บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 508 กลอุบายของจักรพรรดินี!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 508 กลอุบายของจักรพรรดินี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 508 กลอุบายของจักรพรรดินี!

ราชาเซียนเอ้อไจพุ่งเข้ามาพร้อมกับปราณสังหารนับล้าน พลิกกลับโลกตะวันจันทรา ทำลายธารดาราไร้ที่สิ้นสุด

โทสะแห่งราชาเซียน ทำลายล้างโลก!

นี่คือยอดวิชาที่มีชื่อเสียงของราชาเซียนเอ้อไจ มีพลานุภาพไร้ขีดจำกัด

ปราณกระบี่โหมซัดสาด หมุนม้วนเขตแดนสิบล้านลี้ ทำลายล้างทุกสิ่งอย่าง!

ราชาเซียนจื่อเวยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน มั่นคงดั่งภูเขาไท่ซาน

เขาประสานมุทรา ระเบิดแสงสีม่วงไร้ขอบเขต พุ่งเข้าชั้นเมฆ

แสงสว่างทะนงอำนาจ สว่างจ้าถึงที่สุด

ไอม่วงบูรพาแปลงเป็นภูลำธาร กดอัดท้องนภา

บึ้ม!

ปราณกระบี่ล้านล้านกับภูเขาม่วงมากมายชนกัน เกิดการระเบิดสะท้านฟ้าขึ้น

ผืนดาราแตกเป็นรูพรุน

กฎเกณฑ์มหามรรคมาไม่ขาดสาย ปั่นป่วนฟ้าดินแห่งนี้

ทุกสรรพสัตว์ตัวสั่น ตื่นกลัวอย่างยิ่ง

สองฝ่ายสู้กันน่ากลัวยิ่ง เหมือนจะทำลายล้างโลก

แค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็สังหารเทพโบราณได้

ท้องนภาถูกแสงเทพไร้ขอบเขตปกคลุม เผยเป็นภาพซากปรักหักพังเต็มไปหมด

“ฆ่า!”

ราชาเซียนเอ้อไจคำรามด้วยความโกรธ ฝนโลหิตสาดกระจาย

ภายใต้การกดอัดของภูเขาม่วงไร้ที่สิ้นสุด กายเนื้อเขาเต็มไปด้วยรอยแผล

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

สุดท้ายภูเขาม่วงทำลายปราณกระบี่ ทำลายภูผานทีนับพันนับหมื่น

เอ้อไจตัวสั่นอย่างรุนแรง ถอยไปล้านลี้ เหยียบอากาศแตกกระจาย

เขาเผยแววตาตื่นตกใจ ยากจะเชื่อได้

ราชาเซียนจื่อเวยรากฐานไม่มั่นคง กำลังรบยังแกร่งขนาดนี้ เกือบทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส

ดีที่ไม่บาดเจ็บถึงต้นกำเนิด

ราชาเซียนเอ้อไจมีปราณชั่วร้ายวนเวียนรอบกาย อาการบาดเจ็บฟื้นกลับมาทั้งหมด

ดวงตาเขาเย็นชา แผดเสียงตะโกน “จื่อเวย เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่วันนี้ ก็ต้องตาย!”

ชิ้ง!

เสียงกระบี่เทพดังขึ้น!

กระบี่ยาวสีแดงฉานลอยขึ้นมาในมือเอ้อไจ ปราณโลหิตพุ่งขึ้นฟ้า ปั่นป่วนทะเลหมอกสิบทิศ

ปราณชั่วร้ายกระจายไปรอบๆ น่ากลัวถึงจิตวิญญาณคน

นี่คืออาวุธชั่วร้ายที่สุดแห่งยุค เต็มไปด้วยลายแปลกประหลาด

ตรงด้ามกระบี่มีดวงตาสีแดงฉานตั้งอยู่ เหมือนจะกลืนกินจิตวิญญาณ

เมื่อออกกระบี่นี้ ฟ้าดินเปลี่ยนไป

ท้องนภาถูกปราณโลหิตปกคลุม น่ากลัวสุดขีด เหมือนนรกทะเลโลหิต

นี่คืออาวุธราชาเซียนสูงสุด แฝงพลังมหามรรค

ราชาเซียนจื่อเวยแววตาจริงจัง เพ่งสมาธิทั้งหมด

หากอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เขาจะไม่เกรงกลัวใครเลย

เพราะอย่างไรราชาเซียนจื่อเวยก็เป็นราชาเซียนที่สุดแห่งยุค มองทุกชีวิตด้วยความโอหัง

แต่ตอนนี้เขาเพิ่งฟื้นกลับมา กำลังรบไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบ

เผชิญหน้ากับเอ้อไจที่เป็นราชาเซียนสุดยอดเช่นกันและยังมีอาวุธราชาเซียน ราชาเซียนจื่อเวย รู้สึกกดดันเหมือนภูเขา!

…..

ตอนนี้ เสิ่นเทียนก้าวเข้ามา

เขาเรียกกระดานหมากฟ้าขุ่นออกมา “เสด็จพ่อ นี่คือยอดอาวุธของราชาเซียนฟ้าขุ่น น่าจะต้านอาวุธชั่วร้ายได้!”

ราชาเซียนจื่อเวยเป็นบิดาเสิ่นเทียน เขาออกมาสู้กับราชาเซียนเอ้อไจเพื่อเขา

ดังนั้น เสิ่นเทียนย่อมช่วยเต็มที่

ราชาเซียนจื่อเวยดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย “ตอนนั้น ข้ากับราชาเซียนฟ้าขุ่นเล่นหมากกันมาหมื่นปี ไม่นึกเลยว่าวันนี้ข้าจะได้เป็นผู้คุมหมาก!”

เขาถือกระดานหมากฟ้าขุ่น พลังกลับมาจุดสูงสุดอีกครั้ง

ตอนนี้หัวใจไร้พ่ายของราชาเซียนจื่อเวยกลับมาอีกครั้ง

ชีวิตนี้เขาไม่เกรงกลัวผู้ใด จะกำราบศัตรูทุกคน

แม้รากฐานจะไม่มั่นคงก็ยังไม่ส่งผลกระทบ

“เทียนเอ๋อร์ดูให้ดี พ่อจะสอนเจ้าว่าราชาเซียนสู้อย่างไร!”

ราชาเซียนจื่อเวยคำรามเสียงดัง ปลุกกระดานหมากฟ้าขุ่นกดอัดใส่เอ้อไจ

ยอดอาวุธชิ้นนี้ เปล่งสีสันสว่างที่สุดในมือราชาเซียนจื่อเวย

กระดานหมากฟ้าขุ่นพลันขยายใหญ่ ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต!

แสนจั้ง!

ล้านจั้ง!

สิบล้านจั้ง!

…..

ถึงท้ายที่สุด ทั้งดินแดนกลางถูกกระดานหมากฟ้าขุ่นปกคลุม

ตัดสลับกัน กดอัดท้องนภา!

ดาราล้านล้านดวงลอยกลางอากาศ บดบังฟ้าบังดวงตะวัน เปล่งแสงเทพมากมาย

ท้องนภากลายเป็นจักรวาลไร้ขอบเขต ส่องแสงสว่างจ้า

ดาราตัดสลับกัน แปลงเป็นครอบฟ้า ใหญ่โตถึงที่สุด!

ภายใต้การเสริมของกระดานหมากฟ้าขุ่น ราชาเซียนจื่อเวยเหมือนยกจักรวาลกดทับลงมา

เอ้อไจหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย พลังนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง

จื่อเวยที่ถืออาวุธราชาเซียนเหมือนกลับไปจุดสูงสุดอีกครั้ง

กลับไปยุคที่เป็นของเขา เป็นราชาเซียนที่สุดแห่งยุคที่ทำให้ยักษ์ใหญ่มากมายหวาดกลัว

เอ้อไจรู้ว่าจื่อเวยมีรากฐานไม่มั่นคง กำลังรบยังไม่บรรลุถึงจุดสูงสุด ไม่อย่างนั้นเขาคงหนีไปแน่

ราชาเซียนจื่อเวยในตอนนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ

แต่ตอนนี้ เอ้อไจเผยจิตสังหารน่าเกรงขาม

ไม่ว่าจะกายราชันมนุษย์หรือราชาเซียนจื่อเวย ก็เป็นคนที่เผ่าวิญญาณร้ายต้องสังหาร

เขาไม่มีทางถอย!

“ฆ่า!”

เอ้อไจถือกระบี่โลหิตพุ่งเข้ามา ทำลายทะเลดาราฟ้าเก้าชั้น

รอบกายเขามีปราณโลหิตสีแดงฉานวนเวียน ย้อมจักรวาลเป็นสีแดง

ห้วงอากาศพลันถูกฟันเป็นสองส่วน มีเพียงปราณกระบี่สีเลือดที่ทะลวงฟ้า

การโจมตีนี้มาพร้อมกับอำนาจทำลายล้างโลก!

…….

ราชาเซียนจื่อเวยประสานมุทรา กระดานหมากฟ้าขุ่นเปล่งแสงเทพไร้ที่สิ้นสุด

ประกายเซียนยิ่งใหญ่ หมอกพวยพุ่ง

ดาราล้านล้านดวงขนาบข้าง สว่างจ้าถึงที่สุด ทำให้ผืนฟ้าแตกกระจาย

สองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด ฟ้าถล่มดินทลาย ภูตผีร่ำไห้เทพร้องโหยหวน

ฝนโลหิตตกมาจากบนฟ้า ภาพทำให้คนขนหัวลุก

รอบตัวสองคน อากาศเกิดรอยร้าวใหญ่นับพันนับหมื่น ลุกลามไปสี่ด้านแปดทิศ

ราชาเซียนเอ้อไจกวัดแกว่งกระบี่ ทำลายดารามากมาย

ทว่าดารามีจำนวนมากจริงๆ ทุกดวงดาราจะวนเวียนพลังราชาเซียน น่ากลัวสุดขีด

บึ้มๆๆ!

เกิดประกายไฟหลากสีขึ้นกลางฟ้า ส่องสว่างท้องนภาจักรวาล ในนั้นยังมีเสียงร้องของราชาเซียนเอ้อไจดังอยู่

แม้กระบี่โลหิตจะไร้พ่าย ก็ไม่อาจต้านดารานับล้านๆ ดวงได้

เอ้อไจกายเนื้อแหลกสลาย เกิดรอยแตกขึ้น แม้แต่ต้นกำเนิดยังแทบจะถูกทำลาย

“สมควร!”

เอ้อไจกัดฟัน โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่

ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของราชาเซียนจื่อเวย แข็งแกร่งยากจะต่อกรจริงๆ

ด้วยพลังของเขา ไม่อาจฝ่าวงล้อมหนาไปได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงสังหารกายราชันมนุษย์!

……

ผู้บำเพ็ญห้าดินแดนมีสีหน้าดีใจใหญ่ เกิดความรู้สึกรอดตายมาได้

ถึงอย่างไรหายนะครั้งนี้ก็น่ากลัวยิ่งนัก ทำให้คนสิ้นหวัง

ยังดีที่ห้าดินแดนมีรากฐานฝังลึก ปรากฏผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ถึงต้านหายนะไว้ได้

ราชาเซียนเอ้อไจถูกกำราบ ทำให้ทุกคนมองเห็นความหวัง

พวกเขาต่างปลงอนิจจังในใจอย่างยิ่ง

ศึกนี้ ห้าดินแดนต้องชนะ!

เสิ่นเทียนดวงตาวาววับ พ่นลมหายใจยาว

เผ่าวิญญาณร้ายมีกองกำลังใหญ่เช่นนี้ ทำให้เขาหวาดกลัวในใจ

ดีที่นี่คือยุคของการอาศัยใบบุญบิดา

มีบิดาเป็นที่พึ่งพิงเช่นนี้ ราชาเซียนแล้วอย่างไร

คิดว่าข้าเป็นมะเขือนิ่ม คิดจะบีบก็บีบได้รึ

เก่งจริงเจ้าก็ส่งมาอีกสิ

มาเท่าไร ทุบตีเท่านั้น!

เสิ่นเทียนพูดพึมพำ แขวะไม่หยุด

ในที่สุดความอัดอั้นในช่วงนี้ก็ได้ระบายออกไป

ถึงอย่างไรเผ่าวิญญาณร้ายก็ไร้คุณธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ส่งผู้แข็งแกร่งมามากขนาดนี้ รังแกคนที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิอย่างเขา!

ตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนจัดการพวกเขา

อืม เยี่ยมมาก!

……

ทว่าเสิ่นเทียนยังดีใจไม่เท่าไร สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป

หมัดยักษ์เชื่อมฟ้าชกลงมากลางอากาศ

หนักหมื่นชั่ง เหมือนดารานอกฟ้าตกลงมา ลำแสงหมัดปกคลุมโลก ทำลายทะเลดารา ทำลายดารานับพันนับหมื่นดวง

ด้านข้างยังมีเท้าใหญ่เชื่อมฟ้าอีกข้าง ข้ามมิติไร้ขอบเขตเหยียบเข้ามา

กลิ่นอายพลังนี้บ้าอำนาจเป็นหนึ่ง บ้าคลั่งถึงที่สุด

เหยียบท้องนภาแหลกเป็นเสี่ยงๆ

ผู้แข็งแกร่งสูงสุดมาอีกสองคน โจมตีใส่ราชาเซียนจื่อเวย

บึ้ม!

ฟ้าดินถล่มทลาย จักรวาลทะลุ!

กระดานหมากฟ้าขุ่นถูกโจมตีอย่างหนัก สั่นไหวอย่างรุนแรง

จักรวาลกว้างใหญ่ถูกทะลวงเป็นรูยักษ์สองรู

ราชาเซียนจื่อเวยตัวสั่นไหวอย่างแรง ก้าวถอยกรูดไป

เขามองอากาศด้วยสีหน้าจริงจัง

เห็นเพียงสองร่างเงาบินมาจากนอกฟ้า พวกเขาเหยียบอากาศ กดอัดธารสวรรค์ ทำให้จักรวาลสั่นไหว

ราชาเซียนจื่อเวยเอ่ยเสียงหนัก “ชางโม่ ตี้เอ้อ!”

เขารู้จักสองคนนี้ เป็นราชาเซียนชางโม่กับราชาเซียนตี้เอ้อแห่งเผ่าวิญญาณร้าย

สองคนนี้เป็นราชาเซียนสุดยอดเหมือนกัน กำลังรบไม่ด้อยไปกว่าเอ้อไจ!

ราชาเซียนมาเยือนฟ้าเก้าชั้น ทำให้ราชาเซียนจื่อเวยกดดันเป็นเท่าตัว

เอ้อไจมีสีหน้าดีใจใหญ่ “สหายทั้งสองมาได้จังหวะพอดีเลย! ฆ่ากายราชันมนุษย์ก่อน แล้วค่อยฆ่าจื่อเวย!”

ด้วยพลังของเอ้อไจคนเดียวไม่มีทางสังหารเสิ่นเทียนได้

ตอนนี้สองราชาเซียนมาถึง ความหวังจึงปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เอ้อไจไม่เชื่อว่ารวมพลังของสามราชาเซียนแล้วจะสังหารกายราชันมนุษย์กับราชาเซียนจื่อเวยไม่ได้

สองคนนี้มีอำนาจคุกคามต่อการรุกรานที่นี่ของเผ่าวิญญาณอย่างยิ่ง

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหาร!

…..

เมื่อได้ฟังคำพูดของเอ้อไจ ราชาเซียนจื่อเวยก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขาทำเสียงขึ้นจมูก “พวกเจ้าไม่เสียดายจ่ายไปอย่างมหาศาลเพื่ออะไรกัน”

แม้ปราการห้าดินแดนจะพังลงแล้ว แต่โลกเซียนก็ยังมีปราการอยู่

เผ่าวิญญาณร้ายเป็นสิ่งมีชีวิตต่างแดน เข้ามาโลกนี้จะถูกฟ้าดินต่อต้าน มหามรรคถูกกำราบ

ดังนั้นพวกเขาต้องจ่ายอย่างมหาศาลถึงจะเข้ามาได้

ผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียนเข้ามา ก็ต้องใช้ทรัพยากรอย่างมาก

อีกทั้งยังใช้วิญญาณร้ายจำนวนมากสังเวย เปิดเส้นทางเชื่อมฟ้า

ตอนนี้เผ่าวิญญาณร้ายส่งสามราชาเซียนมาเพื่อจัดการเสิ่นเทียน

การกระทำเช่นนี้ ยากจะจินตนาการได้จริงๆ

ราชาเซียนเอ้อไจเอ่ยอย่างเฉยชา “พวกข้าอยู่มานานมากแล้ว รากฐานของเผ่าข้าเกินกว่าที่พวกเจ้าจะจินตนาการได้ ขอแค่สังหารกายราชันมนุษย์ได้ เผ่าข้ายอมสละทุกอย่าง”

สามราชาเซียนเผยจิตสังหารท่วมท้น มีท่าทีตัดสินใจเด็ดขาด

ราชาเซียนจื่อเวยมีสีหน้าจริงจัง เกิดความกลัวในใจ

สามราชาเซียนร่วมมือกัน ด้วยสภาพในตอนนี้ยากจะรับมือได้

….

“สหายทั้งสอง ข้าจะขวางจื่อเวยไว้ พวกเจ้าไปฆ่ากายราชันมนุษย์!”

เอ้อไจแผดเสียงคำรามก่อนพุ่งไปหาราชาเซียนจื่อเวย

โลกนี้ คนที่รับมือกับราชาเซียนได้มีเพียงราชาเซียนจื่อเวย ขอแค่รั้งเขาไว้ กายราชันมนุษย์ต้องตายแน่

สองราชาเซียนพยักหน้าก่อนย่างก้าวไปหาเสิ่นเทียน

พวกเขามีแววตาแหลมคม ยิงแสงเทพสะท้านโลก ทะลวงท้องนภา

ราชาเซียนสองคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำให้ทั้งจักรวาลสั่นไหว จะพังทลายลง

เสิ่นเทียนขนลุก รู้สึกหัวใจจะระเบิด

กลิ่นอายพลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก ต้านไม่ได้เลย

นี่คือราชาเซียนที่สุดแห่งยุค ทำลายล้างที่นี่ได้ง่ายดาย

“เทียนเอ๋อร์ ระวัง!”

พระสนมหลานกับเยี่ยฉิงชางเบิกตาโต เกิดความเศร้าในใจ

พวกเขาพุ่งเข้ามาอย่างสุดความสามารถ ปรากฏว่าแม้แต่พลังราชาเซียนยังทะลวงไปไม่ได้ ถูกกระแทกถอยไปล้านลี้

“ไปให้พ้น!”

ราชาเซียนจื่อเวยคำรามด้วยความโกรธ ใช้ต้นกำเนิดอย่างไม่เสียดายก่อนจะฝ่าออกมา

เขามาพร้อมกับไอม่วงไม่มีสิ้นสุด กระแทกราชาเซียนเอ้อไจกระอักเลือด กายเนื้อระเบิดกระจาย

แต่เอ้อไจก็ยังไม่ถอย ฝืนรวมกายเนื้อขึ้นใหม่ รั้งจื่อเวยไว้สุดชีวิต

เขาหัวเราะเยาะ “จื่อเวย ไม่ว่าเจ้าจะมีความองอาจไร้พ่ายเพียงใด ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ วางใจเถอะ ฆ่ากายราชันมนุษย์แล้วก็จะเป็นตาของเจ้า!”

สามราชาเซียนร่วมมือกัน มั่นใจว่าต้องสังหารจื่อเวยได้แน่นอน!

….

สองราชาเซียนพุ่งเข้ามา

ทะลวงผ่านห้วงอากาศไม่มีสิ้นสุด วางท่าจะสังหารวิญญาณแท้เสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนหวาดกลัวอย่างยิ่ง ไม่ว่าสำแดงวิชาใดก็ต้านไม่ได้

พลังของสองฝ่ายต่างกันมากเกินไป ยากจะทดแทนกันได้

นี่คือสถานการณ์ต้องตาย!

ทว่าเสิ่นเทียนกลับมีแสงเทพไร้ขอบเขตวนเวียนรอบกาย สว่างจ้าถึงที่สุด

แหวนทองสัมฤทธิ์ลอยขึ้นเหมือนดวงตะวัน ประกายไฟร้อนแรง ส่องสะท้อนท้องนภา

พลันมีร่างเงาสะท้านโลกลอยขึ้นมากลางฟ้า

คนนี้ชุดคลุมขาวดั่งหิมะ เหนือธรรมดา

ปราณเบิกฟ้าวนเวียนรอบกาย โอหังเย็นชาดั่งหิมะ

นางมีความสง่างามเป็นที่สุด ไม่เป็นสองรองใคร เหนือกว่าเซียนนอกฟ้า

ทว่าคนนี้มีพลังน่ากลัวยิ่งนัก

นางไม่ใช่บุคคลอย่างเทพธิดาวารี แต่เป็นจักรพรรดินีที่ชำเลืองตามองอดีตจนถึงปัจจุบัน

คนนี้ปรากฏ ก็ฟันปราณกระบี่สะท้านฟ้า

แสงกระบี่สีเงินข้ามผ่านฟ้าดิน ทำลายการโจมตีของราชาเซียน

สองราชาเซียนตัวสั่นไหวเบาๆ มีสีหน้าตื่นกลัว “จักรพรรดินีรึ”

พวกเขาเหมือนเห็นการคงอยู่ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ใจสั่นสะท้าน

แต่จากนั้นราชาเซียนชางโม่ก็ตั้งสติกลับมาได้ ทำเสียงขึ้นจมูก “ก็แค่เงาสะท้อน!”

จักรพรรดินีร่างนี้มีพลังไม่แข็งแกร่ง ยังไม่ถึงขนาดที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัว

ถึงอย่างไร หากจักรพรรดินีมาเยือนด้วยตนเอง จะไปให้เวลาพวกเขาพูดได้อย่างไร จะต้องถูกสังหารทันที

นี่คือการคงอยู่สูงสุด ทำให้ราชาเซียนหนาวสั่น

ราชาเซียนตี้เอ้อเผยดวงตาน่ากลัว “แค่เงาสะท้อน ขวางเราไม่ได้หรอก! ตัวจริงจักรพรรดินีถูกการคงอยู่สูงสุดของเผ่าเราขังไว้ มาไม่ได้ วันนี้ กายราชันมนุษย์ต้องตาย!”

เผ่าวิญญาณร้ายวางกลอุบายไว้ก่อนแล้ว เชิญผู้แข็งแกร่งสูงสุดมาขวางจักรพรรดินีไว้

ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะกำเริบเสิบสานบุกมาโลกนี้อย่างไม่เกรงกลัวได้อย่างไร

เมื่อเห็นเงาสะท้อนจักรพรรดินี ราชาเซียนทั้งสองกลับไม่ได้ตกใจ

จักรพรรดินีเอ่ยราบเรียบ “วิชาของข้า ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะเข้าใจได้”

เมื่อเอ่ยจบ ร่างเงากลายเป็นแสงเทพมหามรรคไร้ที่สิ้นสุด พุ่งไปแปดทิศ

ทันใดนั้น ฟ้าดินถูกแสงเทพปกคลุม แสงสว่างจ้า

กฎเกณฑ์ลอยขึ้น ลำดับปะทุ!

มหามรรคมากมายถูกปลุกตื่น ส่องสะท้อนมหาโลก

เขตต้องห้ามชีวิตดินแดนบูรพายิงลำแสงสะท้านฟ้าขึ้นเมฆ ทะลวงฟ้าดิน

นั่นคือพลังที่กำเนิดจากมหามรรค เหนี่ยวนำต้นกำเนิดโลก

ไม่ใช่แค่ดินแดนบูรพา!

ป่าไร้ขอบเขตแห่งดินแดนทักษิณ แดนบรรพบุรุษพุทธศาสนาโบราณทะเลทรายประจิม ทะเลดาราเบิกฟ้าทะเลอุดร ในสะพานเชื่อมฟ้าดินแดนกลาง ล้วนปรากฏแสงเทพ

ลำแสงเทพห้าสายเชื่อมฟ้าดิน สร้างเป็นยอดค่ายกลสูงสุด เหนี่ยวนำต้นกำเนิดฟ้าดิน

แสงสว่างรวมกันกลายเป็นแสงสีสันหลากสีพุ่งใส่เสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนตัวสั่นอย่างแรง ถูกพลังต้นกำเนิดรอบกายปกคลุม

พลังเขาพลันเพิ่มขึ้น พุ่งขึ้นเป็นเส้นตรงด้วยความเร็วน่ากลัว

เตรียมจักรพรรดิ มหาจักรพรรดิ…ราชาเซียน!

เสิ่นเทียนระเบิดแสงเทพมากมาย ส่องสว่างจักรวาล

ตอนนี้ เขาให้ความรู้สึกเหมือนไม่ใช่ของโลกนี้ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตประวัติศาสตร์โบราณนี้ แต่ข้ามมาจากธารน้ำกาลเวลา

เมื่อเห็นภาพนี้ สามราชาเซียนต่างตื่นกลัว

พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าจักรพรรดินีจะใช้กลอุบายพลิกฟ้าเช่นนี้

ไม่ใช่ยกระดับพลังบำเพ็ญเสิ่นเทียนเป็นราชาเซียน แต่ให้เขายืมใช้ต้นกำเนิดโลก ได้กำลังรบราชาเซียน

แต่นี่ก็น่าตกใจสะท้านฟ้า เหนือเกินกว่าหลักการฟ้าดิน

….

แสงเทพมากมายเก็บเข้าไปข้างในช้าๆ

เสิ่นเทียนเดินหน้ามาพูดราบเรียบ “พวกเจ้าจะรุมข้ารึ เข้ามาได้เลย!”

ตี้เอ้อเผยแววตาเฉียบคม “เจ้าหนู อย่าคิดว่ามีกำลังรบเทียบเท่าราชาเซียนแล้วจะสู้ราชาเซียนได้ กำลังของราชาเซียนเหนือเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้!”

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “สู้ได้หรือไม่ได้ ลองดูก็รู้!”

“โอหัง!”

ราชาเซียนตี้เอ้อทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะพุ่งโจมตีเสิ่นเทียน

เขากำหมัด ตรงหมัดมีเงามารจระเข้ยักษ์วนเวียน กลืนกินฟ้าดิน

ราชาเซียนตี้เอ้อเป็นสัตว์ร้ายยักษ์ดึกดำบรรพ์ เคยกินจักรวาลหนึ่งทิศมาแล้ว

ตอนนี้เขาอาศัยพลังเชื่อมฟ้า จะบดขยี้เสิ่นเทียนให้แหลกเป็นผุยผง

ทว่าเสิ่นเทียนง้างหมัด ลากดาราล้านล้านดวงพุ่งไป

บึ้ม!

เงามายาจระเข้ยักษ์นั้นระเบิดกระจายเป็นเสี่ยงๆ

ราชาเซียนตี้เอ้อตัวสั่นอย่างแรง ถอยไปสิบล้านลี้

“อะไรกัน”

เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนที่เพิ่งกุมพลังของราชาเซียนจะน่ากลัวขนาดนี้!

ราชาเซียนชางโม่ด้านข้างก็บุกมาเช่นกัน

เขาออกมือ ในฝ่ามือมีดาราเวียนวน จักรวาลพังทลาย

ราชาเซียนชางโม่ยกฟ้าดินหนึ่งทิศกดทับใส่เสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนเรียกตราราชันมนุษย์ พลันปาไปข้างหน้า

ปัง!

ตราโบราณสีทองระเบิดกลิ่นอายพลังสะท้านโลก สังหารทุกสรรพสิ่ง!

ราชาเซียนชางโม่ฝ่ามือแตกกระจาย โลหิตสีทองเข้มหยดลงมา

ทุกหยดโลหิตจะกระแทกแผ่นดินแตกเป็นหลุมลึกไร้ก้น

“สมควรตาย!”

ราชาเซียนชางโม่หน้าเหยเก อยากจะรวมกายเนื้อขึ้นใหม่ ทว่าในตราราชันมนุษย์แฝงพลังสูงสุดของราชามนุษย์รุ่นหนึ่งไว้

พลังนี้เหนือเกินกว่าราชาเซียน ทำลายต้นกำเนิดเขา

ราชาเซียนชางโม่ไม่อาจฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ มือขาดไปเลย

“ฆ่า!”

ราชาเซียนตี้เอ้อพุ่งมาอีกครั้ง หมอกหนาทึบวนเวียนข้างหลัง

จระเข้ยักษ์คำรามดังสนั่นฟ้า อักขระมหามรรควนเวียนรอบกาย น่ากลัวถึงที่สุด

มันกลืนกินอากาศล้านลี้ พังตะวันจันทราและดารา งับใส่เสิ่นเทียน

ขณะเดียวกัน ราชาเซียนโม่ชางพุ่งขึ้นมา

เขาประสานมุทราสำแดงวิชาราชาเซียน ปรับแก้ลำดับฟ้าดิน

ดาบยักษ์เชื่อมฟ้าลอยขึ้นมาตรงหน้าราชาเซียนชางโม่

ดาบยักษ์รวมขึ้นจากอักขระมหามรรค แข็งแกร่งทนทาน ฟันลงที่ศีรษะเสิ่นเทียน

สองราชาเซียนร่วมมือกัน น่ากลัวสุดขีด

ต่อให้ยักษ์ใหญ่โลกเซียนมาเยือน ก็ยากจะต่อต้านได้

“กำราบ!”

เสิ่นเทียนเอ่ยอย่างเฉยชา ดวงตาลึกล้ำอย่างยิ่ง

เขาเรียกตำหนักราชันมนุษย์กับตราราชันมนุษย์ แปลงเป็นครอบฟ้า พันธนาการสองคนนี้ไว้

ขณะเดียวกัน แสงสว่างขึ้นข้างหลังเสิ่นเทียนล้านล้านจั้ง

ตัวเขาพลันขยายใหญ่ สูงค้ำฟ้าดิน แปลงกายเป็นเทพเจ้าผู้ปกครองโลก

อักขระมหามรรคไม่มีสิ้นสุดไหลมารวมกันเป็นขวานสงคราม

เสิ่นเทียนชูขวานขึ้นสูง ชี้ท้องฟ้าไกลๆ

“เบิก!”

ขวานสงครามชูขึ้น ยิงแสงเทพมากมาย

“ฟ้า!”

ฟ้าดินสั่นไหว รับอำนาจคุกคามไม่ไหว เริ่มพังทลาย!

“ผ่า!”

แสงสว่างจ้าถึงที่สุด ทำให้ทั้งฟ้าดินกลายเป็นซากปรักหักพัง

“ปฐพี!”

ขวานสงครามฟันลงอย่างแรง ระเบิดอำนาจเทพทำลายล้างโลก

ตอนนี้ ลำแสงขวานกลายเป็นนิรันดร์

สองราชาเซียนตื่นกลัวอย่างยิ่ง พวกเขารู้สึกถึงพลังทำลายล้าง

วิชาสะท้านโลกาเช่นนี้ มากพอจะสังหารพวกเขาได้

……

“ต้านไว้!”

ราชาเซียนคำรามด้วยความโกรธ สละต้นกำเนิดพลังอย่างไม่เสียดาย

กลิ่นอายชีวิตพวกเขาพลันลดลง กลายเป็นเหือดแห้ง

สองราชาเซียนทำทุกอย่าง แปลงเป็นอักขระมหามรรคต้านไว้

ทว่าภายใต้อำนาจเทพเบิกฟ้าเช่นนี้ ไม่อาจต้านไว้ได้เลย

ฟ้าดินพลันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ตัดธารน้ำยาวมหามรรค ทำลายล้างกฎเกณฑ์

สองราชาเซียนถูกถาโถมผ่านไป ร่างแข็งค้างอยู่กับที่

ตรงระหว่างคิ้วพวกเขาปรากฏเส้นสีเลือดสายหนึ่ง แต่ดวงตาไร้ประกายแสง วิญญาณแท้ถูกลบไปแล้ว

จากนั้นระหว่างคิ้วแยกออก เปล่งแสงเทพล้านล้านสาย!

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น!

กายเนื้อราชาเซียนพลันระเบิดกลายเป็นผุยผง

สองราชาเซียนสิ้นชีพไปนับจากนี้

พวกเขาแปลงเป็นโลหิตและกระดูก วิญญาณสิ้นไป

หมอกโลหิตมากมายตกมาจากฟ้า เหมือนเทพมารคำราม

นี่คือภาพการตายของราชาเซียน แม้แต่ฟ้าดินยังเศร้าโศก!

แต่ผู้บำเพ็ญห้าดินแดนไม่สนใจภาพนี้เลย

ราชาเซียนเอ้อไจตื่นกลัวอย่างยิ่ง แม้แต่วิญญาณยังตกใจ

เขาไม่คาดคิดเลยว่าสองราชาเซียนจะสิ้นชีพลงเช่นนี้!

ตายด้วยน้ำมือกายราชันมนุษย์ ไม่เหลือแม้แต่ซากศพ

ภาพนี้ทำให้ราชาเซียนตับและถุงน้ำดีแทบแตก

เขาเผยแววตาตื่นกลัว ไม่กล้าอยู่เลย

ทว่าราชาเซียนจื่อเวยอาศัยโอกาสนี้จู่โจม

เขาเรียกกระดานหมากฟ้าขุ่น บุกมาพร้อมกับพลังมหาศาล

“ไม่ อย่า!”

ราชาเซียนเอ้อไจแผดเสียงคำราม ตั้งตัวไม่ทันเลย

ทว่า ราชาเซียนจื่อเวยไม่ให้โอกาสเลย

เขาทะลวงผ่านกายเนื้อเอ้อไจ กระชากวิญญาณแท้ออกมากำราบ

ราชาเซียนหนึ่งยุค สิ้นชีพลงด้วยมือของจื่อเวย

…..

ภาพนี้สร้างความตื่นตกใจกับทุกคน

ไม่อยากเชื่อว่าวิกฤติที่ทำให้ชาวโลกสิ้นหวังจะผ่านพ้นไปเพราะเสิ่นเทียน

ศึกนี้ สามราชาเซียนเผ่าวิญญาณร้ายสิ้นชีพลงทั้งหมด!

เสิ่นเทียนคือผู้พิทักษ์โลกนี้อย่างแท้จริง!

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด