บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 399 มหาจักรพรรดิสมัยบรรพกาล น่ากลัวยิ่งนัก!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 399 มหาจักรพรรดิสมัยบรรพกาล น่ากลัวยิ่งนัก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 399 มหาจักรพรรดิสมัยบรรพกาล น่ากลัวยิ่งนัก!

จักรพรรดิชิงมองเสิ่นเทียนที่มีปรากฏการณ์มากมายวนเวียน มีกลิ่นอายพลังน่ากลัว

เขารู้สึกว่าโลกทัศน์ทั้งสามถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง จะพังทลายลง

ต่อให้เขาจะเจอสุดยอดโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคมาจนชิน แต่ก็ไม่เคยเจอปีศาจที่มีศักยภาพน่ากลัวเช่นนี้มาก่อน!

ใช้ระดับพลังนิพพานระเบิดพลังเทียบเท่ากับระดับผู้อริยะรึ

อย่าว่าแต่ทั้งห้าดินแดนเลย ต่อให้มองไปในยุคโบราณก็ไม่มีใครทำได้!

ถ้าเจ้าบอกว่าระดับนิพพานสู้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้ นี่ไม่เท่าไร ไม่ได้หายาก โอรสสวรรค์ที่มีพรสวรรค์สุดยอดก็ทำได้

ถ้าบอกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์สู้ผู้อริยะได้ ข้าก็ยอมรับได้ ถึงอย่างไรก็มีการคงอยู่อย่างผู้สูงศักดิ์สวรรค์มรรคสูงสุด

แต่ถ้าเจ้าบอกว่านิพพานสู้ผู้อริยะ ข้าจะพลิกมือตบบัวครามแปดทิศให้!

คิดว่าหลอกใครอยู่!

ไม่รู้หรือว่าต่ำกว่าผู้อริยะล้วนเป็นมดปลวก

ผู้สูงศักดิ์ระดับนิพพานกับผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ สองสิ่งไม่ได้ห่างกันแค่ดาวดวงเดียว

กล่าวได้ว่าเทียบได้กับร่องหุบเขาโลกสวรรค์ ไม่อาจข้ามผ่านได้!

แต่ตอนนี้จักรพรรดิชิงอยากจะตบตัวเอง ตื่นๆ

หรือว่าเสี้ยวดวงจิตข้าอยู่มานานเกินไป ข้าเลยสายตาพร่ามัวไปแล้ว

พลังนี้…

ซี้ด~

เหตุใดถึงรู้สึกกลัวนิดๆ

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนมองจักรพรรดิชิงพลางเดินออกมาช้าๆ

เขาย่างก้าวเดิน ปรากฏการณ์มากมายข้างหลังขยับตาม สัตว์เทพส่งเสียงคำราม ฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

เดินหนึ่งก้าว แม้แต่ห้วงอากาศยังรับพลังงานนี้ไม่ไหว เริ่มถล่มลงมาอย่างแรง

ตอนนี้กลิ่นอายพลังของเสิ่นเทียนพุ่งถึงจุดสูงสุด

เขาจะกระตุ้นพลังที่แกร่งที่สุด สู้กับมหาจักรพรรดิในระดับพลังเดียวกัน ดูว่าใครจะแข็งแกร่งใครจะอ่อนแอ!

“หัตถ์กำเนิดทะลวงฟ้า!”

เสิ่นเทียนคำรามเสียงต่ำ ยกมือขวาขึ้นมาช้าๆ

พลังงานสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินหลั่งทะลักเข้าไป เปล่งแสงสว่างพร่างพราวยิ่ง

มือใหญ่ยักษ์ลอยขึ้นมาจากอากาศ ใหญ่พันจั้ง ด้านบนมีปัญจธาตุวนเวียน สีสันหลากสี แผ่กลิ่นอายที่ทำให้คนหวาดผวา

มือยักษ์พลันพุ่งออกไป บดบังท้องนภาโดยพลัน

กดลงมาเหมือนกับขุนเขาเทพร่วงหล่น

“สหายน้อย…”

ร่างแยกจักรพรรดิชิงอยากจะพูดบางอย่าง เช่น ‘กลมเกลียวกันไว้ดีกว่า’ ‘บุรุษออกปากไม่ออกมือ’ อะไรเทือกนี้

แต่มือยักษ์ตบลงมาแล้ว พลังสั่นสะเทือนแปดทิศหกประสาน!

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น!

มวลอากาศรอบๆ พลันถล่มลง เผยเป็นความว่างเปล่าผืนใหญ่ กฎเกณฑ์พังทลายลง ลำดับปั่นป่วนอยู่นานก็ฟื้นกลับมาไม่ได้

แม้แต่ร่างแยกระดับนิพพานของจักรพรรดิชิงยังระเบิดกระจายโดยพลัน

อานุภาพของการโจมตีเดียวน่าสะพรึงอย่างยิ่ง!

……

เมื่อเห็นจักรพรรดิชิงกลายเป็นอากาศธาตุไปใต้อานุภาพฝ่ามือแล้ว เสิ่นเทียนก็ใช้หัตถ์กำเนิดทะลวงฟ้าเกาศีรษะอย่างผู้บริสุทธิ์

ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ถูกข้าตบทีเดียวตายไปเช่นนี้รึ

อืม กลยุทธ์! นี่ต้องเป็นกลยุทธ์แน่นอน!

ครืน~

ทันใดนั้นมวลอากาศสั่นสะเทือน ควันสีครามลอยขึ้น

ดอกบัวครามดอกหนึ่งเบ่งบานจากความว่างเปล่า กำเนิดพลังชีวิตแรงกล้า จากนั้นบัวครามบานออก ร่างเงาสีครามเดินออกมาจากกลางดอกบัวช้าๆ

คนนี้ก็คือจักรพรรดิชิง เพียงแต่เขามีสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก

“คนหนุ่มเจ้าไม่มีคุณธรรมในการต่อสู้เสียเลย ไม่อยากเชื่อว่าจะลอบโจมตีคนแก่อายุแสนปีอย่างข้า ตามกฎการประลองดั้งเดิมแล้ว น่าจะให้สองฝ่ายเตรียมพร้อมก่อนแล้วค่อยออกมือ

เมื่อครู่ข้ายังไม่ได้บอกเริ่ม เจ้าก็ออกมือลอบโจมตี ข้าประมาทจึงไม่ได้หลบ แต่ตามกฎแล้ว นี่ไม่ถูกต้อง คนหนุ่มเจ้าดูแลตัวเองให้ดีๆ ครั้งหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก”

……..

จักรพรรดิชิงเหมือนจะเขินนิดๆ บ่นไปมาไม่หยุด ใบหน้าแดงหน่อยๆ

เสิ่นเทียนเกาศีรษะ “ผู้อาวุโส ข้าบอกไปก่อนแล้ว…”

จักรพรรดิชิงทำเสียงขึ้นจมูก “ข้ายังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย! รอบเมื่อครู่ไม่นับ รอข้าพร้อมก่อน เราค่อยมาสู้กันอีก”

ตลก ใครจะยอมรับเรื่องนี้ได้กัน

เขาเป็นมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกเจ้าหนูระดับนิพพานระเบิดร่างแยก หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ข้าจะไม่ขายหน้ายับเยินรึ

“เจ้าหนู ต่อไปข้าจะเอาจริงแล้ว เจ้าจะต้องใช้กำลังทั้งหมด ดูตัวเองให้ดีๆ!”

เพื่อกู้หน้ากลับมา จักรพรรดิชิงจึงเตรียมจะเอาจริงแล้ว

ผิวกายจุดเปลวเพลิงครามร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ปรากฏการณ์ดอกบัวระดับสิบสองข้างหลังเขาพลันขยายออก

ดอกบัวมากมายกลายเป็นแสงเทพสีครามพุ่งโจมตีใส่เสิ่นเทียน

“เจ้าหนูดูให้ดี การโจมตีนี้เป็นยอดวิชาของข้า เพลิงโอสถผลาญฟ้า!”

จักรพรรดิชิงคำรามลากยาว เพลิงครามในกายพลันปะทุขึ้น หมุนม้วนฟ้าดิน

เปลวเพลิงครามถาโถมลงมา กลายเป็นดอกบัวเพลิงมหึมาดอกหนึ่งปกคลุมทั้งฟ้าดิน เหมือนจะหลอมละลายมวลอากาศแห่งนี้

นี่คือเปลวเพลิงกฎเกณฑ์ที่จักรพรรดิชิงรวมขึ้นด้วยพลังบำเพ็ญสูงสุด บ่มเพาะมาแสนปี มีอานุภาพไม่ด้อยไปกว่าไฟศักดิ์สิทธิ์

“มาได้จังหวะพอดีเลย!”

เสิ่นเทียนตาเปล่งแสงเทพ กระตุ้นเนตรมรรคสวรรค์ประทาน เหมือนอยากจะส่องช่องโหว่ในนั้น

“หงส์เยือนเก้าสวรรค์!”

พลันปรากฏเงามายาหงส์ไฟขึ้นข้างหลังเสิ่นเทียน สูงพันจั้ง มีอานุภาพสั่นสะเทือนท้องนภา

ขณะเดียวกัน อัคคีอรุณใต้กับไฟแท้สุริยะยังพุ่งทะลักออกมาทั้งหมด วนเวียนรอบเงาหงส์ ทำให้อานุภาพของเงาหงส์นี้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม!

จากนั้นหงส์สยายปีกและพุ่งลงมาจากเก้าสวรรค์พร้อมกับเปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุด ปะทะกับเปลวเพลิงสีครามเต็มพื้น

เวลานี้ประกายไฟลุกท่วมฟ้า

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ห้วงอากาศแตกกระจาย เปลวไฟเผาความว่างเปล่า

ทั้งมิติถูกทะเลเพลิงถาโถม ดับสูญไปกลางเปลวเพลิง

…..

“เจ้าหนู เปลวเพลิงร้อนแรงมากเชียวนะ! วัยหนุ่มก็ดี ปกติคงไม่ค่อยได้ระบายไฟเท่าไรหรอกกระมัง! ยืนหยัดต่อไป ข้าจะบอกเจ้าว่ารักษากายหยางบริสุทธิ์ไว้ การฝึกวิชาจะแข็งแกร่งอย่างมาก เหมือนตอนนี้ข้าอายุแสนปีแล้ว ทุกเช้ายังโด่ชี้ฟ้า โด่ชี้ฟ้าเจ้ารู้จักหรือไม่”

ท่ามกลางประกายไฟไร้ที่สิ้นสุด มีเสียงพูดแจ้วดังมาไม่ขาด

อืม เขากำลังใช้เสี้ยวความคิดมาปรับความตื่นตะลึงในใจของตน ขณะเดียวกันยังแก้เขิน

ต้องบอกว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่แค่มีกำลังรบสะท้านฟ้า แต่ยังมีการควบคุมเปลวไฟเหนือกว่าที่จักรพรรดิชิงคาดการณ์ไว้

เปลวเพลิงที่เสิ่นเทียนควบคุมล้วนเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ฟ้าดิน กระทั่งในนั้นยังมีไฟแท้สุริยะอันเป็นอันดับสองในรายนามไฟศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพไร้ขีดจำกัด

ภายใต้การกระตุ้นด้วยคัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ อัคคีอรุณใต้กับไฟแท้สุริยะถูกกระตุ้นถึงขีดสุด มีอานุภาพผลาญฟ้า

มิหนำซ้ำในกายเสิ่นเทียนยังแฝงด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่สาม…เพลิงอมตะหงส์เทพ!

แม้จะยังเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์เพลิง แต่ก็มีอานุภาพไม่ธรรมดา

ไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดปรากฏมาพร้อมกัน มีอานุภาพมหาศาล แม้แต่เปลวเพลิงครามจักรพรรดิยังต้านไว้ไม่ได้ ถูกกลืนกินหดเล็กลงเรื่อยๆ

เพลิงอมตะหงส์เทพในกายเสิ่นเทียนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการกินเปลวเพลิงครามจักรพรรดิ!

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ประกายไฟสลายไป

จักรพรรดิชิงเก็บเปลวเพลิงครามกลับไป ใบหน้ามีแต่ความปวดใจ

“เปลวเพลิงครามของข้า!”

จักรพรรดิชิงไม่คาดคิดเลยว่าเปลวเพลิงครามที่เขาบ่มเพาะมาหมื่นปี จะถูกกินพลังงานไปมากกว่าครึ่งในการปะทะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเก็บมือทัน เปลวเพลิงครามพวกนี้อาจจะกลายเป็นสารอาหารไฟศักดิ์สิทธิ์ไปหมดแล้ว

นี่ทำให้จักรพรรดิชิงปวดใจ และยังอดใจบ่นมิได้

เจ้าหนูนี่จะมีไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดก็ช่างเถอะ แต่ว่ายังรวมไฟศักดิ์สิทธิ์สามชนิดเป็นหนึ่งเดียว เพิ่มอานุภาพขึ้นอีก!

ในฟ้าดินแห่งนี้ จะมีเปลวเพลิงใดต้านเจ้านี่ได้

นี่มันไม่สมเหตุผลเลย!

เจ้าหนูนี่คงไม่ได้มาร่วมการทดสอบ แต่มายั่วยุข้ากระมัง!

จักรพรรดิชิงอยากจะร้องไห้~

……..

“บัวครามแปลงฟ้าดิน!”

แต่ถึงเสิ่นเทียนจะแข็งแกร่ง แต่จักรพรรดิชิงก็ต้องเอาหน้าไว้เช่นกัน เป็นมหาจักรพรรดิหนึ่งยุคผู้ยิ่งใหญ่ จะไปแพ้ให้รุ่นเยาว์ได้อย่างไร!

จักรพรรดิชิงออกมืออีกครั้ง ปรากฏการณ์บัวระดับสิบสองขยายใหญ่อย่างบ้าคลั่ง บดบังทั้งฟ้าดินแห่งนี้

นี่ก็คือพลังแห่งบัวครามของจักรพรรดิชิง

เล่าลือว่าจักรพรรดิชิงแปลงกายมาจากบัวครามโบราณต้นหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวสู่จุดสูงสุด พิสูจน์มรรคเป็นมหาจักรพรรดิ

ดังนั้นพลังแห่งบัวครามจึงเป็นพลังต้นกำเนิดที่แกร่งที่สุดของจักรพรรดิชิง

ตอนนี้จักรพรรดิชิงเร่งพลังเปลวไฟทั้งหมด ฟ้าดินพลันถูกยึดครอง

“เจ้าเด็กบ้า ระวังด้วย!”

จักรพรรดิชิงเอ่ยด้วยความน่าเคารพ ก่อนเคลื่อนพลังแห่งบัวครามกดอัดใส่แผ่นดิน

บัวครามสั่นกระเพื่อม บัวครามระดับสิบสองบานออกด้วยโทสะ ยิงแสงเรืองรองออกมาหมื่นสาย กระจายออกไปรอบๆ

ทันใดนั้น ท้องนภาถูกแสงเรืองรองมากมายฉีกทำลาย เกิดเป็นความว่างเปล่าผืนใหญ่

แสงเรืองรองทุกสายรวมขึ้นจากพลังแห่งกฎเกณฑ์ กลายเป็นบัวครามมากมายตกลงมาจากท้องนภา บัวครามพวกนี้งดงามอย่างยิ่ง เหมือนเปราะบาง แต่กลับมีอำนาจคุกคามน่ากลัวอย่างยิ่ง

ตอนนี้ฟ้าดินเปลี่ยนสีไปอย่างมาก!

กลางฟ้าครามโบราณ มีเพียงบัวต้นเดียวที่หมายจะกำราบท้องนภา!

เมื่อเห็นภาพนี้ เนตรมรรคสวรรค์ประทานของเสิ่นเทียนเปล่งแสงสว่างยิ่งกว่าเดิม แสงเทพพลันยิงออกไป

ก่อนหน้านี้ข้าถูกราชินีหงส์อมตะขี่มาครึ่งเดือน อึดอัดใจเป็นที่สุด แต่นั่นก็เป็นราชินีหงส์อมตะระดับผู้อริยะ จึงไม่มีกำลังต่อต้าน

ตอนนี้สู้ในระดับพลังเดียวกัน ยังคิดจะกดขี่ข้าอีกรึ

ไม่มีทาง!

ไม่มีทางเด็ดขาด!

“ชีวิตข้าเป็นอิสระ ใครจะกล้าอยู่สูงส่ง”

เสิ่นเทียนใช้มือกำอากาศ พลันมีแสงสว่างปะทุขึ้น

ปรากฏค้อนยักษ์อันหนึ่งลอยขึ้นมาในมือเขา

ทันทีที่ปรากฏค้อน ก็เผยพลังอำนาจมหาศาล พลังสั่นสะเทือนแปดทิศ!

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงระวังด้วย ผู้เยาว์จะสู้เต็มกำลังแล้ว!”

เสิ่นเทียนพุ่งทะยานเข้าไป ประกายแสงบนผิวกายเหมือนดวงดาราขยับแสง

แสงสีขาวเงินวนเวียนค้อนยักษ์ในมือเหมือนดวงตะวันสีเงิน ก่อนพุ่งขึ้นฟ้าเข้ากระแทกใส่บัวครามกลางท้องนภา

“สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง…ค้อนทุบดาว!”

เสิ่นเทียนระเบิดเสียงตะโกน ค้อนยักษ์ในมือสั่นกระเพื่อมพลังน่าสะพรึงออกมา

เหมือนกับหิ้วขุนเขาเทพโบราณลูกหนึ่งกระแทกใส่บัวครามกลางท้องนภา

บึ้ม!

เสียงดังสนั่นปานฟ้าผ่า สั่นสะเทือนฟ้าดิน!

ค้อนกับบัวครามปะทะกัน ระเบิดเป็นอานุภาพเทพไร้ที่สิ้นสุด

บัวครามที่บดบังฟ้าบังดวงตะวันนั้นรับแรงกดดันมหาศาล แสงเรืองรองแตกกระจาย หมื่นวิชามอดดับ

ตอนนี้ ห้วงอากาศถล่มทลายกลายเป็นความว่างเปล่า อำนาจคุกคามน่ากลัวถาโถมกระจายไปรอบๆ

แม้แต่มิติทดสอบแห่งนี้ยังถูกกระแทกแตกกระจาย ทำให้ฟ้าดินชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง

…..

“พี่เสิ่นเทียนออกมาแล้ว!”

กลางสุสานจักรพรรดิชิง สือหลิงหลงร้องตกใจเสียงเบา

นางทดสอบเสร็จไปนานแล้ว รออยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้เห็นเสิ่นเทียนโผล่มาก็ดีใจอยู่ข้างใน เพียงแต่เมื่อนางเห็นคลื่นพลังการต่อสู้กลางท้องนภาแล้ว ปากเล็กก็กลายเป็นเลขศูนย์

“พี่เสิ่นเทียนสุดยอดมาก! แม้แต่ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงยังกำราบเขาไม่ได้!”

สือหลิงหลงตกตะลึงอย่างน่าประหลาด นางผ่านการทดสอบมาแล้ว ย่อมรู้ว่าจักรพรรดิชิงมีศักยภาพแข็งแกร่งเพียงใด

ต่อให้ลดพลังลงมาอยู่ดวงจิตดรุณ สือหลิงหลงก็ยังเอาชนะไม่ได้ นางพ่ายแพ้ลงในร้อยกระบวนท่าสั้นๆ อีกทั้งในร้อยกระบวนท่าจักรพรรดิชิงยังชี้แนะนาง ไม่ได้มีเป้าหมายเอาชนะนาง

หากไม่เช่นนั้น เกรงว่าในสิบกระบวนท่าสือหลิงหลงก็คงแพ้อย่างอนาถแน่

ถึงอย่างไรการทดสอบต่อสู้ของมหาจักรพรรดิก็แข็งแกร่งมากจริงๆ!

แต่ตอนนี้ เสิ่นเทียนสู้กับร่างแยกจักรพรรดิชิงได้อย่างสูสี มากพอจะพิสูจน์ได้ว่าเขามีพรสวรรค์ที่สุดแห่งยุค

“พี่เสิ่นเทียนสู้ๆ!”

สือหลิงหลงตะโกนโห่ร้องเสียงดัง กลายเป็นแฟนคลับสาวของเสิ่นเทียนไปแล้ว

สือหลิงหลงเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงพูดด้วยความแปลกใจนิดๆ “ร่างแยกนี้ของผู้อาวุโสจักรพรรดิชิง…เหตุใดถึงแกร่งกว่าตอนทดสอบข้าหลายเท่าเช่นนี้!”

…….

‘เหตุใดเจ้าหนูนี่ยิ่งสู้ยิ่งโหดกัน’

อีกด้านหนึ่ง เมื่อการต่อสู้ถึงอกถึงใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จักรพรรดิชิงก็พูดแขวะในใจอย่างบ้าคลั่ง

เขาควบคุมบัวครามระดับสิบสองด้วยตนเอง รู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังของค้อนนั่นโหดเพียงใด พลังนั้นเหมือนฟ้าดินจะพังทลาย เหมือนกับทะเลไหลเชี่ยวกราก มีพลังอานุภาพทำลายล้างทุกสิ่ง

ต่อให้จักรพรรดิชิงจะสู้สุดกำลังก็ต้านไว้ไม่ได้นิดๆ

ทางด้านเสิ่นเทียนมีจิตต่อสู้เปี่ยมล้น เขาไม่ได้สู้อย่างถึงอกถึงใจเช่นนี้มานานมากแล้ว

การได้สู้ในระดับพลังเดียวกันกับมหาจักรพรรดิหาได้ยากจริงๆ!

อีกทั้ง เสิ่นเทียนอยากรู้ด้วยว่าขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด!

สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง..ค้อนงัดจันทร์!

ค้อนตะวันเดือด!

ค้อนท้องนภา!

ค้อนวายุคลั่ง!

ค้อนเหมันต์ลี้ลับ!

……….

เสิ่นเทียนรัวไปทีละค้อน กระตุ้นพละกำลังถึงขีดสุด

ภายใต้การเสริมด้วยเปลี่ยนเทพสงคราม ตอนนี้เขามีกำลังรบพอจะกำราบผู้อริยะระดับสามเคราะห์ภัยแล้ว

ต่อให้สู้กับอริยะแท้ระดับสี่ เกรงว่าคงไม่ตกเป็นรอง มากพอจะตั้งป้อมสู้กันได้

ครืน~

ฟ้าดินปรากฏค้อนใหญ่ไร้พ่าย ประกายค้อนน่าสะพรึงเหมือนดวงตะวันสีแดงใหญ่มาเยือนจากบนฟ้า พุ่งเข้าใส่บัวครามมหาจักรพรรดิ

“บัวครามแปลงหม้อสำริด!”

จักรพรรดิชิงเหมือนสังเกตได้ว่าเสิ่นเทียนกำลังมาแรง จึงไม่สนใจอะไรมากแล้ว

บัวครามเต็มฟ้าพลันเปลี่ยนไป รวมเป็นหม้อสำริดสีครามขนาดใหญ่ใบหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้า กำราบท้องนภา ผนึกท้องฟ้าไว้

ภายในหม้อสำริดมีเปลวเพลิงครามลุกโชติช่วง และยังมีบัวครามมากมายปรากฏ เหมือนกับหม้อหลอมโอสถเทพที่กำลังหลอมโอสถสูงสุด!

หม้อสำริดสีครามเปล่งแสงตกลงมา ปกคลุมร่างแยกจักรพรรดิชิงไว้ทั้งหมด สร้างเป็นเงามายาหม้อสำริดสีครามที่ทนทานอย่างยิ่งขวางไว้ข้างหน้า

แก๊ง!

แก๊ง!

แก๊ง!

เสียงหม้อสำริดดังสนั่นฟ้าดิน เหมือนมหามรรคส่งเสียงดังก้อง

คลื่นพลังน่ากลัวหมุนม้วนแปดทิศ กระจายเมฆหมอกสีครามในฟ้าดินแห่งนี้

ปรากฏสองร่างกลางฟ้าดิน ยังคงยืนอยู่กลางอากาศ แผ่พลังอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง

ค้อนเทพกำราบสมุทรในมือเสิ่นเทียนยังคงเปล่งเสียงคำรามมังกรเบาๆ เหมือนว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายยังสู้ไม่หนำใจ เพียงแต่ตอนนี้จักรพรรดิชิงมีสีหน้าไม่เป็นธรรมชาตินิดๆ แล้ว

‘เจ้าหนูนี่บ้าจริงๆ เสพยามารึ! หากไม่ใช่เพราะข้าแอบยกระดับพลังถึงจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ก็คงต้านไม่ได้’

ภายในใจจักรพรรดิชิงยังคงสงสัยในชีวิต มีเพียงเขาที่รู้ว่าเสิ่นเทียนมีพละกำลังน่ากลัวเพียงใด

หากวัดตามร่างแยกของระดับดวงจิตดรุณก่อนหน้านี้ เกรงว่าคงถูกเสิ่นเทียนระเบิดตายในกระบวนท่าเดียว ต่อให้ยกระดับถึงจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ จักรพรรดิชิงก็ไม่ได้เปรียบเท่าไร

ต้องรู้ว่าด้วยกำลังรบตอนนี้ของจักรพรรดิชิง ผู้อริยะต่ำกว่าสามเคราะห์ภัยปกติยังถูกเขาแขวนทุบตี

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน เขากลับต้านไว้ไม่ได้สักครู่เดียว

และที่สำคัญกว่านั้นคือเจ้าหนูนี่หัวดื้อมาก ขอแค่ข้าทำทีตั้งใจว่าจะ ‘กำราบเขา’ เพียงนิดเดียว ก็จะเจอกับการสวนกลับที่บ้าคลั่งที่สุด

การรัวค้อนนั่นทุบใส่บัวคราม ทำให้หัวใจดอกไม้ของจักรพรรดิชิงแทบจะแตกกระจาย

…..

เจ้าหนูนี่ ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้ระดับนิพพานสู้กับผู้อริยะได้จริงๆ!

จักรพรรดิชิงส่ายหน้าช้าๆ ดีที่ถึงตนจะไม่ชนะ แต่ก็ไม่แพ้ ยังรักษาหน้าเอาไว้ได้

แต่ตอนนี้การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดลง

เสิ่นเทียนมองหม้อสำริดสีครามที่ยังคงหนักดั่งขุนเขาพลางส่ายหน้า

แม้เขาจะโจมตีใส่ตั้งมากมาย แต่ก็ยังทำลายมันไม่ได้!

นี่ทำให้เสิ่นเทียนคิดว่าตนยังมีกำลังไม่เพียงพอ

“ตอนนี้คงได้แต่เผยไพ่ตายแล้ว”

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก แสงเทพในดวงตารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้ พลังงานของสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินทั้งหมดหลั่งไหลเข้าไปในกายเขา ไหลเข้าสู่กระบี่ฟ้าสังหารในกลีบปอด

ชิ้ง~!

เสียงกระบี่ดังกังวานขึ้น

แสงกระบี่สีโลหิตปะทุขึ้นเหมือนกับฟ้าดินบุกเบิก

ท่ามกลางแสงโลหิต กระบี่ยาวสีแดงฉานเล่มหนึ่งลอยขึ้นมาในมือเสิ่นเทียน

กระบี่นี้ออกจากฝัก เสิ่นเทียนเหมือนกับเซียนกระบี่ที่สุดแห่งยุค กลิ่นอายพลังรอบตัวเย็นยะเยือกถึงที่สุด

ปราณกระบี่พุ่งออกมา ตัดทำลายอากาศได้ง่ายดาย กลายเป็นความว่างเปล่า

ปราณกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดข้างหลังเขาพุ่งขึ้นฟ้า ทะลวงไปนอกเมฆฟ้าเก้าชั้น และยังมีปรากฏการณ์หมื่นกระบี่ทะลวงเก้านภาลอยขึ้นมา เจตจำนงกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดวนเวียน

เจตจำนงกระบี่มากมายรวมกันกลายเป็นกระบี่ฟ้าสูงสุดเล่มหนึ่งขวางฟ้าดิน เหมือนจะแยกท้องนภาเป็นสองส่วน!

กระบี่ฟ้าสังหารปรากฏ กลิ่นอายพลังของเสิ่นเทียนที่เดิมทีแกร่งที่สุดอยู่แล้วเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อเห็นดังนั้น จักรพรรดิชิงพลันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

‘เจ้าหนูนี่ยังมีไพ่ตายอีกรึ!’

จักรพรรดิชิงมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง การโจมตีก่อนหน้านี้ของเสิ่นเทียนทำให้เขารู้สึกกดดันดั่งภูเขา

ยังปะทุได้อีกรึ

ยังปะทุได้อีกรึ

เจ้าเด็กนี่เป็นบุตรชายแท้ๆ ของสวรรค์รึ

“ไม่สู้แล้วๆ!”

จักรพรรดิชิงรีบร้องหยุด หากสู้ต่อไป ไม่กระตุ้นพลังระดับอริยะคงต้านไม่ไหวแน่

“ผู้อาวุโส เป็นอะไรไป”

เสิ่นเทียนเก็บกระบี่ฟ้าสังหาร เจตจำนงกระบี่น่ากลัวในกายค่อยๆ เก็บกลับไป

“เจ้าหนูนี่มีศักยภาพใช้ได้ ต่อให้เป็นเสี้ยวดวงจิตข้าก็ได้แต่ใช้พลังงานส่วนหนึ่งในยุคที่รุ่งเรืองที่สุด แต่เจ้าสู้กับดวงจิตข้าได้อย่างสูสี นี่หาได้ยากมาก เห็นทีคงจะต่างกับข้าตอนหนุ่มไม่มาก อย่างน้อยในระดับพลังเดียวกัน ก็หาคนทัดเทียมกับเจ้าได้น้อยมากในยุคโบราณ เยี่ยมมาก”

จักรพรรดิชิงหน้าแดงเล็กน้อย มองเสิ่นเทียนพลางเอ่ยขึ้น

ตลก หรือว่าจะใช้ข้าใช้ระดับพลังอริยะสู้กับนิพพานจริงๆ

น่าขายหน้าเกินไปแล้ว ข้าก็ต้องมีเกียรติเหมือนกัน

จักรพรรดิชิงเย้ยเยาะตัวเองด้วยความจำใจ

ก็ได้!

หลักๆ เป็นเพราะจักรพรรดิชิงกลัวความแตก

หากใช้กำลังรบของระดับพลังอริยะ จะเหนี่ยวนำกฎเกณฑ์ระดับอริยะ ปกปิดยาก ถูกพบได้ง่าย

หากให้คนรู้ว่ามหาจักรพรรดิหนึ่งยุคสู้กับผู้บำเพ็ญระดับนิพพาน และยังต้องใช้พลังอริยะ

ใบหน้าแก่ของจักรพรรดิชิงจะไม่เหลือเลยหรือ

เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิชิง เสิ่นเทียนก็พึมพำกับตนเอง “ศักยภาพของข้ายังไม่พอจริงๆ!”

ไม่นึกเลยว่ามหาจักรพรรดิตอนหนุ่มจะแกร่งขนาดนี้ ดูท่าหนทางการบำเพ็ญเซียน ข้ายังต้องพยายามอีก!

……

ด้านข้าง สือหลิงหลงมีสีหน้าแปลกๆ

เมื่อครู่พี่เสิ่นเทียนสู้กับผู้อาวุโสจักรพรรดิชิง ระดับพลังของเทียบเท่ากับศึกของผู้อริยะเลยนะ!

ใช้ระดับพลังนิพพานปล่อยพลังเทียบเท่ากับระดับอริยะรึ นี่เหมือนกับวีรบุรุษระดับหนึ่งมีพลังโจมตีระดับสิบห้า น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก

อย่างน้อยองค์หญิงหลิงหลงก็รู้ว่าตนเหมือนจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีมหาจักรพรรดิคนใดตอนหนุ่มแข็งแกร่งเช่นนี้

แต่ก็จะพูดยาก ถึงอย่างไรจักรพรรดิชิงก็ไม่ใช้มหาจักรพรรดิยุคโบราณ แต่มาจากยุคบรรพกาล

สิ่งใดคือบรรพกาล

หมื่นปีก่อนเรียกว่าโบราณ แสนปีก่อนเรียกว่าบรรพกาล ล้านปีก่อนเรียกว่าดึกดำบรรพ์

คัมภีร์และมรดกที่สืบทอดมาในห้าดินแดนตอนนี้ ปกติจะอยู่ในหมื่นปี แม้แต่คัมภีร์โบราณเมื่อหมื่นปียังล้ำค่ามาก จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงบรรพกาลเมื่อแสนปีก่อน ชีวประวัติส่วนใหญ่ในช่วงเวลานั้นไหลและถูกฝังไปตามกาลเวลานานแล้ว

ต่อให้เป็นคนใหญ่คนโตอย่างราชวงศ์เซียนต้าฮวง ความตริงก็เข้าใจเรื่องราวสมัยยุคบรรพกาลไม่ได้มากเท่าไร

อย่างน้อยองค์หญิงหลิงหลงก็ไม่ได้สัมผัสความลับเกี่ยวกับยุคบรรพกาลและดึกดำบรรพ์เท่าไร

….

แต่ว่ามหาจักรพรรดิยุคบรรพกาลตอนยังหนุ่มแข็งแกร่งเช่นนี้จริงๆ หรือ

องค์หญิงหลิงหลงรู้สึกว่า เอ่อ~

มันน่าเหลือเชื่อไปหน่อย!

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด