บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด

เมื่อเห็นกระบี่ยักษ์พันจั้งแทงเข้ามาทางตนมืดฟ้ามัวดินแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับขนหัวลุก

ถ้าโดนกระบี่นี่แทง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณก็ยังถูกบดเป็นเศษเนื้อ!

ปรากฏเถากลืนกินเซียนสีเขียวมรกตขึ้นใต้เท้าเสิ่นเทียน หมายจะดึงเขาหนีลงดิน ทว่าเมื่อกระบี่ยักษ์พันจั้งค่อยๆ เข้ามาใกล้เสิ่นเทียน ขนาดมันกลับหดเล็กลงด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน

ไม่นานจากกระบี่ยักษ์พันจั้งก็กลายเป็นกระบี่ยาวสีแดงสามฉื่อ กระบี่นี้เป็นสีแดงดั่งโลหิตทุกส่วน บนตัวกระบี่ยังมีแสงสีแดงสั่นกระเพื่อมดั่งสายน้ำ

มันส่งเสียงกระบี่ใสราวกับเสียงคำรามของมังกรและหงส์

แม้แต่มวลอากาศตรงขอบคมกระบี่ยังถูกฉีกออก เกิดเป็นรอยแยก

กระบี่ดี!

กระบี่ดีจริงๆ!

เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย เกิดความปรารถนาหลั่งทะลักขึ้นมาในกาย

ความกระหายนี้ซับซ้อนยิ่ง ด้านหนึ่งมาจากความกระหายของกายเทพกระบี่ฟ้าที่มีต่อกระบี่เทพ อีกด้านคือความกระหายของคัมภีร์คบเพลิงที่มีต่อทองคำเตรียมเซียน

เสิ่นเทียนรู้สึกไม่ดีเลย วิชาบ้านี่มันอะไรกันแน่ แม้แต่กระบี่อาวุธเตรียมเซียนก็ยังอยากจะกินหรือ

ไม่กลัวมันทะลุกระเพาะรึ

เสิ่นเทียนยังไม่ทันคิดอะไรมาก กระบี่สีแดงนั้นก็พุ่งมาตรงหน้าเขาแล้ว

พบว่าแสงบนตัวกระบี่นี้ค่อยๆ หุบเข้าไป กลายเป็นกระบี่โบราณธรรมดาไม่มีความต่างใดๆ เลย แต่เขารู้ว่านี่คือร่างคืนสู่ความเป็นจริงของมัน

หากมันถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้งก็จะระเบิดอานุภาพทั้งหมดและเปล่งประกายคมกริบสูงสุดอย่างในอดีตอีกครั้ง

เสิ่นเทียนยื่นมือขวาออกมากำด้ามกระบี่สีแดงนั้น เขารู้สึกอุ่นๆ เย็นๆ ที่มือสัมผัส สบายมือมาก แต่ขณะเดียวกับที่เขาจับกระบี่เล่มนี้ เขายังรู้สึกว่าตนเหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมัน

เจตจำนงกระบี่ที่แผ่ออกมารอบตัวเขามหาศาลมากขึ้น ทำให้ทุกคนรอบข้างหายใจติดขัด!

ตอนนี้ พวกจ้าวเฮ่ากับฉินอวิ๋นตี๋ถอยห่างจากเสิ่นเทียน

เพราะในระยะหลายจั้งรอบตัวเสิ่นเทียนกลายเป็นเขตแดนเจตจำนงกระบี่โหมซัดสาดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ไอกระบี่สีโลหิตตัดสลับกันแผ่คลุมทุกพื้นที่ ราวกับว่าจะสังหารทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่นี้

อานุภาพของกระบี่เล่มนี้เรียกได้ว่าสะเทือนโลก!

เสิ่นเทียนชูกระบี่สีแดงในมือขึ้นช้าๆ มีประกายแสงกระบี่ลอยขึ้นมาในดวงตา

ประกายสายฟ้าสีดำและเขียวค่อยๆ ลอยขึ้นมาบนผิวกาย นั่นคืออัสนีเทพธาตุน้ำลำดับแปดกับธาตุไม้ลำดับหนึ่ง

น้ำเกิดไม้ ไม้เกิดไฟ สายฟ้าสีดำและเขียวค่อยๆ หายไป สุดท้ายกลายเป็นอัสนีเทพปักษาชาดธาตุไฟลำดับสามที่เปล่งแสงสว่างพร่างพราวอย่างยิ่ง

อัสนีเทพปักษาชาดที่ตัดสลับกันเสริมด้วยอัคคีอรุณใต้ก็เหมือนมีชีวิตขึ้นมา มันวนเวียนรอบกระบี่สีแดง

ตอนนี้เสิ่นเทียนใช้มือลูบตัวกระบี่ กายกระบี่สีแดงสั่นไหวเบาๆ แสงกระบี่สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ ฟันกระบี่ใส่หุบเขาตรงหน้า

ชิ้ง~!

ไอกระบี่อัคคีสายฟ้าน่ากลัวหลายแสนจั้งแผ่ขยายจากตัวกระบี่แดง ฟันใส่ตรงหน้าอย่างจัง

กระบี่นี้ไม่ใช่ทักษะกระบี่ชั้นยอดอะไร และไม่ใช่คัมภีร์กระบี่เป็นเอกแห่งยุคอะไร แค่รูปแบบการฟันที่ง่ายที่สุดและหยาบที่สุด

ทว่าเมื่อฟันกระบี่นี้ลงไป กลับปรากฏรอยแยกน่าสะพรึงขึ้นกลางหุบเขา

ตรงปลายไอกระบี่ฟันใส่หน้าผา หน้าผานั้นถล่มลงมา เกิดฝุ่นควันคละคลุ้ง

ประกายอัคคีสายฟ้าในอากาศยังตัดสลับกับไอกระบี่ ส่องแสงวาววับไม่มั่นคง!

พริบตานั้น ผู้ฝึกกระบี่อย่างพวกจ้าวเฮ่า เสิ่นเอ้าและกุ้ยกงกงข้างๆ ต่างมีสีหน้าตื่นตกใจ

ไม่มีใครรู้สึกรุนแรงเท่าพวกเขาตอนนี้อีกแล้ว เพราะตอนนี้จิตกระบี่ของพวกเขากำลังสั่นไหว

เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ของเสิ่นเทียน เจตจำนงกระบี่ในใจพวกเขาก็แทบจะอดใจอยากกราบไหว้ไม่ไหว

“อานุภาพน่ากลัวมาก กระบี่นี้มากพอจะสังหารระดับดวงจิตดรุณเลยกระมัง!”

“กระบี่นี้น่ากลัวมากจริงๆ สมกับเป็นอาวุธเตรียมเซียน!”

“นี่คือเจตจำนงกระบี่น่าสะพรึงของกายเทพกระบี่ฟ้าหรือ เมื่อครู่สหายเสิ่นยังไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่เลย แต่กลับมีอานุภาพน่ากลัวถึงเพียงนี้!”

“แกร่งมาก นี่คือกระบี่ของน้องสิบสามหรือ เหอะๆ ข้าฝึกวิถีกระบี่ไปจะมีประโยชน์อะไรอีก”

“ทักษะกระบี่ของพี่เสิ่นสุดยอดมาก สมกับเป็นคนที่เหลียนเอ๋อร์ยอมรับ!”

…….

เสิ่นเทียนไม่รู้ถึงความตื่นตกใจภายในใจของทุกคน

ตอนนี้เขาจมอยู่ในอานุภาพของกระบี่นั้น ยากจะถอนตัวขึ้น

แม้ว่ากระบี่เมื่อครู่นี้ เขาจะไม่ได้สำแดงอานุภาพแท้จริงของกายเทพกระบี่ฟ้ากับกระบี่ชาด แต่ต่อให้กระตุ้นอานุภาพส่วนน้อยที่สุดในนั้นก็ยังมากพอจะทำให้เขาสังหารระดับดวงจิตดรุณธรรมดาได้

นี่คืออานุภาพของอาวุธเตรียมเซียนหรือ

รักเลยๆ!

จากนี้ข้าก็จะมีไพ่ตายเพิ่มมาอีกชิ้น

ต้องคิดหาทางฝึกฝนทักษะกระบี่ร้ายกาจอีกสักสองสามวิชา แล้วข้าก็จะเป็นนักกระบี่ที่รูปหล่อที่สุดในดินแดนบูรพา!

เขาถือกระบี่ชาดในมือพลางรู้สึกถึงความทึ่มทื่อและดีใจจากตัวกระบี่ ซึ่งเขาพอใจกับตรงนี้มาก

“ข้ามีนามว่าเสิ่นเทียน จากนี้นามของเจ้าถือกระบี่ฟ้าสังหาร หวังว่าภายภาคหน้าจะมีโอกาสที่ข้าจะได้ยกระดับเจ้าเป็นอาวุธเซียน ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเลื่องลือห้าดินแดน!”

เสิ่นเทียนเพิ่งกล่าวจบก็เห็นกระบี่ชาดเปล่งแสงสว่างจ้า เหมือนมีความสุขมาก ก่อนตัวมันจะดิ้นหลุดจากมือเสิ่นเทียนและพุ่งมาหาเขา!

ฟิ้ว~!

ตอนที่เสิ่นเทียนคิดว่า ‘กระบี่สังหารฟ้า’ นี่ไม่พอใจที่ตนเปลี่ยนชื่อมันและคิดจะฆ่าเขานั้น กระบี่ชาดกลับไม่ได้แทงใส่เสิ่นเทียน แต่กลายเป็นแสงสีแดงมุดเข้าไปในกายเขา

เสิ่นเทียนส่องดูในกายพบว่ากระบี่ชาดเล่มนี้วิ่งไปอยู่กลางกลีบปอดเขา มันแผ่ไอกระบี่ดั้งเดิมออกมา หล่อหลอมกลีบปอดของเขา

ทางด้านพลังในตัวเสิ่นเทียนก็ส่งจากกลีบปอดกลายเป็นพลังงานธาตุทองที่บริสุทธิ์ที่สุดหล่อเลี้ยงกระบี่ชาด

เกื้อกูลกัน บ่มเพาะซึ่งกันและกัน!

การที่กระบี่ชาดเข้ามาในกายเสิ่นเทียนยังทำให้เขาได้สัมผัสกับระดับของคนกระบี่ผสานรวมกันอย่างแท้จริงด้วย!

หากเสิ่นเทียนต้องการ กระบี่ชาดนี่ก็จะพุ่งออกจากตัวเขาไปสังหารศัตรูได้ทุกเมื่อ

เสิ่นเทียนรู้สึกว่านี่จะเป็นไพ่ตายสุดยอดที่ใช้ลอบกัด…ใช้เอาตัวรอดได้ดีอย่างหนึ่งเลย!

…..

กระบี่สังหารฟ้าเป็นหัวใจค่ายกลผนึก เมื่อหลุดออกจากยอดค่ายกลผนึกแล้ว กระดูกมังกรพันจั้งนั้นก็เปล่งแสงสว่างจ้า อำนาจมังกรมหาศาลแผ่กระจายลงมาทันที

“เจ้าหนู ข้าจะถูกปลดผนึกแล้ว พวกเจ้าถอยไปไกลๆ หน่อย”

เสียงหญิงมังกรเอ๋าปิงดังมาจากโครงกระดูกมังกร ทั้งเย็นชาและสูงส่งอย่างยิ่ง

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนรีบพาทุกคนวิ่งออกไปนอกหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นบุคคลระดับผู้อริยะทำลายผนึก เกิดโดนลูกหลงถึงตาย มันจะคุ้มค่ากันหรือ

หลังวิ่งออกจากหุบเขาแล้ว พวกเสิ่นเทียนก็กำลังคิดจะหยุด แต่ได้ยินเสียงของเอ๋าปิงดังขึ้นอีกครั้ง “ไปไกลอีกหน่อย!”

เสิ่นเทียนพาทุกคนออกไปไกลอีกสิบกว่าลี้

ตอนนี้เองเกิดเสียงระเบิดดังสะท้านฟ้ามาจากหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์

เงามังกรสีดำพุ่งขึ้นฟ้า แผ่กระจายอำนาจสูงสุด ทำให้โครงกระดูกหลายร้อยลี้ตัวสั่นงันงก อีกทั้งผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์มากมายยังรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวมาจากหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์

พวกโอรสสวรรค์ที่มั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้าต่างมุ่งหน้ามาทางนี้

ส่วนแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ซ่อนอยู่ในเงามืดและมาที่นี่กันเงียบๆ

“หมื่นปี ในที่สุดก็หลุดมาได้สักที!”

“เจ้าอกแบนสมควรตาย ผนึกข้าไว้หมื่นปี!

สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าหมื่นปีมานี้ข้าผ่านมาได้อย่างไร! วันนี้ข้าเป็นนอิสระอีกครั้ง พวกตาแก่จากห้าดินแดน สั่นกลัวล่ะสิ!”

เงามังกรสีดำวนเวียนอยู่บนฟ้า แผ่กระจายอำนาจดุร้ายน่าหวาดหวั่นไร้ที่สิ้นสุดออกมา

แสงหม่นค่อยๆ เปล่งแสงมาจากโครงกระดูกมังกรพันจั้งนั้นมารวมที่เงามังกรบนฟ้า ไม่นานแสงหม่นสีดำก็มาคลุมเงามังกรนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังหดตัวลงด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน

เมื่อแสงหม่นสีดำสลายไปทั้งหมดก็ปรากฏไข่มังกรสีดำเมี่ยมที่เต็มไปด้วยลวดลายมังกรฟองหนึ่งขึ้นกลางอากาศ

มันพลันลากผ่านอากาศมาพร้อมกับเสียงระเบิดรุนแรงและประกายไฟเร่าร้อนที่เกิดขึ้นจากการเสียดสี พุ่งมาทางเสิ่นเทียน

“หญิงมังกรนี่จะชนข้าให้ตายรึ”

เสิ่นเทียนเห็นไข่มังกรที่พุ่งชนเข้ามาปานดาวตกแล้วก็ขนหัวลุก

แต่เขาไม่กล้าหลบ เพราะถ้าเกิดหลบแล้ว ไข่มังกรแตกล่ะจะทำอย่างไร

ดวงจิตหญิงมังกรนั่นจะไม่สลายไปหรือ

เสิ่นเทียนประสานมุทรา ก่อนจะเรียกเถาวัลย์สีเขียวมรกตขึ้นมาจากใต้ดิน เพียงครู่เดียวเถาวัลย์พวกนี้ก็ถักทอกันเป็นตาข่ายใหญ่ที่แข็งแรงอย่างยิ่งแล้วห่อหุ้มไปทางไข่มังกร

ไข่มังกรทะลวงมวลอากาศมารวดเร็วมาก ครู่เดียวก็ชนเข้ากับตาข่ายใหญ่

เถากลืนกินเซียนบีบตัวในทันใด ไข่มังกรหมุนวนไม่หยุด แรงปะทะรุนแรงเสียจนน่ากลัว

ดีที่เถากลืนกินเซียนแข็งแรงมาก เลยรับไข่มังกรเอาไว้ได้

“ดีมาก ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ เจ้าไม่ได้หลบข้า ยินดีด้วยเจ้าหนุ่ม เจ้าผ่านการทดสอบที่สองของข้าแล้ว”

เสียงเอ๋าปิงดังมาจากในไข่มังกร “ต่อไป หยดโลหิตบริสุทธิ์บนไข่มังกร จากนั้นท่องตามข้า”

เสิ่นเทียนครุ่นคิดก่อนจะบีบโลหิตบริสุทธิ์หยดหนึ่งจากนิ้วชี้ลงบนไข่มังกร

โลหิตบริสุทธิ์ซึมเข้าไปในไข่มังกรทันที

ขณะเดียวกัน เปลือกไข่มังกรก็เปล่งแสงสว่างจ้า รวมออกมาเป็นสัญลักษณ์ซับซ้อนกลางอากาศ

สัญลักษณ์พวกนี้เหมือนเป็นอักขระโบราณ และเหมือนจะเป็นอักษรโบราณของเผ่ามังกร

พวกมันรวมกันค่อยๆ กลายเป็นก้อนแสงสีดำก้อนหนึ่ง แผ่กลิ่นอายโบราณและยิ่งใหญ่

ร่างเงาของเอ๋าปิงลอยขึ้นมาจากไข่มังกรช้าๆ “ต่อไปข้าท่องอะไรเจ้าก็ท่องตามนั้น เข้าใจหรือไม่”

เสิ่นเทียนตอบ “ตกลง”

เอ๋าปิงพยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะแสดงความเคารพแสงดำก้อนนั้นกลางอากาศ “เทพมังกรอยู่เบื้องบน”

เมื่อท่องจบ เอ๋าปิงก็มองเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “เทพมังกรอยู่เบื้องบน”

เอ๋าปิงเผยอมุมปากเล็กน้อย “วันนี้ข้าเอ๋าปิงกับเสิ่นเทียนยินดีทำพันธสัญญากัน เป็นสหายร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน”

เสิ่นเทียน “วันนี้ข้าเอ๋า…วันนี้ข้าเสิ่นเทียนกับเอ๋าปิงยินดีทำพันธสัญญากัน เป็นสหายร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน”

ทุกคำที่สองคนพูดออกมานั้น จะมีอักขระโบราณเข้าใจยากตัวหนึ่งรวมขึ้นในก้อนแสงดำนั้น

เหมือนกำลังใช้วิธีการพิเศษบางอย่างร่างพันธสัญญาขึ้นมาจริงๆ

เอ๋าปิงกล่าวต่อ “ภายภาคหน้าไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ก็จะประคับประคองดูแลกัน จวบจนความตายแยกจากเรา”

เสิ่นเทียนงุนงง

เจ้ามั่นใจนะว่านี่คือการร่างสัญญานักรบมังกรที่ได้มาตรฐานน่ะ

เสิ่นเทียนกลืนน้ำลายก่อนจะพูดด้วยความจนปัญญา “ผู้อาวุโส สัญญานี่มันแปลกๆ ไปหน่อยหรือไม่”

เอ๋าปิงมีสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย “แปลกหรือ นี่เจ้ากำลังสงสัยเทพมังกรรึ เชื่อหรือไม่ว่าข้าแค่พ่นลมหายใจมังกรเดียวก็ฆ่าเจ้าได้แล้ว!”

เมื่อเห็นเอ๋าปิงที่เพิ่งหลุดพ้นมาก็ปากดีใส่แล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหมือนจะซวยแล้ว

ท่าทางของหญิงมังกรดำนี่มันแปลกๆ นะ!

แม่นางฉุนเฉียวมาแล้ว!

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 หญิงมังกรฉุนเฉียวผู้มีท่าทีแปลกประหลาด

เมื่อเห็นกระบี่ยักษ์พันจั้งแทงเข้ามาทางตนมืดฟ้ามัวดินแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับขนหัวลุก

ถ้าโดนกระบี่นี่แทง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณก็ยังถูกบดเป็นเศษเนื้อ!

ปรากฏเถากลืนกินเซียนสีเขียวมรกตขึ้นใต้เท้าเสิ่นเทียน หมายจะดึงเขาหนีลงดิน ทว่าเมื่อกระบี่ยักษ์พันจั้งค่อยๆ เข้ามาใกล้เสิ่นเทียน ขนาดมันกลับหดเล็กลงด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน

ไม่นานจากกระบี่ยักษ์พันจั้งก็กลายเป็นกระบี่ยาวสีแดงสามฉื่อ กระบี่นี้เป็นสีแดงดั่งโลหิตทุกส่วน บนตัวกระบี่ยังมีแสงสีแดงสั่นกระเพื่อมดั่งสายน้ำ

มันส่งเสียงกระบี่ใสราวกับเสียงคำรามของมังกรและหงส์

แม้แต่มวลอากาศตรงขอบคมกระบี่ยังถูกฉีกออก เกิดเป็นรอยแยก

กระบี่ดี!

กระบี่ดีจริงๆ!

เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย เกิดความปรารถนาหลั่งทะลักขึ้นมาในกาย

ความกระหายนี้ซับซ้อนยิ่ง ด้านหนึ่งมาจากความกระหายของกายเทพกระบี่ฟ้าที่มีต่อกระบี่เทพ อีกด้านคือความกระหายของคัมภีร์คบเพลิงที่มีต่อทองคำเตรียมเซียน

เสิ่นเทียนรู้สึกไม่ดีเลย วิชาบ้านี่มันอะไรกันแน่ แม้แต่กระบี่อาวุธเตรียมเซียนก็ยังอยากจะกินหรือ

ไม่กลัวมันทะลุกระเพาะรึ

เสิ่นเทียนยังไม่ทันคิดอะไรมาก กระบี่สีแดงนั้นก็พุ่งมาตรงหน้าเขาแล้ว

พบว่าแสงบนตัวกระบี่นี้ค่อยๆ หุบเข้าไป กลายเป็นกระบี่โบราณธรรมดาไม่มีความต่างใดๆ เลย แต่เขารู้ว่านี่คือร่างคืนสู่ความเป็นจริงของมัน

หากมันถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้งก็จะระเบิดอานุภาพทั้งหมดและเปล่งประกายคมกริบสูงสุดอย่างในอดีตอีกครั้ง

เสิ่นเทียนยื่นมือขวาออกมากำด้ามกระบี่สีแดงนั้น เขารู้สึกอุ่นๆ เย็นๆ ที่มือสัมผัส สบายมือมาก แต่ขณะเดียวกับที่เขาจับกระบี่เล่มนี้ เขายังรู้สึกว่าตนเหมือนหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมัน

เจตจำนงกระบี่ที่แผ่ออกมารอบตัวเขามหาศาลมากขึ้น ทำให้ทุกคนรอบข้างหายใจติดขัด!

ตอนนี้ พวกจ้าวเฮ่ากับฉินอวิ๋นตี๋ถอยห่างจากเสิ่นเทียน

เพราะในระยะหลายจั้งรอบตัวเสิ่นเทียนกลายเป็นเขตแดนเจตจำนงกระบี่โหมซัดสาดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ไอกระบี่สีโลหิตตัดสลับกันแผ่คลุมทุกพื้นที่ ราวกับว่าจะสังหารทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่นี้

อานุภาพของกระบี่เล่มนี้เรียกได้ว่าสะเทือนโลก!

เสิ่นเทียนชูกระบี่สีแดงในมือขึ้นช้าๆ มีประกายแสงกระบี่ลอยขึ้นมาในดวงตา

ประกายสายฟ้าสีดำและเขียวค่อยๆ ลอยขึ้นมาบนผิวกาย นั่นคืออัสนีเทพธาตุน้ำลำดับแปดกับธาตุไม้ลำดับหนึ่ง

น้ำเกิดไม้ ไม้เกิดไฟ สายฟ้าสีดำและเขียวค่อยๆ หายไป สุดท้ายกลายเป็นอัสนีเทพปักษาชาดธาตุไฟลำดับสามที่เปล่งแสงสว่างพร่างพราวอย่างยิ่ง

อัสนีเทพปักษาชาดที่ตัดสลับกันเสริมด้วยอัคคีอรุณใต้ก็เหมือนมีชีวิตขึ้นมา มันวนเวียนรอบกระบี่สีแดง

ตอนนี้เสิ่นเทียนใช้มือลูบตัวกระบี่ กายกระบี่สีแดงสั่นไหวเบาๆ แสงกระบี่สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ ฟันกระบี่ใส่หุบเขาตรงหน้า

ชิ้ง~!

ไอกระบี่อัคคีสายฟ้าน่ากลัวหลายแสนจั้งแผ่ขยายจากตัวกระบี่แดง ฟันใส่ตรงหน้าอย่างจัง

กระบี่นี้ไม่ใช่ทักษะกระบี่ชั้นยอดอะไร และไม่ใช่คัมภีร์กระบี่เป็นเอกแห่งยุคอะไร แค่รูปแบบการฟันที่ง่ายที่สุดและหยาบที่สุด

ทว่าเมื่อฟันกระบี่นี้ลงไป กลับปรากฏรอยแยกน่าสะพรึงขึ้นกลางหุบเขา

ตรงปลายไอกระบี่ฟันใส่หน้าผา หน้าผานั้นถล่มลงมา เกิดฝุ่นควันคละคลุ้ง

ประกายอัคคีสายฟ้าในอากาศยังตัดสลับกับไอกระบี่ ส่องแสงวาววับไม่มั่นคง!

พริบตานั้น ผู้ฝึกกระบี่อย่างพวกจ้าวเฮ่า เสิ่นเอ้าและกุ้ยกงกงข้างๆ ต่างมีสีหน้าตื่นตกใจ

ไม่มีใครรู้สึกรุนแรงเท่าพวกเขาตอนนี้อีกแล้ว เพราะตอนนี้จิตกระบี่ของพวกเขากำลังสั่นไหว

เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ของเสิ่นเทียน เจตจำนงกระบี่ในใจพวกเขาก็แทบจะอดใจอยากกราบไหว้ไม่ไหว

“อานุภาพน่ากลัวมาก กระบี่นี้มากพอจะสังหารระดับดวงจิตดรุณเลยกระมัง!”

“กระบี่นี้น่ากลัวมากจริงๆ สมกับเป็นอาวุธเตรียมเซียน!”

“นี่คือเจตจำนงกระบี่น่าสะพรึงของกายเทพกระบี่ฟ้าหรือ เมื่อครู่สหายเสิ่นยังไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่เลย แต่กลับมีอานุภาพน่ากลัวถึงเพียงนี้!”

“แกร่งมาก นี่คือกระบี่ของน้องสิบสามหรือ เหอะๆ ข้าฝึกวิถีกระบี่ไปจะมีประโยชน์อะไรอีก”

“ทักษะกระบี่ของพี่เสิ่นสุดยอดมาก สมกับเป็นคนที่เหลียนเอ๋อร์ยอมรับ!”

…….

เสิ่นเทียนไม่รู้ถึงความตื่นตกใจภายในใจของทุกคน

ตอนนี้เขาจมอยู่ในอานุภาพของกระบี่นั้น ยากจะถอนตัวขึ้น

แม้ว่ากระบี่เมื่อครู่นี้ เขาจะไม่ได้สำแดงอานุภาพแท้จริงของกายเทพกระบี่ฟ้ากับกระบี่ชาด แต่ต่อให้กระตุ้นอานุภาพส่วนน้อยที่สุดในนั้นก็ยังมากพอจะทำให้เขาสังหารระดับดวงจิตดรุณธรรมดาได้

นี่คืออานุภาพของอาวุธเตรียมเซียนหรือ

รักเลยๆ!

จากนี้ข้าก็จะมีไพ่ตายเพิ่มมาอีกชิ้น

ต้องคิดหาทางฝึกฝนทักษะกระบี่ร้ายกาจอีกสักสองสามวิชา แล้วข้าก็จะเป็นนักกระบี่ที่รูปหล่อที่สุดในดินแดนบูรพา!

เขาถือกระบี่ชาดในมือพลางรู้สึกถึงความทึ่มทื่อและดีใจจากตัวกระบี่ ซึ่งเขาพอใจกับตรงนี้มาก

“ข้ามีนามว่าเสิ่นเทียน จากนี้นามของเจ้าถือกระบี่ฟ้าสังหาร หวังว่าภายภาคหน้าจะมีโอกาสที่ข้าจะได้ยกระดับเจ้าเป็นอาวุธเซียน ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเลื่องลือห้าดินแดน!”

เสิ่นเทียนเพิ่งกล่าวจบก็เห็นกระบี่ชาดเปล่งแสงสว่างจ้า เหมือนมีความสุขมาก ก่อนตัวมันจะดิ้นหลุดจากมือเสิ่นเทียนและพุ่งมาหาเขา!

ฟิ้ว~!

ตอนที่เสิ่นเทียนคิดว่า ‘กระบี่สังหารฟ้า’ นี่ไม่พอใจที่ตนเปลี่ยนชื่อมันและคิดจะฆ่าเขานั้น กระบี่ชาดกลับไม่ได้แทงใส่เสิ่นเทียน แต่กลายเป็นแสงสีแดงมุดเข้าไปในกายเขา

เสิ่นเทียนส่องดูในกายพบว่ากระบี่ชาดเล่มนี้วิ่งไปอยู่กลางกลีบปอดเขา มันแผ่ไอกระบี่ดั้งเดิมออกมา หล่อหลอมกลีบปอดของเขา

ทางด้านพลังในตัวเสิ่นเทียนก็ส่งจากกลีบปอดกลายเป็นพลังงานธาตุทองที่บริสุทธิ์ที่สุดหล่อเลี้ยงกระบี่ชาด

เกื้อกูลกัน บ่มเพาะซึ่งกันและกัน!

การที่กระบี่ชาดเข้ามาในกายเสิ่นเทียนยังทำให้เขาได้สัมผัสกับระดับของคนกระบี่ผสานรวมกันอย่างแท้จริงด้วย!

หากเสิ่นเทียนต้องการ กระบี่ชาดนี่ก็จะพุ่งออกจากตัวเขาไปสังหารศัตรูได้ทุกเมื่อ

เสิ่นเทียนรู้สึกว่านี่จะเป็นไพ่ตายสุดยอดที่ใช้ลอบกัด…ใช้เอาตัวรอดได้ดีอย่างหนึ่งเลย!

…..

กระบี่สังหารฟ้าเป็นหัวใจค่ายกลผนึก เมื่อหลุดออกจากยอดค่ายกลผนึกแล้ว กระดูกมังกรพันจั้งนั้นก็เปล่งแสงสว่างจ้า อำนาจมังกรมหาศาลแผ่กระจายลงมาทันที

“เจ้าหนู ข้าจะถูกปลดผนึกแล้ว พวกเจ้าถอยไปไกลๆ หน่อย”

เสียงหญิงมังกรเอ๋าปิงดังมาจากโครงกระดูกมังกร ทั้งเย็นชาและสูงส่งอย่างยิ่ง

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนรีบพาทุกคนวิ่งออกไปนอกหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นบุคคลระดับผู้อริยะทำลายผนึก เกิดโดนลูกหลงถึงตาย มันจะคุ้มค่ากันหรือ

หลังวิ่งออกจากหุบเขาแล้ว พวกเสิ่นเทียนก็กำลังคิดจะหยุด แต่ได้ยินเสียงของเอ๋าปิงดังขึ้นอีกครั้ง “ไปไกลอีกหน่อย!”

เสิ่นเทียนพาทุกคนออกไปไกลอีกสิบกว่าลี้

ตอนนี้เองเกิดเสียงระเบิดดังสะท้านฟ้ามาจากหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์

เงามังกรสีดำพุ่งขึ้นฟ้า แผ่กระจายอำนาจสูงสุด ทำให้โครงกระดูกหลายร้อยลี้ตัวสั่นงันงก อีกทั้งผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์มากมายยังรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวมาจากหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์

พวกโอรสสวรรค์ที่มั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้าต่างมุ่งหน้ามาทางนี้

ส่วนแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ซ่อนอยู่ในเงามืดและมาที่นี่กันเงียบๆ

“หมื่นปี ในที่สุดก็หลุดมาได้สักที!”

“เจ้าอกแบนสมควรตาย ผนึกข้าไว้หมื่นปี!

สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าหมื่นปีมานี้ข้าผ่านมาได้อย่างไร! วันนี้ข้าเป็นนอิสระอีกครั้ง พวกตาแก่จากห้าดินแดน สั่นกลัวล่ะสิ!”

เงามังกรสีดำวนเวียนอยู่บนฟ้า แผ่กระจายอำนาจดุร้ายน่าหวาดหวั่นไร้ที่สิ้นสุดออกมา

แสงหม่นค่อยๆ เปล่งแสงมาจากโครงกระดูกมังกรพันจั้งนั้นมารวมที่เงามังกรบนฟ้า ไม่นานแสงหม่นสีดำก็มาคลุมเงามังกรนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังหดตัวลงด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน

เมื่อแสงหม่นสีดำสลายไปทั้งหมดก็ปรากฏไข่มังกรสีดำเมี่ยมที่เต็มไปด้วยลวดลายมังกรฟองหนึ่งขึ้นกลางอากาศ

มันพลันลากผ่านอากาศมาพร้อมกับเสียงระเบิดรุนแรงและประกายไฟเร่าร้อนที่เกิดขึ้นจากการเสียดสี พุ่งมาทางเสิ่นเทียน

“หญิงมังกรนี่จะชนข้าให้ตายรึ”

เสิ่นเทียนเห็นไข่มังกรที่พุ่งชนเข้ามาปานดาวตกแล้วก็ขนหัวลุก

แต่เขาไม่กล้าหลบ เพราะถ้าเกิดหลบแล้ว ไข่มังกรแตกล่ะจะทำอย่างไร

ดวงจิตหญิงมังกรนั่นจะไม่สลายไปหรือ

เสิ่นเทียนประสานมุทรา ก่อนจะเรียกเถาวัลย์สีเขียวมรกตขึ้นมาจากใต้ดิน เพียงครู่เดียวเถาวัลย์พวกนี้ก็ถักทอกันเป็นตาข่ายใหญ่ที่แข็งแรงอย่างยิ่งแล้วห่อหุ้มไปทางไข่มังกร

ไข่มังกรทะลวงมวลอากาศมารวดเร็วมาก ครู่เดียวก็ชนเข้ากับตาข่ายใหญ่

เถากลืนกินเซียนบีบตัวในทันใด ไข่มังกรหมุนวนไม่หยุด แรงปะทะรุนแรงเสียจนน่ากลัว

ดีที่เถากลืนกินเซียนแข็งแรงมาก เลยรับไข่มังกรเอาไว้ได้

“ดีมาก ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ เจ้าไม่ได้หลบข้า ยินดีด้วยเจ้าหนุ่ม เจ้าผ่านการทดสอบที่สองของข้าแล้ว”

เสียงเอ๋าปิงดังมาจากในไข่มังกร “ต่อไป หยดโลหิตบริสุทธิ์บนไข่มังกร จากนั้นท่องตามข้า”

เสิ่นเทียนครุ่นคิดก่อนจะบีบโลหิตบริสุทธิ์หยดหนึ่งจากนิ้วชี้ลงบนไข่มังกร

โลหิตบริสุทธิ์ซึมเข้าไปในไข่มังกรทันที

ขณะเดียวกัน เปลือกไข่มังกรก็เปล่งแสงสว่างจ้า รวมออกมาเป็นสัญลักษณ์ซับซ้อนกลางอากาศ

สัญลักษณ์พวกนี้เหมือนเป็นอักขระโบราณ และเหมือนจะเป็นอักษรโบราณของเผ่ามังกร

พวกมันรวมกันค่อยๆ กลายเป็นก้อนแสงสีดำก้อนหนึ่ง แผ่กลิ่นอายโบราณและยิ่งใหญ่

ร่างเงาของเอ๋าปิงลอยขึ้นมาจากไข่มังกรช้าๆ “ต่อไปข้าท่องอะไรเจ้าก็ท่องตามนั้น เข้าใจหรือไม่”

เสิ่นเทียนตอบ “ตกลง”

เอ๋าปิงพยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะแสดงความเคารพแสงดำก้อนนั้นกลางอากาศ “เทพมังกรอยู่เบื้องบน”

เมื่อท่องจบ เอ๋าปิงก็มองเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “เทพมังกรอยู่เบื้องบน”

เอ๋าปิงเผยอมุมปากเล็กน้อย “วันนี้ข้าเอ๋าปิงกับเสิ่นเทียนยินดีทำพันธสัญญากัน เป็นสหายร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน”

เสิ่นเทียน “วันนี้ข้าเอ๋า…วันนี้ข้าเสิ่นเทียนกับเอ๋าปิงยินดีทำพันธสัญญากัน เป็นสหายร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน”

ทุกคำที่สองคนพูดออกมานั้น จะมีอักขระโบราณเข้าใจยากตัวหนึ่งรวมขึ้นในก้อนแสงดำนั้น

เหมือนกำลังใช้วิธีการพิเศษบางอย่างร่างพันธสัญญาขึ้นมาจริงๆ

เอ๋าปิงกล่าวต่อ “ภายภาคหน้าไม่ว่าจะดีหรือร้าย ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ก็จะประคับประคองดูแลกัน จวบจนความตายแยกจากเรา”

เสิ่นเทียนงุนงง

เจ้ามั่นใจนะว่านี่คือการร่างสัญญานักรบมังกรที่ได้มาตรฐานน่ะ

เสิ่นเทียนกลืนน้ำลายก่อนจะพูดด้วยความจนปัญญา “ผู้อาวุโส สัญญานี่มันแปลกๆ ไปหน่อยหรือไม่”

เอ๋าปิงมีสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย “แปลกหรือ นี่เจ้ากำลังสงสัยเทพมังกรรึ เชื่อหรือไม่ว่าข้าแค่พ่นลมหายใจมังกรเดียวก็ฆ่าเจ้าได้แล้ว!”

เมื่อเห็นเอ๋าปิงที่เพิ่งหลุดพ้นมาก็ปากดีใส่แล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกเหมือนจะซวยแล้ว

ท่าทางของหญิงมังกรดำนี่มันแปลกๆ นะ!

แม่นางฉุนเฉียวมาแล้ว!

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+