บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 484 ความชำนาญเขตแดนสูง ไม่สู้ดวงชะตาสูง

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 484 ความชำนาญเขตแดนสูง ไม่สู้ดวงชะตาสูง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 484 ความชำนาญเขตแดนสูง ไม่สู้ดวงชะตาสูง

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนตอบตกลง คนจากสองตระกูลใหญ่ต่างทำหน้าดีใจ

จูเก่อซือหม่าตื่นเต้นในใจอย่างยิ่ง ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดด

การเดินทางครั้งนี้มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ร่วมด้วย จะต้องพบเกาะเทพลอยฟ้า ได้มรดกสูงสุดแน่นอน

ถึงอย่างไรฉายาบุตรแห่งโชคก็ไม่ได้คุยโม้ขึ้นมาเปล่าๆ!

นั่นผ่านการยืนยันจากโอรสสวรรค์มากมาย!

จูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงมองหน้ากันก่อนจะลูบเคราพลางหัวเราะเสียงดัง “ได้ร่วมเดินทางกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นับเป็นเกียรติของพวกเรา”

เสิ่นเทียนมีกำลังรบเป็นหนึ่ง และยังเมินเฉยต่อไอเบิกฟ้าได้

มีเสิ่นเทียนอยู่ พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าจะเจออันตรายใดในทะเลดาราเบิกฟ้าเลย

ส่วนศิษย์ของสองตระกูลใหญ่ก็มีสีหน้าตื่นเต้นเช่นกัน โดยเฉพาะจูเก่อเหมิงกับซือหม่าเสวี่ยสองสาว ดวงตาเป็นประกายออกมา

พวกนางโห่ร้องด้วยความดีใจ ใบหน้ายังมีความเคลิบเคลิ้มหลงใหล

ดีมาก ดีมาก ดีมาก!

ได้ชมใบหน้าหล่อเหลาที่สุดแห่งยุคของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่อแล้ว!

ระหว่างทางนี้ต้องไม่มีเบื่อแน่!

เล่าลือว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เพิ่งจะอายุราวๆ สองร้อยปี ไม่รู้ว่าเขาจะถือสาปัญหาเรื่องอายุหรือไม่

อยากเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จริงๆ เลย!

แบบนั้น จากนี้ก็จะได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานี้ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บ่อยๆ

…..

จูเก่อหยวนเดินเข้ามาพูดเชื้อเชิญ “ขอเชิญเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน”

เขาโบกมือกว้าง ม่านแสงค่ายกลเรือเหาะเปิดออก เชิญเสิ่นเทียนเข้ามา

“ต้องรบกวนสหายจูเก่อแล้ว!”

เสิ่นเทียนพยักหน้า จากนั้นชุดคลุมขาวสยายออก เหนือสามัญที่สุด ไม่ปนเปื้อนแสงสีสันใดๆ

เขาผ่านไปที่ใด ไอเบิกฟ้าจะพากันถอยออก เดินผ่านเส้นทางใหญ่ลงบนเรืออย่างปลอดภัย

คนจากสองตระกูลใหญ่เผยแววตาตกใจเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเชื่อสนิทใจเลยว่าตนเลือกไม่ผิด

ครั้งนี้ได้เดินทางกับเสิ่นเทียนจะต้องสบายมากแน่ แค่ความสามารถแยกไอเบิกฟ้านี้ก็ไม่มีใครเทียบได้แล้ว

“เดินเรือ!”

เกิดเสียงดังก้องกังวาน

เรือเหาะส่งเสียงดังสนั่น ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกทะเลดารา

ทว่าพวกเขาไปได้ไม่ไกลนักก็หลงทางอีกแล้ว

รอบกายมีแต่หมอกเทาขมุกขมัว วนเวียนหนาทึบ บดบังทัศนวิสัยของทุกคน

พวกเขามองเห็นทางข้างหน้าไม่ชัด ทำให้เรือเหาะหยุดชั่วขณะ

“ท่านบรรพบุรุษ จะไปทางใดต่อดี”

ศิษย์ที่คุมเรือถาม ไม่กล้าผลีผลาม

ในทะเลดาราเบิกฟ้า เรื่องตำแหน่งสำคัญมาก หากเลือกผิดทางจะเจออันตรายอย่างมาก

ก่อนหน้านี้เพราะไปผิดทางพวกเขาถึงหลงในเขตรอบนอกหนึ่งเดือน เสียเวลาไปอย่างมาก

ซือหม่าเฉิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับ “รอก่อน รอข้าสำแดงวิชาเร้นลับปัญจธาตุคาดการณ์ตำแหน่งของเกาะเทพลอยฟ้าก่อน”

วิชาเร้นลับปัญจธาตุเป็นวิชาลับมรดกของตระกูลซือหม่า สามารถสัมผัสผ่านพลังฟ้าดิน คาดการณ์ทิศทางคร่าวๆ ได้

จูเก่อหยวนด้านข้างแบะปาก “เถอะน่า! ตระกูลซือหม่าพวกเจ้ามีฝีมือกากขนาดนี้ ยังจะออกมาขายหน้าอีกรึ ให้ข้าสำแดงวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศหาตำแหน่งที่แน่นอนดีกว่า!”

พอเห็นว่าซือหม่าเฉิงจะนำทาง จูเก่อหยวนก็โดดขึ้นมาทันที

วิชาเร้นลับปัญจธาตุอะไรนั่น เทียบวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศของตระกูลจูเก่อพวกเขาได้หรือ

ซือหม่าเฉิงได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตามองด้วยความโกรธ “ก่อนหน้านี้พวกเจ้านำทาง ถึงได้เสียเวลาไปมากขนาดนั้น ตอนนี้เจ้ายังมาก่อกวนอีก หรืออยากจะหลงทางต่อไปกัน”

หลังได้ยินจูเก่อหยวนด้อยค่าตระกูลซือหม่าอีกแล้ว ซือหม่าเฉิงจึงแย้งกลับทันควัน

จูเก่อหยวนหน้าแดงเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้มันเหนือความคาดหมาย ครั้งนี้ข้าสำแดงวิชาเอง ต้องไม่มีปัญหาแน่! วิชาลับบ้าบออะไรของตระกูลซือหม่าพวกเจ้า ก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกันไม่ใช่รึ ไม่อย่างนั้นเหตุใดเดือนหนึ่งแล้วยังหาไม่เจออีก”

ซือหม่าเฉิงพูดด้วยความโกรธ “ตาเฒ่านี่ จะวิวาทกันรึ”

เมื่อเห็นจูเก่อหยวนด้อยกว่าตระกูลซือหม่าครั้งแล้วครั้งเล่า ซือหม่าเฉิงก็โกรธจัด

จูเก่อหยวนรูดแขนเสื้อขึ้น ถูหมัดถูฝ่ามือ “สู้ก็สู้ ใครกลัวเจ้ากัน”

ดูจากท่าทางของสองคน เห็นได้ชัดว่าจะวิวาทกันเพื่อตัดสินอำนาจคำพูด

……

จูเก่อซือหม่าด้านข้างมุมปากกระตุกรัว

เขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่จบลงง่ายขนาดนั้น

บรรพบุรุษทั้งสองแค้นกันมาหมื่นปี ไม่มีใครยอมใคร

หากเป็นปกติก็ช่างเถอะ

แต่ที่สำคัญคือตอนนี้อยู่ทะเลดาราเบิกฟ้า และยังมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่ด้วย

ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง พวกท่านทำเช่นนี้มันดีจริงๆ รึ

นี่ไม่ดีแล้ว!

เมื่อเห็นสองคนจะสู้กันจริงๆ จูเก่อซือหม่าก็รีบไกล่เกลี่ย “ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง ก็ลองดูด้วยกันทั้งคู่ดีหรือไม่”

วิชาเร้นลับปัญจธาตุกับวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศ ล้วนมาจากตำราสวรรค์เกราะมังกร

สองสิ่งมาจากบ่อเกิดเดียวกัน น่าจะไม่ต่างกันมากเท่าไร

นี่ต้องดูที่ความชำนาญในค่ายกลกับระดับความเข้าใจในวิชาลับของตน

และจูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงมีศักยภาพสูสีกัน คงจะไม่ต่างอะไรกันมากนัก…

พอคิดได้ดังนั้น จูเก่อซือหม่าก็กลัวอยู่ในใจเช่นกัน

เขามักจะรู้ว่าการตามตาเฒ่าพวกนี้ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไรเลย!

“ดี วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็น”

จูเก่อหยวนก้าวออกมา นำแผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศโบราณออกมา!

แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศนั้นเก่าแก่มาก ด้านบนฝังหินฐานเขตแดนประหลาดหลายก้อน พลังอำนาจไร้พรมแดน

จูเก่อหยวนทำมุทรามือ สำแดงวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศ

ทันใดนั้นเกิดแสงสว่างจ้าแสบตา

แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศยิงแสงเทพหมื่นจั้ง พุ่งขึ้นทะเลเมฆท้องนภา กวนเมฆสวรรค์เก้าชั้นทั้งหมด

ขณะเดียวกัน จูเก่อหยวนยังมียันต์แปดทิศยักษ์ลอยขึ้นมาข้างหลัง กฎเกณฑ์หมื่นสายลายเทพพุ่งออกมา

สีหน้าเขาจริงจังอย่างยิ่ง ปากบริกรรมคาถาเก่าแก่และลี้ลับ

แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศหมุนวนอย่างรวดเร็ว สว่างแพรวพราวถึงที่สุด แผ่พลังเทพออกมาทั้งหมด

ฟ้าดินไหลเชี่ยวกราก เมฆหมอกถอยไป

สุดท้าย แผ่นค่ายกลยันต์แปดทิศชี้ไปทางซ้ายของทุกคน

จูเก่อหยวนพูดด้วยใบหน้ามั่นใจ “ทางตะวันตก เป็นที่อยู่ของเกาะเทพลอยฟ้า!”

เขามั่นใจในความแกร่งของวิชาลับตระกูลตนมาก ไม่มีทางผิดพลาดเด็ดขาด

…..

ซือหม่าเฉิงได้ยินเช่นนั้นก็นำแผ่นค่ายกลปัญจธาตุเก่าแก่ออกมาเช่นกัน

แผ่นค่ายกลปัญจธาตุเปล่งแสงระยิบระยับ ด้านบนฝังหินแปลกต่างกันห้าธาตุ พลังงานกำเนิดและปฏิปักษ์กัน มหัศจรรย์อย่างยิ่ง

ซือหม่าเฉิงสำแดงวิชา ปลุกแผ่นค่ายกลปัญจธาตุ

แสงเทพห้าสีส่องสว่างฟ้าดิน แสงเทพสว่างพร่างพราว

เวลานี้ ปรากฏแผ่นค่ายกลปัญจธาตุยักษ์ลอยขึ้นกลางอากาศ ส่องสะท้อนท้องนภา

แผ่นค่ายกลปัญจธาตุหมุนวนอย่างรวดเร็ว เปล่งแสงเทพหลากสีไปรอบๆ

แสงเทพห้าสีพุ่งออกไปทั้งหมด พุ่งขึ้นฟ้า แสงสว่างถึงที่สุด

สุดท้ายแสงเทพห้าสายไหลมารวมกัน ชี้ไปทางขวาไกลๆ!

ซือหม่าเฉิงพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ “พูดมั่ว ทางตะวันออกต่างหากที่ตั้งของเกาะเทพลอยฟ้า”

จูเก่อหยวนก้าวเท้ายาวออกมา พูดด้วยสีหน้าสงสัย “ไม่มีทาง ข้าตรวจพบอยู่ทางตะวันตกเห็นๆ”

ซือหม่าเฉิงทำเสียงหึ “จะไม่มีทางได้อย่างไรกัน เพราะเจ้าชอบพลาดอยู่บ่อยครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย!”

จูเก่อหยวนพลันกระโดดขึ้นมา ชี้หน้าซือหม่าเฉิงตะโกนเสียงดัง “เจ้าพูดไร้สาระ! ข้าฝึกฝนวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศมาพันปี จะไปพลาดได้อย่างไร เป็นเจ้าที่คาดการณ์พลาดแน่!”

ซือหม่าเฉิงเดือดดาลเช่นกัน “วิชาเร้นลับปัญจธาตุของตระกูลซือหม่าข้า เดิมทีแกร่งกว่าวิชาเร้นลับยันต์แปดทิศของพวกเจ้าอยู่แล้ว! เกาะเทพลอยฟ้าต้องอยู่ทางตะวันออกแน่นอน!”

จูเก่อหยวนโบกมือก่อนพูดจาระราน “ไม่มีทาง ฝีมือขี้กากอย่างเจ้าคู่ควรมาเทียบกับข้ารึ ข้ากล้าเดิมพันเลยว่าอยู่ทางตะวันตกแน่นอน!”

ซือหม่าเฉิงขี้เกียจพูดมากกับเขาแล้ว จึงออกคำสั่งกับศิษย์ผู้คุมเรือ “ซือหม่ากัง ไปทางตะวันออก”

จูเก่อหยวนรีบเข้ามาห้ามปราม “ไม่ได้ ครั้งนี้ต้องตะวันตก”

ทว่าซือหม่าเฉิงชำเลืองตามองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเยาะ “เจ้าว่าเขาจะสนใจเจ้ารึ นี่คือศิษย์ของตระกูลซือหม่าข้า!”

จูเก่อหยวนพูดเสียงดัง “หากเจ้ากล้าก่อเรื่อง อย่าทำให้ข้าโกรธเชียว!”

ซือหม่าเฉิงเงียบ

…..

ซือหม่ากังเหงื่อเต็มหน้าผาก ไม่รู้จะฟังใครดี

คนหนึ่งเป็นบรรพบุรุษบ้านตน อีกคนเป็นบรรพบุรุษอีกตระกูล

ตามหลักแล้วต้องฟังบรรพบุรุษบ้านตน

แต่จูเก่อหยวนไม่ใช่คนที่จะคุยดีๆ ด้วยได้ ถ้าทำให้เขาโกรธ คงถูกทุบตีแน่

ทั้งสองท่านนี้ เขาล่วงเกินไม่ได้ ล่วงเกินไม่ได้เลย!

จูเก่อซือหม่ามีใบหน้าเต็มไปด้วยความปวดไข่

ไม่นึกเลยว่าบรรพบุรุษทั้งสองจะด่าทอกันที่นี่ ทุกคนมีช่วงเวลาที่เห็นตรงกันบ้างไม่ได้รึ

เขาพูดด้วยความทุกข์ใจ “ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ! รีบเลือกเส้นทางแล้วออกเดินทางกันเถอะ!”

ด้วยพลังงานที่เหลือตอนนี้อยู่ได้มากสุดสิบวัน

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปได้ตายกันจริงๆ แน่!

ซือหม่าเฉิงทำเสียงขึ้นจมูก “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็หาผู้รับรอง ให้เขาเลือกเถอะ”

จูเก่อหยวนพยักหน้า “ดี เช่นนั้นก็ให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาตัดสินความยุติธรรมแล้วกัน! ให้เขาตัดสินใจว่าเราจะไปทางใด!”

พวกเขาก็รู้ว่าเถียงกันไม่ได้อะไร ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปมีแต่จะเสียเวลา

ดังนั้นเลยให้เสิ่นเทียนมาตัดสินใจ แบบนี้จะค่อนข้างยุติธรรมกว่า

ในมุมมองพวกเขา เสิ่นเทียนต้องไม่เข้าใจเรื่องค่ายกลอะไรพวกนี้แน่

และยังเจอพวกเขาครั้งแรกจะต้องมีความยุติธรรม ไม่ลำเอียงแน่นอน

อีกอย่าง เสิ่นเทียนเป็นบุตรแห่งโชค เขาต้องเลือกไม่ผิดแน่

คำพูดของสองคนทำให้เสิ่นเทียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ผู้อาวุโสทั้งสอง แซ่เสิ่นไม่ได้เข้าใจด้านเขตแดนค่ายกลมากนัก หากเลือกผิด ขอให้ทั้งสองอภัยให้ด้วย”

จูเก่อหยวนรีบพูด “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถ่อมตัวไปแล้ว ท่านคือบุตรแห่งโชคที่เป็นที่ยอมรับ ด้วยดวงชะตาของท่านจะต้องเลือกถูกแน่นอน พวกเราจะฟังท่าน”

จูเก่อหยวนคิดว่าตนชนะแน่ คิดว่าเสิ่นเทียนต้องเลือกเขาแน่ จึงไม่กังวลเลย

ซือหม่าเฉิงก้าวออกมาเช่นกัน เครากระดกเล็กน้อย “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตัดสินใจได้เลย พวกเราจะฟังอย่างแน่นอน”

เสิ่นเทียนพยักหน้า ก่อนพูดด้วยดวงตาวาววับ “แซ่เสิ่นคิดว่าน่าจะตรงไปข้างหน้า”

เขาเห็นตำแหน่งของเกาะเทพลอยฟ้าในภาพโชคลิขิตเหนือศีรษะจูเก่อซือหม่า นั่นคือตรงหน้าทุกคน

ในภาพโชคลิขิต สองตระกูลวนไปรอบใหญ่ในทะเลดาราเบิกฟ้า เสียเวลาไปเจ็ดแปดวัน สุดท้ายถึงกลับมา

แต่ว่าเสิ่นเทียนไม่คิดจะเสียเวลากับพวกเขา เลยชี้ตำแหน่งที่แน่นอนให้

ซือหม่าเฉิงกับจูเก่อหยวนถึงกับพูดไม่ออก

ทั้งสองคนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง

อะไรกัน เหตุใดถึงควรตรงไปล่ะ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ พวกเราให้เลือกทางตะวันออกกับตะวันตกนะ!

นี่คือหัวข้อเลือก หัวข้อเลือก!

ไม่เลือกหนึ่งหนึ่ง ก็เลือกสองสอง แต่เหตุใดท่านถึงเลือกสามหกสี่ล่ะ!

…….

จูเก่อหยวนกระแอมไอเบาๆ “สหายเสิ่นเทียน เมื่อครู่พวกข้าคาดการณ์กันแล้ว ข้างหน้าเป็นเส้นทางตันแน่นอน! ที่นี่ไม่อาจเข้าไปได้เลย หากเข้าไปจะต้องหลงทาง ไม่อย่างนั้นพวกเรามาลองเปลี่ยนเส้นทางดูดีหรือไม่”

ซือหม่าเฉิงกับจูเก่อหยวนเห็นพ้องต้องกันเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ “ใช่! ข้างหน้านี้ไปไม่ได้นะ!”

วิชาลับที่พวกเขาสำแดงคือการอาศัยพลังฟ้าดิน สัมผัสระดับความรุนแรงของไอเบิกฟ้า

ไอเบิกฟ้าทางซ้ายและขวาค่อนข้างเบาบาง ทั้งยังไหลเวียนไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเป็นเส้นทาง

ไอเบิกฟ้าข้างหน้ารุนแรงมาก เหมือนปราการฟ้าดิน เป็นทางตันแน่นอน หากเป็นคนที่ชำนาญเขตแดนจะต้องไม่เลือกทางนี้

แต่เสิ่นเทียนก็ยังคงมั่นใจในการเลือกของตน ไม่ว่าสองคนจะพูดอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนเส้นทาง

นี่ทำให้จูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงจนปัญญาเหมือนกัน ถึงอย่างไรเมื่อครู่พวกเขาก็พูดไว้อย่างถูกต้องชอบธรรม เชิญให้เสิ่นเทียนมาตัดสินเส้นทาง

หากไม่ฟัง นั่นจะไม่ขายหน้าทุกคนรึ

ขายหน้าพวกเขาเองไม่เท่าไร แต่หากหักหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…

ไม่อาจจินตนาการถึงผลที่ตามมาเลย

เพราะอย่างไรก็อยู่เขตทะเลเบิกฟ้า คนโหดท่านนี้โกรธขึ้นมาใครจะไปต้านไหว

อย่างอื่นไม่ว่า แค่เสิ่นเทียนเคลื่อนทะเลก็สร้างคลื่นไอเบิกฟ้าไร้พรมแดนจมพวกเขาได้ เรือเหาะต้านไม่ไหวแน่!

…..

แต่นี่พัวพันไปถึงมรดกสูงสุดของสองตระกูลพวกเขา บรรพบุรุษทั้งสองจึงไม่กล้าตัดสินใจง่ายๆ

จูเก่อซือหม่าก้าวออกมา “ท่านบรรพบุรุษทั้งสอง เราลองตามเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปดูดีหรือไม่”

เทียบกับบรรพบุรุษที่พึ่งพาไม่ได้ทั้งสองแล้ว จูเก่อซือหม่าเลือกเชื่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากกว่า

เพราะนี่คือบุตรแห่งโชค จะไปพลาดได้อย่างไร

จูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย พลันเกิดความโกรธขึ้นในใจ

เจ้าเด็กนี่ หรือคิดว่าตาเฒ่าพวกเขาสองคนเลือกผิดทางกัน หรือว่าความชำนาญในด้านเขตแดนของพวกเขาจะสู้บุตรแห่งโชคเดามั่วไม่ได้รึ

ทว่าตอนนี้เองมีสตรีอีกสองคนเดินออกมา

“ข้าก็คิดว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลือกทางได้ดีเหมือนกัน”

“ท่านบรรพบุรุษ พวกเราลองไปดูกันเถอะ!”

“ใช่ๆๆ! ลองไปดูข้างหน้ากัน!”

สตรีทั้งสองคือจูเก่อเหมิงกับซือหม่าเสวี่ย

พวกนางเสิ่นเทียนอย่างสนิทใจ จะเดินทางไปข้างหน้าด้วยกัน

สองบรรพบุรุษโกรธจนมุมปากกระตุก พูดแขวะในใจไม่หยุด

ยัยเด็กพวกนี้ กล้าดีจริงๆ!

ไม่อยากเชื่อว่าจะไม่เชื่อใจบรรพบุรุษตนเอง

ได้ ในเมื่อจะไป เช่นนั้นก็ลองไปลำบากดู

จะได้ทุบๆ จิตใจที่ไม่หนักแน่นของยัยเด็กพวกนี้ด้วย

ให้เจ้าพวกนี้ได้รู้ว่าค่ายกลไม่ใช่ว่าพวกหลงรูปจะฝึกฝนกันได้ดี

…..

จูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงมองหน้ากัน จากนั้นพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไปตามทางที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เลือกแล้วกัน!”

ถึงอย่างไรก็มีเสิ่นเทียนอยู่ พวกเขาไม่กลัวว่าจะมีอันตรายอะไร

อย่างมากก็แค่เสียเวลานิดหน่อยเท่านั้น!

จะได้ใช้โอกาสนี้สั่งสอนยัยเด็กพวกนี้ด้วย นี่คุ้มค่าเหมือนกัน

“ขอรับ!”

ซือหม่ากังผู้คุมเรือได้ยินดังนั้นก็เคลื่อนเรือเหาะมุ่งหน้าไป

ไม่นานนัก เรือเหาะพุ่งชนไปกลางไอเบิกฟ้าไร้พรมแดน ถูกหมอกขมุกขมัวปกคลุม

หมอกที่นี่หนาทึบ วนเวียนไปมา

ไอเบิกฟ้าหนาเหมือนบึงน้ำปกคลุมที่นี่ไว้

เมื่อเข้ามาที่นี่ ทุกคนต่างรู้สึกถึงอำนาจคุกคามรุนแรง ทำให้ทุกคนใจสั่นไหว ไอเบิกฟ้ารอบกายโหมซัดสาด กลายเป็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งพุ่งจู่โจมเรือเหาะ

บึ้มๆๆ!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!

ทุกครั้งที่พุ่งชนจะเกิดแสงเทพระเบิดกระจาย

ม่านแสงคุ้มกันเรือเหาะเปล่งแสงเทพสว่างไปรอบๆ แผ่พลังแก่กล้าป้องกันไว้

แต่ถึงกระนั้น เรือเหาะก็ยังถูกชนจนโคลงเคลงไม่หยุด พลังงานลดลงอย่างรวดเร็ว

ไอเบิกฟ้าที่นี่มีระดับความเข้มข้นเหนือกว่าเขตอื่น ทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันเพิ่มมากขึ้น

เมื่อเห็นภาพนี้ จูเก่อหยวนส่ายหน้า “ข้าบอกแล้วไงว่านี่ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง ด้วยความเร็วที่เสียพลังงานไปในตอนนี้ พวกเรายื้อได้ไม่ถึงสิบวันแล้ว หากหาเกาะเทพลอยฟ้าไม่พบ การเดินทางครั้งนี้จะเสียเปล่า!”

ซือหม่าเฉิงพยักหน้าเช่นกัน “พวกเราถอยกลับตอนนี้ ไปทางตะวันออกยังพอมีทางให้กู้คืนมาอยู่”

“อะไรคือไปทางตะวันออก ต้องไปทางตะวันตกต่างหาก!”

จูเก่อหยวนได้ยินดังนั้นก็ตะโกนเสียงดังอีก

ทุกคนต่างเงียบ

…..

เมื่อเห็นบรรพบุรุษสองคนจะทะเลาะกันอีกแล้ว ทุกคนถึงกับเอามือกุมขมับ

จูเก่อซือหม่ามองเสิ่นเทียน “ผู้อาวุโส ท่านมีทางแก้หรือไม่”

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังเลือกเชื่อเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนยิ้มเรียบๆ “วางใจเถอะ ให้ข้าเอง!”

พูดจบเสิ่นเทียนก็พุ่งขึ้น ออกจากเรือเหาะ บินไปทางทะเลดาราเบิกฟ้า

เขาโบกมือกว้างและตบไปข้างหน้าเบาๆ

ฟ้าตกดินยุบ น้ำทะเลไหลเชี่ยวกราก!

ไอเบิกฟ้ามากมายถูกพลังมหาศาลจู่โจม ถอยไปทั้งหมด แยกออกเป็นเส้นทางใหญ่ราบเรียบสายหนึ่ง

รอบๆ ยังถูกชะล้างเป็นพื้นที่อิสระ ไอเบิกฟ้ารุกรานเข้ามาไม่ได้แม้แต่น้อย

แรงกดดันเรือเหาะพลันลดลง กระทั่งสบายกว่าก่อนหน้านี้มาก

พอเห็นภาพนี้ทุกคนมีสีหน้าดีใจใหญ่

พวกเขามองเสิ่นเทียนด้วยแววตาเคารพและเลื่อมใส ยอมเขาจากใจจริงแล้ว

จูเก่อซือหม่าอุทาน “สมกับเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แข็งแกร่งมากจริงๆ มีเขาอยู่ พวกเราจะต้องไปถึงเกาะเทพลอยฟ้าได้อย่างปลอดภัยแน่”

ศิษย์สองตระกูลขุนนางพยักหน้าถี่ๆ เชื่อสนิทใจ

ทางด้านศิษย์หญิงของสองตระกูลยังส่งเสียงกรี๊ดแหลมเล็ก

“แผ่นหลังเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กว้างมาก ให้ความรู้สึกปลอดภัยจริงๆ!”

“แล้วก็ๆ ใบหน้าด้านข้างเขาหล่อเกินไปแล้ว หล่อที่สุดเลย!”

“ข้ารู้สึกว่าหัวใจข้าจะละลายแล้ว!”

ศิษย์หญิงทั้งหมดมองเสิ่นเทียนด้วยใบหน้าหลงใหล ตาไม่กะพริบ

ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเปรี้ยวตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

บุรุษหนุ่มของสองตระกูลมองเทพธิดาที่ตนรักและเคารพพลางรู้สึกเหมือนกินมะนาวหมื่นปี รู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง

…..

เสิ่นเทียนยืนหน้าเรือเหาะ ประกบสองมือและปล่อยพลังเทพไม่มีสิ้นสุดออกไป

ไอเบิกฟ้าที่เตรียมเซียนยังกลัวนั่นเหมือนจะไม่มีที่ให้ต่อต้านเลย ทุกครั้งที่เขาออกมือจะกระแทกไอเบิกฟ้าถอยไปมากมาย ทำให้ฟ้าดินชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

เขาเอ่ยราบเรียบ “เดินหน้าต่อเถอะ!”

“ขอรับ!”

ศิษย์สองตระกูลขุนนางตื่นเต้นกันมาก เดินหน้าเรือเหาะไปเรื่อยๆ แม้แต่ความเร็วยังเพิ่มขึ้นหลายเท่า

เรือเหาะพุ่งทะยานไปในทะเลดาราเบิกฟ้าตามอำเภอใจ รวดเร็วอย่างยิ่ง

มีเสิ่นเทียนเปิดทางอยู่ข้างหน้า การเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นไร้อุปสรรค สบายมาก

เมื่อไอเบิกฟ้าชั้นสุดท้ายเปิดออก แสงเทพไร้ที่สิ้นสุดส่องสว่าง สีสันหลากสีแสบตา

ทุกคนตาพร่ามัว มีความรู้สึกเปิดเมฆหมอกเห็นตะวันจันทรา

ฟ้าดินพลันกลับมาชัดเจน ไอเบิกฟ้าทั้งหมดถอยไป ไม่อาจแตะต้องเรือเหาะได้

ตรงหน้าพวกเขาปรากฏเกาะมหึมาเกาะหนึ่ง มันลอยสูงอยู่บนอากาศ

มองไกลๆ เหมือนโลกเล็กอิสระ โอ่อ่ายิ่งใหญ่ที่สุด

หลังจากเห็นเกาะนี้ นัยน์ตาทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

จูเก่อหยวนกับซือหม่าเฉิงตัวแข็งทื่อ ตาค้างอ้าปากกว้าง

เหมือนว่ามีตัววรนุชล้านล้านตัววิ่งผ่านไปในใจพวกเขา พลิกฟ้าพลิกดิน

…..

หน้าตาของเกาะนี้แทบจะเหมือนเกาะเทพลอยฟ้าที่บันทึกไว้ในตำราโบราณทุกประการ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ คงไม่เดาถูกจริงๆ หรอกนะ!

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด