บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 383 คำขอของมหาจักรพรรดิอีกาทอง

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 383 คำขอของมหาจักรพรรดิอีกาทอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 383 คำขอของมหาจักรพรรดิอีกาทอง

เงาจักรพรรดินี้สูงใหญ่โอ่อ่ามาก ทั่วร่างถูกปกคลุมด้วยแสงสว่างสีทอง

ตัวเขายืนอยู่บนเตาหลอมเทพสุริยะอย่างโอหัง เห็นๆ อยู่ว่ามีเพียงเก้าฉื่อ แต่กลับเหมือนอยู่คู่กับสวรรค์เก้าชั้นแห่งนี้

ระหว่างที่เงาแสงรอบตัวมันแกว่งไกว ห้วงอากาศกำลังเกิดดับ และยังมีพลังยิ่งใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดกลายเป็นแสงเทพปกคลุมรอบกาย มองเห็นใบหน้าเขาไม่ชัดเลย

“ผู้มีวาสนาหนุ่ม ยินดีต้อนรับพวกเจ้าเข้าสู่สุสานของข้า”

เงาจักรพรรดิน่าเกรงขาม เหมือนครองสวรรค์เก้าชั้นปฐพีสิบชั้น

แต่เสียงของเขากลับอ่อนโยนเป็นพิเศษ ไม่มีความรู้สึกคุกคามใดๆ เลย

ในทางตรงข้าม เสียงของมหาจักรพรรดิอบอุ่นดั่งหยก เหมือนคุณอาเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกัน ทำให้คนอยากเข้าใกล้

บางที นี่อาจจะเป็นชีวิตหวนคืนสู่ธรรมชาติที่ว่านั่นกระมัง!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เขาแหงนหน้ามองเงาจักรพรรดิคนนี้ แสงกระบี่ยาวในมือเก็บกลับไป

ผู้เป็นจักรพรรดิ คือตัวเอกของหนึ่งยุค

พบจักรพรรดิไม่คารวะ คือการเสียมารยาทอย่างร้ายแรง

ต่อให้เจอกับเสี้ยวดวงจิตของมหาจักรพรรดิ ก็จะหันคมอาวุธเข้าหามิได้ จะต้องปฏิบัติตามแบบผู้เยาว์

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “ผู้อาวุโสปรากฏ ณ ที่นี้ หรือว่าเป็นมหาจักรพรรดิอีกาทองในตำนาน”

เงาจักรพรรดิพยักหน้าช้าๆ ก่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ถูกต้อง สุสานของข้าอยู่บนเกาะมหานที หนึ่งเพื่อกักเก็บดวงชะตาของเผ่าเทพอีกาทอง สองเพื่อตามหาผู้มีวาสนารับสืบทอดมรดกของข้า สาม…”

เหมือนนึกอะไรได้ เงาจักรพรรดิก็เงียบไป

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “เหตุผลที่สาม เกี่ยวกับวิญญาณอาฆาตอีกาทองพวกนั้นหรือไม่”

เงาจักรพรรดิถอนหายใจยาว “ในเมื่อพวกเจ้าเข้ามาในสุสานจักรพรรดิ อย่างไรก็ต้องมีวันนั้น ช่างเถอะ ข้าจะไม่ปิดบังพวกเจ้าแล้วกัน”

มหาจักรพรรดิอีกาทองพูดนิ่งๆ “เมื่อแปดหมื่นปีก่อนเคยมีขุมอำนาจต่างแดนหมายปองจะรุกรานห้าดินแดน แต่ถูกข้าสกัดไว้นอกเส้นทางมิติ

แต่ในศึกนั้นขุมอำนาจใต้สังกัดข้าก็เสียหายไปแปดเก้าส่วนสิบ ตำหนักเทพอีกาทองแทบจะถูกทำลายสิ้นซาก กระทั่งแม้แต่ข้าเองยังต้นกำเนิดพลังเสียหาย”

ในคำพูดของมหาจักรพรรดิอีกาทองมีความปลงอนิจจังจากใจจริง เหมือนนึกย้อนไปถึงศึกอันโหดร้ายนั้น

เขาถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าชนรุ่นหลังอย่างพวกเจ้า จะได้เจอศัตรูเช่นนั้นอีกหรือไม่ พวกเขาใช้แรงอาฆาต แรงชั่วร้ายและความรู้สึกด้านลบเป็นอาหาร ศักยภาพเพิ่มขึ้นรวดเร็วยิ่ง

และที่สำคัญกว่านั้นคือหากพวกเราผู้บำเพ็ญห้าดินแดนเกิดความกลัวในสงคราม ไม่นานก็จะกลายเป็นสารอาหาร อาวุธและข้ารับใช้ของมารร้ายพวกนี้ เพิ่มศักยภาพให้พวกมัน เปลี่ยนกลับมาโจมตีพวกเรา

กระทั่งวิธีการฝึกบำเพ็ญของพวกมันยังใช้ผู้บำเพ็ญห้าดินแดนของเราได้ อีกทั้งพลังบำเพ็ญยังเพิ่มขึ้นเร็วยิ่ง เหนี่ยวนำให้ผู้บำเพ็ญที่มีจิตใจไม่เที่ยงตรงมากมายเข้าสู่วิถีมาร”

มหาจักรพรรดิอีกาทองพูดแจ้วไม่หยุด แต่ผู้อริยะและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทุกคนกลับตื่นกลัวในใจ

เพราะคำเฉพาะ ‘มารร้าย’ พวกนั้นที่มหาจักรพรรดิอีกาทองพูดถึง เหมือนกับเผ่าวิญญาณร้ายที่รุกรานจากต่างแดนอย่างยิ่ง

หรือว่าในยุคของมหาจักรพรรดิอีกาทองเมื่อแปดหมื่นปีก่อน เผ่าวิญญาณร้ายจะค้นพบโลกห้าดินแดนนานแล้ว ทั้งยังคิดจะรุกรานมาห้าดินแดนกัน

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เผ่าวิญญาณร้ายก็เพิ่งจะรุกรานห้าดินแดนและก่อหายนะสำเร็จเมื่อหมื่นปีก่อน เช่นนั้นในช่วงเวลาเจ็ดหมื่นปีระหว่างนั้น ใครเป็นคนต้านแนวหน้าไว้

มหาจักรพรรดิอีกาทองเหมือนรู้สึกได้ถึงความแปลกใจของทุกคน เขาจึงพูดนิ่งๆ “เท่าที่ข้ารู้มาตอนสู้กับมารร้ายพวกนี้ พวกมันไม่ได้เพิ่งบุกโลกห้าดินแดนเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้าข้าก็เคยบุกรุกมาแล้วหลายครั้ง

เพียงแต่ถูกผู้แข็งแกร่งห้าดินแดนต้านเอาไว้ตลอด อีกทั้งผู้แข็งแกร่งเผ่ามนุษย์จากโลกเซียนยังตรึงพลังส่วนใหญ่ของพวกมันไว้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พลังในการรุกรานห้าดินแดนครั้งนี้ก็ยังแกร่งจนเหนือความคาดหมายของข้า กระทั่งทายาทโดยแท้ของข้าเก้าคน ยังตายตกไปทั้งหมดในสงครามครั้งนี้ ถูกผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิที่มารุกรานเปลี่ยนให้เป็นวิญญาณอาฆาต แม้แต่ข้าก็ยังช่วยไม่ได้

ข้าจึงสร้างสุสานจักรพรรดิอีกาทองนี้ไว้ หนึ่งในเหตุผลนั้นคือเพื่อผนึกและพันธนาการบุตรทั้งเก้านี้ไว้ ไม่ให้สร้างหายนะกับโลก”

ในเสียงของมหาจักรพรรดิอีกาทองยังมีความจำใจชัดเจน

แม้เขาจะเป็นมหาจักรพรรดิหนึ่งยุคที่ไร้พ่ายในห้าดินแดน แต่อันดับแรกเขาคือบิดาคนหนึ่ง

ไม่ว่าบิดาคนใด หลังจากบุตรแท้ๆ กลายเป็นวิญญาณอาฆาตไม่อาจชะล้างได้แล้ว คงยากจะสังหารบุตรแท้ๆ ของตนลงได้

มหาจักรพรรดิอีกาทองสร้างสุสานผนึกทายาทโดยแท้ของตนแปดหมื่นปี นี่ถือว่ามีเมตตาและคุณธรรมสูงส่ง จะว่าเขาทำไม่ถูกไม่ได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์โค้งตัวให้มหาจักรพรรดิอีกาทอง “ผู้อาวุโสมีคุณธรรมสูงส่ง เพียงแต่เหตุใดพวกเราเข้าสุสานจักรพรรดิแล้ว ถึงเจอกับวิญญาณอาฆาตที่หลุดออกมาล่ะ”

มหาจักรพรรดิอีกาทองเอ่ยนิ่งๆ “เขตใจกลางสุสานจักรพรรดินี้เชื่อมกับชีพจรชีวิตของข้า ขอแค่ข้ายังมีชีวิตอยู่ เกาะมหานทีก็จะถูกผนึกตลอดกาล

ตอนนี้เกาะเซียนมหานทีปรากฏขึ้นในห้าดินแดนอีกครั้ง แน่นอนว่า…”

มหาจักรพรรดิอีกาทองไม่ได้เอ่ยต่อ แต่ข้อมูลในคำพูดมากพอจะทำให้คนมากมายตื่นกลัว

ขอแค่มหาจักรพรรดิอีกาทองยังมีชีวิตอยู่ เกาะเซียนมหานทีก็จะถูกผนึกไปตลอดกาล

เช่นนั้นเกาะเซียนมหานทีปรากฏขึ้นอีกครั้ง หมายความว่ามหาจักรพรรดิอีกาทองที่ลอยขึ้นโลกเซียนไปตายตกแล้วหรือไม่

เวลานี้ ภายในใจคนมากมายเกิดความเศร้าบางๆ

นั่นคือมหาจักรพรรดิ การคงอยู่ไร้พ่ายที่สุดในห้าดินแดน เป็นเหมือนตำนานเมื่อแปดหมื่นปีก่อน

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้อยู่ในโลกเซียนก็มีอันตรายสิ้นชีพได้ด้วยรึ เช่นนั้นโลกเซียนในตำนานนั่น หรือว่าจะเป็นสนามรบที่โหดร้ายอย่างยิ่งกัน

มหาจักรพรรดิอีกาทองพูดนิ่งๆ “คนเราสักวันต้องตาย จะไปอยู่ร่วมกับฟ้าดินได้อย่างไร ในเมื่อพวกเจ้ามาที่นี่ ก็เป็นผู้มีวาสนากับข้า อย่าทำท่าทีเหมือนเด็กสาวน้อยเช่นนี้

ข้าถึงแก่กรรมแล้ว สุสานจักรพรรดินี้คงรั้งวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวได้มากสุดสามเดือน ไม่รู้ว่าห้าดินแดนตอนนี้ มีคนโปรดสัตว์พวกมันให้ข้าได้หรือไม่ หากมีชนรุ่นหลังทำได้ ข้าจะซาบซึ้งใจมาก

หากทุกท่านไม่อาจชะล้างวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวได้ ก็ขออย่าออกจากโลกเล็กนี้ตามใจเลย รอหนึ่งเดือนจากนี้สุสานจักรพรรดิจะส่งทุกท่านออกจากเกาะมหานทีเอง จากนั้นทั้งเกาะจะถูกผลาญทำลาย ถึงตอนนั้น บุตรทั้งเก้าของข้าก็จะสลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่สร้างหายนะให้กับชาวโลกอีก”

เสียงของมหาจักรพรรดิอีกาทองเฉยชามาก นี่น่าจะไม่ใช่จิตวิญญาณ เป็นเพียงเสี้ยวดวงจิตที่ฝากไว้เท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะสงบนิ่งอย่างไร ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความรักที่มีต่อทายาททั้งเก้าของมหาจักรพรรดิท่านนี้ นี่ไม่ใช่แค่พูดปากเปล่าเลย

…..

ถึงอย่างไรโลกเซียนกับมนุษย์ก็มีเส้นแบ่งกั้นกัน ต่อให้มหาจักรพรรดิอีกาทองจะเป็นผู้สูงส่งแห่งมหาจักรพรรดิ แต่การจะลอยขึ้นไปแล้วและใช้ตัวเองเป็นแกนกลางค่ายกลผนึกทั้งเกาะมหานทีไว้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

มิหนำซ้ำ ต้องรับรองด้วยว่าวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวนี้จะไม่ออกมาสร้างหายนะให้กับโลกมนุษย์

ราคาที่ต้องจ่ายไปมากพอจะทำให้ผู้อริยะมากมายสิ้นหวัง แม้แต่จักรพรรดิยังปวดใจ

กระทั่งหากมหาจักรพรรดิอีกาทองไม่แบ่งพลังส่วนหนึ่งเพื่อคงผนึกสุสานจักรพรรดิไว้ บางทีก็อาจจะไม่ตายตกในโลกเซียน บางทีอาจจะรอดชีวิตมาก็ได้

ต่อให้เป็นเช่นนั้น มหาจักรพรรดิอีกาทองก็ยังไม่ทิ้งเจ้าชายอีกาทองทั้งเก้า แต่เลือกฝากความหวังไว้กับอนาคต

ความรักที่มีต่อทายาทเช่นนี้ ไม่ต้องใช้คำพูดบรรยายอะไรมาก

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม เขาทำมือเป็นสัญลักษณ์ลัทธิเต๋า “ท่านจักรพรรดิมีคุณธรรมสูงส่ง หลงหยวนนับถือ พวกเราจะพยายามชะล้างองค์ชายอีกาทองเก้าท่านนี้อย่างสุดความสามารถ”

ชะล้างกับสลายมีความหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะสลายวิญญาณอาฆาตอีกาทองสองตัวแล้ว

แต่วิญญาณอาฆาตอีกาทองสองตัวนี้ยังไม่สิ้นชีพ เพียงแค่พลังถูกสายฟ้าสลายไปชั่วคราวเท่านั้น

เวลาผ่านไปอีกช่วงหนึ่งก็จะฟื้นคืนกลับมาดังเดิม

การจะลบล้างอันตรายของอีกาทองเก้าตัวนี้ได้มีเพียงสองวิธี

วิธีแรกคือทำลายจากแก่นราก ทำให้วิญญาณสลายไปไม่ได้ไปผุดไปเกิด

วิธีที่สองคือชะล้างจิตวิญญาณของพวกมัน ลบล้างกลิ่นอายของวิญญาณร้ายในจิตวิญญาณ จากนั้นส่งพวกมันไปเกิดใหม่

เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีแรกหรือวิธีที่สอง ก็มีระดับความยากค่อนข้างมาก

ก่อนอื่นการสังหารอีกาทองในวิธีแรก อีกาทองเก้าตัวถูกผนึกอยู่ในสุสานจักรพรรดิมาแปดหมื่นปี หลอมรวมกับพลังในสุสานจักรพรรดิเป็นหนึ่งเดียวแล้ว สามารถใช้พลังของสุสานจักรพรรดิฟื้นฟูได้ตลอด

สุสานจักรพรรดิไม่ถูกทำลาย อีกาทองพวกนี้ก็แทบจะฟื้นพลังได้ตลอด สังหารได้ยากมาก โดยเฉพาะอีกาทองพวกนี้ยังชำนาญวิชาการจู่โจมประสาน สองตัวร่วมมือกันก็กดดันให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตต้องร้องหาบุพการีได้

หากอีกาทองเก้าตัวนี้ฝ่าผนึกออกมาทั้งหมดและร่วมมือกัน เกรงว่าต่อให้เตรียมจักรพรรดิมาเยือน ก็อาจจะกำราบพวกมันไม่ได้กระมัง!

มิหนำซ้ำ ในสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทองแห่งนี้ พลังบำเพ็ญของทุกคนถูกกดลง การจะใช้พลังบำเพ็ญระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์สังหารวิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวนี้ เป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี

อืม หากพลังบำเพ็ญของเสิ่นเทียนถึงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็ยังลองดูได้

ปัญหาคือเขาในตอนนี้เป็นเพียงผู้จริงแท้ระดับกายทองผู้น่าสงสาร ไม่ถึงผู้สูงศักดิ์ด้วยซ้ำ!

ส่วนวิธีที่สองคือโปรดสัตว์ชะล้างอีกาทองเก้าตัวนี้ นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

พูดง่ายๆ คือ แม้แต่มหาจักรพรรดิอีกาทองในตอนนั้นยังไม่มีกำลังชะล้างพลังแห่งวิญญาณร้ายในตัวอีกาทองน้อยเก้าตัวได้

แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่คิดเช่นนั้น กลอุบายของตนสูงส่งกว่ามหาจักรพรรดิอีกาทองในตอนนั้นอีก แต่ตัวข้าทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าศิษย์ข้าจะทำไม่ได้!

นี่มีเหตุผลให้พูดได้เต็มปากเต็มคำเลย!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จำได้แม่นว่าศิษย์ตนได้อาวุธเซียนสูงสุดที่ใช้โปรดสัตว์วิญญาณอาฆาตและวิญญาณร้ายมาจากในสนามรบบรรพกาล…ถาดวัฏจักรหกมรรค

ดินบริสุทธิ์วัฏจักรอันเป็นอันดับสามในรายนามดินดำ นี่คือสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินที่เป็นปฏิปักษ์กับเผ่าวิญญาณร้ายมากที่สุด

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามันเป็นสมบัติสุดยอดสูงสุดที่หลอมขึ้นโดยแดนศักดิ์สิทธิ์วัฏจักร…ถาดวัฏจักรหกมรรค

แม้แต่วิญญาณร้ายแท้จริงตนนั้นยังถูกถาดวัฏจักรหกมรรคผนึกไว้อย่างแน่นหนา จึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงอีกาทองเก้าตัวที่แค่ถูกพลังวิญญาณร้ายสิงสู่เท่านั้น

อีกทั้งเสิ่นเทียนยังมีผู้เฒ่าเยี่ยฉิงชางตามมาด้วย ต่อให้เป็นโลกเซียนก็ยังมีฐานะเหนือชั้น

ด้วยสองสิ่งเกื้อกูลกันนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เชื่อว่าการโปรดสัตว์อีกาทองน่าจะไม่ยาก

เพราะอย่างไรเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เคยศึกษาตำนานชีวประวัติของบุตรแห่งโชคมาทุกยุคสมัยแล้ว

อย่างเช่น ประวัติทั่วไปของผู้มีมหาดวงชะตาในบันทึก ‘ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ’ เล่มนี้

ขอแค่อยู่ในแดนลับสักที่หนึ่ง เจอกับปัญหาที่คนอื่นไม่อาจแก้ไขได้ นี่จะต้องเป็นโอกาสให้ตัวเองแห่งสวรรค์และบุตรแห่งโชคแสดงความโดดเด่นอย่างแน่นอน

ช่วยมหาจักรพรรดิอีกาทองโปรดสัตว์อีกาทองน้อยเก้าตัว จากนั้นได้รับการยอมรับและซาบซึ้งใจจากมหาจักรพรรดิ จนถ่ายทอดวิชาลับสูงสุดให้ทั้งหมด

กระทั่งแม้แต่อาวุธจักรพรรดิเตาหลอมเทพสุริยะนั้น ยังมอบให้ตัวเอกเพื่อเป็นของขวัญขอบคุณ

……

อืม ไม่ผิดแน่ ตามบทจะเขียนเช่นนี้

ตอนนี้ถึงเวลาเจ้าออกแสดงแล้ว สู้เข้า เทียนเอ๋อร์ อาจารย์เอาใจช่วยเจ้าอยู่นะ!

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมขึ้นมาอย่างชัดเจน

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด