บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ฉินอวิ๋นตี๋รอบคอบเช่นนี้ เสิ่นเทียนชื่นชมมาก

แบบนี้สิถึงจะถูก!

เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญ ออกไปฝึกฝนก็ควรจะมีมาตรฐานการฝึกฝน

ไม่เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน อาวุธ ปืนหรือระเบิดไปมากพอ ถ้าเกิดเจออันตรายล่ะจะทำอย่างไร

เสิ่นเทียนใช้สายตาประมาณจำนวนของคร่าวๆ ด้วยความพอใจ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องเตรียมมาเต็มที่มาก แต่ของพวกนี้ไว้กับศิษย์น้องดีกว่า ไฉนจะต้องเอามาหมดด้วย! มันยุ่งยากน่ะ”

ฉินอวิ๋นตี๋ส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์พี่ท่านเข้าใจผิดแล้ว ยันต์อัสนีระเบิดอัสนีพวกนี้เอามาให้พวกท่าน”

เขาพูดพลางหยิบปืนสั้นสีดำอีกสองกระบอกส่งให้กุ้ยกงกงกับฉินเกา

“ทั้งสองท่าน นี่ก็คือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหมือนกัน แม้อานุภาพจะสู้ปืนปทุมฆาตเทพไม่ได้ แต่กระสุนเทพทะลวงปราการในนั้นก็ฉีกเขตแดนเวทของแก่นพลังทองธรรมดาได้ ทำอันตรายผู้จริงแท้แก่นพลังทองธรรมดาได้ แต่หากถือเอาไว้ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ มันก็น่าจะช่วยทั้งสองท่านได้อย่างแน่นอน”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ศิษย์น้องเจ้าเอาอาวุธให้พวกเขา แล้วเจ้าล่ะจะทำอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนพลางรู้สึกถึงความห่วงใยจากใจจริงของศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์

เขายิ้มหยีตากล่าวว่า “ช่วยไม่ได้ ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดพร้อมกับลูบสร้อยบัวทองคำที่แขวนคออยู่ สร้อยเส้นนั้นพลันเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า แสงหม่นสีดำพุ่งออกมาจากตรงกลาง

เมื่อทุกคนเพ่งมองก็พบว่าแสงหม่นสีดำเหล่านั้นคือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยาวสามฉื่อหลายกระบอก ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหล่านี้ลอยอยู่ข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ วางเป็นวงกลมแน่นขนัด มีทั้งหมดสามสิบหกกระบอก

ฉินอวิ๋นตี๋พูดด้วยความจนปัญญา “เพราะเร่งด่วนเกินไป จำนวนแก่นเหล็กทมิฬเลยมีจำกัด ตอนนี้ท่านแม่หลอมได้แค่นี้ เดิมทีเจ้าพวกนี้เตรียมจะใช้ในการทดสอบฝ่ายเซียนในอีกครึ่งเดือนให้หลัง รวมเก้าสิบเก้ากระบอกให้ลูกศิษย์ยืมใช้ป้องกันตัว แต่ในเมื่อศิษย์พี่จะออกไปฝึกฝน เอามาใช้ก่อนก็ไม่เป็นไร ท่านแม่ยังหลอมอีกได้”

ครั้นเห็นฉินอวิ๋นตี๋อธิบายอย่างจริงจังแล้ว เสิ่นเทียนยังอดยกนิ้วโป้งให้ในใจมิได้

นี่เรียกว่า ‘ใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น’ หรือ หยิบปืนออกมาวางแบบง่ายๆ หลายสิบกระบอกหรือ

แค่ปืนสามสิบหกกระบอกของเจ้านี่กราดยิงรอบเดียว ระดับแก่นพลังทองคงถูกยิงเป็นตะแกรงกระมัง!

แม้การขี่กระบี่พร้อมกับควบคุมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกจะต้องมีผลเรื่องการเล็งแน่นอน แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ลืมว่าเจ้าเด็กฉินอวิ๋นตี๋นี่เคยใช้ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบสังหารคนระดับแก่นพลังทองตายมาแล้ว

แม้แต่ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบยังคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ การควบคุมอัสนีหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกคงไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนอดยืนไว้อาลัยให้ศิษย์สายตรงระดับแก่นพลังทองคนอื่นในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มิได้

เจ้าว่าพวกเจ้าลำบากฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก กว่าจะทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองไม่ใช่ง่ายๆ แล้วนี่มีประโยชน์อะไร!

ถ้าปะทะกันจริงๆ เจ้าหนูฉินอวิ๋นตี๋รัวยิงปังๆ ชุดหนึ่งก็ฆ่าเจ้าได้ในพริบตาแล้ว!

ทว่าต่อให้ฉินอวิ๋นตี๋เตรียมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอก ก็ยังสร้างอำนาจคุกคามให้เสิ่นเทียนไม่ได้มากนัก เพราะเสิ่นเทียนมีสมบัติวิญญาณโล่เต่าดำกับวิชาเกราะเต่าดำปกป้องอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสมบัติวิญญาณระดับสูงเช่นหมวกเกราะเต่าดำ

หากปะทะกันจริงๆ อย่างมากเสิ่นเทียนก็ต้องทำหน้าหนาสวมหมวกเกราะเต่าดำ เดินบีบเข้าไปหาฉินอวิ๋นตี๋

ถึงตอนนั้นสายแครี่อย่างฉินอวิ๋นตี๋โดนไฟต์เตอร์ของเต็มเข้าประชิดตัว ก็จะโดนค้อนม่วงทองซัดปลิวไปอย่างแน่นอน

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็รู้สึกว่าเท่าเทียมกันขึ้นมาไม่น้อย จึงพูดกับฉินอวิ๋นตี๋ด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว ศิษย์น้องให้ความสำคัญกับการออกไปฝึกฝนเช่นนี้ ศิษย์พี่ปลื้มใจนัก แต่ศิษย์พี่ยังมีอีกอย่างที่ต้องเตือนศิษย์น้องอวิ๋นตี๋”

ฉินอวิ๋นตี๋ตาเป็นประกาย ‘ดังนั้นศิษย์พี่จะสอนความรู้ใหม่กับข้าหรือ’

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินอวิ๋นตี๋ก็ขอความรู้ด้วยใบหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ อวิ๋นตี๋กำลังฟังอยู่”

เสิ่นเทียนพยักหน้า จากนั้นชี้ปืนพิฆาตอสูรหลายกระบอกข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ด้วยใบหน้าจนปัญญา “ขยับปากปืนออกไป ศิษย์น้อง ห้ามเล็งปากปืนไปทางพวกเดียวกันเด็ดขาด เพราะหากปืนลั่น เจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

ก็ได้!

แม้ตอนแรกคิดว่าศิษย์พี่จะอธิบายความรู้เรื่องมหามรรคหยินหยางทวนวารีลึกซึ้งกว่าเดิม จึงตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่ก็พูดถูก ถึงอย่างไรปืนหยินหยางพิฆาตอสูรนี่ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

ถ้าเกิดปืนลั่นจริงๆ โดนลูกหลงกระทั่งฆ่าศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมฝ่ายเดียวกันละก็ ฉินอวิ๋นตี๋คงจะรู้สึกสำนึกเสียใจจริงๆ หากทำร้ายศิษย์พี่เพราะเหตุนี้

ซี้ด ฉินอวิ๋นตี๋รู้สึกว่าตนจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องนี้!

“ขอบคุณที่ศิษย์พี่ชี้แนะ อวิ๋นตี๋เข้าใจแล้ว!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ข้ารู้แล้วว่าปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยังขาดอะไร! ข้าจะให้ท่านแม่เสริมผนึกพิเศษบนปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ต้องปลดผนึกก่อนถึงจะใช้งานได้

แบบนี้ ไม่ใช่แค่เลี่ยงโดนลูกหลงสหาย ต่อให้อาวุธโดนศัตรูชิงเอาไปก็ยังใช้งานไม่ได้ด้วย ศิษย์พี่สมกับเป็นศิษย์พี่จริงๆ ตอนที่เรากำลังคิดว่าจะเพิ่มศักยภาพอย่างไร ท่านก็คิดถึงความปลอดภัยก่อนแล้ว”

พอได้ฟังคำพูดชื่นชมจากใจจริงของฉินอวิ๋นตี๋และสัมผัสได้ถึงแววตาเลื่อมใสของเขา เสิ่นเทียนถึงกับยอมใจ

เอาเถอะ เจ้าจะพูดอะไรก็เอา!

ถึงอย่างไรเจ้าเด็กนี่ก็เป็นพวกกลัวสงครามหากมีอาวุธไม่พร้อม นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

มีคลังดินระเบิดเดินอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกปลอดภัยดี

ขอแค่เจ้าเด็กนี่อย่าเผลอระเบิดตัวเองก็พอ

…..

เมื่อได้ผู้เตรียมมหาโชคสามคนแล้ว ลำดับต่อไปคือไปหาคนสุดท้าย

จางอวิ๋นซีที่มีดวงชะตาสีทองสว่างจ้า หรือก็คือคนที่สำคัญที่สุดในกลุ่มออกฝึกฝน

ในมุมมองเสิ่นเทียน ตนแบกรับแรงกดดันของมหาโชคลิขิตไม่ไหว มีโอกาสแปดส่วนที่ต้องดูว่าท่านนี้จะทำผลงานได้ดีหรือไม่

ถ้าตนได้มหาโชคลิขิตของฟางฉางมา จากนั้นดวงชะตารับวิกฤติที่เกิดขึ้นไม่ไหว เช่นนั้นก็ต้องโยนไปให้จางอวิ๋นซี

กำลังรบและดวงชะตาของจางอวิ๋นซีไม่แม้ไปกว่าฟางฉาง อีกทั้งยังมีเสิ่นเทียนอยู่ข้างกาย ไม่มีเหตุผลอะไรจะคุมไม่อยู่เลย!

มีปัญหาอย่างเดียวคือนางเผด็จการเกินไป มาอยู่ข้างๆ ก็อาจจะไม่ฟังกัน

ช่างเถอะ ไปตามที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วกัน!

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พากุ้ยกงกง ฉินเกาและฉินอวิ๋นตี๋สามคนมุ่งหน้าไปยังยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ช่วงที่สามคนเพิ่งมาถึงใต้ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ วินาทีต่อมามีร่างสีแดงอมทองพุ่งออกมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ ลอยออกไปไกลร้อยจั้งราวกับกระสุนปืน

“ดี! ศิษย์น้องหญิงปิดด่านบำเพ็ญทะลวงแก่นพลังทองแปดรอบแล้ว กำลังรบแกร่งกว่าเมื่อก่อนจริงๆ! อานุภาพของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไร้ขีดจำกัด ศิษย์พี่ยอมแพ้แล้ว รอทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้าก่อนค่อยมาฝึกกันใหม่!”

พอเอ่ยจบ ร่างสีแดงอมทองก็พุ่งไกลออกไปโดยไม่หันมามองอีก

เสิ่นเทียนเห็นรางๆ ว่าจางอวิ๋นซียืนอย่างโอหังอยู่บนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ใต้เท้านางเหยียบผู้ชายชุดคลุมดำจมูกเขียวใบหน้าปูดบวมอยู่คน มองเห็นใบหน้าไม่ชัด

จางอวิ๋นซีเอามือรูดแขนเสื้อ ขณะกำลังจะตามไปประชันฝีมือกับฟางฉางต่อนั้น พลันตาเป็นประกาย เห็นเสิ่นเทียนแล้ว

ฟิ้ว!

แสงสีทองสว่างวาววับ ร่างจางอวิ๋นซีมาโผล่ตรงหน้าพวกเสิ่นเทียนทันที

“ศิษย์น้องเสิ่นเทียน เจ้ามาหาข้าที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์มีเรื่องใดรึ”

ใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอยและใฝ่ฝัน

เสิ่นเทียนมองจางอวิ๋นซีที่ยังไม่ได้รูดแขนเสื้อกลับไปพลางอดกลืนน้ำลายลงคอมิได้

เขาอยากพูดว่า ‘ไม่เป็นไร แค่ผ่านทางมาเท่านั้น สวัสดีศิษย์พี่หญิง ขอตัวล่ะศิษย์พี่หญิง’

ทว่าเสิ่นเทียนยังไม่ทันพูด ฉินอวิ๋นตี๋ข้างๆ ก็พูดออกไปแล้ว

“ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่เสิ่นเทียนอยากลงเขาไปฝึกฝน ครั้งนี้ตั้งใจมาเชิญท่านไปร่วมเดินทางไปด้วย”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ฉินอวิ๋นตี๋รอบคอบเช่นนี้ เสิ่นเทียนชื่นชมมาก

แบบนี้สิถึงจะถูก!

เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญ ออกไปฝึกฝนก็ควรจะมีมาตรฐานการฝึกฝน

ไม่เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน อาวุธ ปืนหรือระเบิดไปมากพอ ถ้าเกิดเจออันตรายล่ะจะทำอย่างไร

เสิ่นเทียนใช้สายตาประมาณจำนวนของคร่าวๆ ด้วยความพอใจ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องเตรียมมาเต็มที่มาก แต่ของพวกนี้ไว้กับศิษย์น้องดีกว่า ไฉนจะต้องเอามาหมดด้วย! มันยุ่งยากน่ะ”

ฉินอวิ๋นตี๋ส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์พี่ท่านเข้าใจผิดแล้ว ยันต์อัสนีระเบิดอัสนีพวกนี้เอามาให้พวกท่าน”

เขาพูดพลางหยิบปืนสั้นสีดำอีกสองกระบอกส่งให้กุ้ยกงกงกับฉินเกา

“ทั้งสองท่าน นี่ก็คือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหมือนกัน แม้อานุภาพจะสู้ปืนปทุมฆาตเทพไม่ได้ แต่กระสุนเทพทะลวงปราการในนั้นก็ฉีกเขตแดนเวทของแก่นพลังทองธรรมดาได้ ทำอันตรายผู้จริงแท้แก่นพลังทองธรรมดาได้ แต่หากถือเอาไว้ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ มันก็น่าจะช่วยทั้งสองท่านได้อย่างแน่นอน”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ศิษย์น้องเจ้าเอาอาวุธให้พวกเขา แล้วเจ้าล่ะจะทำอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนพลางรู้สึกถึงความห่วงใยจากใจจริงของศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์

เขายิ้มหยีตากล่าวว่า “ช่วยไม่ได้ ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดพร้อมกับลูบสร้อยบัวทองคำที่แขวนคออยู่ สร้อยเส้นนั้นพลันเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า แสงหม่นสีดำพุ่งออกมาจากตรงกลาง

เมื่อทุกคนเพ่งมองก็พบว่าแสงหม่นสีดำเหล่านั้นคือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยาวสามฉื่อหลายกระบอก ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหล่านี้ลอยอยู่ข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ วางเป็นวงกลมแน่นขนัด มีทั้งหมดสามสิบหกกระบอก

ฉินอวิ๋นตี๋พูดด้วยความจนปัญญา “เพราะเร่งด่วนเกินไป จำนวนแก่นเหล็กทมิฬเลยมีจำกัด ตอนนี้ท่านแม่หลอมได้แค่นี้ เดิมทีเจ้าพวกนี้เตรียมจะใช้ในการทดสอบฝ่ายเซียนในอีกครึ่งเดือนให้หลัง รวมเก้าสิบเก้ากระบอกให้ลูกศิษย์ยืมใช้ป้องกันตัว แต่ในเมื่อศิษย์พี่จะออกไปฝึกฝน เอามาใช้ก่อนก็ไม่เป็นไร ท่านแม่ยังหลอมอีกได้”

ครั้นเห็นฉินอวิ๋นตี๋อธิบายอย่างจริงจังแล้ว เสิ่นเทียนยังอดยกนิ้วโป้งให้ในใจมิได้

นี่เรียกว่า ‘ใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น’ หรือ หยิบปืนออกมาวางแบบง่ายๆ หลายสิบกระบอกหรือ

แค่ปืนสามสิบหกกระบอกของเจ้านี่กราดยิงรอบเดียว ระดับแก่นพลังทองคงถูกยิงเป็นตะแกรงกระมัง!

แม้การขี่กระบี่พร้อมกับควบคุมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกจะต้องมีผลเรื่องการเล็งแน่นอน แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ลืมว่าเจ้าเด็กฉินอวิ๋นตี๋นี่เคยใช้ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบสังหารคนระดับแก่นพลังทองตายมาแล้ว

แม้แต่ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบยังคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ การควบคุมอัสนีหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกคงไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนอดยืนไว้อาลัยให้ศิษย์สายตรงระดับแก่นพลังทองคนอื่นในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มิได้

เจ้าว่าพวกเจ้าลำบากฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก กว่าจะทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองไม่ใช่ง่ายๆ แล้วนี่มีประโยชน์อะไร!

ถ้าปะทะกันจริงๆ เจ้าหนูฉินอวิ๋นตี๋รัวยิงปังๆ ชุดหนึ่งก็ฆ่าเจ้าได้ในพริบตาแล้ว!

ทว่าต่อให้ฉินอวิ๋นตี๋เตรียมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอก ก็ยังสร้างอำนาจคุกคามให้เสิ่นเทียนไม่ได้มากนัก เพราะเสิ่นเทียนมีสมบัติวิญญาณโล่เต่าดำกับวิชาเกราะเต่าดำปกป้องอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสมบัติวิญญาณระดับสูงเช่นหมวกเกราะเต่าดำ

หากปะทะกันจริงๆ อย่างมากเสิ่นเทียนก็ต้องทำหน้าหนาสวมหมวกเกราะเต่าดำ เดินบีบเข้าไปหาฉินอวิ๋นตี๋

ถึงตอนนั้นสายแครี่อย่างฉินอวิ๋นตี๋โดนไฟต์เตอร์ของเต็มเข้าประชิดตัว ก็จะโดนค้อนม่วงทองซัดปลิวไปอย่างแน่นอน

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็รู้สึกว่าเท่าเทียมกันขึ้นมาไม่น้อย จึงพูดกับฉินอวิ๋นตี๋ด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว ศิษย์น้องให้ความสำคัญกับการออกไปฝึกฝนเช่นนี้ ศิษย์พี่ปลื้มใจนัก แต่ศิษย์พี่ยังมีอีกอย่างที่ต้องเตือนศิษย์น้องอวิ๋นตี๋”

ฉินอวิ๋นตี๋ตาเป็นประกาย ‘ดังนั้นศิษย์พี่จะสอนความรู้ใหม่กับข้าหรือ’

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินอวิ๋นตี๋ก็ขอความรู้ด้วยใบหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ อวิ๋นตี๋กำลังฟังอยู่”

เสิ่นเทียนพยักหน้า จากนั้นชี้ปืนพิฆาตอสูรหลายกระบอกข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ด้วยใบหน้าจนปัญญา “ขยับปากปืนออกไป ศิษย์น้อง ห้ามเล็งปากปืนไปทางพวกเดียวกันเด็ดขาด เพราะหากปืนลั่น เจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

ก็ได้!

แม้ตอนแรกคิดว่าศิษย์พี่จะอธิบายความรู้เรื่องมหามรรคหยินหยางทวนวารีลึกซึ้งกว่าเดิม จึงตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่ก็พูดถูก ถึงอย่างไรปืนหยินหยางพิฆาตอสูรนี่ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

ถ้าเกิดปืนลั่นจริงๆ โดนลูกหลงกระทั่งฆ่าศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมฝ่ายเดียวกันละก็ ฉินอวิ๋นตี๋คงจะรู้สึกสำนึกเสียใจจริงๆ หากทำร้ายศิษย์พี่เพราะเหตุนี้

ซี้ด ฉินอวิ๋นตี๋รู้สึกว่าตนจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องนี้!

“ขอบคุณที่ศิษย์พี่ชี้แนะ อวิ๋นตี๋เข้าใจแล้ว!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ข้ารู้แล้วว่าปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยังขาดอะไร! ข้าจะให้ท่านแม่เสริมผนึกพิเศษบนปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ต้องปลดผนึกก่อนถึงจะใช้งานได้

แบบนี้ ไม่ใช่แค่เลี่ยงโดนลูกหลงสหาย ต่อให้อาวุธโดนศัตรูชิงเอาไปก็ยังใช้งานไม่ได้ด้วย ศิษย์พี่สมกับเป็นศิษย์พี่จริงๆ ตอนที่เรากำลังคิดว่าจะเพิ่มศักยภาพอย่างไร ท่านก็คิดถึงความปลอดภัยก่อนแล้ว”

พอได้ฟังคำพูดชื่นชมจากใจจริงของฉินอวิ๋นตี๋และสัมผัสได้ถึงแววตาเลื่อมใสของเขา เสิ่นเทียนถึงกับยอมใจ

เอาเถอะ เจ้าจะพูดอะไรก็เอา!

ถึงอย่างไรเจ้าเด็กนี่ก็เป็นพวกกลัวสงครามหากมีอาวุธไม่พร้อม นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

มีคลังดินระเบิดเดินอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกปลอดภัยดี

ขอแค่เจ้าเด็กนี่อย่าเผลอระเบิดตัวเองก็พอ

…..

เมื่อได้ผู้เตรียมมหาโชคสามคนแล้ว ลำดับต่อไปคือไปหาคนสุดท้าย

จางอวิ๋นซีที่มีดวงชะตาสีทองสว่างจ้า หรือก็คือคนที่สำคัญที่สุดในกลุ่มออกฝึกฝน

ในมุมมองเสิ่นเทียน ตนแบกรับแรงกดดันของมหาโชคลิขิตไม่ไหว มีโอกาสแปดส่วนที่ต้องดูว่าท่านนี้จะทำผลงานได้ดีหรือไม่

ถ้าตนได้มหาโชคลิขิตของฟางฉางมา จากนั้นดวงชะตารับวิกฤติที่เกิดขึ้นไม่ไหว เช่นนั้นก็ต้องโยนไปให้จางอวิ๋นซี

กำลังรบและดวงชะตาของจางอวิ๋นซีไม่แม้ไปกว่าฟางฉาง อีกทั้งยังมีเสิ่นเทียนอยู่ข้างกาย ไม่มีเหตุผลอะไรจะคุมไม่อยู่เลย!

มีปัญหาอย่างเดียวคือนางเผด็จการเกินไป มาอยู่ข้างๆ ก็อาจจะไม่ฟังกัน

ช่างเถอะ ไปตามที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วกัน!

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พากุ้ยกงกง ฉินเกาและฉินอวิ๋นตี๋สามคนมุ่งหน้าไปยังยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ช่วงที่สามคนเพิ่งมาถึงใต้ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ วินาทีต่อมามีร่างสีแดงอมทองพุ่งออกมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ ลอยออกไปไกลร้อยจั้งราวกับกระสุนปืน

“ดี! ศิษย์น้องหญิงปิดด่านบำเพ็ญทะลวงแก่นพลังทองแปดรอบแล้ว กำลังรบแกร่งกว่าเมื่อก่อนจริงๆ! อานุภาพของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไร้ขีดจำกัด ศิษย์พี่ยอมแพ้แล้ว รอทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้าก่อนค่อยมาฝึกกันใหม่!”

พอเอ่ยจบ ร่างสีแดงอมทองก็พุ่งไกลออกไปโดยไม่หันมามองอีก

เสิ่นเทียนเห็นรางๆ ว่าจางอวิ๋นซียืนอย่างโอหังอยู่บนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ใต้เท้านางเหยียบผู้ชายชุดคลุมดำจมูกเขียวใบหน้าปูดบวมอยู่คน มองเห็นใบหน้าไม่ชัด

จางอวิ๋นซีเอามือรูดแขนเสื้อ ขณะกำลังจะตามไปประชันฝีมือกับฟางฉางต่อนั้น พลันตาเป็นประกาย เห็นเสิ่นเทียนแล้ว

ฟิ้ว!

แสงสีทองสว่างวาววับ ร่างจางอวิ๋นซีมาโผล่ตรงหน้าพวกเสิ่นเทียนทันที

“ศิษย์น้องเสิ่นเทียน เจ้ามาหาข้าที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์มีเรื่องใดรึ”

ใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอยและใฝ่ฝัน

เสิ่นเทียนมองจางอวิ๋นซีที่ยังไม่ได้รูดแขนเสื้อกลับไปพลางอดกลืนน้ำลายลงคอมิได้

เขาอยากพูดว่า ‘ไม่เป็นไร แค่ผ่านทางมาเท่านั้น สวัสดีศิษย์พี่หญิง ขอตัวล่ะศิษย์พี่หญิง’

ทว่าเสิ่นเทียนยังไม่ทันพูด ฉินอวิ๋นตี๋ข้างๆ ก็พูดออกไปแล้ว

“ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่เสิ่นเทียนอยากลงเขาไปฝึกฝน ครั้งนี้ตั้งใจมาเชิญท่านไปร่วมเดินทางไปด้วย”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ฉินอวิ๋นตี๋รอบคอบเช่นนี้ เสิ่นเทียนชื่นชมมาก

แบบนี้สิถึงจะถูก!

เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญ ออกไปฝึกฝนก็ควรจะมีมาตรฐานการฝึกฝน

ไม่เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน อาวุธ ปืนหรือระเบิดไปมากพอ ถ้าเกิดเจออันตรายล่ะจะทำอย่างไร

เสิ่นเทียนใช้สายตาประมาณจำนวนของคร่าวๆ ด้วยความพอใจ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องเตรียมมาเต็มที่มาก แต่ของพวกนี้ไว้กับศิษย์น้องดีกว่า ไฉนจะต้องเอามาหมดด้วย! มันยุ่งยากน่ะ”

ฉินอวิ๋นตี๋ส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์พี่ท่านเข้าใจผิดแล้ว ยันต์อัสนีระเบิดอัสนีพวกนี้เอามาให้พวกท่าน”

เขาพูดพลางหยิบปืนสั้นสีดำอีกสองกระบอกส่งให้กุ้ยกงกงกับฉินเกา

“ทั้งสองท่าน นี่ก็คือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหมือนกัน แม้อานุภาพจะสู้ปืนปทุมฆาตเทพไม่ได้ แต่กระสุนเทพทะลวงปราการในนั้นก็ฉีกเขตแดนเวทของแก่นพลังทองธรรมดาได้ ทำอันตรายผู้จริงแท้แก่นพลังทองธรรมดาได้ แต่หากถือเอาไว้ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ มันก็น่าจะช่วยทั้งสองท่านได้อย่างแน่นอน”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ศิษย์น้องเจ้าเอาอาวุธให้พวกเขา แล้วเจ้าล่ะจะทำอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนพลางรู้สึกถึงความห่วงใยจากใจจริงของศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์

เขายิ้มหยีตากล่าวว่า “ช่วยไม่ได้ ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดพร้อมกับลูบสร้อยบัวทองคำที่แขวนคออยู่ สร้อยเส้นนั้นพลันเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า แสงหม่นสีดำพุ่งออกมาจากตรงกลาง

เมื่อทุกคนเพ่งมองก็พบว่าแสงหม่นสีดำเหล่านั้นคือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยาวสามฉื่อหลายกระบอก ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหล่านี้ลอยอยู่ข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ วางเป็นวงกลมแน่นขนัด มีทั้งหมดสามสิบหกกระบอก

ฉินอวิ๋นตี๋พูดด้วยความจนปัญญา “เพราะเร่งด่วนเกินไป จำนวนแก่นเหล็กทมิฬเลยมีจำกัด ตอนนี้ท่านแม่หลอมได้แค่นี้ เดิมทีเจ้าพวกนี้เตรียมจะใช้ในการทดสอบฝ่ายเซียนในอีกครึ่งเดือนให้หลัง รวมเก้าสิบเก้ากระบอกให้ลูกศิษย์ยืมใช้ป้องกันตัว แต่ในเมื่อศิษย์พี่จะออกไปฝึกฝน เอามาใช้ก่อนก็ไม่เป็นไร ท่านแม่ยังหลอมอีกได้”

ครั้นเห็นฉินอวิ๋นตี๋อธิบายอย่างจริงจังแล้ว เสิ่นเทียนยังอดยกนิ้วโป้งให้ในใจมิได้

นี่เรียกว่า ‘ใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น’ หรือ หยิบปืนออกมาวางแบบง่ายๆ หลายสิบกระบอกหรือ

แค่ปืนสามสิบหกกระบอกของเจ้านี่กราดยิงรอบเดียว ระดับแก่นพลังทองคงถูกยิงเป็นตะแกรงกระมัง!

แม้การขี่กระบี่พร้อมกับควบคุมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกจะต้องมีผลเรื่องการเล็งแน่นอน แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ลืมว่าเจ้าเด็กฉินอวิ๋นตี๋นี่เคยใช้ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบสังหารคนระดับแก่นพลังทองตายมาแล้ว

แม้แต่ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบยังคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ การควบคุมอัสนีหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกคงไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนอดยืนไว้อาลัยให้ศิษย์สายตรงระดับแก่นพลังทองคนอื่นในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มิได้

เจ้าว่าพวกเจ้าลำบากฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก กว่าจะทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองไม่ใช่ง่ายๆ แล้วนี่มีประโยชน์อะไร!

ถ้าปะทะกันจริงๆ เจ้าหนูฉินอวิ๋นตี๋รัวยิงปังๆ ชุดหนึ่งก็ฆ่าเจ้าได้ในพริบตาแล้ว!

ทว่าต่อให้ฉินอวิ๋นตี๋เตรียมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอก ก็ยังสร้างอำนาจคุกคามให้เสิ่นเทียนไม่ได้มากนัก เพราะเสิ่นเทียนมีสมบัติวิญญาณโล่เต่าดำกับวิชาเกราะเต่าดำปกป้องอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสมบัติวิญญาณระดับสูงเช่นหมวกเกราะเต่าดำ

หากปะทะกันจริงๆ อย่างมากเสิ่นเทียนก็ต้องทำหน้าหนาสวมหมวกเกราะเต่าดำ เดินบีบเข้าไปหาฉินอวิ๋นตี๋

ถึงตอนนั้นสายแครี่อย่างฉินอวิ๋นตี๋โดนไฟต์เตอร์ของเต็มเข้าประชิดตัว ก็จะโดนค้อนม่วงทองซัดปลิวไปอย่างแน่นอน

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็รู้สึกว่าเท่าเทียมกันขึ้นมาไม่น้อย จึงพูดกับฉินอวิ๋นตี๋ด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว ศิษย์น้องให้ความสำคัญกับการออกไปฝึกฝนเช่นนี้ ศิษย์พี่ปลื้มใจนัก แต่ศิษย์พี่ยังมีอีกอย่างที่ต้องเตือนศิษย์น้องอวิ๋นตี๋”

ฉินอวิ๋นตี๋ตาเป็นประกาย ‘ดังนั้นศิษย์พี่จะสอนความรู้ใหม่กับข้าหรือ’

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินอวิ๋นตี๋ก็ขอความรู้ด้วยใบหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ อวิ๋นตี๋กำลังฟังอยู่”

เสิ่นเทียนพยักหน้า จากนั้นชี้ปืนพิฆาตอสูรหลายกระบอกข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ด้วยใบหน้าจนปัญญา “ขยับปากปืนออกไป ศิษย์น้อง ห้ามเล็งปากปืนไปทางพวกเดียวกันเด็ดขาด เพราะหากปืนลั่น เจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

ก็ได้!

แม้ตอนแรกคิดว่าศิษย์พี่จะอธิบายความรู้เรื่องมหามรรคหยินหยางทวนวารีลึกซึ้งกว่าเดิม จึงตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่ก็พูดถูก ถึงอย่างไรปืนหยินหยางพิฆาตอสูรนี่ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

ถ้าเกิดปืนลั่นจริงๆ โดนลูกหลงกระทั่งฆ่าศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมฝ่ายเดียวกันละก็ ฉินอวิ๋นตี๋คงจะรู้สึกสำนึกเสียใจจริงๆ หากทำร้ายศิษย์พี่เพราะเหตุนี้

ซี้ด ฉินอวิ๋นตี๋รู้สึกว่าตนจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องนี้!

“ขอบคุณที่ศิษย์พี่ชี้แนะ อวิ๋นตี๋เข้าใจแล้ว!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ข้ารู้แล้วว่าปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยังขาดอะไร! ข้าจะให้ท่านแม่เสริมผนึกพิเศษบนปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ต้องปลดผนึกก่อนถึงจะใช้งานได้

แบบนี้ ไม่ใช่แค่เลี่ยงโดนลูกหลงสหาย ต่อให้อาวุธโดนศัตรูชิงเอาไปก็ยังใช้งานไม่ได้ด้วย ศิษย์พี่สมกับเป็นศิษย์พี่จริงๆ ตอนที่เรากำลังคิดว่าจะเพิ่มศักยภาพอย่างไร ท่านก็คิดถึงความปลอดภัยก่อนแล้ว”

พอได้ฟังคำพูดชื่นชมจากใจจริงของฉินอวิ๋นตี๋และสัมผัสได้ถึงแววตาเลื่อมใสของเขา เสิ่นเทียนถึงกับยอมใจ

เอาเถอะ เจ้าจะพูดอะไรก็เอา!

ถึงอย่างไรเจ้าเด็กนี่ก็เป็นพวกกลัวสงครามหากมีอาวุธไม่พร้อม นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

มีคลังดินระเบิดเดินอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกปลอดภัยดี

ขอแค่เจ้าเด็กนี่อย่าเผลอระเบิดตัวเองก็พอ

…..

เมื่อได้ผู้เตรียมมหาโชคสามคนแล้ว ลำดับต่อไปคือไปหาคนสุดท้าย

จางอวิ๋นซีที่มีดวงชะตาสีทองสว่างจ้า หรือก็คือคนที่สำคัญที่สุดในกลุ่มออกฝึกฝน

ในมุมมองเสิ่นเทียน ตนแบกรับแรงกดดันของมหาโชคลิขิตไม่ไหว มีโอกาสแปดส่วนที่ต้องดูว่าท่านนี้จะทำผลงานได้ดีหรือไม่

ถ้าตนได้มหาโชคลิขิตของฟางฉางมา จากนั้นดวงชะตารับวิกฤติที่เกิดขึ้นไม่ไหว เช่นนั้นก็ต้องโยนไปให้จางอวิ๋นซี

กำลังรบและดวงชะตาของจางอวิ๋นซีไม่แม้ไปกว่าฟางฉาง อีกทั้งยังมีเสิ่นเทียนอยู่ข้างกาย ไม่มีเหตุผลอะไรจะคุมไม่อยู่เลย!

มีปัญหาอย่างเดียวคือนางเผด็จการเกินไป มาอยู่ข้างๆ ก็อาจจะไม่ฟังกัน

ช่างเถอะ ไปตามที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วกัน!

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พากุ้ยกงกง ฉินเกาและฉินอวิ๋นตี๋สามคนมุ่งหน้าไปยังยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ช่วงที่สามคนเพิ่งมาถึงใต้ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ วินาทีต่อมามีร่างสีแดงอมทองพุ่งออกมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ ลอยออกไปไกลร้อยจั้งราวกับกระสุนปืน

“ดี! ศิษย์น้องหญิงปิดด่านบำเพ็ญทะลวงแก่นพลังทองแปดรอบแล้ว กำลังรบแกร่งกว่าเมื่อก่อนจริงๆ! อานุภาพของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไร้ขีดจำกัด ศิษย์พี่ยอมแพ้แล้ว รอทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้าก่อนค่อยมาฝึกกันใหม่!”

พอเอ่ยจบ ร่างสีแดงอมทองก็พุ่งไกลออกไปโดยไม่หันมามองอีก

เสิ่นเทียนเห็นรางๆ ว่าจางอวิ๋นซียืนอย่างโอหังอยู่บนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ใต้เท้านางเหยียบผู้ชายชุดคลุมดำจมูกเขียวใบหน้าปูดบวมอยู่คน มองเห็นใบหน้าไม่ชัด

จางอวิ๋นซีเอามือรูดแขนเสื้อ ขณะกำลังจะตามไปประชันฝีมือกับฟางฉางต่อนั้น พลันตาเป็นประกาย เห็นเสิ่นเทียนแล้ว

ฟิ้ว!

แสงสีทองสว่างวาววับ ร่างจางอวิ๋นซีมาโผล่ตรงหน้าพวกเสิ่นเทียนทันที

“ศิษย์น้องเสิ่นเทียน เจ้ามาหาข้าที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์มีเรื่องใดรึ”

ใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอยและใฝ่ฝัน

เสิ่นเทียนมองจางอวิ๋นซีที่ยังไม่ได้รูดแขนเสื้อกลับไปพลางอดกลืนน้ำลายลงคอมิได้

เขาอยากพูดว่า ‘ไม่เป็นไร แค่ผ่านทางมาเท่านั้น สวัสดีศิษย์พี่หญิง ขอตัวล่ะศิษย์พี่หญิง’

ทว่าเสิ่นเทียนยังไม่ทันพูด ฉินอวิ๋นตี๋ข้างๆ ก็พูดออกไปแล้ว

“ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่เสิ่นเทียนอยากลงเขาไปฝึกฝน ครั้งนี้ตั้งใจมาเชิญท่านไปร่วมเดินทางไปด้วย”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 123 ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ฉินอวิ๋นตี๋รอบคอบเช่นนี้ เสิ่นเทียนชื่นชมมาก

แบบนี้สิถึงจะถูก!

เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญ ออกไปฝึกฝนก็ควรจะมีมาตรฐานการฝึกฝน

ไม่เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน อาวุธ ปืนหรือระเบิดไปมากพอ ถ้าเกิดเจออันตรายล่ะจะทำอย่างไร

เสิ่นเทียนใช้สายตาประมาณจำนวนของคร่าวๆ ด้วยความพอใจ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องเตรียมมาเต็มที่มาก แต่ของพวกนี้ไว้กับศิษย์น้องดีกว่า ไฉนจะต้องเอามาหมดด้วย! มันยุ่งยากน่ะ”

ฉินอวิ๋นตี๋ส่ายหน้ากล่าว “ศิษย์พี่ท่านเข้าใจผิดแล้ว ยันต์อัสนีระเบิดอัสนีพวกนี้เอามาให้พวกท่าน”

เขาพูดพลางหยิบปืนสั้นสีดำอีกสองกระบอกส่งให้กุ้ยกงกงกับฉินเกา

“ทั้งสองท่าน นี่ก็คือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหมือนกัน แม้อานุภาพจะสู้ปืนปทุมฆาตเทพไม่ได้ แต่กระสุนเทพทะลวงปราการในนั้นก็ฉีกเขตแดนเวทของแก่นพลังทองธรรมดาได้ ทำอันตรายผู้จริงแท้แก่นพลังทองธรรมดาได้ แต่หากถือเอาไว้ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ มันก็น่าจะช่วยทั้งสองท่านได้อย่างแน่นอน”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ศิษย์น้องเจ้าเอาอาวุธให้พวกเขา แล้วเจ้าล่ะจะทำอย่างไร”

ฉินอวิ๋นตี๋มองเสิ่นเทียนพลางรู้สึกถึงความห่วงใยจากใจจริงของศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์

เขายิ้มหยีตากล่าวว่า “ช่วยไม่ได้ ข้าใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดพร้อมกับลูบสร้อยบัวทองคำที่แขวนคออยู่ สร้อยเส้นนั้นพลันเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า แสงหม่นสีดำพุ่งออกมาจากตรงกลาง

เมื่อทุกคนเพ่งมองก็พบว่าแสงหม่นสีดำเหล่านั้นคือปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยาวสามฉื่อหลายกระบอก ปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเหล่านี้ลอยอยู่ข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ วางเป็นวงกลมแน่นขนัด มีทั้งหมดสามสิบหกกระบอก

ฉินอวิ๋นตี๋พูดด้วยความจนปัญญา “เพราะเร่งด่วนเกินไป จำนวนแก่นเหล็กทมิฬเลยมีจำกัด ตอนนี้ท่านแม่หลอมได้แค่นี้ เดิมทีเจ้าพวกนี้เตรียมจะใช้ในการทดสอบฝ่ายเซียนในอีกครึ่งเดือนให้หลัง รวมเก้าสิบเก้ากระบอกให้ลูกศิษย์ยืมใช้ป้องกันตัว แต่ในเมื่อศิษย์พี่จะออกไปฝึกฝน เอามาใช้ก่อนก็ไม่เป็นไร ท่านแม่ยังหลอมอีกได้”

ครั้นเห็นฉินอวิ๋นตี๋อธิบายอย่างจริงจังแล้ว เสิ่นเทียนยังอดยกนิ้วโป้งให้ในใจมิได้

นี่เรียกว่า ‘ใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น’ หรือ หยิบปืนออกมาวางแบบง่ายๆ หลายสิบกระบอกหรือ

แค่ปืนสามสิบหกกระบอกของเจ้านี่กราดยิงรอบเดียว ระดับแก่นพลังทองคงถูกยิงเป็นตะแกรงกระมัง!

แม้การขี่กระบี่พร้อมกับควบคุมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกจะต้องมีผลเรื่องการเล็งแน่นอน แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ลืมว่าเจ้าเด็กฉินอวิ๋นตี๋นี่เคยใช้ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบสังหารคนระดับแก่นพลังทองตายมาแล้ว

แม้แต่ยันต์ระเบิดอัสนีหกพันใบยังคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ การควบคุมอัสนีหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอกคงไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนอดยืนไว้อาลัยให้ศิษย์สายตรงระดับแก่นพลังทองคนอื่นในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มิได้

เจ้าว่าพวกเจ้าลำบากฝึกบำเพ็ญอย่างหนัก กว่าจะทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองไม่ใช่ง่ายๆ แล้วนี่มีประโยชน์อะไร!

ถ้าปะทะกันจริงๆ เจ้าหนูฉินอวิ๋นตี๋รัวยิงปังๆ ชุดหนึ่งก็ฆ่าเจ้าได้ในพริบตาแล้ว!

ทว่าต่อให้ฉินอวิ๋นตี๋เตรียมปืนหยินหยางพิฆาตอสูรสามสิบหกกระบอก ก็ยังสร้างอำนาจคุกคามให้เสิ่นเทียนไม่ได้มากนัก เพราะเสิ่นเทียนมีสมบัติวิญญาณโล่เต่าดำกับวิชาเกราะเต่าดำปกป้องอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสมบัติวิญญาณระดับสูงเช่นหมวกเกราะเต่าดำ

หากปะทะกันจริงๆ อย่างมากเสิ่นเทียนก็ต้องทำหน้าหนาสวมหมวกเกราะเต่าดำ เดินบีบเข้าไปหาฉินอวิ๋นตี๋

ถึงตอนนั้นสายแครี่อย่างฉินอวิ๋นตี๋โดนไฟต์เตอร์ของเต็มเข้าประชิดตัว ก็จะโดนค้อนม่วงทองซัดปลิวไปอย่างแน่นอน

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็รู้สึกว่าเท่าเทียมกันขึ้นมาไม่น้อย จึงพูดกับฉินอวิ๋นตี๋ด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว ศิษย์น้องให้ความสำคัญกับการออกไปฝึกฝนเช่นนี้ ศิษย์พี่ปลื้มใจนัก แต่ศิษย์พี่ยังมีอีกอย่างที่ต้องเตือนศิษย์น้องอวิ๋นตี๋”

ฉินอวิ๋นตี๋ตาเป็นประกาย ‘ดังนั้นศิษย์พี่จะสอนความรู้ใหม่กับข้าหรือ’

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินอวิ๋นตี๋ก็ขอความรู้ด้วยใบหน้าเฝ้ารอคอย “ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ อวิ๋นตี๋กำลังฟังอยู่”

เสิ่นเทียนพยักหน้า จากนั้นชี้ปืนพิฆาตอสูรหลายกระบอกข้างหลังฉินอวิ๋นตี๋ด้วยใบหน้าจนปัญญา “ขยับปากปืนออกไป ศิษย์น้อง ห้ามเล็งปากปืนไปทางพวกเดียวกันเด็ดขาด เพราะหากปืนลั่น เจ้าจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

ก็ได้!

แม้ตอนแรกคิดว่าศิษย์พี่จะอธิบายความรู้เรื่องมหามรรคหยินหยางทวนวารีลึกซึ้งกว่าเดิม จึงตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ แต่ตอนนี้ศิษย์พี่ก็พูดถูก ถึงอย่างไรปืนหยินหยางพิฆาตอสูรนี่ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย

ถ้าเกิดปืนลั่นจริงๆ โดนลูกหลงกระทั่งฆ่าศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมฝ่ายเดียวกันละก็ ฉินอวิ๋นตี๋คงจะรู้สึกสำนึกเสียใจจริงๆ หากทำร้ายศิษย์พี่เพราะเหตุนี้

ซี้ด ฉินอวิ๋นตี๋รู้สึกว่าตนจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะเรื่องนี้!

“ขอบคุณที่ศิษย์พี่ชี้แนะ อวิ๋นตี๋เข้าใจแล้ว!”

ฉินอวิ๋นตี๋พูดอย่างจริงจัง “ข้ารู้แล้วว่าปืนหยินหยางพิฆาตอสูรยังขาดอะไร! ข้าจะให้ท่านแม่เสริมผนึกพิเศษบนปืนหยินหยางพิฆาตอสูร ต้องปลดผนึกก่อนถึงจะใช้งานได้

แบบนี้ ไม่ใช่แค่เลี่ยงโดนลูกหลงสหาย ต่อให้อาวุธโดนศัตรูชิงเอาไปก็ยังใช้งานไม่ได้ด้วย ศิษย์พี่สมกับเป็นศิษย์พี่จริงๆ ตอนที่เรากำลังคิดว่าจะเพิ่มศักยภาพอย่างไร ท่านก็คิดถึงความปลอดภัยก่อนแล้ว”

พอได้ฟังคำพูดชื่นชมจากใจจริงของฉินอวิ๋นตี๋และสัมผัสได้ถึงแววตาเลื่อมใสของเขา เสิ่นเทียนถึงกับยอมใจ

เอาเถอะ เจ้าจะพูดอะไรก็เอา!

ถึงอย่างไรเจ้าเด็กนี่ก็เป็นพวกกลัวสงครามหากมีอาวุธไม่พร้อม นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

มีคลังดินระเบิดเดินอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกปลอดภัยดี

ขอแค่เจ้าเด็กนี่อย่าเผลอระเบิดตัวเองก็พอ

…..

เมื่อได้ผู้เตรียมมหาโชคสามคนแล้ว ลำดับต่อไปคือไปหาคนสุดท้าย

จางอวิ๋นซีที่มีดวงชะตาสีทองสว่างจ้า หรือก็คือคนที่สำคัญที่สุดในกลุ่มออกฝึกฝน

ในมุมมองเสิ่นเทียน ตนแบกรับแรงกดดันของมหาโชคลิขิตไม่ไหว มีโอกาสแปดส่วนที่ต้องดูว่าท่านนี้จะทำผลงานได้ดีหรือไม่

ถ้าตนได้มหาโชคลิขิตของฟางฉางมา จากนั้นดวงชะตารับวิกฤติที่เกิดขึ้นไม่ไหว เช่นนั้นก็ต้องโยนไปให้จางอวิ๋นซี

กำลังรบและดวงชะตาของจางอวิ๋นซีไม่แม้ไปกว่าฟางฉาง อีกทั้งยังมีเสิ่นเทียนอยู่ข้างกาย ไม่มีเหตุผลอะไรจะคุมไม่อยู่เลย!

มีปัญหาอย่างเดียวคือนางเผด็จการเกินไป มาอยู่ข้างๆ ก็อาจจะไม่ฟังกัน

ช่างเถอะ ไปตามที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วกัน!

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พากุ้ยกงกง ฉินเกาและฉินอวิ๋นตี๋สามคนมุ่งหน้าไปยังยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ช่วงที่สามคนเพิ่งมาถึงใต้ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ วินาทีต่อมามีร่างสีแดงอมทองพุ่งออกมาจากบนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ ลอยออกไปไกลร้อยจั้งราวกับกระสุนปืน

“ดี! ศิษย์น้องหญิงปิดด่านบำเพ็ญทะลวงแก่นพลังทองแปดรอบแล้ว กำลังรบแกร่งกว่าเมื่อก่อนจริงๆ! อานุภาพของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไร้ขีดจำกัด ศิษย์พี่ยอมแพ้แล้ว รอทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้าก่อนค่อยมาฝึกกันใหม่!”

พอเอ่ยจบ ร่างสีแดงอมทองก็พุ่งไกลออกไปโดยไม่หันมามองอีก

เสิ่นเทียนเห็นรางๆ ว่าจางอวิ๋นซียืนอย่างโอหังอยู่บนยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์

ใต้เท้านางเหยียบผู้ชายชุดคลุมดำจมูกเขียวใบหน้าปูดบวมอยู่คน มองเห็นใบหน้าไม่ชัด

จางอวิ๋นซีเอามือรูดแขนเสื้อ ขณะกำลังจะตามไปประชันฝีมือกับฟางฉางต่อนั้น พลันตาเป็นประกาย เห็นเสิ่นเทียนแล้ว

ฟิ้ว!

แสงสีทองสว่างวาววับ ร่างจางอวิ๋นซีมาโผล่ตรงหน้าพวกเสิ่นเทียนทันที

“ศิษย์น้องเสิ่นเทียน เจ้ามาหาข้าที่ยอดเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์มีเรื่องใดรึ”

ใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอยและใฝ่ฝัน

เสิ่นเทียนมองจางอวิ๋นซีที่ยังไม่ได้รูดแขนเสื้อกลับไปพลางอดกลืนน้ำลายลงคอมิได้

เขาอยากพูดว่า ‘ไม่เป็นไร แค่ผ่านทางมาเท่านั้น สวัสดีศิษย์พี่หญิง ขอตัวล่ะศิษย์พี่หญิง’

ทว่าเสิ่นเทียนยังไม่ทันพูด ฉินอวิ๋นตี๋ข้างๆ ก็พูดออกไปแล้ว

“ศิษย์พี่หญิง ศิษย์พี่เสิ่นเทียนอยากลงเขาไปฝึกฝน ครั้งนี้ตั้งใจมาเชิญท่านไปร่วมเดินทางไปด้วย”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+