บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!

การฝึกบำเพ็ญเซียนคือการฝึกจิตใจ ด้วยเหตุนี้ความสำคัญของการฝึกสภาพจิตใจจึงไม่ต้องกล่าวก็รู้กันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นระดับหลอมปราณ สร้างฐานหรือแก่นพลังทอง ความจริงหลักๆ คือการฝึกที่เอนไปทางวัตถุ

แต่หลังจากถึงระดับดวงจิตดรุณ การฝึกในด้านจิตใจจะค่อยๆ สำคัญขึ้น ต้องใช้ธุลีแดงหล่อหลอมจิตใจ

ถ้าผู้ฝึกบำเพ็ญแน่วแน่ในมรรคของตนมาก เช่นนั้นย่อมเดินบนเส้นทางการฝึกบำเพ็ญได้อย่างฮึกเหิม หนึ่งวันพันลี้

แต่ถ้าเกิดความสงสัยในมรรคที่ตนเลือก ก็จะเกิดธาตุไฟเข้าแทรกและบาดเจ็บสาหัสได้ง่ายมาก

มรรคชนิดนี้ก็ไม่แน่ว่าจะใช่มหามรรคปัญจธาตุหรือมหามรรคหยินหยาง เรียกได้ว่าเป็นมรรคเล็ก

อย่างเช่นมรรคแห่งเครื่องดนตรี มรรคแห่งการวาดภาพ กระทั่งมรรคแห่งการเลื่อมใสผู้แข็งแกร่ง

เล่าลือว่าในสมัยโบราณกาลมีจักรพรรดิสูงสุดก่อตั้งตำหนักกลาง รวมดินแดนไร้ขอบเขตห้าดินแดนเป็นหนึ่ง

จักรพรรดิไร้พ่ายและผู้เลื่อมใสติดตามใต้จักรพรรดิท่านนั้นก็เดินบนเส้นทางเซียนได้รวดเร็วพุ่งพรวด สุดท้ายกระทั่งมีข่าวลือว่าจักรพรรดิท่านนั้นนำพาผู้ติดตามทั้งหมดพุ่งขึ้นฟ้าท้าสู้กับแดนเซียนไร้พรมแดน

อีกทั้งตำนานที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่นี่ยังเป็นเรื่องเล่า ‘หนึ่งคนบรรลุมรรค ไก่และสุนัขพลอยทะยานขึ้นฟ้า’ ฝากไว้ให้ในโลกบำเพ็ญเซียน

และเพราะเหตุนี้เอง ผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมากในโลกบำเพ็ญเซียนที่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์จำกัด จึงไม่ยึดมั่นเดินทางเส้นทางไร้พ่าย แต่จะเลือกติดตามผู้แข็งแกร่งมากกว่า

ขอแค่พวกเขาเชื่อมั่นในการเลือกของตัวเองก็จะเดินบนมรรคของตนได้เช่นกัน

แน่นอน ในด้านทฤษฎีบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์จะไม่เดินบนเส้นทางนี้ เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีความโอหังของแดนศักดิ์สิทธิ์

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างเป็นโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในรอบร้อยปีมานี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์หน้าตาของแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเลือกเดินมหามรรคใดก็ได้ แย่งอำนาจกับเหล่าวีรบุรุษในใต้หล้า มีแค่ไม่เหมาะกับมรรคแห่งการติดตามเท่านั้น

ก็เหมือนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเลือกติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง เช่นนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็เสียหน้าแล้ว ต่อให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ แดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็ยังไม่เต็มใจ

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แดนศักดิ์สิทธิ์มีคนร้องขอให้เปลี่ยนบุตรศักดิ์สิทธิ์ตลอด แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือแข็งแกร่งจริงๆ อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยังมีประกายแสงกดดันรุนแรงยิ่ง แบบนี้ถึงได้กดเรื่องซุบซิบนินทาลงได้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือได้ยินคนรอบข้างแอบนินทาลับหลังก็ยังไม่พอใจอยู่ข้างใน

เขาพูดโน้มน้าวตัวเองหลายครั้งว่าศิษย์พี่เซ่าเสวียนคือจักรพรรดิน้อยที่พานพบได้ยากในรอบหมื่นปีของดินแดนบูรพา!

ศิษย์พี่เซ่าเสวียนคือหนึ่งเดียว ภายภาคหน้าจะต้องเป็นจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน

การเลือกของข้าเฉินจงเทียนต่างหากที่มีสายตาคมกริบอย่างแท้จริง!

ด้วยเหตุนี้ถึงได้ฝืนให้จิตมรรคของตนมั่นคงได้

………..

เพราะอาศัยการเลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงในใจไปเรื่อยๆ เฉินจงเทียนถึงได้อดทนติดตามเขาอย่างไม่คิดบ่นและเสียใจภายหลัง

ความเชื่อมั่นนี้แน่วแน่มาก ประกอบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ใจกว้างจริงๆ มีโชคลิขิตให้มาไม่น้อย ดังนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือจึงมีพลังบำเพ็ญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาตลอด

นี่ก็ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์มั่นใจที่จะติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยิ่งกว่าเดิม

แต่วันนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรู้สึกสงสัยในชีวิตแล้ว

เห็นๆ อยู่ว่าศิษย์พี่เซ่าเสวียนต่างหากที่เป็นพระเอกที่ชะตาฟ้าลิขิต มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ

ข้านำพาอำนาจของศิษย์พี่เซ่าเสวียนมาเยือนแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เหตุใดถึงโดนตบหน้าเข้าล่ะ

ขนาดศิษย์พี่เซ่าเสวียนยังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแค่ร้อยชั่ง เสิ่นเทียนจะมีห้าร้อยชั่งได้อย่างไร อีกทั้งของเหลวศักดิ์สิทธิ์ห้าร้อยชั่งนี้ยังมีคุณภาพดีกว่า!

และสิ่งที่ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเป็นบ้าคือ เขาติดตามฉีเซ่าเสวียนมาหลายปี แต่ได้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์มาแค่หนึ่งชั่ง

ทว่าในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นี่!

ฟางฉางแก่นพลังทองแตกธาตุไฟเข้าแทรก บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ให้ไปร้อยชั่งแทบไม่กะพริบตาเลย!

วางมาดใหญ่โตเกินไปแล้ว!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือปวดร้าว เขารู้สึกว่าตนเหมือนกินมะนาวพันปีเข้าไป

รู้สึกเปรี้ยวฝาดตั้งแต่หัวจรดเท้าจากในไปสู่ข้างนอก

แก่นพลังทองทะลวงไประดับดวงจิตดรุณคือการทุบแก่นเป็นดรุณ เน้นการใช้พลังแห่งวิญญาณจากแก่นพลังทอง รวมเป็นดวงจิตดรุณแห่งมรรค ดวงจิตดรุณแรกกำเนิดจะเปราะบางมาก นี่ไม่ใช่แค่ในด้านกำลังรบที่แสดงออกมาเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณยังมีสภาพจิตใจที่ได้รับผลกระทบด้านความรู้สึกได้ง่ายมาก

ดินแดนบูรพามีผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณแต่ธาตุไฟเข้าแทรกเพราะสงสัยในมรรคของตนมาตลอด ด้วยเหตุนี้ในสถานการณ์ปกติ หลังจากระดับแก่นพลังทองทะลวงถึงผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณแล้วก็จะปิดด่านบำเพ็ญปรับเสถียรภาพ

ครั้งนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรีบร้อนมาโอ้อวดศักดา เพิ่งทะลวงก็รีบมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย ปรากฏว่าถูกเสิ่นเทียนนำพาเรื่องราวไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ สภาพจิตใจจึงเสียสมดุล

เวลานี้ดวงจิตดรุณสั่นไหว จิตใจไม่ปกติแล้ว

……..

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนกลับไม่มีเวลามาสนใจบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเลย เขากำลังตกอยู่ในห้วงความรู้สึกดวงชะตาสูงขึ้น โอ้ อ้า ฟินจริงๆ!

ความรู้สึกเบาสบายไปทั้งตัวเหมือนลอยล่องอยู่บนยอดเขาทำให้ถอนตัวไม่ขึ้น

เขาเห็นว่าในห้องลับรักษานั้น เมื่อของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานถูกหลอมเข้าไปในกายฟางฉางทีละหยด วงรัศมีเหนือศีรษะฟางฉางจากสีแดงอ่อนๆ กับสีทองสองสีก็กลายเป็นสีทองบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว ทั้งยังเปล่งแสงสว่างมากขึ้น!

ทางด้านวงรัศมีสีเขียวแก่บนศีรษะเสิ่นเทียนก็เขียวเข้มมากขึ้น กระทั่งเกิดแสงสีแดง

ใช่ เกิดแสงสีแดง ในที่สุดก็ปรากฏแสงสีแดงเหนือศีรษะเสิ่นเทียนแล้ว

ตอนนี้เสิ่นเทียนรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จริงสิ โชคดีขึ้นมาบนหัวแล้ว!

ตอนนี้ถือว่าเป็นผู้มีมหาโชคสำหรับคนปกติแล้ว!

รอบๆ เงียบกันหมด ทุกคนจ้องฟางฉางเขม็ง

ในที่สุด เมื่อของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานทั้งขวดหลอมรวมเข้าไปในกายฟางฉาง แก่นพลังทองของเขาก็ไม่มีรอยร้าวอีก แก่นพลังทองทั้งก้อนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างยิ่ง

ร่างกายเขาฟื้นฟูด้วยของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานและกลับมากำยำอีกครั้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง

“ทะลวง!”

ฟางฉางตะโกนเสียงดังทีหนึ่ง แก่นพลังทองพลันเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง

ต่อมาก็เกิดรอยร้าวขึ้นช้าๆ

ทว่าครั้งนี้ไม่ได้แตก แต่กำลังทำการทุบรอบแก่นพลังทอง

ใช่แล้ว หลังจากของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานรักษาบาดแผลแห่งมหามรรค ฟางฉางก็ได้โชคจากเคราะห์ร้าย

เขาได้ตระหนักมรรคที่ลึกลับและลึกลับในช่วงเวลาเป็นตาย ตอนนี้กำลังสั่งสมพลังไว้รอปลดปล่อย

รอยแตกหลุดร่วงลงมาเป็นแผ่นๆ เผยแก่นพลังทองใหม่ที่สว่างไสวยิ่งกว่าเดิมข้างใน ลวดลายมรรคที่เก้าโผล่ขึ้นมาช้าๆ

ตอนนี้ฟางฉางกำลังทะลวงขีดจำกัดเก้ารอบในระดับแก่นพลังทอง อีกทั้งยังสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า รับขวดหยกในมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมาแล้วบีบให้แตก ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมหาศาลพลันกลายเป็นมังกรสีเงินตัวหนึ่งบินออกไป

มันหลั่งไหลไปทางฟางฉางอย่างรวดเร็วและห่อหุ้มเขาเอาไว้

พลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุดหลั่งทะลักเข้าไปในกายฟางฉาง เติมเต็มพลังที่เสียไป

ตอนนี้ รอยแตกบนผิวแก่นพลังทองหลุดร่วงเร็วกว่าเดิม ลวดลายแห่งมรรคชัดเจนกว่าเดิม

ตอนนี้ นักพรตชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ถอนหายใจโล่งอกและยังแอบหายใจแรงๆ

เมื่อเห็นการกระทำอันฟุ่มเฟือยของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับศิษย์ล้างผลาญแล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือที่อยู่ข้างนอกอึ้งไป

เดิมทีเขาสับสนอยู่มากกว่าครึ่งชั่วยามกว่าจะฝืนให้จิตใจมั่นคงได้ กลับมาเป็นปกติแล้ว

แต่ตอนนี้เห็นภาพนี้แล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือตาเหลือกไปอีกครั้ง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือด้วยสีหน้าเรียบเฉย

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

………..

ปรากฏการณ์กิเลนยักษ์รวมขึ้นมาลอยอยู่ข้างหลังฟางฉาง

ตอนนี้ฟางฉางถูกปกคลุมอยู่กลางสายฟ้าสีทองราวกับเทพสายฟ้าลงมาเยือน

เขาคำรามลากเสียงยาว แก่นพลังทองเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง พลังทั้งตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที

บึ้ม!

พลังงานหลั่งทะลักขึ้นลง ฟางฉางตกลงพื้นอย่างแรง “ศิษย์อกตัญญูฟางฉางขอขอบคุณอาจารย์และอาจารย์อาที่ช่วยไว้”

จากนั้นฟางฉางมองเสิ่นเทียนที่อยู่ข้างนอกห้องลับ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาคลอ พูดงึมงำกับตัวเองว่า

“ศิษย์น้องแบ่งโชคลิขิตให้ข้าเยอะเช่นนี้ ข้ายังมาคิดตัดสินกับเขาตลอด ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพ น้ำจิตน้ำใจ หรือว่าปณิธาน ข้าล้วนแพ้หมด

ศิษย์น้อง เจ้าต่างหากที่คู่ควรกับศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซี

ศิษย์พี่…ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!”

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!

การฝึกบำเพ็ญเซียนคือการฝึกจิตใจ ด้วยเหตุนี้ความสำคัญของการฝึกสภาพจิตใจจึงไม่ต้องกล่าวก็รู้กันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นระดับหลอมปราณ สร้างฐานหรือแก่นพลังทอง ความจริงหลักๆ คือการฝึกที่เอนไปทางวัตถุ

แต่หลังจากถึงระดับดวงจิตดรุณ การฝึกในด้านจิตใจจะค่อยๆ สำคัญขึ้น ต้องใช้ธุลีแดงหล่อหลอมจิตใจ

ถ้าผู้ฝึกบำเพ็ญแน่วแน่ในมรรคของตนมาก เช่นนั้นย่อมเดินบนเส้นทางการฝึกบำเพ็ญได้อย่างฮึกเหิม หนึ่งวันพันลี้

แต่ถ้าเกิดความสงสัยในมรรคที่ตนเลือก ก็จะเกิดธาตุไฟเข้าแทรกและบาดเจ็บสาหัสได้ง่ายมาก

มรรคชนิดนี้ก็ไม่แน่ว่าจะใช่มหามรรคปัญจธาตุหรือมหามรรคหยินหยาง เรียกได้ว่าเป็นมรรคเล็ก

อย่างเช่นมรรคแห่งเครื่องดนตรี มรรคแห่งการวาดภาพ กระทั่งมรรคแห่งการเลื่อมใสผู้แข็งแกร่ง

เล่าลือว่าในสมัยโบราณกาลมีจักรพรรดิสูงสุดก่อตั้งตำหนักกลาง รวมดินแดนไร้ขอบเขตห้าดินแดนเป็นหนึ่ง

จักรพรรดิไร้พ่ายและผู้เลื่อมใสติดตามใต้จักรพรรดิท่านนั้นก็เดินบนเส้นทางเซียนได้รวดเร็วพุ่งพรวด สุดท้ายกระทั่งมีข่าวลือว่าจักรพรรดิท่านนั้นนำพาผู้ติดตามทั้งหมดพุ่งขึ้นฟ้าท้าสู้กับแดนเซียนไร้พรมแดน

อีกทั้งตำนานที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่นี่ยังเป็นเรื่องเล่า ‘หนึ่งคนบรรลุมรรค ไก่และสุนัขพลอยทะยานขึ้นฟ้า’ ฝากไว้ให้ในโลกบำเพ็ญเซียน

และเพราะเหตุนี้เอง ผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมากในโลกบำเพ็ญเซียนที่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์จำกัด จึงไม่ยึดมั่นเดินทางเส้นทางไร้พ่าย แต่จะเลือกติดตามผู้แข็งแกร่งมากกว่า

ขอแค่พวกเขาเชื่อมั่นในการเลือกของตัวเองก็จะเดินบนมรรคของตนได้เช่นกัน

แน่นอน ในด้านทฤษฎีบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์จะไม่เดินบนเส้นทางนี้ เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีความโอหังของแดนศักดิ์สิทธิ์

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างเป็นโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในรอบร้อยปีมานี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์หน้าตาของแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเลือกเดินมหามรรคใดก็ได้ แย่งอำนาจกับเหล่าวีรบุรุษในใต้หล้า มีแค่ไม่เหมาะกับมรรคแห่งการติดตามเท่านั้น

ก็เหมือนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเลือกติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง เช่นนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็เสียหน้าแล้ว ต่อให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ แดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็ยังไม่เต็มใจ

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แดนศักดิ์สิทธิ์มีคนร้องขอให้เปลี่ยนบุตรศักดิ์สิทธิ์ตลอด แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือแข็งแกร่งจริงๆ อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยังมีประกายแสงกดดันรุนแรงยิ่ง แบบนี้ถึงได้กดเรื่องซุบซิบนินทาลงได้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือได้ยินคนรอบข้างแอบนินทาลับหลังก็ยังไม่พอใจอยู่ข้างใน

เขาพูดโน้มน้าวตัวเองหลายครั้งว่าศิษย์พี่เซ่าเสวียนคือจักรพรรดิน้อยที่พานพบได้ยากในรอบหมื่นปีของดินแดนบูรพา!

ศิษย์พี่เซ่าเสวียนคือหนึ่งเดียว ภายภาคหน้าจะต้องเป็นจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน

การเลือกของข้าเฉินจงเทียนต่างหากที่มีสายตาคมกริบอย่างแท้จริง!

ด้วยเหตุนี้ถึงได้ฝืนให้จิตมรรคของตนมั่นคงได้

………..

เพราะอาศัยการเลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงในใจไปเรื่อยๆ เฉินจงเทียนถึงได้อดทนติดตามเขาอย่างไม่คิดบ่นและเสียใจภายหลัง

ความเชื่อมั่นนี้แน่วแน่มาก ประกอบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ใจกว้างจริงๆ มีโชคลิขิตให้มาไม่น้อย ดังนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือจึงมีพลังบำเพ็ญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาตลอด

นี่ก็ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์มั่นใจที่จะติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยิ่งกว่าเดิม

แต่วันนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรู้สึกสงสัยในชีวิตแล้ว

เห็นๆ อยู่ว่าศิษย์พี่เซ่าเสวียนต่างหากที่เป็นพระเอกที่ชะตาฟ้าลิขิต มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ

ข้านำพาอำนาจของศิษย์พี่เซ่าเสวียนมาเยือนแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เหตุใดถึงโดนตบหน้าเข้าล่ะ

ขนาดศิษย์พี่เซ่าเสวียนยังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแค่ร้อยชั่ง เสิ่นเทียนจะมีห้าร้อยชั่งได้อย่างไร อีกทั้งของเหลวศักดิ์สิทธิ์ห้าร้อยชั่งนี้ยังมีคุณภาพดีกว่า!

และสิ่งที่ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเป็นบ้าคือ เขาติดตามฉีเซ่าเสวียนมาหลายปี แต่ได้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์มาแค่หนึ่งชั่ง

ทว่าในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นี่!

ฟางฉางแก่นพลังทองแตกธาตุไฟเข้าแทรก บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ให้ไปร้อยชั่งแทบไม่กะพริบตาเลย!

วางมาดใหญ่โตเกินไปแล้ว!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือปวดร้าว เขารู้สึกว่าตนเหมือนกินมะนาวพันปีเข้าไป

รู้สึกเปรี้ยวฝาดตั้งแต่หัวจรดเท้าจากในไปสู่ข้างนอก

แก่นพลังทองทะลวงไประดับดวงจิตดรุณคือการทุบแก่นเป็นดรุณ เน้นการใช้พลังแห่งวิญญาณจากแก่นพลังทอง รวมเป็นดวงจิตดรุณแห่งมรรค ดวงจิตดรุณแรกกำเนิดจะเปราะบางมาก นี่ไม่ใช่แค่ในด้านกำลังรบที่แสดงออกมาเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณยังมีสภาพจิตใจที่ได้รับผลกระทบด้านความรู้สึกได้ง่ายมาก

ดินแดนบูรพามีผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณแต่ธาตุไฟเข้าแทรกเพราะสงสัยในมรรคของตนมาตลอด ด้วยเหตุนี้ในสถานการณ์ปกติ หลังจากระดับแก่นพลังทองทะลวงถึงผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณแล้วก็จะปิดด่านบำเพ็ญปรับเสถียรภาพ

ครั้งนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรีบร้อนมาโอ้อวดศักดา เพิ่งทะลวงก็รีบมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย ปรากฏว่าถูกเสิ่นเทียนนำพาเรื่องราวไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ สภาพจิตใจจึงเสียสมดุล

เวลานี้ดวงจิตดรุณสั่นไหว จิตใจไม่ปกติแล้ว

……..

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนกลับไม่มีเวลามาสนใจบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเลย เขากำลังตกอยู่ในห้วงความรู้สึกดวงชะตาสูงขึ้น โอ้ อ้า ฟินจริงๆ!

ความรู้สึกเบาสบายไปทั้งตัวเหมือนลอยล่องอยู่บนยอดเขาทำให้ถอนตัวไม่ขึ้น

เขาเห็นว่าในห้องลับรักษานั้น เมื่อของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานถูกหลอมเข้าไปในกายฟางฉางทีละหยด วงรัศมีเหนือศีรษะฟางฉางจากสีแดงอ่อนๆ กับสีทองสองสีก็กลายเป็นสีทองบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว ทั้งยังเปล่งแสงสว่างมากขึ้น!

ทางด้านวงรัศมีสีเขียวแก่บนศีรษะเสิ่นเทียนก็เขียวเข้มมากขึ้น กระทั่งเกิดแสงสีแดง

ใช่ เกิดแสงสีแดง ในที่สุดก็ปรากฏแสงสีแดงเหนือศีรษะเสิ่นเทียนแล้ว

ตอนนี้เสิ่นเทียนรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จริงสิ โชคดีขึ้นมาบนหัวแล้ว!

ตอนนี้ถือว่าเป็นผู้มีมหาโชคสำหรับคนปกติแล้ว!

รอบๆ เงียบกันหมด ทุกคนจ้องฟางฉางเขม็ง

ในที่สุด เมื่อของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานทั้งขวดหลอมรวมเข้าไปในกายฟางฉาง แก่นพลังทองของเขาก็ไม่มีรอยร้าวอีก แก่นพลังทองทั้งก้อนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างยิ่ง

ร่างกายเขาฟื้นฟูด้วยของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานและกลับมากำยำอีกครั้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง

“ทะลวง!”

ฟางฉางตะโกนเสียงดังทีหนึ่ง แก่นพลังทองพลันเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง

ต่อมาก็เกิดรอยร้าวขึ้นช้าๆ

ทว่าครั้งนี้ไม่ได้แตก แต่กำลังทำการทุบรอบแก่นพลังทอง

ใช่แล้ว หลังจากของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานรักษาบาดแผลแห่งมหามรรค ฟางฉางก็ได้โชคจากเคราะห์ร้าย

เขาได้ตระหนักมรรคที่ลึกลับและลึกลับในช่วงเวลาเป็นตาย ตอนนี้กำลังสั่งสมพลังไว้รอปลดปล่อย

รอยแตกหลุดร่วงลงมาเป็นแผ่นๆ เผยแก่นพลังทองใหม่ที่สว่างไสวยิ่งกว่าเดิมข้างใน ลวดลายมรรคที่เก้าโผล่ขึ้นมาช้าๆ

ตอนนี้ฟางฉางกำลังทะลวงขีดจำกัดเก้ารอบในระดับแก่นพลังทอง อีกทั้งยังสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า รับขวดหยกในมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมาแล้วบีบให้แตก ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมหาศาลพลันกลายเป็นมังกรสีเงินตัวหนึ่งบินออกไป

มันหลั่งไหลไปทางฟางฉางอย่างรวดเร็วและห่อหุ้มเขาเอาไว้

พลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุดหลั่งทะลักเข้าไปในกายฟางฉาง เติมเต็มพลังที่เสียไป

ตอนนี้ รอยแตกบนผิวแก่นพลังทองหลุดร่วงเร็วกว่าเดิม ลวดลายแห่งมรรคชัดเจนกว่าเดิม

ตอนนี้ นักพรตชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ถอนหายใจโล่งอกและยังแอบหายใจแรงๆ

เมื่อเห็นการกระทำอันฟุ่มเฟือยของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับศิษย์ล้างผลาญแล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือที่อยู่ข้างนอกอึ้งไป

เดิมทีเขาสับสนอยู่มากกว่าครึ่งชั่วยามกว่าจะฝืนให้จิตใจมั่นคงได้ กลับมาเป็นปกติแล้ว

แต่ตอนนี้เห็นภาพนี้แล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือตาเหลือกไปอีกครั้ง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือด้วยสีหน้าเรียบเฉย

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

………..

ปรากฏการณ์กิเลนยักษ์รวมขึ้นมาลอยอยู่ข้างหลังฟางฉาง

ตอนนี้ฟางฉางถูกปกคลุมอยู่กลางสายฟ้าสีทองราวกับเทพสายฟ้าลงมาเยือน

เขาคำรามลากเสียงยาว แก่นพลังทองเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง พลังทั้งตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที

บึ้ม!

พลังงานหลั่งทะลักขึ้นลง ฟางฉางตกลงพื้นอย่างแรง “ศิษย์อกตัญญูฟางฉางขอขอบคุณอาจารย์และอาจารย์อาที่ช่วยไว้”

จากนั้นฟางฉางมองเสิ่นเทียนที่อยู่ข้างนอกห้องลับ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาคลอ พูดงึมงำกับตัวเองว่า

“ศิษย์น้องแบ่งโชคลิขิตให้ข้าเยอะเช่นนี้ ข้ายังมาคิดตัดสินกับเขาตลอด ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพ น้ำจิตน้ำใจ หรือว่าปณิธาน ข้าล้วนแพ้หมด

ศิษย์น้อง เจ้าต่างหากที่คู่ควรกับศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซี

ศิษย์พี่…ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!”

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 173 ศิษย์พี่ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!

การฝึกบำเพ็ญเซียนคือการฝึกจิตใจ ด้วยเหตุนี้ความสำคัญของการฝึกสภาพจิตใจจึงไม่ต้องกล่าวก็รู้กันแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นระดับหลอมปราณ สร้างฐานหรือแก่นพลังทอง ความจริงหลักๆ คือการฝึกที่เอนไปทางวัตถุ

แต่หลังจากถึงระดับดวงจิตดรุณ การฝึกในด้านจิตใจจะค่อยๆ สำคัญขึ้น ต้องใช้ธุลีแดงหล่อหลอมจิตใจ

ถ้าผู้ฝึกบำเพ็ญแน่วแน่ในมรรคของตนมาก เช่นนั้นย่อมเดินบนเส้นทางการฝึกบำเพ็ญได้อย่างฮึกเหิม หนึ่งวันพันลี้

แต่ถ้าเกิดความสงสัยในมรรคที่ตนเลือก ก็จะเกิดธาตุไฟเข้าแทรกและบาดเจ็บสาหัสได้ง่ายมาก

มรรคชนิดนี้ก็ไม่แน่ว่าจะใช่มหามรรคปัญจธาตุหรือมหามรรคหยินหยาง เรียกได้ว่าเป็นมรรคเล็ก

อย่างเช่นมรรคแห่งเครื่องดนตรี มรรคแห่งการวาดภาพ กระทั่งมรรคแห่งการเลื่อมใสผู้แข็งแกร่ง

เล่าลือว่าในสมัยโบราณกาลมีจักรพรรดิสูงสุดก่อตั้งตำหนักกลาง รวมดินแดนไร้ขอบเขตห้าดินแดนเป็นหนึ่ง

จักรพรรดิไร้พ่ายและผู้เลื่อมใสติดตามใต้จักรพรรดิท่านนั้นก็เดินบนเส้นทางเซียนได้รวดเร็วพุ่งพรวด สุดท้ายกระทั่งมีข่าวลือว่าจักรพรรดิท่านนั้นนำพาผู้ติดตามทั้งหมดพุ่งขึ้นฟ้าท้าสู้กับแดนเซียนไร้พรมแดน

อีกทั้งตำนานที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่นี่ยังเป็นเรื่องเล่า ‘หนึ่งคนบรรลุมรรค ไก่และสุนัขพลอยทะยานขึ้นฟ้า’ ฝากไว้ให้ในโลกบำเพ็ญเซียน

และเพราะเหตุนี้เอง ผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมากในโลกบำเพ็ญเซียนที่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์จำกัด จึงไม่ยึดมั่นเดินทางเส้นทางไร้พ่าย แต่จะเลือกติดตามผู้แข็งแกร่งมากกว่า

ขอแค่พวกเขาเชื่อมั่นในการเลือกของตัวเองก็จะเดินบนมรรคของตนได้เช่นกัน

แน่นอน ในด้านทฤษฎีบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์จะไม่เดินบนเส้นทางนี้ เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์ก็มีความโอหังของแดนศักดิ์สิทธิ์

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างเป็นโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในรอบร้อยปีมานี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์หน้าตาของแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเลือกเดินมหามรรคใดก็ได้ แย่งอำนาจกับเหล่าวีรบุรุษในใต้หล้า มีแค่ไม่เหมาะกับมรรคแห่งการติดตามเท่านั้น

ก็เหมือนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเลือกติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง เช่นนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็เสียหน้าแล้ว ต่อให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ แดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็ยังไม่เต็มใจ

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แดนศักดิ์สิทธิ์มีคนร้องขอให้เปลี่ยนบุตรศักดิ์สิทธิ์ตลอด แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือแข็งแกร่งจริงๆ อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยังมีประกายแสงกดดันรุนแรงยิ่ง แบบนี้ถึงได้กดเรื่องซุบซิบนินทาลงได้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือได้ยินคนรอบข้างแอบนินทาลับหลังก็ยังไม่พอใจอยู่ข้างใน

เขาพูดโน้มน้าวตัวเองหลายครั้งว่าศิษย์พี่เซ่าเสวียนคือจักรพรรดิน้อยที่พานพบได้ยากในรอบหมื่นปีของดินแดนบูรพา!

ศิษย์พี่เซ่าเสวียนคือหนึ่งเดียว ภายภาคหน้าจะต้องเป็นจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน

การเลือกของข้าเฉินจงเทียนต่างหากที่มีสายตาคมกริบอย่างแท้จริง!

ด้วยเหตุนี้ถึงได้ฝืนให้จิตมรรคของตนมั่นคงได้

………..

เพราะอาศัยการเลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงในใจไปเรื่อยๆ เฉินจงเทียนถึงได้อดทนติดตามเขาอย่างไม่คิดบ่นและเสียใจภายหลัง

ความเชื่อมั่นนี้แน่วแน่มาก ประกอบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ใจกว้างจริงๆ มีโชคลิขิตให้มาไม่น้อย ดังนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือจึงมีพลังบำเพ็ญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาตลอด

นี่ก็ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์มั่นใจที่จะติดตามบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงยิ่งกว่าเดิม

แต่วันนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรู้สึกสงสัยในชีวิตแล้ว

เห็นๆ อยู่ว่าศิษย์พี่เซ่าเสวียนต่างหากที่เป็นพระเอกที่ชะตาฟ้าลิขิต มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ

ข้านำพาอำนาจของศิษย์พี่เซ่าเสวียนมาเยือนแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เหตุใดถึงโดนตบหน้าเข้าล่ะ

ขนาดศิษย์พี่เซ่าเสวียนยังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแค่ร้อยชั่ง เสิ่นเทียนจะมีห้าร้อยชั่งได้อย่างไร อีกทั้งของเหลวศักดิ์สิทธิ์ห้าร้อยชั่งนี้ยังมีคุณภาพดีกว่า!

และสิ่งที่ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเป็นบ้าคือ เขาติดตามฉีเซ่าเสวียนมาหลายปี แต่ได้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์มาแค่หนึ่งชั่ง

ทว่าในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นี่!

ฟางฉางแก่นพลังทองแตกธาตุไฟเข้าแทรก บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ให้ไปร้อยชั่งแทบไม่กะพริบตาเลย!

วางมาดใหญ่โตเกินไปแล้ว!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือปวดร้าว เขารู้สึกว่าตนเหมือนกินมะนาวพันปีเข้าไป

รู้สึกเปรี้ยวฝาดตั้งแต่หัวจรดเท้าจากในไปสู่ข้างนอก

แก่นพลังทองทะลวงไประดับดวงจิตดรุณคือการทุบแก่นเป็นดรุณ เน้นการใช้พลังแห่งวิญญาณจากแก่นพลังทอง รวมเป็นดวงจิตดรุณแห่งมรรค ดวงจิตดรุณแรกกำเนิดจะเปราะบางมาก นี่ไม่ใช่แค่ในด้านกำลังรบที่แสดงออกมาเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณยังมีสภาพจิตใจที่ได้รับผลกระทบด้านความรู้สึกได้ง่ายมาก

ดินแดนบูรพามีผู้ฝึกบำเพ็ญที่เพิ่งทะลวงระดับดวงจิตดรุณแต่ธาตุไฟเข้าแทรกเพราะสงสัยในมรรคของตนมาตลอด ด้วยเหตุนี้ในสถานการณ์ปกติ หลังจากระดับแก่นพลังทองทะลวงถึงผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณแล้วก็จะปิดด่านบำเพ็ญปรับเสถียรภาพ

ครั้งนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรีบร้อนมาโอ้อวดศักดา เพิ่งทะลวงก็รีบมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย ปรากฏว่าถูกเสิ่นเทียนนำพาเรื่องราวไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ สภาพจิตใจจึงเสียสมดุล

เวลานี้ดวงจิตดรุณสั่นไหว จิตใจไม่ปกติแล้ว

……..

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนกลับไม่มีเวลามาสนใจบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเลย เขากำลังตกอยู่ในห้วงความรู้สึกดวงชะตาสูงขึ้น โอ้ อ้า ฟินจริงๆ!

ความรู้สึกเบาสบายไปทั้งตัวเหมือนลอยล่องอยู่บนยอดเขาทำให้ถอนตัวไม่ขึ้น

เขาเห็นว่าในห้องลับรักษานั้น เมื่อของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานถูกหลอมเข้าไปในกายฟางฉางทีละหยด วงรัศมีเหนือศีรษะฟางฉางจากสีแดงอ่อนๆ กับสีทองสองสีก็กลายเป็นสีทองบริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว ทั้งยังเปล่งแสงสว่างมากขึ้น!

ทางด้านวงรัศมีสีเขียวแก่บนศีรษะเสิ่นเทียนก็เขียวเข้มมากขึ้น กระทั่งเกิดแสงสีแดง

ใช่ เกิดแสงสีแดง ในที่สุดก็ปรากฏแสงสีแดงเหนือศีรษะเสิ่นเทียนแล้ว

ตอนนี้เสิ่นเทียนรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จริงสิ โชคดีขึ้นมาบนหัวแล้ว!

ตอนนี้ถือว่าเป็นผู้มีมหาโชคสำหรับคนปกติแล้ว!

รอบๆ เงียบกันหมด ทุกคนจ้องฟางฉางเขม็ง

ในที่สุด เมื่อของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานทั้งขวดหลอมรวมเข้าไปในกายฟางฉาง แก่นพลังทองของเขาก็ไม่มีรอยร้าวอีก แก่นพลังทองทั้งก้อนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอย่างยิ่ง

ร่างกายเขาฟื้นฟูด้วยของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานและกลับมากำยำอีกครั้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง

“ทะลวง!”

ฟางฉางตะโกนเสียงดังทีหนึ่ง แก่นพลังทองพลันเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง

ต่อมาก็เกิดรอยร้าวขึ้นช้าๆ

ทว่าครั้งนี้ไม่ได้แตก แต่กำลังทำการทุบรอบแก่นพลังทอง

ใช่แล้ว หลังจากของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานรักษาบาดแผลแห่งมหามรรค ฟางฉางก็ได้โชคจากเคราะห์ร้าย

เขาได้ตระหนักมรรคที่ลึกลับและลึกลับในช่วงเวลาเป็นตาย ตอนนี้กำลังสั่งสมพลังไว้รอปลดปล่อย

รอยแตกหลุดร่วงลงมาเป็นแผ่นๆ เผยแก่นพลังทองใหม่ที่สว่างไสวยิ่งกว่าเดิมข้างใน ลวดลายมรรคที่เก้าโผล่ขึ้นมาช้าๆ

ตอนนี้ฟางฉางกำลังทะลวงขีดจำกัดเก้ารอบในระดับแก่นพลังทอง อีกทั้งยังสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า รับขวดหยกในมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมาแล้วบีบให้แตก ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมหาศาลพลันกลายเป็นมังกรสีเงินตัวหนึ่งบินออกไป

มันหลั่งไหลไปทางฟางฉางอย่างรวดเร็วและห่อหุ้มเขาเอาไว้

พลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุดหลั่งทะลักเข้าไปในกายฟางฉาง เติมเต็มพลังที่เสียไป

ตอนนี้ รอยแตกบนผิวแก่นพลังทองหลุดร่วงเร็วกว่าเดิม ลวดลายแห่งมรรคชัดเจนกว่าเดิม

ตอนนี้ นักพรตชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ถอนหายใจโล่งอกและยังแอบหายใจแรงๆ

เมื่อเห็นการกระทำอันฟุ่มเฟือยของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับศิษย์ล้างผลาญแล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือที่อยู่ข้างนอกอึ้งไป

เดิมทีเขาสับสนอยู่มากกว่าครึ่งชั่วยามกว่าจะฝืนให้จิตใจมั่นคงได้ กลับมาเป็นปกติแล้ว

แต่ตอนนี้เห็นภาพนี้แล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือตาเหลือกไปอีกครั้ง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือด้วยสีหน้าเรียบเฉย

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

………..

ปรากฏการณ์กิเลนยักษ์รวมขึ้นมาลอยอยู่ข้างหลังฟางฉาง

ตอนนี้ฟางฉางถูกปกคลุมอยู่กลางสายฟ้าสีทองราวกับเทพสายฟ้าลงมาเยือน

เขาคำรามลากเสียงยาว แก่นพลังทองเปล่งแสงสว่างหมื่นจั้ง พลังทั้งตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที

บึ้ม!

พลังงานหลั่งทะลักขึ้นลง ฟางฉางตกลงพื้นอย่างแรง “ศิษย์อกตัญญูฟางฉางขอขอบคุณอาจารย์และอาจารย์อาที่ช่วยไว้”

จากนั้นฟางฉางมองเสิ่นเทียนที่อยู่ข้างนอกห้องลับ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาคลอ พูดงึมงำกับตัวเองว่า

“ศิษย์น้องแบ่งโชคลิขิตให้ข้าเยอะเช่นนี้ ข้ายังมาคิดตัดสินกับเขาตลอด ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพ น้ำจิตน้ำใจ หรือว่าปณิธาน ข้าล้วนแพ้หมด

ศิษย์น้อง เจ้าต่างหากที่คู่ควรกับศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซี

ศิษย์พี่…ขอให้พวกเจ้ามีความสุข!”

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+