บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำทีท่าว่าจะไม่ยอม จะลากมารดาเถาลวี่จีออกมาแล้ว เสิ่นเทียนก็ปาดเหงื่อ

เขาไม่รู้ว่ามารดาเถาลวี่จียังมีส่วนเล็กๆ สองสามชุ่นนั้นหนีรอดไปได้ แต่คิดว่ามันโดนกินไปแล้ว

ตอนนี้ถ้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะควบคุมสายฟ้ากระจายไปทั่วหุบเขาหมอกลับแลแล้วหาอีกฝ่ายไม่เจอล่ะจะทำอย่างไร

ถ้าอย่างนั้น พวกเขาจะไม่สงสัยว่าข้าเป็นนางปีศาจชุดผู้หญิงนั่นหรือ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตกใจกลัว “อาจารย์ระงับโทสะ ระงับโทสะก่อน!”

ประกายเซียนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นขึ้น “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องร้อนใจ อาจารย์จะรับผิดชอบให้เจ้าเอง!”

มีคนปกป้องมันก็สบายอยู่หรอก แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนยังไม่อยากสบาย “อาจารย์ ช่างมันเถอะ! ถึงมารดาเถาลวี่จีจะเข้าใจผิดจับตัวข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายข้า ปล่อยนางไปเถอะ!”

จางอวิ๋นซีข้างกายขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดศิษย์น้องต้องช่วยพูดให้ปีศาจนั่นด้วย อีกทั้ง…ยังเหมือนมีอะไรแปลกๆ

ซี้ด~!

หรือว่าปีศาจนั่นจะใช้วิชามายาทำให้ศิษย์น้องลุ่มหลงกัน

เมื่อคิดได้ดังนั้น จางอวิ๋นซีก็แอบประสานมุทราแก้วิชามายาใส่เสิ่นเทียน

อ๊าก ฟิน~

เสิ่นเทียนรู้สึกเบาไปทั้งตัว สบายไปทั่วร่าง

จางอวิ๋นซีถาม “ศิษย์น้องมั่นใจนะว่าจะปล่อยนางไป”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “อาจารย์เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ คำพูดมีน้ำหนัก จะให้กลืนคำพูดง่ายๆ ได้อย่างไรกัน ตอนที่ปีศาจนั่นปล่อยข้ายังบอกว่าหุบเขานี่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแห่งหนึ่ง ยินดีจะให้ข้าเป็นการชดเชย”

พอได้ยินว่ามีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ นักพรตชราก็ตาแดงขึ้นมา “เหมืองแร่ศิลาวิญญาณรึ มันใหญ่เท่าใด หนาเท่าใด มีค่าพอหรือไม่”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “น่าจะไม่เล็ก ถึงอย่างไรก็พอให้มารดาเถาลวี่จีใช้ฝึกบำเพ็ญจนเป็นจอมปีศาจเช่นนี้ได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนลึกๆ “นางยินดีมอบเหมืองแร่นั้นให้เจ้าจริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนพยักหน้าอย่างขาดความมั่นใจเล็กน้อย “อาจจะเพราะ…นางใจฝ่อกระมัง! ศิษย์ยินดีมอบเหมืองแร่นี้ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการขอบคุณที่อาจารย์มาช่วยในวันนี้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ในเมื่อเป็นของชดเชยให้เจ้าก็ต้องเป็นของเจ้าทั้งหมด แดนศักดิ์สิทธิ์รับไว้ไม่ได้ ช่างเถอะ ในเมื่อปีศาจนั่นขอโทษจากใจจริง ข้าก็จะให้โอกาสมันสักครั้ง วันนี้จะปล่อยมันไปก่อน

หากภายภาคหน้าปีศาจนี่ก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และคนยังเคียดแค้นละก็ ข้าจะไม่ปล่อยมันไปแน่!”

เมื่อกล่าวจบ สายฟ้าทั่วฟ้านั้นก็ค่อยๆ จางหายไป

เถาน้อยสองชุ่นบนที่ราบไกลๆ ถอนหายใจโล่งอก

ทำข้าตกใจแทบแย่ ก็คิดว่าสวรรค์จะส่งสายฟ้ามาผ่าข้าเสียอีก!

สวรรค์ไม่มีทางเล่นงานข้าได้เต็มที่จริงๆ เหอะๆ มันก็มีแค่นี้แหละ! ข้าบรรลุนิพพานแล้ว แม้ของเหลววิญญาณนิพพานจะโดนนางหญิงสารชั่วนั่นเอาไปหมด แต่แก่นแท้สายเลือดของข้ายังอยู่ ขอแค่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณช่วย ไม่ช้าก็เร็วต้องฝึกฝนกลับมาได้แน่!

ชะตาข้าข้าลิขิตเองมิใช่สวรรค์ลิขิต รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี จะพลิกฟ้าแก้ดวงชะตากลับมาอีกครั้ง!

เถาน้อยกำลังเพ้อฝันว่าหลังฝึกบำเพ็ญใหม่แล้วจะท่องแดนบูรพา กำราบเผ่ามนุษย์!

ทันใดนั้นสีเถาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งเถาเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะมันเป็นร่างเงาที่หุ้มด้วยสายฟ้าประกายเซียนร่างหนึ่งลอยขึ้นและพุ่งมาทางมัน

นั่นคือบุรุษผู้องอาจห้าวหาญ ใบหน้าถูกบดบังไว้หมด มองไม่เห็นเลย แต่เถาน้อยรู้สึกได้ว่าเจ้านี่แกร่งมาก!

ต่อให้เป็นมารดาเถาลวี่จีก่อนบรรลุนิพพานก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้บุรุษคนนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเถาน้อยตอนนี้ที่พลังบำเพ็ญเหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนหมื่น แม้แต่ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดายังลำบาก

‘บัดซบ เหตุใดผู้อริยะเผ่ามนุษย์ถึงชอบบุกมาที่ราบหมอกลับแลของข้าจริง มันจะรังแกเถาเกินไปแล้ว! รอก่อนเถอะ! รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี กล้าพูดเลยว่าพวกเจ้ารอลงนรกได้เลย!’

มารดาเถาลวี่จีกำลังด่าสาปในใจ พลันรู้สึกว่าก้นเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา มันรู้สึกว่าข้างใต้ตนมีวัตถุมหึมากำลังขยับยึกยือไปมาไม่หยุด ดูรุนแรงมาก

ลางสังหรณ์เลวร้ายแผ่ซ่านไปทั่วร่างเถาน้อย ทำให้มันไม่สบายตัวเลย

ผู้อริยะเผ่ามนุษย์สารเลวนี่กำลังทำอะไร นี่จะฉวยโอกาสกันรึ!

เหมืองแร่ผลึกสีเขียวยักษ์ถูกดึงขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยอยู่กลางอากาศ มันเหมือนกับมังกรฟ้า แผ่พลังวิญญาณเข้มข้นทุกส่วน ทำให้คนที่แค่เข้าใกล้ก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว

นี่ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้ยอดวิชาดึงเหมืองแร่ศิลาวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลขึ้นมา กล่าวได้ว่าเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้มีค่าไม่เบาเลย เรียกได้ว่าสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้!

ลำพังแค่ศิลาวิญญาณสำเร็จรูปในเหมืองแร่ตอนนี้ก็มากพอจะซื้ออาณาจักรใหญ่ๆ ได้หลายอาณาจักรแล้ว และที่สำคัญกว่านั้นคือในเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแฝงไว้ด้วยความลี้ลับ สามารถดูดพลังวิญญาณที่ลอยอยู่ในฟ้าดินได้

ถ้าย้ายเหมืองแร่ศิลาวิญญาณไปไว้ในฝ่ายเซียนจะทำให้พลังวิญญาณฟ้าดินในฝ่ายเซียนเต็มเปี่ยมมากขึ้น

นี่มีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมการฝึกบำเพ็ญของทั้งฝ่ายเซียนอย่างมาก

………

ตอนนี้นักพรตชราข้างๆ ปวดร้าวแล้ว

ดมเหมืองแร่วิญญาณนี้แล้วหอมมาก!

อยากจะดูดกินมันให้แห้งเลย!

เหตุใดข้าถึงไม่รับเจ้าหนูเสิ่นเทียนเป็นศิษย์กัน ถ้าไม่อย่างนั้นเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้ก็คงจะมีส่วนแบ่งของข้าสามถึงห้าส่วนกระมัง!

ใช่ ตอนนี้นักพรตชราอิจฉามาก ปวดร้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่เป็นบ้าที่สุด คนที่เป็นบ้าที่สุดไม่ใช่คน แต่เป็นเถาน้อยต้นหนึ่ง มันกระโดดลงกลางหลุมดินเว้านั้น

มันมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณมหึมายิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศ ของเหลวสีขาวขุ่นสองสายไหลลงมาช้าๆ เถาน้อยรู้สึกว่าทั้งโลกมืดมิดไร้แสงสว่างแล้ว

หมดเลย เหมืองแร่ศิลาวิญญาณหายไปทั้งหมด ไม่เหลือสักก้อน

เจ้ามนุษย์ พวกเจ้าสารเลวเกินไปแล้ว!

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสุราเหลวเซียนของข้าช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเจ้ายังจะยึดกระทั่งเหมืองแร่ศิลาวิญญาณของข้าด้วยรึ

ข้าไม่ใช่คนก็จริง แต่พวกเจ้ามันเป็นสุนัขจริงๆ

พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวกรรมตามสนองรึ

ฮือ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!

เถาน้อยเหม่อมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ

มันมองเหมืองแร่จากไป แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และเคียดแค้น

น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ถึงความเคียดแค้นของมัน เพราะจิ่วเอ๋อร์ก็ไปไกลมากแล้วเช่นกัน

……..

เหมืองแร่ศิลาวิญญาณยักษ์ค่อยๆ เล็กลงในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สุดท้ายเหลือเพียงเท่าฝ่ามือ

นั่นคือทักษะมิติอันลี้ลับ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอาเหมืองแร่ใส่ไปในมิติ หดมิติลง

ทักษะเช่นนี้มีวิธีการต่างกันกับตอนนั้นที่นักพรตชราย่อส่วนพญาอินทรีปีกทองแต่ก็ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการจะย่อเหมืองแร่นี้ง่ายกว่าย่อส่วนพญาอินทรีมาก

“เทียนเอ๋อร์ กลับไปข้าจะใส่ไว้ในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “จากนี้ไปยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะมีเหมืองแร่สองเหมือง ศิลาวิญญาณที่ขุดมาจากเหมืองแร่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเหมืองแร่นี้เป็นของเจ้า”

เสิ่นเทียนตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างคาดไม่ถึง ความจริงตอนแรกเขาว่าจะยกเหมืองแร่ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนธงชัยใหม่ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังต้องอาศัยแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าได้แบ่งสามถึงห้าส่วนก็กำไรเลือดสาดแล้ว

แต่เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมอบเหมืองแร่ให้เขา

สวรรค์ เหตุใดโลกนี้ถึงมีผู้นำดีเช่นนี้

ซาบซึ้งใจ ฉากนี้ช่างน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก!

เสิ่นเทียนเลือดเดือดพล่านขึ้นมา “อาจารย์ นี่จะได้อย่างไรกัน!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “มีอะไรไม่ได้กัน ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่อยู่แล้ว เจ้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต จะเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเอง พลังของแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือพลังของเจ้า มิหนำซ้ำเดิมทีนี่เป็นโชคลิขิตของเจ้า ดังนั้นไม่ต้องทำเป็นตัวเป็นเด็กสาวน้อย

ภายภาคหน้าถ้าเจ้าสำเร็จมรรคเป็นเซียน แดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมได้รับเกียรติยศร่วมด้วย นี่จะเทียบกับเหมืองแร่เล็กๆ แค่นี้ได้รึ”

นักพรตชราข้างกายได้ฟังคำพูดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้วก็ปวดร้าวในใจจนฟันร่วง

นักพรตชราก็อยากมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเองเช่นกัน เหตุใดถึงไม่ได้ล่ะ

ทุกครั้งที่เอาศิลาวิญญาณนิดหน่อยมาจากในบ้าน ก็ยังมาด่าข้า!

ศิษย์น้องรอง เจ้ามันลำเอียงเกินไปแล้ว!

……

ช่วงที่ทุกคนบ้างดีใจบ้างปวดร้าวนั้น ป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พลันสั่นอย่างรุนแรง

เสียงของจางอวิ๋นถิงดังมาจากในป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ว่า “ท่านพ่อๆ ข้าอวิ๋นถิงเอง ได้ยินหรือไม่ท่านพ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เมื่อวานซืนศิษย์พี่ใหญ่ตระหนักรู้พอดี จึงอยากจะปิดด่านทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้า แต่วันนี้จู่ๆ เขาก็ธาตุไฟเข้าแทรก แก่นพลังทอง…แตกละเอียดแล้ว!”

………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำทีท่าว่าจะไม่ยอม จะลากมารดาเถาลวี่จีออกมาแล้ว เสิ่นเทียนก็ปาดเหงื่อ

เขาไม่รู้ว่ามารดาเถาลวี่จียังมีส่วนเล็กๆ สองสามชุ่นนั้นหนีรอดไปได้ แต่คิดว่ามันโดนกินไปแล้ว

ตอนนี้ถ้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะควบคุมสายฟ้ากระจายไปทั่วหุบเขาหมอกลับแลแล้วหาอีกฝ่ายไม่เจอล่ะจะทำอย่างไร

ถ้าอย่างนั้น พวกเขาจะไม่สงสัยว่าข้าเป็นนางปีศาจชุดผู้หญิงนั่นหรือ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตกใจกลัว “อาจารย์ระงับโทสะ ระงับโทสะก่อน!”

ประกายเซียนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นขึ้น “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องร้อนใจ อาจารย์จะรับผิดชอบให้เจ้าเอง!”

มีคนปกป้องมันก็สบายอยู่หรอก แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนยังไม่อยากสบาย “อาจารย์ ช่างมันเถอะ! ถึงมารดาเถาลวี่จีจะเข้าใจผิดจับตัวข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายข้า ปล่อยนางไปเถอะ!”

จางอวิ๋นซีข้างกายขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดศิษย์น้องต้องช่วยพูดให้ปีศาจนั่นด้วย อีกทั้ง…ยังเหมือนมีอะไรแปลกๆ

ซี้ด~!

หรือว่าปีศาจนั่นจะใช้วิชามายาทำให้ศิษย์น้องลุ่มหลงกัน

เมื่อคิดได้ดังนั้น จางอวิ๋นซีก็แอบประสานมุทราแก้วิชามายาใส่เสิ่นเทียน

อ๊าก ฟิน~

เสิ่นเทียนรู้สึกเบาไปทั้งตัว สบายไปทั่วร่าง

จางอวิ๋นซีถาม “ศิษย์น้องมั่นใจนะว่าจะปล่อยนางไป”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “อาจารย์เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ คำพูดมีน้ำหนัก จะให้กลืนคำพูดง่ายๆ ได้อย่างไรกัน ตอนที่ปีศาจนั่นปล่อยข้ายังบอกว่าหุบเขานี่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแห่งหนึ่ง ยินดีจะให้ข้าเป็นการชดเชย”

พอได้ยินว่ามีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ นักพรตชราก็ตาแดงขึ้นมา “เหมืองแร่ศิลาวิญญาณรึ มันใหญ่เท่าใด หนาเท่าใด มีค่าพอหรือไม่”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “น่าจะไม่เล็ก ถึงอย่างไรก็พอให้มารดาเถาลวี่จีใช้ฝึกบำเพ็ญจนเป็นจอมปีศาจเช่นนี้ได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนลึกๆ “นางยินดีมอบเหมืองแร่นั้นให้เจ้าจริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนพยักหน้าอย่างขาดความมั่นใจเล็กน้อย “อาจจะเพราะ…นางใจฝ่อกระมัง! ศิษย์ยินดีมอบเหมืองแร่นี้ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการขอบคุณที่อาจารย์มาช่วยในวันนี้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ในเมื่อเป็นของชดเชยให้เจ้าก็ต้องเป็นของเจ้าทั้งหมด แดนศักดิ์สิทธิ์รับไว้ไม่ได้ ช่างเถอะ ในเมื่อปีศาจนั่นขอโทษจากใจจริง ข้าก็จะให้โอกาสมันสักครั้ง วันนี้จะปล่อยมันไปก่อน

หากภายภาคหน้าปีศาจนี่ก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และคนยังเคียดแค้นละก็ ข้าจะไม่ปล่อยมันไปแน่!”

เมื่อกล่าวจบ สายฟ้าทั่วฟ้านั้นก็ค่อยๆ จางหายไป

เถาน้อยสองชุ่นบนที่ราบไกลๆ ถอนหายใจโล่งอก

ทำข้าตกใจแทบแย่ ก็คิดว่าสวรรค์จะส่งสายฟ้ามาผ่าข้าเสียอีก!

สวรรค์ไม่มีทางเล่นงานข้าได้เต็มที่จริงๆ เหอะๆ มันก็มีแค่นี้แหละ! ข้าบรรลุนิพพานแล้ว แม้ของเหลววิญญาณนิพพานจะโดนนางหญิงสารชั่วนั่นเอาไปหมด แต่แก่นแท้สายเลือดของข้ายังอยู่ ขอแค่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณช่วย ไม่ช้าก็เร็วต้องฝึกฝนกลับมาได้แน่!

ชะตาข้าข้าลิขิตเองมิใช่สวรรค์ลิขิต รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี จะพลิกฟ้าแก้ดวงชะตากลับมาอีกครั้ง!

เถาน้อยกำลังเพ้อฝันว่าหลังฝึกบำเพ็ญใหม่แล้วจะท่องแดนบูรพา กำราบเผ่ามนุษย์!

ทันใดนั้นสีเถาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งเถาเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะมันเป็นร่างเงาที่หุ้มด้วยสายฟ้าประกายเซียนร่างหนึ่งลอยขึ้นและพุ่งมาทางมัน

นั่นคือบุรุษผู้องอาจห้าวหาญ ใบหน้าถูกบดบังไว้หมด มองไม่เห็นเลย แต่เถาน้อยรู้สึกได้ว่าเจ้านี่แกร่งมาก!

ต่อให้เป็นมารดาเถาลวี่จีก่อนบรรลุนิพพานก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้บุรุษคนนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเถาน้อยตอนนี้ที่พลังบำเพ็ญเหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนหมื่น แม้แต่ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดายังลำบาก

‘บัดซบ เหตุใดผู้อริยะเผ่ามนุษย์ถึงชอบบุกมาที่ราบหมอกลับแลของข้าจริง มันจะรังแกเถาเกินไปแล้ว! รอก่อนเถอะ! รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี กล้าพูดเลยว่าพวกเจ้ารอลงนรกได้เลย!’

มารดาเถาลวี่จีกำลังด่าสาปในใจ พลันรู้สึกว่าก้นเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา มันรู้สึกว่าข้างใต้ตนมีวัตถุมหึมากำลังขยับยึกยือไปมาไม่หยุด ดูรุนแรงมาก

ลางสังหรณ์เลวร้ายแผ่ซ่านไปทั่วร่างเถาน้อย ทำให้มันไม่สบายตัวเลย

ผู้อริยะเผ่ามนุษย์สารเลวนี่กำลังทำอะไร นี่จะฉวยโอกาสกันรึ!

เหมืองแร่ผลึกสีเขียวยักษ์ถูกดึงขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยอยู่กลางอากาศ มันเหมือนกับมังกรฟ้า แผ่พลังวิญญาณเข้มข้นทุกส่วน ทำให้คนที่แค่เข้าใกล้ก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว

นี่ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้ยอดวิชาดึงเหมืองแร่ศิลาวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลขึ้นมา กล่าวได้ว่าเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้มีค่าไม่เบาเลย เรียกได้ว่าสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้!

ลำพังแค่ศิลาวิญญาณสำเร็จรูปในเหมืองแร่ตอนนี้ก็มากพอจะซื้ออาณาจักรใหญ่ๆ ได้หลายอาณาจักรแล้ว และที่สำคัญกว่านั้นคือในเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแฝงไว้ด้วยความลี้ลับ สามารถดูดพลังวิญญาณที่ลอยอยู่ในฟ้าดินได้

ถ้าย้ายเหมืองแร่ศิลาวิญญาณไปไว้ในฝ่ายเซียนจะทำให้พลังวิญญาณฟ้าดินในฝ่ายเซียนเต็มเปี่ยมมากขึ้น

นี่มีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมการฝึกบำเพ็ญของทั้งฝ่ายเซียนอย่างมาก

………

ตอนนี้นักพรตชราข้างๆ ปวดร้าวแล้ว

ดมเหมืองแร่วิญญาณนี้แล้วหอมมาก!

อยากจะดูดกินมันให้แห้งเลย!

เหตุใดข้าถึงไม่รับเจ้าหนูเสิ่นเทียนเป็นศิษย์กัน ถ้าไม่อย่างนั้นเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้ก็คงจะมีส่วนแบ่งของข้าสามถึงห้าส่วนกระมัง!

ใช่ ตอนนี้นักพรตชราอิจฉามาก ปวดร้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่เป็นบ้าที่สุด คนที่เป็นบ้าที่สุดไม่ใช่คน แต่เป็นเถาน้อยต้นหนึ่ง มันกระโดดลงกลางหลุมดินเว้านั้น

มันมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณมหึมายิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศ ของเหลวสีขาวขุ่นสองสายไหลลงมาช้าๆ เถาน้อยรู้สึกว่าทั้งโลกมืดมิดไร้แสงสว่างแล้ว

หมดเลย เหมืองแร่ศิลาวิญญาณหายไปทั้งหมด ไม่เหลือสักก้อน

เจ้ามนุษย์ พวกเจ้าสารเลวเกินไปแล้ว!

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสุราเหลวเซียนของข้าช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเจ้ายังจะยึดกระทั่งเหมืองแร่ศิลาวิญญาณของข้าด้วยรึ

ข้าไม่ใช่คนก็จริง แต่พวกเจ้ามันเป็นสุนัขจริงๆ

พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวกรรมตามสนองรึ

ฮือ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!

เถาน้อยเหม่อมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ

มันมองเหมืองแร่จากไป แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และเคียดแค้น

น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ถึงความเคียดแค้นของมัน เพราะจิ่วเอ๋อร์ก็ไปไกลมากแล้วเช่นกัน

……..

เหมืองแร่ศิลาวิญญาณยักษ์ค่อยๆ เล็กลงในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สุดท้ายเหลือเพียงเท่าฝ่ามือ

นั่นคือทักษะมิติอันลี้ลับ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอาเหมืองแร่ใส่ไปในมิติ หดมิติลง

ทักษะเช่นนี้มีวิธีการต่างกันกับตอนนั้นที่นักพรตชราย่อส่วนพญาอินทรีปีกทองแต่ก็ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการจะย่อเหมืองแร่นี้ง่ายกว่าย่อส่วนพญาอินทรีมาก

“เทียนเอ๋อร์ กลับไปข้าจะใส่ไว้ในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “จากนี้ไปยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะมีเหมืองแร่สองเหมือง ศิลาวิญญาณที่ขุดมาจากเหมืองแร่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเหมืองแร่นี้เป็นของเจ้า”

เสิ่นเทียนตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างคาดไม่ถึง ความจริงตอนแรกเขาว่าจะยกเหมืองแร่ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนธงชัยใหม่ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังต้องอาศัยแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าได้แบ่งสามถึงห้าส่วนก็กำไรเลือดสาดแล้ว

แต่เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมอบเหมืองแร่ให้เขา

สวรรค์ เหตุใดโลกนี้ถึงมีผู้นำดีเช่นนี้

ซาบซึ้งใจ ฉากนี้ช่างน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก!

เสิ่นเทียนเลือดเดือดพล่านขึ้นมา “อาจารย์ นี่จะได้อย่างไรกัน!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “มีอะไรไม่ได้กัน ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่อยู่แล้ว เจ้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต จะเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเอง พลังของแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือพลังของเจ้า มิหนำซ้ำเดิมทีนี่เป็นโชคลิขิตของเจ้า ดังนั้นไม่ต้องทำเป็นตัวเป็นเด็กสาวน้อย

ภายภาคหน้าถ้าเจ้าสำเร็จมรรคเป็นเซียน แดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมได้รับเกียรติยศร่วมด้วย นี่จะเทียบกับเหมืองแร่เล็กๆ แค่นี้ได้รึ”

นักพรตชราข้างกายได้ฟังคำพูดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้วก็ปวดร้าวในใจจนฟันร่วง

นักพรตชราก็อยากมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเองเช่นกัน เหตุใดถึงไม่ได้ล่ะ

ทุกครั้งที่เอาศิลาวิญญาณนิดหน่อยมาจากในบ้าน ก็ยังมาด่าข้า!

ศิษย์น้องรอง เจ้ามันลำเอียงเกินไปแล้ว!

……

ช่วงที่ทุกคนบ้างดีใจบ้างปวดร้าวนั้น ป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พลันสั่นอย่างรุนแรง

เสียงของจางอวิ๋นถิงดังมาจากในป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ว่า “ท่านพ่อๆ ข้าอวิ๋นถิงเอง ได้ยินหรือไม่ท่านพ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เมื่อวานซืนศิษย์พี่ใหญ่ตระหนักรู้พอดี จึงอยากจะปิดด่านทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้า แต่วันนี้จู่ๆ เขาก็ธาตุไฟเข้าแทรก แก่นพลังทอง…แตกละเอียดแล้ว!”

………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำทีท่าว่าจะไม่ยอม จะลากมารดาเถาลวี่จีออกมาแล้ว เสิ่นเทียนก็ปาดเหงื่อ

เขาไม่รู้ว่ามารดาเถาลวี่จียังมีส่วนเล็กๆ สองสามชุ่นนั้นหนีรอดไปได้ แต่คิดว่ามันโดนกินไปแล้ว

ตอนนี้ถ้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะควบคุมสายฟ้ากระจายไปทั่วหุบเขาหมอกลับแลแล้วหาอีกฝ่ายไม่เจอล่ะจะทำอย่างไร

ถ้าอย่างนั้น พวกเขาจะไม่สงสัยว่าข้าเป็นนางปีศาจชุดผู้หญิงนั่นหรือ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตกใจกลัว “อาจารย์ระงับโทสะ ระงับโทสะก่อน!”

ประกายเซียนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นขึ้น “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องร้อนใจ อาจารย์จะรับผิดชอบให้เจ้าเอง!”

มีคนปกป้องมันก็สบายอยู่หรอก แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนยังไม่อยากสบาย “อาจารย์ ช่างมันเถอะ! ถึงมารดาเถาลวี่จีจะเข้าใจผิดจับตัวข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายข้า ปล่อยนางไปเถอะ!”

จางอวิ๋นซีข้างกายขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดศิษย์น้องต้องช่วยพูดให้ปีศาจนั่นด้วย อีกทั้ง…ยังเหมือนมีอะไรแปลกๆ

ซี้ด~!

หรือว่าปีศาจนั่นจะใช้วิชามายาทำให้ศิษย์น้องลุ่มหลงกัน

เมื่อคิดได้ดังนั้น จางอวิ๋นซีก็แอบประสานมุทราแก้วิชามายาใส่เสิ่นเทียน

อ๊าก ฟิน~

เสิ่นเทียนรู้สึกเบาไปทั้งตัว สบายไปทั่วร่าง

จางอวิ๋นซีถาม “ศิษย์น้องมั่นใจนะว่าจะปล่อยนางไป”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “อาจารย์เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ คำพูดมีน้ำหนัก จะให้กลืนคำพูดง่ายๆ ได้อย่างไรกัน ตอนที่ปีศาจนั่นปล่อยข้ายังบอกว่าหุบเขานี่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแห่งหนึ่ง ยินดีจะให้ข้าเป็นการชดเชย”

พอได้ยินว่ามีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ นักพรตชราก็ตาแดงขึ้นมา “เหมืองแร่ศิลาวิญญาณรึ มันใหญ่เท่าใด หนาเท่าใด มีค่าพอหรือไม่”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “น่าจะไม่เล็ก ถึงอย่างไรก็พอให้มารดาเถาลวี่จีใช้ฝึกบำเพ็ญจนเป็นจอมปีศาจเช่นนี้ได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนลึกๆ “นางยินดีมอบเหมืองแร่นั้นให้เจ้าจริงๆ รึ”

เสิ่นเทียนพยักหน้าอย่างขาดความมั่นใจเล็กน้อย “อาจจะเพราะ…นางใจฝ่อกระมัง! ศิษย์ยินดีมอบเหมืองแร่นี้ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการขอบคุณที่อาจารย์มาช่วยในวันนี้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ในเมื่อเป็นของชดเชยให้เจ้าก็ต้องเป็นของเจ้าทั้งหมด แดนศักดิ์สิทธิ์รับไว้ไม่ได้ ช่างเถอะ ในเมื่อปีศาจนั่นขอโทษจากใจจริง ข้าก็จะให้โอกาสมันสักครั้ง วันนี้จะปล่อยมันไปก่อน

หากภายภาคหน้าปีศาจนี่ก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และคนยังเคียดแค้นละก็ ข้าจะไม่ปล่อยมันไปแน่!”

เมื่อกล่าวจบ สายฟ้าทั่วฟ้านั้นก็ค่อยๆ จางหายไป

เถาน้อยสองชุ่นบนที่ราบไกลๆ ถอนหายใจโล่งอก

ทำข้าตกใจแทบแย่ ก็คิดว่าสวรรค์จะส่งสายฟ้ามาผ่าข้าเสียอีก!

สวรรค์ไม่มีทางเล่นงานข้าได้เต็มที่จริงๆ เหอะๆ มันก็มีแค่นี้แหละ! ข้าบรรลุนิพพานแล้ว แม้ของเหลววิญญาณนิพพานจะโดนนางหญิงสารชั่วนั่นเอาไปหมด แต่แก่นแท้สายเลือดของข้ายังอยู่ ขอแค่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณช่วย ไม่ช้าก็เร็วต้องฝึกฝนกลับมาได้แน่!

ชะตาข้าข้าลิขิตเองมิใช่สวรรค์ลิขิต รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี จะพลิกฟ้าแก้ดวงชะตากลับมาอีกครั้ง!

เถาน้อยกำลังเพ้อฝันว่าหลังฝึกบำเพ็ญใหม่แล้วจะท่องแดนบูรพา กำราบเผ่ามนุษย์!

ทันใดนั้นสีเถาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งเถาเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะมันเป็นร่างเงาที่หุ้มด้วยสายฟ้าประกายเซียนร่างหนึ่งลอยขึ้นและพุ่งมาทางมัน

นั่นคือบุรุษผู้องอาจห้าวหาญ ใบหน้าถูกบดบังไว้หมด มองไม่เห็นเลย แต่เถาน้อยรู้สึกได้ว่าเจ้านี่แกร่งมาก!

ต่อให้เป็นมารดาเถาลวี่จีก่อนบรรลุนิพพานก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้บุรุษคนนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเถาน้อยตอนนี้ที่พลังบำเพ็ญเหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนหมื่น แม้แต่ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดายังลำบาก

‘บัดซบ เหตุใดผู้อริยะเผ่ามนุษย์ถึงชอบบุกมาที่ราบหมอกลับแลของข้าจริง มันจะรังแกเถาเกินไปแล้ว! รอก่อนเถอะ! รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี กล้าพูดเลยว่าพวกเจ้ารอลงนรกได้เลย!’

มารดาเถาลวี่จีกำลังด่าสาปในใจ พลันรู้สึกว่าก้นเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา มันรู้สึกว่าข้างใต้ตนมีวัตถุมหึมากำลังขยับยึกยือไปมาไม่หยุด ดูรุนแรงมาก

ลางสังหรณ์เลวร้ายแผ่ซ่านไปทั่วร่างเถาน้อย ทำให้มันไม่สบายตัวเลย

ผู้อริยะเผ่ามนุษย์สารเลวนี่กำลังทำอะไร นี่จะฉวยโอกาสกันรึ!

เหมืองแร่ผลึกสีเขียวยักษ์ถูกดึงขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยอยู่กลางอากาศ มันเหมือนกับมังกรฟ้า แผ่พลังวิญญาณเข้มข้นทุกส่วน ทำให้คนที่แค่เข้าใกล้ก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว

นี่ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้ยอดวิชาดึงเหมืองแร่ศิลาวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลขึ้นมา กล่าวได้ว่าเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้มีค่าไม่เบาเลย เรียกได้ว่าสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้!

ลำพังแค่ศิลาวิญญาณสำเร็จรูปในเหมืองแร่ตอนนี้ก็มากพอจะซื้ออาณาจักรใหญ่ๆ ได้หลายอาณาจักรแล้ว และที่สำคัญกว่านั้นคือในเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแฝงไว้ด้วยความลี้ลับ สามารถดูดพลังวิญญาณที่ลอยอยู่ในฟ้าดินได้

ถ้าย้ายเหมืองแร่ศิลาวิญญาณไปไว้ในฝ่ายเซียนจะทำให้พลังวิญญาณฟ้าดินในฝ่ายเซียนเต็มเปี่ยมมากขึ้น

นี่มีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมการฝึกบำเพ็ญของทั้งฝ่ายเซียนอย่างมาก

………

ตอนนี้นักพรตชราข้างๆ ปวดร้าวแล้ว

ดมเหมืองแร่วิญญาณนี้แล้วหอมมาก!

อยากจะดูดกินมันให้แห้งเลย!

เหตุใดข้าถึงไม่รับเจ้าหนูเสิ่นเทียนเป็นศิษย์กัน ถ้าไม่อย่างนั้นเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้ก็คงจะมีส่วนแบ่งของข้าสามถึงห้าส่วนกระมัง!

ใช่ ตอนนี้นักพรตชราอิจฉามาก ปวดร้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่เป็นบ้าที่สุด คนที่เป็นบ้าที่สุดไม่ใช่คน แต่เป็นเถาน้อยต้นหนึ่ง มันกระโดดลงกลางหลุมดินเว้านั้น

มันมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณมหึมายิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศ ของเหลวสีขาวขุ่นสองสายไหลลงมาช้าๆ เถาน้อยรู้สึกว่าทั้งโลกมืดมิดไร้แสงสว่างแล้ว

หมดเลย เหมืองแร่ศิลาวิญญาณหายไปทั้งหมด ไม่เหลือสักก้อน

เจ้ามนุษย์ พวกเจ้าสารเลวเกินไปแล้ว!

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสุราเหลวเซียนของข้าช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเจ้ายังจะยึดกระทั่งเหมืองแร่ศิลาวิญญาณของข้าด้วยรึ

ข้าไม่ใช่คนก็จริง แต่พวกเจ้ามันเป็นสุนัขจริงๆ

พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวกรรมตามสนองรึ

ฮือ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!

เถาน้อยเหม่อมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ

มันมองเหมืองแร่จากไป แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และเคียดแค้น

น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ถึงความเคียดแค้นของมัน เพราะจิ่วเอ๋อร์ก็ไปไกลมากแล้วเช่นกัน

……..

เหมืองแร่ศิลาวิญญาณยักษ์ค่อยๆ เล็กลงในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สุดท้ายเหลือเพียงเท่าฝ่ามือ

นั่นคือทักษะมิติอันลี้ลับ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอาเหมืองแร่ใส่ไปในมิติ หดมิติลง

ทักษะเช่นนี้มีวิธีการต่างกันกับตอนนั้นที่นักพรตชราย่อส่วนพญาอินทรีปีกทองแต่ก็ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการจะย่อเหมืองแร่นี้ง่ายกว่าย่อส่วนพญาอินทรีมาก

“เทียนเอ๋อร์ กลับไปข้าจะใส่ไว้ในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “จากนี้ไปยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะมีเหมืองแร่สองเหมือง ศิลาวิญญาณที่ขุดมาจากเหมืองแร่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเหมืองแร่นี้เป็นของเจ้า”

เสิ่นเทียนตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างคาดไม่ถึง ความจริงตอนแรกเขาว่าจะยกเหมืองแร่ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนธงชัยใหม่ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังต้องอาศัยแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าได้แบ่งสามถึงห้าส่วนก็กำไรเลือดสาดแล้ว

แต่เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมอบเหมืองแร่ให้เขา

สวรรค์ เหตุใดโลกนี้ถึงมีผู้นำดีเช่นนี้

ซาบซึ้งใจ ฉากนี้ช่างน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก!

เสิ่นเทียนเลือดเดือดพล่านขึ้นมา “อาจารย์ นี่จะได้อย่างไรกัน!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “มีอะไรไม่ได้กัน ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่อยู่แล้ว เจ้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต จะเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเอง พลังของแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือพลังของเจ้า มิหนำซ้ำเดิมทีนี่เป็นโชคลิขิตของเจ้า ดังนั้นไม่ต้องทำเป็นตัวเป็นเด็กสาวน้อย

ภายภาคหน้าถ้าเจ้าสำเร็จมรรคเป็นเซียน แดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมได้รับเกียรติยศร่วมด้วย นี่จะเทียบกับเหมืองแร่เล็กๆ แค่นี้ได้รึ”

นักพรตชราข้างกายได้ฟังคำพูดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้วก็ปวดร้าวในใจจนฟันร่วง

นักพรตชราก็อยากมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเองเช่นกัน เหตุใดถึงไม่ได้ล่ะ

ทุกครั้งที่เอาศิลาวิญญาณนิดหน่อยมาจากในบ้าน ก็ยังมาด่าข้า!

ศิษย์น้องรอง เจ้ามันลำเอียงเกินไปแล้ว!

……

ช่วงที่ทุกคนบ้างดีใจบ้างปวดร้าวนั้น ป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พลันสั่นอย่างรุนแรง

เสียงของจางอวิ๋นถิงดังมาจากในป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ว่า “ท่านพ่อๆ ข้าอวิ๋นถิงเอง ได้ยินหรือไม่ท่านพ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เมื่อวานซืนศิษย์พี่ใหญ่ตระหนักรู้พอดี จึงอยากจะปิดด่านทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้า แต่วันนี้จู่ๆ เขาก็ธาตุไฟเข้าแทรก แก่นพลังทอง…แตกละเอียดแล้ว!”

………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+