บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 448 หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้ารึ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 448 หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้ารึ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 448 หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้ารึ

ด้วยค่ายกลเคลื่อนย้าย เสิ่นเทียนกับฉีจ้านกลับถึงสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยอย่างรวดเร็ว

และเมื่อพวกเขากลับถึงสำนักศึกษาหลวง สิ่งที่ได้ยินมากที่สุดคือผลการรบในเมืองทะเลบูรพาของสองคน!

เรื่องของเมืองทะเลบูรพากลายเป็นข่าวร้อนแรงของจี้เซี่ย

ไม่มีใครไม่รู้ อีกทั้งยังเล่าลือไปเรื่อยๆ ยิ่งเล่าลือยิ่งเกินจริง!

สองคนที่ได้ฟังข่าวต่างมองหน้ากัน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

“พี่ใหญ่ ควรทำอย่างไรดี”

ฉีจ้านเกาศีรษะด้วยความมึนงง ไม่นึกเลยว่าข่าวลือจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ โม้จนพวกเขาขึ้นฟ้าเลย

และที่ไร้เหตุผลยิ่งกว่านั้นคือข่าวลือนี้ยังกลายเป็นความจริง!

เมื่อฉีจ้านพลังบำเพ็ญทะลวงผู้อริยะสามด่านเคราะห์ ศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็สู้กับเจ้าอริยะได้จริงๆ!

ข่าวลือนี้ถูกต้องทุกอย่าง!

เสิ่นเทียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขามุมปากกระตุก มึนงงนิดๆ ในใจ

คนพวกนี้ หรือว่าจะแอบติดกล้องในตัวข้าไว้ พวกเขารู้เรื่องในกระแสมิติปั่นป่วนได้อย่างไรกัน!

หรือว่ามีคนเบิกเนตร ซ่อนตัวแอบดูอยู่ข้างๆ คนพวกนี้พูดมั่วอะไรเป็นความจริงหมด!

จริงๆ เลย ไร้เหตุผลจริงๆ!

“ช่างเถอะ ปล่อยไปตามน้ำแล้วกัน!”

เสิ่นเทียนส่ายศีรษะ ไม่คิดจะออกหน้าอธิบาย

เขามีใจอยากอยู่เงียบๆ แต่ดูท่าสถานการณ์คงไม่อนุญาต

ตอนนี้ยิ่งไม่เหมาะจะอธิบาย ยิ่งอธิบายยิ่งเป็นปัญหา ดังนั้นสองคนจึงไม่ได้พูดกับคนอื่น แต่กลับไปปิดด่านบำเพ็ญ

เมื่อข่าวลือแพร่งพรายไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ศิษย์ทุกคนในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยต่างมั่นใจว่าสองคนมีกำลังรบเจ้าอริยะจริงๆ

เวลานี้สองคนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก!

…..

ขณะเดียวกัน อาณาจักรต้าเหยียน

มีร่างเงาหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปอาณาจักรอย่างรวดเร็ว!

นั่นคือนักบวชหัวโล้นสวมจีวร ทั่วร่างแผ่พลังพุทธะศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์!

แต่พลังพุทธะนี้ไม่แน่นอน ผลุบๆ โผล่ๆ

จนเมื่อมันซ่อนตัวก็แทนที่ด้วยพลังมารที่รวดเร็วและดุดันยิ่ง!

เขาเหมือนกับนักบวชศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายพุทธ และยังเหมือนราชามารที่สุดแห่งยุค!

คนนี้ก็คือหนึ่งในสี่เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแห่งลัทธิวิญญาณร้าย…เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง!

หลังจากเสียสุดยอดสองร่างธรรมไป เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงศักยภาพลดลงอย่างมาก เสียพลังบำเพ็ญไปพันปี!

เขาแค้นเสิ่นเทียนอย่างยิ่ง เหมือนธารน้ำบนสวรรค์เก้าชั้น ไหลหลากไม่ขาดสาย!

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงคิดจะแก้แค้นเสิ่นเทียนมาตลอด แต่ทุกครั้งจะเสียเปรียบหนัก

เจ้าหนูนี่ชั่วร้ายจริงๆ!

สองร่างธรรมเขาสิ้นชีพลงเพราะไปล่าสังหารเสิ่นเทียน!

ผิดเป็นครู ในที่สุดเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็ล้มเลิกการล่าสังหารเสิ่นเทียนอย่างซึ่งหน้า!

เขาตัดสินใจว่าจะลงมือกับคนในครอบครัวเสิ่นเทียน!

หลังจากผ่านความลำบากในช่วงนี้มา ในที่สุดเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็สร้างร่างธรรมมาได้อีกสองร่าง!

หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็กลั้นจิตสังหารในใจไว้ไม่ได้ เคลื่อนไหวมุ่งหน้าไปอาณาจักรต้าเหยียน!

เขาจะลงมือกับเสิ่นเซี่ยวจักรพรรดิแห่งอาณาจักรต้าเหยียน เพื่อเป็นการล้างแค้นเสิ่นเทียน!

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เสิ่นเทียน ข้าจะสังหารคนในครอบครัวเจ้าให้หมด!”

เขาย่ำเดินเข้าไปในตำหนักจักรพรรดิ

เขารวดเร็วยิ่งเหมือนกับสายลม ร่างเหมือนหลอมรวมกับอากาศเป็นหนึ่งเดียว!

ต่อให้ปรากฏตัวข้างกายคนอื่นก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเลย!

……

สุสานพระสนมหลาน!

นี่คือสุสานของแม่นางพระสนมหลาน!

หลังจากพระสนมหลานสิ้นพระชนม์ เสิ่นเซี่ยวได้สร้างสวนสุสานให้นางเพื่อเป็นการเซ่นไหว้นาง!

ที่นี่เงียบสงบมาก มีเพียงเสิ่นเซี่ยวที่จะมาเป็นบางครั้ง คนอื่นห้ามเข้ามา

เสิ่นเซี่ยวถือดอกไม้ขาว มองป้ายหลุมศพตรงหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคิดถึงและหวนรำลึก

เขาวางดอกไม้ขาว ทั้งยังจุดธูปหลายดอก

แววตาเสิ่นเซี่ยวแน่วแน่ มองป้ายหลุมศพพระสนมหลานพลางพูดเสียงเบา “หลานเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้เทียนเอ๋อร์ไม่ธรรมดาแล้วนะ ได้เข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!

ได้ยินว่าต่อให้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ เทียนเอ๋อร์ก็ยังเป็นอัจฉริยะสูงสุด หากดวงวิญญาณเจ้าบนสวรรค์รับรู้ได้ จะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน!”

…..

ตอนนี้เอง ห้วงอากาศข้างหลังเสิ่นเซี่ยวบิดเบี้ยว เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงร่างลอยขึ้นมาทันที

เมื่อเห็นเสิ่นเซี่ยว เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็ทำหน้าเหี้ยมโหด พูดอย่างน่ากลัว “ที่แท้ก็ซ่อนอยู่ที่นี่เอง วันนี้ข้าจะสังหารเจ้า ให้เจ้าเด็กเสิ่นเทียนได้ลิ้มรสของการเสียบุพการี! พวกมดปลวก ตายเสียเถอะ!”

แม้เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม เสิ่นเซี่ยวกลับไม่สังเกตเห็นเลย!

ถึงอย่างไรก็เป็นการคงอยู่เหนือกว่าเจ้าอริยะ ด้วยพลังบำเพ็ญของเสิ่นเซี่ยวไม่รู้ได้เลย!

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงยื่นมือใหญ่ออกมา พลังฤทธิ์น่าสะพรึงรวมเป็นกรงเล็บมารเท่าฟ้า เหมือนจะตบเสิ่นเซี่ยวแหลกเป็นเศษเนื้อ

ตอนนี้เองมีไอม่วงวนเวียนขึ้นในอากาศ พลังมหาศาลยากจะคาดเดา

ไอม่วงตกมาจากห้วงอากาศ เหมือนกับธารน้ำเงินสวรรค์เก้าชั้น มากมายไม่ขาดสาย

ทว่าในนั้นกลับมีพลังยิ่งใหญ่ นำมาหมื่นกฎเกณฑ์ฟ้าดิน สร้างเป็นมือใหญ่สีม่วงตบใส่เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง!

“อะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร!”

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงสัมผัสได้ถึงพลังน่าสะพรึงอย่างหนึ่ง ทำให้เขาจิตใจสั่นไหว ความกล้าจะพังทลายลง!

พลังนี้เหมือนหมื่นกฎเกณฑ์ตกลงมา มหาศาลยากจะปัดป้อง

‘หนี!’

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ ก็คือหนี!

หลังนั้นน่ากลัวเกินไปจริงๆ แค่สัมผัสก็ตาย ทำให้เขาไม่มีความคิดจะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย!

เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าอาณาจักรต้าเหยียนเล็กๆ จะซ่อนพลังน่าสะพรึงเช่นนี้ไว้!

หรือว่าเสิ่นเทียนจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขาได้ จึงเตรียมรับมือก่อน

ไม่มีทาง เด็กคนเดียวจะมีกลอุบายเช่นนี้ได้อย่างไร

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงรู้สึกเหลือเชื่อ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคาดเดา!

เขาพลันฉีกห้วงอากาศข้างหลัง จะหนีเข้าไป ทว่าเขายังไม่ทันขยับ มือใหญ่สีม่วงได้บีบเขาไว้

ผู้แข็งแกร่งอย่างเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงอยู่ต่อหน้ามือใหญ่สีม่วงนี้ กลับเหมือนลูกนกถูกจับ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุดเลย

“เจ้าเป็นใครกันแน่”

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงตื่นกลัวอย่างยิ่ง เขาไม่เคยรู้สึกถึงพลังที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน เหมือนว่าจะปลิดชีพเขาได้ง่ายๆ

ทว่ากลับไม่มีคนตอบ!

มือใหญ่สีม่วงบีบเบา ๆ ห้วงอากาศเกิดคลื่นไร้รูปขึ้น!

ปัง!

กายเนื้อเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น!

กายปัจจุบันพุทธมารหนึ่งยุคถูกบดขยี้เป็นหมอกโลหิต

จักรพรรดิเหยียนเสิ่นเซี่ยวเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง เขาพลันหมุนตัวกลับมา มองห้วงอากาศที่บิดเบี้ยวลับๆ น้ำเสียงแหบแห้ง

“หลาน หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้าหรือ”

…….

ขณะเดียวกัน ตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางที่ห่างไปเป็นล้านล้านลี้

สองร่างเงานั่งขัดสมาธิอยู่ ด้านหนึ่งมีพลังพุทธไม่มีสิ้นสุด อีกด้านมีพลังมารไม่มีสิ้นสุด!

สองร่างเงานี้คือสองกายธรรมที่เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงรวมออกมาใหม่

ก่อนหน้านี้กลัวเกิดเหตุไม่คาดคิด เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงจึงใช้กำลังวังชาและทรัพยากรไปจำนวนมากเป็นพิเศษเพื่อสร้างร่างกายธรรมขึ้นมาใหม่

นี่คือทักษะเทพเอาตัวรอด ขอแค่มีร่างธรรมหนึ่งยังอยู่ เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงก็ยังไม่ถือว่าตาย!

ทว่าตอนนี้เอง สองร่างธรรมเบิกตาโต นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว!

“นั่นมันพลังอะไร”

“กายปัจจุบันถูกสังหารในพริบตาเลยรึ”

กายอดีตของเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแผดเสียงตะโกน

สามร่างธรรมที่เขาใช้เวลาไปหลายพันปีในอดีต สูญสิ้นลงหมดแล้ว!

ร่างธรรมที่รวมขึ้นมาใหม่มีศักยภาพไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบในตอนแรก!

พูดได้ว่าเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงกลับไปก่อนปลดแอก เสียเวลาฝึกบำเพ็ญอย่างหนักไปหลายพันปี!

“เสิ่นเทียน ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”

กายอนาคตของเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงคำรามด้วยความบ้าคลั่งเช่นกัน!

แต่ไม่นานนัก สองร่างธรรมก็ร้องด้วยความตกใจกลัว “มันบ้าอะไรกัน”

ก่อนจะเห็นพวกเขาสองคนพลันมีสีหน้าหวาดกลัว ร่างทยอยกันระเบิดกลายเป็นกองเถ้าธุลี!

มีเพียงเส้นไอม่วงกระจายมาจากอากาศ!

ทุกอย่างนี้ ก็ยังไม่มีใครสังเกตเห็น

……

ในถ้ำมารสุญญะที่ไร้แสงตะวันบางแห่ง วางรูปปั้นเทพมารน่ากลัวที่ไม่รู้นามไว้หลายรูป

ในทุกรูปปั้นจะเต็มไปด้วยพลังมารไม่มีสิ้นสุด แสงสีดำวูบไหว กลิ่นอายพลังน่ากลัวถึงที่สุด!

หากเป็นคนธรรมดามองทีเดียวจะตกลงเหวลึกทันที ถูกพลังมารควบคุมสติปัญญา กลายเป็นมารร้ายที่รู้จักแต่การเข่นฆ่ากระหายเลือด!

ที่นี่น่ากลัวยิ่งนัก เหมือนกับพลังแห่งบ่อเกิดมาร ไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะเข้าออกได้!

ตรงกลางถ้ำมารสุญญะวางโต๊ะมหึมาตัวหนึ่ง หลอมขึ้นมาจากต้นไม้ปีศาจระดับเจ้าอริยะ

เรื่องมูลค่ายากจะจินตนาการได้!

ทว่าตอนนี้เอง ห้วงอากาศในถ้ำมารสั่นไหว มีหลายร่างเงาลอยขึ้นมา

ร่างพวกนี้เป็นมายาเล็กน้อย แต่แผ่กลิ่นอายพลังน่ากลัว เป็นเงาสะท้อนของผู้แข็งแกร่งสุดยอด!

ที่นี่ คือฐานของลัทธิวิญญาณร้าย!

และร่างเงาพวกนี้คือผู้แข็งแกร่งสุดยอดของลัทธิวิญญาณร้าย!

มีสามร่างเงานั่งตรงโต๊ะ นั่นคือสามเจ้าผู้คุมกฎแห่งลัทธิวิญญาณร้าย เจ้าผู้คุมกฎเจิ้นอวี้ เจ้าผู้คุมกฎเทียนหลัวและเจ้าผู้คุมกฎจื่อเตี้ยน!

ลัทธิวิญญาณร้ายมีสี่เจ้าผู้คุมกฎ ทุกคนมีศักยภาพแข็งแกร่งที่สุด กุมทรัพยากรส่วนใหญ่ของลัทธิวิญญาณร้าย

นอกจากเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแล้ว อีกสามเจ้าผู้คุมกฎมาที่นี่กันหมด แต่กลับได้แต่นั่งในตำแหน่งล่าง

ตรงตำแหน่งประธานมีอีกสองร่างเงา พวกเขามีกลิ่นอายพลังแกร่งกว่าสามเจ้าผู้คุมกฎไปไกลมาก!

ขนาดสามเจ้าผู้คุมกฎพบสองคนนี้ยังต้องเคารพอย่างยิ่ง!

สองคนนี้ก็คือรองเจ้าลัทธิวิญญาณร้าย ราชันมารเชียนฮ่วนกับราชันมารเหลาฉิง

พวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในลัทธิวิญญาณร้ายนอกจากเจ้าลัทธิวิญญาณร้าย รับผิดชอบงานทุกอย่างของลัทธิวิญญาณร้าย!

วันนี้เป็นการประชุมระดับสูงของลัทธิวิญญาณร้าย รองเจ้าลัทธิวิญญาณร้ายได้แจ้งให้ชนชั้นสูงทุกคนมาเข้าร่วมนานแล้ว

เมื่อเห็นยังมีตำแหน่งว่าง ราชันมารเชียนฮ่วนเอ่ยอย่างเฉยชา “เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง เหตุใดถึงยังไม่มาอีก”

นี่คือการประชุมระดับสูงของลัทธิวิญญาณร้าย เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงที่เป็นสี่เจ้าผู้คุมกฎใหญ่กลับไม่มา ราชันมารเชียนฮ่วนจึงไม่พอใจมาก

เจ้าผู้คุมกฎเทียนหลัวเอ่ย “อู๋เซิงน่าจะปิดด่านบำเพ็ญอยู่! ก่อนหน้านี้เขาเสียสองร่างธรรมไป ศักยภาพลดลงอย่างมาก ข้าจะติดต่อเขาเดี๋ยวนี้!”

เจ้าผู้คุมกฎเทียนหลัวสนิทสนมกับเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง จึงรีบอธิบาย

แต่จนเมื่อเขาติดต่อเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง นานแล้วก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับ!

“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดถึงติดต่ออู๋เซิงไม่ได้”

เจ้าผู้คุมกฎเทียนหลัวสงสัยมากว่าพวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดของลัทธิวิญญาณร้าย รู้เรื่องหนักเรื่องเบา

เรื่องการประชุมที่สำคัญขนาดนี้ เหตุใดอู๋เซิงถึงไม่มา

ราชันมารเชียนฮ่วนทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าจะไปดูเองว่าเขากำลังทำอะไร”

เขากระตุ้นวิชาลับ สัมผัสตำแหน่งของเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง แต่จากนั้นก็หน้าเปลี่ยนสี ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง “ตะเกียงวิญญาณอู๋เซิงดับแล้ว”

“อะไรนะ”

ทุกคนในที่นี้มีสีหน้าตกใจยิ่ง!

ตะเกียงวิญญาณเชื่อมกับวิญญาณแท้ของคน หากตะเกียงวิญญาณดับ นั่นหมายความว่าจิตดับสูญ ตายไปจริงๆ แล้ว!

ตะเกียงวิญญาณเจ้าผู้คุมกฎดับ ก็หมายความว่าเขาตายแล้ว นี่ทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อ!

แม้ศักยภาพของเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงจะอยู่ต่ำสุดในสี่เจ้าผู้คุมกฎลัทธิวิญญาณร้าย แต่นั่นเป็นเพราะเขายังไม่ได้สวมสามร่างไตรภูมิ!

หากเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงรวมสามกายไตรภูมิ ศักยภาพจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก กลายเป็นการคงอยู่สุดยอดในสี่เจ้าผู้คุมกฎ อีกทั้งยังใช้ความสามารถพิเศษของสามกายไตรภูมิ ทำให้เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงมีการเอาตัวรอดที่แกร่งยิ่ง

เว้นแต่จะสังหารทีเดียวสามร่างธรรม ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจสังหารเขาได้!

เจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงระวังตัวมาตลอด สามกายไตรภูมิแทบจะไม่เคยเคลื่อนไหวพร้อมกันเลย!

การจะสังหารเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงยากเหมือนไต่ฟ้า

ทว่าการคงอยู่เช่นนี้กลับถูกคนสังหาร ดวงจิตมอดดับ นี่จะน่ากลัวเกินไปหน่อยแล้ว!

“ใครสังหารอู๋เซิงกัน หรือว่าฮวงสือจะบุกเข้าไปตำหนักศักดิ์สิทธิ์อู๋เซิง”

มีคนเสนอข้อสงสัย พวกเขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงตายได้อย่างไร!

เดาว่าในห้าดินแดนคงมีเพียงจักรพรรดิฮวงสือที่อาจจะทำได้กระมัง!

ถึงอย่างไรก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดน ทำให้ลัทธิวิญญาณร้ายหวาดกลัวได้!

“ไม่มีทาง หากฮวงสือเคลื่อนไหว เราไม่มีทางไม่รู้แน่!”

ราชันมารเชียนฮ่วนส่ายหน้า ราชวงศ์เซียนต้าฮวงเป็นศัตรูตัวฉกาจของลัทธิวิญญาณร้าย ย่อมถูกจับตามองเป็นพิเศษ!

แม้จักรพรรดิฮวงสือจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีทางรอดไปจากสายตาของลัทธิวิญญาณร้าย เข้าไปสังหารเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงอย่างเงียบๆ ได้!

อีกทั้งเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงยังซ่อนตัวลึกยิ่ง ไม่มีใครรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของเขาเลย!

หากจักรพรรดิฮวงสือมีศักยภาพเช่นนั้นจริงๆ ระดับสูงของลัทธิวิญญาณร้ายคงถูกสังหารหมดไปนานแล้ว!

เจ้าผู้คุมกฎเทียนหลัวเอ่ยถาม “นอกจากฮวงสือแล้วยังมีใครสังหารอู๋เซิงได้อีก”

พวกเขาคิดไม่ออกว่าใครเป็นคนลงมือ นี่เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์

ราชันมารเหลาฉิงพูดอย่างจริงจัง “สังหารอู๋เซิงได้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่! ดูท่าในห้าดินแดนนี้ยังซ่อนผู้แข็งแกร่งลึกลับไว้อยู่ ตอนแรกก็ผู้อาวุโสเสียหั่ว ตอนนี้ยังมาเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง สถานการณ์ของห้าดินแดนนับวันยิ่งวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!”

เจ้าผู้คุมกฎทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึม สถานการณ์นี้ไม่ดีกับพวกเขาเลย!

นี่ผ่านไปนานเท่าไรเอง พวกเขาก็เสียกำลังรบแข็งแกร่งเหนือกว่าเจ้าอริยะไปสองคน!

โดยเฉพาะเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิง กำลังแฝงเร้นเขาสูงมาก การสูญเสียเขาไป ถึงขั้นเสียหายถึงแก่นรากของลัทธิวิญญาณร้าย

ระดับสูงลัทธิวิญญาณร้ายทุกคนต่างร้อนรนไม่เป็นสุข!

ตอนนี้เองมีเสียงเย็นชาที่ทำให้คนใจหนาวสั่นดังแว่วมาจากห้วงอากาศ เหมือนกับการแจ้งจากเทพมาร “เร่งกำลังเหนี่ยวนำวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ต่างแดนมาเยือน เมื่อกองทัพวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาถึง จะเป็นวันที่ลัทธิวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ข้ามาเยือนโลกหล้า!”

ทุกคนที่นี่ตัวสั่นสะท้าน นัยน์ตาฉายแววเคารพ “ขอรับ ท่านเจ้าลัทธิ!”

……

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

เสิ่นเทียนกับฉีจ้านกลับมาได้สักพักแล้ว

ข่าวลือเมืองทะเลบูรพาดังถึงขีดสุดไปช่วงหนึ่ง แต่เนื่องจากเสิ่นเทียนกับฉีจ้านไม่ออกมาอธิบาย สุดท้ายจึงปล่อยผ่านไป

ช่วงนี้สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเองก็ไม่สงบสุขเช่นกัน เพราะว่าทุกคนหันไปสนใจกับเรื่องหนึ่ง

“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ เทือกเขาคุนหลุนมีเสียงเซียนเป็นเอกแห่งยุคดังแว่วมาด้วย! มีคนมากมายตระหนักรู้ที่นั่น ทะลวงพลังบำเพ็ญ กระทั่งรวมถึงผู้อริยะ!”

กลุ่มโอรสสวรรค์กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ข่าวนี้เหมือนกับคลื่นใหญ่ พลันถาโถมไปทั้งดินแดนกลาง!

โอรสสวรรค์แทบทุกคนในจี้เซี่ยต่างตื่นเต้นกันเพราะเรื่องนี้!

เทือกเขาคุนหลุน มีเสียงแห่งมหามรรคดังกึกก้อง

แผ่หลักการสูงสุดท่วงทำนองมรรค ทำให้ผู้ที่ได้ยินตกอยู่ในทะเลแดนมรรค ตระหนักมหามรรคฟ้าดิน!

ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังได้ประโยชน์ จิตใจเปิดกว้าง!

ผู้บำเพ็ญที่มีพลังบำเพ็ญค่อนข้างต่ำนั่งตระหนักรู้ได้ พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมาก กระทั่งหาวิถีของตนพบ!

……

คนมากมายต่างร้องอุทานว่ามีร่องรอยเซียนปรากฏ

มีเพียงผู้แข็งแกร่งสุดยอดเท่านั้นที่รู้ว่าเสียงแห่งมหามรรคมาจากสะพานไม้เชื่อมฟ้าในเทือกเขาคุนหลุน

เทือกเขาคุนหลุนลึกลับมาตลอด เล่าลือว่าเป็นแดนเซียนตกลงมา

ในยุคโบราณ ที่นี่มีร้อยผู้แข็งแกร่งปรากฏขึ้นพร้อมกัน มีผู้แข็งแกร่งสูงสุดเดินออกมามากมาย กระทั่งมีข่าวลือว่านี่เป็นบันไดขึ้นสวรรค์!

เทือกเขาคุนหลุนที่มีความลับมากมายเต็มไปด้วยความไม่ธรรมดา!

และสะพานเชื่อมฟ้าก็เป็นต้นไม้โบราณเชื่อมฟ้ากลางเทือกเขาคุนหลุน เล่าลือว่าในอดีตกาล ก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามันมีความเป็นมายาวนานเพียงใด

นี่ไม่ใช่แค่ต้นไม้โบราณเชื่อมฟ้า แต่ยังแฝงไว้ด้วยมหาโชคลิขิต เป็นแดนผาสุกที่สวรรค์มอบให้

ในสะพานเชื่อมฟ้าแฝงไว้ด้วยหลักการสูงสุดมหามรรค เมื่อสายลมพัดกิ่งและใบของต้นไม้จะเกิดเสียงเซียนดังขึ้น

นี่คือเสียงมรรคที่บริสุทธิ์ที่สุดในฟ้าดิน ทำให้คนตระหนักมหามรรคฟ้าดิน ใกล้ชิดกับหมื่นกฎฟ้าดิน!

เพียงแต่ว่าสะพานเชื่อมฟ้าซ่อนอยู่ในมิติไร้ที่สิ้นสุด ทุกแปดพันปีจะปรากฏครั้งหนึ่ง!

ในชั่วชีวิตผู้บำเพ็ญมากมายยังไม่มีโอกาสได้รอมาถึง

ในอดีตมีขุมอำนาจคิดจะครอบครองต้นไม้โบราณนี้ แต่กลับเหนี่ยวนำหมื่นกฎมหามรรค ถูกพลังแก่กล้าสังหาร แม้แต่ระดับเตรียมเซียนยังไม่อาจรอดพ้นไปได้!

มาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกล้าดูหมิ่นสะพานเชื่อมฟ้าอีก!

……

นี่ยังไม่ใช่มหาโชคลิขิตที่สุดของสะพานเชื่อมฟ้า!

ในสะพานเชื่อมฟ้ามีโลกเล็กโลกหนึ่ง…โลกสะพานเชื่อมฟ้า!

ขอแค่เป็นผู้บำเพ็ญที่มีอายุต่ำกว่าสามพันปีก็จะลองเข้าไปในนั้นได้

เล่าลือว่าในโลกสะพานเชื่อมฟ้าจะสัมผัสได้ถึงกฎเกณฑ์โลกเซียน มีผลเพิ่มการตระหนักรู้ขึ้นอย่างมาก ต่อเนื่องได้มากสุดร้อยปี

มีผู้มีพรสวรรค์ที่สุดแห่งยุคถึงขั้นตระหนักพลังวิเศษที่สุดแห่งยุคได้ในเสียงสวรรค์ ได้วิชาโลกเซียน

เล่าลือกันว่าจักรพรรดิฮวงสือในตอนนั้นก็เคยตระหนักรู้ใต้สะพานเชื่อมฟ้าร้อยปีเต็ม ยกระดับวิชาตนเองได้ถึงขีดสุดในทีเดียว

หลังก้าวออกมาจากโลกสะพานเชื่อมฟ้า จักรพรรดิฮวงสือฝ่าเคราะห์สวรรค์เจ็ดขั้นติดต่อกัน สำเร็จเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดน นับจากนั้นมาก็เริ่มเส้นทางไร้พ่ายในตำนาน

ไม่ใช่แค่จักรพรรดิฮวงสือเท่านั้น พวกคนแก่วัตถุโบราณพวกนั้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ห้าดินแดน ส่วนใหญ่ยังเคยได้ฟังเสียงเซียนมรรค

คนที่คุณสมบัติสุดยอดในนั้น ส่วนใหญ่ลอยขึ้นฟ้าไปหมดแล้ว

ในโลกสะพานเชื่อมฟ้านี้ ยิ่งมีพรสวรรค์แกร่งมากเท่าไร ก็ยิ่งปิดด่านบำเพ็ญตระหนักรู้ได้ในโลกนานมากเท่านั้น

อย่างมากสุดร้อยปีเต็มจนกระทั่งสะพานหายไป

คนที่มีพรสวรรค์แย่ก็อาจจะปิดด่านบำเพ็ญได้หลายวัน กระทั่งเกือบจะเข้าไปไม่ได้

ตามหลักแล้ว สะพานไม้เชื่อมฟ้าลงมาจากครั้งก่อนเพิ่งจะผ่านไปเจ็ดพันปี น่าจะต้องรออีกพันปี

สะพานไม้เชื่อมฟ้าปรากฏมาก่อน จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง!

ไม่ใช่แค่โอรสสวรรค์ดินแดนกลาง ทั้งห้าดินแดนยังสั่นสะเทือน ผู้แข็งแกร่งอายุต่ำกว่าสามพันปีมากมายต่างมุ่งหน้าไปคุนหลุน!

ถึงอย่างไรการฝึกบำเพ็ญที่นั่นหนึ่งวันก็อาจจะเท่ากับฝึกข้างนอกหลายร้อยปี!

……

ยอดเขาวิญญาณที่สอง

เดิมทีเสิ่นเทียนกำลังปิดด่านบำเพ็ญ ก็ได้ข่าวเช่นกัน

นั่นเป็นข่าวที่พวกจางอวิ๋นซีส่งมา เล่าเรื่องสะพานเชื่อมฟ้ากับโลกสะพานให้ฟัง

จักรพรรดิฮวงสือกำลังจัดกลุ่มศิษย์ จะส่งคนเข้าไปฝึกบำเพ็ญในโลกสะพานเชื่อมฟ้า!

เสิ่นเทียนยกมุมปากขึ้น ดูสนใจมาก “โลกสะพานเชื่อมฟ้ารึ ข้าก็อยากไปดูเหมือนว่าในนั้นจะมีความมหัศจรรย์อะไรอยู่กันแน่!”

กำลังรบเสิ่นเทียนในตอนนี้เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันไปไกลมาก

แต่ก็ยังไม่เพียงพอเลย เขาขาดเวลาในการตกตะกอน

เทียบกับยอดฝีมือที่ฝึกมาหลายพันปีพวกนั้นแล้ว เสิ่นเทียนยังมีศักยภาพแฝงไม่พอ ยังห่างชั้นกันมาก!

มหาเคราะห์ภัยห้าดินแดนกำลังจะมาถึง เสิ่นเทียนต้องเพิ่มศักยภาพตัวเองให้เร็วที่สุดในช่วงนี้ ถึงจะอยู่รอดในมหาเคราะห์ภัย

นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!

แม้แต่จักรพรรดิฮวงสือยังหวาดกลัวมหาเคราะห์ภัยครั้งนี้มาก ถึงกับจัดกลุ่มศิษย์เข้าไปฝึกฝนในโลกสะพานเชื่อมฟ้าด้วยตนเอง

ก็เพื่อสร้างผู้แข็งแกร่งออกมาจำนวนมากให้เร็วที่สุด ไว้รับมือกับมหาเคราะห์ภัยครั้งนี้

และโลกสะพานเชื่อมฟ้าคือที่ที่ดี!

ไม่ใช่แค่เพิ่มการตระหนักรู้ แต่ยังมีโชคลิขิตและสมบัติมากมาย!

โลกสะพานเชื่อมฟ้าครั้งนี้จะต้องมีคนเข้าไปเยอะมากแน่นอน จะต้องมีบุตรแห่งโชคจำนวนมาก!

เสิ่นเทียนจะไม่ทิ้งโอกาสเก็บเกี่ยวกุยช่ายครั้งนี้ไปเด็ดขาด!

เขาออกจากยอดเขาวิญญาณลูกที่สอง มุ่งหน้าไปยังสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยอย่างตื่นเต้น

…..

จนเมื่อเสิ่นเทียนเข้าไปในสำนักศึกษาหลวงก็เห็นผู้คนมากมาย ล้วนเป็นผู้มีพลังแข็งแกร่ง!

พวกนี้คือหัวกะทิจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่น อีกทั้งอายุต่ำกว่าสามพันปี ในนั้นยังมีคนระดับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับผู้อาวุโสสูงสุดที่ปิดด่านบำเพ็ญตลอดทั้งปีอีกไม่น้อย

พวกเขามากันเพื่อโลกสะพานเชื่อมฟ้าครั้งนี้!

“ศิษย์น้อง!”

หลังเห็นเสิ่นเทียนปรากฏ พวกจางอวิ๋นซีมีใบหน้าตื่นเต้นกัน

เสิ่นเทียนพยักหน้า ทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม!

“สหายเสิ่น!”

นอกจากสีอัจฉริยะเทพสวรรค์แล้ว หวังเสินซวี ฉีเซ่าเสวียนรวมถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่นของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ยังพากันปรากฏกาย!

“พี่ใหญ่!”

ฉีจ้านเองก็พาโอรสสวรรค์สำนักอสูรมาเช่นกัน!

เวลานี้มีคนมาล้อมรอบเสิ่นเทียนเต็มไปหมด ทั้งยังเป็นโอรสสวรรค์ที่มีพรสวรรค์สูงสุด

ผู้แข็งแกร่งอาวุโสถึงกับมองมา ถึงอย่างไรเรื่องเมืองทะเลบูรพาในช่วงก่อนหน้านี้ก็ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีชื่อเสียงเลื่องลือจี้เซี่ย

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งอาวุโสที่ปิดด่านบำเพ็ญตลอดปีพวกนั้น หลังออกมาแล้วก็ได้ยินชื่อเสียงเสิ่นเทียน!

เวลานี้ สายตาโดยรอบมองมากันหมด

มีตกใจ มีแปลกใจ มียำเกรง กระทั่งมีหลงใหล!

บางคนไม่ได้แค่มาเพราะเรื่องราวของเสิ่นเทียน แต่เป็นเพราะใบหน้าที่หล่อเหลาเป็นที่สุดนั้นมากกว่า!

…..

ในใจคนมากมายต่างปลงอนิจจัง!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แข็งแกร่งมากจริงๆ เป็นศิษย์ใหม่ก็ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ได้!

สังหารเจ้าอริยะลัทธิวิญญาณร้ายได้!

ผูกมิตรกับสุดยอดโอรสสวรรค์มากมายขนาดนี้!

หน้าตายังหล่อเหลายิ่ง

เป็นผู้วิเศษจริงๆ!

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด