บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 39 สระบัวขาว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 39 สระบัวขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 39 สระบัวขาว
บนแท่นหินที่ยื่นออกมากลางอากาศ เสิ่นเทียนตกใจจนเหงื่อท่วมทั้งตัว

บ้าจริง เกือบเอาชีวิตของตนเองไปทิ้งแล้ว

ที่เสิ่นเทียนกระโดดหน้าผาอย่างกะทันหัน ไม่ได้เป็นเพราะการตัดสินใจที่วู่วาม

อันที่จริงเขาอยากกระโดดหน้าผามาสักพักแล้ว

แน่นอน ไม่ใช่รนหาที่ตาย

แต่เป็นเพราะเสิ่นเทียนเห็นภาพโชคลิขิตเหนือศีรษะของเสี่ยวหลิงเซียน และมันก็อยู่ตรงใต้หน้าผาแห่งนี้

ตามหลัก ถ้าหากเสิ่นเทียนไม่ปรากฏตัว

เสี่ยวหลิงเซียนถูกผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยลักพาตัวไป และผลสุดท้ายคือการตกลงมาจากหน้าผา

ส่วนตกลงมาระหว่างการดิ้นรนเอาตัวรอดหรือหลังจากถูกย่ำยีจึงฆ่าตัวตาย อันนี้ไม่รู้ได้

แต่ตำแหน่งที่ตกลงมาจากหน้าผาคือแท่งหินตรงนี้อย่างแน่นอน

เนื่องจากเสิ่นเทียนเข้ามามีส่วนร่วม จึงส่งผลให้เสี่ยวหลิงเซียนถูกช่วย

เสี่ยวหลิงเซียนที่ได้รับการช่วยเหลือ ย่อมไม่มีทางไร้สมองจนกระโดดหน้าผาลงมาเอง

ในเมื่อเสี่ยวหลิงเซียนไม่กระโดดหน้าผา ถ้าอย่างนั้นเสิ่นเทียนจึงต้องลงมือเอง

ปัญหาคือกุ้ยกงกงและฉินเกาคอยคุ้มกันอยู่ด้านข้าง

จู่ๆ เสิ่นเทียนจะกระโดดลงหน้าผาเลยก็คงไม่ได้หรอกกระมัง!

เรื่องนี้หาข้ออ้างยาก!

สิ่งที่คาดไม่ถึงคือโชคดีที่เสี่ยวหลิงเซียนสั่งให้เสิ่นเทียนยืนยันความบริสุทธิ์ด้วยการกระโดดหน้าผา

โอกาสที่ดีเช่นนี้ เสิ่นเทียนจะปล่อยผ่านได้อย่างไร

มันต้องกระโดดลงไปอย่างไม่ลังเลอยู่แล้ว!

เสิ่นเทียนวิเคราะห์ภาพโชคลิขิตอย่างละเอียด ตำแหน่งและทิศทางที่เสี่ยวหลิงเซียนตกลงมาจากหน้าผา

จากนั้นกระโดดลงมาอย่างไม่ลังเล สัมผัสประสบการณ์ที่เหมือนได้โบยบิน

แต่ในระหว่างนั้นเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย

เสิ่นเทียนคิดว่าตกลงมาจากหน้าผาตามวิถีของเสี่ยวหลิงเซียนต้องไม่มีปัญหาแน่นอน

ทว่าเขามองข้ามความอับโชคที่อยู่เหนือศีรษะของตนเอง

หลังจากที่กระโดดลงไป เขาชนใส่ต้นสนที่ตรงขอบหน้าผาอย่างจัง

ไม่เพียงแต่ชนจนมึนหัวไปหมด ยังทำให้ตำแหน่งที่เขาตกลงไปคลาดเคลื่อน

คลาดเคลื่อนจากแท่นหินออกไปไกลกว่าสามเมตร

ทำให้เขาตกใจกลัวจนเกือบขวัญหาย!

คนร่วงอยู่ด้านหน้า วิญญาณลอยตามอยู่ด้านหลัง เกือบจะไม่รอดแล้ว

หากไม่ได้เป็นเพราะจิ่วเอ๋อร์ออกแรงผลักเขาในช่วงที่คับขันนั้น

ตอนนี้เสิ่นเทียนคงจะกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อไปแล้ว

“ผิดแผน ผิดแผนอย่างแรง!”

“เรียบง่ายถึงจะเป็นวิถีของราชาอย่างที่คิด อย่างน้อยก่อนที่วงรัศมีเหนือศีรษะจะกลายเป็นสีเขียว จะทำอะไรส่งเดชไม่ได้!”

นอนอยู่บนแท่นหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา เสิ่นเทียนสรุปบทเรียนที่ได้รับด้วยความหวาดผวา

แอบสาบานในใจว่าครั้งหน้าจะไม่ทำอะไรวู่วามอีก

……

ขณะนี้เอง เสี่ยวหลิงเซียนและคนอื่นหาเชือกปีนลงมาได้แล้ว

“องค์ชาย ท่านเป็นอะไรหรือไม่!”

กุ้ยกงกงประคองเสิ่นเทียนลุกขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

ส่วนเสี่ยวหลิงเซียนกำหมัดแน่น กลิ่นอายเทพธิดาที่เคยทำให้ผู้ชายมากมายลุ่มหลงหายไปหมด

กลับกันนางในตอนนี้เหมือนกับสะใภ้ที่โดนรังแกยิ่งนัก

สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้นางอยากร้องไห้มากเพียงใด!

“สารเลว เจ้ากระโดดลงมาจริงหรือ!”

“ข้าไม่ให้เจ้ารับผิดชอบ พอใจหรือยัง!”

เสิ่นเทียนหันหน้าหนี ไม่กล้าเผชิญหน้าเสี่ยวหลิงเซียน

เพราะตอนนี้สีหน้าของยัยนี่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเสียเหลือเกิน

คิดว่าถ้ามอบลูกประคำให้เสี่ยวหลิงเซียน ใช้เวลาไม่กี่วันก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

เสิ่นเทียนก็ไม่รู้เพราะอะไร รู้สึกเหมือนตนเองกลายเป็นผู้ชายสารเลว

ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย!

“อ่ะแฮ่มๆ เอ่อ พวกเรามาดูถ้ำเซียนแห่งนี้กันดีกว่า!”

เขาเปลี่ยนบทสนทนาไปดื้อๆ แล้วเดินไปทางถ้ำเซียน

ถ้ำเซียนแห่งนี้ถูกล็อคด้วยประตูสัมฤทธิ์ที่สูงประมาณสิบฟุต ด้านเหนือของประตูมีป้ายที่ทำจากเหล็กดำแขวนอยู่

บนป้าย มีตัวอักษรที่ประณีตสวยงามขนาดใหญ่สี่คำ—ถ้ำเซียนวารีสวรรค์

“ถ้ำเซียนวารีสวรรค์? ไม่มีบันทึกที่เกี่ยวข้องในตำราของวังหลวง”

กุ้ยกงกงกล่าว “องค์ชายระวัง ถ้ำเซียนของผู้บำเพ็ญเซียนอาจจะมีอันตราย”

เสิ่นเทียนพยักหน้า ไม่ต้องให้กุ้ยกงกงบอกเขาก็รู้

อย่างไรเสีย เขาเองเพิ่งเกือบจะตกลงไปเป็นซากติดพื้นเมื่อสักครู่นี้เอง

เดินไปถึงหน้าประตูอย่างเชื่องช้า กลับเห็นบนประตูสัมฤทธิ์มีรอยฝ่ามือที่ลึกลงไปเป็นหลุม

เสิ่นเทียนยื่นมือซ้ายของตนเองออกไปวางลงบนรอยฝ่ามือ ออกแรงเล็กน้อย

ทันใดนั้น ปลายนิ้วมือทั้งห้าของเขามีความรู้สึกเจ็บเหมือนโดนอะไรแทง

……

เลือดห้าหยดไหลออกมาจากปลายนิ้ว ถูกประตูสัมฤทธิ์ดูดซับเข้าไป

หลังจากดูดซับเลือด ประตูไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

เป็นอย่างที่คิด โชคลิขิตบางอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเช่นนั้นหรือ

เสิ่นเทียนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ดูเหมือนประตูสัมฤทธิ์นี่เป็นบททดสอบ เลือดของข้าใช้ไม่ได้”

กุ้ยกงกงและฉินเกาหันไปสบตากัน จากนั้นก็ก้าวออกมาลองดูเช่นกัน

แต่ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกับเสิ่นเทียน ประตูสัมฤทธิ์ยังคงไม่ขยับ

“แม่นางหลิงเอ๋อร์ ตอนนี้เหลือแต่เจ้าแล้ว”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย พูดกับเสี่ยวหลิงเซียน

ฮึ่ม!

เสี่ยวหลิงเซียนเหลือบมองเสิ่นเทียนด้วยสายตาที่งอนแวบหนึ่ง จากนั้นเดินไปที่ประตูสัมฤทธิ์

สูดหายใจเข้าลึกๆ เสี่ยวหลิงเซียนกดมือของตนเองลงในรอยฝ่ามือ

เลือดห้าหยดไหลออกมาจากปลายนิ้วของนาง ถูกประตูสัมฤทธิ์ดูดซับเข้าไป

ทันใดนั้น ประตูสัมฤทธิ์ระเบิดแสงที่เจิดจรัสออกมา

ครืดๆ โครม…

ประตูสัมฤทธิ์ที่สูงนับสิบฟุตเปิดขึ้นในทันใด

มีเส้นทางที่ทอดยาวสายหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

“ดูเหมือนแม่นางหลิงเอ๋อร์ถึงจะเป็นผู้มีวาสนากับถ้ำเซียนแห่งนี้!”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ในที่สุดก็ให้เสี่ยวหลิงเซียนเปิดประตูถ้ำเซียนแห่งนี้จนได้

เช่นนี้แล้ว หลังจากที่เสี่ยวหลิงเซียนได้รับโชคลิขิตของนาง

วงรัศมีแห่งโชคที่อยู่เหนือศีรษะของตนเองก็ควรจะเปลี่ยนไปด้วยแล้วกระมัง!

คนทั้งกลุ่มเดินเข้าไปในถ้ำด้วยความระมัดระวัง

สามารถมองออกได้เลยว่าถ้ำแห่งนี้ถูกทิ้งให้รกร้างมานานพอสมควร สองข้างทางของถ้ำมีเชิงเทียนเรียงเป็นแถว ด้านบนเต็มไปด้วยฝุ่น

หลังจากเข้าประตูสัมฤทธิ์ คนทั้งกลุ่มเดินตามเส้นทางของถ้ำเข้าไปด้านใน เดินตามเส้นทางไปข้างหน้าประมาณร้อยเมตร

ทางด้านหน้าสว่างขึ้นมาในทันใด มีหุบเขาเล็กที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างปรากฏขึ้นต่อหน้าสายตาทุกคน

ในหุบเขาเล็กแห่งนี้มีพลังวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์

ต้นหญ้าและดอกไม้นานาชนิดส่งกลิ่นหอมเตะจมูก

ใจกลางของหุบเขา ถึงขั้นมีการขุดสระน้ำที่มีขนาดความกว้างเกือบหนึ่งไร่

ด้านในเป็นดอกบัววิญญาณทั้งบ่อ ตอนนี้ดอกกำลังบาน ส่งกลิ่นหอมที่สดชื่นออกมา

“นั่นดอกบัวขาวบริสุทธิ์ เป็นวัตถุดิบสมุนไพรล้ำค่าที่สามารถนำมาใช้หลอม ‘แก่นพลังทองบุกเบิก’ ”

มองดูดอกบัวขาวในสระ กุ้ยกงกงอดไม่ได้ที่จะอุทาน

ดอกบัวขาวบริสุทธิ์เป็นโอสถวิญญาณที่ล้ำค่ามาก เป็นที่นิยมระดับกลางในโลกบำเพ็ญเซียน

ถึงเป็นดอกบัวขาวบริสุทธิ์ระดับหนึ่งทั่วไปที่สุดก็สามารถขายออกไปในราคาสูงถึงศิลาวิญญาณพันก้อน

และดอกบัวขาวบริสุทธิ์ทั้งสระนี้ มองแค่แวบเดียวก็นับได้ถึงหนึ่งร้อยดอกขึ้นไป

ในบรรดาดอกบัวทั้งหมด เสิ่นเทียนสังเกตเห็นมีดอกบัวขาวบริสุทธิ์ระดับสามหลายดอก

มูลค่าของดอกบัวขาวบริสุทธิ์ระดับสาม อย่างน้อยก็อยู่ที่ศิลาวิญญาณหนึ่งแสนก้อน

เฉพาะมูลค่าของดอกบัวขาวบริสุทธิ์บ่อนี้ก็ไม่สามารถประเมินได้แล้ว

ขณะมองดูดอกบัวขาวบริสุทธิ์ที่เต็มบ่อ เสี่ยวหลิงเซียนอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากของตนเอง

ดอกบัวขาวบริสุทธิ์มากมายเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระดับสองและสาม

ถ้าหากขายออกไปทั้งหมด จะได้เงินมามากเพียงใด!

นี่เป็นความมั่งคั่งที่เสี่ยวหลิงเซียนไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ

นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนเหลือบมองเสิ่นเทียนด้วยความกังวลแวบหนึ่ง

ความมั่นคั่งก้อนโตเช่นนี้ถูกตนเองเห็น เขาคงจะไม่ฆ่าคนปิดปากหรอกกระมัง!

สำหรับผู้บำเพ็ญเซียน ทรัพยากรสำหรับการบำเพ็ญสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

สถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าและดอกไม้ล้ำค่าบวกกับดอกบัวขาวทั้งสระแห่งนี้ อย่างน้อยก็มีมูลค่าสูงถึงศิลาวิญญาณหนึ่งล้านก้อน

ความมั่งคั่งมหาศาลเช่นนี้อยู่ต่อหน้า มีผู้คนมากมายถึงขั้นสามารถทำร้ายพ่อแม่และเพื่อนพี่น้อง

เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะยากจน และล้มลุกคลุกคลานอยู่ในสวนหมื่นวิญญาณที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันมานานหลายปี

เสี่ยวหลิงเซียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ที่ดินแดนบำเพ็ญเซียนที่สกปรกโสมมมานานแล้ว

หากเปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญเซียนส่วนใหญ่ ได้เจอโชคลิขิตอันประเสริฐเช่นนี้

มีความเป็นไปได้ที่จะฆ่าทุกคนที่รู้เรื่องเพื่อปกปิดความลับ!

หมอนี่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจเช่นนี้ได้หรือไม่

ชั่วขณะนั้น เสี่ยวหลิงเซียนเริ่มเกิดความกังวล

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 39 สระบัวขาว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 39 สระบัวขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 39 สระบัวขาว
บนแท่นหินที่ยื่นออกมากลางอากาศ เสิ่นเทียนตกใจจนเหงื่อท่วมทั้งตัว

บ้าจริง เกือบเอาชีวิตของตนเองไปทิ้งแล้ว

ที่เสิ่นเทียนกระโดดหน้าผาอย่างกะทันหัน ไม่ได้เป็นเพราะการตัดสินใจที่วู่วาม

อันที่จริงเขาอยากกระโดดหน้าผามาสักพักแล้ว

แน่นอน ไม่ใช่รนหาที่ตาย

แต่เป็นเพราะเสิ่นเทียนเห็นภาพโชคลิขิตเหนือศีรษะของเสี่ยวหลิงเซียน และมันก็อยู่ตรงใต้หน้าผาแห่งนี้

ตามหลัก ถ้าหากเสิ่นเทียนไม่ปรากฏตัว

เสี่ยวหลิงเซียนถูกผู้จริงแท้เฮยเสวี่ยลักพาตัวไป และผลสุดท้ายคือการตกลงมาจากหน้าผา

ส่วนตกลงมาระหว่างการดิ้นรนเอาตัวรอดหรือหลังจากถูกย่ำยีจึงฆ่าตัวตาย อันนี้ไม่รู้ได้

แต่ตำแหน่งที่ตกลงมาจากหน้าผาคือแท่งหินตรงนี้อย่างแน่นอน

เนื่องจากเสิ่นเทียนเข้ามามีส่วนร่วม จึงส่งผลให้เสี่ยวหลิงเซียนถูกช่วย

เสี่ยวหลิงเซียนที่ได้รับการช่วยเหลือ ย่อมไม่มีทางไร้สมองจนกระโดดหน้าผาลงมาเอง

ในเมื่อเสี่ยวหลิงเซียนไม่กระโดดหน้าผา ถ้าอย่างนั้นเสิ่นเทียนจึงต้องลงมือเอง

ปัญหาคือกุ้ยกงกงและฉินเกาคอยคุ้มกันอยู่ด้านข้าง

จู่ๆ เสิ่นเทียนจะกระโดดลงหน้าผาเลยก็คงไม่ได้หรอกกระมัง!

เรื่องนี้หาข้ออ้างยาก!

สิ่งที่คาดไม่ถึงคือโชคดีที่เสี่ยวหลิงเซียนสั่งให้เสิ่นเทียนยืนยันความบริสุทธิ์ด้วยการกระโดดหน้าผา

โอกาสที่ดีเช่นนี้ เสิ่นเทียนจะปล่อยผ่านได้อย่างไร

มันต้องกระโดดลงไปอย่างไม่ลังเลอยู่แล้ว!

เสิ่นเทียนวิเคราะห์ภาพโชคลิขิตอย่างละเอียด ตำแหน่งและทิศทางที่เสี่ยวหลิงเซียนตกลงมาจากหน้าผา

จากนั้นกระโดดลงมาอย่างไม่ลังเล สัมผัสประสบการณ์ที่เหมือนได้โบยบิน

แต่ในระหว่างนั้นเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย

เสิ่นเทียนคิดว่าตกลงมาจากหน้าผาตามวิถีของเสี่ยวหลิงเซียนต้องไม่มีปัญหาแน่นอน

ทว่าเขามองข้ามความอับโชคที่อยู่เหนือศีรษะของตนเอง

หลังจากที่กระโดดลงไป เขาชนใส่ต้นสนที่ตรงขอบหน้าผาอย่างจัง

ไม่เพียงแต่ชนจนมึนหัวไปหมด ยังทำให้ตำแหน่งที่เขาตกลงไปคลาดเคลื่อน

คลาดเคลื่อนจากแท่นหินออกไปไกลกว่าสามเมตร

ทำให้เขาตกใจกลัวจนเกือบขวัญหาย!

คนร่วงอยู่ด้านหน้า วิญญาณลอยตามอยู่ด้านหลัง เกือบจะไม่รอดแล้ว

หากไม่ได้เป็นเพราะจิ่วเอ๋อร์ออกแรงผลักเขาในช่วงที่คับขันนั้น

ตอนนี้เสิ่นเทียนคงจะกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อไปแล้ว

“ผิดแผน ผิดแผนอย่างแรง!”

“เรียบง่ายถึงจะเป็นวิถีของราชาอย่างที่คิด อย่างน้อยก่อนที่วงรัศมีเหนือศีรษะจะกลายเป็นสีเขียว จะทำอะไรส่งเดชไม่ได้!”

นอนอยู่บนแท่นหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา เสิ่นเทียนสรุปบทเรียนที่ได้รับด้วยความหวาดผวา

แอบสาบานในใจว่าครั้งหน้าจะไม่ทำอะไรวู่วามอีก

……

ขณะนี้เอง เสี่ยวหลิงเซียนและคนอื่นหาเชือกปีนลงมาได้แล้ว

“องค์ชาย ท่านเป็นอะไรหรือไม่!”

กุ้ยกงกงประคองเสิ่นเทียนลุกขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

ส่วนเสี่ยวหลิงเซียนกำหมัดแน่น กลิ่นอายเทพธิดาที่เคยทำให้ผู้ชายมากมายลุ่มหลงหายไปหมด

กลับกันนางในตอนนี้เหมือนกับสะใภ้ที่โดนรังแกยิ่งนัก

สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้นางอยากร้องไห้มากเพียงใด!

“สารเลว เจ้ากระโดดลงมาจริงหรือ!”

“ข้าไม่ให้เจ้ารับผิดชอบ พอใจหรือยัง!”

เสิ่นเทียนหันหน้าหนี ไม่กล้าเผชิญหน้าเสี่ยวหลิงเซียน

เพราะตอนนี้สีหน้าของยัยนี่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเสียเหลือเกิน

คิดว่าถ้ามอบลูกประคำให้เสี่ยวหลิงเซียน ใช้เวลาไม่กี่วันก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

เสิ่นเทียนก็ไม่รู้เพราะอะไร รู้สึกเหมือนตนเองกลายเป็นผู้ชายสารเลว

ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย!

“อ่ะแฮ่มๆ เอ่อ พวกเรามาดูถ้ำเซียนแห่งนี้กันดีกว่า!”

เขาเปลี่ยนบทสนทนาไปดื้อๆ แล้วเดินไปทางถ้ำเซียน

ถ้ำเซียนแห่งนี้ถูกล็อคด้วยประตูสัมฤทธิ์ที่สูงประมาณสิบฟุต ด้านเหนือของประตูมีป้ายที่ทำจากเหล็กดำแขวนอยู่

บนป้าย มีตัวอักษรที่ประณีตสวยงามขนาดใหญ่สี่คำ—ถ้ำเซียนวารีสวรรค์

“ถ้ำเซียนวารีสวรรค์? ไม่มีบันทึกที่เกี่ยวข้องในตำราของวังหลวง”

กุ้ยกงกงกล่าว “องค์ชายระวัง ถ้ำเซียนของผู้บำเพ็ญเซียนอาจจะมีอันตราย”

เสิ่นเทียนพยักหน้า ไม่ต้องให้กุ้ยกงกงบอกเขาก็รู้

อย่างไรเสีย เขาเองเพิ่งเกือบจะตกลงไปเป็นซากติดพื้นเมื่อสักครู่นี้เอง

เดินไปถึงหน้าประตูอย่างเชื่องช้า กลับเห็นบนประตูสัมฤทธิ์มีรอยฝ่ามือที่ลึกลงไปเป็นหลุม

เสิ่นเทียนยื่นมือซ้ายของตนเองออกไปวางลงบนรอยฝ่ามือ ออกแรงเล็กน้อย

ทันใดนั้น ปลายนิ้วมือทั้งห้าของเขามีความรู้สึกเจ็บเหมือนโดนอะไรแทง

……

เลือดห้าหยดไหลออกมาจากปลายนิ้ว ถูกประตูสัมฤทธิ์ดูดซับเข้าไป

หลังจากดูดซับเลือด ประตูไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

เป็นอย่างที่คิด โชคลิขิตบางอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเช่นนั้นหรือ

เสิ่นเทียนกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ดูเหมือนประตูสัมฤทธิ์นี่เป็นบททดสอบ เลือดของข้าใช้ไม่ได้”

กุ้ยกงกงและฉินเกาหันไปสบตากัน จากนั้นก็ก้าวออกมาลองดูเช่นกัน

แต่ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกับเสิ่นเทียน ประตูสัมฤทธิ์ยังคงไม่ขยับ

“แม่นางหลิงเอ๋อร์ ตอนนี้เหลือแต่เจ้าแล้ว”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย พูดกับเสี่ยวหลิงเซียน

ฮึ่ม!

เสี่ยวหลิงเซียนเหลือบมองเสิ่นเทียนด้วยสายตาที่งอนแวบหนึ่ง จากนั้นเดินไปที่ประตูสัมฤทธิ์

สูดหายใจเข้าลึกๆ เสี่ยวหลิงเซียนกดมือของตนเองลงในรอยฝ่ามือ

เลือดห้าหยดไหลออกมาจากปลายนิ้วของนาง ถูกประตูสัมฤทธิ์ดูดซับเข้าไป

ทันใดนั้น ประตูสัมฤทธิ์ระเบิดแสงที่เจิดจรัสออกมา

ครืดๆ โครม…

ประตูสัมฤทธิ์ที่สูงนับสิบฟุตเปิดขึ้นในทันใด

มีเส้นทางที่ทอดยาวสายหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

“ดูเหมือนแม่นางหลิงเอ๋อร์ถึงจะเป็นผู้มีวาสนากับถ้ำเซียนแห่งนี้!”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ในที่สุดก็ให้เสี่ยวหลิงเซียนเปิดประตูถ้ำเซียนแห่งนี้จนได้

เช่นนี้แล้ว หลังจากที่เสี่ยวหลิงเซียนได้รับโชคลิขิตของนาง

วงรัศมีแห่งโชคที่อยู่เหนือศีรษะของตนเองก็ควรจะเปลี่ยนไปด้วยแล้วกระมัง!

คนทั้งกลุ่มเดินเข้าไปในถ้ำด้วยความระมัดระวัง

สามารถมองออกได้เลยว่าถ้ำแห่งนี้ถูกทิ้งให้รกร้างมานานพอสมควร สองข้างทางของถ้ำมีเชิงเทียนเรียงเป็นแถว ด้านบนเต็มไปด้วยฝุ่น

หลังจากเข้าประตูสัมฤทธิ์ คนทั้งกลุ่มเดินตามเส้นทางของถ้ำเข้าไปด้านใน เดินตามเส้นทางไปข้างหน้าประมาณร้อยเมตร

ทางด้านหน้าสว่างขึ้นมาในทันใด มีหุบเขาเล็กที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างปรากฏขึ้นต่อหน้าสายตาทุกคน

ในหุบเขาเล็กแห่งนี้มีพลังวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์

ต้นหญ้าและดอกไม้นานาชนิดส่งกลิ่นหอมเตะจมูก

ใจกลางของหุบเขา ถึงขั้นมีการขุดสระน้ำที่มีขนาดความกว้างเกือบหนึ่งไร่

ด้านในเป็นดอกบัววิญญาณทั้งบ่อ ตอนนี้ดอกกำลังบาน ส่งกลิ่นหอมที่สดชื่นออกมา

“นั่นดอกบัวขาวบริสุทธิ์ เป็นวัตถุดิบสมุนไพรล้ำค่าที่สามารถนำมาใช้หลอม ‘แก่นพลังทองบุกเบิก’ ”

มองดูดอกบัวขาวในสระ กุ้ยกงกงอดไม่ได้ที่จะอุทาน

ดอกบัวขาวบริสุทธิ์เป็นโอสถวิญญาณที่ล้ำค่ามาก เป็นที่นิยมระดับกลางในโลกบำเพ็ญเซียน

ถึงเป็นดอกบัวขาวบริสุทธิ์ระดับหนึ่งทั่วไปที่สุดก็สามารถขายออกไปในราคาสูงถึงศิลาวิญญาณพันก้อน

และดอกบัวขาวบริสุทธิ์ทั้งสระนี้ มองแค่แวบเดียวก็นับได้ถึงหนึ่งร้อยดอกขึ้นไป

ในบรรดาดอกบัวทั้งหมด เสิ่นเทียนสังเกตเห็นมีดอกบัวขาวบริสุทธิ์ระดับสามหลายดอก

มูลค่าของดอกบัวขาวบริสุทธิ์ระดับสาม อย่างน้อยก็อยู่ที่ศิลาวิญญาณหนึ่งแสนก้อน

เฉพาะมูลค่าของดอกบัวขาวบริสุทธิ์บ่อนี้ก็ไม่สามารถประเมินได้แล้ว

ขณะมองดูดอกบัวขาวบริสุทธิ์ที่เต็มบ่อ เสี่ยวหลิงเซียนอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากของตนเอง

ดอกบัวขาวบริสุทธิ์มากมายเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระดับสองและสาม

ถ้าหากขายออกไปทั้งหมด จะได้เงินมามากเพียงใด!

นี่เป็นความมั่งคั่งที่เสี่ยวหลิงเซียนไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ

นึกถึงตรงนี้ เสี่ยวหลิงเซียนเหลือบมองเสิ่นเทียนด้วยความกังวลแวบหนึ่ง

ความมั่นคั่งก้อนโตเช่นนี้ถูกตนเองเห็น เขาคงจะไม่ฆ่าคนปิดปากหรอกกระมัง!

สำหรับผู้บำเพ็ญเซียน ทรัพยากรสำหรับการบำเพ็ญสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

สถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าและดอกไม้ล้ำค่าบวกกับดอกบัวขาวทั้งสระแห่งนี้ อย่างน้อยก็มีมูลค่าสูงถึงศิลาวิญญาณหนึ่งล้านก้อน

ความมั่งคั่งมหาศาลเช่นนี้อยู่ต่อหน้า มีผู้คนมากมายถึงขั้นสามารถทำร้ายพ่อแม่และเพื่อนพี่น้อง

เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะยากจน และล้มลุกคลุกคลานอยู่ในสวนหมื่นวิญญาณที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันมานานหลายปี

เสี่ยวหลิงเซียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์ที่ดินแดนบำเพ็ญเซียนที่สกปรกโสมมมานานแล้ว

หากเปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญเซียนส่วนใหญ่ ได้เจอโชคลิขิตอันประเสริฐเช่นนี้

มีความเป็นไปได้ที่จะฆ่าทุกคนที่รู้เรื่องเพื่อปกปิดความลับ!

หมอนี่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจเช่นนี้ได้หรือไม่

ชั่วขณะนั้น เสี่ยวหลิงเซียนเริ่มเกิดความกังวล

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+