพนี้ เจ้าอริยะเสียหั่วพลันหยุดชะงัก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เหมือนไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง

เพราะว่าภาพนี้เขาเพิ่งเคยเห็นมาเมื่อไม่นานมานี้!

วิชานี้ย่อมเป็นจำแลงกายสรรพสัตว์!

มีเก้าร่างเดินออกมาจากข้างหลังเสิ่นเทียน อีกทั้งกลิ่นอายพลังยังน่ากลัวกว่าเจ้าพวกนั้น!

เสิ่นเทียนสิบคนยืนกลางอากาศ สถานการณ์เหมือนกับก่อนหน้านี้ทุกประการ!

เจ้าอริยะเสียหั่วเห็นภาพนี้แล้วก็ตาเหม่อลอย หลุดเสียงร้องด้วยความตกใจกลัว “มะ…ไม่มีทาง! ร่างแยกจะแยกอีกได้อย่างไร”

เจ้าอริยะเสียหั่วมุมปากกระตุกรัว

เจ้าเด็กนี่เรียกร่างแยกออกมาทีเดียวเก้าร่างยังไม่เท่าไร!

ข้าก็ยอมรับว่าอาจจะฝึกวิชาสะท้านโลกาอะไรบางอย่าง

ปรากฏว่าร่างแยกยังแยกร่างได้อีกรึ

เล่นอะไรกัน

เจ้าเด็กนี่เป็นตัวโกงแห่งสวรรค์รึ

เจ้าอริยะเสียหั่วเป็นบ้าไปแล้ว กว่าเขาจะหนีมาจากการปิดล้อมของเสิ่นเทียนไม่ใช่ง่ายๆ

ปรากฏว่าตอนนี้มีเสิ่นเทียนโผล่มาอีกสิบคนหรือ

นี่จะให้เล่นอะไรได้อีก

หรือว่าจะต้องระเบิดอาวุธมหาอริยะอีกชิ้นกัน

แต่ยังไม่ทันช่างมัน ภาพต่อมาก็ทำให้เขาอึ้งค้างอยู่ที่เดิม!

เสิ่นเทียนเคลื่อนไหวอีกแล้ว ปรากฏแสงสว่างจ้าตรงหน้า เรียกสมบัติวิเศษออกมาอีกครั้ง

กลิ่นอายพลังน่าสะพรึงปะทุออกมา แสงเทพสว่างจ้าปกคลุมทั่วกระแสมิติปั่นป่วน สว่างพร่างพราวถึงที่สุด ส่องสะท้อนฟ้าดิน

สมบัติวิเศษมากมายลอยขึ้นมาตรงหน้าเขา ลักษณะต่างๆ พลังหนาทึบไหลเวียน

มีกระบี่ยาว มีหม้อหลอมใหญ่ มีค้อน และยังมีถาดหยกเป็นต้น

ต่างกับอาวุธอริยะพวกนั้นก่อนหน้านี้ สมบัติวิเศษพวกนี้มีกลิ่นอายพลังน่ากลัวถึงที่สุด ทำให้เจ้าอริยะหวาดกลัว!

อำนาจคุกคามน่าสะพรึงพลันแผ่กระจายออกมา เหมือนดวงดาราระเบิดกดทับใส่เจ้าอริยะเสียหั่ว ทำให้เขาจิตใจแตกร้าว!

สมบัติวิเศษที่เสิ่นเทียนนำออกมาคืออาวุธเตรียมเซียนกระบี่ฟ้าสังหาร อาวุธเตรียมเซียนค้อนเทพกำราบสมุทร อาวุธเซียนถาดวัฏจักรหกมรรค อาวุธเตรียมจักรพรรดิพัดใบตอง อาวุธเตรียมจักรพรรดิหม้อสำริดจักรพรรดิชิง อาวุธจักรพรรดิเตาหลอมเทพสุริยะ…

ภาพนี้ทำให้เจ้าอริยะเสียหั่วตะลึงตาค้าง!

ไม่ใช่กระมัง!

มารดาเถอะ ของพวกนี้มีขั้นต่ำคืออาวุธเตรียมเซียนหรือ และยังมีอาวุธเซียน อาวุธเตรียมจักรพรรดิ อาวุธจักรพรรดิอีก

พี่ใหญ่สวรรค์ ท่านล้อเล่นกับข้าอยู่รึ

เจ้าเด็กนี่เป็นบุตรชายแท้ๆ ของท่านที่ลงมาฝึกฝนรึ

รบกวนท่าเก็บเขากลับไปด้วยเถอะ!

นี่จะให้เล่นอะไรได้อีก

ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิก็ยังไม่ร่ำรวยเท่าเจ้าเด็กนี่เลยกระมัง!

เจ้าอริยะเสียหั่วอึ้งค้างอยู่ที่เดิม กลืนน้ำลายอย่างบ้าคลั่ง

ก่อนอื่นเจอกับเสิ่นเทียนที่มีอาวุธอริยะ เขาก็ได้แต่ถูกทุบตีแล้ว!

ตอนนี้โผล่มาโหดกว่าเดิมอีก และยังถืออาวุธเซียน อาวุธจักรพรรดิ

สวรรค์!

สังหารข้าด้วยกระบี่เดียวเลยเถอะ!

กระทั่งเขายังคิดจะเลิกต่อต้านและออกปากอ้อนวอนแล้ว!

นี่จะให้เล่นอย่างไร

ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ต้านการระเบิดรัวอย่างบ้าคลั่งนี้ไม่ไหว!

ทว่าเขายังไม่ทันเอ่ย เสิ่นเทียนก็ลงมือแล้ว

เสิ่นเทียนสิบคนออกมือพร้อมกัน ทุกคนเรียกอาวุธสูงสุดโจมตีใส่เจ้าอริยะเสียหั่ว

พริบตาเดียว กระแสมิติปั่นป่วนก็ถูกพลังเทพปกคลุมทั้งหมด แม้แต่มิติที่นี่ยังถูกกระเทือนแหลกเป็นผุยผง กลายเป็นความว่างเปล่า

เพียงไม่กี่ลมหายใจ เจ้าอริยะเสียหั่วถูกอัดเป็นก้อน ไม่มีแม้แต่เสียงร้องโอดครวญ

ดวงจิตเทพสลายเป็นเถ้าธุลี สิ้นชีพลง

สุดท้ายเจ้าอริยะหนึ่งยุคก็นองเลือด ดับสูญไป!

แน่นอน ยังมีของบางอย่างเหลือไว้

นั่นคือเกราะนักรบที่เปล่งแสงสว่างจ้า มีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่ง รวมถึงแหวนวงหนึ่ง

นี่คืออาวุธมหาอริยะเกราะอัคคีดวงจิตมารกับแหวนมิติของเจ้าอริยะเสียหั่ว

ตอนที่เสิ่นเทียนออกมือได้ควบคุมแรงไว้

สมบัติล้ำค่าระดับอาวุธมหาอริยะ ทุบแตกไปจะน่าเสียดายเกินไป!

เสิ่นเทียนปัดฝุ่นในมือ ก่อนเอ่ยขึ้น “เจ้าคิดว่าแซ่เสิ่นจะให้โอกาสเจ้าระเบิดตัวเองหรือ”

เขาโบกมือกว้าง เก็บของพวกนี้ไปทั้งหมด ปลงอนิจจังในใจอย่างยิ่ง

ทำความเลวได้เกียรติยศ แต่ทำความดีต้องดับดิ้น คนโบราณไม่หลอกข้าจริงๆ

นี่สิถึงได้สมบัติล้ำค่า เป็นทางลัดที่เร็วที่สุด!

แม้ระดับล่างของลัทธิวิญญาณร้ายจะยากจน แต่ระดับสูงพวกนี้อ้วนท้วมกันจริงๆ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว!

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเก็บร่างแยกกับสมบัติวิเศษ จากนั้นหายไปในกระแสมิติปั่นป่วน

…..

เมืองทะเลบูรพา

ตอนนี้ทุกคนไม่รู้ว่าเจ้าอริยะเสียหั่วได้กลายเป็นกองเถ้าถ่านไปแล้ว

เมื่อประมุขวิหารมายาถูกสังหาร เจ้าอริยะเสียหั่วหนีไป ก็ถือว่าแก้วิกฤติที่นี่ลงได้

นอกจากยอดค่ายกลเซ่นไหว้โลหิตแล้ว ไม่มีอะไรคุกคามถึงผู้บำเพ็ญทุกตระกูลอีก

คนอื่นในลัทธิวิญญาณร้ายถูกฉีจ้านทุบกระบองตายทั้งหมด!

ส่วนสาวกวิญญาณร้ายพวกนั้นก็ถูกผู้บำเพ็ญทุกตระกูลปิดล้อม ไม่มีใครเห็นใจสาวกวิญญาณร้ายพวกนี้เลยแม้แต่น้อย

ก่อนอื่น มีผู้บำเพ็ญหลักหมื่นตายด้วยน้ำมือสาวกวิญญาณร้ายพวกนี้

เมืองทะเลบูรพามีแต่ซากศพนอนเกลื่อน คนพวกนี้คือผู้บริสุทธิ์!

ผู้บำเพ็ญทุกตระกูลถูกจุดไฟโทสะขึ้น ระบายออกมาทั้งหมด สังหารสาวกวิญญาณร้ายลงทั้งหมด

หลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทุกคนก็ดีใจกันใหญ่ พวกเขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ วินาทีก่อนพวกเขายังวนเวียนอยู่ตรงขอบความเป็นตาย วินาทีต่อมาก็พ้นจากวิกฤติแล้ว!

ดีที่มีผู้แข็งแกร่งท่านนั้นออกมือ!

เจ้าเมืองสวีอันเดินเข้ามาเช่นกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเคารพ “ขอบคุณผู้อาวุโสมากที่ออกมือช่วยกับอันดับหนึ่งฉีจ้าน”

หากไม่ได้เสิ่นเทียนกับฉีจ้าน ผู้บำเพ็ญเมืองทะเลบูรพาคงกลายเป็นของเซ่นไหว้ลัทธิวิญญาณร้ายไปแล้ว ถูกหลอมกลายเป็นกองกระดูกและโลหิต

ดังนั้น ภายในใจสวีอันจึงเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจและเคารพ!

และยังมีโอรสสวรรค์จี้เซี่ยบางส่วนเดินเข้ามา พวกเขากำราบสาวกวิญญาณร้ายอยู่ก่อนหน้านี้

ไม่เช่นนั้นด้วยศักยภาพของผู้บำเพ็ญเมืองทะเลบูรพาคงแตกพ่ายเร็วกว่านี้ แต่ดีที่ทุกอย่างจบลง พวกเขาว่างแล้วจึงรวมกันมา

“ขอคารวะบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และอันดับหนึ่งฉีจ้าน!”

“ดีที่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกมือ พวกเราถึงได้รอดปลอดภัยกัน!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สมกับเป็นอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์!”

พวกเขาเอ่ยด้วยความเคารพ แววตามีแต่ความตื่นเต้น

เหล่าโอรสสวรรค์ไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะแกร่งขนาดนี้ แม้แต่เจ้าอริยะยังไล่ถอยไปได้!

ฉีจ้านหัวเราะเสียงดัง “แน่นอนอยู่แล้ว พี่ใหญ่ออกม้า หนึ่งสู้สิบได้! แม้แต่เจ้าอริยะยังถูกทุบตีเป็นสุนัข น่าเกรงขาม!”

ยิ่งเห็นกำลังรบของเสิ่นเทียน ฉีจ้านก็ยิ่งเคารพมากขึ้น

มีผู้สูงศักดิ์สวรรค์คนใดเอาชนะเจ้าอริยะได้บ้าง

ขนาดได้ยินยังไม่เคย เห็นจึงยิ่งไม่ต้องพูดถึง!

แต่ข้าเห็นแล้ว!

อีกทั้งยังเป็นพี่ใหญ่ของข้า!

…….

ขณะเดียวกัน ฉีจ้านนึกถึงคำถามข้อหนึ่ง จึงถามด้วยความแปลกใจ “พี่ใหญ่ ท่านกลับมาได้อย่างไรกัน ยันต์เคลื่อนย้ายของท่านจักรพรรดิไม่น่าจะไร้ผลได้สิ!”

ไม่มีเหตุผลเลย!

ท่านจักรพรรดิไม่มีทางหลอกแน่นอน!

อีกทั้งตอนที่ข้ากระตุ้นยันต์ยังสัมผัสได้ถึงพลังของมิติ ส่งคนไปแล้ว!

ฉีจ้านแปลกใจ เสิ่นเทียนกลับมาได้อย่างไรกันแน่

เขาขบคิดถึงคำถามนี้ในใจ คิดจนหนังศีรษะแทบแตก

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นก็พูดด้วยใบหน้าไม่แดงหัวใจไม่เต้น “เมื่อครู่นั่นคือร่างแยกของข้า ข้าเคยฝึกวิชาลับแขนงหนึ่ง สามารถแยกเป็นร่างแยกกายหยาบได้”

เขาไม่คิดจะหลอกต่อไป ถึงอย่างไรก็เป็นสมบัติวิเศษของจักรพรรดิ จะไปไร้ผลได้อย่างไร

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!”

ฉีจ้านเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว แบบนี้สิถึงอธิบายได้ชัดเจน!

แต่ก็เหมือนนึกอะไรได้ ฉีจ้านมุมปากกระตุกรัว “พี่ใหญ่ ดังนั้นสภาพสูงสุดของท่านก็ไม่ใช่ร่างแยกสิบร่าง แต่เป็นร่างแยกยี่สิบร่างออกมาปิดล้อมรึ”

ร่างแยกยี่สิบร่าง แค่คิดก็น่าตกใจแล้ว!

พี่ใหญ่สิบคนทุบตีเจ้าอริยะได้

หากพี่ใหญ่ยี่สิบคน เช่นนั้นจะน่ากลัวเพียงใด

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก ก่อนจะยิ้มแห้งๆ “แค่กๆ จะเป็นไปได้อย่างไร แยกร่างแล้วจะแยกอีกได้อย่างไร อย่าโง่เลยเจ้าเด็กนี่ เจ้าคิดว่ามันเป็นตุ๊กตารึ”

แค่กๆ~

เจ้าลิงกังนี่ เหตุใดจู่ๆ ถึงฉลาดขึ้นมาได้นะ

เกือบถูกเดาความจริงออกแล้ว!

เสิ่นเทียนฝึกคัมภีร์เทพโลหิตกับจำแลงกายสรรพสัตว์พร้อมกัน สองวิชาลับนี้รวมร่างแยกได้ ขอแค่มีวิชาลับจำแลงกายสรรพสัตว์ ก็จะใช้พลังฤทธิ์เรียกร่างแยกมาได้ แต่อยู่ได้ไม่นาน

ร่างแยกบุตรเทพโลหิตก็สร้างขึ้นมาจากโลหิตบริสุทธิ์ เป็นร่างแยกอิสระข้างนอก

ร่างแยกนี้มีพลังส่วนหนึ่งของร่างหลัก และยังหลอมรวมกับร่างหลักได้

แบบนี้ก็ย่อมใช้จำแลงกายสรรพสัตว์ได้!

เมื่อใช้คัมภีร์เทพโลหิตควบคู่กับจำแลงกายสรรพสัตว์ ก็จะใช้ศาสตร์การปิดล้อมอย่างไร้เหตุผลนี้ได้ถึงจุดสูงสุด

ลองคิดดูว่าทุกร่างแยกบุตรเทพโลหิตใช้จำแลงกายสรรพสัตว์ได้ สร้างเป็นร่างแยกเก้าร่าง จากหนึ่งเป็นเก้า นั่นจะน่ากลัวเพียงใด

เพียงแต่สำหรับคนธรรมดาแล้ว การฝึกคัมภีร์จักรพรรดิถึงขั้นแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องยากยิ่ง

ไม่ใช่แค่ต้องใช้พรสวรรค์สูงสุด แต่ต้องมีทรัพยากรจำนวนมากค้ำยัน

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝึกสองชนิด สิบชนิดพร้อมกัน!

แต่สำหรับเสิ่นเทียน นี่ไม่มีความกดดันเลย

เขามีกายมรรคสวรรค์ประทาน และยังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสามประกายวารีเทพ

กล่าวได้ว่าเสิ่นเทียนในสภาพสูงสุดไม่ใช่ยี่สิบร่างแยก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเขามีร่างแยกบุตรเทพโลหิตเท่าไร!

ร่างแยกเท่ากับร่างแยกบุตรเทพโลหิตคูณด้วยเก้า!

แน่นอน จุดนี้เสิ่นเทียนย่อมไม่พูดออกมา

ไม่เช่นนั้นได้ถูกหมายตาง่ายๆ แน่

ถึงอย่างไร ปืนก็ยิงนกตัวใหญ่ที่โผล่มาก่อน!

……

ฉีจ้านได้ยินแล้วก็รู้สึกสบายใจนิดๆ!

หากเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ศักยภาพของเสิ่นเทียนก็จะแกร่งจนน่ากลัว

ฉีจ้านถาม “พี่ใหญ่ เรื่องที่นี่จบแล้ว แต่เจ้าอริยะเสียหั่วหนีไปได้ ยังเป็นภัยคุกคามอยู่! เราจะกลับไปรายงานสำนักศึกษาดีหรือไม่”

ฉีจ้านไม่รู้ว่าเจ้าอริยะเสียหั่วตายแล้ว เลยกลัวว่าลัทธิวิญญาณร้ายจะกลับมาอีก ถึงตอนนั้นจะเกิดวิกฤติอีกครั้ง

ดังนั้นเขาเลยคิดจะกลับไปก่อน ติดต่อเบื้องบนสำนักศึกษาให้ส่งผู้แข็งแกร่งมา

การลอบโจมตีของลัทธิวิญญาณร้ายครั้งนี้มีอะไรแปลกๆ ไป

เมื่อก่อนลัทธิวิญญาณร้ายจะแค่ลอบลงมือกับขุมอำนาจเล็กๆ ไม่เคยก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้มาก่อน ถึงขนาดกล้าลอบโจมตีผู้แข็งแกร่งทุกตระกูล!

ดูท่าลัทธิวิญญาณร้ายคงคิดจะลงมือแล้ว ถึงตอนนั้นอาจจะเกิดสงครามขึ้นได้

จุดนี้ ต้องให้ความสำคัญ!

แต่เสิ่นเทียนกลับส่ายหน้า “พวกเราส่งข่าวกลับไปก่อน แต่ไม่ต้องรีบกลับ”

ฉีจ้านเกาศีรษะ “เพราะเหตุใดกัน”

เขางุนงงนิดๆ ข้างนอกมีอะไรน่าสนุกกัน

เสิ่นเทียนส่ายหน้า “ร่างแยกข้าอยู่ห่างไปหลายแสนลี้ พบแดนลับแห่งหนึ่ง พวกเราเข้าไปสำรวจกัน!”

ใช่ ในโชคลิขิตเดิม ฉีจ้านใช้ยันต์เคลื่อนย้ายหนีไปแล้วก็พบกับโชคลิขิต

และหลังจากร่างแยกเสิ่นเทียนถูกส่งออกไปก็ไม่ได้ว่างเช่นกัน ไม่นานก็ไปตามตำแหน่งในภาพโชคลิขิตของฉีจ้าน พบกับแดนแห่งโชคลิขิต!

ฉีจ้านได้ยินดังนั้นถึงกับอึ้งไปเลย

นี่มันอะไรกัน ใช้ยันต์เคลื่อนย้ายไปหลายแสนลี้ก็พบแดนลับได้รึ

ดวงจะดีไปหน่อยกระมัง!

…..

ฉีจ้านพลันนึกขึ้น ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนมีชื่อเสียงโด่งดังห้าดินแดนไม่ใช่แค่อาศัยศักยภาพอย่างเดียว แต่ยังมีดวงชะตาสูงสุด ได้รับขนานนามว่าเป็นบุตรแห่งโชคชะตาสวรรค์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติการณ์

วันนี้ได้เห็น เป็นเช่นนั้นจริงๆ!

ตามพี่ใหญ่จะได้กินดีอยู่ดีจริงๆ!

“พี่ใหญ่ เช่นนั้นเรารีบไปกันเถอะ!”

หลังมั่นใจว่าเสิ่นเทียนคือบุตรแห่งโชค ฉีจ้านก็ไม่ลังเลใดๆ อีก ตามเขาไปสำรวจแดนลับทันที

“ดี เราออกเดินทางตอนนี้กันเลย!” เสิ่นเทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

เจ้าลิงกังนี่ไม่รู้ว่าเดิมทีโชคลิขิตนี้เป็นของเขา แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ได้เลือกฮุบไว้คนเดียว แต่ลากฉีจ้านเข้าไปสำรวจด้วยกัน

แบบนี้จะได้โชคลิขิตกันทั้งสองฝ่าย ส่วนเสิ่นเทียนยังได้เพิ่มดวงชะตา!

สำเร็จดวงชะตาสูงสุดในเร็ววัน มีสวรรค์พิทักษ์ นี่ต่างหากคือเป้าหมายหลักของเสิ่นเทียน!

…..

ส่วนโชคลิขิต สมบัติล้ำค่าอะไรพวกนี้ พูดมาคนอื่นก็อาจจะไม่เชื่อ

เสิ่นเทียนไม่ค่อยสนใจสมบัติอะไรพวกนี้เท่าไร

ถึงอย่างไรก็ไม่ขาดแคลน~

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด