บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว

เสิ่นเทียนหยัดกายขึ้น กระดูกทั่วร่างส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ

ประกายสายฟ้าสีทองกลับเข้าตรงระหว่างคิ้วอีกครั้ง เส้นผมที่ตั้งอยู่ก็ตกลงมาเช่นกัน

เขาหมุนตัวมองไปรอบๆ ก่อนพบว่าหุบเขามหึมาในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพังหมดแล้ว ทั่วร่างตนอมฝุ่นควันสีเทาดูสภาพจนตรอกยิ่ง นี่ทำให้เขารู้สึกไม่สุขใจยิ่งนัก

“ออกไปให้หมด!”

พลังวิญญาณโหมกระหน่ำกลายเป็นเครื่องเป่าลมพุ่งออกจากในกายเสิ่นเทียน พริบตาเดียวฝุ่นควันทั้งหมดบนตัวเขาก็ถูกกระเทือนออก อาภรณ์กลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้ง

ตอนนี้เสิ่นเทียนสวมเกราะนักรบ สวมหน้ากากขนหงส์ ยืนอยู่เพียงลำพังด้วยความโอหัง บุคลิกเป็นเอกแห่งยุค!

เขามองใจกลางหุบเขาที่ยุบลงไปนั้นด้วยความลังเลเล็กน้อย จะลงไปดูดีหรือไม่ ตามภาพโชคลิขิตที่เห็นเหนือศีรษะฟางฉาง ฟางฉางน่าจะเจอโชคลิขิตนี้ เพียงแค่เวลาไม่ค่อยถูกต้อง

ใช่ เสิ่นเทียนมาเร็วไป…

ตามการวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเสิ่นเทียนมาช้าไปวันสองวันก็จะไม่เจอกับเถาจองจำเซียนบุกเมือง แน่นอนด้วยวงรัศมีเหนือศีรษะเขาก็ไม่แน่ว่าจะหาที่นี่เจอด้วยตนเอง

สรุปคืออุปสรรคครั้งนี้อาจจะกลับกลายเป็นโชคดีก็ได้ ตอนนี้ดูท่าน่าจะยังคุ้มค่า

หมอกวิญญาณบนที่ราบหมอกลับแลยังไม่สลายไป ตอนนี้หุบเขาถูกหมอกวิญญาณปกคลุมอีกครั้งแล้ว แต่หลังจากกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมาก ทำให้ภูมิต้านทานต่อหมอกวิญญาณบรรลุถึงระดับสูงสุด

เขามองเห็นรางๆ ว่าในหุบเขาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มารดาเถาลวี่จีน่าจะตายตกเป็นเถ้าธุลีในเคราะห์ภัยสวรรค์แล้ว

เหอะๆ ก็พวกเจ้าสองคนมาแสดงความรักกันต่อหน้าข้า แสดงความรักมักตายไว บำเพ็ญเซียนหลายพันปี หลักการแค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจรึ

แน่นอน ต่อให้เป็นเช่นนั้นเสิ่นเทียนก็ยังไม่บุ่มบ่ามบุกเข้าไปใจกลางหมอกวิญญาณ แต่เดินอ้อมไป

เขาต้องสำรวจใจกลางหุบเขาทุกมุมจนกว่าจะมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาอย่างก่อนหน้านี้อีก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนใหญ่คนโตระดับฝ่าด่านเคราะห์ ใครจะรู้ว่ายังมีคนรับช่วงต่ออยู่หรือไม่

เสิ่นเทียนอ้อมหุบเขาเดินไปเดินมาพลันตาเป็นประกาย เห็นของดีเข้าแล้ว

นั่นคือไฟกองหนึ่งกำลังแผดเผาบนร่างซากเถากลืนกินเซียนเหี่ยวแห้งเน่าเปื่อย ทั้งไม่ลุกลามและไม่มอดดับ

เสิ่นเทียนจำได้ว่านั่นคือต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ที่เจ้ากระบี่สุริยะฟ้าอัญเชิญออกมา หลังจากโดนตีแตกแล้วก็กระจายออกไป

นี่เป็นเพียงเศษส่วนหนึ่งของต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ มีอานุภาพส่วนเล็กของอัคคีอรุณใต้ในมือเจ้ากระบี่สุริยะฟ้า

ไฟกองนี้ออกเป็นสีแดงฉาน ทุกส่วนคึกคักราวกับนกเพลิงน้อย ดูมีอานุภาพไม่อ่อนแอ

ส่วนเสิ่นเทียน หลังพบไฟกองนี้แล้ว ภายในกายเกิดอารมณ์ตื่นเต้นคุ้นเคยนั้นอีกครั้ง ต้องการ!

ใช่ เป็นพลังจากคัมภีร์คบเพลิงอีกแล้วที่กำลังแสดงความกระหายของตนต่อเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนเองก็จนปัญญากับเรื่องนี้ เหตุใดเจ้าถึงอยากกินอะไรไปเสียทุกอย่างล่ะ!

แต่วิชาที่ตนฝึกฝนกินอัคคีอรุณใต้ได้ เสิ่นเทียนย่อมยินดีมาก มีอย่างเดียวที่ทำให้เขากังวลคือในไตเขามีน้ำมวลหนักปฐมกาลแล้ว จะรับอัคคีอรุณใต้ได้อีกหรือ

คงไม่กระทบกระทั่งกันในกายแล้วน้ำไฟเข้ากันไม่ได้ ให้ข้าร่างระเบิดเดี๋ยวนั้นหรอกนะ!

อืม~

จะเสี่ยงอันตรายไม่ได้!

ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ฝึกเซียนอันดับสอง

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็หยิบกล่องหินออกมาอย่างระมัดระวัง นั่นคือกล่องที่เขาถือโอกาสหยิบมาด้วยจากวิหารผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงตอนอยู่ถ้ำเซียนวารีสวรรค์

ตอนนั้นมีกล่องหินทั้งหมดสามกล่อง นี่คือหนึ่งในนั้น เดิมทีบรรจุต้นกำเนิดน้ำมวลหนักปฐมกาล

ตอนนี้เสิ่นเทียนเอากล่องออกมาก่อนเก็บต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้กลุ่มนั้นเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนปิดผนึกไว้อย่างดี

ถึงร่างกายจะต้องการมาก แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ใช่ผู้อ่อนแอที่โดนความปรารถนาของร่างกายครอบงำ เขาอดทนไม่กินได้!

เมื่อบรรจุต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ลงกล่องหินอย่างดีแล้วก็เอาใส่แหวนเวหา จากนั้นเสิ่นเทียนเดินอ้อมใจกลางหุบเขาตรวจสอบเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งวนมาถึงรอบหนึ่งพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ แล้ว เสิ่นเทียนถึงควักป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ออกมาก่อนคลำทางเข้าไปอย่างระมัดระวัง

มือซ้ายถือป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ มือขวาถือโล่เทพเต่าดำ ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเก้ากระบอกลอยอยู่ข้างหลัง

ตอนนี้เสิ่นเทียนใส่อาวุธครบมือสุด พยายามไม่ให้มีอะไรผิดพลาดถึงที่สุด

ในที่สุดเขาก็เดินทีละก้าวจนมาถึงใจกลางหุบเขา เจอกับบ่อน้ำเล็กแห่งหนึ่งตรงนี้ เป็นบ่อน้ำสีเงิน แผ่กลิ่นอายเซียนทั้งบ่อ

เสิ่นเทียนยังไม่สัมผัสน้ำก็รู้สึกสุขสบายไปทั้งตัวอย่างยิ่ง

น้ำบ่อนั้นแผ่กระจายพลังชีวิตเปี่ยมล้นยิ่ง เหมือนว่าทุกหยดมากพอจะทำให้คนตายคืนชีพขึ้นมาได้

เสิ่นเทียนคาดเดาบางอย่างในใจ นี่น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของของเหลวเถาที่มารดาเถาลวี่จีดูดซับพลังวิญญาณมาหลายพันปี

ต้องเป็นเถากลืนกินเซียนพันจั้งขึ้นไป รากขดได้ทั้งหุบเขาหมอกลับแล เซ่นไหว้แก่นกายหยาบเก้าส่วนถึงจะออกมาเป็นน้ำแร่วิญญาณบ่อนี้ได้

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าน้ำแร่วิญญาณนี้ล้ำค่าเพียงใด เป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย

ควรรู้ไว้ว่าต่อให้เป็นฟางฉางที่มีวงรัศมีสีทองก็ได้น้ำแร่วิญญาณไปแค่แอ่งเล็กเท่านั้น…

เอ่อ แค่กๆ รอเดี๋ยว!

เสิ่นเทียนตกใจกลัวขึ้นมา เหมือนจะมีบางอย่างแปลกๆ ไป!

ใช่แล้ว!

เยอะเกินไป เหตุใดถึงมีเยอะเช่นนี้!

ในภาพโชคลิขิตของฟางฉาง เห็นๆ อยู่ว่าเป็นเพียงน้ำแร่วิญญาณแอ่งเล็กเท่านั้น

คำนวณน้ำแร่วิญญาณแอ่งเล็กนั้นแล้ว อย่างมากสุดก็ได้ราวๆ ครึ่งลูกบาศก์เมตร

แต่ว่าตอนนี้ที่เสิ่นเทียนอยู่มันใช่แค่ครึ่งลูกบาศก์เมตรหรือ นี่มันบ่อน้ำเล็กชัดๆ!

เสิ่นเทียนชำเลืองตามองเฉยๆ ก็รู้ว่าบ่อน้ำนี้มีความยาวห้าเมตร ลึกไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร หรือก็คือตอนนี้ปริมาณน้ำแร่วิญญาณที่เขาเห็นมากกว่าตอนที่ฟางฉางมาพบน้ำแร่วิญญาณหลายสิบเท่า!

นี่ไม่ทำให้เสิ่นเทียนดีใจแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้เขาระมัดระวังตัวอย่างยิ่งทันที

น้ำแร่วิญญาณหลายสิบลูกบาศก์เมตรที่หายไปในภาพโชคลิขิตอยู่ที่ใด หุบเขานี้ยังมีคนอื่นอีกหรือ

ช่วงที่เสิ่นเทียนกำป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่แน่นและเตรียมจะอัญเชิญวิญญาณกระบี่ออกมานั้น บ่อน้ำเล็กนั้นพลันแตกกระเซ็นน้ำออกมา ปรากฏของเล็กบางสิ่ง

นั่นคือเถาเล็กขนาดราวสามฉื่อ ออกเป็นสีเขียวมรกตทุกส่วน มันบิดร่างไปมาอย่างสุขสบายในน้ำแร่วิญญาณ ตีน้ำแตกกระเซ็น ดูมีความสุขมาก

ตอนนี้มันโผล่มาเหนือผิวน้ำ ก่อนจะจ้องตากับเสิ่นเทียน สิ่งมีชีวิตทั้งสองพบหน้ากันตรงๆ

เวลานี้บรรยากาศหยุดนิ่งไป

เสิ่นเทียนกับร่างเถาเล็กแข็งค้าง ต่างจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าในมือตนมีแต่เหงื่อเย็นๆ กำลังวิตกมากจริงๆ!

เถาเล็กนี่มีสีเป็นเถากลืนกินเซียนชัดเจน บางทีอาจจะเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับมารดาเถาลวี่จี

ใครจะไปรู้ว่าเจ้านี่มีกำลังรบแข็งแกร่งเพียงใด ถ้าเกิดทะลวงดวงจิตดรุณหลอมรวมเทพได้ในพริบตา เจ้าลงมือกับมันจะไม่จบสิ้นชีวิตหรือ

มองไม่เห็นข้า มองไม่เห็นข้าเถอะ~!

เสิ่นเทียนสวดภาวนาในใจไม่หยุด แต่ก็ไม่สำเร็จ

เถากลืนกินเซียนขนาดพกพาเจอเสิ่นเทียนจริงๆ มันโจมตีแล้ว!

ก่อนจะเห็นเถากลืนกินเซียนนั่นเขย่าร่างและยิงน้ำแร่วิญญาณสีเงินใส่เสิ่นเทียน ส่วนมันมุดลงไปก้นน้ำแร่วิญญาณ มุดลงดินเลนก้นบ่อน้ำแร่วิญญาณอย่างบ้าคลั่ง

ใช่ เถากลืนกินเซียนขนาดพกพากลัว มันกำลังมุดหนีลงดิน

เสิ่นเทียนที่เตรียมตัวมาดียกระดับการป้องกันถึงขีดสุด แต่น้ำแร่วิญญาณนั้นยิงใส่เกราะป้องกันแล้วกลับไม่เกิดคลื่นกระเพื่อมใดๆ เลย

เสิ่นเทียนลองสัมผัสดูเล็กน้อย แรงจู่โจมนั้นอย่างมากสุดก็เทียบเท่าผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานโจมตี

……

เสิ่นเทียนเห็นเถากลืนกินเซียนขนาดพกพามุดหนีลงดินไม่หยุดแลดูกลัวเขาแล้วก็หัวเราะ

ในเมื่อเจ้ากลัวข้า ข้าไม่กลัวเจ้าแล้ว!

เจ้าปีศาจน้อย จงยอมศิโรราบต่ออำนาจน่าเกรงขามของข้าเถอะ!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว

เสิ่นเทียนหยัดกายขึ้น กระดูกทั่วร่างส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ

ประกายสายฟ้าสีทองกลับเข้าตรงระหว่างคิ้วอีกครั้ง เส้นผมที่ตั้งอยู่ก็ตกลงมาเช่นกัน

เขาหมุนตัวมองไปรอบๆ ก่อนพบว่าหุบเขามหึมาในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพังหมดแล้ว ทั่วร่างตนอมฝุ่นควันสีเทาดูสภาพจนตรอกยิ่ง นี่ทำให้เขารู้สึกไม่สุขใจยิ่งนัก

“ออกไปให้หมด!”

พลังวิญญาณโหมกระหน่ำกลายเป็นเครื่องเป่าลมพุ่งออกจากในกายเสิ่นเทียน พริบตาเดียวฝุ่นควันทั้งหมดบนตัวเขาก็ถูกกระเทือนออก อาภรณ์กลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้ง

ตอนนี้เสิ่นเทียนสวมเกราะนักรบ สวมหน้ากากขนหงส์ ยืนอยู่เพียงลำพังด้วยความโอหัง บุคลิกเป็นเอกแห่งยุค!

เขามองใจกลางหุบเขาที่ยุบลงไปนั้นด้วยความลังเลเล็กน้อย จะลงไปดูดีหรือไม่ ตามภาพโชคลิขิตที่เห็นเหนือศีรษะฟางฉาง ฟางฉางน่าจะเจอโชคลิขิตนี้ เพียงแค่เวลาไม่ค่อยถูกต้อง

ใช่ เสิ่นเทียนมาเร็วไป…

ตามการวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเสิ่นเทียนมาช้าไปวันสองวันก็จะไม่เจอกับเถาจองจำเซียนบุกเมือง แน่นอนด้วยวงรัศมีเหนือศีรษะเขาก็ไม่แน่ว่าจะหาที่นี่เจอด้วยตนเอง

สรุปคืออุปสรรคครั้งนี้อาจจะกลับกลายเป็นโชคดีก็ได้ ตอนนี้ดูท่าน่าจะยังคุ้มค่า

หมอกวิญญาณบนที่ราบหมอกลับแลยังไม่สลายไป ตอนนี้หุบเขาถูกหมอกวิญญาณปกคลุมอีกครั้งแล้ว แต่หลังจากกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมาก ทำให้ภูมิต้านทานต่อหมอกวิญญาณบรรลุถึงระดับสูงสุด

เขามองเห็นรางๆ ว่าในหุบเขาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มารดาเถาลวี่จีน่าจะตายตกเป็นเถ้าธุลีในเคราะห์ภัยสวรรค์แล้ว

เหอะๆ ก็พวกเจ้าสองคนมาแสดงความรักกันต่อหน้าข้า แสดงความรักมักตายไว บำเพ็ญเซียนหลายพันปี หลักการแค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจรึ

แน่นอน ต่อให้เป็นเช่นนั้นเสิ่นเทียนก็ยังไม่บุ่มบ่ามบุกเข้าไปใจกลางหมอกวิญญาณ แต่เดินอ้อมไป

เขาต้องสำรวจใจกลางหุบเขาทุกมุมจนกว่าจะมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาอย่างก่อนหน้านี้อีก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนใหญ่คนโตระดับฝ่าด่านเคราะห์ ใครจะรู้ว่ายังมีคนรับช่วงต่ออยู่หรือไม่

เสิ่นเทียนอ้อมหุบเขาเดินไปเดินมาพลันตาเป็นประกาย เห็นของดีเข้าแล้ว

นั่นคือไฟกองหนึ่งกำลังแผดเผาบนร่างซากเถากลืนกินเซียนเหี่ยวแห้งเน่าเปื่อย ทั้งไม่ลุกลามและไม่มอดดับ

เสิ่นเทียนจำได้ว่านั่นคือต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ที่เจ้ากระบี่สุริยะฟ้าอัญเชิญออกมา หลังจากโดนตีแตกแล้วก็กระจายออกไป

นี่เป็นเพียงเศษส่วนหนึ่งของต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ มีอานุภาพส่วนเล็กของอัคคีอรุณใต้ในมือเจ้ากระบี่สุริยะฟ้า

ไฟกองนี้ออกเป็นสีแดงฉาน ทุกส่วนคึกคักราวกับนกเพลิงน้อย ดูมีอานุภาพไม่อ่อนแอ

ส่วนเสิ่นเทียน หลังพบไฟกองนี้แล้ว ภายในกายเกิดอารมณ์ตื่นเต้นคุ้นเคยนั้นอีกครั้ง ต้องการ!

ใช่ เป็นพลังจากคัมภีร์คบเพลิงอีกแล้วที่กำลังแสดงความกระหายของตนต่อเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนเองก็จนปัญญากับเรื่องนี้ เหตุใดเจ้าถึงอยากกินอะไรไปเสียทุกอย่างล่ะ!

แต่วิชาที่ตนฝึกฝนกินอัคคีอรุณใต้ได้ เสิ่นเทียนย่อมยินดีมาก มีอย่างเดียวที่ทำให้เขากังวลคือในไตเขามีน้ำมวลหนักปฐมกาลแล้ว จะรับอัคคีอรุณใต้ได้อีกหรือ

คงไม่กระทบกระทั่งกันในกายแล้วน้ำไฟเข้ากันไม่ได้ ให้ข้าร่างระเบิดเดี๋ยวนั้นหรอกนะ!

อืม~

จะเสี่ยงอันตรายไม่ได้!

ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ฝึกเซียนอันดับสอง

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็หยิบกล่องหินออกมาอย่างระมัดระวัง นั่นคือกล่องที่เขาถือโอกาสหยิบมาด้วยจากวิหารผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงตอนอยู่ถ้ำเซียนวารีสวรรค์

ตอนนั้นมีกล่องหินทั้งหมดสามกล่อง นี่คือหนึ่งในนั้น เดิมทีบรรจุต้นกำเนิดน้ำมวลหนักปฐมกาล

ตอนนี้เสิ่นเทียนเอากล่องออกมาก่อนเก็บต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้กลุ่มนั้นเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนปิดผนึกไว้อย่างดี

ถึงร่างกายจะต้องการมาก แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ใช่ผู้อ่อนแอที่โดนความปรารถนาของร่างกายครอบงำ เขาอดทนไม่กินได้!

เมื่อบรรจุต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ลงกล่องหินอย่างดีแล้วก็เอาใส่แหวนเวหา จากนั้นเสิ่นเทียนเดินอ้อมใจกลางหุบเขาตรวจสอบเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งวนมาถึงรอบหนึ่งพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ แล้ว เสิ่นเทียนถึงควักป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ออกมาก่อนคลำทางเข้าไปอย่างระมัดระวัง

มือซ้ายถือป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ มือขวาถือโล่เทพเต่าดำ ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเก้ากระบอกลอยอยู่ข้างหลัง

ตอนนี้เสิ่นเทียนใส่อาวุธครบมือสุด พยายามไม่ให้มีอะไรผิดพลาดถึงที่สุด

ในที่สุดเขาก็เดินทีละก้าวจนมาถึงใจกลางหุบเขา เจอกับบ่อน้ำเล็กแห่งหนึ่งตรงนี้ เป็นบ่อน้ำสีเงิน แผ่กลิ่นอายเซียนทั้งบ่อ

เสิ่นเทียนยังไม่สัมผัสน้ำก็รู้สึกสุขสบายไปทั้งตัวอย่างยิ่ง

น้ำบ่อนั้นแผ่กระจายพลังชีวิตเปี่ยมล้นยิ่ง เหมือนว่าทุกหยดมากพอจะทำให้คนตายคืนชีพขึ้นมาได้

เสิ่นเทียนคาดเดาบางอย่างในใจ นี่น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของของเหลวเถาที่มารดาเถาลวี่จีดูดซับพลังวิญญาณมาหลายพันปี

ต้องเป็นเถากลืนกินเซียนพันจั้งขึ้นไป รากขดได้ทั้งหุบเขาหมอกลับแล เซ่นไหว้แก่นกายหยาบเก้าส่วนถึงจะออกมาเป็นน้ำแร่วิญญาณบ่อนี้ได้

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าน้ำแร่วิญญาณนี้ล้ำค่าเพียงใด เป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย

ควรรู้ไว้ว่าต่อให้เป็นฟางฉางที่มีวงรัศมีสีทองก็ได้น้ำแร่วิญญาณไปแค่แอ่งเล็กเท่านั้น…

เอ่อ แค่กๆ รอเดี๋ยว!

เสิ่นเทียนตกใจกลัวขึ้นมา เหมือนจะมีบางอย่างแปลกๆ ไป!

ใช่แล้ว!

เยอะเกินไป เหตุใดถึงมีเยอะเช่นนี้!

ในภาพโชคลิขิตของฟางฉาง เห็นๆ อยู่ว่าเป็นเพียงน้ำแร่วิญญาณแอ่งเล็กเท่านั้น

คำนวณน้ำแร่วิญญาณแอ่งเล็กนั้นแล้ว อย่างมากสุดก็ได้ราวๆ ครึ่งลูกบาศก์เมตร

แต่ว่าตอนนี้ที่เสิ่นเทียนอยู่มันใช่แค่ครึ่งลูกบาศก์เมตรหรือ นี่มันบ่อน้ำเล็กชัดๆ!

เสิ่นเทียนชำเลืองตามองเฉยๆ ก็รู้ว่าบ่อน้ำนี้มีความยาวห้าเมตร ลึกไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร หรือก็คือตอนนี้ปริมาณน้ำแร่วิญญาณที่เขาเห็นมากกว่าตอนที่ฟางฉางมาพบน้ำแร่วิญญาณหลายสิบเท่า!

นี่ไม่ทำให้เสิ่นเทียนดีใจแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้เขาระมัดระวังตัวอย่างยิ่งทันที

น้ำแร่วิญญาณหลายสิบลูกบาศก์เมตรที่หายไปในภาพโชคลิขิตอยู่ที่ใด หุบเขานี้ยังมีคนอื่นอีกหรือ

ช่วงที่เสิ่นเทียนกำป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่แน่นและเตรียมจะอัญเชิญวิญญาณกระบี่ออกมานั้น บ่อน้ำเล็กนั้นพลันแตกกระเซ็นน้ำออกมา ปรากฏของเล็กบางสิ่ง

นั่นคือเถาเล็กขนาดราวสามฉื่อ ออกเป็นสีเขียวมรกตทุกส่วน มันบิดร่างไปมาอย่างสุขสบายในน้ำแร่วิญญาณ ตีน้ำแตกกระเซ็น ดูมีความสุขมาก

ตอนนี้มันโผล่มาเหนือผิวน้ำ ก่อนจะจ้องตากับเสิ่นเทียน สิ่งมีชีวิตทั้งสองพบหน้ากันตรงๆ

เวลานี้บรรยากาศหยุดนิ่งไป

เสิ่นเทียนกับร่างเถาเล็กแข็งค้าง ต่างจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าในมือตนมีแต่เหงื่อเย็นๆ กำลังวิตกมากจริงๆ!

เถาเล็กนี่มีสีเป็นเถากลืนกินเซียนชัดเจน บางทีอาจจะเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับมารดาเถาลวี่จี

ใครจะไปรู้ว่าเจ้านี่มีกำลังรบแข็งแกร่งเพียงใด ถ้าเกิดทะลวงดวงจิตดรุณหลอมรวมเทพได้ในพริบตา เจ้าลงมือกับมันจะไม่จบสิ้นชีวิตหรือ

มองไม่เห็นข้า มองไม่เห็นข้าเถอะ~!

เสิ่นเทียนสวดภาวนาในใจไม่หยุด แต่ก็ไม่สำเร็จ

เถากลืนกินเซียนขนาดพกพาเจอเสิ่นเทียนจริงๆ มันโจมตีแล้ว!

ก่อนจะเห็นเถากลืนกินเซียนนั่นเขย่าร่างและยิงน้ำแร่วิญญาณสีเงินใส่เสิ่นเทียน ส่วนมันมุดลงไปก้นน้ำแร่วิญญาณ มุดลงดินเลนก้นบ่อน้ำแร่วิญญาณอย่างบ้าคลั่ง

ใช่ เถากลืนกินเซียนขนาดพกพากลัว มันกำลังมุดหนีลงดิน

เสิ่นเทียนที่เตรียมตัวมาดียกระดับการป้องกันถึงขีดสุด แต่น้ำแร่วิญญาณนั้นยิงใส่เกราะป้องกันแล้วกลับไม่เกิดคลื่นกระเพื่อมใดๆ เลย

เสิ่นเทียนลองสัมผัสดูเล็กน้อย แรงจู่โจมนั้นอย่างมากสุดก็เทียบเท่าผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานโจมตี

……

เสิ่นเทียนเห็นเถากลืนกินเซียนขนาดพกพามุดหนีลงดินไม่หยุดแลดูกลัวเขาแล้วก็หัวเราะ

ในเมื่อเจ้ากลัวข้า ข้าไม่กลัวเจ้าแล้ว!

เจ้าปีศาจน้อย จงยอมศิโรราบต่ออำนาจน่าเกรงขามของข้าเถอะ!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 156 แสดงความรักมักตายไว

เสิ่นเทียนหยัดกายขึ้น กระดูกทั่วร่างส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ

ประกายสายฟ้าสีทองกลับเข้าตรงระหว่างคิ้วอีกครั้ง เส้นผมที่ตั้งอยู่ก็ตกลงมาเช่นกัน

เขาหมุนตัวมองไปรอบๆ ก่อนพบว่าหุบเขามหึมาในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพังหมดแล้ว ทั่วร่างตนอมฝุ่นควันสีเทาดูสภาพจนตรอกยิ่ง นี่ทำให้เขารู้สึกไม่สุขใจยิ่งนัก

“ออกไปให้หมด!”

พลังวิญญาณโหมกระหน่ำกลายเป็นเครื่องเป่าลมพุ่งออกจากในกายเสิ่นเทียน พริบตาเดียวฝุ่นควันทั้งหมดบนตัวเขาก็ถูกกระเทือนออก อาภรณ์กลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้ง

ตอนนี้เสิ่นเทียนสวมเกราะนักรบ สวมหน้ากากขนหงส์ ยืนอยู่เพียงลำพังด้วยความโอหัง บุคลิกเป็นเอกแห่งยุค!

เขามองใจกลางหุบเขาที่ยุบลงไปนั้นด้วยความลังเลเล็กน้อย จะลงไปดูดีหรือไม่ ตามภาพโชคลิขิตที่เห็นเหนือศีรษะฟางฉาง ฟางฉางน่าจะเจอโชคลิขิตนี้ เพียงแค่เวลาไม่ค่อยถูกต้อง

ใช่ เสิ่นเทียนมาเร็วไป…

ตามการวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเสิ่นเทียนมาช้าไปวันสองวันก็จะไม่เจอกับเถาจองจำเซียนบุกเมือง แน่นอนด้วยวงรัศมีเหนือศีรษะเขาก็ไม่แน่ว่าจะหาที่นี่เจอด้วยตนเอง

สรุปคืออุปสรรคครั้งนี้อาจจะกลับกลายเป็นโชคดีก็ได้ ตอนนี้ดูท่าน่าจะยังคุ้มค่า

หมอกวิญญาณบนที่ราบหมอกลับแลยังไม่สลายไป ตอนนี้หุบเขาถูกหมอกวิญญาณปกคลุมอีกครั้งแล้ว แต่หลังจากกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมาก ทำให้ภูมิต้านทานต่อหมอกวิญญาณบรรลุถึงระดับสูงสุด

เขามองเห็นรางๆ ว่าในหุบเขาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มารดาเถาลวี่จีน่าจะตายตกเป็นเถ้าธุลีในเคราะห์ภัยสวรรค์แล้ว

เหอะๆ ก็พวกเจ้าสองคนมาแสดงความรักกันต่อหน้าข้า แสดงความรักมักตายไว บำเพ็ญเซียนหลายพันปี หลักการแค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจรึ

แน่นอน ต่อให้เป็นเช่นนั้นเสิ่นเทียนก็ยังไม่บุ่มบ่ามบุกเข้าไปใจกลางหมอกวิญญาณ แต่เดินอ้อมไป

เขาต้องสำรวจใจกลางหุบเขาทุกมุมจนกว่าจะมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาอย่างก่อนหน้านี้อีก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนใหญ่คนโตระดับฝ่าด่านเคราะห์ ใครจะรู้ว่ายังมีคนรับช่วงต่ออยู่หรือไม่

เสิ่นเทียนอ้อมหุบเขาเดินไปเดินมาพลันตาเป็นประกาย เห็นของดีเข้าแล้ว

นั่นคือไฟกองหนึ่งกำลังแผดเผาบนร่างซากเถากลืนกินเซียนเหี่ยวแห้งเน่าเปื่อย ทั้งไม่ลุกลามและไม่มอดดับ

เสิ่นเทียนจำได้ว่านั่นคือต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ที่เจ้ากระบี่สุริยะฟ้าอัญเชิญออกมา หลังจากโดนตีแตกแล้วก็กระจายออกไป

นี่เป็นเพียงเศษส่วนหนึ่งของต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ มีอานุภาพส่วนเล็กของอัคคีอรุณใต้ในมือเจ้ากระบี่สุริยะฟ้า

ไฟกองนี้ออกเป็นสีแดงฉาน ทุกส่วนคึกคักราวกับนกเพลิงน้อย ดูมีอานุภาพไม่อ่อนแอ

ส่วนเสิ่นเทียน หลังพบไฟกองนี้แล้ว ภายในกายเกิดอารมณ์ตื่นเต้นคุ้นเคยนั้นอีกครั้ง ต้องการ!

ใช่ เป็นพลังจากคัมภีร์คบเพลิงอีกแล้วที่กำลังแสดงความกระหายของตนต่อเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนเองก็จนปัญญากับเรื่องนี้ เหตุใดเจ้าถึงอยากกินอะไรไปเสียทุกอย่างล่ะ!

แต่วิชาที่ตนฝึกฝนกินอัคคีอรุณใต้ได้ เสิ่นเทียนย่อมยินดีมาก มีอย่างเดียวที่ทำให้เขากังวลคือในไตเขามีน้ำมวลหนักปฐมกาลแล้ว จะรับอัคคีอรุณใต้ได้อีกหรือ

คงไม่กระทบกระทั่งกันในกายแล้วน้ำไฟเข้ากันไม่ได้ ให้ข้าร่างระเบิดเดี๋ยวนั้นหรอกนะ!

อืม~

จะเสี่ยงอันตรายไม่ได้!

ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ฝึกเซียนอันดับสอง

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็หยิบกล่องหินออกมาอย่างระมัดระวัง นั่นคือกล่องที่เขาถือโอกาสหยิบมาด้วยจากวิหารผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงตอนอยู่ถ้ำเซียนวารีสวรรค์

ตอนนั้นมีกล่องหินทั้งหมดสามกล่อง นี่คือหนึ่งในนั้น เดิมทีบรรจุต้นกำเนิดน้ำมวลหนักปฐมกาล

ตอนนี้เสิ่นเทียนเอากล่องออกมาก่อนเก็บต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้กลุ่มนั้นเข้าไปอย่างระมัดระวังก่อนปิดผนึกไว้อย่างดี

ถึงร่างกายจะต้องการมาก แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ใช่ผู้อ่อนแอที่โดนความปรารถนาของร่างกายครอบงำ เขาอดทนไม่กินได้!

เมื่อบรรจุต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ลงกล่องหินอย่างดีแล้วก็เอาใส่แหวนเวหา จากนั้นเสิ่นเทียนเดินอ้อมใจกลางหุบเขาตรวจสอบเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งวนมาถึงรอบหนึ่งพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ แล้ว เสิ่นเทียนถึงควักป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ออกมาก่อนคลำทางเข้าไปอย่างระมัดระวัง

มือซ้ายถือป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ มือขวาถือโล่เทพเต่าดำ ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเก้ากระบอกลอยอยู่ข้างหลัง

ตอนนี้เสิ่นเทียนใส่อาวุธครบมือสุด พยายามไม่ให้มีอะไรผิดพลาดถึงที่สุด

ในที่สุดเขาก็เดินทีละก้าวจนมาถึงใจกลางหุบเขา เจอกับบ่อน้ำเล็กแห่งหนึ่งตรงนี้ เป็นบ่อน้ำสีเงิน แผ่กลิ่นอายเซียนทั้งบ่อ

เสิ่นเทียนยังไม่สัมผัสน้ำก็รู้สึกสุขสบายไปทั้งตัวอย่างยิ่ง

น้ำบ่อนั้นแผ่กระจายพลังชีวิตเปี่ยมล้นยิ่ง เหมือนว่าทุกหยดมากพอจะทำให้คนตายคืนชีพขึ้นมาได้

เสิ่นเทียนคาดเดาบางอย่างในใจ นี่น่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดของของเหลวเถาที่มารดาเถาลวี่จีดูดซับพลังวิญญาณมาหลายพันปี

ต้องเป็นเถากลืนกินเซียนพันจั้งขึ้นไป รากขดได้ทั้งหุบเขาหมอกลับแล เซ่นไหว้แก่นกายหยาบเก้าส่วนถึงจะออกมาเป็นน้ำแร่วิญญาณบ่อนี้ได้

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าน้ำแร่วิญญาณนี้ล้ำค่าเพียงใด เป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย

ควรรู้ไว้ว่าต่อให้เป็นฟางฉางที่มีวงรัศมีสีทองก็ได้น้ำแร่วิญญาณไปแค่แอ่งเล็กเท่านั้น…

เอ่อ แค่กๆ รอเดี๋ยว!

เสิ่นเทียนตกใจกลัวขึ้นมา เหมือนจะมีบางอย่างแปลกๆ ไป!

ใช่แล้ว!

เยอะเกินไป เหตุใดถึงมีเยอะเช่นนี้!

ในภาพโชคลิขิตของฟางฉาง เห็นๆ อยู่ว่าเป็นเพียงน้ำแร่วิญญาณแอ่งเล็กเท่านั้น

คำนวณน้ำแร่วิญญาณแอ่งเล็กนั้นแล้ว อย่างมากสุดก็ได้ราวๆ ครึ่งลูกบาศก์เมตร

แต่ว่าตอนนี้ที่เสิ่นเทียนอยู่มันใช่แค่ครึ่งลูกบาศก์เมตรหรือ นี่มันบ่อน้ำเล็กชัดๆ!

เสิ่นเทียนชำเลืองตามองเฉยๆ ก็รู้ว่าบ่อน้ำนี้มีความยาวห้าเมตร ลึกไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร หรือก็คือตอนนี้ปริมาณน้ำแร่วิญญาณที่เขาเห็นมากกว่าตอนที่ฟางฉางมาพบน้ำแร่วิญญาณหลายสิบเท่า!

นี่ไม่ทำให้เสิ่นเทียนดีใจแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้เขาระมัดระวังตัวอย่างยิ่งทันที

น้ำแร่วิญญาณหลายสิบลูกบาศก์เมตรที่หายไปในภาพโชคลิขิตอยู่ที่ใด หุบเขานี้ยังมีคนอื่นอีกหรือ

ช่วงที่เสิ่นเทียนกำป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่แน่นและเตรียมจะอัญเชิญวิญญาณกระบี่ออกมานั้น บ่อน้ำเล็กนั้นพลันแตกกระเซ็นน้ำออกมา ปรากฏของเล็กบางสิ่ง

นั่นคือเถาเล็กขนาดราวสามฉื่อ ออกเป็นสีเขียวมรกตทุกส่วน มันบิดร่างไปมาอย่างสุขสบายในน้ำแร่วิญญาณ ตีน้ำแตกกระเซ็น ดูมีความสุขมาก

ตอนนี้มันโผล่มาเหนือผิวน้ำ ก่อนจะจ้องตากับเสิ่นเทียน สิ่งมีชีวิตทั้งสองพบหน้ากันตรงๆ

เวลานี้บรรยากาศหยุดนิ่งไป

เสิ่นเทียนกับร่างเถาเล็กแข็งค้าง ต่างจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าในมือตนมีแต่เหงื่อเย็นๆ กำลังวิตกมากจริงๆ!

เถาเล็กนี่มีสีเป็นเถากลืนกินเซียนชัดเจน บางทีอาจจะเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับมารดาเถาลวี่จี

ใครจะไปรู้ว่าเจ้านี่มีกำลังรบแข็งแกร่งเพียงใด ถ้าเกิดทะลวงดวงจิตดรุณหลอมรวมเทพได้ในพริบตา เจ้าลงมือกับมันจะไม่จบสิ้นชีวิตหรือ

มองไม่เห็นข้า มองไม่เห็นข้าเถอะ~!

เสิ่นเทียนสวดภาวนาในใจไม่หยุด แต่ก็ไม่สำเร็จ

เถากลืนกินเซียนขนาดพกพาเจอเสิ่นเทียนจริงๆ มันโจมตีแล้ว!

ก่อนจะเห็นเถากลืนกินเซียนนั่นเขย่าร่างและยิงน้ำแร่วิญญาณสีเงินใส่เสิ่นเทียน ส่วนมันมุดลงไปก้นน้ำแร่วิญญาณ มุดลงดินเลนก้นบ่อน้ำแร่วิญญาณอย่างบ้าคลั่ง

ใช่ เถากลืนกินเซียนขนาดพกพากลัว มันกำลังมุดหนีลงดิน

เสิ่นเทียนที่เตรียมตัวมาดียกระดับการป้องกันถึงขีดสุด แต่น้ำแร่วิญญาณนั้นยิงใส่เกราะป้องกันแล้วกลับไม่เกิดคลื่นกระเพื่อมใดๆ เลย

เสิ่นเทียนลองสัมผัสดูเล็กน้อย แรงจู่โจมนั้นอย่างมากสุดก็เทียบเท่าผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานโจมตี

……

เสิ่นเทียนเห็นเถากลืนกินเซียนขนาดพกพามุดหนีลงดินไม่หยุดแลดูกลัวเขาแล้วก็หัวเราะ

ในเมื่อเจ้ากลัวข้า ข้าไม่กลัวเจ้าแล้ว!

เจ้าปีศาจน้อย จงยอมศิโรราบต่ออำนาจน่าเกรงขามของข้าเถอะ!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+