บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 404 พลังวิเศษสูงสุด เบิกฟ้าผ่าปฐพี!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 404 พลังวิเศษสูงสุด เบิกฟ้าผ่าปฐพี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 404 พลังวิเศษสูงสุด เบิกฟ้าผ่าปฐพี!

เสิ่นเทียนนั่งขัดสมาธิ

เขากำลังตระหนักพลังที่แผ่มาจากดรุณยักษ์

ในกายดรุณยักษ์เผยทวารสามร้อยหกสิบห้าทวาร สอดคล้องกับทวารใหญ่สามร้อยหกสิบห้าทวารของร่างกายมนุษย์

ทุกทวารเปล่งแสงสว่างเชื่อมต่อถึงกัน อานุภาพที่แสดงออกมาเรียกได้ว่าน่ากลัวสุดขีด

แต่พลังงานนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ระดับนิพพานจะควบคุมได้

ร่างกายมนุษย์มีทวารใหญ่ทั้งหมดสามร้อยหกสิบห้าทวาร ทวารเล็กสามพันหกร้อยห้าสิบและทวารลับแสนทวาร

พลังแห่งทวารของระดับนิพพานกระจายไปทั่วร่าง ก่อตัวเป็นเหมือนทหารไร้สังกัด ไม่อาจรวมเข้าด้วยกันได้ มีเพียงระดับผ่านเทวะเท่านั้น กายเนื้อเกิดการเปลี่ยนแปลง ทวารที่เดิมทีกระจัดกระจายกันก็เริ่มต่อกันเป็นพลังแห่งผ่านเทวะ

ก่อนจะนำพลังแห่งผ่านเทวะพวกนี้เคลื่อนไปตามเส้นทางที่ต่างกัน แสดงเป็นพลังวิเศษ

ภายใต้การผลักดันของฤทธิ์ยาโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า สามร้อยหกสิบห้าทวารในกายดรุณยักษ์ไหลมารวมด้วยกัน

ต้องบอกว่านี่มันน่าเหลือเชื่อ

เห็นทุกอย่างนี้แล้ว เสิ่นเทียนก็เกิดการตระหนักรู้

ทวารเทพในกายเขาขยับแสงสว่าง ระเบิดพลังอำนาจแก่กล้า

พลังงานลี้ลับพุ่งมาจากในกายเสิ่นเทียน เปล่งแสงสว่างยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ส่องสีสันหลากสีละลานตา

เขากำลังตระหนักพลังที่ดรุณยักษ์ใช้ อยากจะลองเชื่อมสามร้อยหกสิบห้าทวารใหญ่เข้าด้วยกัน

ตอนนี้ดรุณยักษ์กลางโลกจิตวิมานม่วงเบิกฟ้าผ่าปฐพีมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว อากาศธาตุสลัวไร้พรมแดนถูกฟันขาด กฎเกณฑ์ปั่นป่วนถูกกำราบ เหมือนจะทำให้ฟ้าดินอากาศธาตุสลัวสงบนิ่งลง

ดรุณยักษ์ชูขวานสงครามไร้พ่ายขึ้นสูง กำสองมือแน่น สามร้อยหกสิบห้าทวารในกายเปล่งแสง ทำให้กลิ่นอายพลังพลันพุ่งถึงขีดสุด

การโจมตีนี้ มีอานุภาพจะเบิกฟ้าผ่าปฐพี!

บึ้ม!

เสิ่นเทียนระเบิดแสงเทพในกาย แสงสว่างเปล่งแสงสีสันหลากสีถึงที่สุด

ทวารใหญ่มากมายถูกพลังงานไร้รูปเกี่ยวโยงกัน ทำให้ทั่วร่างเขาเปล่งแสงเทพ กลิ่นอายพลังเพิ่มขึ้นเป็นจังหวะ

ชิ้ง!

เสียงกระบี่ดังชิ้งๆ!

เหมือนสัมผัสอะไรได้บางอย่าง กระบี่ฟ้าสังหารในปอดเสิ่นเทียนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ฉึก!

เสิ่นเทียนยื่นมือขวาออกมา ห้านิ้วมือพลันกำแน่น

สายรุ้งสีแดงลากผ่าน กระบี่ฟ้าสังหารพลันพุ่งออกจากปอดเสิ่นเทียน

กระบี่ฟ้าสังหารเข้ามือ เจตจำนงกระบี่เย็นยะเยือกยิ่งพลันพุ่งขึ้นฟ้าและตัดสลับทำลายล้าง!

ขณะเดียวกัน ทวารใหญ่ในกายเสิ่นเทียนยังเชื่อมเข้าด้วยกันมากกว่าครึ่งด้วยการผลักดันของพลังงานไร้รูปนี้

“นี่คือ…พลังของยอดพลังวิเศษ”

จักรพรรดิชิงเพ่งสายตามองเล็กน้อย พลังวิเศษไม่ใช่แค่มีอานุภาพแข็งแกร่ง แต่ยังหมายถึงว่าผู้บำเพ็ญได้ก้าวสู่ระดับผ่านเทวะ

มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับผ่านเทวะเท่านั้นถึงใช้อานุภาพของพลังวิเศษลองเชื่อมโยงทวารในกายได้

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนกลับใช้พลังระดับนิพพาน เชื่อมโยงพลังแห่งทวารไปมากกว่าครึ่ง!

นี่ก็หมายความว่าเสิ่นเทียนตระหนักถึงแก่นรากผ่านเทวะแล้ว!

ขอแค่เขายินดีก็จะทะลวงพลังได้ทุกเมื่อ!

ระดับเช่นนี้ถือว่าทะลวงครึ่งก้าวผ่านเทวะแล้ว ถึงอย่างไรก็ขาดเพียงเยื่อบางชั้นนั้น

จากระดับนิพพานตอนต้นไปสู่ครึ่งก้าวผ่านเทวะ สิ้นสุดลงในชั่วครู่เดียว ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนรวดเร็วจริงๆ!

แน่นอน นี่เกี่ยวกับการที่จักรพรรดิชิงมอบพลังวิญญาณให้จำนวนมหาศาลด้วย

นั่นคือทุนเดิมของสุสานจักรพรรดิชิง แม้แสนปีมานี้จะไม่มีทางดูดซับพลังวิญญาณได้ตลอดเวลา ถึงช่วงหนึ่งก็จะอิ่มตัว แต่จากการคาดการณ์ของจักรพรรดิชิง พลังวิญญาณพวกนั้นก็เทียบได้กับยอดรวมพลังฤทธิ์ทั่วทั้งตัวของผู้อริยะระดับสูงหลายคน

แต่ถูกเสิ่นเทียนดูดจนแห้ง ไม่อยากเชื่อว่าจะทะลวงได้แค่ขอบเขตพลังใหญ่เดียว

แค่คิดก็น่าขนหัวลุกแล้ว!

…..

เสิ่นเทียนหลับตาปิดสนิท ในความคิดฉายเป็นภาพดรุณยักษ์เบิกฟ้าไม่หยุด

ดรุณยักษ์เบิกฟ้าดินมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว!

ขวานสงครามไร้พ่ายถูกเคลื่อนเต็มกำลัง เหนี่ยวนำอานุภาพทำลายล้าง ฟันใส่ฟ้าดินอากาศธาตุสลัวอย่างแรง

ทันใดนั้น ฟ้าดินถล่มทลาย อากาศธาตุสลัวดับสูญ!

เหมือนถูกพลังนี้เจือปน ร่างเสิ่นเทียนกวัดแกว่งกระบี่ฟ้าสังหารฟันใส่ท้องนภา

“เจ้าหนูนี่จะทำอะไร บ้า เขาจะทำลายสุสานของข้า!”

จักรพรรดิชิงพลันขนลุก เขารู้ว่าเสิ่นเทียนอยู่ในห้วงตระหนักรู้ เป็นการโจมตีโดยไม่รู้ตัว

แต่สภาวะไม่รู้ตัวก็จะทำลายสุสานข้าได้รึ มันเกินไปแล้ว!

อีกทั้งพลังงานนี้ก็อาจจะน่ากลัวเกินไปหน่อยกระมัง!

หนึ่งกระบี่ขวางฟ้า!

ปราณกระบี่มหึมายิ่งทอดยาวออกมา พลังเย็นยะเยือก เหมือนจะทำลายท้องนภา!

มิติรอบตัวพลันถล่มลง ห้วงอากาศผืนใหญ่ถูกทำลายล้าง

ปราณกระบี่เย็นยะเยือกพุ่งไปข้างหน้า จู่โจมใส่บนสุดของสุสานจักรพรรดิชิง

“หยุดให้ข้า!”

จักรพรรดิชิงตะโกนเสียงดัง ก่อนจะพุ่งขึ้นไปขวางหน้าปราณกระบี่

ปราณกระบี่นี้น่ากลัวอย่างยิ่ง หากจู่โจมโดนสุสานจักรพรรดิชิง เกรงว่าคงแตกเป็นรูใหญ่จริงๆ

นั่นคือสุสานจักรพรรดิที่จักรพรรดิชิงลำบากสร้างขึ้นมา จะให้มันพังลงง่ายๆ ได้อย่างไร

ถึงอย่างไรสุสานหายไปแล้ว เขาจะไปฝังอยู่ที่ใด

จักรพรรดิชิงเปล่งแสงสีครามทั่วร่าง ปรากฏการณ์บัวครามระดับสิบสองข้างหลังขยายใหญ่ สร้างเป็นหม้อครามยักษ์ใบหนึ่งกำราบฟ้าดิน

บัวครามแปลงเป็นหม้อ แข็งแกร่งทนทานยิ่ง!

จักรพรรดิชิงภูมิใจในตนเองมาก เขาไม่เชื่อว่าแบบนี้จะต้านไว้ไม่อยู่

โครม!

เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!

หม้อครามปะทะกับปราณกระบี่ เกิดเป็นแสงสว่างไม่มีสิ้นสุด พลันระเบิดกระจาย!

ปราณกระบี่คมจนไม่มีสิ่งใดต้านได้ บุกรุดหน้าไป ไม่มีใครขวางได้!

“นี่มันน่าอัศจรรย์จริงๆ!”

จักรพรรดิชิงสลายไปท่ามกลางเสียงอันน่าเหลือเชื่อ

พึงรู้ไว้ว่านี่คือเสี้ยวดวงจิตของจักรพรรดิชิง มีประสบการณ์ต่อสู้เทียบเท่ากับมหาจักรพรรดิ อีกทั้งหลังสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของอำนาจกระบี่แล้ว ยังยกระดับพลังเป็นผู้อริยะเคราะห์ที่สาม สำแดงกฎเกณฑ์ระดับอริยะ

ด้วยพลังตอนนี้ของจักรพรรดิชิง ต่อให้เป็นผู้อริยะต่ำกว่าหกเคราะห์ภัย ก็แขวนทุบตีได้

ระดับอริยะเดินหนึ่งก้าวเท่ากับหนึ่งชั้นฟ้า หกเคราะห์กับสามเคราะห์คนละเรื่องกันเลย

ทว่าภายใต้กระบี่นี้ของเสิ่นเทียน ทุกคนพังทลายลง ดับสูญ กลายเป็นเถ้าธุลี

บึ้ม!

เกิดเสียงดังกึกก้อง!

เกิดภาพคุ้นตาขึ้นอีกแล้ว~

สุสานจักรพรรดิชิงถูกฟันทำลาย แยกเป็นสองส่วนจากตรงกลาง

ค่ายกลมากมายพังทลาย ลำดับปั่นป่วน ทำให้สุสานจักรพรรดิชิงพังไปมากกว่าครึ่ง

การโจมตีนี้น่ากลัวยิ่งนัก

“สุสานจักรพรรดิของข้า!”

ดวงจิตจักรพรรดิชิงรวมขึ้นมาอีกครั้ง มองสุสานจักรพรรดิที่พังไปมากกว่าครึ่ง มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

เขาประเมินความน่ากลัวของการโจมตีนี้ต่ำไป ป้องกันไม่ทันกาลเลย

เวลาเพียงชั่วครู่ สุสานก็ถูกรื้อแล้ว~

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิง พี่เสิ่นเทียนไม่ได้ตั้งใจนะ!”

เมื่อเห็นจักรพรรดิชิงปรากฏกาย องค์หญิงหลิงหลงก็รีบพูด กลัวว่าจักรพรรดิชิงจะโมโห

“ข้ารู้อยู่แล้ว! ข้าแค่กลัวว่าพลังจะรุนแรงเกินไปแล้วจะแว้งกัดตัวเจ้าหนูนี่ ถึงได้ยอมสละสุสานจักรพรรดิชิง! หากไม่เช่นนั้น ด้วยความสามารถของเจ้าหนูนี่ จะทำลายสุสานจักรพรรดิของข้าได้อย่างไร”

จักรพรรดิชิงเอาสองมือไพล่หลัง หมุนตัวเล็กน้อย แสร้งทำท่าทีผู้สูงส่ง

แต่ในใจเขาเกิดคลื่นลูกใหญ่ไปนานแล้ว

เจ้าหนูนี่มันปีศาจจริงๆ!

นี่ต้องตระหนักพลังวิเศษใดกันถึงบ้าได้ขนาดนี้

ข้ายกระดับพลังไปผู้อริยะสามเคราะห์ภัย ทั้งยังกระตุ้นกฎเกณฑ์ระดับอริยะ ก็ยังต้านกระบี่นี้ไม่ได้

นี่มัน…ทำลายสามมุมมองชัดๆ!

อืม~

จะให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด

ดีที่เด็กสาวนี่น่าจะไม่เข้าใจ

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงใจกว้าง ข้าขอขอบคุณแทนพี่เสิ่นเทียนด้วย”

องค์หญิงหลิงหลงป้องมือขอบคุณ แต่นางมักรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ไปสักที่

แต่เสิ่นเทียนไม่รู้ทุกอย่างนี้เลย

จิตใจเขายังคงเงียบสงบอยู่ในโลกจิตวิมานม่วง

ดรุณยักษ์นั่นผ่าอากาศธาตุสลัวแล้ว ก็ตบฝุ่นตรงก้นและนั่งลง

มันเริ่มหลับตาพักผ่อน พลังดวงจิตดรุณในกายกับพลังแห่งทวารไหลมารวมกันไม่หยุด มีแนวโน้มรวมเป็นหนึ่งเดียว

เพียงแต่ว่าขั้นตอนนี้กลับช้ายิ่ง ต้องใช้เวลามาก

“กระบวนท่านี้เรียกว่ายอดพลังวิเศษเบิกฟ้าผ่าปฐพี!”

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าเด็กน้อยที่กำเนิดมาจากแก่นพลังทองของตนจะเหี้ยมโหดเช่นนี้ แม้แต่ฟ้าดินอากาศธาตุสลัวยังฟันได้

เสิ่นเทียนยังตระหนักท่วงทำนองเทพเสี้ยวหนึ่งของเบิกฟ้าผ่าปฐพีจากตัวดรุณยักษ์ด้วย

หากให้เวลามากพอ จนเมื่อเสิ่นเทียนทะลวงระดับผ่านเทวะ เชื่อมโยงพลังของทวารใหญ่ทั่วตัว บางทีอาจจะระเบิดอานุภาพที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมได้

‘ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวดวงชะตาลด ตอนนี้ก็ลองดูแล้ว!’

เสิ่นเทียนส่ายหน้า ด้วยคุณสมบัติกายเขาสามารถดูดซับพลังงานมากกว่านี้ได้ จากนั้นทะลวงผ่านเทวะ

แต่เขาก็ไม่ได้ทะลวง กระจายฤทธิ์ยาออกไป หลอมรวมเข้าไปในทั่วร่างกาย ซ่อนไว้ในกายเนื้อ

การทะลวงระดับผ่านเทวะตอนนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องดี

ถึงอย่างไรก็ฝึกคัมภีร์คบเพลิงกำเนิดฟ้า การทะลวงระดับพลังใหญ่จะทำให้ดวงชะตาลดลง ดวงชะตาที่ลดไปก่อนหน้านี้ยังไม่กลับมาเลย ขืนทะลวงพลังไปอีก ไม่ต้องเดา จะต้องเกิดเรื่องซวยครั้งใหญ่แน่นอน

ข้าใฝ่หาความมั่นคง ก่อนดวงชะตาจะกลับมาอย่างสมบูรณ์ จะไม่ไปเที่ยวเตร่แน่นอน!

ต้องเอาตัวรอดไปก่อน ฟาร์มไปสักระยะหนึ่ง

เสิ่นเทียนพยักหน้าพึงพอใจ ก่อนจิตจะถอยออกจากโลกเทพวิมานม่วง

…….

สุสานจักรพรรดิชิงระเกะระกะไปหมด เศษหินปลิวว่อน กฎเกณฑ์ปั่นป่วน เกิดรอยร้าวเต็มไปหมด

ด้านบนสุสานจักรพรรดิชิงยังมีรูใหญ่ว่างเปล่ารูหนึ่ง

มองผ่านรูใหญ่นั้น จะเห็นน้ำทะเลกับปลาเวียนว่ายบนนั้น นี่ทำให้สุสานจักรพรรดิชิงที่เดิมทียิ่งใหญ่น่าเกรงขามมีความ…โรแมนติกเพิ่มมาเสี้ยวหนึ่ง

โรแมนติกบ้าอะไรกัน!

จักรพรรดิชิงกำลังวาดวงกลม พลังงานด้านลบ+999999

เสิ่นเทียนตื่นมาจากความเงียบ มองสุสานจักรพรรดิชิงที่พังทลาย ก่อนจะอึ้งไปเล็กน้อย

เกิดอะไรขึ้น

ข้าแค่ปิดด่านบำเพ็ญฝึกฝน เหตุใดสุสานจักรพรรดิชิงถึงพังทลายลงล่ะ

หรือว่าจะมีผู้แข็งแกร่งบุกเข้ามากัน

เสิ่นเทียนมองไปรอบๆ กลับไม่พบร่องรอยศัตรูผู้แข็งแกร่ง นี่ทำให้เขาสงสัยยิ่งกว่าเดิม

“ผู้อาวุโส ไหนว่าสุสานจักรพรรดิขนาดมหาจักรพรรดิยังทำลายได้ยากเลยไม่ใช่รึ เหตุใดถึงกลายเป็นสภาพเช่นนี้กัน”

จักรพรรดิชิงมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

สุสานจักรพรรดิของข้า มหาจักรพรรดิทำลายได้ยากจริงๆ แต่นั่นคือการป้องกันศัตรูจากภายนอก! ใครเขาจะไปเน้นป้องกันคนภายในกัน มีไส้ศึกจะทำอย่างไร!

กระบี่นั่นของเจ้าจู่โจมโดนจุดอ่อนพอดี!

ค่ายกลใดจะต้านไว้ได้บ้างล่ะ

สุสานจักรพรรดิของข้าไม่ได้พังลงทั้งหมด ก็สุดยอดแล้วไม่ใช่รึ

……

เขาพูดแขวะในใจอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาจะพูดตรงๆ ได้หรือ

เขาทำไม่ได้!

หรือจะให้บอกเจ้าหนูนี่ว่าข้าประมาทต้านไม่ไหว ถูกเขาทำลายเป็นรูใหญ่กัน

ข้าก็ต้องมีเกียรติเหมือนกันนะ!

“ไม่เป็นไร ข้าว่างอยู่แล้ว จะได้เห็นทิวทัศน์ทะเลลึกพอดีด้วย จะได้ถือโอกาสทำหน้าต่างด้านบนด้วย!”

จักรพรรดิชิงแสร้งทำทีสงบนิ่ง พูดพลางโบกไม้โบกมือ

เสิ่นเทียนเงยหน้าขึ้น พบว่ามองผ่านรูใหญ่เหนือศีรษะไปจะเห็นทิวทัศน์กลางทะเลลึกจริงๆ

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมีอารมณ์อันสุนทรีย์จริงๆ!”

เสิ่นเทียนถอนหายใจ สมกับเป็นจักรพรรดิชิง มีความคิดเลิศล้ำกว่าคนอื่นจริงๆ คิดได้กระทั่ง ‘ทัศนาจรก้นทะเล’

จากนี้ข้าสืบทอดเกาะมหานทีและเกาะวิมานเทพเมื่อไร ก็จะทำการท่องเที่ยว ‘โลกก้นทะเล’ ด้วย จะต้องมีคนชอบมากแน่นอน

แน่นอนว่าเขาไม่เห็นว่าจักรพรรดิชิงที่เอาสองมือไพล่หลังตลอดกำลังวาดวงกลมสาปแช่งอย่างบ้าคลั่ง

“เอาละ สหายน้องทั้งสอง ข้าได้ให้มรดกที่ควรให้พวกเจ้าไปแล้ว ไม่นานดวงจิตข้าจะหายไป พวกเจ้าออกจากสุสานจักรพรรดิกลับไปโลกภายนอกได้แล้ว!”

จักรพรรดิชิงโบกมือ ตั้งใจจะส่งแขก

เดิมทีอยู่ได้อีกครู่หนึ่ง แต่จักรพรรดิชิงลนลานอยู่ในใจ!

ใครจะรู้ว่าเจ้าหนูนี่จะทำเรื่องไม่ดีอะไรอีกหรือไม่

มรดกและอาวุธเตรียมจักรพรรดิของข้าให้เจ้าหนูนี่ไปหมดแล้ว!

แม้แต่โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ากับบัวครามระดับสิบสองยังให้ไป!

สรุปว่า เจ้าหนูนี่ยังใช้พลังวิญญาณที่ข้าสั่งสมมาแสนปีไปจนหมด!

แม่แต่สุสานจักรพรรดิของข้ายังถูกทำลายเป็นรูใหญ่ พังลงไปครึ่งหนึ่ง

ขืนอยู่ต่อไป จะไม่รื้อที่ดินของข้าไปเลยรึ

เจ้าหนูนี่ก่อเรื่องเก่งเกินไป!

รีบส่งไปหน่อยดีกว่า จะปลอดภัยกว่า!

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิง ผู้เยาว์คิดว่าศาสตร์หลอมโอสถลึกซึ้งมาก แฝงไว้ด้วยความลี้ลับมากมาย เลยอยากจะศึกษากับผู้อาวุโสอีกสักครั้ง”

เสิ่นเทียนไม่รีบร้อนไป โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามีประสิทธิผลน่าตกใจมากจริงๆ!

ถึงบอกว่าเพิ่มคุณสมบัติกับพรสวรรค์การตระหนักรู้ของเขาได้ไม่มาก แต่กลับทำให้เสิ่นเทียนทุบแก่นเป็นดรุณสำเร็จ รวมออกมาเป็นดรุณยักษ์เบิกฟ้าได้!

แม้แต่พลังบำเพ็ญหลอมปราณยังไปถึงจุดสูงสุดดวงจิตดรุณ พลังบำเพ็ญหลอมกายไปถึงจุดสูงสุดนิพพานเช่นกัน หลอมรวมเทพสามร้อยหกสิบห้าทวาร

กระทั่งยังตระหนักท่วงทำนองเทพเบิกฟ้าผ่าปฐพีเสี้ยวหนึ่ง ได้ฝึกยอดกระบวนท่าสังหาร!

การมาเกาะวิมานเทพครั้งนี้ พูดได้ว่าศักยภาพพุ่งพรวดขึ้น!

ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงอยากศึกษากับจักรพรรดิชิงสักหน่อย

ดูว่าจะหลอมโอสถสูงสุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่โบราณกาลจากเขาได้อีกหรือไม่

“ยอดวิชาของข้าอยู่ในคัมภีร์จักรพรรดิศาสตร์โอสถสองเล่มนั้น พวกเจ้าศึกษากันให้ดี จะต้องได้ประโยชน์แน่นอน! ตอนนี้ข้าจะส่งพวกเจ้าออกไป หวังว่าพวกเจ้าจะส่งเสริมมรดกของข้า ให้มีชื่อเสียงเลื่องลือห้าดินแดน!”

อะไรนะ!

พอได้ยินว่าเสิ่นเทียนอยากอยู่ต่อ จะก่อเรื่องต่อ!

จักรพรรดิชิงเคราขาวกระดกขึ้น ใช้พลังบำเพ็ญสูงสุดรวมเป็นเส้นทางมิติ เชื่อมจากก้นทะเลไปสู่โลกภายนอกทันที!

ก่อนจะโบกมือใหญ่ กฎเกณฑ์ไร้ที่สิ้นสุดพลันปกคลุมสองคนด้วยพลังมหาศาลของมหาจักรพรรดิ ก่อนจะหายไปในสุสานจักรพรรดิชิงทันที

ส่วนผู้ลงนามสัญญาขององค์หญิงหลิงหลง องค์หญิงเฟิ่งอู่แห่งเผ่าหงส์อมตะคนนั้น

เนื่องด้วยคุณสมบัติกาย จักรพรรดิชิงจึงส่งนางออกไปนานแล้ว

…..

เมื่อเห็นสองคนหายไป ดวงจิตจักรพรรดิชิงก็อดถอนหายใจมิได้ “ในที่สุดก็ไล่ไปสักที อยู่กับเจ้าหนูนี่แล้วสะเทือนจิตใจจริงๆ!”

จักรพรรดิชิงส่ายหน้าพลางยิ้มแห้งๆ ร่างค่อยๆ หายไปในสุสานจักรพรรดิชิง

ขณะเดียวกัน ค่ายกลรอบสุสานจักรพรรดิชิงลอยขึ้นมาทั้งหมด แผ่อำนาจคุกคามน่าสะพรึงปกคลุมที่นี่ไว้

เกรงว่าหากจักรพรรดิชิงไม่ยินดี คงไม่มีใครบุกเข้ามาในสุสานจักรพรรดิชิงได้อีก

……

บนน่านฟ้าทะเลอุดร!

พลันปรากฏร่างของเสิ่นเทียนกับองค์หญิงหลิงหลงขึ้น

สองคนมองทิวทัศน์รอบๆ ด้วยใบหน้ามึนงง

พวกเขายังพูดไม่จบเลยก็ถูกจักรพรรดิชิงส่งออกมา ทำให้ตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงเป็นอะไรไป”

เสิ่นเทียนเกาศีรษะ ไม่เข้าใจความคิดเขา

“อาจจะเป็นเพราะผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อน”

องค์หญิงหลิงหลงหัวเราะเบาๆ เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางเห็นทุกอย่างชัดเจน

ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงจะต้องร่างแยกถูกทำลายหลายครั้งเกินไป ต้องพักฟื้น

ไม่ผิด น่าจะเช่นนี้!

แต่ว่าพี่เสิ่นเทียนทำลายสุสานจักรพรรดิชิงได้ นี่มากพอจะเห็นถึงพรสวรรค์สุดยอดของเขา

องค์หญิงหลิงหลงมองใบหน้าหล่อเหลานั้นของเสิ่นเทียน ใบหน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เก่งขนาดนี้ ข้าจะต้องดึงเขาไปราชวงศ์เซียนต้าฮวงให้ได้!

ต่อให้…ต่อให้ต้องใช้ร่างกายเข้าแลกก็ยอม!

เสิ่นเทียนไม่ได้สงสัย เขาลูบคาง “ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมีอารมณ์สุนทรีย์จริงๆ ได้เปิดหน้าต่างบนหลังคา จะได้ดูทะเลลึกยามราตรีก่อนนอน! ไม่เลว ชีวิตเช่นนี้น่าอิจฉาจริงๆ!”

จักรพรรดิชิง “ฮัดชิ้ว!”

จักรพรรดิชิงถูจมูก “เกิดอะไรขึ้น หรืออายุเยอะแล้วอ่อนแอลง”

อืม ผีเท่านั้นที่รู้ว่าเสี้ยวดวงจิตมหาจักรพรรดิจะจามได้อย่างไร

……

“พี่เสิ่นเทียนวางแผนจะทำอะไรต่อไปรึ”

ในเมื่อออกจากสุสานจักรพรรดิชิงแล้ว ก็หมายความว่าการผจญภัยครั้งนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

พอนึกได้ว่าต้องแยกกับพี่เสิ่นเทียน จะไม่ได้เห็นใบหน้าที่ทำให้คนเฝ้าโหยหาแล้ว ภายในใจองค์หญิงหลิงหลงก็เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์

“ก็ต้องกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!”

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย ตอนนี้ดวงชะตาเขายังไม่ฟื้นกลับมา จะต้องเอาตัวรอดไปก่อน

ให้ดีที่สุดคือไปหาพี่น้องกุยช่ายที่น่ารักมาอีก เก็บเกี่ยวกุยช่ายหน่อย

ก่อนดวงชะตาจะกลับมา ข้ายังรู้สึกหวั่นๆ อยู่ในใจ!

“พี่เสิ่นเทียน ไม่เช่นนั้นก็ตามหลิงหลงไปดินแดนกลางด้วยกันเถอะ! ราชวงศ์เซียนต้าฮวงของเราจะต้องยินดีต้อนรับพี่เสิ่นเทียนแน่นอน แม้แต่ท่านพ่อเองก็คงจะดีใจมาก!”

องค์หญิงหลิงหลงหน้าแดงเล็กน้อย อยากจะเชื้อเชิญเสิ่นเทียนไปเป็นแขกที่ราชวงศ์เซียนต้าฮวง

ข้าจะดึงพี่เสิ่นเทียนให้กับราชวงศ์เซียนต้าฮวง

ไม่ใช่เพราะพี่เสิ่นเทียนมีใบหน้าหล่อเหลา!

และไม่ใช่เพราะอยากอยู่ข้างกายเขา!

ทุกอย่างก็เพื่อราชวงศ์เซียน!

…..

ตอนนี้เอง ท้องนภาพลันฉีกออก

ห้วงอากาศถูกประกายสายฟ้ามากมายฉีกขาด สร้างเป็นเส้นทางมิติสายหนึ่ง ร่างเงาหลายร่างเดินออกมาจากเส้นทางมิติ

ผู้นำก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้มีรูปร่างยิ่งใหญ่และอาบสายฟ้าประกายเซียนทั้งตัว

ข้างกายเขาเป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตในชุดคลุมเซียนสีม่วง

ข้างหลังยังมีจางอวิ๋นซี จางอวิ๋นถิง ฟางฉาง จ้าวเฮ่าและกุ้ยกงกงห้าคน ล้วนเป็นคนสนิทของเสิ่นเทียน

หลังพวกเขารู้ข่าวของเสิ่นเทียน ก็รีบตามเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาทันที

“อาจารย์!”

เสิ่นเทียนดีใจอยู่ข้างใน ในที่สุดก็ไม่ต้องหาทางกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เองแล้ว

“เทียนเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรนะ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียน ประกายเซียนบนผิวกายสั่นกระเพื่อม

“ศิษย์น้อง เจ้าไม่เป็นไรนะ!”

จางอวิ๋นซีมองเสิ่นเทียนด้วยความเป็นห่วง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและเป็นห่วง

คนอื่นๆ ก็เฮโลกันเข้ามาถามไถ่ด้วยความห่วงใย

“ศิษย์น้องบุตรศักดิ์สิทธิ์ เจ้าไม่เป็นไรนะ!”

“ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านไม่เป็นไรนะ!”

“ศิษย์พี่เสิ่น ท่านไม่เป็นไรนะ!”

……

อืม เสิ่นเทียนฟังแล้วยังขนลุก “แค่กๆ ขอบคุณที่ทุกคนเป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร!”

ข้างหลังกลุ่มคน กุ้ยกงกงเห็นเสิ่นเทียนถูกทุกคนรุมล้อมก็น้ำตาไหลพราก

เขาพึมพำกับตนเอง “พระสนมหลานคุ้มครอง องค์ชายไม่เป็นไร!

หลังรู้ข่าวขององค์ชาย ทุกคนก็รีบมาตามองค์ชายกลับแดนศักดิ์สิทธิ์ทันที ช่างน่าซาบซึ้งใจจริงๆ องค์ชายเป็นที่รักของศิษย์พี่ศิษย์น้องเช่นนี้ หากพระสนมหลานมีดวงจิตอยู่บนสวรรค์ คงยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกแน่นอน”

ขอไม่เอ่ยถึงเหล่าโอสถสวรรค์ที่มาล้อมเสิ่นเทียน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีสติปัญญาปราดเปรื่องมากกว่า

เขามองเสิ่นเทียน ประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อม “ไม่เป็นไรก็ดี! เทียนเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นบุตรแห่งโชค ต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวังแน่นอน!

เมื่อครู่ข้าใช้ป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สัมผัสตำแหน่งของเจ้า แต่สัมผัสไม่ได้เลย เจ้าเข้าไปในแดนลับใดหรือไม่ ผลการผจญภัยครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ แต่ประกายเซียนบนผิวกายกลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

เสิ่นเทียนตอบ “อาจารย์ ก่อนหน้านี้ศิษย์ร่วมผจญภัยกับองค์หญิงหลิงหลงไปเกาะวิมานเทพ ทั้งยังเจอกับสุสานจักรพรรดิชิง ได้รับการทดสอบของจักรพรรดิชิงที่นั่น ได้มรดกจักรพรรดิชิงมา!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตาเป็นประกาย “เกาะวิมานเทพรึ ที่พำนักของจักรพรรดิอันดับหนึ่งศาสตร์โอสถเมื่อแสนปีก่อนรึ”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “ขอรับ อาจารย์ลุง!”

“ดังนั้นเกาะตรงหน้านี้ก็คือเกาะเซียนวิมานเทพในตำนาน!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเพ่งสายตามองไป ไม่นานก็พบเกาะวิมานเทพที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบอยู่ไม่ไกล

เขารู้ดีว่าเกาะวิมานเทพหมายถึงอะไร

นั่นคือแดนมรดกของจักรพรรดิอันดับหนึ่งศาสตร์โอสถเมื่อแสนปีก่อน จะต้องปลูกโอสถวิญญาณล้ำค่าไว้มากมายแน่นอน!

เวลานี้ ทรัพยากรบำเพ็ญของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหมดเกลี้ยงแล้ว

กำลังกังวลอยู่เลยว่าจะไม่มีที่เติมทรัพยากร!

เกาะวิมานเทพนี่เป็นที่ที่ดีเลยไม่ใช่รึ

“อาจารย์ลุง เกาะวิมานเทพเสื่อมโทรมแล้ว ไม่มีสมบัติ”

เมื่อเห็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตที่ทำหน้าร้อนใจแล้ว เสิ่นเทียนก็อดส่ายหน้ามิได้ ก่อนอธิบาย

พอได้ยินว่าเกาะวิมานเทพเสื่อมโทรม ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็รู้สึกเหมือนตนพลาดสมบัติล้ำค่ามากมาย เสียใจอย่างยิ่ง

แต่ไม่นานก็นึกอะไรได้ จึงรีบถาม “เช่นนั้นสุสานจักรพรรดิชิงล่ะ ในสุสานจักรพรรดิชิงยังมีของดีอะไรอีกหรือไม่”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “สุสานจักรพรรดิชิงอยู่ก้นทะเลลึกหลายแสนจั้ง เพียงแต่ว่า…”

เสิ่นเทียนยังไม่ทันพูดจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็มุดลงไป ดำลงไปในทะเลลึกอย่างรวดเร็วราวกับมังกรน้ำ

เร็วชนิดที่เรียกว่าทำให้คนตกใจอ้าปากค้าง!

เสิ่นเทียนงุนงง

ดีเลวอย่างไรท่านก็ฟังข้าพูดให้จบก่อนไม่ได้รึ!

เฮ้อ ดวงชะตาเปล่งแสงสีดำบนศีรษะท่านนี่ จะไปปล้นสุสานคนอื่นเขาต้องไม่เกิดเรื่องดีแน่นอน

…..

อีกด้านหนึ่ง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับไม่รีบร้อนไปสำรวจสุสานจักรพรรดิชิง

เขาสัมผัสได้ว่าเสิ่นเทียนมีกลิ่นอายพลังที่แกร่งขึ้นไม่รู้กี่เท่า สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

ข้าเดาไว้ไม่ผิดจริงๆ เทียนเอ๋อร์ต้องได้โชคลิขิตมา!

ศิษย์ข้าเสิ่นเทียนมีบุคลิกแห่งราชาเซียนจริงๆ!

ฮิๆๆๆๆๆ~

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด