บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 415 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวเอ่ย ศิษย์พี่ชอบข้า!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 415 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวเอ่ย ศิษย์พี่ชอบข้า! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 415 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวเอ่ย ศิษย์พี่ชอบข้า!

หลังใช้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ประกายแสงบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็สว่างยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

แสงเทพวนเวียน สว่างจ้าอย่างยิ่ง!

ฤทธิ์ยามหาศาลไหลเวียนในกายนาง ไหลเข้าสู่ทั่วร่างกายไม่หยุด

กลิ่นอายพลังแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังผลัดเปลี่ยนสูงสุด!

พรึ่บ!

แสงเรืองรองสีสันหลากสีพุ่งออกมาจากในกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก พุ่งขึ้นฟ้า ทำให้ห้วงอากาศสั่นสะเทือน!

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นกลางนภา สั่นสะท้านใจคน!

เมฆเคราะห์ภัยหนาทึบรวมเข้ามา แผ่อำนาจเทพเจ้า!

เมฆดำปกคลุมเมือง วนเวียนบนฟ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ดึงดูดความสนใจของทุกคน

เห็นได้ชัดมากว่าหลังเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกินโอสถเสริมสวรรค์แล้วก็ทะลวงคอขวด จะฝ่าเคราะห์อริยะ!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก “เป็นไปได้อย่างไร สหายธารหยกเพิ่งจะฝ่าเคราะห์อริยะไปไม่นานมานี้เองไม่ใช่รึ”

ผู้อริยะจะยกระดับพลังนั้นยากยิ่ง

ไม่มีตกตะกอนร้อยปีพันปี จะไม่อาจทะลวงพลังใหญ่ได้เลย

ก่อนหน้านี้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเพิ่งฝ่าเคราะห์อริยะ จะไปทะลวงต่ออีกได้อย่างไร หรือว่าโอสถเสริมสวรรค์นั่นจะมหัศจรรย์ขนาดนั้นจริงๆ

เหนี่ยวนำเคราะห์อริยะมาให้ผู้อริยะได้กัน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังมีความกังวลในใจ

เหนี่ยวนำเคราะห์สวรรค์มาได้ไม่แปลก โอสถพิเศษมากมายก็ทำได้เช่นกัน

จุดสำคัญคือหลังเหนี่ยวนำเคราะห์อัสนีมาแล้ว จะผ่านไปได้หรือไม่!

ต้องรู้ว่าเคราะห์อริยะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หากไม่มีศักยภาพเพียงพอจะฝ่าด่านเคราะห์ จะต้องถูกเคราะห์อัสนีสังหาร ถึงตอนนั้นไม่ทะลวงพลัง แต่ยังรนหาที่ตายอีก

อานุภาพเคราะห์ภัยกลางท้องนภารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เมฆเคราะห์ภัยปกคลุมท้องนภาเหมือนคลื่นยักษ์ เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทำให้คนหวาดกลัว

ผู้อริยะมากมายพบเรื่องแปลกๆ “ไม่อยากเชื่อว่าโอสถนี่จะเหนี่ยวนำเคราะห์อริยะมาสองขั้น”

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี่ก็มหัศจรรย์จริงๆ

เพียงแต่ว่าสำหรับผู้อริยะปกติแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องดี

เคราะห์อริยะหนึ่งขั้น ผู้อริยะยังต้องรับมืออย่างเต็มที่ แล้วนับประสาอะไรกับสองขั้นซ้อนกัน

เหนี่ยวนำเคราะห์อริยะมาสองขั้น หากศักยภาพไม่เพียงพอ นี่จะกลายเป็นหายนะสำหรับพวกเขา เป็นโอสถเอาชีวิต!

……

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนกำลังระแวง ส่วนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกบินขึ้นฟ้าไปแล้ว

เมฆเคราะห์ภัยไม่มีสิ้นสุดพลันปกคลุมตัวนาง ระเบิดอานุภาพน่าสะพรึงออกมา ทำให้ท้องนภาเข้าสู่เคราะห์อัสนีไม่มีสิ้นสุด

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกยืนกลางนภา ข้างหลังสะท้อนเป็นแสงสว่างหมื่นจั้ง

แสงสว่างพวกนี้กลายเป็นดวงจันทร์ยักษ์สามดวง ขาวสะอาดบริสุทธิ์ บดบังฟ้าบังดวงตะวัน!

นี่คือปรากฏการณ์ของกายศักดิ์สิทธิ์จันทรา เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกระตุ้นออกมาทั้งหมด เตรียมรับมือกับเคราะห์อริยะ

แต่จากนั้นก็มีแสงเทพสีทองสว่างมาจากในกายนาง ทำให้จันทราสามดวงวนเวียนด้วยแสงสีทองชั้นหนึ่ง

ภายใต้การเสริมด้วยแสงสีทอง จันทราสามดวงสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงเทพสว่างถึงที่สุด!

ชั่วครู่เดียว จันทราหกดวงก็ปรากฏขึ้นตามแสงทอง

แสงจันทราหกดวงนี้สว่างถึงที่สุด ส่องแสงกับจันทราสามดวงก่อนหน้านี้ สุดท้ายก่อตัวเป็นจันทราเก้าดวง!

เมื่อเห็นภาพนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นกลัวราวกับเห็นผี

ทุกคนรู้ว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมีกายศักดิ์สิทธิ์จันทรา เข้าใจในพลังบำเพ็ญและกำลังรบของนางคร่าวๆ

ตอนนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสร้างเป็นจันทราเก้าดวง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอานุภาพของกายศักดิ์สิทธิ์จันทราสูงสุด ต้องรู้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ นางยังสร้างจันทราได้เพียงสามดวงเอง!

…..

เก้าจันทราอยู่บนฟ้า สูงศักดิ์อย่างยิ่ง

ตั้งแต่โบราณกาลมาการคงอยู่ของปรากฏการณ์เก้าจันทรามีพรสวรรค์เหนือชั้นอย่างยิ่ง มากพอจะกวาดล้างห้าดินแดน

ธิดาสวรรค์ระดับนี้ ขอแค่ไม่ตายก่อนวัยอันควร อย่างน้อยก็สำเร็จเป็นเตรียมจักรพรรดิ หากภายภาคหน้าได้โชคลิขิตมาอีก กระทั่งมีหวังได้พิสูจน์มรรคเป็นมหาจักรพรรดิ

แต่ตอนนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสร้างปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น ช่างน่าตกใจจริงๆ!

เกิดการผลัดเปลี่ยนเช่นนี้ในเวลาอันสั้นได้ ก็มีเพียงโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านั่นที่อธิบายได้อย่างชัดเจน!

ซี้ด~

สรรพคุณยานี่โหดขนาดนี้เชียวรึ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนสูดลมหายใจเย็นทีหนึ่ง

ถึงพวกเขาจะมีความรู้ประสบการณ์สูง ก็ไม่เคยเห็นโอสถที่มหัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน!

ถึงขนาดทำให้คุณสมบัติกายของผู้อริยะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้!

มหัศจรรย์ พลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตาได้จริงๆ!

บึ้ม!

เคราะห์อัสนีผ่าลงมา พลันปกคลุมเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก

ท้องนภาเข้าสู่ความมืดไม่มีสิ้นสุด กลิ่นอายพลังทำลายล้างลุกลามฟ้าดิน ทำให้คนขนพองสยองเกล้า ทว่าในเงามืดไม่มีสิ้นสุดนี้กลับมีแสงจันทร์ที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์พุ่งออกมา

เก้าจันทราค้ำฟ้าดิน ส่องแสงสู้กับเคราะห์อัสนีบนฟ้า มีคลื่นพลังน่ากลัวแผ่มาจากมวลอากาศไม่หยุด เหมือนจะทำลายฟ้าดินแห่งนี้

แต่สุดท้ายก็ยังเป็นพลังแห่งจันทราที่กำราบทุกอย่าง ทำให้เคราะห์สวรรค์อ่อนสองลง

เปรี้ยง~

เปรี้ยงๆๆ~

เปรี้ยงๆๆๆ~

……

สายฟ้ากลางฟ้าดินผ่าลงมาเหมือนกับหายนะมาเยือน

เพียงชั่วครู่เดียว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็รับเคราะห์อัสนีสองขั้นติดต่อกัน เอกลักษณ์ของนางเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง ทั่วร่างเหมือนปกคลุมอยู่กลางประกายเซียนหลากสีดั่งเมฆที่มีแสงเรืองรอง

เหนือธรรมดา มีบุคลิกโดดเด่นที่สุดแห่งยุค!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเอ่ยเสียงใสและเย็นชา “สหายหลงหยวนพูดไว้ไม่ผิด โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี่มีผลพลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตาจริงๆ”

แม้เสียงจะเฉยชา แต่ยากจะปิดความตื่นตกใจในคำพูดได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกชอบใช้โอสถ จึงรู้ดีว่าสรรพคุณยานี้โหดเพียงใด!

ไม่ใช่แค่ทำให้นางฝ่าเคราะห์อริยะสองขั้นติดต่อกันได้ แม้แต่กายศักดิ์สิทธิ์จันทรายังผลัดเปลี่ยนไปสู่ความสมบูรณ์ กระทั่งการตระหนักรู้ยังยกระดับขึ้นอย่างมาก พรสวรรค์เพิ่มขึ้นทุกด้าน เส้นทางการบำเพ็ญเพียรจากนี้จะมั่นคงยิ่งขึ้น!

สรรพคุณยาเช่นนี้เรียกได้ว่าน่าตกใจอย่างยิ่ง!

ประกายเซียนหลากสีของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสั่นไหวอย่างรุนแรง ปกคลุมตัวนางไว้ทั้งหมด ไม่มีใครเห็นสีหน้านาง แต่ประกายเซียนที่กระเพื่อมบนผิวกายก็มากพอจะพิสูจน์ความไม่สงบนิ่งในใจนางได้

…..

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “ยินดีด้วยที่สหายธารหยกเพิ่มศักยภาพขึ้นอย่างมาก!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกินโอสถเสริมสวรรค์แล้วพลังบำเพ็ญพัฒนาไปอย่างมาก พรสวรรค์ผลัดเปลี่ยน

สิ่งนี้ คือผลลัพธ์ที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต้องการ!

มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเป็นตัวอย่างแล้ว ก็ไม่ต้องโฆษณาอะไรอีก

คนตาดีจะเห็นว่าสรรพคุณยาของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแกร่งเพียงใด ความจริงก็เป็นเช่นนั้น พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด้านข้างต่างส่งเสียงดังเกรียวกราวกันนานแล้ว!

“บ้า! โอสถนี่โหดเกินไปแล้วกระมัง!”

“นี่ใช่โอสถเทพที่ใดกัน นี่มันโอสถไร้พ่ายชัดๆ!”

“เจ้าหนูนั่น ยังมัวเหม่ออะไร ยังไม่รีบประมูลต่ออีกรึ”

“รีบเอามาให้ข้าสองเม็ด ไม่ ห้าเม็ด!”

“โอสถนี่มีเท่าไร ต่อให้ข้าล้มละลายก็จะซื้อ!”

หลังเห็นผลมหัศจรรย์ของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแล้ว ผู้อริยะทุกคนไม่อาจสงบลงได้

ผู้อริยะร่ำรวยบางคนตอนนี้อดใจร้องตะโกนเสียงดังไม่ได้ ไม่สนใจภาพลักษณ์ของผู้อริยะแล้ว

นี่คือโอสถสูงสุดที่ปรับแก้คุณสมบัติของผู้อริยะได้ตลอดกาล!

และยังเพิ่มพลังบำเพ็ญ เพิ่มศักยภาพให้ได้อย่างมาก!

ต่อให้เป็นโอสถจักรพรรดิก็ยังไม่โหดเท่านี้กระมัง!

หากได้สักเม็ด จะไม่ลอยขึ้นไปเลยรึ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความเสียใจภายหลัง!

เมื่อครู่ข้าทำอะไร เหตุใดเมื่อครู่ไม่ออกมือ ก็แค่โอสถศักดิ์สิทธิ์ไม่กี่ต้นเองไม่ใช่รึ ครั้งนี้ขาดทุนยับแล้ว!

ตอนของถูกไม่ออกมือ จากนี้จะซื้ออย่างไร ตาแก่พวกนั้นต้องไม่ยอมปล่อยแน่!

เดี๋ยวได้กระอักเลือดใหญ่แน่นอน!

เสียใจภายหลังเหลือเกิน!

…..

เห็นได้ชัดมากว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเผยสรรพคุณออกมาแล้ว

นั่นคือโอสถสูงสุดที่ทำให้ผู้อริยะคลุ้มคลั่ง ใครจะปฏิเสธได้

ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว การประมูลในรอบต่อไปจะต้องดุเดือดจนยากจะจินตนาการได้แน่

ในใจเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มากมาย ตอนนี้กำลังสำนึกเสียใจอย่างยิ่ง

แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้เห็นถึงความน่ากลัวของโอสถเสริมสวรรค์ ตัดสินใจได้แล้ว!

โอสถสูงสุดนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องซื้อมาให้ได้สักเม็ด!

ต่อให้ต้องทุบหม้อขายเหล็ก ต่อให้ตัดไตขายเลือดก็ตาม!

เถ้าแก่ซ่งอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นผู้อริยะแสดงท่าทีเช่นนี้มาก่อน

นี่ใช่งานใหญ่ที่รวมตัวคนใหญ่คนโตสูงสุดในวิถีเซียนอย่างนั้นรึ เหมือนลุงๆ ป้าๆ ที่แย่งกันซื้อผักในตลาดสดมากกว่า…

แต่ด้วยประสบการณ์ทำงานของเถ้าแก่ซ่ง เขาตั้งสติกลับมาได้เร็วมาก

เขาฝืนทำทีเป็นสงบนิ่ง “ผู้อาวุโสทุกท่าน โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าในการประมูลครั้งนี้เหลืออีกสี่เม็ด! อีกทั้งจะประมูลได้คนละเม็ดเท่านั้น!”

ถึงอย่างไรโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าจะให้ผลในเม็ดแรกมากที่สุด กินมากไปก็ไม่มีประโยชน์

“ต่อไป เราจะประมูลโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดที่สอง!”

……

บรรยากาศในงานประมูลเทพสวรรค์พลันถูกจุดไฟขึ้นมา การประมูลดุเดือดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระทั่งโอสถเสริมสวรรค์ทุกเม็ดยังถูกประมูลด้วยอาวุธอริยะหลายชิ้น โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดสิบกว่าต้น

ช่วยไม่ได้ นักบวชเยอะเนื้อน้อย!

ต่อให้คนหนึ่งจะประมูลได้เม็ดเดียว แต่โอสถเสริมสวรรค์ก็มีอยู่แค่นี้!

หากครั้งนี้ไม่ออกมือ แล้วช่วงหลังประมูลไม่ได้มาจะทำอย่างไร

ไม่มีใครอยากพลาดโอสถเทพสูงสุดเช่นนี้!

ดังนั้นผู้อริยะทุกคนต่างแย่งกันประมูล เรียกราคาโอสถเสริมสวรรค์ไปถึงความสูงระดับที่ไม่เคยถึงมาก่อน

มองไปในงานประมูลที่เคยจัดมาทั้งหมดในห้าดินแดน รวมกันแล้วก็อาจจะไม่ได้ราคาสูงเท่างานประมูลเทพสวรรค์!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมอย่างรุนแรง ปลงอนิจจังอยู่ในใจ

อาวุธอริยะและโอสถศักดิ์สิทธิ์มากขนาดนี้ ยกระดับศักยภาพแฝงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ถึงจุดสูงสุดเลย อีกทั้ง การประมูลครั้งนี้ยังไม่ใช่แค่ได้สมบัติมาจำนวนมาก!

แต่ยังเพิ่มพูนอิทธิพลและฐานะทางการทูตต่อภายนอกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างมาก!

ไม่ว่าจะเป็นขุมอำนาจที่ประมูลโอสถเสริมสวรรค์ได้หรือไม่ได้ ก็จะหาทางสานสัมพันธ์กับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างเต็มที่ ถึงอย่างไรผู้อริยะทุกคนก็เฝ้าใฝ่ฝันว่าจะได้โอสถเสริมสวรรค์มาสักเม็ด!

ต่อให้เป็นผู้อริยะที่เคยใช้โอสถแล้ว ในสำนักเขาก็ยังมีศิษย์และพวกผู้อาวุโสสูงสุดอีก!

หากได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า จะต้องเพิ่มศักยภาพให้กับสำนักได้แน่นอน!

ทว่าโอสถเสริมสวรรค์ มีเพียงแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ผลิตได้!

มีเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่หลอมได้!

ถ้าอยากได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ก็ได้แต่มาหาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปลงอนิจจังในใจยิ่งกว่าเดิม ‘เทียนเอ๋อร์สมกับเป็นสิ่งมงคลของแดนศักดิ์สิทธิ์จริงๆ!’

ไม่อยากเชื่อว่าจะนำพาความผาสุกมาให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากมายขนาดนี้!

มีเทียนเอ๋อร์อยู่ แดนศักดิ์สิทธิ์เราจะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นแน่นอน!

……

กุ้ยกงกงเป็นคนสนิทที่ใกล้ชิดกับเสิ่นเทียนที่สุด ตอนนี้ยืนข้างกายเสิ่นเทียน ชมการประมูลอันหรูหรานี้

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ประมูลกันด้วยโอสถศักดิ์สิทธิ์เป็นสิบๆ ต้นแล้ว กุ้ยกงกงก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ตอนนั้นในพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียน องค์ชายสิบสามที่เป็นดาวหายนะที่ทุกคนหลีกเลี่ยง ตอนนี้กลับกลายเป็นดาวดวงใหม่ของทั้งห้าดินแดน แม้แต่ผู้อริยะยังตกใจในตัวเขา

แค่หลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ก็ทำให้ยอดฝีมือมากมายแย่งชิงกันอย่างเสียสติ

องค์ชายโดดเด่นเช่นนี้ หากพระสนมหลานเห็นภาพนี้ ดวงวิญญาณบนสวรรค์จะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกแน่นอน

……

อีกด้านหนึ่ง ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวดูการประมูล ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

นางเป็นนักหลอมโอสถอันดับหนึ่งของเทพสวรรค์ หลอมโอสถให้แดนศักดิ์สิทธิ์มาตลอด ย่อมเคยขายโอสถมาบ้าง เพียงแต่ว่างานประมูลพวกนั้นที่นางเข้าร่วมเทียบกับงานประมูลนี้แล้ว ไม่มีค่าให้เอ่ยถึงเลย

มีโอสถใดกันที่ทำให้ผู้อริยะคลุ้มคลั่งได้ ถึงขนาดล้มละลายก็ยังจะเอามาให้ได้

แต่ดูจากสรรพคุณของโอสถเสริมสวรรค์ที่ทำให้คนมีคุณสมบัติเตรียมจักรพรรดิแล้ว ต่อให้เป็นโอสถจักรพรรดิในตำนาน ก็คงไม่ถึงขนาดนี้กระมัง!

โอสถนี้ทำให้ผู้อริยะมากมายแย่งชิงกัน นี่ก็สมเหตุผล

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “ศิษย์พี่ เทียนเอ๋อร์ให้โอสถเสริมสวรรค์มาสิบเม็ดไม่ใช่รึ เหตุใดถึงไม่อาศัยช่วงจังหวะดุเดือดนี้ ประมูลไปให้หมดเลยล่ะ!”

หากเอาออกมาทั้งหมดจะต้องประมูลได้ในราคาสูงยิ่ง ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ได้กำไรอย่างงาม!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม “ประมูลโอสถเสริมสวรรค์แค่ห้าเม็ด ก็เพื่อให้ได้มูลค่าสูงสุด”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวอึ้งไปเล็กน้อย “มูลค่าสูงสุดรึ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “บางครั้ง สมบัติก็ไม่ใช่ว่ามีเยอะแล้วจะยิ่งมีราคา หลังจากพวกเขาเห็นสรรพคุณทรงพลังของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแล้ว จะต้องรู้สึกร้อนใจเพราะโอสถเสริมสวรรค์เหลือเพียงสี่เม็ดแน่นอน ผู้อริยะในที่นี้มีอยู่ไม่น้อย มีใครไม่อยากได้โอสถเสริมสวรรค์บ้าง

มีเพียงทำให้พวกเขารู้สึกร้อนใจเท่านั้น คนพวกนี้ถึงยอมควักสมบัติในบ้านออกมาประมูลโอสถเสริมสวรรค์ ยิ่งมีคนประมูลมากเท่าไร ราคาก็ยิ่งสูงมากเท่านั้น และยิ่งทำให้คนไม่มั่นใจมากเท่านั้นด้วย!

หากไม่ประมูลเต็มที่ ก็กลัวว่าจะไม่ได้เลยสักเม็ด สถานการณ์เช่นนี้ ใครจะกล้ารอไปก่อนแล้วค่อยออกมือ เจ้าลังเลเพียงนิดเดียว การประมูลก็จะจบลงแล้ว

แต่หากประมูลโอสถเสริมสวรรค์ได้จำนวนมาก คนพวกนี้ก็จะไม่ใจร้อน ชิงเม็ดหนึ่งมาไม่ได้ก็รอเม็ดต่อไป ถึงอย่างไรก็ยังมีอีกเก้าเม็ด แบบนี้ จะไม่ได้ผลประโยชน์มากที่สุด”

…..

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อธิบายอย่างเฉยชา ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวได้ฟังแล้วตาเป็นประกาย

ไม่นึกเลยว่าการประมูลจะมีหลักการพวกนี้ด้วย

ศิษย์พี่หลักแหลมสุดยอดจริงๆ!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองผู้อริยะพวกนั้นพลางพูดนิ่งๆ “โอสถเสริมสวรรค์ที่เหลือจะประมูลในอีกหลายเดือนให้หลัง รอจนโอสถเสริมสวรรค์มีชื่อเสียงโด่งดังออกไปก่อน จะทำให้มีผู้อริยะแห่กันมาแย่งชิงยิ่งกว่าเดิม เสียทรัพย์หมดตัวก็อยากจะประมูลให้ได้สักเม็ด

ถึงอย่างไรโอสถสูงสุดเช่นนี้ก็มีแค่ที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ทั้งยังเหลืออีกไม่กี่เม็ดสุดท้าย ถึงตอนนั้น ราคาที่ประมูลโอสถเสริมสวรรค์ได้จะสูงกว่านี้อีก! แบบนี้ถึงจะเป็นมูลค่าสูงสุดของมัน!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตด้านข้างอดพึมพำมิได้ “ศิษย์น้องเจ้าวางแผนเช่นนี้ เยี่ยมมากจริงๆ!”

ใครบอกว่าฝึกคัมภีร์เสริมวิถีฟ้าแล้วจะตัดเจ็ดอารมณ์หกความปรารถนา มองเงินทองเหมือนฝุ่นละอองกัน

พรสวรรค์ด้านการค้าของเจ้านี่ ชั่วร้ายกว่าพ่อค้าหน้าเลือดพวกนั้นอีก!

น่าสงสารผู้อาวุโสเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น โดนวางแผนเล่นงานจนตาย

เดาว่าตอนนี้ คงอยากจะเอากางเกงในไปประมูลด้วยซ้ำ!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวได้ฟังคำอธิบายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว ใบหน้ามีแต่ความเคารพและเลื่อมใส

“ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์คิดรอบคอบจริงๆ ทำให้ข้าได้สติเลย!”

สูงส่ง!

สูงส่งจริงๆ!

นี่คือเหตุผลที่ตอนนั้นศิษย์พี่ได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

ความต่างระหว่างคนอื่นกับศิษย์พี่หลงหยวนช่างห่างชั้นกันมากจริงๆ!

สมกับเป็นบุรุษที่ข้าชอบ ยอดเยี่ยม!

ทั้งตัวมีแต่แสงสว่าง!

…..

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกมาเม็ดหนึ่ง ส่งให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว “ศิษย์น้องหญิงบัวขาว โอสถเสริมสวรรค์นี่ให้เจ้า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวตกใจ รีบพูด “ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ โอสถล้ำค่าเช่นนี้ บัวขาวรับไว้ไม่ได้หรอก”

โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าล้ำค่าจนเห็นได้ง่าย แม้แต่ผู้อริยะยังแย่งชิงกันอย่างคลุ้มคลั่ง

กระทั่งโอสถเสริมสวรรค์เม็ดหนึ่งยังเทียบเท่ากับอาวุธอริยะหลายชิ้นกับโอสถศักดิ์สิทธิ์สิบกว่าต้น

โอสถล้ำค่าเช่นนี้ ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กลับมอบให้ข้า หรือว่าจะชอบ…

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “ศิษย์น้องหญิง โอสถเสริมสวรรค์นี่ถือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์มอบให้เจ้า ข้าจะชดเชยให้เทียนเอ๋อร์ในราคาเท่ากัน

หากศิษย์น้องหญิงบรรลุเป็นผู้อริยะโอสถ จะสร้างคุณูปการให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่แค่อาวุธอริยะเล็กจ้อยจะเทียบได้ อย่าปฏิเสธเลย นี่เป็นการตอบแทนที่เจ้าลำบากเพื่อแดนศักดิ์สิทธิ์มาหลายปี”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวได้ยินดังนั้นก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม ก่อนพูดอย่างแน่วแน่ “บัวขาวจะไม่ทำให้ศิษย์พี่ผิดหวัง!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวถือโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าในมือด้วยความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ความรักเอ่อล้นขึ้นมาเต็มอก

ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์น่าจะไม่ใช่แค่อยากให้ข้าบรรลุผู้อริยะโอสถ มอบกำลังให้แดนศักดิ์สิทธิ์!

กลียุคจะมาเยือนแล้ว ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของข้าแน่นอน ดังนั้นถึงมอบโอสถเสริมสวรรค์ให้ข้า ใช้เพิ่มศักยภาพ

แบบนี้ก็จะเอาตัวรอดในกลียุคได้!

อืม ต้องเป็นเช่นนั้นแน่!

ศิษย์พี่ยังสนใจข้าอยู่จริงๆ

คิกๆๆ วันนี้กลับไปข้าจะไปหลอมโอสถต่อ!

ข้าจะต้องให้ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์รู้ว่าข้าต่างหากที่เป็นภรรยาที่แน่วแน่ที่สุดของเขา!

อืม และยังมีอวิ๋นซีกับอวิ๋นถิง จากนี้ข้าจะดีกับสองพี่น้องนี้ให้มากๆ จะดูแลให้มากกว่านี้

ถึงอย่างไรก็มีแต่คนบอกว่าแม่เลี้ยงเป็นยาก เกิดความขัดแย้งขึ้นมาจะไม่ดีเอา

…..

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนหมุนตัวจากไป

งานประมูลจะจบลงแล้ว เขาต้องไปเตรียมการจัดการและประกาศช่วงสุดท้าย

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมองเงาแผ่นหลังของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ อดแบะปากไม่ได้ “ข้าเปลืองน้ำลายไปตั้งเยอะ ยังไม่ได้โอสถสักเม็ดเลย แต่เจ้านี่ พริบตาเดียวก็มอบให้คนรักเก่าของตัวเองแล้ว! ใช้อำนาจหาผลประโยชน์ส่วนตัว เห็นแก่สตรีมากกว่าสหาย เลวทราม!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวหน้าแดงก่ำขึ้นมา “แค่กๆ ศิษย์พี่ใหญ่ระวังคำพูดด้วย อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า”

แต่คำพูดของศิษย์พี่ใหญ่เหมือนจะไม่มีอะไรผิดเลย!

นี่คงเป็นความลำเอียงที่ศิษย์พี่หลงหยวนมีให้กับข้ากระมัง!

ไม่ไหว จู่ๆ ก็หน้าร้อนขึ้นมาเลย!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมองผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพลางพูดเย้าหยอก “ศิษย์น้องหญิงบัวขาว ข้าไม่ได้พูดมั่ว เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจดี ถ้าเจ้าอยากได้เจ้านั่นก็รีบออกมือจู่โจมเถอะ!

ไม่เช่นนั้นคัมภีร์เสริมวิถีฟ้าพัฒนาไปอีกขั้นเมื่อไร คงไม่มีความรู้สึกใดๆ แล้ว…ศิษย์น้องหญิง เจ้าคงไม่อยากเป็นหม้ายหรอกนะ!”

………

ผู้อาวุโสเทพสวรรค์ทุกคนรู้เรื่องที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวแอบรักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หรือ

เพราะอย่างไร พวกเขาก็ถือว่าเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ

ตอนหนุ่มสาว ถึงขั้นมีผู้อาวุโสมากมายถูกใจ น่าเสียดายว่าต่อมาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ม่วงเดินไปด้วยกัน ให้กำเนิดบุตรสองคน

แต่ละคนต่างมีหน้าที่ สตรีสองคนนั่งเฉยไม่ได้!

จนเรื่องราวได้บทสรุปที่แน่นอน ไม่เข้าใจเลย!

ไม่นาน ก็มีหลายคนเอ่ยถึงเรื่องเสียใจของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวอีกครั้ง

แต่เมื่อสิบแปดปีก่อน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวม่วงเข้าร่วมการล้อมปราบลัทธิวิญญาณร้ายและเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น สิ้นชีพด้วยน้ำมือเจ้าผู้คุมกฎเชียนฮ่วน

เจ้าผู้คุมกฎเชียนฮ่วนเป็นรองเจ้าลัทธิวิญญาณร้าย มีศักยภาพแข็งแกร่งจนทำให้คนสิ้นหวัง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในตอนนั้นไม่อาจต่อต้านได้เลย และยิ่งไม่อาจแก้แค้นให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวม่วงได้

นี่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกถึงวิกฤติ จึงตั้งปณิธานว่าจะทำทุกอย่างเพื่อเพิ่มศักยภาพ

นับจากนั้นมา เขาก็ฝึกคัมภีร์เสริมวิถีฟ้าด้วยความเร็วหนึ่งวันพันลี้ และยิ่งเย็นชาไร้ความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ

…..

จนมาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในตอนนี้ ก็ยังไม่ได้ฝึกคัมภีร์เสริมวิถีฟ้าถึงจุดสูงสุด

หากฝึกถึงจุดสูงสุดจริงๆ ก็จะตัดเจ็ดอารมณ์หกความปรารถนาได้อย่างแท้จริง

ถึงตอนนั้นอารมณ์ทุกอย่างจะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

อืม ไม่ว่าจะในด้านจิตใจหรือทางกาย ก็จะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ เลย!

ถึงตอนนั้น ต่อให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวตบแต่งกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เป็นภรรยาเขา…ก็จะไม่มีความสุขอย่างแน่นอน!

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด